สาระน่ารู้ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565

เอพี ไทยแลนด์ ปั้นแบรนด์“MODEN” บุกตลาดแนวราบ 3-5 ล้าน

เอพี ไทยแลนด์ ปั้นแบรนด์“MODEN” บุกตลาดแนวราบ 3-5 ล้าน

เอพี ไทยแลนด์ เปิดแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บุกตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้าน พร้อมโชว์ผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจแนวราบ ฟันยอดขายครึ่งปีแรกโตกว่า 20,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 25% ครึ่งปีหลังบุกหนักเปิดบ้านเดี่ยว 18 โครงการ รวมมูลค่า 24,030 ล้านบาท

นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ครึ่งปีแรก เอพีสามารถสร้างยอดขายบ้านแนวรายได้เติบโตกว่า 20,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 25% ทำให้เอพีครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี พ.ศ. 2558 – 2564) ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า 

เอพี ไทยแลนด์ ปั้นแบรนด์“MODEN” บุกตลาดแนวราบ 3-5 ล้าน

รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้บ้านเดี่ยวเอพี จะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้

“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

เอพี ไทยแลนด์ ปั้นแบรนด์“MODEN” บุกตลาดแนวราบ 3-5 ล้าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ

“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งาน ได้เปลี่ยนแปลงไป COVID-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ Home Nesting ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน ก็ลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรับเป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลให้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัด 

ครึ่งปีหลังนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีจึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์  ขนาดที่ดิน 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร  ราคา 12-20 ล้านบาท    แบรนด์ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน ขนาดที่ดิน 50-62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมตร โหมดราคา 3-5 ล้านบาท 

“หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม” นางพิมพรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ปรัชญา FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL ยังคงเป็นจุดยืนสำคัญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเครือเอพีทุกแบรนด์ เพื่อให้บ้านเดี่ยวเอพีเป็นบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต ภายใต้ 3 แนวคิดสำคัญที่เป็นกรอบการทำงานที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเครือเอพีประสบความสำเร็จเสมอมา ประกอบด้วย

เอพี ไทยแลนด์ ปั้นแบรนด์“MODEN” บุกตลาดแนวราบ 3-5 ล้าน

Harmonious Living for All สร้างพื้นที่ส่วนตัว กับพื้นที่ของทุกคนให้เกิดขึ้น แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านเอพีที่ไม่ใช่แค่คำว่า “พื้นที่ใช้สอย” แต่เป็น “พื้นที่ที่ตอบทุกคนในบ้าน” ยกตัวอย่าง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่แค่การมีห้องนอนส่วนตัว แต่หมายถึงการออกแบบมุมต่างๆ ภานในบ้าน ให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวมได้ 

อย่าง THE CITY ดีไซน์ใหม่ นอกจากการออกแบบพื้นที่ชั้น 1 ให้มี Double Volume เชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งแล้ว บ้านหน้ากว้างยังสะท้อนให้ทุกพื้นที่ภายในเกิดการเชื่อมต่อเข้าหากัน เป็นได้ทั้งพื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน พื้นที่รับแขก หรือโต๊ะอาหารสำหรับทุกสมาชิก บนความโล่ง โปร่ง สบาย และรับแสงจากธรรมชาติ รวมถึงการรองรับเทรนด์ผู้สูงอายุ กับการจัดวางพื้นที่ห้องนอนชั้น 1 ให้ใกล้กับจุดจอดรถ หรือครั้งแรกกับการออกแบบห้องใต้หลังคาในโครงการ THE CITY จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ถือเป็นแนวคิดในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้การอยู่อาศัยในบ้านมีสีสันมากยิ่งขึ้น 

Spaces with Function-led Aesthetic มากกว่าความสวยงาม แต่ทุกพื้นที่คือการใช้งานได้จริง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทีมออกแบบ ด้วยการคำนึงถึงการใช้งานได้จริง ที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดวางผังโครงการ เพื่อให้เกิดเป็น Smart Space Smart Layout เช่น การจัดวางพื้นที่ในบ้านแบรนด์ CENTRO ดีไซน์ใหม่ ที่เปลี่ยนวิธีคิดในการจัดวาง 3 ฟังก์ชันหลักในชั้น 1 อย่างพื้นที่จอดรถ พื้นที่เก็บของนอกบ้าน และมุมมองทางเข้าบ้านใหม่ จนเกิดพื้นที่ใช้สอยในมิติใหม่จากพื้นที่ที่ทับซ้อนอยู่ หรืออย่างแบบบ้านแบรนด์ MODEN พื้นที่ภายในบ้านมีการออกแบบพื้นที่ส่วน ชั้น 2 ให้เป็น  Pocket  Space เชื่อมต่อกับ Family Area ซึ่งลูกค้าสามารถปรับพื้นที่ในมิติใหม่ๆ  เพื่อรองรับกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด

Meaningful Innovations for Life การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัย เพื่อสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต แนวคิดนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่านวัตกรรม คือการเพิ่มความลงตัวให้การใช้ชีวิต จนนำมาสู่คอนเซ็ปต์ HYBRID LIVING ที่ถูกผสมผสานเข้าไปในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวเอพี ทั้งเรื่องของ Security นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน Comfort  นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายกับระบบสั่งการอัจฉริยะ Cost-saving นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง Community นวัตกรรมที่ดูแลคอมมูนิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์ CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท 


พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดี คือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เป็นลูกบ้านเอพี เป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านเอพี 

ทั้งนี้ โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ซึ่งอยู่ในโหมดราคา 3-5 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ควอลิตี้เฮ้าส์” เปิดตัวแบบบ้านซีรี่ย์ใหม่ โครงการ “วรารมย์ วัชรพล เพิ่มสิน” สไตล์ Modern English Cottage

“ควอลิตี้เฮ้าส์” เปิดตัวแบบบ้านซีรี่ย์ใหม่ โครงการ “วรารมย์ วัชรพล เพิ่มสิน” สไตล์ Modern English Cottage ให้ความรู้สึกเรียบง่ายอบอุ่นในสไตล์อังกฤษ ราคาพิเศษ 6 – 10 ล้านบาท*

บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เปิดตัวแบบบ้านเดี่ยว รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากเมืองตากอากาศ “CLOVELLY VILLAGE” ในประเทศอังกฤษ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรยากาศที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ เพื่อตอบโจทย์ “ชีวิตคนเมืองสู่ความเรียบง่าย” รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ที่ดีไซน์ได้อย่างสวยงามและใช้งานได้จริง ภายใต้แนวคิด “THE SENSATION OF GRAND ENGLISH LIVING” เหนือระดับ?กับชีวิตสไตล์อังกฤษที่ลงตัว เปิดให้จองแล้ววันนี้ ที่โครงการหรู “วรารมย์ วัชรพล เพิ่มสิน” บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และรถไฟฟ้าสายสีเขียว

บ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ล่าสุด สไตล์ Modern English Cottage โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างลงตัว บนที่ดินประมาณ 50-88 ตารางวา บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 136 – 277 ตารางเมตร มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ โดยรายละเอียดดังนี้

  • แบบ Clovelly 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ2 ที่จอดรถ
  • แบบ Braunton 4 ห้องนอน3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Fremington 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ส่วนพักผ่อนชั้นบน
  • แบบ Devon 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ส่วนพักผ่อนชั้นบน
  • แบบ Somerset 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ส่วนพักผ่อนชั้นบน ห้องแม่บ้าน

สำหรับโครงการ “วรารมย์ วัชรพล เพิ่มสิน” (Vararom Watcharapon Permsin) ตั้งอยู่บนทำเลย่านวัชรพล ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา- อาจณรงค์) สะดวกเชื่อมต่อ ถ.สุขาภิบาล 5 ถ.สายไหม ถ.รามอินทรา และรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว สถานีสะพานใหม่ แวดล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล อาทิ เดอะ พรอมานาด/ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์/ แฟชั่นไอซ์แลนด์/ บิ๊กซี สุขาภิบาล5/ รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม/ ม.ศรีปทุม/ รพ.สายไหม/ รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล/ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ฯลฯ

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระสำหรับเด็ก ห้องฟิตเนส พื้นที่ทำงานส่วนกลาง (Co-Working Space) สวนส่วนกลาง สไตล์ English Natural ลู่วิ่งออกกำลังกาย (Jogging Track) สนามเด็กเล่น ห้องสำหรับเด็ก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย แยกทางเข้าระหว่างส่วนผู้พักอาศัยและผู้มาเยือน ควบคุม การเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ EASY PASS เพื่อความสะดวกให้ลูกบ้านยิ่งขึ้น กล้องวงจรปิด CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยในตัวบ้าน แบบ Magnetic Sensor

“วรารมย์ วัชรพล เพิ่มสิน” มอบโปรโมชั่นเมื่อจองบ้านซีรี่ย์ใหม่ในโครงการฯ ระดับราคาพิเศษ 6 – 10 ล้านบาท* พร้อมสิทธิพิเศษรับส่วนลด 100,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 นี้เท่านั้น

ท่านผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานขายโครงการฯ โทร.1388 หรือ ID Line: @q-house เว็บไซต์ www.qh.co.th (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามรายละเอียดโครงการ คลิก>> www.qh.co.th/project/Vararom-Bangkok/VWPS)

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ค่าเงินบาทวันนี้ (26 ก.ค.) เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 36.69 บาท บทวิเคราะห์ล่าสุด

เงินบาท

ค่าเงินบาทวันนี้ (26 ก.ค.) เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 36.69 บาท โดยกรอบแนวรับที่ 36.60 บาท แนวต้าน 36.80 บาท

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 รายงานจากห้องค้าเงิน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ (26 ก.ค.) เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนหน้า โดยกรอบการเคลื่อนไหววันนี้คาดการณ์แนวรับที่ 36.60 บาท แนวต้านที่ 36.80 บาท

โดยปัจจัยขับเคลื่อนตลาดมาจากการที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังคงมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยและมองว่าอัตราการว่างยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ในขณะที่รัสเซียประกาศลดการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ทสตรีมเหลือประมาณ 20% ของกำลังการผลิต

ด้านเงินเฟ้อสิงคโปร์เดือนมิถุนายนขยายตัว 6.7% ต่อปี (YoY)

นอกจากนี้ อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ไตรมาสที่สองขยายตัวมากกว่าคาด

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ (26-28 ก.ค.) ได้แก่ รายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่สหรัฐในวันนี้, รายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในวันพุธ, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขจีดีพีสหรัฐในวันพฤหัส จากนั้นติดตามตัวเลขจีดีพีและเงินเฟ้อยุโรป และดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลสหรัฐในวันศุกร์

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


นักวิ่งเทรล 500 ชีวิตพิชิตภูแลนคา ฟื้นเศรษฐกิจชัยภูมิ

นักวิ่งเทรล 500 ชีวิตพิชิตภูแลนคา ฟื้นเศรษฐกิจชัยภูมิ

นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันและปล่อยตัวนักกีฬาจำนวน 500 คนในกิจกรรมแข่งขันวิ่งเทรล รายการ ชัยภูมิเทรลรันนิ่ง 2021 ภายใต้แนวคิด เยือนถิ่นภูแลนคา พิชิตดินแดนแห่งภูผาและลานหิน โดยจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชัยภูมิจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ

โดยมี นายจินดา เทียมชัยภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมในพิธี ณ จุดชมวิวผาหัวนาค เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ ภายใต้มาตรฐานการจัดกิจกรรมกีฬาแบบวิถีใหม่นิวนอมอล ตามที่ ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิกำหนดอย่างเคร่งครัดจากการแบ่งประเภทการแข่งขันตามความยากง่ายทั้งประเภทชาย และหญิง 3 ระยะทาง คือ

a1

ระยะทาง 50 กม. สำหรับนักกีฬาที่ลงแข่งขันวิ่งเทรลเป็นประจำ ระยะทาง 31.6 กม. สำหรับนักกีฬาที่เคยลงแข่งขันวิ่งเทรลมาแล้ว และระยะทาง 13 กม. สำหรับนักกีฬาวิ่งเทรลมือใหม่

ผลการแข่งขันปรากฏว่าระยะทาง 50 กม. ประเภทชาย ผู้ที่สามารถคว้าชัยชนะอันดับที่ 1 ได้แก่ เสกสรร โปภัสสา อันดับที่ 2 ชำนาญ เหมขุนทด อันดับที่ 3 พุฒิพงศ์ บุญนนท์ อันดับที่ 4 ธนพล ม่วงใหม่ และอันดับที่ 5 ภาคิน ชินาจริยวงศ์ ส่วนประเภทหญิง ชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ เพ็ญนภา บัณฑุรัตน์ ตามมาด้วยอันดับที่ 2 โสภา หมั่นเรียน อันดับที่ 3 จันทร์ทิพย์ กีรติกรพิพัฒน์ อันดับที่ 4 สาริศา บุญแจ่ม และอันดับที่ 5 จันจิรา เทศมาสา

ขณะที่ระยะทาง 31.6 กม. ประเภทชาย แชมป์ตกเป็นของ ได้แก่ ปฏิภาณ ยอดขุนทด อันดับที่ 2 ประเสริฐ หิรัญเพชร อันดับที่ 3 อภิรักษ์ พันธุ์ใหม่ อันดับที่ 4 วีระชัย มโนมัย และอันดับที่ 5 สุรสิทธิ์ มัลลิกานิล โดยในประเภทหญิง ผู้คว้าแชมป์ได้แก่ อรัญญา ลิ้มมงคล อันดับที่ 2 มนฤดี วงษ์ชื่น อันดับที่ 3 สิรินธร เดี่ยวไธสง อันดับที่ 4 เบญจวรรณ จันทร์สำราญ และอันดับที่ 5 ชุลีพร บุญคง

 สำหรับระยะทาง 13 กม. ผู้คว้าชัยอันดับ 1 ฝ่ายชายได้แก่ ศักดา สุดตลอด ตามมาด้วยอันดับที่ 2 เสรี พิณเนียม อันดับที่ 3 ธนกฤษ โชควิเศษ อันดับที่ 4 อนุสรณ์ ลิ้มมงคล และอันดับที่ 5 ธนากร แดงบำรุง ขณะที่ในประเภทหญิงผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ กุสุมา โกมล อันดับที่ 2 สุนันทา สมานวัน อันดับที่ 3 อรดี ลิ้มมงคง อันดับที่ 4 จันทิมา ภิรมย์ไกรภักดิ์ และปิดท้ายอันดับที่ 5 ได้แก่ ประนอม วิสิทธิ์

 ทั้งนี้การแข่งขันวิ่งเทรล รายการ ชัยภูมิเทรลรันนิ่ง 2021 ภายใต้แนวคิด เยือนถิ่นภูแลนคา พิชิตดินแดนแห่งภูผาและลานหิน ถือเป็นกิจกรรมการแข่งขันกีฬารายการแรกๆ ที่ได้จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัด นอกจากบบรรดานักกีฬาจะได้สัมผัสกับเส้นทางแข่งขันที่ความสวยงาม สนุกสนาน ท้าทายความสามารถแล้วนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยทุกคนยังจะได้รับ เสื้อFinisher และเหรียญที่ระลึกกลับไปกันอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“นิโคติน” มีประโยชน์ทางการแพทย์หรือไม่?

“นิโคติน” มีประโยชน์ทางการแพทย์หรือไม่?

นิโคติน หนึ่งในสารประกอบที่คนส่วนใหญ่ทราบกันดีว่ามีอยู่ในบุหรี่ จริงๆ แล้วมีประโยชน์ทางการแพทย์เหมือนกับการใช้กัญชาหรือไม่

นิโคติน กับประโยชน์ทางการแพทย์

นิโคติน ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มาอย่างยาวนานทั่วโลก เช่น ใช้รักษาโรคหอบหืดในอินเดีย ใช้บรรเทาอาการปวดท้องของชาวปาปัวนิวกินี ใช้รักษาอาการปวดฟันและเหงือกในอเมริกากลาง และแม้กระทั่งใช้เป็นยาฆ่าแมลงในบราซิล

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ผู้คนทั่วโลกค้นพบผลประโยชน์ต่างๆของนิโคติน เพราะเมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้วในยุโรป นิโคตินถูกยกย่องว่าเป็นวิธีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ทรงพลังและถูกเก็บเป็นความลับมาตลอด จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 ที่ผู้คนเริ่มหันมามองนิโคตินในแง่ลบเพราะความเกี่ยวข้องของนิโคตินกับยาสูบและการสูบบุหรี่ ทำให้ถูกตีตราเป็น “สารอันตราย” ไปในที่สุด

นิโคติน ≠ ยาสูบ

อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องแยก “นิโคติน” และ “ยาสูบ” ให้ชัดเจนกว่านี้ เนื่องจากหลักฐานงานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าสารทั้งสองมีผลกระทบต่อผู้คนที่แตกต่างกัน จึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาใน Global Forum on Nicotine ที่จัดขึ้นในกรุงวอร์ซอ โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ นักวิจัย และผู้กำหนดนโยบายได้รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านสาธารณสุขและแบ่งปันความรู้ใหม่เกี่ยวกับผลกระทบของนิโคตินต่อร่างกายและจิตใจ โดยมี ดร. Paul Newhouse ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ความรู้ความเข้าใจ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ ในสหรัฐอเมริกา ศาสตราจารย์ ดร. Riccardo Polosa ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและรักษาการสูบบุหรี่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคาตาเนียในอิตาลี ดร. Sudhanshu Patwardhan ผู้ร่วมก่อตั้ง Centre for Health Research and Education แห่งสหราชอาณาจักร และ Michelle Minton นักวิชาการอาวุโสของ Competitive Enterprise Institute ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงการพนัน การลดอันตรายจากยาสูบ การทำให้กัญชาถูกกฎหมาย แอลกอฮอล์ และโภชนาการ ร่วมนำเสนอในหัวข้อ “การทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของนิโคติน”

ผู้ร่วมอภิปรายต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในส่วนของศาสตราจารย์ ดร. Polosa และ ดร. Patwardhan ทั้งคู่ทำงานและศึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลดอันตรายจากยาสูบทั่วโลก แต่ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งสองก็ไม่สามารถปฏิเสธผลประโยชน์ทางการแพทย์ของนิโคติน ดร. Paul Newhouse ใช้เวลากว่า 30 ปีในการทำความเข้าใจบทบาทของตัวรับนิโคทินิคในสมองและบทบาทในการทำงานของสมอง รวมถึงศึกษาศักยภาพของการใช้นิโคตินในการรักษาความผิดปกติของสมอง อย่างโรคอัลไซเมอร์และโรคสมาธิสั้น (ADHD)

“เรายังคงต้องศึกษาวิธีการทำงานของระบบนิโคทินิคในสมองมากกว่านี้ ทั้งนี้เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการใช้นิโคตินที่สกัดจากยาสูบเพื่อช่วยรักษาความจำ จากการศึกษา MIND หรือ Memory Improvement with Nicotine Dosing ซึ่งเป็นการศึกษา 42 แห่งในสหรัฐอเมริกาที่รักษาผู้ป่วยที่มีความจำเสื่อมในระยะเริ่มต้น เรียกว่าภาวะ prodromal ของโรคอัลไซเมอร์ เรากำลังศึกษาผลกระทบของนิโคตินในโรคทางอารมณ์ โดยการศึกษานี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) เบื้องต้นเราค้นพบว่าเมื่อเติมนิโคตินลงในยาแก้ซึมเศร้า มันสามารถช่วยปรับปรุงอารมณ์และการทำงานของสมองได้อย่างรวดเร็ว” ดร. Newhouse กล่าว

งานวิจัยเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการใช้นิโคตินสำหรับรักษาโรคต่างๆ มากขึ้น รวมถึงโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสันตามที่กล่าวข้างต้น โรคลำไส้อักเสบ เช่น โรคโครห์นแลโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง อีกทั้งนิโคตินยังถูกนำมาใช้สำหรับการควบคุมน้ำหนักและโรคอ้วน และสภาวะทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและโรคจิตเภท

ผู้อภิปรายทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจว่า “วิทยาศาสตร์และงานวิจัยใหม่ๆ สามารถเปลี่ยนความเข้าใจและการรับรู้ในปัจจุบันได้ เช่นเดียวกับการศึกษานี้ที่จะช่วยให้คนเข้าใจนิโคตินได้มากขึ้น”

องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) เคยระบุว่า นิโคตินที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยาสูบเป็นสารเสพติดและเป็นสาเหตุทำให้ผู้คนไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ อย่างไรก็ตาม นิโคตินไม่ได้ส่งผลเสียที่ร้ายแรงโดยตรงเมื่อเทียบกับสารเคมีหลายร้อยชนิดที่รวมอยู่ในควันบุหรี่ที่เป็นภัยต่อสุขภาพที่แท้จริง ส่วนผสมที่เป็นพิษของสารเคมีเหล่านี้เป็นต้นเหตุของโรคร้ายแรง เช่น โรคปอดและโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย

ในประเทศไทยมีกฎระเบียบ และข้อบังคับการใช้ยาสูบที่เข้มงวดระดับโลก แต่การเปิดรับกัญชาเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง อาการเบื่ออาหาร และภาวะสุขภาพจิตต่างๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการยอมเปิดใจให้กับข้อมูลใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์ช่วยให้เราค้นพบวิธีการรักษารูปแบบใหม่ที่เคยถูกปิดกั้นมาอย่างยาวนานได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เก่งอังกฤษจากสิ่งรอบตัว

 ทุกคนเรียนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ตั้งแต่ประถมรึเปล่า หรือตั้งแต่อนุบาล เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ยังเรียน แต่แปลกไหมที่เรียนภาษาอังกฤษมาทั้งชีวิตกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย แต่ไม่ต้องกดดันตัวเองไปค่ะ วันนี้ทาง Engnow มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ อยากแบ่งปันให้ทุกคนนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดดกันไปเลย นั่นก็คือการเรียนภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวนั่นเองค่ะ

read everything in English around you

  เริ่มต้นที่ read everything in English around you คืออ่านอะไรก็ได้ที่อยู่รอบตัวเราที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ทุกคนลองสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวว่ามีอะไรบ้างที่มีภาษาอังกฤษปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูนหรือนิยายที่เราชอบ เป็นข่าวที่เราเลื่อนเจอใน Facebook เป็นป้ายตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นคำสั้น ๆ ในเกมที่เราเล่น หรือแม้แต่ฉลากบนห่อขนมก็ใช้ได้เหมือนกัน ขอแค่เป็นภาษาอังกฤษก็พอ เมื่อเราสังเกตดูดี ๆ แล้วจะพบว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวพวกเราก็มีภาษาอังกฤษปนอยู่ไม่น้อยเลยนะเนี่ยถ้าเห็นคำไหนไม่คุ้นหรือว่ายากเกินไปก็ไม่ต้องเสียใจหรือคิดว่าเราไม่เก่งนะคะเพราะทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

list the unknown words

ขั้นตอนถัดมาคือ list the unknown words คือให้ลิสต์คำศัพท์ที่เราไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก ไม่รู้ความหมาย หรืออาจจะรู้จักแต่จำความหมายไม่ได้ลงบนสมุดพกเล่มเล็ก ๆ หรือบนโน้ตในมือถือก็ได้ จากนั้นให้เอาคำคำนี้ไปสืบค้นหาความหมายจากเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอังกฤษหรือเว็บไซต์ภาษาไทยแล้วลองทำความเข้าใจกับมันดู แล้วลองหาประโยคที่มีคำพวกนี้มาอ่านอีกรอบเพื่อที่เราจะสามารถเช็คได้ว่าเราเข้าใจความหมายของคำคำนี้ได้ถูกต้องรึเปล่า


อ่านกันไปแล้ว ทีนี้มาลองฟังกันค่ะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบดูหนังฟังเพลงกัน ซึ่งเพลงหรือหนังที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยที่ดีมากในภารพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพราะโดยส่วนมากแล้วทั้งเพลงและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนัง จะมีการออกเสียงอย่างถูกต้องตามหลักและตามบริบทสังคมในยุคนั้น ๆ ทั้งยังนำเสนอให้เห็นว่าภาษาอังกฤษถูกใช้อย่างไรในชีวิตจริง ทำให้คนที่ฟังคุ้นชินกับลักษณะภาษาและการออกเสียง จากนั้นก็สามารถฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากขึ้นในที่สุดนั่นเอง ส่วนใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มที่หนังเรื่องอะไรหรือเพลงแบบไหนให้ลองค้นหาไปเรื่อย ๆจนกว่าจะเจอเพลงแบบที่ใช่และหนังแบบที่ชอบ พอเจอแล้วก็ลุยเลยค่า 

แรก ๆ อาจจะยังฟังแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ก็อย่าเพิ่งท้อไปค่ะ แนะนำว่าให้เปิด lyrics ของเพลงหรือ subtitles ของหนังควบคู่ไปด้วยจะได้รู้ว่าคำคำนี้หน้าตาแบบนี้นะ ออกเสียงแบบนี้นะ ถ้าเจอคำไม่รู้จักก็เหมือนเดิมเลยค่า จดลงบนสมุดพกหรือโน้ตแล้วค่อยเอาคำคำนั้นไปหาความหมาย แล้วลองแทนในประโยคอีกทีว่าถ้าใช้แบบนี้ความหมายของคำคำนั้นมัน make sense รึเปล่า ทำแบบนี้แล้วได้เพิ่มคำในคลังอีกเป็นกองเลยค่ะ

            มากไปกว่าเรื่องของคำศัพท์ ทั้งการอ่านและการฟังสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราจะทำให้เราเห็นว่าหลักไวยากรณ์ต่าง ๆ ที่เราได้เรียนมานั้น native speakers หรือเจ้าของภาษานำมันไปใช้ในสถานการณ์แบบไหนและอย่างไร ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพสถานการณ์และเข้าใจหลักการใช้ไวยากรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

เช่น ในทีแรกเราอาจจะไม่เข้าใจว่า Present perfect continuous tense ใช้อย่างไร พอเราไปเจอในหนังที่มีตัวละครตัวหนึ่งนอนหลับตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็นแล้วมีตัวละครอีกตัวพูดถึงตัวละครตัวนั้นว่า She has been sleeping since noon. (เธอนอนมาตั้งแต่บ่าย) เราก็จะเข้าใจได้ว่า อ๋อ Present perfect continuous tense ใช้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วดำเนินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ตอนที่พูดก็กำลังเกิดขึ้นอยู่)

แม้เทคนิคนี้จะช่วยให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่แน่นอนว่ามันไม่สามาถทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นได้ในวันเดียว แต่ต้องอาศัยเวลาค่อย ๆ ฝึกฝนและขัดเกลาไปเรื่อย ๆ ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล และถึงแม้เราจะเก่งแล้วก็ขอให้เรียนรู้ต่อไปเพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


จีนส่งส่วนที่ 2 ของสถานีอวกาศเทียนกง สู่วงโคจรรอบโลก

จีนส่งส่วนที่ 2 ของสถานีอวกาศเทียนกง สู่วงโคจรรอบโลก

จีนส่งส่วนที่สองของสถานีอวกาศขึ้นไปยังวงโคจรรอบโลก เพื่อนำไปประกอบกับส่วนแรกที่ส่งขึ้นไปเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะส่งส่วนสุดท้ายขึ้นไปในเดือนตุลาคมนี้เพื่อนำไปติดตั้งเป็นสถานีอวกาศอย่างสมบูรณ์ภายในปีนี้

สื่อโทรทัศน์ของทางการจีน CCTV ถ่ายทอดสดการปล่อยจรวด ลอง มาร์ช 5ฺB บรรทุกชิ้นส่วนที่สองของสถานีอวกาศ น้ำหนัก 23 ตัน ชื่อว่า เหวินเทียน (“การเดินทางสู่สวรรค์”) ออกจากศูนย์อวกาศเหวินจาง บนเกาะไหหนาน เมื่อเวลา 14.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ชิ้นส่วนโมดูล เหวินเทียน ถูกปล่อยจากจรวด ลอง มาร์ช หลังจากออกเดินทางได้ราว 10 นาที ซึ่ง CCTV รายงานว่าเป็น “ความสำเร็จอย่างสมบูรณ์” ท่ามกลางเสียงโหร้องยินดีของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ดังกล่าว

จีนเริ่มส่งชิ้นส่วนโมดูลแรกซึ่งมีชื่อว่า “เทียนเหอ” ซึ่งเป็นส่วนที่ให้นักบินพักอาศัย ขึ้นไปยังวงโคจรรอบโลกเมื่อเดือนเมษายน ปีค.ศ. 2021 ถือเป็นความสำเร็จแรกของโครงการสร้างสถานีอวกาศของจีนขึ้นมาเอง

สำหรับโมดูล “เหวินเทียน” ที่เพิ่งส่งขึ้นไปในวันอาทิตย์ เป็นส่วนที่จะใช้เป็นห้องทดลองสำหรับนักบินอวกาศ เช่นเดียวกับโมดูลที่สาม หรือ “เหมิงเทียน” ที่จะเป็นห้องแล็บเช่นกัน โดยคาดว่าจะส่งขึ้นไปในช่วงเดือนตุลาคมเพื่อนำไปประกอบกับสองส่วนแรก เป็นสถานีอวกาศที่มีลักษณะคล้ายตัวอักษร T

ทั้งนี้ สถานีอวกาศของจีนซึ่งมีชื่อเรียกว่า “เทียนกง” หรือ วังสวรรค์ จะมีขนาดราว 1 ใน 5 ของสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station – ISS) และมีนักบินอวกาศหมุนเวียนประจำการคราวละ 3 คน

รัฐบาลกรุงปักกิ่งตั้งเป้าว่าสถานีอวกาศแห่งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจีน และยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปีที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นปกครองประเทศอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประโยชน์ของ “ต้นอ่อนบรอกโคลี” ทำไมเป็นผักยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น

ประโยชน์ของ “ต้นอ่อนบรอกโคลี” ทำไมเป็นผักยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น

มิใช่เพียงเพื่อใช้โรยอาหารให้ดูสวยงามน่ารับประทาน แต่ต้นอ่อนบรอกโคลีเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากคนรักสุขภาพทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก มารู้ประโยชน์ของต้นอ่อนบรอกโคลีที่จะทำให้รีบไปหามารับประทานเมื่ออ่านจบบทความนี้ และวิธีการรับประทานเพื่อรับประโยชน์จากสารอาหารในต้นอ่อนบรอกโคลีได้อย่างเต็มที่กัน

ประโยชน์ของต้นอ่อนบรอกโคลี

แม้จะมีต้นอ่อนผักมากมาย เช่น ต้นอ่อนหัวไชเท้า ต้นอ่อนกะหล่ำปลีแดง หรือต้นอ่อนชิโสะ แต่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีเป็นอย่างมากเนื่องจากอุดมไปด้วยสารสำคัญที่ดีต่อสุขภาพ คือ ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมีหรือไฟโตเคมิคอล (Phytochemical) สารชนิดนี้พบได้ในผักหลายชนิดแต่จะมีปริมาณมากในต้นอ่อนของบรอกโคลี ซึ่งมีปริมาณที่สูงกว่าบรอกโคลีถึง 20 เท่า หรือพูดง่ายๆ คือ ต้นอ่อนบรอกโคลีเพียง 50 กรัมจะมีปริมาณสารซัลโฟราเฟนที่เทียบเท่ากับบรอกโคลีต้มสุก 1 กิโลกรัม

สารซัลโฟราเฟนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น  อีกทั้งสารชนิดนี้จะไปยับยั้งผลเสียของสาร AGE (advanced glycation end product) ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการที่รับประทานโปรตีนและน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้โปรตีนและน้ำตาลรวมตัวกันเป็นสาร AGE เมื่อสารชนิดนี้ไปจับกับเซลล์ส่วนใดในร่างกายก็จะทำให้เซลล์นั้นๆ เสื่อมสภาพ เช่น หากสารชนิดนี้ไปจับสะสมที่หลอดเลือดก็อาจก่อให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย หากไปสะสมที่กระดูกก็ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน และหากไปสะสมที่ตาก็จะทำให้เกิดโรคต้อกระจก เป็นต้น ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ สาร AGE  ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังหย่อนยานและแก่เร็วด้วย นอกจากนี้มีงานวิจัยในหนูพบว่าสารซัลโฟราเฟนจะช่วยป้องกันโรคอ้วนจากการที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี  ส่งผลในการช่วยลดการสะสมไขมันที่ช่องท้องและที่ตับ

ประโยชน์ของต้นอ่อนบรอกโคลี

วิธีการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีเพื่อให้ร่างกายรับสารซัลโฟราเฟนได้สูงสุด

สารที่มีอยู่ในต้นอ่อนบรอกโคลีนั้นเป็นสารตั้งต้นของสารซัลโฟราเฟน เมื่อรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีและเคี้ยวอย่างละเอียด เอนไซม์ไมโรสิเนส (Myrosinase) ที่อยู่ในเซลล์ของต้นอ่อนบรอกโคลีจะเปลี่ยนสารตั้งต้นของสารซัลโฟราเฟนไปเป็นสารซัลโฟราเฟนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นวิธีการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีเพื่อให้ร่างกายได้รับสารซัลโฟราเฟนให้เต็มที่คือ การเคี้ยวอย่างละเอียด หรือการรับประทานเป็นสมูทตี้ที่ปั่นจนเซลล์ต้นอ่อนบรอกโคลีแตกออกมาเพื่อให้เอนไซม์สามารถเปลี่ยนสารตั้งต้นของสารซัลโฟราเฟนเป็นสารซัลโฟราเฟนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีร่วมกับแอปเปิลหรือหอมใหญ่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย

โดยทั่วไปการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีสัปดาห์ละ 1 แพ็กก็เพียงพอที่จะสร้างสุขภาพที่ดีได้ แต่สามารถรับประทานมากกว่า  1 แพ็กต่อสัปดาห์โดยไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้สารซัลโฟราเฟนจะสลายไปเมื่อเก็บต้นอ่อนบรอกโคลีไว้นาน ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อมาเก็บไว้นานเกิน 1 สัปดาห์ และควรเก็บไว้ในตู้เย็น

ต้นอ่อนบรอกโคลีมีรสชาติที่เผ็ดน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับต้นอ่อนหัวไชเท้า โดยสามารถนำมารับประทานเพื่อเสริมความอร่อยให้แก่เมนูต่างๆ เช่น สลัดผัก สลัดผลไม้ แซนด์วิช พาสต้า แฮมเบอร์เกอร์ รวมถึงเมนูทอดกระเทียม ลาบและส้มตำไทย บ้านเราอาจจะยังหาซื้อได้ยากแต่ก็สามารถซื้อเมล็ดมาเพาะเองได้ง่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 26/07/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,850.0029,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,934.0029,319.4430,450.00
ทองรูปพรรณ 90%1,740.6026,387.50n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,547.2023,455.55n/a
ทองรูปพรรณ 50%870.0013,189.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%677.0010,263.32n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,004.0030,380.64n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/07/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.0537.0537.0537.0537.0537.0537.0537.0537.0537.05
แก๊สโซฮอล์ 9136.7836.7836.7836.7836.7836.7836.7836.7836.7836.78
แก๊สโซฮอล์ E2035.9435.9435.9435.9435.9435.9435.9435.9435.94
แก๊สโซฮอล์ E8532.5432.5432.54
เบนซิน 9544.4644.9144.9644.9644.46
ดีเซล B734.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม46.3647.8648.7648.7647.7646.36
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า