CEO กรณ์ ณรงค์เดช “ไรมอนแลนด์จะโฟกัสอัลตราลักเซอรี่”
ไตรมาส 4/65 คอนโดมิเนียมอัลตราลักเซอรี่ของเมืองไทยแบรนด์ “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” ทำเลสุขุมวิท 26 ประกาศความพร้อมเริ่มส่งมอบห้องชุดห้องแรกให้กับลูกค้า มูลค่าโครงการ 5,200 ล้านบาท ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้มีลูกค้ารับโอนมูลค่า 2,000 ล้านบาท
“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “กรณ์ ณรงค์เดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) ถึงประสบการณ์ที่ตกผลึก 1 ปีครึ่ง ในฐานะคีย์แมนที่เข้ามารันโอเปอเรชั่นไรมอนแลนด์ ทิศทางองค์กร กับหมุดหมายที่จะลงทุนในอนาคตบนเซ็กเมนต์ซูเปอร์หรูที่หาผู้ประกอบการทำแล้วประสบความสำเร็จได้ยากยิ่ง
Q : อัพเดต ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ไตรมาส 3 ส่งสัญญาณฟื้นตัวจากปัจจัยบวกในหลาย ๆ ด้าน ช่วยกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯโดยรวมให้กลับมา โดยเฉพาะกำลังซื้อของชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาจากการเปิดประเทศ
ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ คอนโดมิเนียม ultra-luxury ใจกลางถนนสุขุมวิท เป็นโครงการร่วมทุนกับโตเกียว ทาเทโมโนะ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เตรียมให้ลูกบ้านเข้าตรวจรับมอบห้องเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป ทำเลใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และดิ เอ็มโพเรียมเพียง 2 นาที
ล่าสุด ยอดขายวิ่งแล้ว 70% เป็นลูกค้าต่างชาติ 40% ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น รัสเซีย ออสเตรเลีย ฯลฯ คาดว่าน่าจะเต็มโควตา 49% แน่นอน เห็นได้จากความสำเร็จในยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ผ่านมาหลายโครงการของไรมอน แลนด์ อาทิ โครงการ 185 ราชดำริ, เดอะ ริเวอร์, เดอะ ดิโพลแมท 39, เดอะ ลอฟต์ สีลม เป็นต้น
ภาพรวมครึ่งปีหลังของบริษัทค่อนข้างดี ไตรมาส 3/65 เราทำยอดขายดับเบิลจากเป้าที่ตั้งไว้ แต่ยอดขายดีอาจไม่ไปทิศทางเดียวกับผลประกอบการในเรื่องยอดรับรู้รายได้ เพราะครึ่งปีหลังเราอาจไม่ได้มีโครงการเยอะ ทำให้ (ตัวเลข) ฟันหลอนิดนึง ยอดขายดีแต่ผลประกอบการด้านรายได้อาจจะสวนทางนิดนึง
หลังจากนี้แผนธุรกิจเราปรับหมดแล้ว ภายใน 3-5 ปี ได้เห็น turn around ที่ชัดเจนแน่นอน เรื่องนี้มั่นใจมาก ๆ ครับ ซึ่งการบริหารจัดการพร็อพเพอร์ตี้เหมือนเข้าง่าย แต่ขั้นตอนเยอะ เป็น experience ที่ต้องเรียนรู้จากการทำงานจริง และหลังจากนี้ทาร์เก็ตเซ็กเมนต์ราคา 10 ล้านน่าจะเห็นที่ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ เป็นโครงการสุดท้าย (ยิ้ม)
Q : นั่ง CEO ไรมอนแลนด์ปีครึ่ง วางบิสสิเนสโมเดลยังไง
สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจคือทีมที่เรามี ต้องบอกว่า ตอนที่เคพีเอ็นกรุ๊ปตัดสินใจเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไรมอนแลนด์ ชอบคนที่นี่มาก มีคุณภาพสูงมาก ๆ ภาษาอังกฤษเก่ง ไฟแลบกว่าผมอีก มีโนว์ฮาวที่แข็งแรง ในเรื่องแบรนด์ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง ช่วงหลัง ๆ อาจจะแผ่ว ๆ ไปไม่เท่าสมัยก่อน
เรื่องกลยุทธ์สต๊อกเก่าเราไม่เหลือแล้ว ผมเข้ามาเดือนธันวาคม 2020 เรามีสต๊อก 1,800 ล้านบาท ที่พร้อมโอน ปัจจุบันเหลือ 50 ล้าน โครงการทั้งหมด ตอนที่เราเข้ามาบริหาร จุดแข็งไรมอนแลนด์คืออะไร แน่นอน ฐานลูกค้าค่อนข้างแข็งแรง ทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ และลูกค้าทั้งหมดเป็น VVIP Customer ที่ซื้อกับเรา 3-4 โปรเจ็กต์ในท็อปสเปนเดอร์จะเยอะมาก
เรื่องที่ 2 เมื่อพูดถึงไรมอนแลนด์ คนจะนึกถึงสินค้าลักเซอรี่ ฉะนั้นเวลาพูดถึงลักเซอรี่ อยากให้คนนึกถึงไรมอนแลนด์ เป็นภาพจำที่คนจะนึกถึง และเราเป็นแพลตฟอร์มโพรไวเดอร์ หมายความว่าแบรนด์ต่าง ๆ จากเมืองนอก เวลาจะเข้ามาลงทุนในเมืองไทย อยากเข้ามาร่วมทุน เราอยากให้นึกถึงไรมอนแลนด์เป็นรายแรก ๆ ของเมืองไทยที่จะทำลักเซอรี่
อย่างลิสต์ลูกค้าเราค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร โครงการนี้ (ดิ เอสเทลล์ฯ) ตอนเข้ามามียอดขาย 50% ปัจจุบันขึ้นไปถึง 70% ส่วนคอนโดเทตต์ สาทร 12 ยอดขายขึ้นไป 85% และมีการปรับโปรดักต์ไประหว่างทาง เราภูมิใจว่าเรารู้ว่าลักเซอรี่คืออะไร
ทุกตึกที่เราสร้าง เราไม่ได้ขายคอนโดฯ แต่เราอยากสร้างให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ เพราะเราอยากเป็นส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่เจริญ มีตึกที่สวยงามมากมาย จะเห็นว่าทุกตึกของเราใช้ผู้ออกแบบระดับโลกหมด ไม่อายใคร อย่างตึก “วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์” คนออกแบบเป็นคนเดียวกับคนที่อออกแบบตึกเบิร์จคาลิฟาห์ที่ดูไบ
ฉะนั้นเราอยากให้เป็นแลนด์มาร์ก เราอยากภูมิใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กรุงเทพฯ หรือประเทศไทยเป็นเมืองศิวิไลซ์ ให้ชาวต่างชาติรับรู้ว่าคนไทยมีอะไรจริง ๆ มากมาย
Q : เพนพอยต์อสังหาฯ คืออะไร
เพนพอยต์ของเราคือ 1.เรื่องของโครงการ ที่ผ่านมาแพลตไลน์ไม่ได้วางมาสำหรับลองเทอม ฉะนั้นการรับรู้รายได้แหว่ง ๆ ไปนิด ๆหน่อย ๆ (ไม่มีแผน rolling plan) 2.เรื่องการใช้เวลานานในการดีเวลอปโครงการ เช่น ซื้อที่ดินกว่าจะออกแบบ เปิดขาย ใช้เวลา 3-4-5 ปี มีค่าดอกเบี้ย ปัจจุบันเราอยากจะสปีดอัพทุกอย่าง เจวีหรือการลงทุนเอง เราอยากดีเวลอปให้เร็ว ซื้อที่ปุ๊บเปิดขายโครงการได้เลย
3.ที่ผ่านมา พอโครงการมีตั้งแต่ไฮเอนด์จนถึงมิดเรนจ์ ซึ่งกลุ่มมิดเรนจ์มีปัญหาเรื่องลูกค้าไม่ผ่อนต่อ ไม่รับโอน ซึ่งตรงนี้ตอนนี้หายไปเยอะแล้วพอมาทำลักเซอรี่ default rate ตอนนี้ถือว่าต่ำมากแล้ว
นิยามอัลตราลักเซอรี่ผมมองราคา 4-5 แสนบาท/ตร.ม.หมดแล้ว โครงการใหม่ ๆ เราเกียร์ไปตรงนี้หมดแล้ว ในด้านการอัพราคาโครงการเก่า เช่น ดิโพลแมท สุขุมวิท 39 ตอนเปิดขายปี 2561 เริ่มที่ 1.8 แสน/ตร.ม. และมาแตะ 2 แสน/ตร.ม.หลังจากเปิดขายได้ 2-3 เดือน ล่าสุดเพิ่งรีเซล 3.5 แสน/ตร.ม. ขึ้น 25%, คอนโด 185 ราชดำริ เปิดตอนแรกขาย ตร.ม.ละ 2 แสน ล่าสุดลูกค้าขายไปได้ราคา 5 แสน
นิยามตลาดระดับกลาง 1.5-1.6 แสน/ตร.ม. เริ่มมีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มองซื้อเพื่อการลงทุนทำกำไร อยากจะซื้อและขายก่อนโอนกรรมสิทธิ์ พอมาทำโมเดลใหม่อย่าง เอสเทลล์ คอนโด ทำห้องใหญ่ การปล่อยเช่าอาจจะปล่อยเช่ายากหน่อย ส่วนมากอยู่เอง (ลูกค้า real demand) ทำให้ default rate จะต่ำลงไป
ส่วนกรณีถ้าซื้อลงทุน ผลตอบแทนค่อนข้างโอเค อย่างดิ เอสเทลล์ฯ เอเจนต์เซอร์เวย์แล้วค่าเช่าน่าจะ ตร.ม.ละ 1,000 บาท ขึ้นกับการตกแต่งของลูกค้า
บิสสิเนสโมเดลหลังจากนี้ ถ้าพูดถึงโครงการมองเฉลี่ยปีละ 3 โครงการ ถ้าโปรเจ็กต์แวลูโครงการใหญ่อาจเหลือสัก 2 โครงการ เฉลี่ยโครงการใหม่มูลค่าโครงการละ 7,000-8,000 ล้านบาทได้
Q : ความเป็นณรงค์เดชนำจุดแข็งมาใช้กับอสังหาคืออะไร เช่น แลนด์แบงก์ โนว์ฮู …
โนว์ฮูใช้ไปเยอะแล้ว เพราะเพื่อนก็ซื้อแทบจะทุกตึกแล้ว (หัวเราะ) สิ่งที่อยากคือ know more people จริง ๆ โนว์ฮาวเป็นเรื่องที่เราค่อนข้างภาคภูมิใจ ได้มีโอกาสเดินทางท่องโลก ได้เห็นโน่นเห็นนี่ ไม่ได้คิดว่าเราไปเที่ยวอย่างเดียว ทุกครั้งผมจะไม่อยู่โรงแรมเดิม ผมจะมองหาเทรนด์ตลาดว่าตอนนี้โลกเป็นอย่างนี้ และงานแฟร์ต่าง ๆ แฟร์เฟอร์นิเจอร์ ผมชอบไปเดินดู มิวเซียม เป็นอะไรที่เราอินอยู่แล้ว พอไปดูเห็นไอเดียเอามาปรับ
และเราก็เคยอยู่คอนโดมิเนียม เรารู้ไลฟ์สไตล์คนอยู่คอนโดฯ ต้องการอะไร ไม่ใช่เดินเข้ามาห้องตัวอย่างสวยแต่อยู่จริงแล้วทำไมเละจัง มันต้องมีที่เก็บของ ต้องมีโน่น ๆ นี่ ๆ ยิ่งตอนนี้มีลูก (น้องกวินท์) ก็ยิ่งมีโนว์ฮาว มีลูกเล็กไลฟ์สไตล์คนต้องการอะไร หรือคนที่มีสัตว์เลี้ยงจะอยู่เป็นสุขกับคนที่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงได้ยังไง
ผมเจอฝรั่งทุกคน ไม่เคยมีฝรั่งคนไหนบอกว่า ไม่ชอบเมืองไทย
Q : ติดใจอสังหาฯหรือยัง
อสังหาฯ เป็นอะไรที่ชอบอยู่แล้ว ภาพลองเทอมถ้าสมมติบริษัทแข็งแรงแล้ว ผมอยากผลักตัวเองออกไปดูภาพใหญ่ เพราะตัวผมเองจริง ๆ ถนัดเรื่องดีไซน์กับมาร์เก็ตติ้ง ก็อยากได้โปรเฟสชันนอลมาร่วมงานในอนาคต ก็ดู ๆ อยู่ คุณสมบัติทำงานด้วยกันต้องเป็นคนที่จริตตรงกันนิดนึง มีความอินเตอร์นิดนึง เพราะเราทำแต่แบรนด์ต่างประเทศหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
มือใหม่!ต้องรู้ เตรียมพร้อม ‘ซื้อบ้าน’อย่างไร?ไม่ให้แผนสะดุด
ดีดีพร็อพเพอร์ เปิดแนวทาง เตรียมความพร้อม ก่อน ‘ซื้อบ้าน’How to รับมือสารพันปัญหาระหว่างทางอย่างไร เมื่อคิดเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย
26 ต.ค.2565 – แม้จะมีการวางแผนเพื่อเตรียม ซื้อบ้านหรือ ที่อยู่อาศัย อย่างดีเพียงใดก็ตาม แต่บ่อยครั้งที่พบว่า ผู้ซื้อมือใหม่ก็อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายหรือปัญหาต่าง ๆ ในระหว่างขั้นตอนการซื้อขายอสังหาฯ ได้ จึงควรหาข้อมูลเพื่อรับมือกับปัญหาไว้ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study เปิดผลสำรวจ แล้วพบว่า เรื่องที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความรู้น้อยที่สุดเมื่อต้องซื้อที่อยู่อาศัยอันดับแรก คือ
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้าน/คอนโดฯ (19%)
- เรื่องภาษี (16%)
- ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย
- สินเชื่อบ้าน/คุณสมบัติทางการเงินในสัดส่วนที่เท่ากัน (12%)
สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
ทั้งนี้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) จึงรวบรวมปัญหาอันดับต้น ๆ ที่ผู้ซื้อบ้าน/คอนโดฯ มักเผชิญ พร้อมแนะนำแนวทางบริหารจัดการและรับมือ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เตรียมพร้อมป้องกันก่อนเกิดปัญหา
- เงินออมไม่มี เงินดาวน์ไม่พร้อม
แม้ผู้บริโภคจะสามารถยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากธนาคารได้ แต่สิ่งที่หลายคนมักลืมนึกถึงคือ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการทำธุรกรรมรวมทั้งเงินดาวน์ ซึ่งผู้บริโภคต้องมีการวางแผนออมเงินก้อนเพื่อใช้ในการวางเงินดาวน์ตอนทำสัญญาด้วย เนื่องจากปกติแล้วธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน (เลือกราคาที่ต่ำกว่า) ดังนั้นผู้ซื้อต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 20% ของราคาซื้อขายเพื่อเป็นเงินดาวน์จ่ายให้กับผู้ขาย
อย่างไรก็ตาม บางโครงการอาจมีการร่วมมือกับธนาคารซึ่งทำให้ผู้กู้ซื้อบ้านได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเองก็จะน้อยตามไปด้วย ขณะเดียวกัน โครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จจะให้ผู้บริโภคสามารถผ่อนดาวน์กับโครงการได้โดยตรง แต่จะมีทั้งผ่อนดาวน์เท่ากันทุกงวด หรืออาจมีงวดบอลลูน ซึ่งเป็นงวดที่ต้องจ่ายเงินสูงกว่างวดดาวน์ปกติ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยคือต้องเริ่มเก็บออมเงินเพื่อสำรองใช้ในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ ด้วย
- ยื่นกู้แต่ไม่ผ่าน
ขั้นตอนนี้เป็นช่วงที่ผู้บริโภครอลุ้นผลอย่างใจจดใจจ่อ แม้จะมีการเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ก็มีโอกาสที่จะกู้ไม่ผ่านได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของแต่ละธนาคาร/สถาบันการเงิน ส่วนใหญ่จะมีขั้นตอนการพิจารณาที่คล้ายคลึงกันจากข้อมูลในแบบฟอร์มยื่นแสดงความจำนงขอกู้ และหลักฐานประกอบการขอกู้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด การไม่ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่ออาจมีสาเหตุมาจากการส่งเอกสารไม่ครบ ฐานเงินเดือนหรือรายได้หลักไม่มั่นคงเพียงพอ มีภาระหนี้มากเกินไป หรือมีประวัติทางการเงินที่ไม่ดีมาก่อน ดังนั้น ผู้บริโภคควรเลือกธนาคารสำรองเผื่อไว้เป็นอีกทางเลือกในกรณีที่ธนาคารแรกกู้ไม่ผ่านด้วย และหากต้องการยื่นกู้อีกครั้ง ควรกลับมาวางแผนการเงินใหม่ให้มีความมั่นคงมากขึ้น เร่งเคลียร์ปัญหาหนี้สินหรือประวัติการค้างชำระต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน
- วัสดุ/เฟอร์นิเจอร์ไม่เป็นไปตามโฆษณา
การเลือกซื้อโครงการบ้าน/คอนโดฯ ที่สร้างไม่เสร็จนั้น อาจมีความเสี่ยงที่จะเจอปัญหาวัสดุ/เฟอร์นิเจอร์ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ในตอนแรก หรือพื้นที่ส่วนกลางไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ ในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนเซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อควรเก็บเอกสารโบรชัวร์เสนอขาย โปรโมชั่น รวมทั้งรายละเอียดในสัญญาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแจ้งให้ทางโครงการปรับแก้ไขจุดบกพร่องหรือเจรจาร่วมกันเพื่อขอรับการเยียวยาอย่างอื่นทดแทน ส่วนกรณีที่ก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ตกลงซื้อขายกันนั้น ผู้บริโภคสามารถไปที่เขตเพื่อขอดูเลขที่ใบอนุมัติ และนำเลขดังกล่าวไปขอดูพิมพ์เขียวของโครงการที่ขออนุญาตก่อสร้างที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อตรวจสอบว่าสร้างตรงตามแบบที่ทำการประกาศขายหรือไม่
หากพบว่าสร้างไม่ตรงกับที่โฆษณา และ/หรือ ไม่ตรงกับการยื่นขออนุญาตไป ผู้ซื้อสามารถนำหลักฐานดังกล่าวยกเลิกสัญญากับทางโครงการได้ และขอเงินที่ชำระไปแล้วทั้งหมดคืน เพราะการก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา
- โครงการขอ EIA ไม่ผ่าน
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA (Environmental Impact Assessment Report) มีบทบาทในการควบคุมไม่ให้โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงการที่อยู่อาศัยใดที่ทำ EIA ไม่ผ่านจะไม่สามารถก่อสร้างต่อได้ แต่บางโครงการมักเปิดขายล่วงหน้าก่อนยื่นเรื่องขอ EIA หรืออยู่ระหว่างการขอ EIA ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ผู้ซื้อต้องลุ้นในอนาคต ถ้าโครงการขอ EIA แล้วไม่ผ่าน จะต้องคืนเงินจองและเงินดาวน์ทั้งหมดให้ผู้ซื้อตามกฎหมาย หากผู้ซื้อยังสนใจเป็นเจ้าของห้องชุดนั้นอยู่ ควรสอบถามแนวทางแก้ไขกับโครงการว่าจะยื่นแก้ไขจนกว่า EIA จะผ่านหรือไม่และใช้เวลาเท่าไร แต่ถ้าผู้ซื้อไม่ต้องการรอ ควรสอบถามว่าโครงการจะสามารถคืนเงินจองเต็มจำนวนให้ได้ภายในเมื่อไร หากไม่มีความชัดเจนหรือไม่มีความคืบหน้า ผู้ซื้อที่เสียหายควรรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิ์เป็นกลุ่ม ไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจในท้องที่ และติดต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้ช่วยเหลือ
- โครงการเสร็จล่าช้าหรือสร้างไม่เสร็จ
อาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาด้านการก่อสร้างหรือสภาพคล่องของโครงการเอง ซึ่งผู้บริโภคควรตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาตั้งแต่ต้นว่าทางโครงการมีการระบุความรับผิดชอบในกรณีที่สร้างเสร็จล่าช้ากว่ากำหนด หรือสร้างไม่เสร็จอย่างไรบ้าง หากโครงการสร้างเสร็จล่าช้าโดยมีสาเหตุมาจากผู้ขายหรือผู้ประกอบการ กรณีนี้ผู้ขายต้องจ่ายค่าปรับให้กับผู้ซื้อเป็นรายวัน อัตราวันละ 0.01% ของราคาซื้อขาย จนกว่าจะมีการสร้างแล้วเสร็จและทำการส่งมอบให้ผู้ซื้อเป็นที่เรียบร้อย หรือแล้วแต่การเจรจาตกลงเป็นกรณีไป ส่วนกรณีที่คอนโดฯ สร้างไม่เสร็จหรือหยุดสร้าง โดยไม่มีการชี้แจงหรือแสดงความรับผิดชอบในการชดเชยเยียวยาให้กับผู้ซื้อ ผู้ซื้อมีสิทธิ์ขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ พร้อมกับสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ 7.5% ต่อปี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดบวก 194.17 จุด ขานรับจีดีพี Q3 ขยายตัวกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัวสูงกว่าคาด อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ เปิดเผยตัวเลขกำไรที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งการขาดทุนในธุรกิจเมตาเวิร์ส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,033.28 จุด เพิ่มขึ้น 194.17 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,807.30 จุด ลดลง 23.30 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,792.67 จุด ลดลง 178.32 จุด หรือ -1.63%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับ GDP ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถรับมือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า GDP Price index ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 4.1% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.3% ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.95 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.16 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.499 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.433 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแคทเธอร์ พิลลาร์เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 4.37% หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ทะยานขึ้น 7.79% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปรับตัวขึ้น 0.72% หุ้นฮันนีเวลล์ พุ่งขึ้น 3.27%
หุ้นแมคโคนัลด์ พุ่งขึ้น 3.27% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.68 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.58 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ระดับ 5.87 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.69 พันล้านดอลลาร์
หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 1.49% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 96 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 90 เซนต์ และรายได้อยู่ที่ 2.985 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.965 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่าไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.64 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.89 ดอลลาร์
ขณะเดียวกันเมตาระบุว่า Reality Labs ซึ่งเป็นแผนกที่เมตาสร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เมตาเวิร์ส ประสบภาวะขาดทุน 3.67 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีนี้ Reality Labs มีตัวเลขขาดทุนมากถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4 จะอยู่ในช่วง 3.0-3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเมตาได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นเมตา ทรุดตัวลงรุนแรงถึง 24.56% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.98% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.85% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 4.06% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.05%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.6%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“บาส-ปอป้อ” พ่ายคู่จีน ตกรอบขนไก่ เฟร้นช์ โอเพ่น
“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พลาดท่าพ่ายคู่ใหม่จากจีนอีกครั้ง ในการแข่งขันแบดมินตันระดับเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 750 รายการ “โยเน็กซ์ เฟร้นช์ โอเพ่น 2022” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม
คู่ผสม รอบแรก “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มือ 1 โลก และมือวาง 1 ของรายการ พบกับ เฟิง เหยียน เจ๋อ-หวง ตง ปิง คู่ใหม่จากจีนซึ่งหวง ตง ปิง มีดีกรีเป็นแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2020 คู่ผสม(คู่กับหวัง ยี่ ลู่) โดยบาส-ปอป้อเพิ่งแพ้มาในรอบสอง “เดนมาร์ก โอเพ่น 2022” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 0-2 เกม 19-21, 21-23 ก่อนคู่ของจีนจะไปคว้ารองแชมป์ในรายการนี้
เกมนี้ ปรากฏว่า คู่ของจีนเล่นได้เหนียวแน่นและเฉียบขาดกว่า เอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 2-1 เกม 21-14, 14-21, 21-14 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 13 นาที
ด้านชายคู่ รอบแรก “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ-“สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน มือ 21 โลก แพ้ มาร์ค แลมส์ฟุสส์-มาร์วิน ซีเดล มืออันดับ 11 โลกจากเยอรมนีไปอย่างหวุดหวิด 1-2 เกม 21-18, 19-21, 20-22
ชายเดี่ยว รอบแรก “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มือ 36 โลก ชนะ ชิ หยู ฉี มือ 40 โลกจากจีน 2-0 เกม 21-16, 21-14
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำไม “คนไทย” ถึงเป็น “โรคหัวใจ” กันเยอะ?
“หัวใจ” อวัยวะขนาดเล็กเท่ากำปั้น แต่มีความสำคัญต่อร่างกาย เพราะทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ และเนื่องจากเป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อน เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ป่วยจึงอาจไม่ทราบในทันที ทำให้โรคหัวใจเป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตของผู้คนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย จากสถิติกระทรวงสาธารณสุข (16 กันยายน 2561) พบว่ามีจำนวนคนไทยที่ป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 432,943 คน มีอัตราการเสียชีวิตถึง 20,855 คน ต่อปี หรือ ชั่วโมงละ 2 คน
รศ. นพ. สุพจน์ ศรีมหาโชตะ สาขาวิชาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อุปนายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้ความรู้และตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหัวใจ เพื่อให้คุณได้เข้าใจและสามารถดูแลหัวใจดวงน้อยนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น
ทำไมเป็นโรคหัวใจกันเยอะ?
ในปัจจุบัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ นับได้ว่าเป็นโรคหัวใจที่คนไทยเป็นกันมากที่สุด โดยเกิดจากผนังของหลอดเลือดหัวใจ (Coronary) เสื่อมสภาพส่งผลทำให้ไขมันและเนื้อเยื่อต่างๆ ก่อตัวหนาขึ้นและทำให้เกิดการอุดตันภายในหลอดเลือดหัวใจ เป็นเหตุให้หลอดเลือดหัวใจเกิดการตีบและตันส่งผลให้การไหลเวียนเลือดภายในหัวใจมีประสิทธิภาพลดลงและสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ ท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลให้เกิด “ภาวะหัวใจล้มเหลว” ได้ในที่สุด
นอกเหนือจากปัจจัยด้านอายุ เพศ ที่ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแล้ว ปัจจัยทางพันธุกรรม อย่างการมีพันธุกรรมผิดปกติ การมีฮอร์โมนทางเพศไม่สมดุล หรือพันธุกรรมที่ส่งผลให้เกิดไขมันมากผิดปกติ เป็นต้น และปัจจัยด้านพฤติกรรมและปัญหาสุขภาพ ที่มีความเสี่ยง และส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพอย่าง การสูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย ทานอาหารไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ก็ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยเช่นกัน
ลดเสี่ยงโรคเบาหวาน-ความดัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เท่ากับลดเสี่ยงโรคหัวใจ
สิ่งที่สำคัญในการลดอัตราการเกิดโรคหัวใจคือการควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเสี่ยง ดูแลรักษาสุขภาพและลดปัจจัยเสี่ยงของโรคอื่นๆ อย่าง โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคอ้วน ฯลฯ ที่มีปัจจัยเกี่ยวเนื่องและส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพได้
นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายให้พอเหมาะไม่หนักเกินไปอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อสุขภาพและการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ เช่น การสูบบุหรี่ ควบคุมอาหารและทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูงจนเกินไป จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจหาความเสี่ยงและวางแผนการป้องกัน
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ภาวะรุนแรงต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อชีวิต อย่าง “ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” และ “ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน” ซึ่งเป็นผลมาจากไขมันที่สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดเกิดการแตกตัวออกและเกิดลิ่มเลือดอุดตันแบบเฉียบพลัน เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดข้อบ่งชี้ที่แสดงอาการของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกในขณะออกกำลังกาย มีอาการเหนื่อยผิดปกติ หรืออาจจะมีอาการเป็นลมล้มหมดสติ ซึ่งจะต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูอาการและรักษาโดยด่วนเพื่อป้องกันการเกิดภาวะเฉียบพลันและเสียชีวิตนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำขยายกริยาสำหรับใช้บอกเวลา (Tenses and Time Adverbs) ที่ใช้ร่วมกับ Present และ Past Simple
เวลาที่เราต้องการจะถามว่าเมื่อไหร่ (when) นานแค่ไหน (how long) หรือบ่อยแค่ไหน (how often) ที่มีการกระทำบางอย่างเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องใช้คำบอกเวลาสำหรับขยายกริยา (time adverb) ด้านล่าง เรามีไกด์คร่าวๆเกี่ยวกับ adverbs ที่จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มใช้คำเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นเวลาที่พูดหรือเขียน
บอกจุดของเวลา
Time adverbs ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่บอกถึงช่วงเวลาอย่างเจาะจงทั้งในปัจจุบัน อดีต และอนาคต เช่น
- now
- today
- yesterday
- tomorrow
- tonight
- last month
- later
เรามักจะใช้ adverbs เหล่านี้วางไว้ที่ท้ายของประโยค แต่ก็สามารถวางไว้ที่หน้าประโยคได้เช่นกัน นี่คือตัวอย่าง
I’m busy now. I’ll call you later.
Can the doctor see me today?
Where were you yesterday? I didn’t see you.
We’re playing basketball tomorrow.
He’s coming home tonight.
The orders went very well last month.
เพื่ออธิบายว่าบางสิ่งเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน เราสามารถใช้ adverb เพื่อบอกความถี่ ได้แก่
- always
- often
- frequently
- usually
- normally
- sometimes
- occasionally
- rarely
- never
Adverb ที่บอกเกี่ยวกับความถี่มักจะถูกวางอยู่ระหว่างประธาน (คน) และกริยา (verb การกระทำ) ตัวอย่างเช่น
I’m fed up! You always arrive late!
We often watch television in the evenings.
My parents frequently call on Sundays.
As children we usually went to bed at 9pm.
The boss normally starts work before everyone else.
I sometimes do aerobics at the gym.
The last editor occasionally made typing mistakes.
They rarely listen to music.
He never gets up early.
มีข้อยกเว้นในการวาง adverb ที่บอกเรื่องความถี่ในกรณีมีการใช้ verb to be ในกรณีนี้ adverb บอกความถี่จะต้องถูกวางตามหลัง verb to be ตัวอย่างเช่น
It’s often cold here during the winter.
He’s usually very reliable.
เราสามารถ adverb ตัวอื่นเพื่อบอกเรื่องความถี่ได้ เช่น
- hourly
- daily
- weekly
- monthly
- quarterly
- annually
adverbs เหล่านี้จะต้องถูกวางไว้ที่หลังประโยค นี่คือตัวอย่าง
The radio broadcasts the news hourly.
When he was at university, he phoned his parents daily.
We do our main food shopping weekly.
They release a new edition of the magazine monthly.
The board of directors meet up quarterly.
I earn about £20,000 annually.
Adverb ที่บอกช่วงความยาวของเวลา
เวลาที่เราต้องการอธิบายว่าบางอย่างเกิดขึ้น (และยังส่งผลอยู่ถึงปัจจุบัน) หรือจะเกิดขึ้น เราสามารถใช้ adverbs เหล่านี้
- for
- since
เราใช้ ‘for’ กับระยะของเวลา ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งในปัจจุบัน อดีตหรืออนาคต ในขณะที่เราใช้ ‘since’ กับจุดของเวลาที่แน่นอน ดังนั้น มันจึงมักจะถูกใช้แค่ในประโยค present perfect simple และ present perfect continuous ตัวอย่างเช่น
We’re staying here for three nights.
She’ll be away for ten days.
They lived in France for nine months.
I’ve worked here for two years.
She’s been the manager since 2012.
We’ve known them since last year.
He’s been playing tennis since he was a child.
Adverb ที่ใช้เพื่อบอกความสัมพันธ์ของเวลา
มี adverbs ตัวอื่นที่เราสามารถใช้เพื่อพูดถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตหรืออนาคตซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน adverbs เหล่านี้ได้แก่
- yet
- already
- still
- before
- after
- lately
- recently
- soon
- previously
- earlier
Adverb เหล่านี้มักจะถูกวางไว้ที่หลังประโยค ยกเว้น ‘already’ และ ‘still’ ที่จะต้องวางอยู่ระหว่างประธานและกริยา หรือตามหลัง verb ช่วย (auxiliary/modal verb) ถ้ามี นี่คือตัวอย่าง
Have you finished yet?
I’ve already eaten.
I dropped my phone but it still works!
Where’s Suzanne? I saw her before.
We got there at 4pm and they arrived ten minutes after.
Things have been really busy lately.
Have you seen any good films recently?
See you soon!
Now you work here, but what did you do previously?
Are you hungry? No, I went to the canteen earlier.
อย่างที่ทุกคนได้เห็น adverbs ที่ใช้บอกเวลาเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการสื่อสาร ลองฝึกและพยายามใช้ให้มากที่สุดเวลาที่คุยกับคนอื่นหรือเวลาที่เขียนประโยค การสร้างตัวอย่างขึ้นมาเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสรุปความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
ห่วง SME เป้าโจรไซเบอร์ จ้องขโมยพาสเวิร์ด
อาชญากรรมไซเบอร์ รุกหนักโจมตี SME เผยกิจกรรมอันตราย 6 เดือน อาชญากรไซเบอร์ได้โจมตีผ่านเว็บจำนวน 11,298,154 รายการ ขณะที่โจรไซเบอร์ จ้องส่งโทรจันขโมยพาสเวิร์ด เพื่อใข้เข้าถึงระบบองค์กรขนาดใหญ่-หน่วยงานสำคัญในซัพพลายเชน พบโทรจันขโมยพาสเวิร์ด จำนวน 373,138 รายการ
ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMB) เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน SMB คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของธุรกิจเอกชนทั้งหมดในภูมิภาคนี้ มีบทบาทในการสร้างการจ้างงาน การส่งออก และการเติบโตของ GDP ในแต่ละประเทศและระดับภูมิภาค
ธุรกิจขนาดกลางและเล็กได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์ที่เกิดจากการระบาดครั้งใหญ่ และในตอนนี้กำลังรับอีคอมเมิร์ซและระบบดิจิทัลเพื่อฟื้นตัวจากการสถานการณ์ยืดเยื้อด้วยข้อจำกัดทางกายภาพและกระแสเงินสดที่ไม่เสถียร ทางฝั่งอาชญากรไซเบอร์ก็กำลังรุกหนักเช่นกัน
แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) เปิดเผยกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อธุรกิจขนาดกลางและเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 พบว่าในระยะเวลาเพียง 6 เดือน อาชญากรไซเบอร์ได้โจมตีผ่านเว็บจำนวน 11,298,154 รายการ โดยพบความพยายามโจมตีส่วนใหญ่และถูกบล็อกไม่ให้แพร่สู่ผู้ใช้ของแคสเปอร์สกี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย
นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก มีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคโดยรวม ในปี 2564 ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการละเมิดข้อมูลครั้งเดียวของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก คือ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.8 ล้านบาท เป็นที่ทราบกันดีว่าภาคธุรกิจนี้ทรุดลงตั้งแต่เกิดโรคระบาด อีกทั้งยังมีกระแสการโจมตีจากอาชญากรไซเบอร์ เราควรหาสมดุลในการรวมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ไว้ในงบประมาณที่จำกัดของธุรกิจ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการกู้คืนระบบที่ยั่งยืนมากขึ้น”
นอกเหนือจากภัยคุกคามทางเว็บแล้ว แคสเปอร์สกี้ยังตรวจพบโทรจันขโมยพาสเวิร์ด Trojan-PSW (Password Stealing Ware) จำนวน 373,138 รายการที่พยายามแพร่กระจายสู่ธุรกิจขนาดกลางและเล็กในภูมิภาค โดยจำนวนความพยายามโจมตีเกิดขึ้นมากที่สุดถูกบล็อกที่ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซียในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
โดย Trojan-PSW เป็นมัลแวร์ที่ขโมยพาสเวิร์ดพร้อมกับข้อมูลบัญชีอื่นๆ ซึ่งช่วยให้ ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงเครือข่ายขององค์กรและขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้
นายโยว กล่าวเสริมว่า “เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจคิดว่าบริษัทของตนไม่มีนัยสำคัญที่จะตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ เนื่องจากผู้โจมตีมัก มองหาผลกำไรสูงสุดจากความพยายามเล็กๆ อย่างไรก็ตาม เอ็นเทอร์ไพรซ์และองค์กรภาครัฐควรตระหนักว่า ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางมักจะเป็นซัพพลายเออร์บุคคลที่สามให้กับบริษัทขนาดใหญ่และหน่วยงานที่สำคัญ ภาคส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ที่ใหญ่กว่า หากมีโทรจันขโมยพาสเวิร์ดเพียงตัวเดียวก็สามารถเข้าสู่ระบบขององค์กรและส่งผลกระทบต่อเนื่องได้เนื่องจากห่วงโซ่ทั้งหมดถูกบุกรุก”
สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การเลือกโซลูชันการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องยาก ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ตามบ้านขาดความสามารถที่จำเป็น และโซลูชันสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ก็มีราคาแพงและซับซ้อนเกิน กว่าจะจัดการได้โดยไม่ต้องใช้แผนกรักษาความปลอดภัยด้านไอทีโดยเฉพาะ
ความท้าทายในการรักษากระแสเงินสดหลังจากวิกฤตด้านสุขภาพยังคงเป็นปัญหาของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในภูมิภาคนี้ ซึ่งทำให้งบประมาณด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์น่าจะลดตํ่าลงอีก แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางเว็บและโทรจันขโมยพาสเวิร์ด ดังนี้การให้สิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรหรือบริการ ควรปฏิบัติตามหลักการให้สิทธิ์น้อยที่สุด คือพนักงานต้องมีชุดสิทธิ์ในการ เข้าถึงขั้นตํ่า ซึ่งเพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานเท่านั้น
ขณะเดียวกันต้องรู้ว่าข้อมูลสำคัญถูกจัดเก็บไว้ที่ใด และใครบ้างที่สามารถเข้าถึงได้ ให้พัฒนาแนวทางในการว่าจ้างพนักงานใหม่ รวมถึงกำหนดอย่างชัดเจนว่า บัญชีใดที่จำเป็นสำหรับ พนักงานแต่ละคน และบัญชีใดควรจำกัดไว้เฉพาะบางหน้าที่เท่านั้น ขณะที่วัฒนธรรมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้มากมาย ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยการสร้างคู่มือความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับพนักงาน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
นอกจากนี้พาสเวิร์ดทั้งหมดต้องเก็บไว้ในแอปจัด การพาสเวิร์ดที่ปลอดภัย ช่วยให้ พนักงานไม่ลืมหรือทำพาสเวิร์ดหาย และยังช่วยลดโอกาสที่บุคคลภายนอกจะเข้าถึงบัญชีได้ นอกจากนี้ แนะนำให้ใช้กลไกการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย (two-factor authentication) ในทุกบัญชีที่ทำได้ และแนะนำให้พนักงานล็อกคอมพิวเตอร์เมื่อเดินออกจากโต๊ะ เพราะบุคคลอื่นจะสามารถเข้ามาที่สำนักงานได้เสมอ ทั้งผู้ให้บริการจัดส่ง ลูกค้า ผู้รับเหมาช่วงหรือผู้สมัครงาน สุดท้ายต้องพิจารณาติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเพื่อป้องกันอุปกรณ์จากไวรัส โทรจัน และโปรแกรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
Cibes Lift กับเหตุผลที่ ลิฟท์ผู้สูงอายุ เริ่มเป็นสิ่งที่จำเป็นขณะนี้ในประเทศไทย
รายงานคาดการณ์ว่าประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างสูงในเวลาอันใกล้จึงเห็นได้ว่าเราจะเริ่มผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คำว่า “สังคมสูงวัย” ก็คือสังคมที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุหรือประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั่นเอง เมื่อมีผู้ใหญ่อยู่ในบ้านจึงอาจทำให้การเดินขึ้นลงภายในบ้านอาจจะลำบากมากขึ้น จึงต้องมี ลิฟท์ผู้สูงอายุ และ ลิฟท์คนพิการ เข้ามาเพื่อช่วยสำหรับบุคคลที่ต้องการภายในบ้านของคุณ
บริษัท ซีเบส ลิฟท์ เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2490 โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตลิฟท์ให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงพื้นที่อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็น คนทั่วไป คนสูงอายุ เด็ก คนพิการ เป็นต้น โดยในตอนนี้ทางซีเบส ลิฟท์ เปิดแล้วมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยลิฟท์บ้านระบบสกรูเป็นที่นิยมมากในยุโรปและเริ่มแพร่หลายออกมาสู่ทวีปอื่น ๆ โดยทางเรามีความมุ่งมั่น มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงผู้คนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในการเข้าถึงได้ทุกสถานที่โดยไม่มีข้อจำกัด เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายลิฟท์ที่ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย เข้าถึงทุกพื้นที่ได้ง่ายๆเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกรวมทั้งคนพิการได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
Cibes Lift ลิฟท์ผู้สูงอายุ ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและเรียบง่ายสำหรับทุกคนในครอบครัว
1. ลิฟท์ระบบสกรูคืออะไร?
ลิฟท์สกรู (เกลียว) ผลิตจากยุโรป ลิฟท์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับให้ใช้ในการโดยสารเป็นลิฟท์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบสกรู (Screw-Driven lift) ใช้หลักการทำงานของน็อตและแหวน เป็นตัวขับเคลื่อนลิฟท์ ซึ่งเรียบง่ายและปลอดภัยอย่างมากสำหรับลิฟท์ผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุในบ้านสามารถขึ้นลงได้อย่างมั่นใจในบ้านตัวเอง และด้วยลักษณะของโครงสร้างและหลักการทำงาน ลิฟท์สกรูมีข้อดีที่โดดเด่นมากมาย จึงกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับลูกค้าในตลาดลิฟท์ในปัจจุบัน
2. ลักษณะเด่นของลิฟท์ผู้สูงอายุ ระบบสกรู ของซีเบส ลิฟท์
- ความแข็งแรง: โดยความแข็งแรงของสกรูนั้นสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 25 ตัน เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและเสถียร ไม่มีปัญหาการหักของท่อนสกรูแน่นอน
- เหมาะสำหรับพื้นที่หลายขนาด: ลิฟท์สกรูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานเพียง 1 ตารางเมตร ซึ่งช่วยให้ลิฟท์สกรูเหมาะกับหลายโครงการ โดยเฉพาะพื้นที่ขนาดเล็ก
- การติดตั้งและบำรุงรักษา: ไม่ต้องขุดบ่อลิฟท์ (Pit Lift) ที่พื้นชั้นล่างสุด รวมถึงไม่ต้องสร้างห้องเครื่อง (Machine Room) ที่ชั้นบนสุด เพราะลิฟท์ระบบสกรูจะวางระบบขับเคลื่อนและห้องเครื่องไว้ด้านข้างลิฟท์ รวมอยู่ในพื้นที่ปล่องลิฟท์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก
- รอบการบำรุงรักษาลิฟท์สกรูน้อยมาก: หากคุณเป็นที่พักอาศัยบ้านส่วนตัว คุณคงไม่อยากให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปบ่อย ๆ ในบ้านคุณอย่างแน่นอน ลิฟท์ระบบนี้ใช้การบำรุงเพียงแค่ 1-2 ครั้ง/ปีเท่านั้น ต่างจากแบบอื่นมากกว่าหลายเท่า
3. ลูกค้าไว้ใจซีเบส ลิฟท์ เพราะเราคำนึงถึงผู้สูงอายุ ด้วยความปลอดภัยสูงมาตรฐานยุโรป
ในความเป็นจริงแล้วลิฟท์ผู้สูงอายุที่ติดตั้งในบ้านไม่ได้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สมาชิกในบ้านทุกคนสามารถใช้งานแทนการขึ้น-ลงบันไดได้อย่างสะดวกและปลอดภัยด้วย ดังนั้นการเลือกลิฟท์ในบ้านจึงต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
ความปลอดภัยของลิฟท์ผู้สูงอายุ
ทางเราคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานลิฟท์เป็นอันดับแรกอยู่เสมอ เพราะไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของลูกค้า ด้วยรูปแบบการทำงานของระบบแท่งเกลียวของน็อตและแหวน จึงทำให้ผู้ใช้งานลิฟท์นั้นมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยจาก “ลิฟท์ตก” นอกจากระบบที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ลิฟท์ยังมีจุด Safety ต่างๆอยู่ภายในอีก 3 จุด คือ Safety Bar, Safety Edge และ Emergency button เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถทำการเปลี่ยนทิศทางหรือทำการหยุดลิฟท์ได้อีกด้วย
ไม่ต้องปรับโครงสร้างหลักของบ้าน
การเลือกจุดติดตั้งของลิฟท์อาจจะเป็นปัญหาเมื่อต้องการติดลิฟท์บ้าน เมื่อเวลาติดลิฟท์สำหรับบ้านที่สร้างไว้อยู่แล้ว หรือกล่าวคือ การเพิ่มเข้าไปนั่นเอง ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยลิฟท์ของ Cibes Lift เพราะลิฟท์ของเราช่วยคุณประหยัดพื้นที่ มีขนาดให้เลือกหลากหลาย มีน้ำหนักเบา สามารถเลือกทิศทางการเปิดประตูได้ถึง 3 ด้านเพื่อให้คุณไม่ต้องทุบผนังบ้าน
ม่านเลเซอร์ตรวจจับวัตถุ
ลิฟท์บางรุ่นมี “ม่านเลเซอร์” หรือ “Laser Curtain” ที่อยู่ตรงทางเข้าของลิฟท์ จะคอยตรวจจับวัตถุ ซึ่งจะหยุดทำงานทันทีหากมีวัตถุใดๆที่ขวางทางการเคลื่อนที่ของลิฟท์เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งาน
อายุการใช้งานของลิฟท์ที่ยาวนาน
ลิฟท์คือการลงทุนอย่างนึงเพื่ออนาคตของบ้านและบุคคลในบ้านของคุณ จึงมีความสำคัญมากโดยลิฟท์สามารถเป็นสิ่งที่ใช้ได้ทุกคน รวมถึงการยกของ ขนของ ขึ้นลงอีกด้วย
บริการหลังการขาย 24/7
ทางซีเบส ลิฟท์ มีให้บริการหลังการขาย ตลอด 24 ชม. 7 วันต่อสัปดาห์ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกังวลใจเรื่องหลังจากที่ซื้อลิฟท์ไปแล้วจะไม่มีใครดูแล สำหรับบริษัทที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาแบบเราทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเราคำนึงถึงท่านเสมอ
มีระบบแบตเตอรี่สำรอง
ลิฟท์ของซีเบสมีระบบแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้ช่วยเหลือผู้โดยสารในกรณีไฟดับ และยังมีระบบแบตเตอรี่สำรองช่วยรองรับในกรณีไฟฟ้าดับ ซึ่งจะจ่ายไฟไปยังมอเตอร์สำรอง ขับเคลื่อนลิฟท์ไปจอดในชั้นที่ใกล้ที่สุดให้เพื่อผู้โดยสารออกจากลิฟท์ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
4. ลิฟท์ของซีเบสที่เหมาะกับ ลิฟท์ผู้สูงอายุ ลิฟท์คนพิการที่สุดคือรุ่น Cibes Voyager Air
ลิฟท์บ้านมารูปแบบของแพลตฟอร์ม เป็นรุ่นที่ออกแบบให้มีราวจับเพื่อผู้สูงอายุจับระหว่างขึ้น-ลงลิฟท์ อีกทั้งปุ่มกดเลือกชั้นนั้นยังออกแบบให้อยู่ตรงราวจับอีกด้วย ลิฟท์รุ่นนี้ของเราสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการตามสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ เช่น เพิ่มดีไซน์บริเวณแผงคอนโทรลให้เลือกได้ทั้งแบบไม้หรือผ้า เพื่อเป็นการผสมผสานดีไซน์แบบสวีเดนและความเรียบง่ายเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้ง Cibes Voyager Air ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดไฟ ลิฟท์ผู้สูงอายุ Cibes Voyager Air
ลักษณะเด่นของ Cibes Voyager Air Home Lift
- แผงควบคุมมี 3 แบบให้เลือก: โลหะ/ไม้/ผ้า
- เลือกสีลิฟท์จาก RAL ได้มากถึง 300 เฉดสี
- มีแพลตฟอร์มลิฟท์ 17 ขนาดให้เลือกเพื่อให้พอดีกับพื้นที่ในบ้านคุณ
- สามารถเลือกทำปล่องลิฟท์เป็นกระจกได้รอบด้าน
- ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับลิฟท์น้อยมาก
- การติดตั้งทำได้รวดเร็วและไม่มีงานก่อสร้างที่ยาก
- ปุ่มกดลิฟท์พร้อมอักษรเบรลล์
- มีไฟตกแต่งบริเวณแผงควบคุม
5. แผงควบคุมของ Cibes Voyager Air มี 3 แบบ ดังนี้
5.1 Air Metal/ โลหะ
มีความโมเดิร์นด้วยการตกแต่งลิฟท์ด้วยโลหะ ทนทานทั้งเหล็กมีความแข็งแรงและอลูมิเนียมเนื้อจะมันวาวไม่หมองง่ายเช่นงานเครื่องบิน อลูมิเนียมเป็นโลหะที่ได้จากธรรมชาติจึงไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเข้ากับการแต่งบ้านแผงคอนโทรลแบบรุ่นมาตรฐานจะมีเพียงแผงด้านหลังสีดำและด้านหน้าสีขาว แต่คุณสามารถเปลี่ยนสีสันตามใจคุณได้
5.2 Air Textile/ ผ้า
ผิวผ้านั้นให้ความรู้สึกนุ่มและเบา มีให้เลือกระหว่างผ้าลินินมีความทนทานมากกว่า เนื่องจากมีเส้นใยที่เหนียวกว่านิยมปลูกกันมากในทวีปยุโรป หรือผ้าขนสัตว์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ยืดหยุ่นได้ดี ไม่ยับง่าย ดูดซึมน้ำและความชื้นได้ดีสำหรับแผงด้านหลัง สำหรับแผงด้านหน้าเป็นโลหะทำสี
5.3 Air Wood/ ไม้
พื้นผิวของไม้ที่แสดงทั้งความอบอุ่นและหรูหรา ผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกมั่นคง เป็นทั้งสีโทนร้อนและสีโทนเย็น มีความเป็นสไตล์สแกนดิเนเวียนอย่างแท้จริงเนื่องจากผสมผสานความเรียบง่าย บนแผงด้านหลังผสมผสานกับแบรนด์ DecoLegno® จากประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับแผงด้านหน้า
ลิฟท์ของซีเบสนั้นทำให้ผู้ใช้งานเห็นว่าการติดตั้งลิฟท์ไม่ใช่แค่ทำให้ผู้โดยสารเดินทางจากชั้นหนึ่งไปสู่อีกชั้นเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานได้อย่างมากอีกด้วย เนื่องจากมาตรฐานที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นบริษัทระดับโลก ทำให้ผู้ใช้งาน สะดวกต่อการใช้งานสำหรับทุกวัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถวีลแชร์
ถ้าคุณสนใจติดตั้งลิฟท์บ้าน หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเรามาได้ที่
บริษัท ซีเบส ลิฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ (ฝ่ายขาย) : 02-114-6499
โทรศัพท์ (บริการหลังการขาย 24 ชม.) : 02-114-6998
อีเมล : support_th@cibeslift.com
เว็บไซต์ : https://www.cibeslift.co.th/
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/10/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,650.00 | 29,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,921.00 | 29,122.36 | 30,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,728.90 | 26,210.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,536.80 | 23,297.89 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 864.00 | 13,098.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 672.00 | 10,187.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,991.00 | 30,183.56 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/10/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.35 | 35.35 | 35.75 | 35.65 | 35.65 | 35.35 | 35.35 | 35.35 | 35.65 | 35.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.08 | 35.08 | 35.48 | 35.38 | 35.38 | 35.08 | 35.08 | 35.08 | 35.38 | 35.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.24 | 34.24 | 34.64 | 34.54 | 34.54 | – | 34.24 | 34.24 | 34.54 | 34.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.84 | 32.84 | – | – | – | – | – | – | – | 32.84 |
เบนซิน 95 | 42.76 | – | – | – | 43.51 | – | 43.26 | 43.21 | – | 42.76 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.64 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.64 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.64 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | 34.54 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 45.06 | 45.06 | 45.06 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |