สิงห์เอสเตทชูกลยุทธ์ Rethink ฝ่าวิกฤติสร้างโอกาสใหม่
สิงห์เอสเตท เผยงัดกลยุทธ์ Rethink ฝ่าวิกฤติสร้างโอกาสหันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเซ็กเมนต์ลักชัวรี ขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรม นิคมอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน สร้างรายได้ประจำ
การขับเคลื่อนธุรกิจยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงและความท้าทายรอบด้านเป็นโจทย์ใหญ่ของผู้ประกอบการจะก้าวข้ามและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืนได้อย่างไร “กรุงเทพธุรกิจ” จัดสัมมนา “Investment Forum 2024 : เจาะขุมทรัพย์ลงทุนยุคโลกเดือด” มีบรรดาบิ๊กคอร์ปร่วมฉายมุมมอง “กลยุทธ์ธุรกิจก้าวข้ามวิกฤติ เบ่งกำไร”
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิด-19 ปี 2562 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ทุกธุรกิจทั่วโลกหยุดหมุน 2-3 ปี ทำให้บริษัทต้องคิดใหม่ หรือ “Rethink” จากเดิมเน้นการร่วมทุนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ก็หันมาพัฒนาโครงการด้วยตนเองในธุรกิจที่อยู่อาศัย โดยโฟกัสเซ็กเมนต์ลักชัวรี ภายใต้ดีเอ็นเอของ สิงห์ เอสเตท
ขณะเดียวกันได้ขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมในสหราชอาณาจักรและมัลดีฟส์ รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งโรงแรมของ สิงห์ เอสเตท ในมัลดีฟส์ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ฉะนั้นลูกค้าในแต่ละประเทศจะมาเที่ยวในช่วงเวลาที่แตกต่างกันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยงบริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ที่มีจุดขายแตกต่างจากคู่แข่งเน้นนิคมอุตสาหกรรมขนาดกลาง โดยลงทุนโครงการ “เอส อ่างทอง” นิคมอุตสาหกรรมอาหารใน จ.อ่างทอง รองรับธุรกิจอาหาร ที่อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างแหล่งวัตถุดิบและเส้นทางการขนส่ง รวมทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ มีโรงงานไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงาน ได้ปรับแนวทางการให้บริการที่ยืดหยุ่นทั้งในรูปแบบ Ready-to-move ระยะเวลาในการเช่าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มสตาร์ทอัปมากขึ้น
จะเห็นว่าทิศทางการปรับตัวของ สิงห์ เอสเตท ซึ่งปัจจุบันมี 4 กลุ่มธุรกิจหลักในการขับเคลื่อน สามารถเชื่อมโยงสู่โอกาสและต่อยอดธุรกิจใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและรองรับความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ในปี 2564 ที่ผ่านมา มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) เติบโตถึง 31% โดยยอดขายบ้านระดับราคา 60-120 ล้านบาท สูงถึง 95% และอัตราค่าเช่าสูงกว่าโควิดถึง 50%
“ในฐานะที่ผ่านมาหลายวิกฤติ วิกฤติสร้างโอกาสใหม่เสมอ ทำให้เรา Reset ตัวเอง และ Rethink ไม่มีวิกฤติไม่มีโอกาสที่จะเรียนรู้ใหม่ ทุกวิกฤติทุกคนต้องเรียนรู้ใหม่ เพราะคนทำธุรกิจต้องมี Chapter ใหม่เสมอ วิกฤติบังคับให้ทุกคนต้อง Rethink”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ผลกระทบหลังขายเมื่อแก้ไขกฎหมายคอนโดมิเนียม “คนต่างด้าว”
เมื่อสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ๗ สมาคม รวมตัวยื่นข้อเสนอแก้ไข เพิ่มเติม พ.ร.บ.อาคารชุด ให้สามารถขยายสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในอาคารชุด “คนต่างด้าว” จาก ๔๙% เป็น ๗๕% เพื่อระบายจำนวนห้องชุดคงค้าง หรือโครงการใหม่ ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์
อันจะเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรี เจ้าของกระทรวง นายอนุทิน ชาญวีรกุล ได้ตอบรับข้อเสนอ และข้อสั่งการดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ไปพิจารณาหาแนวทางดังกล่าวต่อไปนั้น
การดำเนินการเรื่องดังกล่าว ทราบว่าอาจกระทำเพียงบางจังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ไม่กี่จังหวัด อาทิ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีนักเที่ยวนิยมชมชอบจำนวนมากกว่าจังหวัดอื่น
อย่างไรก็ดี มีบางประเด็นที่เกี่ยวข้องได้มีการกล่าวถึงสิทธิการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางของนิติบุคคลอาคารชุดอาจถูกจำกัด
หมายความว่าผู้ซื้อ คนต่างด้าวอาจไม่ได้รับสิทธิการออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม เพื่อป้องกันการครอบงำการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับมุมมองของนักบริหารทรัพย์สินอาชีพ ในฐานะ ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด หรือผู้ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางนิติบุคคลอาคารชุด
กรณีภาครัฐ “กรมที่ดิน” รับลูกข้อเสนอการแก้ไข เพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาคารชุด โดยเพิ่มสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าวจากเดิมอัตรา ๔๙ % เป็น ๗๕ % นั้น อาจเกิดผลกระทบด้านบริการหลังขาย หรือการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางของนิติบุคคลอาคารชุด ดังต่อไปนี้
๑. เป็นการแก้ไขปัญหา ตรงจุดหรือไม่ ?
