สาระน่ารู้ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2564

SCG ย้ำ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โชว์ 9 เดือน รายได้ 3.87 แสนล.

SCG ย้ำ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง  โชว์ 9 เดือน รายได้ 3.87 แสนล.

SCG เผย ผลประกอบการไตรมาส 3 ทำรายได้ 1.3 แสนล. กำไรลดลง 60 % จากมาตรการปิดประเทศ ขณะงบการเงินรอบ 9 เดือน โกยรายได้จากการขาย 3.87 แสนล. กำไรยังโต 49% คาดหลังเปิดประเทศ เศรษฐกิจโลกฟื้น ลุยรับมืออัตราเงินเฟื้อรุนแรง

28 ตุลาคม 2564 – นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจีในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2564 มีรายได้จากการขาย 131,825 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากไตรมาสก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 9,066 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 47 

ทั้งนี้ หากรวมขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในประเทศเมียนมา และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเป็นมูลค่ายุติธรรม จะทำให้มีกำไรสำหรับงวด 6,817 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 60 จากไตรมาสก่อน

รายได้จากการขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติ ลดลงร้อยละ 11 จากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่ และการปิดเมืองทั้งภูมิภาค  ทั้งนี้ หากรวมขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าว จะมีกำไรสำหรับงวด ลดลงร้อยละ 30

SCG ย้ำ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง  โชว์ 9 เดือน รายได้ 3.87 แสนล.

9 เดือน กำไรยังพุ่ง 49% 

สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2564 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 387,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 38,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น แบ่งเป็น 

  • ธุรกิจเคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 172,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
  • ร้อยละ 56 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 24,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 107 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 
  • ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 136,660     ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 6,476 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16      จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 
  • เอสซีจีพี มีรายได้จากการขาย 89,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 6,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน    จากความต้องการซื้อในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารเครื่องดื่ม และสินค้าเพื่อสุขอนามัย ที่ยังสามารถเติบโตได้ 
SCG ย้ำ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง  โชว์ 9 เดือน รายได้ 3.87 แสนล.

เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการ HVA (High Value Added Product & Services – HVA) ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 อยู่ที่ 133,504 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34 ของยอดขายรวม ทั้งนี้ ยังมีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products Development – NPD) และ Service Solution คิดเป็นร้อยละ 15 และ 5 ของรายได้จากการขายรวม

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ใน 9 เดือนของ  ปี 2564 ทั้งสิ้น 174,487 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45 ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีมูลค่า 850,339 ล้านบาท โดยร้อยละ 44  เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน

” สถานะทางการเงินของเอสซีจียังแข็งแกร่ง แม้ว่ากำไรลดลง จากการปิดประเทศทั้งภูมิภาค ต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบสูงขึ้น เอสซีจี ได้เร่งดำเนินกลยุทธ์ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับต้นทุนพลังงาน และวัตถุดิบที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต ” 

นายรุ่งโรจน์ ยังกล่าวว่า เอสซีจี จะ เร่งบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการทำสัญญาซื้อขายพลังงานล่วงหน้า การเลือกใช้วัตถุดิบที่เหมาะสมกับ สถานการณ์ตลาดและเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน (Alternative Energy) ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 
มีสัดส่วนการใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและเชื้อเพลิงจากขยะ RDF เท่ากับร้อยละ 12   (โดยเฉพาะในธุรกิจซีเมนต์ มีการใช้พลังงานชีวมวลและเชื้อเพลิง RDF ถึงร้อยละ 25) และพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เท่ากับร้อยละ 3 หรือ 77,744 เมกะวัตต์-ชั่วโมง 

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภายหลังการเปิดประเทศ กำลังการซื้อจะเริ่มกลับมา เพราะภาคธุรกิจและประชาชนจะสามารถ ปรับตัวในการอยู่กับร่วมโควิด 19 ได้เช่นเดียวกับหลายประเทศ นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ซึ่งเอสซีจี ได้เตรียมคว้าโอกาสสร้างการเติบโตระยะยาวด้วยผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและสุขอนามัย  อาทิ ผลิตภัณฑ์ SCG Green Choice ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยประหยัดพลังงานและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี  CPAC Green Solution ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มความรวดเร็ว ลดปัญหาฝุ่น ของเสียในงานก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าสู่ธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ ธุรกิจผลิตวัตถุดิบสำหรับผลิตพลาสติกชีวภาพ เป็นต้น 

SCG ย้ำ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง  โชว์ 9 เดือน รายได้ 3.87 แสนล.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


อสังหาฯหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติ หลังเปิดประเทศหรือไม่?

อสังหาฯหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติ หลังเปิดประเทศหรือไม่?

จับตาอสังหาฯ หัวเมืองใหญ่ ภูเก็ต – เชียงใหม่ – หัวหิน – พัทยา และ กทม. พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติหลังเปิดประเทศหรือไม่?

28 ต.ค.2564 – แผนเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เป็นความหวังในการฟื้นฟูการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การเปิดประเทศจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ประมาณ 64% เมื่อเทียบกับช่วงที่ไม่มีมาตรการ โดยจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.35 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว 

เปิดประเทศความหวังธุรกิจอสังหาฯ 

ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อชะลอตัวยาวนาน การเปิดประเทศจึงเป็นโอกาสที่จะฟื้นตลาดที่อยู่อาศัยให้กลับมาคึกคักเช่นกัน สอดคล้องกับข้อมูลจากนายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสมาคมการค้า เผยว่า นักลงทุนที่เป็นกลุ่มคนจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในไทยที่ยังไม่มีการโอน และบางรายต้องทิ้งการโอนไปเนื่องจากไม่สามารถเดินทางมาทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ รวมเป็นเม็ดเงินราว 5 หมื่นล้านบาท

” ดังนั้นนโยบายการเปิดประเทศและการแก้ไขร่างกฎหมายการถือครองอสังหาฯ และที่ดินใหม่สำหรับชาวต่างชาติจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ไทยอีกครั้ง” 

อสังหาฯหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติ หลังเปิดประเทศหรือไม่?

อสังหาฯไทยอันดับ 2 เป้าหมายนักลงทุนจีน 

ข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com พบว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 มีการเข้าค้นหาข้อมูลอสังหาฯ ในประเทศไทยจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นความสนใจจากกลุ่มชาวต่างชาติที่มีต่ออสังหาฯ ในไทยไม่น้อย 

สอดคล้องกับข้อมูลของเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอย่าง Anjuke ที่เผยว่า ไทยติดอันดับสอง (21%) ของประเทศที่ชาวจีนค้นหาอสังหาฯ มากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 รองจากญี่ปุ่น (22%) ตามมาด้วยสหรัฐฯ และมาเลเซียในสัดส่วนเท่ากัน (12%) ปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ชาวจีนสนใจมาจากความคุ้มค่าของผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าของอสังหาฯ ในไทยซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-10% สูงกว่าการลงทุนในจีนที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 2% 

” ชาวจีนยังถือเป็นกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ ที่มีศักยภาพสำหรับไทย เห็นได้จากสถิติการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในภาพรวมทั้งประเทศของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า ผู้ซื้อสัญชาติจีนถือครองกรรมสิทธิ์มาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยรัสเซีย และสหราชอาณาจักร โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 49.4% จังหวัดชลบุรี 30.2% จังหวัดเชียงใหม่ 7.1% และจังหวัดภูเก็ต 4.9% ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพและมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว” 

ราคา – อุปทานหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติแค่ไหน?

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกอัปเดตตลาดที่อยู่อาศัยไทยใน 5 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่, เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเผยความต้องการซื้อ/เช่าล่าสุดจากข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty.com ทั่วประเทศในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สะท้อนทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ควบคู่ไปกับแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่ไม่ควรมองข้าม

  • กรุงเทพมหานคร การแพร่ระบาดฯ ที่ยาวนานตั้งแต่ต้นปี ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ส่งผลให้แนวโน้มดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 3 นี้ ลดลงจากไตรมาสก่อน 2% ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อออกไป อีกทั้งยังขาดกำลังซื้อจากชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ด้านดัชนีอุปทานเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าอัตราการดูดซับยังไม่กลับมาเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความสนใจซื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า เพิ่มขึ้นถึง 10% จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงที่เริ่มกลับมาหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ คลี่คลาย ประกอบกับการจัดโปรโมชั่นดึงดูดใจอย่างต่อเนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ขณะที่ความสนใจเช่าก็เพิ่มขึ้น 2% จากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน
อสังหาฯหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติ หลังเปิดประเทศหรือไม่?
  • ภูเก็ต ถือเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่แทบทุกธุรกิจในจังหวัดล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กันอย่างถ้วนหน้า ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตชะลอตัวตามกำลังซื้อผู้บริโภคไปด้วย โดยแนวโน้มดัชนีราคาในภูเก็ตลดลงถึง 22% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนที่จะมีแพร่ระบาดฯ ดัชนีราคาลดลง 6% ส่วนดัชนีอุปทานลดลงถึง 16% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox) ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยเรียกความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้กลับมา ส่งผลให้ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนกันยายนนี้เพิ่มขึ้น 14% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ความสนใจเช่าเพิ่มขึ้น 29%
  • เชียงใหม่ แม้การแพร่ระบาดฯ ระลอกล่าสุดจะส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของเชียงใหม่ซบเซาลงไปตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ดี ตลาดอสังหาฯ ในเชียงใหม่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากแนวโน้มดัชนีราคาที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดฯ ในช่วง 2 ปีก่อนหน้า พบว่า ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นถึง 9% ส่วนดัชนีอุปทานเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า ด้านความต้องการซื้อของผู้บริโภคเริ่มมีสัญญาณบวกเห็นได้จากความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้น 11% สวนทางกับความสนใจเช่าที่ลดลง 11% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคาที่อยู่อาศัยมีความเหมาะสมและคุ้มค่า จึงดึงดูดให้ผู้บริโภคตัดสินซื้อแทนการเช่าอยู่
อสังหาฯหัวเมืองใหญ่ พร้อมรับกำลังซื้อต่างชาติ หลังเปิดประเทศหรือไม่?
  • พัทยา ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง ทำให้พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้บริโภคซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สอง หรือนักลงทุนสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ ไว้เพื่อปล่อยเช่า แม้ช่วงที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจจะซบเซา ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน พบว่าแนวโน้มดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในพัทยาลดลง 7% จากไตรมาสที่แล้ว โดยลดลงถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนหน้าที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดฯ ในไทย ในขณะที่อัตราดูดซับยังคงไม่กลับมาเป็นปกติ เห็นได้ชัดจากดัชนีอุปทานในตลาดที่เพิ่มขึ้นถึง 52% จากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี ตลาดที่อยู่อาศัยเมืองพัทยายังคงมีสัญญาณบวกจากความสนใจซื้อในเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้น 22% จากเดือนก่อนหน้า แม้ว่าความสนใจเช่าจะลดลงถึง 25% ก็ตาม
  • หัวหิน สถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ส่งผลให้การเติบโตของภาคธุรกิจในเมืองท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักตามไปด้วย โดยเฉพาะในตลาดอสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้พบว่าแนวโน้มดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในหัวหินลดลงถึง 24% จากไตรมาสก่อน โดยลดลงถึง 64% เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนเกิดการแพร่ระบาดฯ ในขณะที่ดัชนีอุปทานลดลง 18% จากไตรมาสก่อน สะท้อนให้เห็นการปรับตัวของผู้พัฒนาอสังหาฯ ในพื้นที่ที่ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปก่อน เพื่อรอให้กำลังซื้อผู้บริโภคกลับมา อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตลาดอสังหาฯ ก็ได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน พบว่าความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยในเดือนกันยายนนี้เพิ่มขึ้น 18% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนความสนใจเช่าลดลง 38%


” กำลังซื้อจากชาวต่างชาติถือเป็นกุญแจสำคัญที่มีอิทธิพลในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ภาครัฐเองได้พยายามออกมาตรการ/นโยบายเพื่อช่วยดึงดูดกำลังซื้อต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในภาคอสังหาฯ มากขึ้น “


จับกระแสร่างกฎหมายถือครองอสังหาฯของคนต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในไทย DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด เผยมุมมองผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อร่างกฎหมายการถือครองอสังหาฯ และที่ดินของชาวต่างชาติฉบับใหม่ พบว่า มีผู้บริโภคเห็นด้วย 26% และไม่เห็นด้วยในสัดส่วนไล่เลี่ยกันที่ 24% เมื่อพิจารณาจากเหตุผลหลักของฝ่ายที่เห็นด้วย 79% มองว่าร่างกฎหมายนี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดอสังหาฯ และเศรษฐกิจไทยโดยรวม 

ขณะที่ 62% ของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าร่างกฎหมายนี้จะทำให้ราคาที่ดินและอสังหาฯ ในไทยแพงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับคนไทยที่อยากมีบ้าน ดังนั้น การแก้ไขร่างกฎหมายการถือครองอสังหาฯ และที่ดินของชาวต่างชาติฉบับใหม่จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ภาครัฐควรศึกษาผลกระทบทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างรอบด้าน พร้อมเร่งทำความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน หากต้องการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจประเทศและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการในระยะยาว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทแข็งค่า! เปิดตลาด 33.18 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่า! เปิดตลาด 33.18 บาทต่อดอลลาร์

งินบาทเปิดตลาด 33.18 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า จับตาตัวเลขเศรษฐกิจไทย-ผลประชุมศบค.-ทิศทาง Flow

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังมีแรงกดดันจากตัวเลขจีดีพีของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด และผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ส่งผลให้ยูโรแข็งค่า

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามทิศทางตลาดโลกเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.00 – 33.30 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแถลงภาวะเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย, ผลประชุม ศบค.เกี่ยวกับการเปิดประเทศ, ทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“รัชนก” ไล่ตบ “ไป่ ยู่โป” ไม่ยาก ลิ่วรอบ 8 คน ขนไก่เฟรนช์ โอเพ่น

"รัชนก" ไล่ตบ  "ไป่ ยู่โป" ไม่ยาก ลิ่วรอบ 8 คน ขนไก่เฟรนช์ โอเพ่น

รัชนก อินทนนท์ ไล่ตบชนะ ไป่ ยู่โป ไม่ยาก 2-0 เกมผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย ศึกโยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2021

 การแข่งขันแบดมินตันรายการ โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2021 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ 750 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการแข่งขันในรอบ 16 คนสุดท้าย ประเภทหญิงเดี่ยว

โดย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวขวัญใจชาวไทย อันดับ 6 ของโลก โคจรมาพบกับ ไป่ ยู่โป มืออันดับ 43 ของโลกจากจีนไทเป

248406428_4621105194621734_84

ผลปรากฏว่า “เมย์” รัชนก อินทนนท์ โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบชนะ ไป่ ยู่โป 2 -0 เกม 21-16,21-12 ใช้เวลาแข่งขัน 35 นาที ส่งผลให้ เมย์ รัชนก ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ ซายากะ ทากาฮาชิ มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น

ขณะ”บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี มือ 3 ของโลก ชนะ โรบิน ทาเบลลิ่ง กับ เซเรน่า เพียค มือ 19 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ 2-0 เกม 21-15 ,21-17

“เอ็ม” สุภัค กับ “เฟม” ศุภิสรา มือ 37 ของโลก ชนะ ตัน เคียงเม้ง กับ ไล่ เป่ยจิง มือ 12 ของโลกจากมาเลเซีย 2-1 เกม 20-22 ,23-21 , 21-14

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Post-Series Depression อาการดูซีรีส์จบแล้วเคว้ง คุณเป็นหรือเปล่า?

Post-Series Depression อาการดูซีรีส์จบแล้วเคว้ง คุณเป็นหรือเปล่า?

เคยไหมเวลาอินกับซีรีส์อะไรมากๆ ติดตามทุกตอน มาปุ๊บดูปั๊บ แต่พอจบแล้วเรากลับรู้สึกเศร้า เคว้งแบบบอกไม่ถูก หดหู่ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ อารมณ์ยังค้างอยู่เลย อาการนี้เรียกว่า Post-Series Depression

Post-Series Depression หรือ PSD ถูกจัดเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ไม่ได้ถูกจัดเป็นโรคหรือความผิดปกติแต่อย่างใด ภาวะนี้จะรู้สึกใจหาย จิตตก หดหู่ เศร้าแปลกๆ แต่บอกความรู้สึกไม่ถูก และยินดีด้วยคุณไม่ได้เป็นคนเดียวแน่นอน มีคนจำนวนมากที่เจอกับอาการ PSD หลังจากที่ซีรีส์จบไปเช่นกัน 

แล้วอาการ PSD เกิดขึ้นได้อย่างไร มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นไว้ หากให้สรุปรวมๆ ก็จะได้ดังนี้ 

  • เรามักรู้สึกอินไปกับโลกของซีรีส์ ทำให้เมื่อซีรีส์จบลง เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นยังไงต่อ ทำให้รู้สึกกังวล เคว้งแบบบอกไม่ถูก
  • เรามีความผูกพันกับตัวละครในซีรีส์ทำให้เมื่อซีรีส์จบลงมันเหมือนว่าเราจะต้องบอกลาเพื่อนสนิท
  • ช่วงที่ได้ดู ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมา เมื่อจบลงสารแห่งความสุขนี้ก็ลดลงไปอย่างกะทันหันทำให้เรารู้สึกเศร้า ว้าเหว่ขึ้นมา

หากเกิดอาการ PSD ขึ้นจะต้องทำอย่างไรดี? จริงๆ แล้วอาการนี้อยู่ไม่นานก็หายไป แต่ถ้าจะให้เร็วขึ้นก็ลองไปเที่ยว ไปหาเพื่อน ไปทำกิจกรรมอื่นๆ หาเรื่องใหม่ดู อ่านหนังสือก็น่าจะช่วยได้ 

เรื่องชวนรู้ส่งท้ายนอกจากดูจบแล้วรู้สึกเศร้า ยังมีอาการดูแล้วหยุดดูไม่ได้อีกนะ เรียกว่า Binge watch  สามารถเข้าไปอ่านกันได้เลย และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ได้ที่ INN Lifestyle

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เทคนิคลับ! เดาคำศัพท์ (Context clues)

ภาษาอังกฤษยังถือว่าเป็นปัญหาสำหรับคนไทย เพราะเหตุผลหนึ่งคือการไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ แต่ก็ใช่ว่าทุกคำที่ไม่รู้ความหมายจะต้องเปิดหาจากพจนานุกรม เพราะคงจะต้องเสียเวลาไปกับการเปิดพจนานุกรมไปๆ มาๆ วิธีการที่จะช่วยให้เราไม่ต้องเปิดหาคำศัพท์บ่อยๆคือ การเดาคำศัพท์จากบริบทดังนี้

1. เดาศัพท์จากความหมาย (definition)

เคยสังเกตมั้ยว่าเวลาอ่านบทความหรืออะไรก็ตาม โดยเฉพาะถ้าเป็นพวกตำราต่างๆ ถ้าเป็นศัพท์ยากหรือศัพท์ใหม่จะมีการให้คำจำกัดความไว้ โดยสังเกตจากคำต่อไปนี้ คือ

mean, verb to be, to be called as, to be defined, as to be regarded as,  to be known as, may be describes as, refer to, to be a kind/type of

เช่น

Personality can be defined as organized set of characteristics possessed by a person that determine ones persona.

Circulate means to move around and return to the same place.

หรืออีกแบบหนึ่งคือ การบอกความหมายโดยใช้ เครื่องหมายวรรคตอน

เช่น  comma (,), dash (-), parentheses ( ) หรือ colon (:)

Messrs., the plural of Mr. is seldom used as a little.

ความหมายของคำว่า Merssrs. จะอยู่ระหว่างเครื่องหมาย comma ( , ) เป็นการนำข้อความเข้ามาแทรกไว้เพื่อขยายความให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายของ Merssrs. ว่าเป็นรูปพหูพจน์ของ Mr.

2. เดาศัพท์จากตัวอย่าง (example)

ผู้อ่านอาจจะใช้การยกตัวอย่างเพื่อบอกความหมายของศัพท์ โดยดูได้จากคำ ต่อไปนี้คือ

for example, such as, for instance, including, etc.

เช่น

She is very touchy. For example, she usually gets angry when her teacher makes comments on her work.

Do you participate in one of the more popular avocations, such as jogging, tennis, or stamp collecting?

3. เดาศัพท์จากคำตรงข้าม (opposite meaning)

Although  / even though / though   แม้ว่า

but / yet  แต่

however /nevertheless  แต่อย่างไรก็ตาม

in spite of / despite   แม้ว่า

on the contrary  / on the other hand  ในทางตรงกันข้าม

in contrast / conversely   ในทางกลับกัน

เช่น

He writes to her constantly ; however, she rarely answers his letter.

(constantly เป็นคำศัพท์ที่เราเดาความหมาย มีความหมายตรงข้ามกับ rarely คือ ไม่บ่อย ดังนั้น constantly จึงแปลว่า บ่อยๆ)

4. การเดาคำศัพท์จากการกล่าวซ้ำ (restatement)

การกล่าวซ้ำจะไม่ใช่การบอกความหมายของคำศัพท์โดยตรง แต่เป็นการกล่าว ซ้ำหรืออธิบายโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เช่น

in other word, that is, that is to say, etc.

เช่น

These two circles are concentric. In other words, they have the same center.

5. การเดาศัพท์จากการเปรียบเทียบ (comparison)

เป็นการชี้แนะหรืออธิบายความหมายของคำศัพท์โดยการเปรียบเทียบ คำศัพท์

ที่เป็น keyword คือ as, as…………as, like, similar to, likewise, as if, as though, comparing to, comparing with, etc.

เช่น

He is cunning as an old fox; don’t trust him.

An elephant is immense, comparing to a mouse.

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีแห่งนวัตกรรมและแนวคิดริเริ่มต่างๆ ณ OPPO Developer Conference 2021

OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีแห่งนวัตกรรมและแนวคิดริเริ่มต่างๆ ณ OPPO Developer Conference 2021

OPPO จัดงาน OPPO Developer Conference 2021 (ODC) ภายใต้แนวคิด “Building A Better Future Together” พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยีมากมาย อาทิ Omoji, Ray tracing และ heterogeneous computing รวมถึงเปิดตัวธุรกิจใหม่ล่าสุด OPPO Health และ OPPO Carlink อีกด้วย

“ในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันตลอดเวลา ทำให้จำนวนของอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงวิธีในการเชื่อมต่อมีความหลากหลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นักพัฒนาจึงจำเป็นต้องพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถรองรับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น” Levin Liu, OPPO Vice President และ President of OPPO Research Institute กล่าว “OPPO มุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพของนักพัฒนาให้สามารถก้าวข้ามความท้าทาย พร้อมสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้แก่ผู้ใช้งานไปพร้อมกัน”

OPPO มุ่งสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ครอบคลุมและคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก เพื่อสร้างการโต้ตอบระหว่างผู้คนและอุปกรณ์ที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์หลากหลายเครื่องที่มีความลื่นไหลไร้สะดุด พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้ โดยในอนาคต OPPO ต้องการพัฒนาด้านรูปลักษณ์และการรับชม การประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ และการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่ง OPPO ได้เปิดตัวข้อมูลความรู้ด้านเทคโนโลยีมากมายให้แก่เหล่านักพัฒนา เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์นี้ไปพร้อมกันกับ OPPO

การพัฒนาด้านรูปลักษณ์และการรับชม สามารถพัฒนาได้ด้วยเทคโนโลยี Omoji และ Ray tracing ของ OPPO ที่สามารถช่วยให้นักพัฒนาสร้างการรับชมที่มีความสมจริงในแอปพลิเคชันและเกมได้

OPPO ได้นำเทคโนโลยี Omoji ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้งานบน ColorOS โดยการใช้โมเดล deep learning และอัลกอริธึม AI อันทรงพลัง ทำให้สามารถจับภาพและสร้างการแสดงออกทางสีหน้าที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ เพื่อสร้างอวาตาร์ของผู้ใช้งานในโลกเสมือนจริงได้

จาก Vulkan API และการสร้าง Ray Tracing รุ่นใหม่ที่ช่วยผลักดันประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์มือถือนั้น ทำให้ OPPO Ray Tracing สามารถสร้างรายละเอียดต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การรับชมให้แก่ผู้ใช้ โดย OPPO ได้พัฒนาอุปกรณ์มือถือรุ่นโปรโตไทป์ และวางแผนที่จะให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงความรู้ด้านเทคโนโลยีนี้ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2565 โดยเทคโนโลยี Ray Tracing มีศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น วอลเปเปอร์ 3 มิติ ฟิลเตอร์ภาพถ่าย และ AR

ความต้องการการใช้งานด้านการประมวลผลข้อมูลมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลที่ดีมากยิ่งขึ้น OPPO จึงได้เปิดตัว heterogeneous computing ซึ่งเป็นการเพิ่มการประมวลผลและประสิทธิภาพอันทรงพลัง ให้สามารถใช้งาน cores, threads และ โปรเซสเซอร์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเข้าถึงข้อมูลความรู้ของ heterogeneous computing ของ OPPO ทำให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพการใช้งานของแอปพลิเคชันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น พร้อมทำให้โปรแกรมทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือที่ทำงาน ก็ต่างเต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย แต่มีสถานที่หนึ่งที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อระหว่างสถานที่ต่างๆ ได้ นั่นก็คือ รถยนต์ นั่นเอง ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายในการมอบการบริการที่ครอบคลุม รถยนต์จึงจำเป็นต้องได้รับการเชื่อมต่อในโลกแห่งดิจิทัลของผู้คนมากยิ่งขึ้น OPPO จึงเปิดตัว OPPO Carlink ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น การเปิดประตูรถและเปิดหน้าจอภายในรถยนต์ได้ด้วยสมาร์ทโฟน สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนและรถยนต์ OPPO จะเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยีให้หลากหลายด้วย OPPO Carlink อีกทั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกันกับรถยนต์ OPPO จะมอบการเข้าถึงข้อมูลด้านเทคโนโลยีให้แก่นักพัฒนาให้เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน OPPO Carlink มีพาร์ทเนอร์ธุรกิจแล้วกว่า 70 บริษัททั่วโลก

นอกจากนี้ OPPO ยังประกาศการก่อตั้ง OPPO Health อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นธุรกิจด้านสุขภาพของ OPPO ที่ช่วยดูแลด้านการแพทย์และการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ โดย OPPO Health ขับเคลื่อนด้วยเซ็นเซอร์ อัลกอริธึม ข้อมูล และ biomedical engineering ที่มุ่งมอบข้อมูลระยะยาว โมเดล และฟีตแบคของผู้ใช้งาน ให้แก่ผู้ใช้และผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างโซลูชันในการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

OPPO Health Lab ก่อตั้งขึ้นในปี 2564 โดยทีมวิจัยและพัฒนาจากหลายสาขาวิชา มุ่งเน้นการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น การนอนหลับ การเล่นกีฬา สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และการให้บริการด้านการแพทย์แบบทางไกล นอกจากนี้ OPPO ยังได้เปิดตัว “OPPO Health Research Kit” ชุดอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่อุตสาหกรรมสุขภาพ ในการช่วยรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และพัฒนาแอป ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยนักวิจัยด้วยการวิจัยด้านสุขภาพที่ไม่เหมือนใครและเป็นแอปพลิเคชันอิสระในอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพของ OPPO

OPPO ยึดมั่นในพันธกิจ “Technology for Mankind, Kindness for the World” พร้อมส่งเสริมนักพัฒนาและพันธมิตรให้ทำงานร่วมกันในยุคของ intelligent experience อย่างเปิดกว้างและได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดย OPPO มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนักพัฒนามากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายและลื่นไหลให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน” ลดน้ำตาลในเลือด-ต้านมะเร็ง

10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน” ลดน้ำตาลในเลือด-ต้านมะเร็ง

นึกถึงอาหาร ขนมหวานที่มีสีม่วงอมน้ำเงินเมื่อไร หลายคนตอบได้ทันทีว่าสีสวยๆ แบบนี้มาจาก “ดอกอัญชัน” แน่นอน นอกจากจะให้สีน้ำเงินสวย เพื่อนำมาประกอบอาหาร เช่น ขนมหวานของไทยเราแล้ว ดอกอัญชันยังมีประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่รู้ เพียงแค่น้ำคั้นสด หรือน้ำต้มดอกอัญชันเท่านั้น ง่ายๆ อย่างนี้นี่ล่ะ แต่ให้ผลดีต่อสุขภาพมหาศาลเลยทีเดียว

10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน”

1. บำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ตาแฉะ และป้องกันโรคต้อกระจก

2. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

3. เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

4. ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อนๆ

5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้

6. ชะลอริ้วรอย และดูแลผิวพรรณให้เต่งตึง กระชับ

7. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด

8. บำรุงผมให้เงางาม ดกดำ มักเป็นส่วนประกอบของยาสระผม หรือครีมบำรุงผม

9. ช่วยสลายลิ่มเลือด

10. ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการทานดอกอัญชัน

ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการสลายลิ่มเลือด จึงไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในภาวะโลหิตจาง และไม่ควรทานอาหารที่ย้อมสีด้วยอัญชันเป็นเวลานานๆ อีกด้วย

วิธีทานก็ง่ายๆ คั้นสด ผสมน้ำดื่ม จะใส่น้ำผึ้ง หรือมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติลงไปบ้างก็ได้ แต่อย่าใส่น้ำตาลมากจนเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้น แทนที่ดอกอัญชันจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด อาจกลายเป็นเพิ่มน้ำตาลในเลือดแทน ดื่มเย็นๆ ชื่นใจมากค่ะ หรือจะลวกจิ้มกับน้ำพริกก็ไม่เลวนะจะบอกให้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 29/10/2564

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,150.0028,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,823.0027,636.6828,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,640.7024,873.01n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,458.4022,109.34n/a
ทองรูปพรรณ 50%820.0012,431.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%638.009,672.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,889.0028,637.24n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29/10/2564


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9532.5532.5534.0533.2534.0032.5532.8533.0533.2532.55
แก๊สโซฮอล์ 9132.2832.2833.7832.9833.7332.2832.5832.7832.9832.28
แก๊สโซฮอล์ E2031.0431.0432.5431.7432.4931.3431.5431.7431.04
แก๊สโซฮอล์ E8524.4424.4424.44
เบนซิน 9539.9641.8640.7640.4639.96
ดีเซล B729.6929.6930.2929.9930.2929.6929.8929.6929.9929.69
ดีเซล29.6929.6930.2929.9930.2929.6929.8929.6929.9929.69
ดีเซล B2029.4429.4430.2429.6429.6429.4429.44
ดีเซลพรีเมี่ยม34.6635.0636.2436.3634.66
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า