สาระน่ารู้ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2565

‘สิงห์ เอสเตท’ จ่อลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ดันรายได้ยาว5ปี

'สิงห์ เอสเตท'  จ่อลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ดันรายได้ยาว5ปี

‘สิงห์ เอสเตท’ปั้นธุรกิจที่อยู่อาศัย ชูเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลักเตรียมอัดฉีดเงินลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ดันรายได้ 5 ปีข้างหน้าโตทะลุหมื่นล้าน

25 พฤษภาคม 2565 – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดแผนรุกตลาดกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์เต็มสูบ โดยเตรียมงบลงทุนกว่า 35,000 ล้านบาทเพื่อการพัฒนาโครงการบนทำเลศักยภาพเยี่ยมในช่วง 5 ปีนี้ คาดฟันรายได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาทภายในปี 2569 

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในปีที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจที่อยู่อาศัยครั้งใหญ่ โดยทำการขายบริษัทย่อยซึ่งทำหน้าที่พัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักออกไป เพื่อปลดล็อคให้ สิงห์ เอสเตท เป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในเครือเองทั้งหมด 

พร้อมกันนี้เรายังได้พัฒนากลยุทธ์การขยายธุรกิจที่เข้มแข็ง และเดินหน้าพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 10,000 ล้านบาทในปี 2569  โดยวางสัดส่วนโครงการอสังหาฯ แนวราบต่อแนวสูงที่ 75% และ 25% ตามลำดับ สำหรับปี 2565 ยอดโอนกรรมสิทธิ์จะมาจากโครงการที่พัฒนาโดย สิงห์ เอสเตท ทั้งหมด ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับและสร้างการเติบโตในส่วนของรายรับจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการบริการการลงทุนโครงการอันเปี่ยมประสิทธิภาพและการดำเนินงานแผนการตลาดอย่างรัดกุม ตลอดจนความสามารถในการรับรู้รายได้ของโครงการระดับแฟล็กชิปต่างๆ ของเรา

'สิงห์ เอสเตท'  จ่อลงทุน 3.5 หมื่นล้าน ดันรายได้ยาว5ปี

โดยในปี 2565 สิงห์ เอสเตท สามารถรับรู้รายได้ของโครงการบ้านแนวราบ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ซึ่งมีมูลค่า Backlog อยู่ที่ 2,600 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ 70% ในปีนี้ รวมไปถึงการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดพร้อมอยู่ 2 โครงการได้แก่โครงการ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (The ESSE at Singha Complex) และ ดิ เอส อโศก (The ESSE Asoke) และยังสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนต่างๆ อีกด้วย

จากสัญญาณบวกของตลาด และความสามารถในการรับรู้รายได้ในปีนี้ ทำให้เราคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตด้านรายได้เพิ่มขึ้นราว 50% ในปี 2565 และสร้างการเติบโตสู่เป้าหมายรายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้ากว่า 10,000 ล้านบาท หรือขยายการเติบโตเฉลี่ยตลอด 5 ปีที่ราว 27% ต่อปี พร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจที่พักอาศัยระดับบน 

โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบ้านแนวราบที่กำลังจะมีการเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีมูลค่า 2,900 ล้านบาท ขณะที่โครงการอื่นๆ จะทำการทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง​นับตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป โดยเราวางงบลงทุนเพื่อซื้อและพัฒนาที่ดินสำหรับธุรกิจที่อยู่อาศัยเอาไว้ที่ประมาณ 35,000 ล้านหรือราว 65% ของเงินลงทุนในระยะเวลาห้าปีทั้งหมดของบริษัทฯ 

โดยปัจจุบันได้ทำการซื้อและวางเงินมัดจำที่ดินไปแล้วหลายแปลง จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลที่มีศักยภาพ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าระดับบนได้ตามแผนการที่วางไว้ นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นว่ากลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอของสิงห์ เอสเตทที่มีศักยภาพสูง และจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


24 ข้อคิด ทำธุรกิจ สไตล์ ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ เจ้าพ่ออสังหาฯ

24 ข้อคิด ทำธุรกิจ สไตล์ 'อนันต์ อัศวโภคิน' เจ้าพ่ออสังหาฯ

ทำธุรกิจอย่างไรให้สำเร็จ เปิด 24 ข้อคิด ของเจ้าพ่ออสังหาฯไทย ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ เมื่อ เจ้าของกิจการ ต้องกล้า!

26 พ.ค.2565 – หากกล่าวถึงนักธุรกิจไทย ที่ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับสูง ชื่อของ ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ มักปรากฎเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ โดยตระกูล ‘อัศวโภคิน’ มีอาณาจักรธุรกิจหลากหลายที่เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ จนถูกขนานนาม ว่าเป็น ‘เจ้าพ่ออสังหาฯ’ เช่น  บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  (LH),บมจ.เอพี พร็อพ เพอร์ตี้ (AP), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และยังมีหน่วยธุรกิจในวงการวัสดุก่อสร้าง และ ธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้าอีกด้วย 

ขณะ ธุรกิจการเงิน ครอบคลุม บมจ.แอลเอช ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป ,ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์,บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัทหลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นต้น 

ทั้งนี้ อนันต์ อัศวโภคิน ยังเคยได้รับรางวัล Best CEO Of The Year และเคยได้ตำแหน่งเศรษฐีหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในไทยหลายปีซ้อนอีกด้วย

24 แนวทางการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ 

สำหรับแนวทางการทำธุรกิจให้สำเร็จ ของ ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ นั้น มักกลายเป็นแบบฉบับให้นักธุรกิจรุ่นหลังๆ ยึดถือ และปฎิบัติตามหลายแง่ โดยเฉพาะ การเป็นเจ้าของกิจการ ที่สามารถครองใจคนในองค์กรได้ และบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างไรแบบมืออาชีพ ซึ่งล่าสุด บุคคลใกล้ชิด อย่าง ‘ทศพล อมรพิชญ์ปรัชญา’ ได้อัพเดทรวบรวมข้อคิดจาก ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ จากการพูดคุยและติดตาม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน ไว้ 24 ข้อ ดังนี้ 

24 ข้อคิด ทำธุรกิจ สไตล์ 'อนันต์ อัศวโภคิน' เจ้าพ่ออสังหาฯ
  • ยอมรับว่าตัวเองไม่เก่ง เก่งสู้พนักงานไม่ได้ แต่เราต้องรู้ว่าใครเก่ง 
  • ยอมรับว่าลูกน้องเก่งกว่าเรา ปล่อยให้คิดและตัดสินใจ กล้าจ่ายเงินเดือนลูกน้องมากกว่าตัวเอง เราทำหน้าที่เป็นโค้ชไม่ใช่ผู้เล่น หาคนเก่งกว่าเรามาทำงานกับเรา ยากตรงที่การทำลายอีโก้ตัวเอง เพราะพนักงานที่เก่งจะเถียงเราเก่งมาก ถ้าพนักงานคิดเหมือนเราหมด บริษัทจะโตได้ยังไง
  • ทำผิด กล้าประกาศอย่างเปิดเผยว่าเราทำผิด ให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วย และแสดงให้พนักงานเห็นว่าเราเป็นคนธรรมดาทำผิดได้ เล่าจนเป็นปกติเหมือนอาบน้ำ ถูฟัน พนักงานทำผิดก็จะกล้าเล่าให้ทีมฟัง เพือเรียนรู้และจะได้ไม่ทำผิดอีก เป็นการปรับระดับน้ำความรู้ในองค์กรให้เท่ากัน
  • อย่าทำตัวเป็นเทวดา ชี้ถูกผิด ให้โบนัสตามใจเรา ต้องทำสูตรให้ชัดเจน กำไรเท่าไหร่ แบ่งผู้ถือหุ้นเท่าไหร่ ให้พนักงานเท่าไหร่ ประกาศอย่างเปิดเผย สิ้นปีพนักงานรู้เลยจะได้โบนัสเท่าไหร่
  • ทุกคนเท่ากัน ห้องน้ำพนักงานคนรถ ต้องสะอาดเหมือนห้องน้ำที่เราเข้า กินข้าวโต๊ะเดียวกับคนรถได้ ไม่มีทดลองงาน รับแล้วรับเลย เพื่อให้หัวหน้าทุกคนตั้งใจรับคน ทุกคนเข้ามาถึงมีสวัสดิการเท่ากันหมดเลยตั้งแต่วันแรก
  • ส่งพนักงานที่เราคิดว่า ลูกน้องรัก ขยัน จงรักภักดี ไปเรียนเยอะๆ ป.โท ดูงานเมืองนอก คือวิธีที่จะทำให้องค์กรเติบโต โดยไม่ต้องทำสัญญา ถ้าวันนีงเค้าลาออก แสดงว่าเราดูแลเค้าได้ไม่ดีพอ พนักงานแต่ละคนก็มีภาระไม่เหมือนกัน เราต้องดีใจที่เค้าได้งานที่ใหม่ที่ได้เงินเดือนดีขึ้น มากกว่าที่อยู่กับเรา เค้าจะได้มีเงินไปดูแลครอบครัว คุณพ่อคุณแม่เค้า
  • “ไม่จำเป็นเราไม่รับพนักงานใหม่ ถ้าจำเป็นจริงๆเราก็ไม่รับ” ใช้การ improvement process และ IT เพื่อให้ทำงานได้เก่งขึ้น ดีขึ้น พนักงาน Back office ที่แก้ระบบงานไม่ได้ ได้แต่เงินเดือนไม่ให้โบนัส จะจ้างพนักงานบัญชีประสบการณ์ 20 ปีทำไม ถ้าประสบการณ์ 10 ปีก็ปิดงบได้เหมือนกัน ประสบการณ์ที่มีประโยชน์คือ ปรับปรุง process ได้ ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆได้ โดยเฉพาะตอนจ้างมาไม่เคยบอกว่าจะปิดงบไม่ทัน ถึงเวลาขอคนเพิ่มตลอด เพราะฉะนั้นต้องหาทางปรับปรุง process ให้ง่ายและเร็วขึ้น
24 ข้อคิด ทำธุรกิจ สไตล์ 'อนันต์ อัศวโภคิน' เจ้าพ่ออสังหาฯ
  • Process และเอกสารเยอะแยะในบริษัท มากกว่า 80% เกิดจากความไม่ไว้วางใจพนักงาน ถึงต้องมีเอกสารเซ็นกันไปเซ็นกันมาเต็มไปหมด ถ้าไม่ไว้ใจเค้า ให้เค้าเป็นหัวหน้าทำไม และกฎระเบียบ เยอะแยะเพราะคนไม่ดีบางคนทำไม่ดี เลยออกระเบียบทำให้คนดีทำงานยากขึ้น เช่น ทิชชู่มีคนขโมยกลับบ้าน เราก็จะออกกฎหรือหาวิธีการเบิกทิชชู่ให้ยุ่งยากกว่าเดิม ทำให้คนดีทำงานยากขึ้น
  • ไม่มีการทดลองงาน เวลารับคนต้องตั้งใจเลือกว่า พนักงานคนนี้จะทำงานกับเราตลอดไป ไม่มีการไล่ออก ยกเว้นเรื่องทุจริต จะทำให้หัวหน้างานตั้งใจเลือกพนักงานอย่างมาก และพนักงานทุกคนที่เข้ามาต้องได้รับสวัสดิการเต็มที่ตั้งแต่วันแรก
  • EQ สำคัญกว่า IQ เพราะความรู้เปลี่ยนแปลงทุกวันตลอดเวลา แต่ EQ สำคัญมากกว่าจะทำงานกับคนอื่นได้ไหม เก่งแต่ทำงานกับเพื่อนไม่ได้ไม่เอา ยุคนี้ไม่มี rising star มีแต่ teamwork 
  • เวลาลูกน้องมาถามอย่าให้คำตอบ อย่าตัดสินใจแทนลูกน้องเพราะเป็นการ Spoil ลูกน้อง การสอนพนักงานให้กล้าตัดสินใจแทนเรา คือเรื่องยากที่สุด เพราะลูกน้องทุกคน ไม่อยากตัดสินใจ เพราะกลัวผิด แล้วจะถูกต่อว่า ถูกลงโทษ เราต้องฝึกให้เค้าตัดสินใจ แม้ว่าเค้าตัดสินใจผิดเราก็ต้องอดทน ให้เค้าได้เรียนรู้ ห้ามไปตัดสินใจให้ ช่วงแรกจะยากมาก เพราะลูกน้องจะไม่ยอมตัดสินใจ และโยนมาให้เราตัดสินใจให้ตลอด เพราะเค้าจะได้ลอยตัวว่า เค้าไม่ผิด นายเป็นคนตัดสินใจ เราต้องใช้วิธีถามว่า มีทางเลือกอะไรบ้าง แล้วทำไมเลือกทางนี้ ต้องอดทนไม่บอก แม้ว่าเค้าจะตัดสินใจไม่ตรงกับเราก็ตาม
  • พ่อแม่รักลูก หรือ รักกิจการของตัวเองมากกว่า บังคับให้ลูกสืบทอดธุรกิจ ทั้งๆที่ลูกไม่ได้ชอบ ไม่อยากทำ แสดงว่าเรารักธุรกิจที่เราสร้างขึ้นมามากกว่ารักลูกของเรา
  • คุณคิดว่า ลูกเบคแฮมจะเตะบอล เก่งเหมือนเบคแฮมไหม พ่อแม่ที่เก่ง สร้างกิจการขึ้นมา แล้วให้ลูกมารับช่วงบริหารงานต่อ เราคิดว่า ลูกเราจะบริหารงานได้เก่งเหมือนเราหรือไม่ ไม่มีใครแล้วใช่ไหมในตลาดที่เก่งกว่าลูกของเรา เราจะให้ลูกเราเป็นนักเตะ แบบเบลแฮมลงเตะบอลเก่ง หรือ จะให้เป็น ผู้จัดการทีมแบบ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่หาคนเก่งๆมาเตะบอลให้เรา
  • อย่าบังคับให้บริษัทในเครือซื้อของกันเอง ทุกคนเหมือนลูกของเรา เวลาทะเลาะกันเราไม่รู้จะทำยังไง และทำให้ระบบภายในมีปัญหา โดยเฉพาะคุณภาพ
  • เราต้องสนใจการทำคุณภาพของสินค้า มากกว่าสร้าง brand และก่อนขยายไปทำอย่างอื่นให้ถามตัวเองว่า เรามี market share มากพอแล้วหรือถึงอยากขยายไปตลาดอื่นที่เรายังไม่ชำนาญ
  • อะไรที่ดีเราลอกหมด อย่าไปหยิ่ง การลอกไปลอกมาทำให้โลกเจริญ ฝรั่งเลยออกกฎหมายลิขสิทธิ์ เพราะจะได้รวยคนเดียว ดูอย่างโทรศัพท์มือถือ ใครลอก apple รอดหมด ใครไม่ลอกตายหมด
  • อย่าไปดูคู่แข่งมาก จนไม่มีเวลาดูลูกค้าเรา
  • โบนัส ให้จากลูกน้องทำตามเป้าหมายได้หรือไม่ ไม่ใช่จากกำไร เช่น 

– บริษัท A ขาดทุน 80 ล้าน เป้าหมาย คือ กำไร 10 ล้าน 
– บริษัท B กำไร 100 ล้าน เป้าหมาย 160 ล้าน 
ผลปรากฏว่าสิ้นปี บริษัท A ขาดทุน 10 ล้าน บริษัท B กำไร 120 ล้าน ผู้บริหารบริษัท A จะต้องได้โบนัสมากกว่าบริษัท B เพราะผลงานได้ใกล้เป้าหมายมากกว่า เราดูจากการทำผลงานได้ใกล้เป้าหมาย ไม่ได้ดูจากกำไร เพราะถ้าดูจากกำไร จะไม่มีใครยอมไปทำงานยากๆ

  • ถามตัวเองว่า มีใครเก่งกว่าเราในบริษัทไหม ถ้าเราเป็นเจ้าของแล้ววันนี้มองไปทางไหนแล้ว ไม่มีใครในบริษัทเก่งกว่าเราเลย เตรียมเจ๊งได้เลย แสดงว่าเราจะต้องบริหารจนวันตายใช่ไหม แล้วถ้าเราไม่อยู่บริษัทจะอยู่ยังไง ถ้าเรามีคนเก่งกว่าเราในบริษัทมากๆ เมื่อเราไม่อยู่บริษัทจะเจริญรุ่งเรืองกว่าตอนเราอยู่แน่นอน เราต้องตอบตัวเองให้ดี
  • ธุรกิจครอบครัว ก็สามารถบริหารแบบมืออาชีพได้ ถ้าทุกคนทำตามกติกาที่วางไว้ ไม่ออกนอกกฎที่วางไว้ร่วมกัน
  • อยากรู้ว่า เรามี DNA เป็นเจ้าของกิจการไหม ให้ดูว่าเราชอบทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ไหม เพราะเจ้าของกิจการจะชอบทำงาน 7 วัน ไม่อยากให้มีวันหยุด
  • เราต้องกล้าตั้งลูกน้องที่มีความสามารถมาเป็นหัวหน้า โดยไม่สนใจความอาวุโส ถ้าคนไหนเก่งกว่า ความสามารถมากกว่า ต้องแซงขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ แม้ว่า คนที่เค้าแซงจะเป็นคนที่เคยสัมภาษณ์เค้าให้เข้ามาทำงานก็ตาม
  • ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการ เราต้องมีความสามารถในการพึ่งใจตนเองได้ โดยไม่ต้องไปขอกำลังใจจากใคร และ ช่วงที่เราลำบาก ธุรกิจลำบาก อย่าทิ้งลูกน้อง 
  • เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เรามีความสุข เพราะเราหาความสุขใส่ตัว หรือเรามีความสุข เพราะเราเห็นคนอื่นมีความสุข เวลาเราได้กำไร เราลงทุนในบริษัท ซื้อของให้ดีขึ้น มือถือใหม่ คอมพิวเตอร์ใหม่ ให้พนักงานทำงานสะดวกขึ้น และเอามาลงทุนกับสวัสดิการพนักงาน ให้พนักงานมีสวัสดิการที่ดีขึ้น ความเป็นอยู่ดีขึ้น ดูแลพ่อแม่ได้ดีขึ้น เลี้ยงลูกได้ดีขึ้น มากกว่า เอามาใช้กับตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 34.25บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่

บาทเปิด 34.25บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่

เงินบาทเปิดตลาด 34.25บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่ หลังรายงานเฟดไม่ต่างจากตลาดคาด

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.25 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.23 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกเนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา หลังรายงานการประชุมของเฟดที่ออกมาไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยแตกต่างไปจากเดิม ที่จะทยอยปรับขึ้นอีกสองครั้งๆละ 0.50%

“บาทอ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากรายงานการประชุมเฟดที่ออกมาไม่มีอะไรเซอร์ไพร้ส เป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว ทิศทางบาทวันนี้น่าจะไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.15 – 34.35 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


โปโลน้ำไทยสายเลือดใหม่ โชว์ฟอร์มเจ๋ง คว้ารองแชมป์ทีมชาย-หญิง สิงคโปร์ เนชั่นคัพ

โปโลน้ำไทยสายเลือดใหม่ โชว์ฟอร์มเจ๋ง คว้ารองแชมป์ทีมชาย-หญิง สิงคโปร์ เนชั่นคัพ

การแข่งขันโปโลน้ำ สิงคโปร์ วอเตอร์ โปโล อินเตอร์เนชั่นแนล คัพ 2022 ที่ประเทศสิงคโปร์ ทีมชาติไทยส่งทีมเข้าร่วมทั้งชายและหญิงโดยใช้นักกีฬาสายเลือดใหม่ลงแข่งเพื่อเก็บประสบการณ์

 สำหรับรายการนี้จัดขึ้นตามนโยบายการจัดทุกกีฬาทางน้ำของสหพันธ์กีฬาว่ายน้ำแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขอให้สมาชิกจัดขึ้นหากกีฬาชนิดใดที่ประเทศเจ้าภาพไม่จัดแข่งขันในซีเกมส์ 2021 ซึ่งประเทศเวียดนามไม่จัดแข่งโปโลน้ำ

สิงคโปร์ ในฐานะเป็นประธานสหพันธ์ฯจึงจัดแข่งโปโลน้ำในห้วงเดียวกัน โดยทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2565 สมาคมกีฬาว่ายน้ำไทย ก็ได้จัดส่งทีมร่วมทั้งชายและหญิง โดยทีมชาย ส่งชุดสายเลือดใหม่ที่เตรียมไว้เอเชี่ยนเกมส์ไปแข่งขัน

 ส่วนทีมหญิง ส่งชุดเยาวชน ที่เตรียมไว้เอ เชี่ยนยูธ ไปแข่งขันแทนชุดใหญ่ เพราะชุดใหญ่ต้องเตรียมทีมไปแข่งขัน ชิงแชมป์โลก ในรายการ FINA World Championship 2022 ณ ประเทศฮังการี ในเดือนหน้า

 ประเภททีมชายมี 6 ทีม เข้าร่วมจาก 5 ประเทศ  ได้แก่ สิงค์โปร์ A – B, อินโดนีเซีย แชมป์เก่าซีเกมส์ 2019 , ฟิลิปปินส์ รองแชมป์ซีเกมส์ 2019, มาเลเซีย และไทย ผลการแข่งขันปรากฎว่า ไทยจบอันดับ 2 คว้ารองแชมป์ โดยทำผลงานแพ้เพียงเกมเดียวต่อสิงคโปร์ทีม A นับเป็นผลงานที่ดี เกินความคาดหมาย เพราะได้อันดับที่ดีกว่าแข่งขันโปโลน้ำในซีเกมส์ ครั้งที่แล้ว ซึ่งไทยได้แค่อันดับที่ 4  ส่วนแชมป์ทีมชายได้แก่ สิงค์โปร์ ทีม A

ประเภททีมหญิง มี 4 ทีมเข้าร่วม จาก3 ประเทศ ได้แก่ สิงค์โปร์ A,B มาเลเซีย และไทย ผลการแข่งขัน อันดับ 1 ได้แก่ทีมสิงค์โปร์ A อันดับ 2 ทีมไทย และอันดับ 3 ทีมมาเลเซีย

โดยทีมไทยเป็นทีมเดียวที่ส่งชุดเยาวชนเข้าแข่งขัน เพื่อเป็นการหาประสบการณ์ให้แก่เยาวชน ที่จะขึ้นเป็นทีมชาติต่อไปในอนาคต  แต่ก็ยังคว้าตำแหน่งรองแชมป์ มาได้ ซึ่งก็เกินความคาดหมาย ของสมาคมกีฬาว่ายน้ำ เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


10 สัญญาณเตือน “ฮอร์โมนเพศชายต่ำ”

10 สัญญาณเตือน “ฮอร์โมนเพศชายต่ำ”

นอกจากอาการนกเขาไม่ขันแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ที่คุณผู้ชายสังเกตได้ด้วยตัวเองว่าเราอาจจะเริ่มมีปัญหากับสมรรถภาพทางเพศแล้ว

นพ.นิวัฒน์ ลักขณาวงศ์ รพ. เจริญกรุงประชารักษ์ ระบุว่า ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้กับชายวัยทอง ซึ่งเป็นวัยที่ฮอร์โมนเพศชายคือเทสโทสเตอโรนลดลง เมื่อฮอร์โมนเพศชายตัวนี้ลดลง จะส่งผลต่อร่างกายที่สำคัญๆ คือ 

  • ความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อลดลง เสี่ยงกระดูกพรุน
  • ระบบความจำอาจแย่ลง หลงลืม
  • ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานแย่ลง
  • หงุดหงิดง่าย 
  • ไม่กระฉับกระเฉง 
  • เบื่อหน่ายซึมเศร้า 
  • อารมณ์แปรปรวน 
  • อ้วนลงพุง 
  • รู้สึกร้อนวูบวาบ
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง

โดยสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง มีหลายสาเหตุ เช่น

  • อ้วนลงพุง 
  • โรคเบาหวาน 
  • โรคความดันโลหิตสูง 
  • สูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ทำงานหนัก 
  • พักผ่อนน้อย 
  • เครียด
  • อายุที่มากขึ้น

10 สัญญาณเตือน “ฮอร์โมนเพศชายต่ำ”

  1. รู้สึกมีความต้องการทางเพศลดลง
  2. ไม่ค่อยมีแรง
  3. พละกำลังลดลง
  4. รู้สึกว่าตัวเองเตี้ยลง
  5. ไม่ค่อยมีความสุข
  6. ซึมเศร้า เหงาหงอย อยากอยู่คนเดียว
  7. อวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัว
  8. ความสามารถในการเล่นกีฬาลดลง
  9. ง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเย็น
  10. ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

วิธีป้องกันภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ

  1. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  2. ลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน
  3. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและไขมันที่มากเกินไป
  4. รักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
  6. ดูแลจิตใจให้แจ่มใส 
  7. จัดการกับความเครียด

การให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงผลดีและผลเสียของยาฮอร์โมนก่อนใช้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


2 สิ่งที่ควรทำ ถ้าอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ

ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น ซึ่งความสำเร็จในแบบฉบับของคนแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากทำอะไรมากแค่น้อยแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม มันมีมาตรฐานเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยนำพาเราไปสู่จุดๆ นั้นได้ และสองสิ่งที่น่าสนใจนี้คืออะไร ไปดูกันเลย

The successful habits = นิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ

Do you know what kind of habits will make you become a successful person?
1. Set the goal. = ตั้งเป้าหมาย
เมื่อเราตั้งเป้าหมาย ชีวิตของเรานับจากนี้ จะอยู่บนเส้นทางไปสู่จุดหมาย ข้อดีของมันคือ มันจะคัดกรองสิ่งที่ทำให้เรามีโอกาสไขว้เขวออกไปได้
เช่น เราตั้งเป้าหมายที่ต้องการออกกำลังกายทุกเช้า เมื่อเราตั้งเป้าหมายแบบนี้แล้ว เราก็จะทำทุกอย่างเพื่อไปสู่การออกกำลังกายทุกเช้า นอนเร็วขึ้น แบ่งเวลาดีขึ้น เพราะต้องทำตามเป้าหมายที่วางไว้

2. Reminding yourself of the goal. = เตือนตัวเองเกี่ยวกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 
การเตือนตัวเอง มันคือสิ่งที่ทำให้เรายังอยู่บนเป้าหมาย และไม่ลืมว่าเราทำเป้าหมายนี้ไปเพื่ออะไร นี่เป็นแรงจูงใจแบบง่ายๆ ที่คนอยากไปสู่จุดหมายควรมีในทุกจังหวะเวลาของชีวิต

เช่น ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะตื่นเช้าไปออกกำลังกายทุกวัน สิ่งที่เราต้องทำคือ เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า การออกไปออกกำลังกายตอนเช้านั้นสำคัญเพียงใด และทำไมเราถึงทำสิ่งนี้ เป็นต้น

ไม่ยากเลย ที่จะตั้งเป้าหมาย และเตือนตัวเองถึงเป้าหมายนั้น แค่นี้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี ที่ทำให้เราไปสู่การประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ตั้งเป้าหมายเพื่อพิชิต ให้ตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ ก็อย่าเพิ่งท้อ แอด Line @Engnow.in.th มาคุยกับแอดมินได้นะ อยากให้ทุกคนมาเก่งไปพร้อมๆ กัน สู้ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

วช.ดันทีมวิจัย มจธ. ลุยใช้นวัตกรรมวัสดุนาโนสีเขียว ดันเทคโนโลยีตรวจพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร ช่วยนักนิติวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ ชี้จุดเด่นราคาถูก-ผลิตเองได้ หวังลดการนำเข้า ยันไม่ทำลายชิ้นงานตรวจสอบ

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า เอกสารที่ถูกปลอมแปลงจากแหล่งต้องสงสัย ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายคดีความ และจากสถิติคดีศาลยุติธรรมทั่วราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2558 ยังพบว่าความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารมีมากสุดถึง 95% ของความผิดที่เกี่ยวกับการปลอมแปลงในคดีอาญาทั้งหมด และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปี เบื้องต้นสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ “การถ่ายทอดเทคโนโลยีการตรวจพิสูจน์การปลอมแปลงเอกสารแบบไม่ทำลายตัวอย่างโดยใช้นวัตกรรมวัสดุนาโนสีเขียวแก่นักนิติวิทยาศาสตร์” เพื่อให้เกิดการนำเอาองค์ความรู้ที่สมบูรณ์แล้วไปขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และยังช่วยลดงบประมาณในการนำเข้าเทคโนโลยีราคาแพงจากต่างประเทศอีกด้วย

 สำหรับเทคโนโลยีการตรวจพิสูจน์การปลอมแปลงเอกสารแบบไม่ทำลายตัวอย่างโดยใช้นวัตกรรมวัสดุนาโนสีเขียวที่เรียกว่า Green colloidal SERSเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช ประจำปี 2564 โดยมีผศ.ดร.เขมฤทัยถามะพัฒน์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นหัวหน้าโครงการ และมีผู้ร่วมประดิษฐ์ประกอบด้วย ดร.นพดลนันทวงศ์ และ ดร.พิทักษ์ เอี่ยมชัย จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) พ.ต.อ.หญิง ศิริพร จันทขันธ์ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนางสาวอภิญญา เกตุก้อง จาก มจธ.

ผศ.ดร.เขมฤทัยถามะพัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ หัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์และวิศวกรรมศาสตร์เพื่อคำตอบของสังคม และรองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า การปลอมแปลงเอกสารที่เป็นความผิดในคดีอาญาซึ่งมีลักษณะที่มีการต่อเติมหรือเขียนแทรก เช่น การปลอมแปลงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเงินของธนาคาร โฉนดที่ดิน หนังสือเดินทาง และหนังสือพินัยกรรมนั้น ในบางกรณีจำเป็นต้องตรวจพิสูจน์การปลอมแปลงโดยการเปรียบเทียบชนิดของหมึกพิมพ์หรือหมึกปากกา

วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดของวิธีการตรวจแบบเดิม ๆ เช่น การใช้เครื่อง VSC ที่แสดงให้เห็นแค่ความแตกต่างในการตอบสนองต่อแสงระหว่างหมึกปากกาที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ ไม่สามารถตรวจเปรียบเทียบชนิดของหมึกได้ หากหมึกปากกาในบริเวณต้องสงสัยเรืองแสงเหมือนกัน หรือไม่เรืองแสงเหมือนกัน และแม้จะมีการนำเทคนิคต่างๆ มาใช้เพิ่มขึ้น แต่ยังมีต้องสกัดหมึกปากกาออกมาจากเอกสารเพื่อตรวจพิสูจน์ เป็นการทำลายสภาพเอกสาร ทำให้เกิดความยุ่งยากในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ อีกทั้งยังต้องทำการขออนุญาตจากศาลก่อนทำลายสภาพเอกสาร

ปัจจุบันหน่วยงานด้านการตรวจพิสูจน์เอกสาร จึงได้นำเทคนิครามานสเปกโทรสโกปี (Raman spectroscopy หรือ RS)  มาประยุกต์ใช้ในการตรวจพิสูจน์หมึกปากกาบนเอกสารได้โดยตรง   โดยเป็นการตรวจพิสูจน์แบบไม่ทำลายตัวอย่างและสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของหมึกปากกาได้

ผศ.ดร.เขมฤทัย กล่าวว่า เนื่องจากการใช้เทคนิค RS ในการตรวจพิสูจน์หมึกปากกา ยังมีความไวต่ำ จึงมีการนำเทคนิคพื้นผิวขยายสัญญาณรามาน (SERS) ด้วยการนำพื้นผิวของอนุภาคนาโนโลหะเข้ามาช่วยในการขยายสัญญาณรามานและลดสัญญาณรบกวน  ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในเชิงพาณิชย์มีการพัฒนาตัวขยายสัญญาณเป็น 2 รูปแบบคือ  รูปแบบแผ่นรองรับสำหรับขยายสัญญาณรามาน (SERS – substrate) และรูปแบบของคอลลอยด์สำหรับขยายสัญญาณรามาน (colloidal SERS) เพื่อออกมาจำหน่าย

สำหรับ SERS – substrate แม้จะสามารถขยายสัญญาณรามานได้ดี แต่มีข้อเสีย คือ ยุ่งยากในการสร้าง มีราคาแพง ในขณะที่ colloidal SERS สามารถเตรียมขึ้นโดยใช้กระบวนการที่ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่า แต่มีอายุการใช้งานที่สั้นและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

“ทีมวิจัย จึงร่วมกันพัฒนานวัตกรรม Green colloidal SERS ขึ้น สำหรับจำแนกหมึกปากกาในงานตรวจพิสูจน์เอกสารต้องสงสัย โดยมีราคาถูก สามารถผลิตขึ้นเองได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ด้วยเครื่องไมโครเวฟ โดยใช้เวลาในการเตรียมเพียงแค่ 3 นาที ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มีภายในประเทศไทย และมีอายุการใช้งานนานกว่า 6 เดือน สามารถนำ Green colloidal SERS ไปหยดลงบนหมึกปากกาบนวัตถุพยานประเภทเอกสาร ณ ตำแหน่งต้องสงสัยได้โดยตรง แล้วนำไปตรวจวัดด้วยเครื่องรามานสเปกโทรสโกปีได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้แห้ง   สารขยายสัญญาณรามานที่พัฒนาขึ้นนี้จะไม่ทำละลายหมึก ตัวอักษรที่อ่านได้ยังคงลักษณะเดิม จึงไม่จำเป็นต้องทำลายสภาพเอกสารเพื่อสกัดหมึกออกมาตรวจวัด โดยการตรวจหนึ่งตำแหน่งจะใช้สารในราคาเพียง 25 สตางค์ เท่านั้น”

วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

นักวิจัย กล่าวว่า  นวัตกรรมดังกล่าวสามารถขยายสัญญาณรามานได้มากกว่า 10 เท่าของสัญญาณรบกวน ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของหมึกปากกา สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการจำแนกโมเลกุลองค์ประกอบ สีของหมึกปากกา และประเภทของตัวทำละลายซึ่งจะบ่งบอกถึงชนิดของหัวปากกา เช่น ปากกาลูกลื่น ปากกาหมึกซึม และปากกาโรลเลอร์บอล ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกัน เพื่อชี้ให้เห็นว่าเอกสารต้องสงสัยนั้นถูกปลอมแปลงหรือไม่ โดยการตรวจพิสูจน์จากหมึกปากกาการผลิต Green colloidal SERS หรือ สารสำหรับขยายสัญญาณเพื่อการตรวจพิสูจน์หมึกปากกาด้วยวิธีรามานสเปกโทรสโกปี ได้เองนี้ ถือเป็นเพิ่มศักยภาพในการตรวจพิสูจน์หลักฐานของหน่วยงานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

วช.-มจธ.ผุดนวัตกรรมนาโนสีเขียว ตัวช่วยพิสูจน์ปลอมแปลงเอกสาร

นอกจากนี้จากการสนับสนุนของ วช. ทีมวิจัยจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต Green colloidal SERS และกระบวนการตรวจพิสูจน์หมึกปากกาแบบไม่ทำลายวัตถุพยานเอกสารและไม่ทำละลายหมึกปากกา ให้แก่ตัวแทนเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจเอกสารและกลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และศูนย์พิสูจน์หลักฐานทั้ง 10 ศูนย์ ทั่วประเทศไทย เพื่อประโยชน์เชิงความมั่นคง และยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือให้แก่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจกับหน่วยงานที่มีเครื่องรามานสเปกโตรมิเตอร์ซึ่งกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ให้ผู้ปฏิบัติงานประจำเครื่องมือสามารถสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้ในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


9 ประโยชน์จากทุเรียน กินให้พอดี แล้วจะรู้ว่าดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด!

9 ประโยชน์จากทุเรียน กินให้พอดี แล้วจะรู้ว่าดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด!

ช่วงนี้จะไม่กล่าวถึงทุเรียนก็คงไม่ได้ เพราะบางคนแค่ออกจากบ้าน ก็มีรถจอดขายทุเรียนอยู่ข้างทางเต็มไปหมดให้เห็น ไหนจะกลิ่นที่ชวนให้กิน ไหนจะรสชาติหวานอร่อยที่กินแค่ไหนก็หยุดไม่ได้ แต่ทั้งนี้การกินทุเรียนที่มากเกินไป ก็สร้างผลเสียต่อร่างกายได้ วันนี้เราจึงขอเอาใจสาวๆ ที่ชอบกินทุเรียน ด้วยประโยชน์มากมายที่ได้จากการกินทุเรียนในปริมาณที่พอดีกันค่ะ บอกเลยว่าประโยชน์ที่ได้จากการกินทุเรียนมีมากกว่าความอร่อยอย่างแน่นอน


1.กระตุ้นการขับถ่าย
เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยใยอาหารสูง ซึ่งจะมีเส้นใยอาหารอยู่ประมาณ 3-5% แล้วแต่สายพันธุ์ การกินทุเรียนจึงช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดี แต่ไม่แนะนำให้กินทุเรียนเพื่อหวังกระตุ้นการขับถ่าย เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับทั้งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันสูงไปด้วย


2.แก้อาการท้องร่วง
สำหรับวิธีการแก้อาการท้องร่วงด้วยทุเรียน ตามตำรับยาไทยจะใช้รากทุเรียนเพื่อแก้อาการท้องร่วง รวมทั้งแก้ไข้ให้อาการดีขึ้น


3.บำรุงสายตา
ทุเรียนมีเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนีไข่และพวงมณี จะให้เบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งสารอาหารชนิดนี้มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก และช่วยชะลอการเสื่อมของกระจกตาในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเนื้อทุเรียนที่มีสีเหลืองเข้มก็จะยิ่งพบสารอาหารชนิดนี้มากตามไปด้วย

4.บำรุงสมอง
ในทุเรียนอุดมไปด้วยโฟเลต เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหลงลืมและโรคอัลไซเมอร์ได้


5.บำรุงผิวพรรณ
ทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองและก้านยาวมีฤทธิ์กำจัดอนุมูลอิสระอยู่ 2 ชนิด คือ อนุมูอิสระไฮดรอกซิลและไนตริกออกไซด์ ซึ่งอนุมูลอิสระทั้งสองชนิดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าแก่ก่อนวัย

6.ต้านเชื้อแบคทีเรีย
สารโพลีแซคคาไรด์ เจล ที่ได้จากเปลือกทุเรียน มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิด ซึ่งการทดลองที่นำเอาสารดังกล่าวมาพัฒนาเป็นแผ่นฟิล์มปิดแผลจะพบว่า ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบของแผลได้เป็นอย่างดี


7.สมานแผล
เปลือกทุเรียนมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษากลาก เกลื้อน ช่วยสมานแผล แก้น้ำเหลืองเสีย รักษาแผลพุพอง ตานซาง และแก้ฝีให้อาการดีขึ้น

8.แก้โรคผิวหนัง
โรคผิวหนังสามารถรักษาได้ด้วยเนื้อทุเรียน ซึ่งตามตำรับยาไทยพบสรรพคุณจากเนื้อทุเรียนว่าสามารถแก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝีแห้งเร็ว


9.ขับพยาธิ
ในเนื้อทุเรียนมีกำมะถันที่ให้ความร้อนแก่ร่างกาย พร้อมทั้งช่วยบำรุงกำลัง และช่วยขับพยาธิไส้เดือนได้ ที่สำคัญใบทุเรียนก็ยังสามารถนำมาใช้เพื่อขับพยาธิและแก้ดีซ่านได้อีกด้วย


จะเห็นได้ว่าประโยชน์ที่ได้จากทุเรียนนั้นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยลดความกังวลสำหรับสาวๆ ที่ไม่กล้ากินทุเรียนได้บ้าง เพราะหลายคนมองว่าจะให้ผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี แต่อย่าลืมว่าหากกินทุเรียนในปริมาณที่เพียงพอ ก็ย่อมส่งผลดีต่อร่างกายได้อย่างมากมายเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 26/05/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,950.0030,050.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,940.0029,410.4030,550.00
ทองรูปพรรณ 90%1,746.0026,469.36n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,552.0023,528.32n/a
ทองรูปพรรณ 50%873.0013,234.68n/a
ทองรูปพรรณ 40%679.0010,293.64n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,010.0030,471.60n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/05/2565


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9543.4543.4543.8543.4543.8543.4543.4543.4543.4543.45
แก๊สโซฮอล์ 9143.1843.1843.5843.1843.5843.1843.1843.1843.1843.18
แก๊สโซฮอล์ E2042.3442.3442.7442.3442.7442.3442.3442.3442.34
แก๊สโซฮอล์ E8536.3436.3436.34
เบนซิน 9550.8651.7151.3651.3650.86
ดีเซล B731.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม42.3642.3646.3945.2646.3942.36
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า