อสังหาฯกระบี่มาแรง!ราคายังเข้าถึงได้จ่อคิวGlobal Destination
- กระบี่คือตลาดอสังหาฯ ไฮเอนด์ “ดาวรุ่ง” ราคายังจับต้องได้
- ดีมานด์ต่างชาติเข้าแรง โดยเฉพาะกลุ่มยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง
- กระบี่วันนี้คือ ‘The Next Global Destination’ ที่นักลงทุนต้องจับตา
กระบี่กำลังปรับภาพลักษณ์ใหม่ จากเมืองท่องเที่ยวสู่จุดหมายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะกลุ่มวิลล่าหรู ที่ดึงดูดดีมานด์จากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด “โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต” ต่อยอดความสำเร็จ เปิดตัวโครงการใหม่ “Botanica Luxury Krabi” นำร่องวิลล่าหรูเพียง 25 ยูนิต พร้อมย้ำจุดแข็งกระบี่…ยังมีราคาที่ “น่าคบหา”
“กระบี่วันนี้คือ ‘The Next Global Destination’ ที่นักลงทุนต้องจับตา ทั้งจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนา และราคาที่ดินที่ยังไม่สูงเมื่อเทียบกับภูเก็ต” อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด
ดีมานด์ทุกทวีปสู่บ้านหลังที่สองในอันดามัน
แม้จะยังเป็น “ตลาดใหม่” หากกระบี่กลับถูกจับตามองจากนักลงทุนระดับบนจากยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง เนื่องจากเป็นเมืองที่มี “ความสงบ” และ “ความเป็นส่วนตัว” สูง ต่างจากเมืองท่องเที่ยวหลักที่คึกคักและพลุกพล่าน ขณะเดียวกัน กระบี่เองก็กำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่เฟสใหม่ ที่จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคนต่อปี สะท้อนความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้พักอาศัยระยะยาว
ในไตรมาสแรกของปี 2568 กระบี่มีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 1.76 ล้านคน และยังติดท็อป 5 จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดในประเทศ สะท้อนศักยภาพด้านการเติบโตอย่างชัดเจน
“เรามุ่งสร้างมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็น ‘ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร’ ที่สามารถอยู่อาศัยเองได้จริง และให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าสนใจในระยะยาว”
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายครอบคลุมทั้งชาวไทยระดับกลาง–บน, นักลงทุนต่างชาติจากยุโรปและเอเชีย ไปจนถึงชาวต่างชาติที่มองหาบ้านพักตากอากาศเพื่อการอยู่อาศัยหลังเกษียณ
โดยพบว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความเป็นส่วนตัว, ความยั่งยืน และศักยภาพในการปล่อยเช่า ซึ่งโครงการสามารถตอบโจทย์ครบทุกด้าน
จุดขายทำเล “ทอง” ใกล้ทะเล -สนามบิน
หนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ Botanica Luxury Krabi คือทำเลที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ใช้เวลาเพียง 6–7 นาทีถึงท่าเรืออ่าวน้ำเมา ไปยังหาดไร่เลย์–ถ้ำพระนางได้ง่าย ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่างอ่าวนาง สุสานหอย และหาดต้นไทร เพียง 10 นาที
ขณะเดียวกันยังใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก เช่น แม็คโคร กระบี่, Vogue Department Store และโรงพยาบาลกระบี่ อีกทั้งยังเดินทางไปสนามบินนานาชาติกระบี่ได้ใน 30 นาทีเพื่อฉลองการเปิดตัว Botanica Luxury Krabi อย่างเป็นทางการ โบทานิก้า ได้จัดงาน The Exclusive Open House พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ลดเหลือ 15.9 ล้านบาท สำหรับ 1 ยูนิตเท่านั้น สำหรับผู้ที่จองภายในงาน
ในขณะที่ตลาดอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ในเมืองใหญ่เริ่มอิ่มตัว กระบี่กลับกลายเป็น “เพชรเม็ดใหม่” ของฝั่งอันดามัน ด้วยศักยภาพของเมืองที่ยังเติบโตได้อีกไกล ราคาที่ดินยังไม่สูงมาก และมีดีมานด์จากผู้ซื้อคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
“เสนา” จับมือ “ฮันคิวฮันชิน” ยกระดับอสังหาฯไทย รับมือวิกฤติ
“เสนา” ดัน Next Level Standard สู่มาตรฐานใหม่ของวงการอสังหาฯไทย ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น “ฮันคิวฮันชิน” ร่วมพัฒนาคุณภาพก่อสร้าง–บริการ–สิ่งแวดล้อม
หลังเหตุแผ่นดินไหวจากฝั่งเมียนมาเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของที่อยู่อาศัยได้กลับมาเป็นประเด็นสำคัญในสังคมอีกครั้ง ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับมาตรฐานการก่อสร้าง ความมั่นคงของโครงสร้าง และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินมากยิ่งขึ้น
โดยล่าสุด บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ “Next Level Standard” ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น ฮันคิวฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ (Hankyu Hanshin Properties – HHP) โดยผสานองค์ความรู้ด้านการก่อสร้าง ป้องกันภัยพิบัติ และการบริการหลังการขายแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่มั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการเสนา เปิดเผยว่า ความร่วมมือที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 9 ปี กับ HHP ซึ่งร่วมพัฒนาโครงการกว่า 66 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 83,000 ล้านบาท กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ ด้วยการนำแนวคิด Geo Fit+ และ Geo Check+ มาใช้จริงในการพัฒนาโครงการ พร้อมระบบควบคุมคุณภาพ “5 Steps of Quality Management” ที่ทีมญี่ปุ่นจะลงมาอบรมเชิงลึกกับทีมงานเสนาในเดือนมิถุนายนนี้
โดยแนวทาง Next Level Standard ที่เสนานำเสนอตั้งอยู่บน 3 แกนหลัก ได้แก่
- SENA TRUST สร้างความมั่นใจด้วยคุณภาพงานก่อสร้างที่ตรวจสอบได้และการออกแบบที่คิดถึงความปลอดภัยในยามฉุกเฉิน เช่น การเพิ่ม SENA Care Kit, ห้องปฐมพยาบาล และห้องอเนกประสงค์เพื่อสถานการณ์เฉพาะหน้า
- SENA CARE ยกระดับการดูแลลูกบ้านทั้งระบบผ่านแอป SENA 360 และบริการระดับโรงแรม ELITE Services โดยทีมที่ผ่านการอบรมจาก Hankyu Hanshin Hotels พร้อมแนวทางบริหารนิติบุคคลแบบญี่ปุ่นที่ปรับให้เหมาะกับบริบทไทย
- SENA LOW CARBON ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด เดินหน้าติดตั้งระบบโซลาร์และแบตเตอรี่เก็บพลังงาน พร้อมพัฒนาโครงการ “Zero Energy House” ตามแบบฉบับญี่ปุ่น
อีกทั้ง เสนายังมีแผนพัฒนาในปีนี้ประกอบด้วย 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 11 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาท
“บ้านไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง แต่คือพื้นที่ที่ต้องปลอดภัย พร้อมดูแล และตอบสนองความเปลี่ยนแปลงได้” ดร.ยุ้ยกล่าวทิ้งท้าย
พร้อมย้ำว่า เสนาพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยมาตรฐานใหม่ที่มองไกลกว่าปัจจุบัน และเชื่อมโยงทั้งคุณภาพ ความใส่ใจ และความยั่งยืนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 27 พ.ค. “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทอาจแข็งค่าอย่างจำกัด ท่ามกลางแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าที่ยังคงมีอยู่ จากปัจจัย โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ แรงซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าในช่วงปลายเดือน รวมถึงการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาด
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้27 พ.ค.2568 ที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันก่อนหน้า ที่มีจังหวะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลุดโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์
ก่อนที่จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเหนือโซน 32.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้ย้ำว่า ตลาดค่าเงินยังอยู่ในภาวะผันผวนสูง ทำให้เรายังคงแนะนำผู้เล่นในตลาดว่า ควรใช้กลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น
โดยเฉพาะกลยุทธ์ Options และการพิจารณาใช้ Local Currency เนื่องจากบางสกุลเงิน อย่าง CNYTHB ก็มีความผันผวนที่ต่ำกว่า USDTHB อย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย เงินดอลลาร์จะกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง พร้อมกับการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ทำให้เงินบาทเสี่ยงแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับสำคัญ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ และอาจแข็งค่าทะลุโซนดังกล่าวได้อีกครั้ง
ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด ท่ามกลางแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าที่ยังคงมีอยู่ อย่าง โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ แรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายนเดือนจากฝั่งผู้เล่นในตลาด อย่าง ฝั่งผู้นำเข้า รวมถึงการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาด อย่าง การทยอยขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น)
ทำให้โซนแนวรับของเงินบาท หากทะลุโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้จริง ก็อาจอยู่แถว 32.30-32.40 บาทต่อดอลลาร์ เหมือนในวันก่อนหน้า ขณะที่โซนแนวต้านของเงินบาทนั้น อาจอยู่แถว 32.75-32.85 บาทต่อดอลลาร์
จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งเรามองว่า อาจจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า ที่ตลาดการเงินจะรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จนทำให้การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ในตลาดการเงินมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น
เรายังคงมุมมองเดิมว่า ราคาทองคำยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง Two-Way risk ที่อาจทำให้เงินบาทสามารถเคลื่อนไหวแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลงได้ ตามทิศทางราคาทองคำ เนื่องจากราคาทองคำ ก็ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways เช่นกัน
จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเราจะมั่นใจมากขึ้นว่า เงินบาทจะสามารถทยอยกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 33.20 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง ตามการประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend Following
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น (บางสกุลเงินอาจมีความผันผวนต่ำกว่า USDTHB ชัดเจน เช่น CNYTHB) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.56-32.65 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดการเงินที่เบาบาง
เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด Bank Holiday ของตลาดการเงินอังกฤษ และวันหยุด Memorial Day ของตลาดการเงินสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย เงินบาทเริ่มทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังเงินดอลลาร์ยังคงเผชิญแรงขายต่อเนื่อง จากธีม Sell US Assets
(ซึ่งอาจดำเนินต่อไปได้ จนกว่าตลาดจะคลายกังวลความเสี่ยงเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และกลับมามั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น)
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำ (XAUUSD) ก็ทยอยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่โซนแนวต้าน 3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง หนุนให้เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นและมีโอกาสทดสอบโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ในวันนี้
แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวันหยุด Memorial Day ทว่า การชะลอปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 50% กับสินค้าจากยุโรป ก็มีส่วนหนุนให้บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ได้ สะท้อนจากสัญญาฟิวเจอร์สของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นราว +1.0%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.99% หลังทางการสหรัฐฯ ได้ชะลอการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 50% กับสินค้าจากยุโรป ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดคลายกังวลต่อแนวโน้มนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ลงบ้าง ดังจะเห็นได้จากการรีบาวด์ขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มเทคฯ เป็นต้น
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมแกว่งตัว Sideways ทว่าความกังวลต่อแนวโน้มเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ยังคงหนุนธีม Sell US Assets กดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลง
โดยเฉพาะในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 98.9 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 98.9-99.1 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. 2025) สามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้นอีกครั้ง หลังจากเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในช่วงบ่ายของวันก่อนหน้า
โดยราคาทองคำยังคงได้แรงหนุนจากธีม Sell US Assets ที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงเลือกถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ทองคำ (รวมถึงเงินเยนญี่ปุ่น) ทำให้โดยรวม ราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือโซน 3,370 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ อาทิ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ในเดือนเมษายน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference Board ในเดือนพฤษภาคม
ที่อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อาจปรับตัวดีขึ้น จากความหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า รวมถึง รายงานดัชนีภาคธุรกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ อาทิ ดัชนีภาคการผลิตโดย Dallas Fed ในเดือนพฤษภาคม เช่นกัน พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ผ่านรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเดือนพฤษภาคม
และนอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น ผู้เล่นในตลาดจะติดตาม สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.53-32.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.44 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของเงินเยน และหลายสกุลเงินเอเชีย และสัญญาณสะท้อนสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ Sentiment ของเงินดอลลาร์ฯ ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังที่เปราะบางและแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.35-32.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ ประเด็นสงครามการค้า และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
มิ้งค์ สระบุรี ดวล ไป่ ยู่ หลู รอบชิงสนุกเกอร์หญิงโลก 2025 รีแมตช์คู่ชิงปีที่แล้ว ลุ้นแชมป์สมัย 2
ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 1 โลก พบ ไป่ ยู่ หลู แชมป์เก่าชาวจีน รอบชิงสนุกเกอร์หญิงโลก 2025 ศึกรีแมตช์ชี้แชมป์ 27 พ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. สถิติพบกัน 9 ครั้ง มิ้งค์ชนะ 6–3
การแข่งขัน สนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่ ฉางผิงยิมเนเซียม เมืองตงกวาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยในปีนี้แฟนสนุกเกอร์ชาวไทยเตรียมลุ้นศึกรีแมตช์สุดมันระหว่าง “มิ้งค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 1 ของโลก และอดีตแชมป์โลกปี 2022 กับ ไป่ ยู่ หลู มือ 4 ของโลกจากจีน และแชมป์เก่าปีที่แล้ว
มิ้งค์ ผ่านเข้ารอบชิงได้สำเร็จหลังเอาชนะเพื่อนร่วมชาติ “ใบพัด ศรีราชา” ศิริภาพร นวนทะคำจัน มือ 6 ของโลกไปแบบขาดลอย 5-1 เฟรม ในรอบรองชนะเลิศ ส่วน ไป่ ยู่ หลู ที่ลงแข่งทีหลัง โชว์ฟอร์มโหดอัด เซีย ยู่ หยิง มือ 146 ของโลกจากชาติเดียวกันไป 5-0 เฟรม (68-33, 59-45, 57-53, 61-34, 67-15) ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ศึกครั้งนี้ถือเป็นการพบกันในรอบชิงอีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วทั้งคู่เจอกันในแมตช์ชี้แชมป์บนเวทีเดียวกัน และเป็น ไป่ ยู่ หลู ที่เฉือนชนะไปอย่างสุดระทึก 6-5 เฟรม กลายเป็นนักสอยคิวหญิงจากจีนคนแรกที่คว้าแชมป์โลก
สำหรับสถิติการพบกันระหว่าง มิ้งค์ กับ ไป่ ยู่ หลู ทั้งหมด 9 ครั้งที่ผ่านมา มิ้งค์ เอาชนะได้ 4 ครั้ง ขณะที่ ไป่ ชนะ 5 ครั้ง โดยในฤดูกาล 2024/25 ต่างฝ่ายต่างชนะกันไปคนละครั้ง -ไป่ ยู่ หลู ชนะ 4-1 เฟรม ในศึก Women’s UK Championship 2024 รอบรองฯ
มิ้งค์ สระบุรี ชนะ 4-3 เฟรม ในรอบชิงฯ WSF Women’s Championship 2025 ที่โมร็อกโก
สำหรับรอบชิงชนะเลิศสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่าง มิ้งค์ สระบุรี กับ ไป่ ยู่ หลู จะแข่งขันในวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
อภ. เร่งผลิต-สำรองยา รับมือโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 ระบาดหนัก
องค์การเภสัชกรรม เร่งผลิต-สำรอง ยาฟาวิพิราเวียร์-ยาโมลนูพิราเวียร์ รวมกว่า 5 ล้านเม็ด รองรับการระบาดของโควิด-19 หลัง สธ. อัปเดตตัวเลขพบผู้ป่วยรายใหม่กว่า 5.3 หมื่นราย
26 พฤษภาคม 2568 พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า จากการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลล่าสุด ณ สัปดาห์ที่ 21 ของปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 18 – 24 พ.ค.68 (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ค.68) มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 53,597 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิต ปี 2568 อยู่ที่ 46 ราย
โดยเชื้อโควิด-19 ที่พบในประเทศไทยขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ JN.1 ซึ่งผู้ที่เคยเป็นมาแล้วเป็นซ้ำได้อีกและส่วนใหญ่จำนวนมากไม่รู้ตัวว่า ติดเชื้อเพราะมีอาการน้อยแต่แพร่กระจายได้จึงเป็นเหตุให้มีการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว อีกทั้งเกิดจากการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากและการเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่นสามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี
องค์การเภสัชกรรมในฐานะที่เป็นหน่วยงานในการผลิต สำรอง กระจายยาและเวชภัณฑ์เพื่อรองรับการระบาดที่เกิดขึ้น และจากการแพร่กระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็วดังกล่าว พบว่า มีการแจ้งความต้องการเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมวางแผนผลิตรองรับการระบาดในหน้าฝนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มกำลังการผลิตยาเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ประกอบด้วย
ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) จำนวน 1,750,000 เม็ด ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) จำนวน 3,360,000 แคปซูล จึงได้ปรับเร่งกระบวนการต่าง ๆ จนสามารถขึ้นคลังได้เร็วขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 23 พ.ค.68 ที่ผ่านมาและได้ส่งกระจายยาไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนแล้ว โดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จัดส่งภายใน 1 วัน และต่างจังหวัดจัดส่งภายใน 3 วัน ได้แก่ โรงพยาบาล เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 13 แห่ง เมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 และกลุ่มโรงพยาบาลและหน่วยบริการทั่วประเทศ ประมาณ 315 แห่ง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 และสำหรับ lot ต่อ ๆ ไปจะมีการผลิตและกระจายเพิ่มเติมในวันที่ 28 พ.ค.68 และ ในต้นเดือน มิ.ย.68 ตามลำดับ
นอกจากนั้น องค์การเภสัชกรรมได้มีการสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตเพิ่มแล้ว และยังได้เพิ่มการจัดหาแหล่งวัตถุดิบเพื่อการผลิตยาทั้ง 2 รายการดังกล่าวสำรองไว้ให้เพียงพอในกรณีที่อาจจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนผลิตและสำรองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรค
ผอ.องค์การเภสัชกรรม ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์เพิ่มเติมว่า วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อโควิด 19 การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่เสี่ยง สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่แออัดหรือระบบระบายอากาศไม่ดี หมั่นล้างมือให้สะอาด เว้นระยะห่างกับผู้อื่นหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำเมื่อกลับถึงบ้าน กินร้อน ช้อนกลาง และหากมีอาการป่วย ควรตรวจ ATK เพื่อพักรักษาตัวให้หายดีก่อน ป้องกันการแพร่เชื้อ และถ้าหากมีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
24 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับโรคที่คุณควรรู้ไว้ใช้ในการลาป่วย
24 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับโรคที่คุณควรรู้ไว้ใช้ในการลาป่วย
โรค (Disease) นั้นเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นในชีวิต กล่าวกันว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ และโรคนั้นก็มักจะมากับอาการของโรค (Symptom) ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าโรคที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นคือโรคอะไร
คำศัพท์เกี่ยวกับโรคและอาการของโรคต่างๆเป็นภาษาอังกฤษที่บริติช เคานซิลจัดเตรียมไว้นั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้คุณมีคลังคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับโรคและอาการของโรคต่างๆไว้ใช้ในยามจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องอธิบายหรือบอกถึงโรคที่คุณเป็นอยู่ในการลาป่วยของคุณ
คำศัพท์เกี่ยวกับโรคและอาการของโรคต่างๆเป็นภาษาอังกฤษ
| คำศัพท์ | ความหมาย |
| Cold | ไข้หวัด |
| Cough | ไอ |
| Sore throat | เจ็บคอ |
| Headache | ปวดหัว |
| Stomachache | ปวดท้อง |
| Toothache | ปวดฟัน |
| Earache | ปวดหู |
| Cramp | ตะคริว |
| Numb | อาการชา |
| Infection | การติดเชื้อ |
| Broken leg/arm | ขา / แขนหัก |
| rash | ผื่น |
| Diarrhea | ท้องเสีย |
| Runny nose | น้ำมูกไหล |
| Migraine | ไมเกรน |
| Allergic reaction | อาการภูมิแพ้ |
| Vomit / Throw up | อาเจียร |
| Nausea | คลื่นไส้ |
| Food poisoning | อาหารเป็นพิษ |
| Stroke | หลอดเลือดสมอง |
| Cancer | โรคมะเร็ง |
| Diabetes | โรคเบาหวาน |
| Asthma | โรคหอบหืด |
| Hypertension | โรคความดันโลหิตสูง |
สำหรับใครที่ชอบและติดตามบทความเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษและวิธีใช้ภาษาอังกฤษโดยเฉพาะทักษะการพูดแล้ว พลาดไม่ได้กับบทความดีๆจากบริติช เคานซิลที่หลากหลายและเพียงพอที่จะให้คุณมีพื้นฐานสำคัญสำหรับการใช้ภาษาอังกฤษ
ขอบคุณข้อมูลจาก britishcouncil.or.th
Google Gemini 2.5 ปลดล็อกพลัง AI ใน Chrome สู่บราวเซอร์คิดเองได้
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกมิติของชีวิต Google ได้ผลักดันขีดจำกัดใหม่ด้วยการเปิดตัว Google Gemini 2.5 ที่งาน Google I/O 2025 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การอัปเดตครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นการปรับปรุงทั่วไป แต่เป็นการก้าวกระโดดสู่อนาคตของ AI ที่สามารถ “คิด” ได้อย่างแท้จริง
Gemini 2.5 ถูกออกแบบมาให้เป็น “Thinking model” ที่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ ความโดดเด่นคือความสามารถในการ “ใคร่ครวญ” ก่อนตอบคำถาม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีเหตุผลมากขึ้น โมเดลนี้ประกอบด้วย 2 รุ่นหลัก ได้แก่ Gemini 2.5 Pro สำหรับงานที่ต้องการความซับซ้อนสูง และ Gemini 2.5 Flash ที่เน้นความเร็วและประสิทธิภาพในราคาประหยัด
ผลการทดสอบของ Gemini 2.5 Pro นั้นน่าประทับใจ โดยเฉพาะในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อย่าง GPQA และ AIME 2025 นอกจากนี้ยังได้คะแนน 18.8% ใน Humanity’s Last Exam ซึ่งเป็นชุดทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อวัดขีดจำกัดความรู้และการใช้เหตุผลของมนุษย์
นอกจาก Gemini 2.5 แล้ว Google ยังได้เปิดตัว Google AI Ultra ซึ่งเป็นแพ็กเกจพรีเมียมใหม่ในราคา 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเดือน หรือ ประมาณ 8,499 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษลด 50% สำหรับ 3 เดือนแรกสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก Google AI Ultra มอบสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น อัตราการใช้งานสูงสุด, การเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร, และการใช้งาน Veo 3 สำหรับสร้างวิดีโอและเสียง
นวัตกรรมเด่นที่มาพร้อมกับการอัปเดตครั้งนี้ ได้แก่ Veo 3 ที่ไม่เพียงสร้างวิดีโอได้ แต่ยังสามารถสร้างเสียงประกอบ เช่น เสียงเมืองพลุกพล่าน หรือบทสนทนาของตัวละคร ได้จากคำสั่งข้อความธรรมดา Imagen 4 ก็ได้รับการอัปเดตให้สร้างภาพคุณภาพสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานนำเสนอ กราฟิกโซเชียลมีเดีย หรือบัตรเชิญ และ Deep Research ที่สามารถรวมข้อมูลสาธารณะกับไฟล์ PDF และภาพส่วนตัวของคุณเพื่อสร้างรายงานวิจัยที่สมบูรณ์
การเชื่อมต่อที่ลื่นไหลกับระบบนิเวศของ Google ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น Gemini Live จะเชื่อมต่อเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้ใช้มากขึ้น เช่น การวางแผนเที่ยวกับเพื่อนและสร้างกิจกรรมใน Google Calendar ได้ทันที หรือการขอข้อมูลร้านพิซซ่าจาก Google Maps การเชื่อมต่อนี้จะครอบคลุม Google Maps, Google Calendar, Google Tasks และ Google Keep Project Mariner ซึ่งเป็น AI agent ทดลองก็สามารถเรียกดูและใช้งานเว็บไซต์เพื่อจัดการงานได้เกือบโหลงาน เช่น ซื้อตั๋วเบสบอลหรือซื้อของออนไลน์โดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ภายนอก Canvas ก็ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ ทำให้สามารถ “vibe code” และสร้างเว็บไซต์และแอปแบบโต้ตอบได้ด้วยคำสั่งเดียว
ไฮไลต์สำคัญที่เปลี่ยนวิธีการใช้เว็บคือการเปิดตัว Gemini ใน Chrome เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผู้ช่วย AI ได้โดยตรงในเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องเปิดแท็บใหม่หรือไปที่เว็บไซต์อื่น การรวมตัวนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจเนื้อหาในหน้าเว็บได้อย่างรวดเร็ว, ได้รับความช่วยเหลือในการทำงานต่างๆ, และสอบถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่กำลังอ่าน
ฟีเจอร์เด่นของ Gemini ใน Chrome ได้แก่ การสรุปบทความ หน้าเว็บ หรือเธรดต่างๆ ได้ทันที การตอบคำถามโดยใช้เนื้อหาในหน้าปัจจุบันเป็นบริบท การวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลสำคัญ, สเปก, หรือข้อดี-ข้อเสียจากหน้าเว็บ และการสนทนากับ Gemini Live เพื่อระดมสมองหรือเจาะลึกหัวข้อต่างๆ และได้รับคำตอบแบบเสียงพูดภายใน Chrome ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Gemini ใน Chrome ได้หลายวิธี เช่น คลิกไอคอน Gemini ในแถบเครื่องมือ, ใช้ทางลัดคีย์บอร์ด (Windows: Alt+G, macOS: Ctrl+G), หรือเข้าถึงผ่านระบบ Taskbar/Notification Area สำหรับการใช้งานต้องเป็นสมาชิก Google AI Pro หรือ Google AI Ultra ในสหรัฐอเมริกา, ตั้งภาษา Chrome เป็นภาษาอังกฤษ, มีอายุ 18 ปีขึ้นไป, และใช้ Chrome บน Windows หรือ macOS
Google เชื่อว่า Gemini ใน Chrome จะช่วยเปลี่ยนงานที่ใช้เวลา 30 นาทีให้เหลือเพียงแค่ 3 คลิกในอนาคต โดยจะมีความสามารถในการทำงานข้ามหลายแท็บพร้อมกัน และสามารถเลื่อนไปยังส่วนเฉพาะของหน้าเว็บด้วยคำสั่งเดียว สำหรับผู้ใช้ Google AI Ultra ยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึง Agent Mode ซึ่งเป็นความสามารถทดลองใหม่ที่จะมาถึงเดสก์ท็อปเร็วๆ นี้ Agent Mode จะช่วยจัดการงานที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการดูแลเพียงเล็กน้อยจากผู้ใช้
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป Gemini 2.5 Flash ใช้งานฟรีในแอป Gemini ส่วน Google AI Pro ฟรีสำหรับนักศึกษาในสหรัฐฯ บราซิล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และอังกฤษ และ Google AI Ultra ราคา $249.99/เดือน พร้อมส่วนลด 50% สำหรับ 3 เดือนแรก สำหรับนักพัฒนา Gemini 2.5 Pro พร้อมให้บริการใน Google AI Studio และแอป Gemini สำหรับผู้ใช้ Gemini Advanced และจะมาถึง Vertex AI ในเร็วๆ นี้
ในอนาคต Gemini 2.5 Pro และ Flash จะรวม thought summaries ในการจัดระเบียบความคิดดิบของโมเดลให้เป็นรูปแบบที่ชัดเจน Google ยังร่วมมือกับ Samsung และ Warby Parker พัฒนาแว่นตาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย Android XR ซึ่งจะนำ Project Astra มาใช้งานจริง
แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมาก แต่การอัปเดตล่าสุดของ Gemini ก็มีปัญหาบางประการ การอัปเดต Gemini 2.5 ทำให้การควบคุมการตั้งค่าความปลอดภัยมีปัญหา ส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่ต้องการการตั้งค่าที่ยืดหยุ่น
Gemini ใน Chrome คืออะไร?
Gemini ใน Chrome คือผู้ช่วย AI ที่ถูกรวมเข้ากับเบราว์เซอร์ของคุณโดยตรง โดยไม่ต้องเปิดแท็บใหม่หรือเข้าเว็บไซต์อื่น ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บได้อย่างรวดเร็ว , รับความช่วยเหลือในการทำงานต่างๆ และ สอบถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่กำลังอ่าน
ฟีเจอร์เด่นที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเว็บ
– การสรุปอัตโนมัติ: Gemini สามารถสร้างสรุปบทความ หน้าเว็บ หรือเธรดต่างๆ ได้ทันทีในเบราว์เซอร์ ช่วยให้คุณเข้าใจประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
– การตอบคำถามจากเนื้อหา: มีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังอ่านอยู่ใช่ไหม? ถาม Gemini ได้เลย โดยจะใช้เนื้อหาในหน้าปัจจุบันเป็นบริบทในการตอบ
– การวิเคราะห์และเปรียบเทียบ: กำลังวิจัยผลิตภัณฑ์หรือต้องการเปรียบเทียบตัวเลือก? Gemini สามารถดึงข้อมูลสำคัญ, สเปก, หรือข้อดี-ข้อเสียจากหน้าเว็บมาให้คุณได้
– Gemini Live ในเบราว์เซอร์: ต้องการระดมสมอง จัดระเบียบความคิด หรือเจาะลึกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง? สนทนากับ Gemini Live ได้อย่างเป็นธรรมชาติและได้รับคำตอบแบบเสียงพูดภายใน Chrome
– “มองเห็น” หน้าจอ: Gemini สามารถ “มองเห็น” และเข้าใจเนื้อหาที่แสดงอยู่บนหน้าจอในแท็บปัจจุบันได้ เช่น สรุปบทความข่าว ระบุเครื่องมือในวิดีโอสาธิตการซ่อมแซม สรุปเนื้อหาวิดีโอ หรือดึงสูตรอาหารจากคลิปสอนทำอาหาร รวมถึงการค้นหาสินค้าบนหน้าเว็บ
วิธีการเข้าถึงและใช้งาน Gemini ใน Chrome
การเข้าถึง Gemini ใน Chrome สามารถทำได้หลายวิธี:
– คลิกไอคอน Gemini ในแถบเครื่องมือ Chrome
– ใช้ทางลัดคีย์บอร์ด (Windows: Alt+G, macOS: Ctrl+G)
– เข้าถึงผ่านระบบ Taskbar/Notification Area
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ประโยชน์ของมะม่วงสุก ที่ควรรู้ พร้อมข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม!
มะม่วงสุก ผลไม้หน้าร้อนสุดโปรดของใครหลายคน ด้วยรสชาติหอมหวาน ชื่นใจ แถมยังกินกับข้าวเหนียวมะม่วงยิ่งฟิน! แต่รู้ไหมคะว่านอกจากความอร่อยแล้ว มะม่วงสุกยังมีประโยชน์มากมายที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง และมีข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้อร่อยได้อย่างสบายใจ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกแง่มุมของมะม่วงสุกกันค่ะ
ประโยชน์ของมะม่วงสุก
มะม่วงสุกไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น:
- วิตามินซีสูงปรี๊ด! ตัวช่วยบูสต์ภูมิคุ้มกัน: มะม่วงสุกมีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย แถมยังช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งอีกด้วย
- อุดมด้วยวิตามินเอ บำรุงสายตาให้สดใส: ใครที่ใช้สายตาเยอะๆ ควรทานมะม่วงสุกเลยค่ะ เพราะมีวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพดวงตา ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาแห้ง หรือจอประสาทตาเสื่อม
- ใยอาหารเพียบ! ระบบขับถ่ายดี๊ดี: มะม่วงสุกมีใยอาหารสูง ทั้งใยอาหารที่ละลายน้ำได้ (ช่วยลดคอเลสเตอรอล) และใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ (ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้) ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย: นอกจากวิตามินซีแล้ว มะม่วงสุกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากการถูกทำลาย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
- โพแทสเซียมตัวช่วยควบคุมความดันโลหิต: ในมะม่วงสุกมีโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย และช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร: สารเอนไซม์ในมะม่วงสุกบางชนิดช่วยย่อยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
โทษของมะม่วงสุก
ถึงแม้ว่ามะม่วงสุกจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้กินมะม่วงสุกแบบอร่อยได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ:
- น้ำตาลสูงปรี๊ด! ผู้ป่วยเบาหวานต้องระวัง: นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดของมะม่วงสุกเลยค่ะ เพราะมะม่วงสุกมีรสหวานจัด และมีน้ำตาลสูงมาก หากรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยเบาหวานควรจำกัดปริมาณการรับประทาน หรือปรึกษาแพทย์/นักโภชนาการก่อนทาน
- แคลอรี่สูง ระวังน้ำหนักขึ้น: ด้วยความที่มีน้ำตาลสูง ทำให้มะม่วงสุกมีแคลอรี่ค่อนข้างสูงเช่นกัน หากทานมากเกินไป โดยเฉพาะทานคู่กับข้าวเหนียวมูนกะทิ อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ
- เสี่ยงท้องอืดในบางราย: ในบางคนอาจมีอาการท้องอืด หรือไม่สบายท้องหลังทานมะม่วงสุก โดยเฉพาะหากทานในปริมาณมาก เนื่องจากมีปริมาณใยอาหารสูงและอาจมีสารบางอย่างที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้
- ผู้ป่วยโรคไตต้องระวังโพแทสเซียม: มะม่วงสุกมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีเท่าคนปกติ หากได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อหัวใจได้ ผู้ป่วยโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
- แพ้ได้! สังเกตอาการ: แม้จะไม่พบบ่อย แต่บางคนอาจมีอาการแพ้มะม่วงได้ เช่น ผื่นคัน ปากบวม คันคอ หากมีอาการเหล่านี้หลังทานมะม่วง ควรหยุดทานและรีบปรึกษาแพทย์
- ไม่ควรทานตอนท้องว่าง (สำหรับบางคน): แม้จะเป็นผลไม้ แต่การทานมะม่วงสุกตอนท้องว่างสำหรับบางคนอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะ หรือกรดไหลย้อน
เคล็ดลับการทานมะม่วงสุกให้อร่อยและดีต่อสุขภาพ
- ทานแต่พอดี: แม้จะอร่อยแค่ไหน ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป
- เลือกมะม่วงที่สุกกำลังดี: สุกจัดอาจมีน้ำตาลสูงกว่า
- ทานเดี่ยวๆ: หากเป็นไปได้ ให้ทานมะม่วงสุกเดี่ยวๆ ไม่ต้องเพิ่มน้ำกะทิ หรือน้ำตาลทราย เพื่อลดปริมาณแคลอรี่และน้ำตาล
- สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน/โรคไต: ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
- ทานคู่กับเมนูที่หลากหลาย: นำมะม่วงสุกไปทำเมนูอื่นๆ เช่น สมูทตี้มะม่วง ไอศกรีมมะม่วง (ทำเองแบบลดน้ำตาล) เพื่อความหลากหลายและควบคุมปริมาณได้ง่ายขึ้น
เมนูอร่อยจากมะม่วงสุก
- ข้าวเหนียวมะม่วง
- สมูทตี้มะม่วง / น้ำมะม่วงปั่น
- ไอศกรีมมะม่วง / ซอร์เบทมะม่วง
- พุดดิ้งมะม่วง / มูสมะม่วง
- สลัดมะม่วงกุ้งย่าง / สลัดมะม่วงไก่ย่าง
- แพนเค้กมะม่วง / วาฟเฟิลมะม่วง
- ชีสเค้กมะม่วง / ทาร์ตมะม่วง
สรุป
มะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องน้ำตาลและแคลอรี่ที่สูง โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก การรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากมะม่วงสุกได้อย่างเต็มที่และอร่อยได้อย่างสบายใจค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 27/05/2568
| ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
|---|---|---|---|
| ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 51,500.00 | 51,600.00 |
| ทองรูปพรรณ 96.5% | 3,336.00 | 50,573.76 | 52,400.00 |
| ทองรูปพรรณ 90% | 3,002.40 | 45,516.38 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 80% | 2,668.80 | 40,459.01 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 50% | 1,501.00 | 22,758.19 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 40% | 1,168.00 | 17,700.82 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 99.99% | 3,457.00 | 52,408.04 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27/05/2568
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ |  ไออาร์พีซี | พีที |  ซัสโก้ |  เพียว |  พรุ่งนี้ | |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| แก๊สโซฮอล์ 95 | 32.55 | 32.55 | 33.05 | 32.55 | 32.55 | 32.55 | 32.55 | 32.55 | 32.55 | 32.55 |
| แก๊สโซฮอล์ 91 | 32.18 | 32.18 | 32.68 | 32.18 | 32.18 | 32.18 | 32.18 | 32.18 | 32.18 | 32.18 |
| แก๊สโซฮอล์ E20 | 30.34 | 30.34 | 30.84 | 30.34 | 30.34 | – | 30.34 | 30.34 | 30.34 | 30.34 |
| แก๊สโซฮอล์ E85 | 28.69 | 28.69 | – | – | – | – | – | – | – | 28.69 |
| แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 41.14 | 48.84 | 49.84 | 48.84 | – | – | – | – | – | 41.14 |
| เบนซิน 95 | 40.84 | – | – | – | 48.81 | – | 41.34 | 40.99 | – | 40.84 |
| ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
| ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.94 | 46.14 | 49.84 | 46.14 | 46.14 | – | – | – | – | 43.94 |
| แก๊ส NGV | 17.90 | 17.90 | – | – | – | – | – | – | – | 17.90 |
