สาระน่ารู้ประจำวันที่ 27 มกราคม 2565

10 อันดับทำเล ‘ราคาที่ดิน’ สูงสุด แพงสุด 3.3 ล้านต่อตร.ว.

10 อันดับทำเล 'ราคาที่ดิน' สูงสุด แพงสุด 3.3 ล้านต่อตร.ว.

ราคาที่ดินกรุงเทพฯ 2565 www.area.co.th เปิด 10 อันดับทำเล ราคาที่ดินสูงสุด สยาม-ชิดลม-เพลินจิต รั้งอันดับ 1 ราคา 3.3 ล้านบาทต่อตารางวา รองลงมา ถนนวิทยุ ,สุขุมวิท

26 ม.ค.2565 – ‘ เศรษฐกิจแย่ แต่ราคาที่ดินไม่เคยลด’ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง หลังจาก ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่า จากการสำรวจราคาที่ดิน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบ ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า ขยับตัวขึ้นมากสวนทางกับการหดตัวของตลาดที่อยู่อาศัย โดยราคาที่ดินในปี 2564 คาดว่าขยับตัวสูงขึ้นกว่าปี 2563 ราว 4.7%

ราคาที่ดินปี 2565 ขึ้นอีก 5%

ขณะในปี 2565 ราคาที่ดินก็คงจะขยับตัวสูงขึ้นอีก เพราะการเปิดใช้งานจริงของรถไฟฟ้า ย่อมส่งผลให้มีการขยับตัวของราคาที่ดินที่ชัดเจนกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้นสถาบันต่างๆ ล้วนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัว ดังนั้น ราคาที่ดินในปี 2565 น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2564 โดย ดร.โสภณคาดว่าราคาที่ดินในปี 2565 น่าจะเพิ่มขึ้นถึง 5%ทั้งนี้ เป็นอานิสงส์จากรถไฟฟ้าเป็นหลัก แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวนักก็ตาม

สำหรับทำเลที่ดินที่มีราคาสูงสุด ก็คือพื้นที่บริเวณ สยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิต มีราคาตารางวาละ 3,300,000 บาทต่อตารางวา ถ้าปูด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาท ต้องปูถึงราว 9 ชั้น  รองลงมาเป็นถนนวิทยุ ซึ่งเป็นแหล่งสำนักงาน โรงแรมคุณภาพ จะเห็นได้ว่าสีลมที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน กลับมีราคาต่ำกว่าย่านสุขุมวิท-ไทมสแควร์ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจบันเทิงและที่อยู่อาศัยราคาแพง นอกจากนี้เยาวราชซึ่งเคยเป็นศูนย์ธุรกิจในอดีต ก็มีราคาไม่ค่อยสูงมากนักเพราะที่ผ่านมายังไม่มีรถไฟฟ้า สำหรับในรายละเอียดเป็นดังนี้ 

 
10 อันดับทำเลราคาที่ดินสูงสุด                                             
หมายเหตุ : ราคาต่อตารางวา

  1. สยาม-ชิดลม-เพลินจิต       3,300,000 บาท
  2. วิทยุ                                 2,750,000 บาท
  3. สุขุมวิท-ไทมสแควร์           2,730,000 บาท
  4. สุขุมวิท 21 อโศก               2,500,000 บาท
  5. สีลม                                  2,500,000 บาท
  6. สาทร                                 2,200,000 บาท
  7. เยาวราช                            1,750,000 บาท
  8. สุขุมวิท-เอกมัย                   1,700,000 บาท
  9. พญาไท                             1,550,000 บาท
  10. พระรามสี่ (บ่อนไก่)             1,550,000 บาท
10 อันดับทำเล 'ราคาที่ดิน' สูงสุด แพงสุด 3.3 ล้านต่อตร.ว.

ราคาประเมินที่แพงที่สุดของกรมธนารักษ์เป็นเงินตารางวาละ 1 ล้านบาท อยู่ในย่านสีลม เพลินจิต แต่ราคานี้ไม่ได้ปรับมานานแล้ว  อันที่จริง ตามราคาตลาดของที่ดินในกรุงเทพมหานครในบริเวณสยามสแควร์ น่าจะสูงกว่าสีลม และมีราคาตารางวาละ 1 ล้านบาทตามราคาตลาดมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว  ขณะนี้ราคาที่ดินที่แพงที่สุดเพิ่มขึ้นถึงตารางวาละ 3.3 ล้านบาทแล้ว  แต่กรมธนารักษ์ยังประเมินไว้เพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าที่ดินรายใหญ่ในเขตใจกลางเมืองนั่นเอง

   
หากพิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมาเป็นดังนี้

10 อันดับทำเลราคาที่ดินขยับมากสุด
หมายเหตุ : ราคาต่อตารางวา    

  1. อดีตโรงเรียนปานาพันธุ์ ลาดพร้าว     700,000          16.7%
  2. สตรีวิทยา 2 (ลาดพร้าว 71)              140,000          16.7%
  3. วิภาวดี จตุจักร                                 580,000          16.0%
  4. รามคำแหง สะพานสูง                       125,000          15.7%
  5. โชคชัย 4                                         150,000          15.4%
  6. เกษตรนวมินทร์                                 230,000          15.0%
  7. แจ้งวัฒนะ                                         310,000          14.8%
  8. พหลโยธิน ซอยเสนานิคม                   550,000          14.6%
  9. พหลโยธิน กม.33                              80,000          14.3%
  10. รามอินทรา กม.11.4                           160,000          14.3%
10 อันดับทำเล 'ราคาที่ดิน' สูงสุด แพงสุด 3.3 ล้านต่อตร.ว.

จะสังเกตได้ว่าราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นมากนั้นเกิดขึ้นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นสำคัญ  ทั้งนี้เพราะราคาที่ดินทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.7% เท่านั้น การเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของไทยที่อาจไม่แข็งแกร่งนัก แต่เพราะการพัฒนาสาธารณูปโภคนั่นเอง ทั้งนี้ได้สร้างการเก็งกำไรมากขึ้นด้วย  อย่างไรก็ตามราคาที่ดินที่พุ่งกระฉูดในบางเส้นก็อาจลดต่ำลงในอนาคตเช่นเดียวกับกรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งมีการสร้างโครงการอาคารชุดเพื่อการเก็งกำไรกันมากมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


รับเหมากลาง-เล็ก รับอานิสงส์ สัญญาช่วง “ซับคอนแทรค” บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ

รับเหมากลาง-เล็ก รับอานิสงส์ สัญญาช่วง “ซับคอนแทรค" บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ

รับเหมารายกลาง-รายเล็ก ได้รับอานิสงก์ โครงการขนาดใหญ่ มักรอรับซับคอนแทรค ( Subcontract) สัญญาช่วง จากกลุ่มรับเหมายักษ์ใหญ่ ทั้งทางคู่ ใหม่สายเหนือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

“รับเหมากลาง-เล็ก รับอานิสงส์ สัญญาช่วง “ซับคอนแทรค” บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ” นอกจากกลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการชนะประมูลโครงการจากภาครัฐกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลาง-เล็กก็น่าจับตาเนื่องจากรอรับงาน ซับคอนแทรค(Subcontract) หรือสัญญาช่วง จากกลุ่มรับเหมายักษ์ใหญ่

 ล่าสุด “ชวลิต ถนอมถิ่น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะได้รับงาน Subcontract งานรถไฟทางคู่สายเหนือใหม่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” จากทั้งกลุ่มผู้รับเหมาใหญ่ โดยเฉพาะงานขุดเจาะอุโมงค์หิน ที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถจากบริษัทที่มีประสบการณ์และความชำนาญพิเศษ ทำให้มีผู้รับเหมาจำนวนน้อยรายที่ดำเนินธุรกิจได้แบบ RT ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปรายละเอียดงานและมูลค่ารวมประมาณเดือน กุมภาพันธ์ นี้

ทั้งนี้ มั่นใจว่าศักยภาพของบริษัทสามารถรับงานใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 6 พันล้านบาท โดยนอกจากงานอุโมงค์รถไฟข้างต้นแล้ว ปัจจุบันมีงานที่เข้าประมูลได้แล้วรอเซ็นสัญญาอีกจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,026 ล้านบาท ประกอบไปด้วย งานประเภทอุโมงค์ดินอ่อน, งานประเภทอุโมงค์ส่งน้ำ, งานวางท่อเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน และ งานป้องกันความลาดชัน( Slope Protection)  ซึ่งบางส่วนเป็นงาน  Subcontract

 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานเองเพิ่มเติม เช่น งานประเภทอุโมงค์, งานประเภทเขื่อนและระบบชลประทาน และ งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน RT ถือเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค ทำให้สามารถเข้ารับงานได้หลากหลาย โดยที่ผ่านมามีพันธมิตรใน 3 ส่วน คือ

ทั้งนี้ มั่นใจว่าศักยภาพของบริษัทสามารถรับงานใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 6 พันล้านบาท โดยนอกจากงานอุโมงค์รถไฟข้างต้นแล้ว ปัจจุบันมีงานที่เข้าประมูลได้แล้วรอเซ็นสัญญาอีกจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,026 ล้านบาท ประกอบไปด้วย งานประเภทอุโมงค์ดินอ่อน, งานประเภทอุโมงค์ส่งน้ำ, งานวางท่อเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน และ งานป้องกันความลาดชัน( Slope Protection)  ซึ่งบางส่วนเป็นงาน  Subcontract

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานเองเพิ่มเติม เช่น งานประเภทอุโมงค์, งานประเภทเขื่อนและระบบชลประทาน และ งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน RT ถือเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค ทำให้สามารถเข้ารับงานได้หลากหลาย

รับเหมากลาง-เล็ก รับอานิสงส์ สัญญาช่วง “ซับคอนแทรค" บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ

โดยที่ผ่านมามีพันธมิตรใน 3 ส่วน คือ

1. ภาครัฐ ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย, กรมชลประทาน, กรุงเทพมหานคร   (The Bangkok Metropolitan Administration : BMA), การประปานครหลวง, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้านครหลวง ฯลฯ

2. ภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัทอิตาเลียนไทยดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือITD,  บมจ.ช.การช่าง หรือCK ,  บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือSTEC,  บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการหรือNWR และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด(หจก.)สามประสิทธิ์ ฯลฯ

3. พันธมิตรจากต่างประเทศเช่นเกาหลีใต้เมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาว

ขณะที่ธุรกิจของบริษัทมักไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ เพราะส่วนใหญ่เป็นงาน ซับคอนแทรค(Subcontract) จากบริษัทใหญ่ ซึ่งมีสัญญาการรับงานและระยะเวลาการก่อสร้างที่ชัดเจน ส่วนสถานการณ์โควิดที่ยังระบาดอยู่ ก็มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้มีการระบาดเข้ามาในพื้นที่ก่อสร้า

ฟาก “ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์” ประธานกรรมการ บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL มองว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยแม้จะอยู่ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 แต่ยังมีสัญญาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากการลงทุนของภาครัฐฯ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, การขยายเมือง และโครงข่ายด้านคมนาคม ปัจจุบันก่อให้เกิดการสร้างงานราว 8 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 65 จะเติบโตอีกกว่า 6 – 7% หรือมีมูลค่างานกว่า 8.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2565 บริษัทฯ ประเมินว่ายังมีโอกาสในการเข้าไปประมูลงานภาครัฐในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนรัฐ(PPP)และ ซับคอนแทรค(Subcontract) โดยเฉพาะงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเริ่มลงมือก่อสร้าง และยังมีนโยบายขยายเมืองที่ต้องควบคู่ไปกับโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท

 รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 1 แสน ล้านบาท, รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท และรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-โคราช สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันปรับเป็นงานภาครัฐ 95% และเอกชน 5%

“นโยบายของรัฐที่ยังคงขยายเมืองเศรษฐกิจพิเศษ เป็นโอกาสที่จะทำให้ภาคก่อสร้างเข้าไปรับงานเหล่านี้ และยังมีโอกาสจากโครงการด้านสาธารณสุขที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการก่อสร้างโรงพยาบาล รวมทั้งศูนย์สุขภาพและระบบดูแลผู้สูงอายุ”

เช่นเดียวกับ “ณรงค์ ทัศนนิพันธ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมปี 65 จะฟื้นตัวชัดเจนหลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อปีก่อน โดยตั้งเป้าประมูลงานเพิ่ม 1,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานรับเหมาช่วงงานเสาเข็มจากผู้รับเหมาขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ปัจจุบันเตรียมเซ็นสัญญางานใหม่ อาทิ งานทางพิเศษ (ทางด่วน) และงานอาคาร อีกราว 300-400 ล้านบาท เพื่อเติม Backlog ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้ SEAFCO รับงานอยู่จำนวน 10 โครงการ คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตเครื่องจักรประมาณ 50%

ไม่ว่ากลุ่มยักษ์รับเหมาจะคว้างานมากเท่าใด รับเหมารายกลาง-รายเล็กมักได้อานิสงก์เสมอ!!!

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“Wealth Creation” สร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ด้วยธุรกิจ Megatrends

“Wealth Creation” สร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ด้วยธุรกิจ Megatrends

“Megatrend Investment” ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่าน จากผลตอบแทนการลงทุนที่น่าจูงใจ

ปัจจุบันกระแสการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Megatrends หรือเรียกว่า “Megatrend Investment” ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากภาพการเติบโตในระยะยาวที่ชัดเจนและผลตอบแทนการลงทุนที่น่าจูงใจ

ในอีกมุมหนึ่ง ชีวิตของเราก็เปรียบได้เป็นอีกหนึ่ง Megatrend สังเกตได้จากสื่อทั่วโลกให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องการวางแผนการเงินและการวางแผนการเกษียณเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก เพราะด้วยแนวโน้มอายุขัยเฉลี่ย (Life Expectancy) ของคนทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงอนาคต จากหลายปัจจัย อาทิ ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และเทรนด์การรักสุขภาพที่มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2050 อายุขัยเฉลี่ยของประชากรทั่วโลกจะมีอายุอยู่ที่ 77 ปี โดยเพิ่มขึ้นจาก 66.20 ปี ในช่วงปี ค.ศ. 2000 ดังนั้น การวางแผนเกษียณแบบเดิมๆ จึงอาจจะไม่ตอบโจทย์ด้านความเพียงพอต่อการใช้ชีวิตที่ยาวนานขึ้น

โดยการวางแผนเกษียณที่เพียงพอ และครอบคลุมช่วงชีวิตที่ยาวนานขึ้นนั้น ควรวางแผนให้เป็นไปตามเทรนด์โลกแบบ “Megatrend Retirement Planning” ซึ่งควรให้ความสำคัญทั้งเรื่องของการปกป้องความมั่งคั่ง (Wealth Protection) แบบ Megatrend Protection และการเพิ่มมั่งคั่ง (Wealth Creation) ผ่านการลงทุนในรูปแบบ “Megatrends Investment”

สำหรับการเพิ่มความมั่งคั่งในรูปแบบ “Megatrends Investment” นั้นสามารถออกแบบพอร์ตการลงทุนโดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Megatrends อาทิ Innovative Healthcare, Esports, Cloud Computing และ Cyber Security เป็นต้น เพราะบริษัทในกลุ่ม Megatrends เหล่านี้เติบโตขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยและการพัฒนาขึ้นของเทศโนโลยี

ซึ่งพอร์ตการลงทุนสำหรับการวางแผนการเงินนี้เป็นการวางแผนการลงทุนในระยะยาวที่เหมาะกับการลงทุนใน Megatrends เป็นอย่างมาก เนื่องจากในแง่ของธุรกิจ บริษัทกลุ่มนี้อาจต้องใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาที่มากในช่วงแรกเพื่อให้สินค้าและบริการของบริษัทมีการใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ส่งผลให้ในช่วงแรกราคาหุ้นอาจมีความผันผวนสูงในระยะสั้น แต่ด้วยความผันผวนนี้เองที่จะช่วยเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนสามารถทยอยลงทุนในบริษัทและเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และสุดท้ายแล้วการเติบโตเหล่านี้จะสะท้อนเข้ามาในผลประกอบการและราคาหุ้นของบริษัท

โดยเหตุการณ์นี้มีตัวอย่างให้เราเห็นเป็นที่ประจักษ์อย่างมากมาย อาทิ หุ้น Amazon และ Apple ที่เริ่มจากเป็นบริษัทเล็กๆและมีการปรับตัวเข้ากับรูปแบบพฤติกรรมของคน อีกทั้งมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาๆ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงราว 10 ปีเท่านั้น โดย Amazon ปรับตัวเพิ่มจาก 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น เป็นกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น และหุ้นของ Apple ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราว 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น เป็นราว 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตทบต้นเฉลี่ย (CAGR) +32.4% และ +28.2% ต่อปี ตามลำดับ

แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้เราจะมีการวางพอร์ตการลงทุนไว้อย่างดีเพื่อเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวแล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องมีการดูแลและใส่ใจว่าพอร์ตการลงทุนนั้นจะยังสามารถเติบไปตามที่เราคาดหรือไม่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็วอาจทำให้ Megatrends ในบางอุตสาหกรรมถูก Disrupt ได้ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในกลุ่ม E-commerce ซึ่งถูกผู้เล่นรายใหม่อย่างธุรกิจในกลุ่ม Social Media เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดในปัจจุบัน อีกทั้งตลาด E-commerce ที่เริ่มอิ่มตัวจากการคาดการณ์ของ eMarketer โดยตลาด E-commerce มีอัตราการเติบโต +25.7% YOY ในปี 2020 และคาดว่าจะเติบโตเหลือเพียง +9.0% YOY ในปี 2025 จึงทำให้การลงทุนในธุรกิจที่โดน Disrupt อย่าง E-commerce อาจไม่ได้น่าสนใจอย่างในอดีต

จะเห็นได้ว่า การวางแผนการเงินโดยเอาหุ้นในกลุ่ม Megatrends เข้ามาผสมในพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว จะสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ แต่เราก็จำเป็นที่จะต้องติดตามข้อมูล ตลอดจนปรับปรุงแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายในอนาคตอย่างยั่งยืน

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


รอเซ็นฟรี! สื่อโหม ลิเวอร์พูล เจรจาคว้าตัว “ดีบาล่า” ดาวยิงเบอร์ 1 ยูเวนตุส

รอเซ็นฟรี! สื่อโหม ลิเวอร์พูล เจรจาคว้าตัว "ดีบาล่า" ดาวยิงเบอร์ 1 ยูเวนตุส

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมล่าตัว เปาโล ดีบาล่า ศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส มาร่วมทีมแบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้ จากการรายงานของ ตุ๊ตโต้แมร์คาโต้ สื่อดังอิตาลี

โดย ดาวเตะวัย 28 ปี กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้ และยังไม่มีทีท่าว่าการเจรจาสัญญาจะเดินหน้าออกไป แถมอนาคตของเขาในถิ่น ตูริน ดูจะใกล้หมดลงเมื่อทีมเพิ่งคว้าตัว ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าฟอร์มแรงจาก ฟิออเรนติน่า มาร่วมทีม

ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่หงส์แดง สนใจที่จะคว้าตัว ดาวยิงฟ้าขาว มาร่วมทีมแบบฟรีๆ โดยสามารถเจรจาสัญญาล่วงหน้าได้ทันทีในตอนนี้หลังสัญญาฉบับปัจจุบันเหลือน้อยกว่า 6 เดือน อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายสโมสรที่ก็ให้ความสนใจเช่นกัน

สำหรับ เปาโล ดีบาล่า ย้ายมาเล่นให้กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2015 มีสถิติลงเล่นไปทั้งหมด 277 เกม ทำไป 111 ประตู และ 46 แอสซิสต์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็กำลังตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการหาแนวรุกเข้ามาสู่ถิ่นแอนฟิลด์

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เคี้ยวปาก-แลบลิ้น คล้ายผีเข้า อาจเสี่ยงโรค “สมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน”

เคี้ยวปาก-แลบลิ้น คล้ายผีเข้า อาจเสี่ยงโรค "สมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน"

อาการเคี้ยวปาก-แลบลิ้น คล้ายผีเข้า สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่มีอาการแสดงหลากหลายคล้ายโรคทางจิตเวชหรือเข้าใจว่าเป็นผลจากสิ่งเหนือธรรมชาติ หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีอาการอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

รู้จัก โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDAR สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อตัวรับชนิด NMDA (NMDA Receptor) ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติอาจจะสร้างมาจากเนื้องอกรังไข่หรือเนื้องอกอัณฑะ หรืออาจจะเกิดขึ้นเองจากการติดเชื้อไวรัสในร่างกาย หรือบางครั้งอาจตรวจไม่พบสาเหตุ 

กลุ่มเสี่ยงโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน

สามารถพบผู้ป่วยโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกันได้ทุกเพศและทุกช่วงอายุ แต่พบได้บ่อยในผู้ป่วยหญิงอายุน้อย โดยมากผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่สบายแบบไม่จำเพาะ ตามมาด้วยความผิดปกติทางระบบประสาท

อาการของโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยจะมีอาการคือ

  • มีไข้ต่ำๆ 
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • นอนไม่หลับ 
  • สับสน 
  • ก้าวร้าวหรือเซื่องซึม 
  • ประสาทหลอน 

เป็นต้น 

หากผู้ป่วยไม่ได้รับการตรวจรักษา ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ เช่น

  • เคี้ยวปาก 
  • แลบลิ้น 
  • มือและเท้าขยับไปมา
  • ชีพจรผิดปกติ 
  • อุณหภูมิร่างกายสูงหรือต่ำผิดปกติ 
  • อัตราการเต้นของหัวใจสูง 
  • ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ
  • ชักเกร็ง 
  • ซึม ไม่รู้สึกตัว
  • เสียชีวิต 

การวินิจฉัยโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน

การวินิจฉัยโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกันจะต้องทำการซักประวัติของผู้ป่วยอย่างละเอียดร่วมกับการตรวจร่างกายทางระบบประสาท และส่งตรวจเลือดร่วมกับน้ำหล่อเลี้ยงสมองร่วมไขสันหลังเพื่อหาเชื้อไวรัส และหาชนิดภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ผู้ป่วยอาจได้รับการตรวจอื่นๆ ตามอาการ เช่น การตรวจเอ็มอาร์ไอ การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง 

โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ

ปัญหาสำคัญที่ทำให้การรักษาล่าช้า เนื่องจากอาการคล้ายคลึงโรคทางจิตเวช หรือญาติเข้าใจว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ จึงละเลยการตรวจรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันโดยเฉพาะแพทย์โรคทางสมองและระบบประสาท เมื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยแล้วผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้ผลการรักษาและการฟื้นฟูของร่างกายได้ผลดีมากที่สุด เพราะทุกวินาที มีค่าสำหรับโรคสมองและระบบประสาทไขสันหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


2 สิ่งที่ควรทำ ถ้าอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ

ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น ซึ่งความสำเร็จในแบบฉบับของคนแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากทำอะไรมากแค่น้อยแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม มันมีมาตรฐานเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยนำพาเราไปสู่จุดๆ นั้นได้ และสองสิ่งที่น่าสนใจนี้คืออะไร ไปดูกันเลย

The successful habits = นิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ

Do you know what kind of habits will make you become a successful person?
1. Set the goal. = ตั้งเป้าหมาย
เมื่อเราตั้งเป้าหมาย ชีวิตของเรานับจากนี้ จะอยู่บนเส้นทางไปสู่จุดหมาย ข้อดีของมันคือ มันจะคัดกรองสิ่งที่ทำให้เรามีโอกาสไขว้เขวออกไปได้
เช่น เราตั้งเป้าหมายที่ต้องการออกกำลังกายทุกเช้า เมื่อเราตั้งเป้าหมายแบบนี้แล้ว เราก็จะทำทุกอย่างเพื่อไปสู่การออกกำลังกายทุกเช้า นอนเร็วขึ้น แบ่งเวลาดีขึ้น เพราะต้องทำตามเป้าหมายที่วางไว้

2. Reminding yourself of the goal. = เตือนตัวเองเกี่ยวกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 
การเตือนตัวเอง มันคือสิ่งที่ทำให้เรายังอยู่บนเป้าหมาย และไม่ลืมว่าเราทำเป้าหมายนี้ไปเพื่ออะไร นี่เป็นแรงจูงใจแบบง่ายๆ ที่คนอยากไปสู่จุดหมายควรมีในทุกจังหวะเวลาของชีวิต

เช่น ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะตื่นเช้าไปออกกำลังกายทุกวัน สิ่งที่เราต้องทำคือ เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า การออกไปออกกำลังกายตอนเช้านั้นสำคัญเพียงใด และทำไมเราถึงทำสิ่งนี้ เป็นต้น

ไม่ยากเลย ที่จะตั้งเป้าหมาย และเตือนตัวเองถึงเป้าหมายนั้น แค่นี้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี ที่ทำให้เราไปสู่การประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ตั้งเป้าหมายเพื่อพิชิต ให้ตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ ก็อย่าเพิ่งท้อ แอด Line @Engnow.in.th มาคุยกับแอดมินได้นะ อยากให้ทุกคนมาเก่งไปพร้อมๆ กัน สู้ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


มอบความญี่ปุ่นให้ที่อยู่อาศัยด้วยวัสดุปูพื้นและเสื่อทาทามิจาก มินิมะ เฮ้าส์ ในงานสถาปนิก’65

บริษัท มินิมะ เฮ้าส์ จำกัด ทั้งนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านนวัตกรรมล่าสุดจากญี่ปุ่น โดยเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Sole Distributor) ของพื้นไม้ลายญี่ปุ่น Ecoqueen Floor จาก Taisei Sangyo Group ผู้จำหน่ายพื้นรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น Authorized Distributor Migusa Tatami จาก บริษัท  Sekisui Seikei ประเทศญี่ปุ่น และ Authorized dealer สินค้า นวัตกรรมใหม่จากบริษัท Fukuvi

ECOQUEEN FLOOR พื้นไม้กันน้ำญี่ปุ่น

พื้นลายไม้กันน้ำจากญี่ปุ่น ECOQUEEN FLOOR ทนทานด้วยวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการกระแทก ความร้อน ความชื้น และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ กันน้ำได้ทั้งตัวพื้นไม้และตัวกาว ด้วยกาวโพลียูรีเทนคุณภาพสูงที่ใช้ติดตั้ง และสวยงามด้วยการออกแบบจากญี่ปุ่นในคอนเซปต์ “Ecology” เรียบหรูแบบมินิมัล

  • กันปลวกตลอดอายุการใช้งาน ด้วยวัสดุ Polypropylene ที่ไม่เป็นอาหารปลวก
  • ทำความสะอาดง่าย ใช้เพียงยางลบธรรมดาก็ลบรอยปากกาลูกลื่นได้
  • ทนทานต่อสารเคมีสูง ทำความสะอาดด้วยน้ำยาได้แทบทุกชนิด ไม่เว้นแม้ทินเนอร์ในปริมาณที่เหมาะสม
  • การหดขยายตัวต่ำ ลดปัญหาที่อาจเกิดในอนาคต ด้วยค่าการหด – ขยายตัวที่ต่ำเกิน 10 เท่าเมื่อเทียบกับวัสดุพื้นไม้ในท้องตลาดทั่วไป
  • ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ด้วยคะแนนสูงสุดจากการทดสอบตามมาตรฐานญี่ปุ่น ไม่มีสารระเหยที่ก่อมะเร็ง

MIGUSA TATAMI เสื่อทาทามิเสื่อทาทามิสังเคราะห์ MIGUSA TATAMI ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ ง่ายต่อการดูแลรักษาเพื่อให้ผิวสัมผัสเสมือนจริง เหมาะสำหรับห้องนอนญี่ปุ่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องเด็กเล็ก ห้องผู้สูงอายุ ห้องบัลเล่ต์ ห้องพระ ห้องสมาธิ ห้องโยคะ ห้องออกกำลังกาย ห้องหนังสือ หรือแม้แต่ห้องทานอาหารญี่ปุ่น

  • กันน้ำได้ ใช้เพียงผ้าหมาดก็สามารถทำความสะอาดได้
  • หมดกังวลเรื่องเชื้อรากลิ่นอับชื้น ต่างจากเสื่อทาทามิที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ
  • มีให้เลือกกว่า 70 สี ที่ไม่ซีดจางทนทานนานหลายปี พร้อมสีพิเศษการันตีด้วยรางวัล Good Design Award เตรียมเปิดตัวในงานสถาปนิก’65 นี้
  • วัสดุปราศจากสารพิษ
  • พื้นผิวไม่ลื่น
  • พร้อมปูใช้งานได้ทันที เพียงนำมาวางบนพื้นในห้อง

TATAMI LIVING CORNER ชุดตั่งทาทามิ เอนกประสงค์TATAMI LIVING CORNER เป็นชุดตั่งอเนกประสงค์ ที่สามารถเป็นได้ทั้งมุมโซฟา เตียงเตี้ยญี่ปุ่น โซนนั่งเล่นญี่ปุ่น มุมเด็ก หรือมุมอ่านหนังสือเป็นต้น สวยงามเข้าได้กับทุกที่ในบ้าน คอนโดมิเนียม หรืออะพาร์ตเมนต์

  • สำหรับวางด้านบนด้วยเสื่อทาทามิ MIGUSA TATAMI คุณภาพดี
  • สามารถเลือกบรรจุของภายในได้ปริมาณมากด้วย Tatami Storage Box แบบเปิดฝาบน ใช้ได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีด้านข้างและด้านหน้าสำหรับลิ้นชัก
  • หรือเลือกบรรจุของภายในด้วย Tatami Drawer ทีเป็นแบบลิ้นชัก นำของเข้าออกได้สะดวกรวดเร็วอย่างง่ายดาย

Safety Bath Floor “Ankara Plus” จาก Fukuviพื้นกันลื่น ลดแรงกระแทก เพื่อคนที่คุณรัก ปลอดภัย สำหรับทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก

  • ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ผลิตคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น
  • การันตีด้วยรางวัลการดีไซน์ และวัสดุดีเยี่ยมจากญี่ปุ่น

อีกทั้งยังมีพื้นลดแรงกระแทกภายในบ้าน/อาคาร ที่พร้อมเทคโนโลยี Anti-Virus / Anti-Bacteria สำหรับผู้สูงอายุ  รวมทั้งเสื่อ Migusa Tatami สีใหม่ รุ่นใหม่ เตรียมเปิดตัวในงานสถาปนิก’65 อีกด้วย

พบคุณภาพและการออกแบบจากญี่ปุ่นในวัสดุปูพื้นและเสื่อทาทามิ จาก มินิมะ เฮ้าส์ ที่งานสถาปนิก’65พบคุณภาพและการออกแบบจากญี่ปุ่นในวัสดุปูพื้นและเสื่อทาทามิจาก มินิมะ เฮ้าส์ ที่บูธหมายเลข F205/1 ในงานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 27/01/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,450.0028,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,843.0027,939.8829,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,658.7025,145.89n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,474.4022,351.90n/a
ทองรูปพรรณ 50%829.0012,567.64n/a
ทองรูปพรรณ 40%645.009,778.20n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,910.0028,955.60n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27/01/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9533.5533.5534.1533.5533.5533.5533.9533.5533.5533.55
แก๊สโซฮอล์ 9133.2833.2833.8833.2833.2833.2833.6833.2833.2833.28
แก๊สโซฮอล์ E2032.2432.2432.8432.2432.3432.6432.2432.2432.24
แก๊สโซฮอล์ E8525.5425.5425.54
เบนซิน 9540.9641.4141.8641.4640.96
ดีเซล B729.9429.9431.4430.3430.6429.9430.4430.2430.3429.94
ดีเซล29.9429.9431.4430.3430.6429.9430.4430.2430.3429.94
ดีเซล B2029.9429.9431.4430.6430.4430.2429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม35.9635.9637.8936.8637.3935.96
แก๊ส NGV

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า