สรุป ภาพรวมปี 2564 อีก 1 ปี ที่ท้าทายของอสังหาฯไทย
ซีบีอาร์อี สรุปเหตุการณ์เด่น ภาคธุรกิจอสังหาฯ ปี 2564 เผชิญจุดเปลี่ยนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผ่าตลาดโรงแรม ราคาห้องพัก ลดสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ ,คอนโดฯหดตัวรุนแรง ,อาคารสำนักงาน ติดลบ 8หมื่นตร.ม. ขณะค้าปลีกสุดซบเซา
27 ธันวาคม 2564 – ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ได้สรุปเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในปีนี้ในภาคธุรกิจต่าง ๆ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมื่ออีกหนึ่งปีที่ท้าทายกำลังจะสิ้นสุดลง เป็นที่ชัดเจนว่าตลาดคอนโดมิเนียมในโซนกลางเมือง ชะลอการเปิดตัวลงอย่างมาก ในขณะที่ดีมานด์ของบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ด้านตลาดค้าปลีกต้องเผชิญกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบหลายปี ขณะที่ในตลาดโรงแรม เราได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด สำหรับตลาดสำนักงานนั้นเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่ผู้เช่าสำนักงานเปลี่ยนแปลงความต้องการในเรื่องพื้นที่และมีการย้ายทำเลที่ตั้ง
ผ่าตลาดคอนโดฯ – ที่อยู่อาศัย
นายรัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ หัวหน้าแผนกวิจัยและที่ปรึกษาการพัฒนาโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เผยว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ติดต่อกันสองไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในย่านมิดทาวน์และชานเมืองจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่บ้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าระดับปกติ จำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีเพียง 11,760 ยูนิต ลดลง 72% จากปี 2562 และลดลง 37% จากปี 2563”
ผู้คนต้องการเพิ่มพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงการอยู่อาศัยในชุมชนที่มีความหนาแน่นต่ำ ทำให้โครงการบ้านแนวราบได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการบางรายมีจำนวนบ้านพร้อมขายไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ การพัฒนาโครงการใหม่และปรับการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อรายใหม่นั้นอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่จะเปิดตัว หรืออาจนานกว่านั้นหากผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องซื้อที่ดินด้วย
ค้าปลีก-โรงแรมปรับตัววุ่น
ในตลาดค้าปลีก หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกลงมาสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541 เป็นผลมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบทางการเงินในเชิงลบ รวมถึงการที่ธุรกิจหยุดชะงักและไม่มีสัญญาณที่แสดงถึงการปรับตัวดีขึ้นในตลาด สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกจำนวนมากต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง ดังนั้น เราจึงเห็นรูปแบบการค้าปลีกที่มีความยืดหยุ่นและขนาดเล็กลง เช่น ฟู้ดทรัค คลาวด์คิทเช่น และป๊อปอัป สโตร์ ได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ
ด้านตลาดโรงแรมนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดที่มีความสร้างสรรค์มากที่สุดในแง่ของการปรับให้เข้ากับมาตรการข้อจำกัดและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากที่มีการเปลี่ยนจากการเข้าสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) ไปเป็นระบบเทสต์ แอนด์ โก (Test and Go) หรืออื่นๆที่จะต้องปรับตัวตามสถานการณ์โควิด เนื่องจากต้องเปลี่ยนไปเป็นตลาดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศเกือบทั้งหมด การเข้าพักแบบ Staycation โปรโมชั่นและแพ็คเกจสำหรับคนไทยถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการที่จะพยายามดึงอัตราการเข้าพักให้กลับมาดีขึ้น จากข้อมูลของ STR อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวันจากห้องที่ขายได้จริง (ADR) ของโรงแรมในกรุงเทพฯ ลงไปต่ำกว่า 2,000 บาทเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าทศวรรษเมื่อเดือนมีนาคม และเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน
“นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติมาเกือบสองปีแล้ว ทำให้ตลาดอาคารสำนักงานได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลดขนาดพื้นที่และการย้ายพื้นที่ของผู้เช่าที่ถูกผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งมากกว่าปี 2563 ปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานใหม่ที่เปรียบเทียบในแต่ละปีนั้นติดลบเป็นระยะเวลาสามไตรมาสติดต่อกันในปีนี้ รวมติดลบ 80,026 ตารางเมตร และเราไม่ได้เห็นการตัวเลขติดลบเช่นนี้ในตลาดสำนักงานในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วิกฤตการเงินช่วงปี 2541”
“ในปี 2563 เราต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อีกระลอกหนึ่งก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดสิ้นปี ความกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้กระตุ้นให้รัฐบาลและภาคธุรกิจต่างต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะตอบสนองต่อความไม่แน่นอนนี้อย่างไร ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อจัดการกับสถานการณ์และทิศทางของตลาดที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้” นายรัฐวัฒน์ กล่าวสรุป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
5 คำถามสุดฮิต เมื่อคิดจะมีบ้าน รวมเคล็ดลับคำนวณงบประมาณ
รวม 5 คำถามยอดฮิต เมื่อคิดจะมีบ้าน ต้องเริ่มต้นอย่างไร? และบ้านที่จะตอบโจทย์ความต้องการเป็นแบบไหน? รวมเคล็ดลับ จัดการงบประมาณ และเลือกวัสดุสร้างบ้านอย่างไรให้เหมาะสม
27 ธ.ค.2564 – คนเรา เมื่อคิดถึงการจะสร้างบ้านสักหลัง ไม่ว่าบ้านหลังนั้นจะใหญ่หรือเล็ก คงมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวมากมาย หลายคนครุ่นคิดวนเวียนอยู่กับคำถามเดิมซ้ำ ๆ สุดท้ายก็ยังจับต้นชนปลายไม่ได้สักที ว่าบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการจะเป็นอย่างไร หรือบางคนเหมือนจะได้คำตอบ แต่ก็กลับไม่แน่ใจ เปิดคำตอบ สำหรับ 5 คำถามสุดฮิตที่คนคิดจะบ้านดังนี้
1.จะต้องเริ่มต้นอย่างไร
เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการเลือกรูปร่างหน้าตาของบ้าน จากนั้นจึงค่อยพิจารณาลงลึกในรายละเอียดของการใช้งานพื้นที่และวัสดุ ปัญหาที่ต้องเจอหากเริ่มต้นแบบนี้ คือมีความไม่สอดคล้องกันของการใช้งานกับขนาดสัดส่วน รูปร่างหน้าตาของบ้านในภายหลัง ทางที่ดีควรเริ่มจากการสำรวจความต้องการของสมาชิกภายในบ้านก่อน ทั้งความต้องการใช้งานและด้านความสวยงาม
ซึ่งเมื่อรวบรวมมาได้ส่วนหนึ่งจะถูกแปลงไปเป็นขนาดพื้นที่ใช้สอย ทำให้ขนาด สัดส่วน รูปร่างหน้าตา สอดคล้องกับการใช้งาน อีกทั้งขนาดพื้นที่ใช้สอยยังสามารถนำมาตั้งต้นประเมินค่าใช้จ่ายในงานออกแบบก่อสร้างอย่างคร่าว ๆ ได้อีกด้วย สอบถามเรื่องการสร้างบ้าน คลิก SCG HOME
2.จะต้องเตรียมงบประมาณเอาไว้เท่าไหร่
เราสามารถประเมินค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านได้ตั้งแต่ต้น ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นที่ได้มานั้น จะมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงค่อนข้างมาก แต่จะทำให้เจ้าของบ้านเห็นวงเงินงบประมาณที่ต้องเตรียมเอาไว้ใช้จ่ายได้ในภาพรวมได้ โดยรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ค่าออกแบบ และ ค่าก่อสร้าง
อัตราค่าออกแบบ ส่วนมากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อสร้าง โดยสมาคมสถาปนิกกำหนดมาตรฐานค่าก่อสร้างบ้านพักอาศัยไว้ที่ 7.5% ของค่าก่อสร้าง โดยค่าออกแบบจะมากหรือน้อย นอกจากจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ก่อสร้างแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ความยากง่ายของแบบ, ระดับของการให้บริการ, ความน่าเชื่อถือ เป็นต้น
อัตราค่าก่อสร้าง มักจะแตกต่างกันตามข้อจำกัดของสภาพที่ตั้ง สภาพแวดล้อม, ความยากง่ายในงานก่อสร้าง, ค่าจ้างแรงงาน, ค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าดำเนินงานของผู้รับเหมา
แต่หากต้องการตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น จำเป็นจะต้องดำเนินการออกแบบให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจึงทำการคิดคำนวณค่าก่อสร้างจากการถอดปริมาณวัสดุ และปริมาณเนื้องาน ออกมาจากแบบก่อสร้าง รวมกับค่าดำเนินงานของผู้รับเหมา เพื่อเป็นราคารวมทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้เราก็จะได้ค่าก่อสร้างที่ใกล้เคียงความจริง รวมถึงเห็นค่าใช้จ่ายแยกตามรายการงานแต่ละส่วนอย่างชัดเจน หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ BOQ (Bill of Quantity) นั่นเอง
3.จะต้องเลือกใช้วัสดุอย่างไร
การเลือกใช้วัสดุ เป็นหนึ่งขั้นตอนในงานออกแบบที่ทางสถาปนิกจะทำหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าของงานเลือกวัสดุเพื่อนำมาใช้ในงานก่อสร้างได้อย่างเหมาะสม ตรงตามความต้องการทั้งด้านการใช้งาน ความสวยงาม และการควบคุมงบประมาณ ในกรณีที่เจ้าของงานจะต้องเลือกวัสดุด้วยตัวเอง ควรศึกษา และทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติ ความยากง่ายในการใช้งาน ราคา รวมถึงพิจารณาความยากง่ายในการจัดหามาซ่อมแซมเมื่อเกิดการชำรุดในภายหลังเอาไว้ด้วย
ในปัจจุบันเพื่ออำนวยความสะดวก และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับเจ้าของงาน ผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างจึงมักจะมีบริการสินค้าพร้อมงานติดตั้งในรูปแบบของ Solution งานส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ให้เจ้าของงานเลือกใช้แทนการขายแค่ตัววัสดุก่อสร้างเป็นชิ้น ๆ แถมยังมีการรับประกันงานติดตั้ง ช่วยลดความกังวลหลังงานก่อสร้าง เช่น งานมุงกระเบื้องหลังคา, งานติดตั้งประตูหน้าต่างไวนิล, งานจัดสวนปูทางเดิน, งานติดตั้งฉนวนกันความร้อน และ งานปรับปรุงห้องน้ำ เป็นต้น
4.จะต้องใช้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน
การสร้างบ้านสักหลังจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหน สามารถพิจารณาจากระยะเวลาที่ใช้ในงานออกแบบ หรือระยะเวลาที่ใช้ในการจัดหาแบบก่อสร้างบ้าน รวมเข้ากับระยะเวลาที่ใช้ในงานก่อสร้างบ้าน โดยปกติสถาปนิกมักจะใช้ระยะเวลาในงานออกแบบบ้านตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป บ้านบางหลังที่เจ้าของบ้านพิถีพิถันในงานออกแบบอาจจะใช้ระยะเวลาในการออกแบบยาวนานมากกว่าหนึ่งปีเลยทีเดียว
ในส่วนของงานก่อสร้างถ้านับระยะเวลาที่ใช้ตั้งแต่จัดหาผู้รับเหมา ทำเรื่องขออนุญาตก่อสร้างกับทางราชการ จนถึงงานก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ ยกตัวอย่างบ้านที่มีรูปแบบเรียบง่ายไม่มีรายละเอียดงานก่อสร้างที่ซับซ้อน มักจะใช้ระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 8-12 เดือน โดยยังไม่รวมระยะเวลาของงานตกแต่งภายในและการจัดสวนรอบบ้าน
5.จะลดปัญหากับผู้รับเหมาระหว่างงานก่อสร้างได้อย่างไร
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจ้าของงานไม่อยากพบเจอในช่วงงานก่อสร้าง ได้แก่ งานก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ผู้รับเหมาทิ้งงาน, คุณภาพงานก่อสร้างไม่ตรงตามความคาดหวัง งานไม่ตรงแบบ งานไม่เรียบร้อย, งานก่อสร้างยืดเยื้อ ปรับแก้แบบหน้างาน ทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย ฯลฯ
ปัญหาเหล่านี้มักทำให้งานก่อสร้างสะดุด เจ้าของงาน และช่างผู้รับเหมารู้สึกกังวลใจ แต่ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นสามารถควบคุมดูแลได้ด้วยการมีแบบก่อสร้างคุณภาพดี มีรายละเอียดงานก่อสร้างครบถ้วน, มีคนคอยควบคุมงานก่อสร้างพร้อมมีทีมช่างก่อสร้างที่มีประสบการณ์ เอาใจใส่คอยติดตามตรวจสอบแก้ไขข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ และที่สำคัญเจ้าของงาน กับช่างผู้รับเหมาจะต้องรับรู้และมีความเข้าใจเนื้อหาของแบบและงานก่อสร้างไปในทิศทางเดียวกัน มีการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ต่อกันโดยตลอดระหว่างงานก่อสร้าง เพียงเท่านี้งานก่อสร้างก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้น,น้ำมันสหรัฐปิดพุ่งแรง/ทองลง
หุ้นดาวโจนส์ปิดบวกแรง 351.82 จุด ด้านราคาน้ำมันพุ่ง 1.78 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำลดลง 2.90 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,302.38 จุด เพิ่มขึ้น 351.82 จุด หรือ +0.98%, ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,791.19 จุด เพิ่มขึ้น 65.40 จุด หรือ +1.38% และดัชนี แนสแดคปิดที่ 15,871.26 จุด เพิ่มขึ้น 217.89 จุด หรือ +1.39%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากบริษัทมาสเตอร์การ์ด อิงค์เปิดเผยรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในช่วงเทศกาลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.จนถึงวันที่ 24 ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 8.5% โดยได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้าทางออนไลน์ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 11% และจากการที่ร้านค้าต่าง ๆ เสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลการศึกษาของแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์ซึ่งต่างก็บ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขานรับคาดการณ์ที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีหน้า
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ผลงานกระหึ่มส่งท้ายปี ควบแชมป์” Thailand Super Series 2021″ ที่บุรีรัมย์
“Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ทีมแข่งรถภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งท้ายฤดูกาลความเร็วของปียิ่งใหญ่ประกาศชัยชนะในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “Thailand Super Series 2021” อีเว้นท์ส่งท้ายเพื่อตัดสินหาแชมป์ประจำปี เร่งสปีดชูพลังทีมเวิร์คเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์รุ่น Thailand Super Car GTC นำโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์, อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ, เคนทาโร่ ซึจิโทริ และ กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2564 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
“Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ลงสนามสู้ศึกความเร็ว Thailand Super Series 2021 ปิดท้ายปีแบบ 3 เรซ ใน 3 รุ่นแบบสะใจ โดย รุ่น Thailand Supercar GTM Am และ GTM ด้วยรถ Lexus RC-F ที่ขับเคี่ยวความเร็วกันเต็มสปีด รถหมายเลข 39 ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ ที่ทำผลงานได้ดีในอีเวนท์ที่ผ่านมา จบเรซไปแบบสุดมันส์ ผลคะแนนรวมรับถ้วย Supercar GTM Am ในอันดับที่ 1 และถ้วย Thailand Supercar GTM ในอันดับ 2 ด้านรถหมายเลข 38 ขับโดย อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ คว้าอันดับที่ 4 และทีมยังคว้ารางวัลอันดับที่ 2 ในแบบ Over All Team
รุ่น Thailand Super Car GTC ทีมส่งรถ Toyota Supra GT4 ลงสนามเพิ่มอีก 1 คัน จบการแข่งขันประจำปี ปรากฏว่า รถหมายเลข 22 ขับโดย เคนทาโร่ ซึจิโทริ คว้าอันดับที่ 2 คะแนนรวมของรุ่น และคว้าอันดับ 1 ในแบบ Non-H Drive และรถ Toyota Supra GT4 หมายเลข 19 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ คว้าอันดับที่ 3 คะแนนรวมของรุ่น และอันดับ 2 ในแบบ Non-H Drive ด้านรถหมายเลข 69 ขับโดย กฤษฏิ์ วสุรัตน์ แชมป์ Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019 ที่ร่วมลงสนามในรายการนี้ครั้งแรกคว้าอันดับที่ 1 ในเรซที่ 4 และทีมคว้าอันดับ 1 ในแบบ Over All Team
รุ่น Thailand Super Car GT3 ด้วยรถ Lexus RC-F GT3 รถหมายเลข 19 กับคู่ทีมเมทของ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ ที่สนามนี้ทำเต็มที่พารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 6 และอันดับที่ 5 ในแบบ Overall Team
หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวว่า “ Thailand Super Series สนามส่งท้ายในเทศกาลคริตส์มาส เป็นการแข่งขันที่สนุกและตื่นเต้นตลอดเวลา ทั้ง 3 รุ่นที่ทีมเข้าแข่งขันเราตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุด และจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในทีม เราก็ฝ่าฟันทุกอุปสรรคและสามารถขึ้นโพเดียมรับถ้วยรางวัล ถือเป็นของขวัญส่งท้ายปีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราทุกคนครับ ผมและทีมขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเชียร์และสนับสนุนพวกเรา ทั้งบริษัท โตโยต้า ฯ และทุกๆ ส่วน ผมยังตั้งใจที่จะพัฒนาทีมมอเตอร์สปอร์ตของเราและผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งและปีหน้าจะสร้างผลงานที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ”
ร่วมติดตามผลงานและอัพเดทตารางแข่งขันปี 2022 ของ “Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สาเหตุของ “ตะคริว” และวิธีบรรเทาอาการที่ถูกต้อง
ใครเคยเป็นตะคริวบ้าง เป็นเพราะอะไร และมีวิธีทำให้หายจากตะคริวได้เร็วๆ อย่างไรได้บ้าง เรามีคำตอบจาก อ. นพ.พงศ์ภัทร์ วรสายัณห์ แพทย์ฝ่ายอายุธศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน
สาเหตุของอาการตะคริว
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอาการตะคริวเกิดมาจากสาเหตุใด แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น
- ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ ทั้งจากการทำงานหรือจากกิจวัตรประจำวัน
- การอยู่ในท่าเดิมในช่วงระหว่างวันเป็นเวลานาน เช่น นั่งทำงาน นั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบหรือขัดสมาธิ
- การนอนตะแคงหรือนอนผิดท่า
- การขาดการออกกำลังกายเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
- อายุที่เพิ่มขึ้น ยิ่งอายุมาก ยิ่งเป็นตะคริวได้ง่าย
- อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน
วิธีบรรเทาอาการตะคริวที่ถูกต้อง
หากมีอาการของตะคริว ให้ทำการยืดเหยียด กระดกปลายเท้าขึ้นและนวดที่น่องเพื่อผ่อนคลาย
หากไม่ดีขึ้นให้ทำการประคบร้อน โดยปกติอาการควรดีขึ้นภายใน 1-2 นาที
อาการตะคริว อันตรายหรือไม่?
หากเกิดอาการตะคริวบ่อยเกินไป หรือมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Why don’t… / Why doesn’t… แปลว่า ทำไมไม่…(สำหรับการให้คำแนะนำ)
หลายๆคน อาจจะเคยได้ยินคำว่า Why don’t… / Why doesn’t… ซึ่งแปลว่า ทำไมไม่.. อยู่บ่อยๆ วันนี้เรามาดูกันค่ะว่าทั้งสองคำนี้มันมีวิธีใช้ที่ถูกต้องยังไง ไปดูกันเลย
Why don’t… / Why doesn’t… มักใช้กันเมื่อเราตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างร่วมกับคนอื่นๆ หรือให้คำแนะนำในสถานการณ์ต่างๆ
“Why don’t…….” (ทำไมไม่………) เป็นหนึ่งในรูปแบบคำแนะนำที่ใช้กันบ่อยที่สุด
โครงสร้างประโยค:
“Why don’t + you/we/they + V-infinitive
“Why doesn’t he/she/it + V-infinitive
ตัวอย่างและวิธีการใช้:
Situation: Your mother says she feels tired.
สถานการณ์: แม่ของคุณบอกว่าเธอรู้สึกเหนื่อย
Your suggestion: Mom, why don’t you go to bed early today?
คำแนะนำของคุณ: แม่ ทำไมวันนี้แม่ไม่เข้านอนเร็วๆล่ะ?
Situation: Your friend says his wife can’t decide which cellphone to buy.
สถานการณ์: เพื่อนของคุณบอกว่าภรรยาของเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อมือถืออันไหน
Your suggestion: Why doesn’t she go to a techno shop and look at all models.
คำแนะนำของคุณ: ทำไมเธอไม่ไปที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ร้านขายมือถือ) แล้วดูตัวอย่างของทุกรุ่นล่ะ?
Jane: I have a headache.
เจน: ฉันปวดหัว
Anna: Why don’t you take an aspirin?
แอนนา: ทำไมคุณไม่กินยาแอสไพรินล่ะ?ID : 1157970631203073267
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
10 นวัตกรรมรักษ์โลกแห่งปี 2021 บนหลัก ESG
เอสซีจี โชว์ 10 นวัตกรรมรักษ์โลกแห่งปี 2921 ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ตามแนวทาง ESG เผยวิกฤตโคิด -19 สร้างโอกาส ทลายรอบความคิด สู่การพัฒนานวัตกรรมที่รวดเร็วและทันต่อความต้องการ “แก้ปัญหาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิต” ของผู้คน และยัง “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงใกล้สิ้นปี กลุ่มบริษัทเอสซีจี ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรม โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด – 19 ซึ่งสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับผู้คนทั้งโลก หากแต่วิกฤตการณ์ครั้งนั้น ยังสร้าง “โอกาส” ที่สามารถทลายกรอบคิดในการพัฒนา “นวัตกรรม” ที่ต้อง “รวดเร็วและทันต่อความต้องการใช้” โดยเฉพาะนวัตกรรมที่ “แก้ปัญหาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิต” ของผู้คน และยัง “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นับว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น
จากความตระหนักรู้ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสิ่งแวดล้อม จนต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมแก้วิกฤตตามแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Government) ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ
กลุ่มเอสซีจี ได้พัฒนานวัตกรรมมากมาย และ 10 นวัตกรรมที่น่าสนใจ และถือเป็นนวัตกรรมแห่งปี 2021 ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์สร้างประสิทธิภาพชีวิตให้กับคนไทยได้ต่อเนื่อง ได้แก่
- “นวัตกรรมป้องกันโควิด19” คิดและพัฒนาแข่งกับเวลา ทันใช้กับสถานการณ์
ในยามที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตโควิด19 “SCG” ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์
1.) “นวัตกรรมป้องกันโควิด19” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์รับมือโควิด19 ในสถานการณ์ที่สังคมต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนเตียงจากจำนวนผู้ป่วยโควิด19 ที่เพิ่มขึ้น “เตียงสนามกระดาษ SCGP” ที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100% นับเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถขนส่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ได้อย่างทันท่วงที น้ำหนักเบา ประหยัดพื้นที่ขนส่งและการจัดเก็บ ประกอบง่าย และรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม
“ห้องไอซียูโมดูลาร์” สำหรับแยกผู้ป่วยโควิด19 ออกจากผู้ป่วยทั่วไป และช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วย ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่ง SCG พัฒนาร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี สร้างเสร็จรวดเร็วใน 1 สัปดาห์ หากเปรียบเทียบกับการปรับปรุงไอซียูแบบทั่วไป อาจต้องใช้เวลากว่า 3 เดือน
“แคปซูลความดันลบสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ” ช่วยแก้ข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด 19 ด้วยแคปซูลที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการบรรทุกในเครื่องบินขนาดเล็ก ใช้พลาสติก PVC ที่มีความทนทานสูง แต่น้ำหนักเบา พร้อมมีระบบควบคุมความดันลบที่ช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ และอากาศภายในแคปซูลจะถูกดูดออกผ่านเครื่องกรองเชื้อที่มีประสิทธิภาพถึง 99.95%
สำหรับผู้ที่ต้องสัมผัสเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งที่อาจมีเชื้อโควิด19 เช่น ผู้ปฏิบัติงานที่โรงซักผ้าในโรงพยาบาล และบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาล เป็นอีกกลุ่มคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในสถานการณ์โควิด19
2.) ถุงซักผ้าละลายน้ำ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยให้ไม่ต้องสัมผัสกับผ้าติดเชื้อโดยตรง เพียงนำถุงซักผ้าละลายน้ำซึ่งเป็นพลาสติกพิเศษที่ผลิตจากพอลิไวนิลแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ มีคุณสมบัติละลายน้ำที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียสขึ้นไป เข้าเครื่องซักผ้า ถุงซักผ้าจะสามารถละลายในน้ำได้ภายใน 2-3 นาที ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ และช่วยลดขั้นตอนการซักล้าง
- “อยู่สบายอย่างปลอดภัย” ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค NOW Normal
นอกจากนี้ เพื่อทำให้ผู้คนใช้ชีวิตปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นท่ามกลางปัญหาโรคระบาด SCG ได้พัฒนานวัตกรรม
3.) หน้ากาก Respirator “CUre AIR SURE” ที่ออกแบบและผลิตโครงสร้างหน้ากาก โดยนำความเชี่ยวชาญด้านการดีไซน์และผลิตวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์มาต่อยอด เพื่อให้ได้หน้ากากมีประสิทธิภาพ ช่วยกรองเชื้อแบคทีเรียและอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 99% อีกทั้งสามารถเปลี่ยนแผ่นกรองได้ ช่วยลดปริมาณขยะหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ในขณะเดียวกัน ที่เราต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นควันซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนเมือง
4.) กระเบื้องฟอกอากาศ COTTO AIR ION ที่มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 89% โดยการปล่อยประจุไอออนลบเพื่อทำปฏิกิริยาเข้าจับฝุ่นที่ลอยในอากาศนำตกลงสู่พื้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับมวลอากาศสดชื่นตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย
สำหรับ 5.) ถุง OptiBreath® บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยคงความสดของผักผลไม้ให้นานขึ้น ช่วยลดการเน่าเสีย และข้อจำกัดทางการขนส่ง ด้วยเทคโนโลยีของฟิล์มที่ช่วยควบคุมการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำ ก็เหมาะสำหรับผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่นิยมสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น
- นวัตกรรมสีเขียว รักษ์โลก “ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก-ลดขยะ”
ในขณะเดียวกัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมยังเป็นอีกหนึ่งวิกฤตที่คนทั้งโลกกำลังเผชิญ แต่ทุกภาคส่วนต่างก็ตื่นตัวกับการแก้ปัญหา SCG ได้คิดค้นและพัฒนา “นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ด้วยการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้เป็นแนวคิดตลอดกระบวนการผลิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมรักษ์โลกไปพร้อมกัน เช่น
6.) เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ SCG GREEN POLYMERTM โดยเป็นการนำพลาสติกใช้แล้วมาผ่านกระบวนการให้กลายเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง หรือ High Quality PCR (High Quality Post-Consumer Recycled Resin) สามารถนำมาขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ได้ ช่วยลดปริมาณขยะและลดการใช้ทรัพยากร
7.) เมลามีนอัปไซเคิล นำเมลามีนที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตในโรงงาน หรือสินค้าเมลามีนที่ใช้งานแล้ว มาเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นวัตถุดิบใหม่ที่มีส่วนผสมของเมลามีนใช้แล้ว 10-40% โดยสามารถปรับตามลักษณะพื้นผิวและลวดลายชิ้นงานที่ต้องการ สร้างสรรค์เป็นสินค้าอัปไซเคิลที่มีดีไซน์สวยงาม ตอบโจทย์ และเป็นการเปิดตลาดสู่กลุ่มสินค้าใหม่ของวัสดุเมลามีน ได้แก่ กระถางต้นไม้ Plant me และ อ่างล้างมือ BASINITY เป็นการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับนวัตกรรมการก่อสร้างเพื่อการอยู่อาศัย SCG ได้พัฒนา 8.) ปูนงานโครงสร้าง SCG สูตรไฮบริด ปูนซีเมนต์คุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานทดแทน โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) ทดแทนเชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตปูนซีเมนต์ สามารถทดแทนถ่านหินได้ 18% ของความร้อน รวมถึงการนำลมร้อนที่ได้จากกระบวนการผลิตมาปั่นไฟฟ้า หรือ Waste Heat Generator (WHG) ลดการใช้พลังงานถึง 38% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดีต่อเรา ดีต่อโลกอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ก็ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ร่วมกับ 9.) CPAC 3D Printing Solution เพื่อออกแบบและควบคุมกระบวนการก่อสร้างด้วยการใช้เครื่องจักรสำหรับพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) ทำให้สามารถพิมพ์รูปโครงสร้าง และอาคารตามรูปแบบที่ต้องการ อีกทั้งยังประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้คอนกรีตตกแต่งอื่น ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ และฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังนวัตกรรม นวัตกรรมนี้ช่วยลดระยะเวลาทำงาน และลดเศษวัสดุในพื้นที่งานก่อสร้าง
นอกจากนั้น ภายในกระบวนการผลิต SCG ได้นำ 10.) AI Supervisory for Energy Analytics เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักร ทำให้สามารถคาดการณ์ความผิดปกติได้ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยง และสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต โดยพบว่า ระบบสามารถลดพลังงาน ได้ถึง 19,430 กิกะจูลต่อปี หรือเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 806 ตันคาร์บอนต่อปี
เมกะเทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อมและความต้องการอยู่อย่างปลอดภัย เป็น “โอกาส” ที่ทำให้เราได้ “ร่วมกันรับผิดชอบต่อโลกใบนี้” ซึ่งภาคธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในสังคม ตลอดจนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Government) เพื่อส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้กับลูกหลานในอนาคตต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
รวม 4 ไอเดียแบบบันไดบ้าน ดีไซน์สวยล้ำ ตอบโจทย์ทุกการตกแต่งบ้าน
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ของบ้านที่มีตั้งแต่ชั้นครึ่งไป นั่นก็คือ “บันได” เพราะบันไดถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่กำหนดว่าบ้านหลังนั้นจะออกมาสวยหรือไม่สวย การเลือกแบบบันไดจึงเป็นปัญหากับเจ้าของบ้าน เพราะไม่รู้จะออกแบบยังไงให้ออกมาดูดี
วันนี้ BuilderNews เลยเลือกแบบบันไดบ้านสวย ๆ มาเป็น Inspiration ไว้ให้ที่นี่แล้ว ไปดูกัน !
บันไดบ้านช่วงเดียว
บันไดบ้านแบบช่วงเดียว เป็นบันไดที่มีลักษณะเป็นทางเส้นตรง เป็นท่อนเดียว ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือรอยต่อทางเลี้ยวแต่อย่างใด ซึ่งบันไดบ้านแบบนี้จะเหมาะกับบ้านที่มีลักษณะประตูหน้าบ้านทรงยาว ที่มีลักษณะประตูด้านหน้าของบ้านที่ค่อนข้างแคบ สามารถออกแบบเพิ่มเติมได้ค่อนข้างหลากหลาย นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบพื้นที่ส่วนข้าง ๆ ของบันไดบ้านแบบช่วงเดียว ให้เป็นชั้นวางหนังสือ หรือชั้นใส่ของต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์นอกจากการขึ้นลงบันไดบ้านเพียงอย่างเดียว
บันไดบ้านแบบหักฉาก หรือ บันไดรูปตัว L
บันไดบ้านลักษณะนี้จะเป็นบันไดบ้านแบบตั้งฉากคล้ายกับรูปตัวอักษร “L” ในภาษาอังกฤษ โดยบันไดบ้านลักษณะนี้จะเหมาะกับตัวบ้านที่มีลักษณะเล็กและต้องการประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย โดยบันไดบ้านลักษณะนี้จะมีการแบ่งบันไดบ้านออกเป็นทั้งหมด 2 ช่วงด้วยกัน โดยแต่ละช่วงโดยช่วงแรกจะเป็นช่วงฐาน ก่อนจะเลี้ยวตั้งฉากขึ้นไปให้มีลักษณะเหมือนรูปตัวอักษร “L” ตรงช่วงบริเวณชานพักของบันได
บันไดบ้านแบบหักกลับ หรือ บันไดบ้านแบบรูปตัว U
บันไดบ้านแบบนี้จะมีลักษณะคล้ายกับบันไดหนีไฟ ที่จะมีลักษณะจำนวนชั้นที่เท่า ๆ กัน แบบหักกลับเป็นมุม 180 องศา หรือ เป็นลักษณะของรูปตัวอักษร “U” ซึ่งบันไดบ้านลักษณะนี้จะมีในบ้านหรืออาคารที่มีความสูงเพดานของแต่ละชั้นในระยะที่เท่า ๆ กันหรือมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก โดยปกติแล้วบ้านทั่วไปจะใช้บันไดบ้านที่มีลักษณะแบบนี้ ซึ่งบันไดบ้านแบบรูปตัว “U” นั้น จะมีลักษณะเป็นแบบทอดยาวไปจนถึงชั้นชานพักตรงกลางของช่วงบันไดบ้าน ก่อนจะวนกลับทิศทางเดิมจากชานพักบันได ซึ่งบันไดบ้านลักษณะนี้จะเหมาะกับตัวบ้านที่มีขนาดเล็ก และมีเนื้อที่จำนวนจำกัด แต่บันไดบ้านแบบรูปตัว “U” นี้ ก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไปตามขนาดของตัวบ้าน
บันไดบ้านแบบโค้งวงกลม
บันไดบ้านลักษณะนี้จะเป็นบันไดบ้านที่มีลักษณะโค้งมนเป็นวงกลม เหมาะสำหรับบ้านที่มีดีไซน์หรูหรา มีของประดับตกแต่งเยอะ เน้นการแสดงให้เห็นทุกส่วนที่ครอบคลุมภายในตัวบ้าน โดยบันไดบ้านลักษณะนี้จะมีลักษณะการหมุนเวียนในแต่ละชั้นที่เป็นวงกลมหมุนเวียนต่อกันไปเรื่อย ๆ หากเป็นบ้านหรู ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือใช้ในโอกาสสำคัญ ๆ เป็นพิเศษ บันไดบ้านลักษณะนี้ก็จะตอบโจทย์กับตัวบ้านเป็นอย่างมาก
อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเนรมิตบันไดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็คือการเลือกบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ จาก DDC ที่นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะไม่เพียงแต่มีลวดลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังผลิตด้วยวัสดุ Wood Cement Board ที่มีความหนาแน่นสูง กันปลวกและเชื้อราได้อย่างดีเยี่ยม คลายกังวลในเรื่องของการบวม โก่งงอ แตกหัก หรือการแอ่นออกมาของไม้ สามารถใช้งานร่วมกับการออกแบบได้หลากหลายดีไซน์
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษในด้านผิวสัมผัสแบบ Deep Embossed เสมือนพื้นไม้ธรรมชาติ ไม่ลื่น สามารถกันน้ำได้ 100 % นอกจากนี้ชั้นผิวหน้ายังกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย ป้องกันไฟลุกลาม เพราะเป็นวัสดุประเภท O หรือ Virtually non-combustible นอกจากนี้ตัวบันไดไม้เอ็นจิเนียร์ยังปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสารใยหินหรือกาวยูเรียฟอมัลดีไฮน์ที่พบในวัสดุก่อสร้างอื่น
ดีไซน์ของสีและลายไม้นั้นมีให้โดยสามารถเลือกแบบ Colour Match กับสีพื้นไม้หรือพื้นไวนิลได้ หรือเลือกลายให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับพื้นไม้ ส่วนการติดตั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลดระยะเวลาในการผลิตและติดตั้งง่าย รวดเร็ว ไม่เลอะเทอะ ด้วยระบบแห้งโดยใช้กาว PU หรือ กาวตะปู ทั้งยังสามารถใช้เครื่องมือและวิธีการที่ใช้กับไม้ทั่วไปได้ จึงทำให้ต้นทุนลดลงทั้งวัสดุและเวลาที่ใช้ในการติดตั้งได้นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/12/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,650.00 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,856.00 | 28,136.96 | 29,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,670.40 | 25,323.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,484.80 | 22,509.57 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 835.00 | 12,658.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 650.00 | 9,854.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,923.00 | 29,152.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/12/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.15 | 31.15 | 31.65 | 31.15 | 31.65 | 31.15 | 31.45 | 31.15 | 31.15 | 31.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.88 | 30.88 | 31.38 | 30.88 | 31.38 | 30.88 | 31.18 | 30.88 | 30.88 | 30.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.64 | 29.64 | 30.14 | 29.64 | 30.14 | – | 29.94 | 29.64 | 29.64 | 29.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.74 | 23.74 | – | – | – | – | – | – | – | 23.74 |
เบนซิน 95 | 38.56 | – | – | – | 39.51 | – | 39.36 | 39.06 | – | 39.06 |
ดีเซล B7 | 28.44 | 28.44 | 29.04 | 28.64 | 29.04 | 28.44 | 28.74 | 28.44 | 28.64 | 28.44 |
ดีเซล | 28.44 | 28.44 | 29.04 | 28.64 | 29.04 | 28.44 | 28.74 | 28.44 | 28.64 | 28.44 |
ดีเซล B20 | 28.44 | 28.44 | 29.04 | – | 29.04 | – | 28.74 | 28.44 | – | 28.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.46 | 34.46 | 35.49 | 35.26 | 35.49 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |