“พลังงาน-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ” สินค้ามาแรงปี 2566
“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ “พลังงาน-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ” เป็นสินค้าที่มาแรงในปี 2566 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์ที่ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
26 ธ.ค.2566 – แนวโน้มการพัฒนาสินค้าและบริการในปี 2566 ว่า หลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส สายพันธ์ใหม 2019 (COVID-19) และสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นผลจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ในปี 2565 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะผู้ซื้อที่อยู่อาศัยนั้น
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด(LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในปีหน้า ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจะให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึง การประหยัดพลังงาน คุณภาพของสิ่งแวดล้อม และสร้างเสริมสุขอนามัยที่ดี ซึ่งกลายเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นมาตรฐานใหม่(New Standard) ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“ในอดีตเมื่อพูดถึง ที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างเสริมสุขอนามัยที่ดี เป็นเรื่องที่ดูเหมือนไกลตัว ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้ให้ความสำคัญหรือให้ความสำคัญน้อยเพราะคิดวาต้องจ่ายแพงขึ้น ยังไม่จำเป็น แต่หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ปี 2563 ผู้ซื้อเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัย กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย รวมไปถึงงานบริการ และในปี 2565 เมื่อเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อบ้านเริ่มให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานทางเลือกมากขึ้น เป็นโจทย์สำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ต้องพัฒนาที่อยู่อาศัยและงานบริการที่ประหยัดพลังงาน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัยที่ดี ที่เป็นสิ่งที่ต้องทำและเราจะเห็นมากขึ้นในปี 2566” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
จากแนวโน้มดังกล่าว นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ทำให้ในปี 2566 ผู้ประกอบการอสังหาฯ จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและงานบริการหลังการขายที่ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลักนี้ กล่าวคือ
- ด้านพลังงาน:
ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งการพประหยัดพลังงานผ่านการออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางการวางผังอาคารที่เรียกว่า Passive Design และการประหยัดพลังงานในรูปแบบของการใช้อุปกรณ์ หรือ Active Design เช่น การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าภายในบ้าน รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน รวมไปถึงการติดตั้งระบบระบายความร้อนบนหลังคาร่วมกับการติดฉนวนกันความร้อน การติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้ง Energy Monitoring สำหรับเช็คการใช้พลังงานภายในบ้าน เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของที่อยู่อาศัยในปี 2566 และในอนาคต
- ด้านสิ่งแวดล้อม:
จากงานวิจัยของ Baramizi Lab พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยชอบที่จะอยู่กับธรรมชาติถึง 85.2% จากงานวิจัยดังกล่าว ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่สีเขียวจะสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้การพัฒนาโครงการโดยคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) หรือเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ในการสร้างพื้นที่ส่วนกลางเช่น ถนน ทางเท้าในโครงการ รวมไปถึงการพัฒนางานบริการในการการแยกขยะ และการจัดเก็บ เพื่อให้เป็นชุมชนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2566
- ด้านสุขภาพ:
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปี 2563 ถึงปัจจุบัน การพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งอาคารชุดและบ้านพักอาศัย ผู้ประกอบการอสังหาฯ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโดยคำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีในการอยู่อาศัย ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานสำหรับที่อยู่อาศัยในทุกระดับ
นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีแล้ว สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัยเช่นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของสุขอนามัยที่ดีเช่นกัน เช่น งานบริการตกแต่งบ้านแบบ Fit-in จาก 10DK ที่มีแนวคิดการให้บริการด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ลดการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้สารเคลือบ และสีแบบสารระเหยต่ำ (Low VOCs) ซึ่งปลอดภัยต่อผู้พักอาศัย นอกจากนี้ยังมีการเลือกวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก ใช้ผลิตภัณฑ์จากชุมชน และไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมถึงการสร้างรายได้ให้ชุมชนโดยการให้กลุ่มโดยใช้ช่างฝีมือชุมชน โดยบริการดังกล่าวจะมีค่าบริการเริ่มต้นที่ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งอนาคตหากเกิดการแข่งขันทางธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากขึ้นจะส่งผลให้ราคาการให้บริการในตลาดต่ำลงจนทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการที่เกี่ยวกับบ้านที่ดีต่อสุขภาพคนอยู่ได้มากขึ้น
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องของ “การประหยัดพลังงาน สิ่งแวดล้อม และสุขอนามัย” ไม่ได้เป็นแนวโน้มเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปี2566 เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทุกระดับ ทั้งการพัฒนาโรงแรม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ โกดังสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม ก็มีการนำมาตรฐานการก่อสร้างและการบริหารจัดการโดยคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลักข้างต้น โดยการนำเกณฑ์ต่างๆ มาเป็นดัชนีชี้วัดในการก่อสร้างและการปรับปรุงอาคาร เช่น มาตรฐานอาคารของ Leadership in Energy and Environment Design หรือ LEED , WELL Building Standard คือมาตรฐานทางสุขภาวะระดับสากลที่ประเมินอาคารภายใต้แนวคิดสำคัญ 7 ข้อ ได้แก่ อากาศ น้ำ สาธารณูปโภค แสง การออกกำลังกาย สภาพแวดล้อม และจิตใจ, EDGE คือระบบอาคารพักอาศัยและอาคารพาณิชย์สีเขียว ที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) เพื่อส่งเสริมโครงการอาคารเขียวในประเทศที่กำลังพัฒนาโดยใช้ระบบการให้คะแนนที่เรียบง่าย เป็นต้น
จากผลสำรวจของ Statista บริษัทวิจัยจากประเทศเยอรมัน ได้มีการทำสำรวจในปี 2560 พบว่า นักท่องเที่ยวกว่า 19% ยอมเสียค่าบริการเพิ่มมากขึ้นสำหรับการเข้าพักโรงแรมที่ได้รับรอง Green Hotel ในช่วงวันหยุดพักผ่อน ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีโครงการของภาครัฐที่ได้มีการทำโครงการโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มีการเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน และมีการเข้าร่วมของภาคธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่องทุกปีโดยโครงการโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะมีแนวคิด และเป้าหมาย คือ
- ส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
- มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี
- ยกระดับมาตรฐานการบริการ
- ขยายเครือข่ายโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับมาตรการการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานภาครัฐ และการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- เตรียมความพร้อมสู่การประเมินมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในระดับสากล อันจะทำให้เกิดการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป
“จากแนวโน้มและทิศทางดังกล่าว เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย อาคารในเชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรม ที่จะพัฒนาโดยคำนึงถึง 3 ประเด็นหลักคือ เรื่องของ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และ สุขอนามัยที่ดี ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่จะเกิดแต่กำลังเป็นมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทุกระดับ ในปี 2566 โดยมีเป้าหมายที่จะนำไปสู่การพัฒนาไปสู่การเป็นเมืองแห่งความยั่งยืน (Sustainable city) ในปี 2573 ตามที่ประเทศไทยและประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติรวม 193 ประเทศ ได้ร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 เพื่อสร้างโลกที่ดี และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
SINGER เดินหน้า”ซื้อหุ้นคืน”เผยวันแรกซื้อ 1.7 ล้านหุ้น ย้ำธุรกิจแกร่ง
SINGER เดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืน” เผยวันแรก 23 ธ.ค.65 ซื้อหุ้นคืนแล้ว 1.7 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 27.50 – 27.75 บาท มูลค่ารวม 47.125 ล้านบาท
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เริ่มเดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันแรก วันที่ 23 ธันวาคม 2565 SINGER ซื้อหุ้นคืนแล้ว 1,700,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 27.50 – 27.75 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 47,125,000 บาท พร้อม ย้ำธุรกิจแข็งแกร่ง
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2566 “SINGER” พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโต รับภาพรวมเศรษฐกิจฟื้น ความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ทยอยฟื้นตัว ชู ความแข็งแกร่งในด้านตัวแทนขาย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นโมเดลธุรกิจที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุม ไม่เพียงแต่หัวเมืองใหญ่ แต่ลงลึกไปถึงระดับตำบล หมู่บ้าน ซึ่งยังไม่นับรวมแผนการ Synergy กับพาร์ทเนอร์ และกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เช่น JGS, JAYDEE, Go Power และ BRR ตลอดจน การนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตสู่เป้าหมาย ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าให้บริษัท”
สำหรับโครงการซื้อหุ้นคืนของ SINGER ในครั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 640 ล้านบาท เป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 18 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 2.19% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เริ่มวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตรากำไรสุทธิ (EPS) และเพิ่มมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังมีสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีนและค่าเงินหยวนกดดันฝั่งอ่อนค่าแต่อาจจะไม่ทะลุโซนแนวต้านแถว 35.00 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 34.50-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ต่อไป จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ
อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันเงินบาทในฝั่งอ่อนค่าที่ต้องจับตาใกล้ชิด คือ สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีนที่ยังคงน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
หากสถานการณ์การระบาดเลวร้ายมากขึ้น อาทิ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นมาก ก็อาจทำให้ทางการจีนกลับมาใช้นโยบายควบคุมการระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งสามารถกดดันให้สินทรัพย์ในฝั่งจีนปรับตัวลดลงอีกครั้ง
ส่วนค่าเงินหยวน (CNY) ก็มีโอกาสอ่อนค่าลงได้ ส่งผลกระทบให้สกุลเงินฝั่งเอเชียอาจอ่อนค่าลงตาม ส่วนในวันนี้ หากรายงานยอดการส่งออก (Exports) ของไทยล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก จนดุลการค้าขาดดุลหนัก ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี เราคงประเมินว่า แม้เงินบาทจะมีความเสี่ยงในฝั่งอ่อนค่าอยู่บ้าง แต่มองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านแถว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ง่ายนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาด อย่างบรรดาผู้ส่งออก
ต่างก็รอจังหวะการอ่อนค่าของเงินบาทในการทยอยขายเงินดอลลาร์ ส่วนผู้เล่นต่างชาติที่ยังคงมีมุมมองเชื่อว่า เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นต่อได้ ก็รอจังหวะในการเพิ่มสถานะ Short USDTHB อยู่บ้าง
ทั้งนี้ เรามองว่า ควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงปลายปี ซึ่งธุรกรรมในตลาดอาจเบาบางลงมาก ทำให้ค่าเงินสามารถเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบที่กว้างได้
การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น
ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์
ตลาดการเงินในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปปิดทำการเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ปริมาณธุรกรรมในตลาดเบาบางลง ซึ่งในฝั่งตลาดค่าเงิน
เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามธุรกรรมของผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่รอจังหวะให้เงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง ในการทยอยขายเงินดอลลาร์
หรือ เพิ่มสถานะ Short USDTHB นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำของผู้เล่นบางส่วนที่ต้องการลดสถานะถือครองทองคำในช่วงปลายปี ก็อาจพอช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้เช่นกัน
สำหรับวันนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในฝั่งตลาดการเงินไทย คือ รายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ โดย ตลาดคาดว่า ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ทำให้ยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนพฤศจิกายน อาจหดตัวต่อเนื่อง -5%y/y ในขณะที่ยอดการนำเข้า (Imports) อาจยังขยายตัวราว +0.6%y/y ทำให้ดุลการค้า (Trade Balance) อาจขาดดุลราว -100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ซาลาห์” ยิง-จ่าย! ลิเวอร์พูล บุกอัด แอสตัน วิลลา 3-1 ขยับขึ้นที่ 6
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 แอสตัน วิลลา ทีมอันดับ 12 เปิดสนามวิลลา พาร์ก รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล อันดับ 8 ของตาราง
วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-4-2 เลออน ไบลีย์ จับคู่ โอลลี่ วัตกินส์ ล่าตาข่าย จอห์น แม็คกินน์ กับ เอมิเลียโน บูเอนเดีย คอยสนับสนุน ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-3-3 ฟาบินโญ่ ตัดเกมแดนกลาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูเญซ นำทัพแนวรุก
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพหงส์แดงเป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะไป 3-1 ได้ประตูจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 5, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ นาที 37 และตัวสำรองดาวรุ่ง สเตฟาน บายเซติช นาที 81 ส่วนขุนพลสิงห์ผงาดได้คืนจาก โอลลี่ วัตกินส์ นาที 59
จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 25 คะแนน จาก 15 นัด ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 6 ด้าน แอสตัน วิลลา มี 18 คะแนนเท่าเดิม จาก 16 นัด
- ติดตามผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/
- ดูตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ล่าสุด ได้ที่นี่ https://sport.sanook.com/football/table/premierleague/
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำไม? คนไทยถึงเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากขึ้น?
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
หากพูดถึงโรคมะเร็ง คนไทยหลายคนมากนึกออกแค่มะเร็งไม่กี่ที มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร แต่ที่หลายอาจนึกไม่ถึง แถมยังพบผู้ป่วยในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี คือ “มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” เอาจริงๆ หลายคนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าต่อมน้ำเหลืองคืออะไร อยู่ตรงไหน
ต่อมน้ำเหลือง คืออะไร อยู่ตรงไหน?
ต่อมน้ำเหลือง เป็นอวัยวะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำเหลือง ที่ยังประกอบไปด้วยท่อน้ำเหลือง หลอดน้ำเหลือง หรือเส้นน้ำเหลืองด้วย ทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย และยังมีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน หรือภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกายด้วย
ต่อมน้ำเหลือง จะมีลักษณะกลมๆ หรือรีๆ เหมือนไข่ เป็นเม็ดเล็กๆ หลายเม็ด กระจายตัวอยู่ใต้ผิวหนัง และเชื่อมต่อกับหลอดน้ำเหลือง บริเวณที่พบต่อมน้ำเหลืองมีตั้งแต่ลำคอ รักแร้ ขาหนีบ ต่อมทอนซิล ม้าม และต่อมไทมัส (หรือต่อมไร้ท่อที่อยู่ในช่องอกด้านหน้าต่อตอนบนของหัวใจ)
เป็นเพราะต่อมน้ำเหลืองไม่ใช่อวัยวะที่มองเห็นได้ง่าย และสามารถกดคลำเจอได้เหมือนอวัยวะอื่นๆ จึงทำให้เราอาจละเลยส่วนนี้ไป
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คนไทยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสูงขึ้นทุกปี หรือพบผู้ป่วยใหม่ๆ เพิ่มขึ้นราว 3,000 คนต่อปี เพราะปัจจัยที่ทำให้คนไทยเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสูงนั้น มาจากสารเคมี และมลภาวะที่ปะปนอยู่ในอาหาร อากาศ สิ่งแวดล้อม เช่น ยาฆ่าแมลง นั่นเอง
อาการของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
– พบบางส่วนของร่างกายมีขนาดโตขึ้น แต่ไม่เจ็บ เช่น คอ รักแร้ ต่อมทอนซิล ขาหนีบ
– หากลุกลาม อาจมีอาการอ่อนเพลีย ซีด
– หากต่อมน้ำเหลืองบริเวณไหนที่ผิดปกติ อวัยวะข้างๆ จะเกิดอาการผิดปกติไปด้วย เช่น หากต่อมน้ำเหลืองที่สมองเป็นมะเร็ง อาจมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน หรือหากเกิดที่กระเพาะอาหาร อาจปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะเป็นอวัยวะที่กระจายไปทั่วร่างกาย และอาการที่แสดงออกมาดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากเกิดขึ้นบ่อยๆ จนผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยเร็ว
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อันตรายหรือไม่?
ความอันตรายของมะเร็ง หลายคนคงทรายกันดีกว่ายิ่งพบเร็ว ก็จะยิ่งรักษาให้หายขาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรณีของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็เช่นกัน หากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตั้งแต่เป็นมะเร็งระยะที่ 1 มีโอกาสหายขาดได้ถึง 80% เลยทีเดียว
หากพบอาการผิดปกติในร่างกาย อย่านิ่งนอนใจ โดยเฉพาะหากมีอาการเหล่านั้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ในระยะเวลา 3-4 เดือน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คให้ละเอียด หรือเข้าเช็คสุขภาพประจำปีเป็นประจำจะดีที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
20 คำพูดวลีภาษาอังกฤษ-ไทย เพื่อสร้างกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤต และความท้อแท้สิ้นหวัง มีคำว่าอะไรบ้าง
ในช่วงที่บ้านเมืองเกิดวิกฤตไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือโรคระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งปัญหาต่างๆที่ประดา ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน จนกระทบมาถึงตัวเราแบบตั้งรับกันไม่ทัน หลายๆคนอาจจะรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง จนต้องหยุดชะงัก พักยกไม่อยากเดินหน้าต่อเลย หากเพื่อนๆคุณผ้อ่านบนโลกออนไลน์ และเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภาคนใหน ที่ช่วงนี้รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ หรือเบื่อหน่ายกับชีวิต ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า “ขอให้มีพลังใจในการสู้ต่อไป เดี่ยวทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไป” วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอคำคมภาษาอังกฤษ แปลเป็นภาษาไทย เพื่อให้กำลังใจตัวเองในการเดินหน้าสู้ชีวิตต่อไป มาให้ได้อ่านกันค่ะ
1.keep fighting
(คีป ไฟลท์ติ้ง)
หมายถึง สู้ๆ สู้ต่อไปนะ
2.smile on chin up
(สไมล์ ออน ชิน อัพ)
หมายถึง ยิ้ม เริ่ด เชิ่ดเข้าไว้ ผ่านไปได้อย่างแน่นอนจ้า
3.Look on the bright side.
(ลุ๊ก ออน ดิ ไบรท์ ไซด์)
หมายถึง มองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ
4.Don’t worry, be happy
(ด๊อน วอรี่ บี แฮปปี้)
หมายถึง อย่ากังวัลไปเลย จงมีความสุขเข้าไว้
5.keep going
(คีป โกอิ้ง)
หมายถึง จงก้าวต่อไปนะ สู้ๆ
6.don’t give up
(ด้อน กีฟ อัพ)
หมายถึง อย่ายอมแพ้
7.don’t get discouraged
(ด๊อน เกท ดิสคอเรก)
หมายถึง อย่างเพิ่งหมดกำลังใจ
8.Don’t worry about it.
(ด๊อน วอรี่ อะบ้าว อิท)
หมายถึง อย่ากังวลใจไปเลย
9.Don’t feel so bad.
(ด๊อน ฟีล โซ แบด)
หมายถึง อย่ารู้สึกแย่ไปเลย
10.Snap yourself out of it.
(สแนบ ยัวเซล เอ้าท์ ออฟ อิท)
หมายถึง ลืมมันไป ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
11.It can’t be that bad.
(อิท คั่น บี แดท แบด)
หมายถึง มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ
12.To Be strong
(ทู บี สตร้อง)
หมายถึง เข้มแข็งไว้ สู้ๆ
13.Don’t discourage.
(ด๊อน ดิชคอเรก)
หมายถึง อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย
14.Don’t think too much.
(ด๊อน ติ้ง ทูมัช)
หมายถึง อย่าคิดมากเลยน่า
15.Hang in there
(แฮง อิน เฮีย)
หมายถึง สู้ๆ อย่าหยุด
16.Nothing lasts forever.
(น็อทติ้ง ลาสฟอเอฟเวอร์)
หมายถึง ไม่มีอะไรยั่งยงถาวรหรอกนะ เดี่ยวมันก็ผ่านไป
17.Come on, just look on the bright side, you could have
(คัมมอน จัส ลุ๊ก ออน ดิ ไบร์ท ไซด์ ยู คูท แฮฟ)
หมายถึง ไม่เอานะอย่าท้อแท้ มองไปยังด้านดีๆในตัวของคุณก็มีอยู่แล้ว
18.You can do it.
(ยู แคน ดู อิท)
หมายถึง คุณทำได้แน่
19.You’ll get through this
(ยู วิว เกท ทรู อิท)
หมายถึง เดี๋ยวคุณก็ผ่านมันไปได้นะ สู้ๆ
20 Keep going, I’ll support you.
(คีฟ โกอิ้ง ไอ วิว ซัพพอร์ต ยู)
หมายถึง ทำต่อไป สู้ต่อไปนะ ฉันจะสนับสนุนคุณเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก khunnaiver.blogspot.com
นักวิชาการระบุ เฟซบุ๊ก ปรับอัลกอริทึม โลกถูกดิสรัปเทคโนโลยีอีกรอบ
นักวิชการระบุ “เฟซบุ๊ก” ปรับอัลกอริทึมใหม่โลกกำลังถูกดิสรัปเทคโนโลยีอยู่ระหว่างช่วงถดถอยอีกรอบ เพื่อปรับสู่ยุคอินเตอร์เน็ต 4.0
จากกรณีที่เฟซบุ๊ก ปรับอัลกอริทึม หรือ ปรับการมองเห็นใหม่จากเดิมที่จะเน้นการมองเห็นโพสต์จากบัญชีที่มีการติดเป็นหลัก โดยหน้าฟีดหลักจะเปลียนไปใช้การแสดงผลโพสต์ที่ได้รับการแนะนำมากขึ้น โดยไม่ต้องสนใจว่าจะมาจากส่วนใดนั้น ต่อเรื่องดังกล่าว ดร.สิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระด้านสื่อดิจิทัลและสื่อใหม่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษกิจ” ว่า ถือว่าเป็นช่วงรอยต่อและแรงกระเพื่อมโลกโซเชียลอีกครั้ง เป็นการ ดิสรัปชั่นของโซเชียลมีเดียที่มีอายุการใช้งานมากกว่าหนึ่งทศวรรษ เป็นวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงของมีเดียต่าง ๆ ที่กำลังก้าวสู่อินเตอร์เน็ต 4.0 เทคโนโลยีสามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์ได้หลาย ๆ ชนิด ดังนั้นการปรับอัลกอริทึมครั้งนี้เป็นการดิสรัปชั่นบนโลกเทคโนโลยีทั้งระนาบ ส่งผลให้โซเชียลมีเดียเกิดการชะงักงันถดถอย ดังจะเห็นได้จากบริษัทรุ่งเรื่องในอดีตประสบปัญหาเศรษฐกิจมีการปรับลดพนักงาน เช่น แอมะซอน , กูเกิล และ เฟซบุ๊ก ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งหมด
กรณีของเฟซบุ๊ก ประกาศปรับโครงสร้างเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta พร้อมประกาศทิศทางของบริษัท ว่าต่อไปนี้จะมุ่งพัฒนา Metaverse เข้าสู่ในยุคที่เห็นเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี จากโลกในชีวิตจริงสู่โซเชียลมีเดีย เพื่อก้าวสู่ Metaverse หรือ “โลกเสมือนจริง” มีการวิเคราะห์กัน ว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจเหมือนทางสองแพร่ง เพราะ เฟซบุ๊ก ต้องตัดสินใจจะไปทาง Metaverse หรือ เลือกทางโซเชียลมีเดีย
“การปรับอัลกอริทึม เป็นการก้าวกระโดดส่งผลให้เทคโนโลยีไม่เสถียรสำหรับการแสดงผลของการลงโฆษณา ทางคอนเท้นต์ และการเข้าถึงเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด”
นอกจากนี้ ดร.สิขเรศ ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ถือว่าเป็นช่วงสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง พร้อมยกตัวอย่างในอดีตจากทีวีระบบอนาล็อกเปลี่ยนเป็นทีวีดิจิทัล เหมือนจากสื่อสิ่งพิมพ์มาสู่ออนไลน์ เป็นช่วงที่เคยผันผวนมาแล้วครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับในครั้งนี้จากโซเชียลมีเดีย กำลังก้าวเข้าสู่ยุค AI ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจต้องชั่งน้ำหนักการลงทุนเพราะเป็นช่วงนวัตกรรมที่เกิดการเปลี่ยนผ่านและผันผวนอีกครั้งหนึ่ง
สอดคล้องกับความคิดเห็นของ นายสืบศักดิ์ สืบภักดี อาจารย์และนักวิชาการด้านโทรคมนาคม แสดงความเห็นเพิ่มเติม ว่า เฟซบุ๊ก ได้ปรับอัลกอริทึมอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าข้อมูลมาจากความต้องการและการสำรวจของตลาด แต่ปรากฏว่าเมื่อปรับอัลกอริทึมแต่ละครั้งผู้ขายทั่วไปกลับได้รับผลกระทบรวมถึงคนที่เป็นเจ้าของเพจ หรือ ผู้ใช้งานที่โดนลดการมองเห็น ดังนั้นโดยส่วนตัวเห็นว่าในเมื่อ เฟซบุ๊ก เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ ที่มีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก และ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น meta หมายความว่ากำลังปรับตัวเพื่อรองรับพฤติกรรม และ รูปแบบการใช้บริการแบบใหม่ อาทิ Metaverse ที่หมายมั่นปั้นมือจะเป็นสื่อใหม่ ดังนั้นการปรับตัวเชื่อว่ายังมีอีกหลายระลอก.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับชมรมคนรักกระเบื้องหินอ่อน
ดูก็รู้ว่าพื้นหินอ่อนช่วยเสริมความงามอย่างเป็นธรรมชาติให้กับห้องน้ำ ประเด็นนี้คือจริงแท้แน่นอน! แต่ปัญหามันอยู่ที่จะบำรุงรักษาอย่างไรให้ดูโฉมใหม่เงาวับดังเดิม วันนี้เรามีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแบ่งปันให้กับชมรมคนรักกระเบื้องหินอ่อนกัน
รู้เท่าทันก่อนเลือกซื้อ
หินอ่อนมีเนื้อหินที่เป็นรูพรุน ถ้าไม่เคลือบก็จะทำให้ของเหลวซึมผ่านได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมเลือกซื้อหินอ่อนแบบเคลือบกันล่ะ แต่ปกติหินอ่อนก็เคลือบอยู่แล้วนั่นแหละ แต่จะให้ดีคุณควรสอบถามกับพนักงานขายอีกสักรอบก่อนตัดสินใจซื้อ อ้อ! แล้วก็อย่าลืมเคลือบพื้นหินอ่อนซ้ำทุก ๆ 1 หรือ 2 ปี ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่คุณก็ทำเองได้ เพียงแค่ใช้ pH เคลือบหินอ่อนที่มีขายทั่วไปตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์หรือกระเบื้อง หรือให้ช่างมาช่วยดูแลก็ได้ ไม่ว่ากัน
ติดตั้งแล้วทำอย่างไรต่อ ?
การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอทำให้หินอ่อนของคุณคงสภาพ โดยเฉพาะการเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำก็จะยิ่งยืดอายุการใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น หรือถ้าอยากจะทำความสะอาดก็ลองมองหาน้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง แล้วพ่นลงบนกระเบื้องจากนั้นก็ขัดเบา ๆ ด้วยฟองน้ำอาทิตย์ละครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนรักกระเบื้องหินอ่อน ดูแล้วก็ทำได้ไม่ยากแค่อาศัยความเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ใครมีไอเดียการดูแลรักษาหินอ่อนที่โคตรจะเวิร์คก็ลองมาแชร์กันได้นะ! สุดท้ายอยากจะฝากเรื่องกระเบื้องหินอ่อนหลากหลายรูปแบบที่มาพร้อมกับคุณภาพชั้นเยี่ยมในงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี มาเลือกกระเบื้องหินอ่อนที่ใช่สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 27/12/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | n/a | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | n/a | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27/12/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.45 | 34.45 | 35.05 | 34.45 | 35.05 | 34.45 | 34.45 | 34.45 | 34.45 | 34.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.18 | 34.18 | 34.78 | 34.18 | 34.78 | 34.18 | 34.18 | 34.18 | 34.18 | 34.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.54 | 32.54 | 33.14 | 32.54 | 33.14 | – | 32.54 | 32.54 | 32.54 | 32.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.69 | 32.69 | – | – | – | – | – | – | – | 32.69 |
เบนซิน 95 | 41.86 | – | – | – | 42.91 | – | 42.36 | 42.31 | – | 41.86 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | – | 35.54 | – | 34.94 | 34.94 | 32.54 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 44.26 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |