สาระน่ารู้ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2567

จับตาสภาพคล่องอสังหาฯ ยอดโอนร่วงระนาว สต็อกพุ่ง

จับตาสภาพคล่องอสังหาฯ หลังผลกระทบจากรีเจกต์ ดอกเบี้ย ยอดโอนร่วงระนาวสต็อกพุ่ง 1.2ล้านล้าน อัตราดูดซับลดลงต่ำกว่าช่วงโควิด คาดว่าต้องใช้เวลา 40 เดือนขายหมด

นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ผลประกอบการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกคนเหนื่อยจาก “แรงช็อก” ของอัตราดอกเบี้ยที่ขยับขึ้นทำให้ลูกค้าเริ่มได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยจริง เมื่อดอกเบี้ยโปรโมชั่นครบกำหนด เรต MLR ขยับขึ้น 2% ลูกค้าที่เคยผ่อนไหว เริ่มผ่อนไม่ไหวกลายเป็น NPA (Non-Performing Asset)

ผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง และปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ส่งผลต่อยอดการปฏิเสธสินเชื่อกู้จากธนาคารสูงขึ้น ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยไม่เปิดตัวโครงการทาวน์โฮมระดับราคา 3-5 ล้านบาท และบางโครงการยังมีสต็อกอยู่ เช่นเดียวกับบ้านแฝดระดับราคา 5-10 ล้านบาท ไม่มีแผนเปิดโครงการเพิ่มเช่นกันในปีนี้

“แม้ดีมานด์ลูกค้าทาวน์โฮมยังมีอยู่และขายได้ แต่โอนไม่ได้ ทำให้ชะลอ เพราะจากเดิมเคยขายอยู่ 400-500 ล้านบาท ลดลงเหลือ 100-200 ล้านบาท ต่อการเปิดตัวโครงการขายรวมทั้งยอดโอนลดลงจาก 400-500 ล้านบาท เหลือ 150-200 ล้านบาท ต่อโครงการต่อปี หายไปครึ่ง ส่วนกลุ่มลูกค้าบ้านแฝดจาก 10 คน ที่ยื่นกู้ ถูกปฏิเสธสินเชื่อ 3.5 คน ส่วนทาวน์โฮมถูกปฏิเสธสินเชื่อ 4 คน”

นอกจากนี้ ลูกค้าบางรายแม้ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้แต่ลูกค้าไม่เอาเพราะผ่อนไม่ไหว จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทหันเปิดตัวโครงการที่มีระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้้นไป เพื่อสร้างรายได้จากแบรนด์บ้านเดี่ยวแกรนดิโอ และโกลเด้น นีโอ ควบคู่กับ การระบายสต็อกสินค้าที่มีอยู่พร้อมกับการจัดแคมเปญทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซัพพลายบ้านและคอนโดมิเนียม มีจำนวน 229,048 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.9% มูลค่า 1,307,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1% เป็นผลจากยอดขายได้ใหม่ (พรีเซลและสร้างเสร็จพร้อมโอน) ในปี 2566 ชะลอตัว โดยเฉพาะระดับราคาไม่เกิน 7.5 ล้านบาท และไตรมาส 4 ปี 2566 มีการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าเพิ่มขึ้น 45% แต่จำนวนหน่วยลดลง ภาวะดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาสแรกที่ผ่านมา โครงการเปิดตัวใหม่มีจำนวนหน่วย 16,356 หน่วย “ลดลง” 24.4% มีมูลค่า 119,232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3%

ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการเปิดตัวใหม่โครงการบ้านจัดสรร ที่เน้นโครงการบ้านเดี่ยวเป็นหลัก ซึ่งเปิดขายโครงการใหม่เพิ่มขึ้นถึง 85.1% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 157.7% ขณะที่การเปิดตัวใหม่ในกลุ่มโครงการอาคารชุด “ลดลง” ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยจำนวนหน่วยลดลง 40.0%  มูลค่าลดลง 2.3% จากข้อมูลพบว่าโครงการใหม่ที่เปิดตัวไตรมาสแรก ปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นโครงการราคาแพง

ส่วนยอดขายได้ใหม่ พบว่า ยังคงมีอัตราการขยายตัวที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2566 โดยไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายใหม่ จำนวน 15,619 หน่วย ลดลง 26.6% มูลค่า 90,069 ล้านบาท ลดลง 14.5% แบ่งเป็น บ้านจัดสรรหน่วยขายได้ใหม่ ลดลง 16.1% และอาคารชุดหน่วยขายได้ใหม่ ลดลง 39% ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2567 มีจำนวนที่อยู่อาศัยคงค้าง 213,429 หน่วย เพิ่มขึ้น 16.4% คิดเป็นมูลค่า 1,217,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.5%

โดยหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขาย เพิ่มขึ้น 12.8% และหน่วยอาคารชุดเหลือขาย เพิ่มขึ้น 22.3% ทั้งนี้เนื่องจากอัตราดูดซับ“ลดลง” ต่ำกว่าช่วงโควิด คาดว่าต้องใช้เวลา 40 เดือนถึงขายหมด ขณะที่อัตราดูดซับไตรมาส 1 ปี 2566 อยู่ที่ 3.5% หรือ ต้องใช้ระยะเวลาในการขายจนหมด 25 เดือน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


5 ทำเลฮอตบ้านจัดสรร-คอนโด Q1 ปี 67 พร้อมจับตา 5 โซนสต็อกล้น

REIC เผย 5 ทำเลยอดขายสูงสุดของบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1/2567 พร้อมชี้ 5 โซนหน่วยเหลือขายสูง เสี่ยงอุปทานล้นตลาด

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยยอดขายใหม่ของตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 2567 ระบุว่า ยอดขายได้ใหม่ของที่อยู่อาศัยแนวราบในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 9,679 หน่วย โดยลดลง 16.1% มูลค่า 62,863 ล้านบาท ลดลง 9.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สำหรับ 5 ทำเลบ้านแนวราบที่มียอดขายใหม่สูงสุด ได้แก่

  1. โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มียอดขายใหม่ 2,161 หน่วย มูลค่า 14,411 ล้านบาท
  2. โซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ มียอดขายใหม่ 1,295 หน่วย มูลค่า 5,703 ล้านบาท
  3. โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย มียอดขายใหม่ 1,210 หน่วย มูลค่า 6,558 ล้านบาท
  4. โซนลำลูกกา-ธัญบุรี มียอดขายใหม่ 703 หน่วย มูลค่า 3,179 ล้านบาท
  5. โซนเมืองสมุทรสาคร มียอดขายใหม่ 696 หน่วย มูลค่า 3,644 ล้านบาท

ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมียอดขายได้ใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 5,940 หน่วย ลดลง 39% เป็นมูลค่า 27,207 ล้านบาท ซึ่งลดลง 24.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดย 5 ทำเลคอนโดมิเนียมที่มียอดขายใหม่สูงสุด ได้แก่

  1. โซนคลองหลวง มียอดขายใหม่ 1,057 หน่วย มูลค่า 1,794 ล้านบาท
  2. โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มียอดขายใหม่ 487 หน่วย มูลค่า 1,472 ล้านบาท
  3. โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด มียอดขายใหม่ 441 หน่วย มูลค่า 1,861 ล้านบาท
  4. โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มียอดขายใหม่ 439 หน่วย มูลค่า 1,692 ล้านบาท
  5. โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มียอดขายใหม่  421 หน่วย มูลค่า 987 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ดร. วิชัย ยังระบุ 5 ทำเลบ้านแนวราบที่ต้องระมัดระวังเนื่องจากมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้น ๆ แม้ว่าบางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดี ได้แก่

  1. โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย มีหน่วยเหลือขาย 20,214 หน่วย มูลค่า 110,177 ล้านบาท
  2. โซนลำลูกกา-ธัญบุรี มีหน่วยเหลือขาย 16,109 หน่วย มูลค่า 93,280 ล้านบาท
  3. โซนคลองหลวง มีหน่วยเหลือขาย 14,478 หน่วย มูลค่า 56,803 ล้านบาท
  4. โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีหน่วยเหลือขาย 13,183 หน่วย มูลค่า 83,193 ล้านบาท
  5. โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีหน่วยเหลือขาย 11,244 หน่วยมูลค่า 52,080 ล้านบาท

ส่วน 5 ทำเลที่มีหน่วยเหลือขายมากแม้บางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดี สำหรับคอนโดมิเนียม ได้แก่

  1. โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มีหน่วยเหลือขาย 10,588 หน่วย มูลค่า 43,059 ล้านบาท
  2. โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด มีหน่วยเหลือขาย 9,469 หน่วย มูลค่า 31,397 ล้านบาท
  3. โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มีหน่วยเหลือขาย 8,251 หน่วย มูลค่า 27,299 ล้านบาท
  4. โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มีหน่วยเหลือขาย 6,293 หน่วย มูลค่า 16,121 ล้านบาท
  5. โซนลาดพร้าว-วังทองหลาง-บางกะปิ มีหน่วยเหลือขาย 5,382 หน่วย มูลค่า 17,607 ล้านบาท

“จากผลสำรวจข้อมูลแสดงให้เห็นว่าภาพรวมไตรมาส 1 ปี 2567 ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลยังขับเคลื่อนตัวด้วยโครงการบ้านแนวราบกว่าอาคารชุด แต่อย่างไรก็ตาม ควรเฝ้าระวังสต๊อกคงเหลือและอัตราการดูดซับที่ต่ำลงในหลายพื้นที่ ซึ่งต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะทำเลที่มีอัตราการดูดซับลดลง” ดร. วิชัย กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 26 มิ.ย. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 36.75 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจไม่ได้ผันผวนอ่อนค่ามากนัก แต่การแข็งค่าต่อเนื่องก็ยังเกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 26 มิ.ย. 2567ที่ระดับ 36.75 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.66 บาทต่อดอลลาร์ 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจจำกัดอยู่ในช่วงโซนแนวต้าน 36.85 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 37 บาทต่อดอลลาร์) อย่างไรก็ดี ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทย ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยที่สามารถกดดันเงินบาทให้ผันผวนอ่อนค่าลงได้เช่นกัน 

โดยเฉพาะ หากราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซนแนวรับหลักแถว 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ เราประเมินว่า แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอลงบ้าง หลังตลาดหุ้นไทยก็เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่แรงกดดันในฝั่งตลาดบอนด์ก็ไม่ได้มีมากนัก ตราบใดที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways และปัจจัยการเมืองไทยก็ยังไม่ได้เข้ามากดดันตลาดการเงินเพิ่มเติม 

แม้เราจะประเมินว่า เงินบาทอาจไม่ได้ผันผวนอ่อนค่าไปมากนัก แต่การแข็งค่าต่อเนื่องก็ยังเกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อีกทั้งในช่วงปลายเดือนเรายังคงเห็นโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์และบรรดาสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ จากฝั่งผู้นำเข้าอยู่ ซึ่งทำให้เงินบาทยังคงไม่สามารถแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาท/ดอลลาร์ 

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.63-36.75 บาทต่อดอลลาร์) ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังคงได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อย่างไรก็ดี แม้ว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์อาจชะลอลงบ้าง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนที่ผ่านมาออกมาผสมผสานและสะท้อนภาพการชะลอลงของเศรษฐกิจ (ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีกว่าคาดเล็กน้อย ทว่าดัชนีสะท้อนภาวะเศรษฐกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ ก็ออกมาแย่กว่าคาดและสะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจ) ทว่าเงินบาทก็ยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซนแนวรับระยะสั้น หนุนให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว

แม้ว่าบรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของบรรดาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและหุ้นกลุ่มธนาคาร ทว่าการรีบาวด์ขึ้นของหุ้นเทคฯ ใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง Nvidia +6.8% ก็มีส่วนช่วยพยุงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้พอสมควร ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq รีบาวด์ขึ้นกว่า +1.36% แต่ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.39%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาย่อตัวลง -0.23% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มการบิน ตามการปรับตัวลดลงของหุ้น Airbus -9.4% จากความกังวลแนวโน้มผลประกอบการ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนบ้าง จากการปรับตัวขึ้นแรงของหุ้น Novo Nordisk +4% หลังยาลดน้ำหนักยอดนิยม Wegovy ได้รับการอนุมัติในจีน  

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways แถว 4.25% แม้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดบางท่าน อย่าง Michelle Bowman จะย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจในแนวโน้มเงินเฟ้อ และพร้อมสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยได้ หากเงินเฟ้อชะลอลงช้ากว่าคาดหรือเร่งตัวขึ้น ทว่า ผู้เล่นในตลาดยังคงมองว่า เฟดอาจสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้ เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวในกรอบ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยบอนด์ยีลด์มีโอกาสผันผวนสูงขึ้นได้ไม่ยาก หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำเดิมว่า ในทุกๆ จังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวที่น่าสนใจ เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดในระยะข้างหน้ามีเพียงแค่ “คง” หรือ “ลง” 

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง ส่วนเงินยูโร (EUR) ก็อ่อนค่าลงบ้าง ตามการย่อตัวของตลาดหุ้นยุโรป ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ออกมาผสมผสาน อีกทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.7 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105.4-105.7 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง กลับสู่โซนแนวรับแถว 2,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอจังหวะดังกล่าวในการทยอยเข้าซื้อทองคำ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดสต็อกน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ เพื่อประเมินความต้องการใช้พลังงานในระยะนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นได้ นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับน้ำมัน ก็สามารถส่งผลกระทบต่อเงินบาทได้บ้าง (โฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมัน ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง)

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อช่วยประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB ในระยะข้างหน้า โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยได้อีกราว 2 ครั้ง ในปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“บุหรี่” เสี่ยง “มะเร็งปอด-โรคหัวใจ” และยังอันตรายต่อคนรอบข้าง

คนไทยเสี่ยงกับการได้รับควันบุหรี่จากคนรอบข้าง โทษของบุหรี่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งทางตรง และทางอ้อม

ควันบุหรี่ อันตรายทั้งคนสูบ และคนรอบข้าง จาก “ควันบุหรี่มือสอง”

นพ.เอกชัย เสถียรพิทยากุล อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2018 ระบุไว้ว่า ปัจจุบันมีผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกประมาณ 1,100 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่มากถึงปีละไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคนทั่วโลก ประมาณ 890,000 คนเสียชีวิตจากการสูดดมควันบุหรี่มือสอง

พ่อแม่สูบบุหรี่ ภัยตกถึงลูก

เด็กที่พ่อแม่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงต่อการพัฒนาของหินปูนในหลอดเลือดแดงหัวใจมากกว่า 4 เท่า และมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดแดงตีบตันมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับเด็กที่พ่อแม่ไม่สูบบุหรี่

มะเร็งปอด ภัยร้ายที่มากับบุหรี่

พญ.พจนา จิตตวัฒนรัตน์ แพทย์อายุรกรรมโรคมะเร็ง โรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า ในประเทศไทยมะเร็งปอดพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย และอันดับ 4 ในผู้หญิง และมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 โดยปัจจัยเสี่ยงหลัก คือ การสูบบุหรี่ รวมถึงการสูบบุหรี่มือสอง คือ ไม่ได้สูบเองแต่ได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น

อาการเริ่มแรกของมะเร็งปอด

อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  1. ไอ
  2. เหนื่อยง่าย
  3. น้ำหนักลด
  4. ไม่มีแรง
  5. เบื่ออาหาร
  6. ปวดตามตัวหรือกระดูก

ตรวจก่อน ปลอดภัยกว่า

แพทย์จะพิจารณาให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือ ผู้สูบบุหรี่มากกว่า 30 pack year (คำนวณจากจำนวนซองที่สูบต่อวัน x จำนวนปีที่สูบเช่น 2 ซองต่อวัน 15 ปี = 2×15 = 30 pack year เป็นต้น) หรือผู้ที่เลิกสูบน้อยกว่า 15 ปี เข้ารับการตรวจ Low dose CT Chest (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด) ปีละครั้งเพื่อการค้นหามะเร็งระยะแรก (Lung Cancer Screening) ทำให้พบมะเร็งปอดระยะแรกซึ่งมีโอกาสรักษาหายได้มากขึ้น

วิธีตรวจมะเร็งปอด

ถ้าหากแพทย์ผู้รักษาสงสัยจะส่งตรวจโดยการเจาะเนื้อที่ปอดมาดูเพื่อยืนยันชิ้นเนื้อ หลังยืนยันว่าเป็นมะเร็งปอด ก็จะมีการทำ CT หรือ PET/CT ร่วมกับ MRI สมองเพื่อวินิจฉัยระยะของโรค

การรักษามะเร็งปอด

หากเป็นระยะแรกจะใช้การผ่าตัดร่วมกับการฉายแสงและเคมีบำบัดขึ้นอยู่กับผู้ป่วย ขนาดของมะเร็ง และตำแหน่งของมะเร็ง หากเป็นระยะกระจายหรือที่เรียกกันว่า “ระยะที่ 4” จะใช้การรักษาด้วยยา ซึ่งมีทั้ง เคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า (Targeted Therapy) หรือ ยากลุ่ม Immunotherapy คือ การให้ยาเพื่อให้เม็ดเลือดขาวกลุ่ม Cytotoxic T Cell ไปทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้ใช้มากขึ้นในมะเร็งหลายชนิด

ถึงแม้การรักษาจะดีขึ้นอัตราการมีชีวิตยาวนานมากขึ้น มะเร็งปอดยังถือเป็นการตายจากมะเร็งอันดับ 1 หากพบมะเร็งปอดระยะแรกมีโอกาสรักษาให้หายได้ ฉะนั้นจึงควรลด ละ เลิกสูบบุหรี่

สูบบุหรี่ เสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด

นอกจากโรคมะเร็งปอดและโรคระบบทางเดินหายใจที่เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตในผู้ที่สูบบุหรี่ ยังมีผู้เสียชีวิตอีกประมาณ 3 ล้านคน ที่เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด อาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง

นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ส่งผลให้เส้นเลือดเกิดความเสื่อมและตีบตันเร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 10 – 15 ปี ที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงสูบบุหรี่ที่ได้รับยาคุมกำเนิดเสี่ยงต่อการเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากกว่าผู้หญิงทั่วไปเกือบ 40 เท่า และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 เท่า ซึ่งความเสี่ยงจะเพิ่มตามจำนวนบุหรี่ที่สูบ อีกทั้งการสูบบุหรี่ส่งผลต่อหัวใจโดยตรง ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น หัวใจเต้นเร็ว เส้นเลือดหัวใจตีบ ความดันเลือดสูงขึ้น

สารพิษจากบุหรี่ ทำลายหัวใจ

ที่สำคัญคือ สารพิษในควันบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อหลอดเลือดและหัวใจ อย่างนิโคติน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น หลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจหดตัว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น  และสารพิษอีกชนิดที่มีความรุนแรงไม่แพ้กันคือ คาร์บอนมอนอกไซด์ เมื่อเข้าไปจับตัวกับเม็ดเลือดแดง กล้ามเนื้อหัวใจจะได้รับออกซิเจนน้อยลง หัวใจเต้นเร็วและทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้นคนที่เลิกสูบบุหรี่นานกว่า 10 ปี โอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจจะเทียบเท่ากับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันพิษภัยของบุหรี่และดูแลป้องกันหัวใจให้แข็งแรงคือสิ่งที่ควรตระหนักอยู่เสมอ

เลิกสูบบุหรี่… ไม่ยากอย่างที่คิด

การเลิกสูบบุหรี่นั้นทำได้ไม่ยาก ขอเพียงใจที่มุ่งมั่น เพราะเพียงแค่เลิกสูบบุหรี่เพียงไม่กี่ชั่วโมง อัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดจะลดลง สารพิษในร่างกายน้อยลงเช่นกัน โดยมีเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้เลิกบุหรี่ คือ

  1. กำจัดอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ทั้งหมด
  2. อย่าเข้าใกล้คนสูบบุหรี่
  3. เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  4. จัดการความเครียดด้วยการไม่สูบบุหรี่
  5. ช่วงแรกที่เลิกสูบบุหรี่อาจรู้สึกหงุดหงิด ให้สูดหายใจเข้าออกลึกๆ ดื่มน้ำให้มากๆ อาบน้ำให้สบายตัว เพื่อลดความหงุดหงิดงุ่นง่าน
  6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เพียงเท่านี้การกลับมามีสุขภาพดีก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Etix ตั้งเป้าปี 68 ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ใช้พลังงานหมุนเวียน 100%

“Etix Everywhere” กรุยทางธุรกิจสู่ Data center ยั่งยืนด้วยพลังงานสะอาด ลุยติดโซล่าเซลล์ 6,000 ต.ร.ม. ตั้งเป้าปี 68 ใช้ไฟฟ้า 100% จากพลังงานหมุนเวียน

นายปิแอร์ ปาทริส ซีอีโอ ประจำภูมิภาคเอเชียของ ETIX Everywhere ผู้ดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ เผยว่า บริษัทได้ติดตั้งแผงโซล่าไปกว่า 6,000 ตารางเมตรในดาต้าเซ็นเตอร์ ETIX Bangkok#1 ที่บางโฉลง การผลิตพลังไฟฟ้าแสงอาทิตย์

โดยคิดเป็นการใช้งาน 11 % ของการใช้พลังงานไฟฟ้ารวมในดาต้าเซ็นเตอร์แผงโฟโตวอลเทอิก หรือโซล่าบนหลังคาของดาต้าเซ็นเตอร์  ETIX Bangkok #1 นั้นสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 480 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์  580 คันออกจากท้องถนนต่อปี หรือเทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 23,000  ต้น

“เรายังคงเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมสู่ความยั่งยืนโดยประกาศพันธสัญญาโซลูชั่นพลังงานสะอาด สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย”

เขากล่าวว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกของการพัฒนา ETIX Everywhere ไปสู่ความยั่งยืน ตั้งเป้าว่าในปี 2568 ไฟฟ้าทั้งหมด 100% ที่ใช้ที่ศูนย์ข้อมูล ETIX Bangkok#1 จะผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าพลังน้ำหรือพลังงานแสงอาทิตย์

ทั้งนี้ การใช้ไฟฟ้า 100% ภายใต้การรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียนจะช่วยให้ลูกค้า ETIX Everywhere ทุกรายสามารถเข้าถึงโซลูชันศูนย์ข้อมูลคาร์บอนต่ำ

อีกทั้ง กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ศูนย์ข้อมูล ETIX กรุงเทพฯ#1 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปจนถึงปี 2569 และ 2570 จากการเพิ่มความจุของแผงโซล่าใหม่ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้า การเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ใหม่ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ศูนย์ข้อมูล เป็น 20% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

ขณะที่ หลังจากนี้มีแผนลุยติดตั้งโซล่าเซลล์เพิ่มขึ้น 5 เท่าภายใน 3 ปีข้างหน้า สอดรับไปกับเป้าหมายภายในปี 2568 ไฟฟ้าที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลทั้งหมด 100% จะผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ที่ดิน โดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์จะตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของศูนย์ข้อมูลและคลังสินค้าใกล้เคียงเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงหรือขยายตัวของพื้นที่

นายวิทัคธ์ ภาอาภรณ์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ ETIX ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวเสริมว่า ศูนย์ข้อมูลของ Etix Everywhere ในประเทศไทยได้รับการยอมรับในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหมาะสมที่สุด

โดยมีอัตราส่วนต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ที่ดีที่สุดในภูมิภาค ซึ่งไม่เพียงแต่รับประกันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

นอกเหนือจากการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (PUE) แล้ว การพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการใช้น้ำ (Water Use Effectiveness, WUE) ในระบบหล่อเย็นยังเป็นสิ่งสำคัญ

“การลดการใช้น้ำในระบบหล่อเย็นถือเป็นเรื่องสำคัญ  Etix Everywhere มุ่งหาเทคโนโลยีที่ลดการสูญเสียน้ำเพื่อให้อัตราการใช้น้ำเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด เรามุ่งที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลในด้านความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดรอยเท้าทางนิเวศน์”

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


70 แคปชั่นเด็ดภาษาอังกฤษ คำคมภาษาอังกฤษ ช่วยอัปโซเชียลดูอินเตอร์

แคปชั่นเด็ดภาษาอังกฤษ สั้นๆ น่ารัก พร้อมคำแปล

  • I don’t care what people think of me. Mosquitos find me attractive! : ฉันไม่สนใจว่าคนอื่นๆ จะคิดกับฉันยังไง เพราะฉันดึงดูดพวกยุงเสมอ
  • Can I take your picture? I love to collect pictures of natural disasters. : ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม? พอดีว่าฉันเป็นคนชอบเก็บสะสมรูปถ่ายภัยธรรมชาติน่ะ
  • The best way to look younger, hang out with older people. : วิธีที่จะทำให้ดูเด็กลง คือต้องออกไปเที่ยวกับผู้สูงอายุ
  • I am not lazy, I am just on my energy saving mode. : ฉันไม่ได้ขี้เกียจ ฉันแค่อยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน
  • People say I act like I don’t care. It’s not an act. : มีคนหาว่าฉันแสร้งทำตัวเหมือนไม่สนใจอะไรเลย แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ได้เสแสร้งนะ
  • They say good things take time that’s why I’m always late. : กว่าจะเจออะไรดีๆ ก็ต้องใช้เวลา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงมาสายเสมอ
  • Just saw the smartest person when I was in front of the mirror. : เพิ่งได้เห็นคนฉลาดดูดี ก็ตอนที่ฉันมายืนส่องกระจกนี่แหละ
  • You don’t have to like me; I’m not a Facebook status. : คุณไม่ต้องถูกใจ (Like) ฉันก็ได้ เพราะฉันไม่ใช่สเตตัสบนเฟซบุ๊ก
  • I’m just a girl, standing in front of a salad, asking it to be a cupcake. : ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่หน้าจานสลัด และอ้อนวอนขอกินคัพเค้กแทนผัก
  • It’s okay if you don’t like me. Not everyone has good taste. : ก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าคุณไม่ชอบฉัน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีรสนิยมดี
  • You can’t live a full life on an empty stomach. : คุณไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ในขณะที่ท้องว่างได้หรอก
  • I need a six-month holiday, twice a year. : ฉันต้องการวันหยุดพักผ่อนสัก 6 เดือน ปีละแค่ 2 ครั้งก็พอ
  • Don’t give up on your dreams. Keep sleeping. : อย่าเพิ่งยอมแพ้ให้กับความฝัน จงนอนหลับต่อไป
  • Friends buy you lunch. Best friends eat your lunch. : เพื่อนทั่วไปจะซื้ออาหารมื้อเที่ยงเลี้ยงคุณ แต่เพื่อนสนิทจะเป็นคนกินอาหารมื้อนั้นของคุณ
  • You never know what you have until you have cleaned your house. : คุณไม่มีทางรู้เลยว่าตัวเองมีอะไรบ้าง จะรู้ก็ต่อเมื่อได้ทำความสะอาดบ้านนั่นแหละ
  • You only fail when you stop trying. : คุณจะล้มเหลว ก็ต่อเมื่อเลิกล้มความพยายาม
  • Great things never came from comfort zones. : สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยมาจากคอมฟอร์ตโซน
  • Do not give up just because it got hard. : อย่ายอมพ่ายแพ้ เพิ่งเพราะเผชิญกับความยาก
  • Follow your heart, but take your brain with you. : จงทำตามหัวใจของตัวเอง แต่ก็อย่าลืมพกสมองไปด้วย
  • One day you will thank yourself for not giving up. : วันหนึ่งคุณจะต้องขอบคุณตัวเอง ที่เป็นคนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
  • Smile a little more, regret a little less. : ยิ้มให้มากขึ้นอีกนิด เสียใจให้น้อยลงอีกหน่อย
  • Some beautiful paths can’t be discovered without getting lost. :เส้นทางที่สวยงามคงไม่ถูกค้นพบ หากเราไม่เคยลองหลงทาง
  • I don’t know where I’m going, but I’m on my way. : ฉันก็ไม่รู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน แต่อย่างน้อยก็อยู่บนเส้นทางของตัวเอง
  • Having the dream is easy, making it come true is hard.: การมีความฝันเป็นเรื่องง่าย การทำให้ความฝันเป็นจริงเป็นเรื่องยาก
  • Be heroes of your own stories. : จงเป็นฮีโร่ในเรื่องเล่าของตัวเอง
  • Do whatever makes you happiest. : จงเลือกทำสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุขมากที่สุด
  • Success is a collection of problems solved : ความสำเร็จ คือ การเก็บสะสมปัญหาที่ได้รับแก้ไขแล้ว
  • You are never too old to set another goal or to dream a new dream. : คุณไม่เคยแก่เกินไป สำหรับการตั้งเป้าหมายชีวิต หรือเริ่มต้นความฝันใหม่
  • Don’t worry if plan A fails. There are 25 more letters in the alphabet. : อย่ากังวลไปเลย หากแผน A ล้มเหลว เพราะยังมีแผนอื่นๆ อีก 25 ตัวอักษร
  • The greatest gift you can give someone is a smile. :ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เราสามารถมอบให้คนอื่นได้คือ รอยยิ้ม
  • Life is to short to waste it. :ชีวิตมันสั้น จงใช้สอยอย่างประหยัด
  • Bad choices make good stories. : บางครั้งทางเลือกที่ผิดก็ทำให้เกิดเรื่องราวดี
  • verything happens for a reason. : ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลของมัน
  • The best is yet to come. : สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
  • Choose happy. : เลือกจะมีความสุข 

คำคมภาษาอังกฤษ แคปชั่นภาษาอังกฤษความหมายดีๆ

  • Stay positive. : คิดแง่บวกเข้าไว้
  • See the good in all things. : มองเห็นแต่สิ่งดีงามในทุกสิ่ง
  • Worry less, Smile more. : กังวลให้น้อยลง ยิ้มให้มากขึ้น
  • Life is short. Smile while you still have teeth. : ชีวิตสั้น รีบยิ้มก่อนที่ฟันจะหมดปาก
  • Let your past make you better not bitter. : จงให้อดีตทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ใช่ขมขื่นกว่าเดิม
  • Do what you like, like what you do. : ทำอย่างที่ชอบ ชอบในสิ่งที่ทำ
  • Life is as good as your mindset. : ชีวิตจะดีอยู่ที่คุณคิดดี
  • Do, or do not. There is no “try”. : ไม่มีหรอกคำว่า ‘ลอง’ มีแต่ทำ หรือ ไม่ทำ
  • Be the best version of you. : จงเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด
  • Y. First Love Yourself. : การเริ่มต้นที่ดี คือเริ่มต้นจากการรักตัวเองก่อน
  • Don’t do your best today, Because tomorrow there is nothing to do. : อย่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรทำ
  • I’m not fat, I’m just easier to see. : ฉันไม่ได้อ้วนหรอกนะ แค่เป็นคนที่มองเห็นง่ายเท่านั้นแหละ
  • I am not lazy, I am just on save energy mode. : ฉันไม่ได้ขี้เกียจนะ แค่อยู่ในโหมดเซฟพลังงาน
  • I won’t cry for you. My mascara’s too expensive. : ฉันจะไม่ร้องไห้ให้กับเธอหรอกนะ เพราะมาสคาร่าฉันมันแพงมาก
  • Life is short. Smile while you still have teeth. : ชีวิตมันสั้น ยิ้มเยอะๆ ในขณะที่ยังมีฟันอยู่ในปาก
  • Put down that coffee… You’re hot enough already. : วางกาแฟแก้วนั้นลงเถอะ เพราะคุณน่ะฮอตพออยู่แล้ว!
  • You are the risk I’ll always take. : คุณคือความเสี่ยงที่ฉันอยากลองเสี่ยงดูสักครั้ง
  • I can live without you but I just don’t want to. : อยู่คนเดียวไม่ยากหรอก แต่แค่อยากอยู่กับเธอมากกว่า
  • No him I still have a good face. : แม้จะไม่มีเขา แต่เราก็ยังมีหน้าตาที่ดี
  • I Need Vitamin U For a broken heart. : อยากได้วิตามิน ‘ยู’ มาเยียวยาหัวใจ
  • Besides chocolate, you’re my favorite. : นอกจากช็อกโกแลตแล้ว คุณก็เป็นคนโปรดของฉันเหมือนกันนะ
  • Thinking of you is my favorite part of the day. : การคิดถึงคุณเป็นช่วงเวลาที่ฉันชอบที่สุดของวัน
  • Kissing burns a ton lot of calories. Wanna workout? : การจูบเผาผลาญแคลอรีได้มากนะ อยากออกกำลังกายมั้ย?
  • You make me nervous in a good way. : คุณทำให้ฉันประหม่าในทางที่ดี
  • Let’s flip a coin. Heads, you’re mine. Tails, I’m yours. : มาโยนเหรียญกันเถอะ ออกหัวคุณเป็นของฉัน ออกก้อยฉันเป็นของคุณ
  • Good Food is Good Mood. : อาหารดี = อารมณ์ดี
  • Count the memories not the calories. : นับแต่ความทรงจำดี ๆ (เวลากิน) ก็พอ อย่าไปนับเลยแคลอรี่นะ
  • Some of my bestfriends are carbs. : เพื่อนเลิฟของฉันอีกอย่างก็คือ แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) นี่ล่ะ!
  • There’s no we in fries. : ไม่มีคำว่าเรา สำหรับของทอดจ่ะ
  • Everything tastes good when you’re on a diet. : ทุกอย่างมักจะอร่อย เวลาที่เราไดเอทอยู่
  • Life is short. Eat more Donuts. : ชีวิตมันสั้น กินโดนัทกันเถอะ
  • I love you to the fridge and back. : ฉันรักคุณเท่ากับระยะทางที่ไปตู้เย็นและกลับมา
  • Fueled by ramen. : เติมพลังด้วยราเมน
  • Broken cookies have no calories! : คุกกี้หักมักไม่มีแคลอรี่
  • Carbs might be my soulmate. = คาร์โบไฮเดรตอาจเป็นเนื้อคู่ของฉัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีเลือกรางน้ำฝน พร้อมการติดตั้งและการดูแลรักษา

ฝนตกถี่ๆ แบบนี้หลายบ้านเริ่มตระเตรียมบ้านให้พร้อมรับหน้าฝน “รางน้ำฝน” ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของบ้าน เพราะรางน้ำฝนนั้นมีไว้เพื่อรองรับฝนที่ตกลงมา โดยรางน้ำฝนมีหลายแบบใครที่กำลังจะเปลี่ยนรางน้ำฝนใหม่ หรือติดตั้งรางน้ำฝนลองมาดูวิธีเลือกรางน้ำฝนให้เหมาะสมกับความต้องการกันดีกว่า

ประเภทของรางน้ำฝน

โดยทั่วไปเราแบ่งรางน้ำฝนจากวัสดุที่ใช้งาน ซึ่งรางน้ำฝนแต่ละแบบก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังส่งผลต่อราคาที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย

รางน้ำฝนโลหะ

  • รางน้ำฝนอะลูมิเนียม
    อะลูมิเนียมเป็นอีกวัสดุหนึ่งที่นิยมนำมาทำรางน้ำฝน เพราะไม่่ทำให้เกิดสนิมง่ายทนต่อการกัดกร่อนสูง น้ำหนักเบา มีความสวยงาม และมีหลายสีให้เลือกมากกว่ารางน้ำฝนประเภทอื่นๆ อีกทั้งยังไม่มีปัญหาการรั่วซึม เพราะสามารถขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อได้ แต่ราคาสูง
  • รางน้ำฝนสังกะสี
    เป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำรางน้ำฝนมากในอดีต เพราะมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายราคาถูก แต่อายุการใช้งานค่อนข้างต่ำ เพราะเป็นสนิมได้ง่าย ความสวยงามน้อยกว่ารางน้ำฝนประเภทอื่น และเมื่อฝนตกเสียงตกกระทบยังดังอีก
  • รางน้ำฝนสแตนเลส
    รางน้ำฝนประเภทนี้มีเนื้อวัสดุเป็นสีธรรมชาติ แม้ราคาจะสูงกว่ารางน้ำฝนประเภทสังกะสี แต่สวยกว่า และมีอายุการใช้งานนานกว่า สำหรับใครที่เลือกรางน้ำฝนสแตนเลสควรเลือกเกรด 304 เพื่อป้องกันปัญหาสนิม
  • รางน้ำฝนเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์
    เป็นรางน้ำฝนสำเร็จรูป จึงได้มาตรฐานทั้งเรื่องขนาด และรูปทรง มีความแข็งแรงทนต่อการกัดกร่อน และยังมีหลายสีให้เลือก

รางน้ำฝนวัสดุสังเคราะห์

  • รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส
    เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมใช้ทำรางน้ำฝนตามบ้าน เพราะวัสดุมีความคงทนสูงไม่เกิดสนิม มีความสวยงามเป็นเนื้อเดียวกัน แทบไม่มีรอยต่อ มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิตตามต้องการ อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี แต่ราคาสูงแต่มีหลายสีให้เลือก การติดตั้งยังต้องใช้ช่างเฉพาะทางอีกด้วย
  • รางน้ำฝนไวนิล
    รางน้ำฝนประเภทนี้สวยงาม ผิวเรียบมัน มีหลายสีให้เลือกเข้ากับบ้านได้ง่ายไม่เกิดสนิม เนื้อวัสดุคล้ายพลาสติก แต่มีความเหนียว ทนมากกว่าพลาสติกติดตั้งง่ายกว่ารางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส อายุการใช้งานนานกว่า 10 ปีแต่ต้องเลือกเกรดไวนิลให้ดี เพราะว่าตามตลาดจะมีให้เลือกหลายเกรด ซึ่งความทนแตกต่างกันออกไป

วิธีเลือกรางน้ำฝนให้เหมาะกับบ้าน

สำหรับใครที่กำลังจะติดตั้งรางน้ำฝน อาจต้องใช้หลายๆ ปัจจัยประกอบการเลือกเพื่อให้เหมาะกับงบประมาณ และการใช้งานของบ้าน

1.งบประมาณ
ถือเป็นปัจจัยเบื้องต้นเลยก็ว่าได้ที่ใช้ตัดสินใจ ดังนั้นก่อนเลือกรางน้ำฝนควรสำรวจราคาจากร้านที่รับติดตั้งรางน้ำฝน ทั้งค่าวัสดุ ค่าติดตั้ง การบริการแล้วดูว่าแบบไหนเหมาะกับงบที่ตั้งไว้ รวมไปถึงการใช้งาน

2.ความคุ้มค่า
ถ้าเป็นเรื่องความคุ้มค่าอาจต้องดูเรื่องวัสดุของรางน้ำฝนเป็นที่ตั้ง ซึ่งอย่างที่กล่าวไปว่าปัจจุบันมีรางน้ำฝนมีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ถ้าเป็นความคุ้มค่าควรเลือกรางน้ำฝนอะลูมิเนียม ซึ่งมีอายุการใช้งานนานกว่ารางน้ำฝนประเภทอื่น

3.ขนาดพื้นที่หลังคา
ก่อนเลือกรางน้ำฝนควรพิจารณาขนาดพื้นที่หลังคาให้เหมาะสมกัน โดยในปัจจุบันรางน้ำฝนมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 4,5 และ 6 นิ้ว หากหลังคามีขนาดใหญ่ควรเลือกรางน้ำฝนขนาด 5 นิ้วขึ้นไป และหากหลังคามีความยาวมาก ควรเพิ่มรูระบายน้ำหลายๆ จุด เพื่อให้สามารถระบายน้ำฝนได้ทัน

4.การติดตั้ง
โดยปกติเราจะติดตั้งรางน้ำฝนกับเชิงชาย หรือไม้ปีกนกโดยการใช้ตะปูหรือน็อต หรือรางน้ำฝนบางประเภท เช่นรางน้ำฝนสังกะสีจะใช้การแขวนกับจันทัน การติดตั้งรางน้ำฝนนั้นหากเป็นการติดตั้งบริเวณหลังคาโรงจอด
รถหรือหลังคาครัวไทยหลังบ้าน ถ้ามีอุปกรณ์ครบสามารถติดตั้งเองได้ แต่หากเป็นบ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม 2 ชั้นควรใช้บริการช่างที่มีความชำนาญดีกว่าเพราะรางน้ำฝนบางประเภทต้องใช้ช่างเฉพาะทางมาติดตั้ง

5.ความสวยงาม
ถ้าต้องการเลือกรางน้ำฝนให้เข้ากับสีของหลังคาหรือบ้าน ควรเลือกใช้รางน้ำฝนที่มีสีให้เลือกหลากหลาย เช่นรางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส หรือรางน้ำฝนอะลูมิเนียมแทนรางน้ำฝนสังกะสี

วิธีการบำรุงรักษารางน้ำฝน

1.หมั่นเช็กการทำงานของรางน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อฝนตก หรืออาจลองฉีดน้ำบนหลังคา แล้วสังเกตว่ามีการรั่วหรือซึมที่ส่วนใดของรางน้ำฝนหรือเปล่า จะได้ซ่อมแซมก่อนช่วงฝนตกหนักนอกจากนั้นให้สังเกตตะขอแขวนรางว่ายังอยู่หรือไม่ หากฝนตกเยอะจะได้ไม่มีปัญหารางน้ำหล่นลงมาเสียหาย

2.หมั่นทำความสะอาดรางน้ำฝน หลังพ้นหน้าฝนไปแล้ว ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยครั้งคือ การลืมทำความสะอาดรางน้ำฝนทำให้มีเศษใบไม้ ฯลฯ ในรางน้ำฝน ทำให้เกิดการอุดตัน และหากสิ่งตกค้างในรางน้ำฝนมีน้ำหนักมากอาจทำให้รางน้ำฝนพังเสียหายได้

ค่าใช้จ่ายเมื่อต้องติดตั้งรางน้ำฝน

การติดตั้งรางน้ำฝนแต่ละประเภทนั้นมีราคาต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกันตามราคาติดตั้ง หรือเกรดวัสดุ โดยมีข้อมูลเบื้องต้นดังต่อไปนี้

– รางน้ำฝนไวนิล ความยาวมากกว่า 20 เมตร ราคาประมาณ 750 บาทต่อเมตร
– รางน้ำฝนสแตนเลส ขนาด 6 นิ้ว ความยาวมากกว่า 20 เมตร ราคาประมาณ 1,000 บาทต่อเมตร
– รางน้ำฝนอลูมิเนียม ราคาประมาณ 1,000 บาทต่อเมตร
– รางน้ำฝนแบบสังกะสี ราคาประมาณ 300 บาทต่อเมตร
– รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส ราคาประมาณ 800 บาทต่อเมตร

วิธีติดตั้งรางน้ำฝน

การติดตั้งรางน้ำฝนแต่ละประเภทมีวิธีการติดตั้งแตกต่างกันออกไป ซึ่งการติดตั้งรางน้ำฝนเบื้องต้นมีดังนี้

1.สำรวจพื้นที่ที่จะติดตั้งรางน้ำฝน ความแข็งแรงของเชิงชาย หรือปีกนกที่จะติดตั้ง หากมีการรื้อรางน้ำเก่าออก ระวังอย่าให้กระทบกับโครงสร้างหลังคา

2.วัดระดับน้ำหัวท้ายของรางน้ำ เพื่อวัดความลาดเอียงของรางน้ำ จากนั้นทำการตีเต๊า หรือเชือกตีแนว เพื่อสร้างแนวเส้นที่จะติดตั้งรางน้ำฝน

3.ติดตั้งตะขอแขวนรางตามระยะที่เหมาะสมกับประเภทรางน้ำ ซึ่งแต่ละประเภทมีระยะที่เหมาะสมไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะเว้นระยะห่างประมาณ 60-80 เซนติเมตรหากเป็นรางน้ำฝนไวนิลจะต้องใช้ซิลิโคนในการเชื่อมระหว่างรอยต่อ

4.ติดตั้งรางน้ำฝนกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด

5.เช็กการทำงานของรางน้ำฝนด้วยการทดลองฉีดน้ำบนหลังคา หากน้ำไหลเป็นปกติก็ถือว่าไม่มีปัญหา

ติดตั้งรางน้ำฝนอย่างไรไม่ให้มีปัญหากับเพื่อนบ้าน

การติดตั้งรางน้ำฝนมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงคือการล้ำไปในขอบเขตบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะถ้ารางน้ำฝนยื่นเลยออกไปในเขตบ้านเพื่อนบ้าน จะทำให้น้ำล้นไปฝั่งบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา โดยเราต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านั้นด้วยการหาระยะการติดตั้ง

ตามข้อกฎหมายการสร้างบ้านต้องระวังเรื่องการระบายน้ำฝน เพื่อไม่ให้การระบายน้ำกระทบต่อที่ดินข้างเคียง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2538) ข้อ 2 บอกไว้ว่า “อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงต้องมีการระบายน้ำฝนออกจากอาคารที่เหมาะสมและเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นหรือเกิดน้ำไหลนองไปยังที่ดินอื่นที่มีเขตติดต่อกับเขตที่ดินที่เป็นที่ตั้งของอาคารนั้น”
ประกอบกับกฎหมายควบคุมอาคาร ข้อ 50 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) “กำหนดให้ แนวผนังอาคารต้องร่นจากเขตที่ดินข้างเคียงไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร และเป็นผนังทึบ”
ดังนั้น หากติดตั้งรางน้ำฝนกับหลังคาที่มีการติดตั้งเชิงชายเรียบร้อยแล้ว ระยะยื่นปลายกระเบื้องหลังคารางน้ำฝนจะใช้พื้นที่ประมาณ 15-20 เซนติเมตร ยกเว้นกรณีทำรางให้มีความกว้างพิเศษหรือรางคอนกรีตที่กำหนดขนาดเองรางน้ำฝนถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บ้านของคุณมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และป้องกันปัญหาต่าง ๆ นานาที่อาจเกิดขึ้นกับเม็ดฝนเม็ดเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายของต้นไม้ สนามหญ้า หรือปัญหากับเพื่อนบ้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 26/06/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,300.0040,400.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,610.0039,567.6040,900.00
ทองรูปพรรณ 90%2,349.0035,610.84n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,088.0031,654.08n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,175.0017,813.00n/a
ทองรูปพรรณ 40%914.0013,856.24n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,705.0041,007.80n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/06/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.4538.4538.9538.4538.4538.4538.4538.4538.4538.45
แก๊สโซฮอล์ 9138.0838.0838.3838.0838.0838.0838.0838.0838.0838.08
แก๊สโซฮอล์ E2036.3436.3436.6436.3436.3436.3436.3436.3436.34
แก๊สโซฮอล์ E8536.0936.0936.09
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม47.0449.8449.8449.8447.04
เบนซิน 9546.3449.1146.8446.4946.34
ดีเซล32.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า