สาระน่ารู้ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2565

“บีแลนด์” ผุดมิกซ์ยูสระดับโลก โรงแรม-ศูนย์การค้า เชื่อมต่อขยายสีชมพู

“บีแลนด์” ผุดมิกซ์ยูสระดับโลก โรงแรม-ศูนย์การค้า เชื่อมต่อขยายสีชมพู

“บีแลนด์” ซุ่มออกแบบผุดโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสโรงแรม- ศูนย์การค้า-คอนโด เมืองทองธานี 600 ไร่ คาดแล้วเสร็จปีนี้ นำร่องทำเลริมทะเลสาบ400ไร่ อัพเกรดรอบอิมแพ็ค ดึงกิจการร่วมค่าลงทุน ดันธุรกิจอสังหาฯรอบขยายสายสีชมพูโต 20%

อาณาจักรเมืองทองธานีกว่า4,000ไร่เริ่มคึกคักรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีชมพู แม้จะเป็นช่วงระยะทางสั้นๆ เพียง 3กิโลเมตร แต่ประเมินว่าจะช่วยสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล เนื่องจาก เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีคนอยู่ในพื้นที่กว่า3แสนคนอีกทั้งยังมี กิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นเป็นประจำรวมทั้งโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ มีที่ดินรอการพัฒนาหลายแปลง ผลักดันราคาที่ดินให้ขยับสูงรวมทั้งยังอำนวยความสะดวก การเดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น4 สาย ขณะที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัทบางกอกแลนด์จำกัด(มหาชน) หรือBLANDมี ที่ดินรอการพัฒนา 600 ไร่ แยกเป็นทำเลบริเวณริมทะเลสาบ400 ไร่ ซึ่งเป็นทำเลไฮไลท์ อยู่ติดสถานีปลายทางรถไฟฟ้า วางแผนพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ระดับโลกมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม และอนาคตจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ ที่น่าจับตา

นายปีเตอร์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)หรือ BLANDเปิดเผยว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี วงเงินลงทุน จำนวน 4,000 ล้านบาท จะดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยาย จำนวน 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ชาเลนเจอร์อาคาร 1) และ สถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี ซึ่งจะเร่งรัดเปิดให้บริการได้ในปี 2567 นั้น เบื้องต้นบริษัทอยู่ระหว่างการออกแบบพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส (Mixed Use) บนที่ดินเปล่าในเมืองทองธานี จำนวน 600 ไร่ โดยแบ่งการดำเนินโครงการเป็นระยะ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า,โรงแรม,คอนโดมิเนียม ฯลฯ ซึ่งจะนำร่องการใช้พื้นที่บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี จำนวน 400 ไร่ หลังจากนั้นจะเริ่มทยอยดำเนินการพัฒนาบริเวณโดยรอบอิมแพ็คเมืองทองธานี จนครบทั้ง 600 ไร่ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างหากลุ่มกิจการร่วมค้า (joint venture) เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการฯด้วย คาดว่าจะเริ่มออกแบบแล้วเสร็จภายในปีนี้

 “ส่วนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างและใช้งบประมาณลงทุนได้เมื่อไรนั้น คงต้องขอพิจารณาดูรายละเอียดก่อน เนื่องจากช่วงนี้ติดปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่มีเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน” 

นายปีเตอร์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งออกโครงการโมริ คอนโดมิเนียม จำนวน 1,060 ยูนิต ราคาเริ่มอยู่ที่ 8.49 แสนบาทต่อห้อง ซึ่งเป็นสไตล์โมเดิร์นมินิมอลญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการขายแล้ว 35% คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2565 หลังจากนั้นจะเริ่มการโอนขายได้ภายในปี 2566 คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท

ขณะเดียวกันโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยรอบเมืองทองธานี ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์แบบเช่า เช่น อิมแพ็ค,โรงแรม,ห้างสรรพสินค้า,สำนักงานที่ปล่อยเช่า ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากค่าเช่าราว 3,000 ล้านบาทต่อปี  ทั้งนี้ปัจจุบันทราบว่าราคาที่ดินบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางวา ส่วนราคาที่ดินโดยรอบเมืองทองธานีในช่วงที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพูยังไม่ได้เปิดให้บริการ อยู่ที่ 100,000 บาทต่อตารางวา คาดว่าในอนาคตราคาที่ดินจะปรับตัวสูงขึ้น 

“หากมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู จะทำให้ธุรกิจต่างๆในเมืองทองธานี เช่น ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค, โรงแรม,คอสโมบาซาร์,คอสโมวอล์ค,เอาท์เล็ทสแควร์, บีไฮฟไลฟ์สไตลม์อลล์ และคอสโมออฟฟิศพาร์ค มีการเติบโตมากขึ้นราว 10-20% ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพและเพิ่มมูลค่าที่ดินเปล่าในเมืองทองธานีที่มีอยู่อีก 600 ไร่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยและผู้ที่ทำงานอยู่ในเมืองทองธานีกว่า 300,000 คน เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1 ล้านคน” 

นายปีเตอร์  กล่าวต่อว่า  บริษัทมีแปลงที่ดินขนาดใหญ่ราว 600 ไร่ ซึ่งเป็นทำเลที่ดินติดรถไฟฟ้าที่ไม่ได้หาได้ง่าย เพราะที่ดินส่วนใหญ่ติดรถไฟฟ้าเพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียมราว 2-3 แปลง เท่านั้น แต่บริษัทสามารถนำที่ดินดังกล่าวไปพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed Use) ขนาดใหญ่ได้ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพพื้นที่ในเมืองทองธานีทั้งหมด 4,000 ไร่

นอกจากนี้บริษัทได้ลงทุนการก่อสร้างทางเดินเลื่อนไฟฟ้า (Skywalk) จำนวน 2 สถานี ประกอบด้วย 1. สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ชาเลนเจอร์อาคาร 1) 2.สถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท  ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วมีความคืบหน้าราว 90% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567 พร้อมกับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อจากโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพูไปยังศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค, โรงแรม, ร้านค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตและมอบความ สะดวกสบายให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการอย่างสูงสุด รวมทั้ง ยังเป็นการต่อยอดและเพิ่มศักยภาพของการเป็นทำเลทองสาหรับโครงการ ใหม่ต่างๆ ที่ได้เปิด ตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ อาทิ โมริ คอนโดมิเนียม โครงการที่พักอาศัย จำนวน 1,040 ยูนิต และโรงเรียนสอนประกอบ อาหารเลอโนท (LenôtreCulinaryArtsSchool) ที่เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการทำอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก 

“บีแลนด์” ผุดมิกซ์ยูสระดับโลก โรงแรม-ศูนย์การค้า เชื่อมต่อขยายสีชมพู

นายกวิน กาญจนพาสน์  กรรมการบริหาร บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ระหว่าง NBM และ BLAND เป็นการลงนามในสัญญา 2 ฉบับ แบ่งเป็น 1. สัญญาให้การสนับสนุนการก่อสร้าง (Construction Support Agreement) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี  2. สัญญาก่อสร้างทางเชื่อม (Skywalk Connection Agreement) จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้ามายังตัวอาคารของเมืองทองธานีโดยภายใต้สัญญาดังกล่าว ทาง BLAND ได้อนุมัติเงินสมทบและค่าสิทธิให้กับ NBM ประมาณ 1,293.75 ล้านบาท (รวมภาษี มูลค่าเพิ่ม) เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง และพัฒนาส่วนต่อขยายเมืองทองธานี และเพื่อสิทธิของ BLAND หรือบริษัทในเครือของ BLAND ในการก่อสร้างทางเชื่อมสถานี เพื่อเชื่อมต่ออาคารหรือสิ่งก่อสร้างใดๆ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่ม BLAND ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเมืองทองธานี เข้ากับสถานีรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยายเมืองทองธานี นับแต่วันที่ทำสัญญา จนถึงวันที่สิทธิในการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ตามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูระหว่าง NBM และ รฟม.สิ้นสุดลง และยังได้อนุมัติเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการบำรุงรักษาจำนวน 10.35 ล้านบาทต่อปี (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นับจากวันที่ส่วนต่อขยายเมืองทองธานีเปิดให้บริการ


สำหรับสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในธุรกิจ MOVE ที่บีทีเอส กรุ๊ปฯ ให้ความสำคัญ เพราะเรามุ่งหวังจะเป็นผู้ให้บริการเดินทางแบบ door-to-door เพื่อตอบโจทย์การเดินทาง ตั้งแต่ก้าวแรกถึงก้าวสุดท้ายให้กับผู้โดยสารอย่างสมบูรณ์ ภายใต้การให้บริการที่สะดวกและปลอดภัย โดยโครงการดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นทางหลัก ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าได้อีก 4 สายได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ), รถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต), รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี)

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ส่องธุรกิจ ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ในไทย เปิดชิง แย่งชิง ‘พื้นที่’ศักยภาพทั่วกทม.

ส่องธุรกิจ 'ดาต้าเซ็นเตอร์' ในไทย เปิดชิง แย่งชิง 'พื้นที่'ศักยภาพทั่วกทม.

ไนท์แฟรงค์ เปิดทิศทางตลาด ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ในไทย หลังความต้องการใช้งานคลาวด์ ดันเติบโตขึ้นแท่นเบอร์ 9 ของภูมิภา เพิ่มดีมานด์ ‘เช่าพื้นที่ศักยภาพ’ จับตา AWS, Alibaba, Tencent และ Huawei ขยายแผนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

3 สิงหาคม 2565 – บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์  ระบุว่า ขณะนี้พบผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud) วางแผนการขยายธุรกิจมายังกรุงเทพมหานครและภูมิภาคนี้มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ (data centre) เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน 


ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 48 ล้านคน ซึ่งหมายถึงความต้องการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับเศรษฐกิจและสังคมที่กำลังเติบโตนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน และด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการคลาวด์จากจีนและสหรัฐฯ หลายรายกำลังเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการคลาวด์สู่ตลาดในประเทศ 

เจาะแนวโน้มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

ส่วนแบ่งตลาดของภาคธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯนั้นมีความหลากหลายจากทั้งผู้ให้บริการจากในประเทศอย่าง True IDC หรือ CSL และต่างประเทศอย่าง NTT จากญี่ปุ่น, SUPERNAP จากสหรัฐอเมริกา หรือ STT GDC จากสิงคโปร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศแผนกระตุ้นภาคธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่ผ่านเกณฑ์กำหนด โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงิน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้าสู่ประเทศมากยิ่งขึ้น 

ส่องธุรกิจ 'ดาต้าเซ็นเตอร์' ในไทย เปิดชิง แย่งชิง 'พื้นที่'ศักยภาพทั่วกทม.

ในช่วงต้นของปี 2561 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Tencent และ Huawei เข้าสู่ตลาด ก่อนตามมาด้วย Alibaba ซึ่งเปิดให้บริการคลาวด์ในระบบภูมิภาคเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยได้เปิดระบบคลาวด์ขนาดหลายเมกะวัตต์ในรูปแบบ colocation ทั่วไทย นอกจากนี้ Amazon Web Services (AWS) ยังได้ซื้อที่ดินร่วมสามแปลงเพื่อพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นเองในเขตพื้นที่ทางตอนใต้ของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ได้เปรียบทางกลยุทธ์ เพราะใกล้กับสถานีเคเบิล ท่าเรือแหลมฉบัง

ไทยขึ้นแท่นอันดับ 9 เอเชียแปซิฟิค

จากรายงานการสำรวจล่าสุดของไนท์แฟรงค์ที่จัดทำร่วมกับ DC Byte พบว่ามีดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสิ้นกว่า 50 แห่งในกรุงเทพฯ คิดเป็นการเช่าใช้พื้นที่เก็บข้อมูลแล้วหรือพร้อมสำหรับให้เช่ารวม 46 เมกะวัตต์ (MW) โดยจัดอยู่ในอันดับ 9 ในเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งสำหรับในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีของอุปทานรวมและปริมาณการเช่าใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ในรอบปีอยู่ที่ 22.7% และ 25.4% ตามลำดับ

” การลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการคาดการณ์ของผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีต่อการเติบโตในอนาคตของระบบคลาวด์ในกรุงเทพฯ ด้วยเหตุนี้เอง เหล่าผู้ให้บริหารต่างต้องแสวงหาพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เพื่อที่จะสามารถรองรับการปล่อยเช่าในระดับหลาย   เมกะวัตต์ให้แก่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Tencent, Amazon และ Microsoft เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในประเทศ ” 


ในไตรมาส 1 ปี 2565 กรุงเทพฯมีปริมาณการเช่าใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ระดับ 5 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการใช้งานระบบคลาวด์แบบสาธารณะเป็นหลัก ในขณะที่ปริมาณการเช่าใช้พื้นที่รวมในปี 2564 อยู่ที่ 14.32 เมกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 900% จากในปี 2563 ซึ่งการเติบโตของตลาดในขณะนี้ส่งผลให้ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับไฮเปอร์สเกลให้ความสนใจตลาดในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น

ส่องธุรกิจ 'ดาต้าเซ็นเตอร์' ในไทย เปิดชิง แย่งชิง 'พื้นที่'ศักยภาพทั่วกทม.

อุปทานรวมของดาต้าเซ็นเตอร์ในปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 147 เมกะวัตต์ หลังจากที่ NTT ประกาศแผนการขยายโรงงานแห่งที่ 2 ในกรุงเทพฯ การเติบโตของอุปทานในอนาคต แผนการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ของ Etix Everywhere หลังจากเข้าซื้อและกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงงานขนาด 2.4 เมกะวัตต์ ที่ดำเนินการโดย Genesis Data Center 

นอกจากนี้ Singtel ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมของสิงคโปร์ได้ลงนามตามข้อตกลงการพัฒนาร่วมกับ Gulf Energy Thailand และ AIS เพื่อร่วมพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ในทั่วประเทศ Raimon Land ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำแนวหน้าของไทยได้ขยายธุรกิจสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยร่วมสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Nautilus Data Technologies ผู้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ Raimon Land ในการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานด้วยมาตรฐานระดับโลกในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง


ดันความต้องการเช่าพื้นที่ในดาต้าเซ็นเตอร์

เมื่อวิเคราะห์ตลาดระดับภูมิภาคที่สำคัญ จะเห็นได้ชัดว่าสิงคโปร์เป็นตลาดที่มีการเช่าพื้นที่ในดาต้าเซ็นเตอร์มากที่สุด โดยอยู่ที่ 113.5 เมกะวัตต์ต่อประชากรหนึ่งล้านคน ขณะที่ผลเฉลี่ยการใช้งานจะอยู่ที่ 5 เมกะวัตต์ต่อประชากรหนึ่งล้านคน อย่างไรก็ดี ตัวเลขของประเทศไทยอยู่ที่เพียง 0.7 เมกะวัตต์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการด้านดาต้าเซ็นเตอร์ที่ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคตอันใกล้นี้

แนวโน้มหลักและภาพรวมตลาดดาต้าเซ็นเตอร์

มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยจะมีปริมาณพื้นที่สำหรับรองรับการใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือประมาณ 100 เมกะวัตต์ จากความสนใจในการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในระดับไฮเปอร์สเกลในภูมิภาค ดาต้าเซ็นเตอร์ที่จะถูกพัฒนาขึ้นใหม่จะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในการรับมือต่อการขัดข้องของระบบ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลายแห่งที่ยังคงจัดการระบบฐานข้อมูลของตัวเองแบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์จะประสบกับปัญหาเหล่านี้อยู่ 

การเปลี่ยนผ่านจากเซิร์ฟเวอร์ที่บริษัทเป็นเจ้าของเองไปสู่ระบบคลาวด์สาธารณะจะปรากฏเพิ่มขึ้น  ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการลงทุน ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น 

ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็ก (Edge data centers) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการสนับสนุนดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกล เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ โดยลดความล่าช้า (latency) ของเครือข่ายระหว่างการดำเนินการของผู้ใช้และการตอบสนองStephen Beard (Co-Head Global Data Centers) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เนื่องจากผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์กำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่ที่มีศักยภาพมากที่สุดตามข้อสัญญาการเช่าซื้อในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ ในขณะที่ AWS,  Alibaba, Tencent และ Huawei ได้เปิดตัวคลาวด์ระดับภูมิภาคขององค์กรแต่ละแห่งในประเทศ เรามั่นใจว่ากลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ของสหรัฐฯ รายอื่น ๆ นั้นกำลังวางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคนี้ในไม่ช้า ทั้งนี้ ทีมพัฒนาฝ่ายดาต้าเซ็นเตอร์ของไนท์แฟรงค์กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการหลายรายทั่วเขตกรุงเทพ เพื่อคัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“จอชชัว” ผ่านเข้ารอบรองฯ วิ่ง 400 เมตรชาย กรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก U20

"จอชชัว" ผ่านเข้ารอบรองฯ วิ่ง 400 เมตรชาย กรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก U20

การแข่งขันกรีฑาเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก 2022 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 19 ณ เอสตาดิโอ โอลิมปิโก้ ปาสกาล เกอร์เรโร่ เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย

รายการ วิ่ง 400 เมตรชาย รอบคัดเลือก จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน เจ้าของ 4 เหรียญทอง จากกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ลงสนามแข่งขันในรอบคัดเลือก ฮีทที่ 5

ผลการแข่งขัน ลมกรดลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลียวัย 19 ปี เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ของฮีท ด้วยเวลา 47.03 วินาที อยู่ในอันดับ 18 ของนักกีฬาทั้งหมด 35 คน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

ส่วนนักกีฬาที่ทำเวลาดีที่สุดในรอบคัดเลือก คือ ไลเธ่ พิลเลย์ พิลเลย์ นักวิ่งจาก จากแอฟริกาใต้ ทำเวลาได้ 46.02 วินาที  

รอบรองชนะเลิศ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน จะแข่งขันในช่วงเช้าของวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2565 เวลาตี 5.25 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ซึ่งในรอบนี้ จะแบ่งนักกีฬาที่ผ่านมาจากรอบแรก 24 คนออกเป็น 3 ฮีท ฮีทละ 8 คน แล้วจะคัดเอาอันดับ 1-2 ของแต่ละฮีท และอีก 2 คนที่ทำเวลาดีที่สุดจากทุกฮีท รวมเป็น 8 คน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“ผิวหนัง” เปลี่ยน บอกโรคอันตรายได้

“ผิวหนัง” เปลี่ยน บอกโรคอันตรายได้

ผิวเหลือง ผิวคล้ำ ขึ้นผื่นดวงขาว การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังอาจเกิดจากความผิดปกติหรือโรคทางกายอื่นๆ

รศ. พญ.ภาวิณี ฤกษ์นิมิตร แพทย์ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่เราสังเกตได้ อาจเกิดจากความผิดปกติทางร่างกาย หรือโรคที่เกิดขึ้นกับเราแล้วแสดงอาการบางส่วนออกมาทางผิวหนัง โดยเราสามารถสังเกตได้ ดังนี้

“ผิวหนัง” เปลี่ยน บอกโรคได้

  1. ผิวดำคล้ำ มีปั่นดำตามเยื่อบูต่างๆ ร่องเส้นลายมือกลายเป็นสีคล้ำ

สัญญาณบ่งชี้ : โรคเกี่ยวข้องกับต่อมหมวกไต หรืออาจเกิดจากการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต

  1. ผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

สัญญาณบ่งชี้ : ตับอักเสบ หรือมีการอุดตันของทางเดินน้ำดีหรือดีซ่าน หรืออาจเกิดจากการรับประทานผลไม้สีเหลืองที่มีสารแคโรทีนปริมาณมาก

  1. ผื่นดวงขาว มีดวงสีขาว เห็นขอบเขตได้ชัด

สัญญาณบ่งชี้ : โรคด่างขาว ซึ่งเกิดจากเซลล์เม็ดสีถูกทำลาย

  1. ผิวแห้ง แตกระแหงเป็นเกล็ดปลา

สัญญาณบ่งชี้ : การขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น กรดไขมันจำเป็น หรืออาจเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

  1. คันที่ผิวหนัง

สัญญาณบ่งชี้ : โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับ หรืออาการเบื้องต้นของโรคเลือดบางชนิด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประเภทของ Pronoun มีอะไรบ้างเเละใช้อย่างไร

สวัสดีค่ะ ชาว Engnowทุกคน วันนี้มาพบกันอีกแล้วนะคะ ซึ่งแอดมายด์จะพามาพบกับน้องGrammarสุดน่ารักที่มีชื่อว่า Pronoun นั่นเองค่ะ

ทุกคนทราบมั้ยคะว่าน้องคือใคร? ใช้อย่างไร?

ถ้าแปลตามชื่อน้องก็จะเป็น Pro ที่ย่อมาจาก Professional (ADJ.) แปลว่า ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมกับ Noun กลายเป็น คำนามที่มีความเชี่ยวชาญรึเปล่า บอกได้เลยว่า ไม่ใช่แน่นอนค่ะ! มันง่ายกว่านั้นเยอะเลย
ดังนั้น Let’s get to know more about Pronoun!

Pronoun (คำสรรพนาม)

คือ คำที่เราใช้แทนคำนามค่ะ สมมติในessay เราเขียนถึงส้ม (orange) ถ้าเราเขียนคำว่า orange ซ้ำกัน 10-20 ครั้ง ผู้อ่านก็คงจะเบื่อ เพราะ ส้มเต็มไปหมด ส้มหยุด ส้มหยู๊ดดดด! เราจึงจะใช้เจ้า Pronoun
นี่แหละค่ะ เพื่อมาเขียนแทนคำนามเหล่านั้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 7 ประเภท (บางแหล่งก็มี8หรือ9 แต่วันนี้มายด์คัดเฉพาะน้องๆที่เป็นพื้นฐาน ควรรู้มาให้ค่ะ)

3 ประเภทแรก จะเกี่ยวเนื่องกัน จำเป็นตารางนี้ได้จะดีมากเลยย

SubjectObjectPossessive PronounReflexive Pronoun
I (ฉัน)meminemyself
You(คุณ)youyoursyourself/yourselves*
We(พวกเรา)usoursourselves
They(พวกเขา)themtheirsthemselves
He(เขา)himhishimself
She(หล่อน)herhersherself
It(มัน)ititsitself

ประเภทที่ 1 Personal Pronoun (บุรุษสรรพนาม)

ซึ่งจะประกอบไปด้วย คำสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็น ประธาน (Subject) และ กรรม (Object) ของประโยค ดังแสดงในตาราง ยกตัวอย่างเช่น

  • Subject

They were at the beach last week.
พวกเขาอยู่ที่ชายหาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

I am practicing English with my friend.
ฉันกำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษกับเพื่อนของฉัน

She told the truth to everyone.
เธอพูดความจริงกับทุกคน

  • Object

I gave him white flowers.
ฉันให้ดอกไม้ขาวแก่เขา

Nicha encouraged me to go abroad.
นิชาสนับสนุสฉันให้ไปต่างประเทศ

Please forgive her.
ได้โปรดให้อภัยเธอ

จากประโยคข้างต้น จะเห็นได้ว่า คำสรรพนามทั้ง 2 แบบนี้แตกต่างกันที่วิธีการใช้ กล่าวคือ ประธาน(Subject) ทำหน้าที่เป็นผู้กระทำกริยาในประโยคนั้นๆ และ กรรม(Object) ทำหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำ โดยการจะเลือกใช้ให้คำนึงถึงความหมายของแต่ละคำและเลือกใช้ให้ถูกต้องตามการวางตำแหน่งของคำในประโยค

ประเภทที่ 2 Possessive Pronoun

คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ สามารถใช้แทนคำนามปกติได้เลย ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ตัวอย่างเช่น 

This red car is mine.
รถคันแดงนี้เป็นของฉัน

Is that her bag? No, hers is on the shelf.
นั่นกระเป๋าหล่อนป่ะ? ไม่ใช่ ของหล่อนอยู่บนชั้นวาง

Whose bike is it? It’s his.
จักรยานใครอะ? ของเขา

ประเภทที่ 3 Reflexive Pronoun

คำสรรพนามที่ใช้บอกว่าประธานเป็นคนทำสิ่งนั้นด้วยตนเอง ซึ่งรูปของคำอยู่ในรูปพหูพจน์ตามประธาน สามารถเปลี่ยนรูปได้โดย เปลี่ยน f เป็น v แล้วเติม -es  ตัวอย่างเช่น

I made this breakfast myself.
ฉันทำอาหารเช้านี้ด้วยตัวฉันเอง

They fixed this problem themselves.
พวกเขาแก้ปัญหานี้ด้วยตัวพวกเขาเอง

Luna goes to school herself.
ลูน่าไปโรงเรียนด้วยตัวเธอเอง

*เนื่องจาก You เป็นประธานที่สามารถเป็นได้ทั้งรูปเอกพจน์ (คุณคนเดียว) และ รูปพหูพจน์ (คุณหลายคน) จึงมี Reflexive Pronoun 2 แบบ

ประเภทที่ 4 Definite Pronoun

คำสรรพนามที่ใช้ชี้เฉพาะถึงสิ่งต่างๆ เช่น This(นี้; สิ่งเดียวอยู่ใกล้), These(เหล่านี้; หลายสิ่งอยู่ใกล้), That(นั้น; สิ่งเดียวอยู่ไกล), Those(เหล่านั้น; หลายสิ่งอยู่ไกล) ตัวอย่างเช่น

These books belong to me.
หนังสือเหล่านี้เป็นของฉัน

She likes that house.
หล่อนชอบบ้านหลังนั้น

ประเภทที่ 5 Indefinite Pronoun

คำสรรพนามไม่ชี้เฉพาะ ใช้กล่าวแทนคำนามทั่วๆไปที่เราไม่เจาะจง เช่น one, other, none, some, anybody, everybody, and no one ตัวอย่างเช่น

Does anyone like drinking tea?
มีใครชอบดื่มชาบ้าง?

Something tells me this won’t end well.
บางสิ่งบอกฉันว่าเรื่องนี้ไม่จบดีแน่

ประเภทที่ 6 Relative Pronoun

คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมความในประโยคหลักและอนุประโยคย่อยเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการขยายความ เช่น who(ใช้สื่อถึงคน) และ which, that (ใช้กล่าวถึงสิ่งของ,สัตว์) ตัวอย่างเช่น

The car that crashed into the tree was blue.
รถคันที่ชนต้นไม้มีสีฟ้า

The man who first came to the concert was John.
ชายที่มาถึงคอนเสิร์ตคนแรกคือจอร์น

ประเภทที่ 7 Interrogative Pronoun

คำสรรพนามที่ใช้สำหรับเป็นคำถาม เช่น who, what, whom, whose, which, when, where ตัวอย่างเช่น 

Who will come to the party?
ใครจะมางานเลี้ยงบ้าง

Whose clothes are on the floor?
เสื้อผ้าของใครกองอยู่บนพื้น

“เป็นอย่างไรกันบ้างคะ นั่นก็เป็น 7 ประเภทของ PRONOUN ชาว ENGNOW พอแยกกันออกมั้ยเอ่ย”

เราลองทำแบบฝึกหัดท้ายบทเพื่อฝึกฝนการใช้กันด้านล่างดูนะคะ
เพราะภาษาอังกฤษ หากเรียนเพียงอย่างเดียวแล้วไม่ได้ฝึกฝนเพิ่มเติมก็อาจจะทำให้เราลืมได้ง่ายหรือไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้นะค้า ฮือ T^T ได้คะแนนเท่าไหร่อย่าลืมมาบอกแอดมายด์กันน้าาาาาาา

Exercise

Fill in the blank with the correct Pronoun(เติมคำตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่าง)

1.)Where is the book______I gave you last week.

2.)_____have got a problem. Can you help them?

3.)You don’t have to help me. I can do it______.

4.)The woman______bought the shirt did not take the change.

5.)He is 12 years old, so I am younger than______.

เฉลยยยยยย

1.) that

2.) They

3.) myself

4.) who

5.) him

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


หัวเว่ย ส่งไลน์อัพ “แล็ปท็อป-แท็บเล็ต” ยกระดับการทำงานอัจฉริยะ

หัวเว่ย ส่งไลน์อัพ "แล็ปท็อป-แท็บเล็ต" ยกระดับการทำงานอัจฉริยะ

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกับงาน HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 เปิดตัวคอนเซ็ปต์ HUAWEI Smart Office อย่างเป็นทางการทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ยกไลน์อัปบุกตลาดประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง

นายหลุย ลวี่ (Louie Lyu) ประธาน หัวเว่ย ดีไวซ์ เอเชีย-แปซิฟิก บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ขึ้นกล่าวเปิดงานว่า “หัวเว่ยมุ่งเน้นพัฒนาคอนเซ็ปต์ 1+8+N เพื่อเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทเข้าด้วยกัน และเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับ 5 สถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่ สมาร์ท ออฟฟิศ, สุขภาพและการออกกำลังกาย, ความบันเทิง, สมาร์ทโฮม และ การท่องเที่ยว (Easy Travel) หัวเว่ยจะยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ”

นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา หัวเว่ยได้สร้างกรอบการทำงานที่อัจฉริยะรอบด้านแบบสมาร์ท ออฟฟิศโดยอิงจากศักยภาพ 2 แกนหลัก คือ การทำงานร่วมกันแบบข้ามอุปกรณ์ และการใช้งานร่วมกันในระดับอีโคซิสเต็ม โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ได้ขยายความสามารถของฟีเจอร์ “ลากเพื่อเชื่อมต่อ” (Drag-to-Connect)  ไปสู่อุปกรณ์อื่นๆ มากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเชื่อมต่อและการตอบสนองบนหลากหลายอุปกรณ์

นอกจากนี้ การเปิดตัวดังกล่าวยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับแพลตฟอร์ม HUAWEI Mobile App Engine  ที่มีแอปพลิเคชันมือถือพร้อมให้ใช้งานได้จากบนแล็ปท็อปแล้วมากกว่า 15,000 แอปพลิเคชัน  ทำให้วิสัยทัศน์ของหัวเว่ยว่าด้วย “การสร้างสรรค์ไร้พรมแดน การสื่อสารไร้รอยต่อ” เข้าใกล้ความจริงมากขึ้นอีกขั้น

หัวเว่ย ส่งไลน์อัพ "แล็ปท็อป-แท็บเล็ต" ยกระดับการทำงานอัจฉริยะ

โดยนายริชาร์ด หยู  (Richard Yu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ระบุว่า “ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของหัวเว่ยมาโดยตลอด และเราก็มุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์อันเป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของทุกคนเสมอมา”

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี หรือแล็ปท็อป HUAWEI MateBook X Pro แล็ปท็อประดับมาสเตอร์พีซ “ประณีตแต่ทรงพลัง” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับในทุกด้าน HUAWEI MateBook 16s ปลดล็อคทุกความสร้างสรรค์ บนหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ HUAWEI MateBook D 16 อัปเกรดทุกประสิทธิภาพ หน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว บางเบาแต่ทรงพลัง เสริมทัพด้วยแท็บเล็ตระดับเรือธง HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ OLED 120Hz ประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ระดับโปร

หัวเว่ย ส่งไลน์อัพ "แล็ปท็อป-แท็บเล็ต" ยกระดับการทำงานอัจฉริยะ

และหูฟังไร้สายเรือธง HUAWEI FreeBuds Pro 2 เข้าถึงคุณภาพเสียงทรงพลังผ่านลำโพงคู่ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet พร้อมระบบลดเสียงรบกวนรอบข้างสูงสุด 47 เดซิเบล และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นทั้งจอมอนิเตอร์ HUAWEI MateView SE

หัวเว่ย ส่งไลน์อัพ "แล็ปท็อป-แท็บเล็ต" ยกระดับการทำงานอัจฉริยะ

และ เราเตอร์ HUAWEI WiFi AX3 Pro มาเปิดตัวในไทยพร้อมกันอีกด้วย มุ่งยกระดับประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและการทำงานอัจฉริยะระหว่างสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ยที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างครบวงจรในอีโคซิสเต็ม ให้ผู้ใช้สามารถสั่งการ ทำงานและเข้าถึงหลากหลายสมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างอิสระผ่านอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


CIVIL โชว์แผนครึ่งปีหลัง 65 ทำกำไรต่อเนื่อง เร่งประมูลงานรัฐ-เอกชน เหมืองหินเดินหน้าเต็มกำลัง มั่นใจรายได้โตตามเป้า

CIVIL เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 65 ชูกลยุทธ์บริหารงานก่อสร้าง-จัดการต้นทุน ส่งมอบงานตามแผน ทำกำไรต่อเนื่อง พร้อมเจรจาพันธมิตรสร้าง New S-Curve ธุรกิจเหมืองหินเดินหน้าเต็มกำลัง เร่งประมูลงานภาครัฐและเอกชน ดัน Backlog 15,000 – 20,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้รวมทั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย 6,000-6,500 ล้านบาท

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำด้านวิศวกรรมโยธาที่ใช้เทคโนโลยีก่อสร้างแบบครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ ทั้งในด้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 แรงงานก่อสร้างขาดแคลน สงครามรัสเซีย-ยูเครน การเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้หลายบริษัทในอุตสาหกรรมเริ่มประสบปัญหา อย่างไรก็ตามบริษัทมีการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโครงการก่อสร้าง และการจัดการต้นทุนก่อสร้างให้สอดรับกับสถานการณ์ แม้ผลการดำเนินงานอาจมีแนวโน้มชะลอตัวเล็กน้อยเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงที่กระทบอุตสาหกรรม แต่บริษัทยังคงสามารถดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบงานได้ตามแผน อีกทั้งยังสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2565 บริษัทยังคงมุ่งเน้นบริหารงานพร้อมทั้งรับรู้รายได้จากงานในมืออย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควบคู่กับการจัดการต้นทุนทั้งด้านวัสดุและแรงงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพดำเนินงานก่อสร้างให้ได้เกินกว่าแผนงานและส่งมอบงานได้ตามกรอบระยะเวลา อีกทั้งสามารถรักษาอัตรากำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับดี รวมถึงวางแผนลงทุนในเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อเสริมศักยภาพการก่อสร้าง รองรับงานที่คาดว่าจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายรายที่จะช่วยสร้าง New S-Curve ต่อยอดการเติบโตธุรกิจในอนาคต

ขณะที่ธุรกิจเหมืองหินจังหวัดสระบุรี ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เปิดให้บริการเต็มกำลังการผลิตเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างของบริษัทลดลงจากการนำหินมาใช้ในโครงการก่อสร้างของ CIVIL อีกทั้งแหล่งวัตถุดิบตั้งอยู่ใกล้โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนการขนส่ง และลดความผันผวนของ Supply หิน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการจำหน่ายหินให้กับบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตของกำไรให้กับบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการเข้าประมูลโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่กำลังจะเปิดการประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 อาทิ งานก่อสร้างทางหลวงและทางพิเศษ, งานเขื่อนและระบบน้ำ, งานก่อสร้างและปรับปรุงสนามบิน, งานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเตรียมเข้าประมูลงานภาคเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสการรับงานที่หลากหลาย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 15,000 – 20,000 ล้านบาท

“สิ่งที่ทำให้ CIVIL มีความแตกต่างคือการจัดการต้นทุนที่ดี และการบริหารโครงการก่อสร้างที่มีคุณภาพ คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และดำเนินงานด้วยความรวดเร็วกว่าแผน อีกทั้งมุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่แม้สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่แน่นอน แต่โครงการภาครัฐยังคงเดินหน้าและมีแผนการเปิดประมูลที่ชัดเจน ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสการขยายศักยภาพของบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจากแผนการดำเนินงานทั้งหมด คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 20-30% หรือที่ 6,000-6,500 ล้านบาท” นายปิยะดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานก่อสร้างแบ่งเป็น งานก่อสร้างทางรถไฟและทางรถไฟความเร็วสูง 46%, งานทาง 41%, งานก่อสร้างสนามบิน 2%, งานเขื่อนและระบบน้ำ 1% และงานประเภทอื่นๆ 10%

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 03/08/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a30,150.0030,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,953.0029,607.4830,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,757.7026,646.73n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,562.4023,685.98n/a
ทองรูปพรรณ 50%879.0013,325.64n/a
ทองรูปพรรณ 40%684.0010,369.44n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,024.0030,683.84n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 03/08/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.6538.6538.8538.6538.6538.6538.6538.6538.6538.65
แก๊สโซฮอล์ 9138.3838.3838.5838.3838.3838.3838.3838.3838.3838.38
แก๊สโซฮอล์ E2037.5437.5437.7437.5437.5437.5437.5437.5437.54
แก๊สโซฮอล์ E8534.1434.1434.14
เบนซิน 9546.0646.5146.5646.5646.06
ดีเซล B734.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม47.1647.8647.7648.3647.7647.16
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า