เมื่อสำรวจจำนวนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของบุคคลต่างด้าวดังกล่าว พบว่ายังไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใดถือครองกรรมสิทธิ์ได้ครบจำนวน ๔๙ % หรืออาจมีจำนวนน้อย
โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ อาทิ ภูเก็ต หรือชลบุรี ก็ยังไม่พบจำนวนคนต่างด้าวถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในอาคารชุดครบจำนวน ๔๙ % หรืออาจมีบางโครงการเพียงไม่กี่โครงการที่อาจเกินจำนวนดังกล่าว
๒. ค่าใช้จ่ายส่วนกลางตามข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดอาจจัดเก็บไม่ได้
เมื่อเปิดช่องให้คนต่างด้าวสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพิ่มขึ้น จากเดิมจำนวน ๔๙ % เป็น ๗๕ % อาจทำให้นิติบุคคลอาคารชุดไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางครบถ้วน
เหตุเนื่องจากเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนมากกว่าการอยู่อาศัยเอง เมื่อขาดรายได้จากการนำห้องชุดให้เช่า หรือขายห้องชุดต่อไม่ได้ก็อาจปฏิเสธการชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้แก่นิติบุคคลอาคารชุด
๓. อาจนำห้องชุดใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดและกฎหมาย
นิติบุคคลอาคารชุดอาจไม่ทราบวัตถุประสงค์การซื้อห้องชุด หรืออาจทราบวัตถุประสงค์การซื้อห้องชุดของคนต่างด้าว แต่เบื้องลึก นิติบุคคลอาคารชุดอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้ห้องชุดสอดคล้องวัตถุประสงค์ตามข้อบังคับและกฎหมาย
คนต่างด้าวอาจนำห้องชุดใช้เพื่อการอื่นที่ผิดข้อบังคับและกฎหมาย เช่น การให้เช่ารายวัน หรือใช้เพื่อการอื่นในด้านการประกอบธุรกิจสีเทา หรือความไม่สงบเรียบร้อย มั่นคงต่อประเทศ เป็นต้น
๔. อาจสร้างความเดือดร้อน รำคาญ เสียหายแก่เจ้าของร่วมรายอื่น และนิติบุคคลอาคารชุด
การเคารพข้อบังคับ กฎหมาย กติกา การอยู่อาศัยร่วมกันของเจ้าของร่วมและผู้พักอาศัยเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถส่งเสริมความสงบสุข เรียบร้อยต่อสังคมส่วนรวมของอาคารชุด
ข้อเท็จจริง ในโครงการคอนโดมิเนียมที่มีคนต่างด้าวอยู่อาศัยร่วมกันเป็นจำนวนมาก คนต่างด้าวดังกล่าว มักตั้ง หรือมีกลุ่ม ก๊วนคนประเทศเดียวกัน และส่วนใหญ่มักละเลย ไม่ปฏิบัติตามต่อกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดและกฎหมายคอนโดมิเนียม
อย่างไรก็ตาม การไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดของคนต่างด้าวดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อเจ้าของร่วม คนไทย ผู้พักอาศัยรายอื่น ตลอดจนนิติบุคคลอาคารชุดอีกด้วย
๕. แย่งอาชีพผู้ซื้อ (คนไทย) ผู้จัดการคอนโดมิเนียมอาจเป็นบุคคลต่างด้าว
คะแนนเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วมตามพระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับที่สี่) พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องได้รับจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของคะแนนเสียงของเจ้าของร่วมทั้งหมดในอาคารชุด การเพิ่มจำนวนสัดส่วนคนต่างด้าวสามารถซื้อกรรมสิทธิ์ห้องชุดจากอัตรา ๔๙ % เป็น ๗๕ %
ย่อมเปิดช่องที่มากขึ้น หรือเปิดโอกาสให้คนต่างด้าวสามารถทำหน้าที่ผู้จัดการคอนโดมิเนียมได้สะดวก หรือง่ายยิ่งขึ้น อาจเสียโอกาสผู้ซื้อ หรือเจ้าของร่วมคนไทยเข้าสู่ตำแหน่งผู้จัดการคอนโดมิเนียม.
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ดาวโจนส์ปิดบวก 36.26 จุด รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 39,164.06 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,482.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,858.68 จุด เพิ่มขึ้น 53.53 จุด หรือ +0.30%
สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องบินและสินค้าด้านอาวุธ ลดลง 0.6% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ถึงแผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้เฟดส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ก็ตาม
นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 ขยายตัว 1.4% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 1.3% แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 1.6%
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้น 0.93% และ 0.90% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.50% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.32%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ดีดตัวขึ้นด้วย ซึ่งรวมถึงหุ้นอัลฟาเบทและหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ปรับตัวขึ้น 0.83% และ 1.25% ตามลำดับ ส่วนหุ้นอะเมซอน พุ่งขึ้น 2.19% หลังจากมาร์เก็ตแคปของบริษัทพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ร่วงลง 7.11% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่เคยคาดหวังไว้ว่ารายได้ของบริษัทจะได้รับแรงหนุนจากกระแสการตอบรับเทคโนโลยี AI มากกว่านี้
หุ้นลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยยีนส์รายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 15.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ครีม-บุศนันทน์”ตบดาวรุ่งเม็กซิโกทะลุรอบสองแบดมินตันยูเอส โอเพ่น
“ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ เต็ง 2 ของรายการ งัดฟอร์มเก่งต้อนดาวรุ่งเม็กซิโกอย่าง วาเนสซา การ์เซีย มือ 96 ของโลกจากเม็กซิโกไปได้ 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบสองแบดมินตัน ยูเอส โอเพ่น 2024 ไปได้อย่างยอดเยี่ยม
การแข่งขันแบดมินตันรายการ โยเน็กซ์ ยูเอส โอเพ่น 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,770,000 บาท ที่เมืองฟอร์ตเวิร์ท รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบแรก มีนักแบดมินตันไทยลงสนาม 4 คู่
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 19 ของโลก พบกับ วาเนสซา การ์เซีย มืออันดับ 96 ของโลกจากเม็กซิโก
แมตช์นี้ ครีม บุศนันทน์ ทำผลงานได้ตามเป้า ตบเอาชนะไปแบบไม่ยากเย็น 2-0 เกม 21-7 และ 21-12 “ครีม” บุศนันทน์ ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ราเชล ชาน มืออันดับ 62 ของโลกจากแคนาดา ที่เอาชนะ เหลียง ติงหยู มืออันดับ 72 ของโลกจากไต้หวันมาได้ 2-1 เกม 19-21, 21-18, 21-14
ประเภทคู่ผสม รอบแรก “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 42 ของโลก ก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน เอาชนะ อาเธอร์ ลี กับ เคทลิน โง่ว คู่จากสหรัฐฯ ไปได้ 2-0 เกม 21-8 และ 21-13 “โอโม่” พรรคพล กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ ดานี่ ซิลวา กับ ซาเมีย ลิม่า คู่มืออันดับ 181 ของโลกจากบราซิล
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 42 ของโลก แพ้ให้กับ ทาคูมะ โอบายาชิ มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 32 ของโลกจากญี่ปุ่น 0-2 เกม 14-21 ,20-22 , “อิคคิว” พณิชพล ธีระรัตน์สกุล มืออันดับ 71 ของโลก แพ้ให้กับ โคกิ วาตานาเบะ มืออันดับ 20 ของโลกจากญี่ปุ่น 0-2 เกม 9-21 , 12-21
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
5 วิธีลดเสี่ยง “ภูมิแพ้” ที่พบบ่อยในหน้าฝน
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ช่วงนี้ ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ อาจจะต้องรับมือหนักหน่อย เพราะโรคเหล่านี้จะมาเยือนเราบ่อยในหน้าฝน สาเหตุก็เพราะช่วงฝนตก อากาศจะมีความชื้นสูง และถ้าเจออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน และบางทีก็ต้องเข้าไปอยู่ในห้องที่เปิดแอร์เย็นๆ ก็อาจทำให้มีอาการแพ้ง่ายขึ้น
พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา โรงพยาบาลนวเวช จะมาให้ความรู้ว่าในช่วงหน้าฝนนี้ เราควรดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะกับเด็กเล็กซึ่งเป็นแต่ละที อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว
โรคภูมิแพ้ ที่พบบ่อย มีอะไรบ้าง
- โรคแพ้อากาศ หรือ จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
เกิดจากเยื่อบุโพรงจมูกมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนสัตว์ ละอองหญ้า เชื้อรา สารก่อระคายเคือง เช่น ฝุ่น PM2.5 ควันไฟ ธูป บุหรี่ และมลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะท่อไอเสีย ซึ่งเด็กๆ มักจะมีอาการคัดจมูก คันจมูก จามบ่อย มีน้ำมูกใสๆ ไอแบบคันคอ มีน้ำมูกไหลลงคอ กระแอมบ่อยๆ บางรายอาจมีอาการคันตาร่วมด้วย แต่จะไม่มีไข้ โดยอาการมักเป็นๆ หายๆ ตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือตอนค่ำก่อนเข้านอน หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบตามมาได้
- โรคหอบหืด (Asthma)
เกิดจากหลอดลมตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้นมากกว่าปกติ เช่นเดียวกันกับการแพ้อากาศ ทำให้เกิดอาการหลอดลมหดเกร็งและบวมเนื่องจากการอักเสบ หรือเมื่อโดนฝนติดหวัด ก็อาจกระตุ้นให้หอบหืดกำเริบได้เช่นกัน ซึ่งเด็กๆ มักมีอาการไอเหนื่อย ไอเวลาวิ่งเล่นออกกำลังกาย โดยเฉพาะไอตอนกลางคืน แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกหายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี้ดๆ อาการหอบเหนื่อยอาจเป็นๆ หายๆ และเรื้อรังได้
- โรคหลอดลมฝอยอักเสบ หรือ หลอดลมไว (Bronchiolitis)
โรคนี้มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากการอักเสบบริเวณหลอดลมฝอย ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะ RSV (Respiratory syncytial virus) และไวรัสอื่นๆ เช่น Influenza Parainfluenza Adenovirus Enterovirus และ Humanmetapneumovirus นอกจากนี้ยังเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycoplasma ได้ด้วย ซึ่งเด็กๆ มักจะมีอาการไข้สูง น้ำมูก ไอ คล้ายไข้หวัดนำมาก่อน 2-3 วัน จากนั้นจะมีอาการไอเหนื่อย หายใจเหนื่อยหอบ เสมหะมากขึ้น และหายใจมีเสียงผิดปกติ มีเสียงวี๊ดได้ ซึ่งเด็กๆ จำเป็นต้องรักษาด้วยการพ่นยาขยายหลอดลม ล้างจมูก ดูดน้ำมูกเสมหะ จนถึงบางรายอาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
สำหรับในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี ที่มีประวัติเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาจกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ จนถึงโรคหอบหืดได้
การหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ คือ วิธีที่ดีที่สุด
เด็กไทยแพ้ไรฝุ่น แมลงสาบ และขนสัตว์ มากที่สุดตามลำดับ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงฝุ่นทั้งนอกบ้านและในบ้าน หลีกเลี่ยงการใช้พรม การมีตุ๊กตาหรือผ้าขนสัตว์ในบริเวณที่เลี้ยงเด็ก และรักษาความสะอาดของบริเวณบ้าน เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ แนะนำให้ล้างจมูกเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่มีอาการ
การดูแลสุขภาพในหน้าฝน
- ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ พยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นอย่างเฉียบพลัน เมื่ออากาศเย็นลงควรใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจนเกินไป
- หากโดนละอองหรือตากฝน ควรรีบอาบน้ำสระผมด้วยน้ำอุ่น เช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งโดยไว
- กินอาหารมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงขึ้น
- หากเพิ่งเดินผ่านอากาศร้อนจัดๆ ควรต้องยืนพักในที่ร่มก่อนจะเปลี่ยนเข้าไปในบริเวณห้องแอร์ที่มีอากาศเย็น เพื่อให้ร่างกายและจมูกปรับสภาพ จะช่วยลดอาการกำเริบของภูมิแพ้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Some และ Any การใช้แบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างประโยคตัวอย่าง
Some และ Any เป็นคำที่เจอได้บ่อยมากในประโยคภาษาอังกฤษ ซึ่งยังคงมีหลายคนที่สับสนการใช้ทั้งสองคำ มาเรียนภาษาอังกฤษกับบทความนี้เพื่อการใช้ Some และ Any ได้อย่างถูกต้องตามหลัก เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้ในชีวิตจริง พร้อมตัวอย่างประโยคตัวอย่าง
Some กับ Any คืออะไร?
Some กับ Any เป็นคำสรรพนามที่ใช้ระบุปริมาณที่ไม่แน่นอน ทั้งสองคำมีหน้าที่คล้ายกันคือใช้กับนามนับได้และนามนับไม่ได้ แต่มีความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละบริบท คือ
- Some ใช้ในประโยคบอกเล่า ขอร้อง และเสนอ
มีความหมายว่า บาง บางส่วน จำนวนหนึ่ง มีบ้าง เล็กน้อย
- Any ใช้ในประโยคคำถาม ปฏิเสธ และบอกเล่าในเชิงปฏิเสธ
มีความหมายว่า บ้าง บ้างไหม ไม่เลย อันไหนก็ได้ ไม่แม้แต่น้อย
วิธีการใช้ Some
วางไว้หน้าคำนามในประโยค ส่วนใหญ่ใช้กับประโยค บอกเล่า ขอร้อง และเสนอ มีความหมายว่า บาง บางส่วน จำนวนหนึ่ง มีบ้าง เล็กน้อย ตัวอย่างประโยค เช่น
- Do you want some sugar? – คุณต้องการน้ำตาลสักหน่อยไหม?
(เป็นประโยคเสนอ โดยวาง some ไว้หน้า sugar ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- Do you need some help? – คุณต้องการความช่วยเหลือมั้ย
(เป็นประโยคเสนอ โดยวาง some ไว้หน้า help ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- May I have some coffee? – ฉันขอกาแฟสักแก้วหนึ่งได้ไหม?
(เป็นประโยคขอร้อง โดยวาง some ไว้หน้า coffee ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- There were some rats in the kitchen. – มีหนูจำนวนหนึ่งอยู่ในครัว
(เป็นประโยคบอกเล่า โดยวาง some ไว้หน้า rats ที่เป็นคำนามนับได้ พหูพจน์)
- I’ve got some questions for you. – ฉันมีบางคำถามจะถามคุณ
(เป็นประโยคบอกเล่า โดยวาง some ไว้หน้า questions ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
วิธีการใช้ Any
วางไว้หน้าคำนามในประโยค ส่วนใหญ่ใช้กับประโยค คำถาม ปฏิเสธ และบอกเล่าในเชิงปฏิเสธ มีความหมายว่า บ้าง บ้างไหม ไม่เลย อันไหนก็ได้ ไม่แม้แต่น้อย ตัวอย่างประโยค เช่น
- I don’t have any money. – ฉันไม่มีเงินเลยสักนิด
(เป็นประโยคบอกเล่าในเชิงปฏิเสธ โดยวาง any ไว้หน้า money ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- My brother never does any housework. – พี่ชายของฉันไม่เคยทำงานบ้านเลย
(เป็นประโยคบอกเล่าในเชิงปฏิเสธ โดยวาง any ไว้หน้า housework ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- Is there any bread left? – มีขนมปังเหลือบ้างไหม
(เป็นประโยคคำถาม โดยวาง any ไว้หน้า bread ที่เป็นคำนามนับไม่ได้)
- Have you got any eggs? – คุณมีไข่ไก่บ้างไหม?
(เป็นประโยคคำถาม โดยวาง any ไว้หน้า eggs ที่เป็นคำนามนับได้ พหูพจน์)
- You can use any color pen to write on the exam. – คุณสามารถใช้ปากกาสีไหนก็ได้ในการเขียนข้อสอบ
(เป็นประโยคบอกเล่า โดยวาง any ไว้หน้า color ที่เป็นคำนามนับนับไม่ได้ โดยมีความหมายว่า ปากกาอันไหนก็ได้ หรือ ปากกาสีไหนก็ได้)
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
กฟผ. โชว์ระบบ BackEN EV ผู้ช่วยคนสำคัญธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
กฟผ. เปิดบ้านให้คำปรึกษา พร้อมให้บริการระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV ให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการสถานีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในงาน EGAT EV the Journey to Business Solutions
วันนี้ (27 มิถุนายน 2567) นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดงาน EGAT EV the Journey to Business Solutions งานสัมมนาสำหรับผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเปิดให้คำปรึกษา และให้บริการระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 คน ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ บางกรวย จ.นนทบุรี
กฟผ. มีภารกิจในการสร้างความมั่นคงระบบไฟฟ้าให้กับประเทศไทย ทำหน้าที่สนับสนุนนโยบายภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้กับประเทศ ในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ ซึ่ง กฟผ. ดำเนินงานตามนโยบาย 4D1E ของกระทรวงพลังงาน มีนโยบายหนึ่งที่สำคัญคือ E : Electrification ที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ จะหันมาใช้ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า กฟผ. จึงเป็นกลไกสำคัญหนึ่งของภาครัฐในการวางโครงสร้างพื้นฐานให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ผ่านการพัฒนาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT ที่มีการขยายครอบคลุมทั่วพื้นที่ประเทศไทย การพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA ที่ปรับปรุงตามความต้องการของลูกค้า สามารถจองคิวได้ มีสถานีในเครือข่ายเพิ่มขึ้น และได้พัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV แพลตฟอร์มที่จะช่วยบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจธุรกิจชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ให้บริการ พร้อมเปิดรับให้คำปรึกษาพร้อมเจรจาธุรกิจ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ EV กฟผ. ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการเริ่มต้นในการลงทุนในธุรกิจ ตั้งแต่รูปแบบโมเดลการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จ ผลตอบแทนจากการลงทุน การเลือกตำแหน่งสถานีที่เหมาะสมกับสถานที่ พร้อมให้บริการระบบ BackEN EV ที่บริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงกับแอปพลิเคชัน EleXA ที่มีฐานกลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเดิม ช่วยให้ผู้ประกอบการมีสถานีชาร์จได้ง่ายขึ้น สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับธุรกิจเดิมของผู้ประกอบการ
ภายในงานมีการสัมมนาที่น่าสนใจ อาทิ EleX by EGAT: ที่ 1 ในใจ คนใช้ EV โดยนายพิชิต พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าหน่วยงาน EGAT EV Business Solutions กล่าวว่า ปัจจุบันมีสถานีชาร์จ EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA กว่า 160 สถานี โดยตั้งเป้าขยายเป็น 300 สถานีภายในปี 2567 และพร้อมรองรับ EV Fleet Solutions ผู้ช่วยจัดการธุรกิจ สำหรับทุกการขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า EleXA: ผู้ช่วยคู่ใจ คนใช้ EV โดยนายอภิสิทธิ์ ณัฐวรวโรตม์ หัวหน้าทีมออกแบบประสบการณ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนายวาริท ทวีกาญจน์ นักพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่มาเล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ในอนาคตของแอพลิเคชัน EleXA ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า เช่น การจองคิวสถานีชาร์จรถ ที่สามารถตรวจสอบคิวก่อนหน้าได้ และแจ้งเตือนเมื่อถึงคิว การเลือกชาร์จด้วยไฟฟ้าสีเขียวจากแหล่งพลังงานสะอาด BackEN EV: ระบบบริหารจัดการที่ทำให้การเป็นเจ้าของสถานีชาร์จเป็นเรื่องง่าย โดยนางสาววรางคณา อินเอียว หัวหน้าทีมพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม และนางสาวภาวินี จันทร์ลอย หัวหน้าทีมขายโซลูชั่นยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง BackEN EV เป็นระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ กฟผ. พัฒนาขึ้น พร้อมให้บริการสำหรับผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ให้สามารถตรวจสอบรายได้ของสถานีได้แบบเรียลไทม์ พร้อมรายงานสรุปยอดขายของสถานี
นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อ ก้าวต่อไปของผู้ใช้ EV ในประเทศไทย โดยนายชัชวาลย์ วัฒนะโชติ Kim Property Live ที่มาร่วมเปิดมุมมองถึงโอกาสและการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะขยายไปสู่ภาคธุรกิจและภาคขนส่ง ที่คำนึงถึงรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอน จึงได้ปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และ Total Solutions ประสบการณ์ตรงจากเจ้าของสถานีชาร์จ โดยนายอรรถพล ทะแพงพันธ์ iMOD ที่ร่วมกับกลุ่มผู้บริการสถานีชาร์จ ผู้ประกอบการที่ใช้บริการ Total Solutions ของ กฟผ. ในการออกแบบและติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร (one-stop service) ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยจาก กฟผ. รวมถึงรูปแบบโมเดลการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จที่เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภท ผลตอบแทนจากการลงทุน การเลือกตำแหน่งสถานีที่เหมาะสมกับสถานที่ การควบคุมสถานีด้วยระบบบริหารจัดการ BackEN EV และใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ซึ่งผู้ประกอบการได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ว่า ปัจจุบันสถานีชาร์จมีผู้เข้าใช้งานอย่างต่อเนื่อง สามารถตรวจสอบการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบมีความเสถียร ทำให้ผู้ประกอบการมีความสะดวกในการบริหารจัดการสถานี
สำหรับผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สามารถติดต่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ EV กฟผ. ฟรี และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE OA: @BackenEV https://egatev.egat.co.th หรือ FB Page: EGAT EV
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
20 อาหาร “ต้านหวัด” ช่วยให้หายจากหวัดได้เร็วขึ้น
สำหรับในบางคนแล้วการเป็นหวัดดูเหมือนจะเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะเป็นหวัดบ่อยเสียเหลือเกิน บางคนเมื่อเป็นหวัดแล้ว ก็มักจะใช้ระยะเวลานานกว่าจะหายดี ดังนั้น นอกจากการดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอแล้ว เรื่องการเลือกทานอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ การเลือกทาน อาหารต้านหวัด ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคหวัด วันนี้ Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน
อาหารต้านหวัด มีอะไรบ้างที่ควรทานตอนเป็นหวัด
อาหารต้านหวัด บางอย่างอาจจะเป็นอาหารที่บริโภคอยู่เป็นประจำ แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันมีคุณสมบัติในการต้านหวัดได้ ดังนั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่า อาหารต้านหวัดนั้นมีอะไรบ้าง
- เห็ด
สำหรับเห็ดนั้นมีคุณสมบัติในการต้านไวรัส ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมันสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ แต่เห็ดแต่ละชนิดมักมีสิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ทั้งหมดก็มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการบริโภคเห็ดหลายๆ ชนิดรวมกันจึงถือเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างมาก
- น้ำซุป
เมื่อคุณเป็นไข้หวัด น้ำซุปถือเป็นอาหารที่คุณสามารถรับประทานได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นหวัด และสามารถรับประทานไปจนกว่าคุณจะหายดีได้เลย น้ำซุปช่วยป้องกันการขาดน้ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย บรรเทาอาการเจ็บคอ และบรรเทาอาการอึดอัดต่างๆ ได้ด้วย
- กระเทียม
กระเทียม สามารถลดความรุนแรงของอาการหวัด และไข้หวัดใหญ่ได้ ด้วยการเข้าไปช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือด ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้
- ซุปไก่
จากการศึกษาในปี 2000 พบว่า ส่วนผสมในซุปไก่นั้นสามารถต่อสู้กับอาการอักเสบในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยแก้อาการคัดจมูก บรรเทาอาการอื่นๆ ในทางเดินหายใจ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายได้
- แครอท
แครอทนั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้ช่วยทำให้ร่างกายของคุณซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่องได้ นอกจากนั้นวิตามินเอยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันความเสียหายของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย
- โยเกิร์ต
โยเกิร์ต สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ทั้งยังสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ดังนั้น เมื่อเกิดอาการเจ็บคอ ลองเลือกทานโยเกิร์ตแบบที่ไม่เพิ่มน้ำตาล จะสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นได้
- ผลไม้ที่มีวิตามินซี
วิตามินซี นั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารอาหารที่สามารถต่อสู่กับโรคไข้หวัดได้ แถมยังเป็นสารอาหารที่สำคัญในการช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณป่วย นอกจากนั้นร่างกายของเรายังสามารถดูดซึมวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นวิตามินซีจึงกลายเป็นสารอาหารสำคัญที่ควรเลือกทานเมื่อยามที่คุณเป็นไข้หวัด
- คีเฟอร์ (Kefir)
คีเฟอร์ (Kefir) คือ นมที่หมักกับหัวเชื้อจุลินทรีย์ รสคล้ายโยเกิร์ตแต่เข้มข้นกว่า ทั้งยังอุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ดีต่อกระเพาะและลำไส้อย่าง โปรไบโอติก (Probiotics) ซึ่งโปรไบโอติกนี้สามารถลดระยะเวลาในการพักฟื้นเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดได้ทนอกจากนั้นมันยังมีความสำคัญต่อการย่อยอาหารที่เหมาะสมอีกด้วย หากไม่มีการย่อยอาหารที่เหมาะสมก็จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้
- ไข่
ไข่มีซีลีเนียม (Selenium) ที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดี ทั้งยังมีโปรตีนและกรดอะมิโนสูงมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงช่วยป้องกันหวัดและไข้หวัดใหญ่
- เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารอีกชนิดที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้น การบริโภคเมล็ดฟักทอง จึงช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคหวัดได้
- ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า และผักอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณยามที่คุณเป็นไข้หวัดได้ นอกจากนั้นผักใบเขียว ยังมีวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารที่เสริมภูมิคุ้มกันนั่นเอง ซึ่งคุณสามารถบริโภคแบบดิบๆ หรือจะปั่นรวมกับน้ำมะนาวก็ได้เช่นกัน
- บรอกโคลี่
บรอกโคลี่ เป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม และไฟเบอร์ ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย บรอกโคลี่จึงถือเป็นอาหารต้านหวัดอีกหนึ่งชนิดที่ควรเลือกทาน เมื่อคุณเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
- น้ำ
น้ำมีความสำคัญต่อกระบายการสรีรวิทยาทุกอย่างในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำ ร่างกายก็จะไม่สามารถทนต่อความเจ็บป่วยตามที่ควรได้ นอกจากนั้นแล้วการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณได้อีกด้วย
- จมูกข้าวสาลี
จมูกข้าวสาลีอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินอี ซีลีเนียม (Selenium) และแมกนีเซียม ทั้งยังเป็นแหล่งมังสวิรัติที่สำคัญของธาตุสังกะสี การทานจมูกข้าวสาลีจึงช่วยทำให้ร่างกายของคุณต่อต้านกับอาการไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
- ข้าวโอ๊ตบด
เมื่อคุณป่วย ข้าวโอ๊ตบดร้อนๆ ถือเป็นอาหารที่ควรเลือกทาน เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง เนื่องจากข้าวโอ๊ตนั้นอุดมด้วยวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง โพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย
- เครื่องเทศ
ในช่วงท้ายๆ ของการเป็นไข้หวัดใหญ่ คุณอาจจะมีอาการไซนัสและอาการแน่นหน้าอกเกิดขึ้น เครื่องเทศบางชนิด เช่น พริกไทย และมะรุม สามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ลงได้ จึงทำให้คุณสามารถหายใจได้ดีขึ้น แต่หากคุณมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจะเป็นการดีที่สุด
- ขิง
ขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่มาพร้อมกับไข้หวัด โดยปกติแล้วขิงมีสรรพคุณที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ทั้งยังสามารถรักษาอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้ที่เกิดจากการทำเคมีบำบัด และลดความถี่ของการอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย
- อาหารที่มีรสหวาน
ไข้หวัดอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ทั้งยังอาจทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ดังนั้นการเลือกทานอาหารที่มีรสหวานผสมอยู่ อย่าง ขนมปัง หรือข้าวกล้อง อาจจะง่ายต่อการบริโภคมากกว่า การจับคู่ขนมปังปิ้งหรือข้าวกล้องกับซุป หรืออาหารที่ทำจากผักง่ายๆ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ
- อัลมอนด์
อัลมอนด์มีวิตามินซีสูงมาก ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน จึงสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายได้ จากการศึกษาในปี 2020 ของอิตาลี พบว่า สารเคมีที่เกิดขึ้นในธรรมชาติที่พบในอัลมอนด์นั้น สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการติดเชื้อได้
- กานพลู
กานพลูสามารถชะลอการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันและช่วยย่ออาหาร ส่วนผสมหลักในกานพลู มีศักยภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพในการต่อต้านแบคทีเรียและไวรัส ในความเป็นจริงแล้วคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระของกานพลูนั้น สูงกว่าเครื่องเทศ ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ ซึ่งคุณสามารถนำกานพลูใส่เพิ่มลงไปในอาหารได้ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/06/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,400.00 | 40,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,617.00 | 39,673.72 | 41,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,355.30 | 35,706.35 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,093.60 | 31,738.98 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,178.00 | 17,858.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 916.00 | 13,886.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,712.00 | 41,113.92 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/06/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.45 | 38.45 | 38.95 | 38.45 | 38.45 | 38.45 | 38.45 | 38.45 | 38.45 | 38.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.08 | 38.08 | 38.38 | 38.08 | 38.08 | 38.08 | 38.08 | 38.08 | 38.08 | 38.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 36.34 | 36.34 | 36.84 | 36.34 | 36.34 | – | 36.34 | 36.34 | 36.34 | 36.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.09 | 36.09 | – | – | – | – | – | – | – | 36.09 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 47.04 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 47.04 |
เบนซิน 95 | 46.34 | – | – | – | 49.11 | – | 46.84 | 46.49 | – | 46.34 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.44 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |