พฤกษา ลุ้น “เปิดประเทศ” เดินหน้าโอน 7 คอนโดฯใหม่หมื่นล.
พฤกษา เดินหน้าโอน 7 โครงการคอนโดฯ ทำเลทอง มูลค่า 11,500 ล้าน ด้าน ปิยะ เผย ลูกค้าจ่อรอโอนคึกคัก สวนกระแสโควิด ลุ้นเปิดประเทศฟื้นอสังหาฯ
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทจะเริ่มทยอยโอนคอนโดมิเนียมรวม 7 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มูลค่ารวมกว่า 11,500 ล้านบาท ได้แก่ แชปเตอร์ ทองหล่อ 25, เดอะไพรเวซี่ S101, แชปเตอร์วัน โฟลว์ บางโพ, เดะไพรเวซี่ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย, เดอะรีเซิร์ฟ สาทร และ พลัมคอนโด สุขุมวิท 97.1 โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่า 5,000 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีหน้า คาดว่าจะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ปี 2564 ที่ตั้งไว้ที่ 32,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ยังมีความต้องการที่จะโอนคอนโดมิเนียม เนื่องจากราคาที่ลูกค้าจองในช่วงพรีเซลเป็นราคาที่ดีที่สุด และหาไม่ได้อีกแล้วในราคานี้
โดยคอนโดมิเนียม 7 โครงการนี้ เป็นทำเลศักยภาพทุกโครงการ ใกล้รถไฟฟ้า และอยู่ใจกลางย่านธุรกิจใจกลางเมือง ซึ่งที่ดินในย่านดังกล่าวมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกปี และยังเป็นทำเลที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องทั้งลงทุนและซื้ออยู่อาศัยเอง
” คาดว่าหลังจากที่คนไทยทั่วประเทศได้รับวัคซีนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีการเปิดประเทศตามแผน ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาทำงานและท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ มีการฟื้นตัว ตามมาด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะกลับมามีสีสันมากขึ้น โดยพฤกษามีสัดส่วนลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติอยู่ที่ราว ๆ 20% ซึ่งยังมีความสนใจที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองอย่างต่อเนื่อง”
นายปิยะ ยังกล่าวว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมาก แม้ลูกค้าบางรายจะได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ก็ยังไม่ทิ้งการจอง มีการนัดหมายเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์ตามช่วงเวลาที่นัดหมายไว้ โดยพฤกษาเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เปิดตัวบริการ Financial Clinic สำหรับลูกค้าที่ต้องการปรึกษาในการกู้ซื้อคอนโด พร้อมรับข้อเสนอที่ดีที่สุดจากธนาคารชั้นนำที่เป็นพาร์ทเนอร์กับพฤกษา ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือ การคำนวนงวดผ่อนและรูปแบบที่เหมาะสมกับรายได้ ลูกค้าจึงหมดกังวลเรื่องกู้ไปได้
นอกจากจะมีการโอน 7 โครงการที่สร้างเสร็จในไตรมาส 3 ปีนี้แล้ว พฤกษายังมีคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่โครงการอื่น ๆ ในอีกหลายทำเลศักภาพ หลายระดับราคา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
2 บิ๊กธุรกิจ ศุภาลัย ผนึก เมืองไทยฯ ผุดแคมเปญ ” ซื้อบ้าน พ่วงส่วนลดประกัน “
บมจ.ศุภาลัย ผนึก บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต แลกดีล ผุดแคมเปญ “Supalai X MTL Privilege” มอบสิทธิลูกบ้าน ซื้อความคุ้มครองสุขภาพ D Health – เมืองไทย Extra Return 5/3 ด้านสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ รับส่วนลดซื้อโครงการที่อยู่อาศัย
นาย ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดหนักของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ในหลากหลายมิติ ทำให้ประชาชนต่างมองหาความมั่นคงและความคุ้มครองในชีวิต โดยบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ดีด้วยประสบการณ์อันยาวนานถึง 32 ปี และมีความตั้งใจในการมอบบริการที่เป็นเลิศในทุก Customer touchpoints ด้วยความตระหนักถึงความอุ่นใจของลูกค้าด้านความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และการออมทรัพย์ (1) ให้สำหรับตนเองและคนในครอบครัว
จึงได้ร่วมกับพันธมิตรใหม่ด้านธุรกิจประกันชีวิตระดับชั้นนำอย่าง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษในแคมเปญ “Supalai X MTL Privilege” ให้กับลูกค้าศุภาลัย ด้วยการนำเสนอ 2 ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้าน Wealth protection & Wealth creation ให้กับลูกบ้านกว่า 79,000 ครอบครัว ครอบคลุมใน 271 โครงการทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมทั่วประเทศ และพิเศษยิ่งขึ้นกับบัตรของขวัญ Central หรือ Lotus’s มูลค่าตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดเมื่อซื้อกรมธรรม์ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2564
นอกจากนี้บมจ.ศุภาลัย ยังมอบสิทธิพิเศษสุด Exclusive สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ รับส่วนลดเพิ่มเมื่อจองโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมศุภาลัยทั่วประเทศ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ตลอดโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2564
ความร่วมมือระหว่าง บมจ.ศุภาลัย และบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งเป็น 2 ผู้นำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และการประกันชีวิตในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในด้านพันธมิตรธุรกิจที่พร้อมจับมือเดินหน้าสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่ไปด้วยกันในเชิงธุรกิจแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือความตั้งใจที่จะมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าผู้มีอุปการคุณทั้งในด้านสินค้าและบริการที่ดีที่สุดอย่างที่บริษัทฯ มุ่งมั่นมาโดยตลอด
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับศุภาลัย เพื่อร่วมส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขและรอยยิ้มให้แก่ลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต บริการเหนือระดับ และสิทธิพิเศษ ที่ถูกคัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
โดยเมืองไทยประกันชีวิต ขอมอบความอุ่นใจผ่านแบบประกันที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น “สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ (D Health)” ความคุ้มครองสุขภาพที่เข้าใจง่ายและให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย สูงสุดถึง 5 ล้านบาท แอดมิทได้อย่างสบายใจนอนห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล เหมาะกับลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งพนักงานบริษัท หรือ ฟรีแลนซ์ และโดดเด่นด้วยรูปแบบที่สามารถเลือกแผนได้ตามใจ ทั้งแบบไม่มีความรับผิดส่วนแรก (Non-Deductible) และแบบมี ความรับผิดส่วนแรก (Deductible)
ทั้งนี้ยังพิเศษด้วยความคุ้มครองสำหรับผู้เอาประกันภัยที่เดิมเลือกแผนแบบมีความรับผิดส่วนแรกไว้ หากถึงวัยเกษียณ (อายุ 55-65 ปี) และถือความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ แผนปัจจุบันต่อเนื่องมาอย่างน้อย 5 ปี ยังสามารถเปลี่ยนแผนความคุ้มครอง (Convertible Option) ให้เป็นแบบที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่บาทแรก หรือเลือกปรับลดความรับผิดส่วนแรก (Deductible) ได้ ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสวัสดิการที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ยังนำเสนอ “โครงการเมืองไทย Extra Return 5/3” แบบประกันภัยที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่และคนที่มองหาการออมเงิน ระยะสั้น พร้อมรับผลตอบแทนสูง และไม่ต้องตรวจสุขภาพ โดดเด่นด้วยการจ่ายเบี้ยประกันภัยสั้นเพียง 3 ปี ไม่เป็นภาระยาวแต่ให้ความคุ้มครองถึง 5 ปี พร้อมรับเงินคืนปีละ 2%(2) ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-4 และรับเงินก้อนเมื่อครบสัญญาปีที่ 5 ผลประโยชน์รวมตลอดสัญญาสูงสุด 318%(2)
ทั้งนี้ ลูกบ้านของศุภาลัยที่ซื้อแบบประกันภัยจากเมืองไทยประกันชีวิต ยังจะได้พบกับนวัตกรรมการบริการและเทคโนโลยี ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น MTL Click Application บริการ MTL Health Buddy ผู้ช่วยสุขภาพครบวงจร สามารถปรึกษาสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค การทำนัดหมายติดต่อเข้ารับการรักษา และยังสามารถสมัครสมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับ เพื่อรับสิทธิพิเศษและร่วมกิจกรรมสุด Exclusive อีกมากมาย รวมถึง MTL Fit Application ตัวช่วยด้านการออกกำลังกาย ที่สามารถคำนวณ Health Score และทำกิจกรรม Weekly Goal เช่น การนับก้าวเดิน การนับจำนวนนาทีที่ออกกำลังกาย เพื่อการรู้จักสุขภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากการออกกำลังกายสอดรับกับเทรนด์สุขภาพในปัจจุบัน
หมายเหตุ :
– (1) เป็นการออมในรูปแบบประกันชีวิต
– (2) ผลประโยชน์เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย
– โครงการเมืองไทย Extra Return 5/3 เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันภัย เมืองไทย สปีด รีเทิร์น 5/3
– สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่ผลบังคับอยู่
– การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
– เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 33.95 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า
เงินบาทเปิดตลาด 33.95 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า ตามทิศทางตลาดโลก ลุ้นวันนี้มีโอกาสแตะ 34.05 บาทต่อดอลลาร์
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.95 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.85 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงจากความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และปัญหาด้านการคลังของสหรัฐที่อาจเกิดกรณี governmemt shutdown รวมถึงวิกฤตพลังงานในหลายประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรงทั่วโลก
“บาทเปิดตลาดอ่อนค่าไปมาก โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกจากหลายปัจจัยที่ส่งผลทำให้ดอลลาร์แข็งค่า” นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ, ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2564 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ส่วนปัจจัยในประเทศมีเรื่องของเงินทุนต่างประเทศ โดยทิศทางบาทวันนี้มีโอกาสอ่อนค่าแตะ 34.00 บาท/ดอลลาร์ได้
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.90 – 34.05 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เคาะมาแล้ว! สิงคโปร์ ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดแข่ง “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020”
สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) ได้ประกาศประเทศที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ออกมาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันอังคารที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา
โดย สิงคโปร์ เป็นฝ่ายเอาชนะ ไทย 6-3 เสียงจากชาติสมาชิก ได้รับสิทธิ์จัดการแข่งขันในครั้งที่ 13 หลังผ่านเกณฑ์ในเรื่องของความปลอดภัย และการจัดการแข่งขันภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ทำให้ ทีมชาติไทย ที่อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ บรูไน หรือ ติมอร์ จากการแข่งขันรอบเพลออฟ จะต้องมีโปรแกรมยกทัพไปแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์ และจะต้องพบกับเจ้าภาพในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มด้วย
โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2020
วันที่ 5 ธันวาคม 2564
ผู้ชนะรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต) พบ ไทย
วันที่ 11 ธันวาคม 2564
ไทย พบ เมียนมาร์
วันที่ 14 ธันวาคม 2564
ฟิลิปปินส์ พบ ไทย
วันที่ 18 ธันวาคม 2564
ไทย พบ สิงค์โปร์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ประโยชน์-โทษของการ “นอนกลางวัน” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
การนอนกลางวันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าได้ หรือสำหรับใครที่มีปัญหาในการนอนหลับ ตอนกลางคืนนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ และนอกจากจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นยังแฝงไปด้วยประโยชน์มากมายต่อร่างกายอีกด้วย
ประโยชน์ของการนอนกลางวัน
- ช่วยลดภาระการทำงานหนักของหัวใจ ลดอัตราการเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตันเฉียบพลันได้
- ช่วยลดความเครียด เพราะเมื่อสมองได้พัก จะทำให้คิดงานง่ายขึ้น ช่วยให้สมองสดใส สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
- ช่วยเพิ่มพลัง การที่คุณนอนหลับไม่เพียงพอ ก็จะทำให้สมองอ่อนล้า การได้นอนกลางวันสามารถช่วยทำให้สมองของคุณตื่นตัวมากขึ้น ทำให้อารมณ์ดีขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์และช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความพร้อมให้กับร่างกาย เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงาน ไปออกกำลังกาย
- ช่วยให้สมองจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ดีขึ้น จดจำข้อมูลจากการทำงาน จดจำคำพูด การรับรู้สิ่งต่างๆ หรือมีทักษะการเคลื่อนไหวได้ดี
รู้ถึงประโยชน์ของการนอนกลางวันกันไปแล้ว ไปรู้ถึงโทษของการนอนกลางวันกันบ้างดีกว่า
โทษของการนอนกลางวัน
- การนอนกลางวันเป็นเวลานานเกินไป เมื่อตื่นขึ้นอาจจะทำให้คุณยิ่งรู้สึกง่วงมากขึ้น ต้องใช้เวลากว่าร่างกายจะกลับมาตื่นตัวพร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งระยะเวลาที่คุณควรนอนกลางวันคือ 10-40 นาทีเท่านั้น
- การนอนกลางวันเป็นประจำบ่อยๆ อาจจะทำให้คุณเป็นโรคนอนไม่หลับ ช่วงเวลาที่ควรนอนกลางวันคือเวลาบ่ายโมง-บ่าย 3 โมง ไม่ควรนอนหลังเวลาบ่าย 3 โมง เพราะอาจจะส่งผลให้คุณรู้สึกนอนไม่หลับในเวลากลางคืน หรือหนักขึ้นกว่านั้นอาจจะทำให้ถึงขั้นเป็นโรคนอนไม่หลับได้
- การนอนกลางวันเป็นเวลานาน อาจจะทำให้ระบบร่างกายผิดธรรมชาติ ทำให้วงจรเวลาชีวิตแปรปรวนหรือเปลี่ยนไปได้ เช่น กลางคืนไม่ยอมง่วง ตื่นสาย กินอาหารไม่เป็นเวลา เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ต้องการที่ไม่ใช้ want
หลังจากแอดได้ดู งานเปิดตัวสินค้าแบรนด์ผลไม้สีแดงที่เพิ่งจัดขึ้น ก็เกิดความว้าวซ่าส์ รู้สึกอยากจะมีเงินซัก10ล้านบาทขึ้นมาทันที เอ๊ะ แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ก็มีนี่นา มีเงิน? หึ มีหนี้ค่ะ ฮ่าๆ แล้วมีเพื่อนๆ ชาว Engnow คนไหนเคยเป็นเหมือนแอดบ้างพอของใหม่ออก น้องเครื่องเก่ากึกที่อยู่ในมือเราก็จะเกิดงอแงพอดี เฮ้อ พูดได้คำเดียวเลยว่า I want it! I want it! I want it! อ่าวคำเกิน แถมไปแล้วกันนะคะ ฮ่าๆ แต่จะว่าไป ในภาษาอังกฤษ ถ้าเราต้องการจะบอกว่า “ต้องการ” มันจะใช้ได้แค่ want อย่างเดียวจริงๆหรือ ขอบอกได้เลยว่า ไม่จริง วันนี้แอดจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับประโยคอื่นๆ เพื่อพูดแสดงความอยากได้ของเรา จะมีประโยคอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลย…
1. I’d like / I’d love ค่อนข้างสุภาพ และเจอบ่อยมากระหว่างสั่งอาหาร เช่น
- A : What would you like to order?
คุณจะรับอะไรดีคะ? - B : I’d like to order a small Thai tea, please.
ฉันอยากสั่งชาไทยแก้วเล็กที่นึงค่ะ
2. I feel like ที่ไม่ได้แปลว่ารู้สึกเหมือนแต่อย่างใด แต่แปลว่าอยากได้ อยากทำ เช่น
- A : What do you want to have for dinner?
อยากทานอะไรเป็นมื้อเย็นดีจ๊ะ? - B : I feel like a pizza.
ผมอยากทานพิซซ่า
3. I’m in the mood มักตามด้วย for sth หรือ to do sth เช่น
- I don’t want to do my homework. I’m in the mood to play a game T^T
ฉันไม่อยากทำการบ้าน ฉันอยากเล่นเกมส์ (ประโยคนี้แอบบอกความในในแอด ฮ่าๆ )
4. I have a craving ประโยคนี้ใครใช้จะสื่อความหมายว่าต้องการมากกก มักตามด้วย for เช่น
- Let’s go to Phuket. I have a craving for travelling!
ไปภูเก็ตกันเถอะพส ชั้นอยากเที่ยวมากกกกกกกก
5. I’m dying ได้ยินประโยคอย่าเพิ่งรีบเรียกรถพยาบาล! คนพูดไม่ได้กำลังตาย แต่กำลังอยากทำอะไรมากๆ เช่น
- It’s been 5 months since we’ve been apart. I’m dying to see you, baby.
มันก็เป็นเวลา 5 เดือนแล้วนะตั้งแต่เราแยกกัน ผมอยากเจอคุณมากกกที่รัก โอ้ย ทำไมเขียนไปแล้วใจเจ็บ ฮ่าๆ
6. To be up for something ค่อนข้างไม่เป็นทางการ แต่ก็ใช้พูดแสดงความต้องการได้ เช่น
- I’m free this weekend. Are you up for a picnic?
ชั้นว่างสุดสัปดาห์นี้ แกอยากไปปิคนิคมั้ย?
7. I could do with เป็นวลีที่ไม่ได้แปลว่าสามารถ แต่ต้องการมากก หรือถ้าได้มาจะมีประโยชน์มากๆ เช่น
- I feel sleepy. I could do with coffee.
ชั้นง่วงอ่ะแก ชั้นอยากได้กาแฟจังเลย
8. I would rather ประโยคนี้ก็ใช้บ่อยมากๆ มักใช้เมื่อมีตัวเลือก แล้วเราอยากเลือกอันใดอันหนึ่งมากกว่า เช่น
- A : Do you want to work from home or at the office?
คุณอยากทำงานที่บ้านหรือออฟฟิศคะ? - B : I would rather work from home.
ฉันอยากทำงานที่บ้านค่ะ
9. I wish คล้ายๆ กับ want หรือ would like ให้ความเป็นทางการมากๆ เช่น
- I wish to speak to your mother.
ผมอยากคุยกับแม่ของคุณครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
Fitbit Charge 5 เริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย พร้อมเพิ่มฟีเจอร์พรีเมี่ยมใหม่ล่าสุด
Fitbit Charge 5 เริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย พร้อมเพิ่มฟีเจอร์พรีเมี่ยมใหม่ล่าสุด ฟีเจอร์ Calm สำหรับการนอนหลับ และ ฟีเจอร์การตรวจจับเสียงกรนและเสียงรบกวน
รายละเอียด Fitbit Premium และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีเพิ่มเติมมีดังนี้:
ฟิตบิตได้จับมือกับ Calm แอปพลิเคชั่นอันดับ 1 สำหรับการนอนหลับ ทำสมาธิ และผ่อนคลาย ซึ่งสมาชิก Fitbit Premium สามารถใช้งานได้เเล้ววันนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถติดตามการนอนหลับ และดูฟีเจอร์ Calm ที่ช่วยลดความเครียดได้ถึงจำนวน 30 รายการ นอกจากนั้นผู้ใช้งาน Fitbit Sense ยังสามารถเห็นผลลัพธ์ของการใช้งาน Calm ที่มีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ และการตอบสนอง EDA จากฟีเจอร์ดังกล่าว
สำหรับผู้ใช้งาน Sense และ Versa 3 ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์การตรวจจับเสียงกรนและเสียงรบกวน (Snore & Noise Detect) ได้เเล้ววันนี้ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจสภาพแวดล้อมการนอนหลับของตนเอง ซึ่งไมโครโฟนของ Sense และ Versa 3 นั้นสามารถตรวจจับเสียงได้เกือบทุกวินาทีเพื่อที่จะติดตามเสียงกรน และเสียงของสภาพแวดล้อมในขณะนอนหลับได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีระบบวิเคราะห์เสียง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ถึงเสียงที่อาจรบกวนในขณะนอนหลับจนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกและทำให้เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ ทั้งนี้ ตามข้อสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่างๆ ที่ระบุไว้ เราขอยืนยันว่าข้อมูลด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ Fitbit จากฟีเจอร์นี้ รวมถึงข้อมูลการใช้งานประเภทอื่นๆ จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อการโฆษณาบน Google และข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกแยกออกจากข้อมูลโฆษณา Google อื่นๆ อีกเช่นเดียวกัน
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย ความสูญเสีย ความเครียดที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่พฤติกรรมการนอน การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องรักษาตัวเองให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่สำหรับหลาย ๆ คน ความแข็งแกร่งมีนิยามที่เปลี่ยนไป ความแข็งแรงไม่ได้วัดกันที่น้ำหนักที่เราสามารถจะยกได้หรือความเร็วที่เราวิ่งได้อีกต่อไป แต่มันยังรวมถึงขีดจำกัดที่ร่างกายและจิตใจของเราจะรับได้อีกด้วย
เมื่อนิยามของความแข็งแกร่งเปลี่ยนไป ฟิตบิทจึงได้เปิดตัว Fitbit Charge 5 ฟิตเนสแทรคเกอร์สุดล้ำ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสามารถวัดความพร้อมของร่างกาย ตรวจเช็คความเครียด ดูแลสุขภาพหัวใจ วัดคุณภาพการนอนหลับ และสุขภาพในทุกมิติไว้ในเครื่องเดียว ด้วยดีไซน์ที่บางลงและทันสมัยมากขึ้น จอภาพสีที่สว่างขึ้น กับแบตเตอรีที่อึดสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 วัน โดย Fitbit Charge 5 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สะดวกสบายให้คุณได้ใช้งานตามต้องการโดยไม่มีอุปสรรค์ใด ๆ
และด้วยสมาชิก Fitbit Premium นาน 6 เดือนที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติตามได้และวิธีการออกกำลังกายกว่า 500 แบบ ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตและการกินที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของคุณได้ในแต่ละวัน
เสียเหงื่ออย่างชาญฉลาด
ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ Daily Readiness ที่มาพร้อมกับ Fitbit Premium ซึ่งจะสามารถใช้ได้เร็ว ๆ นี้ในฟิตบิทรุ่น Charge 5, Sense, Versa 3, Versa 2, Luxe และ Inspire 2 ทำให้คุณสามารถทำความเข้าใจร่างกายของตัวเอง ว่าพร้อมสำหรับการออกกำลังกายหรือไม่ หรือควรจะให้ความสำคัญกับการพักฟื้น โดยในตอนเช้าของทุกวัน คุณจะได้รับคะแนนที่ประเมินความอ่อนล้าของร่างกาย ระดับการเต้นของหัวใจ (HRV) และคุณภาพจากการนอนหลับครั้งล่าสุด และข้อมูลที่วิเคราะห์ว่าปัจจัยใดมีผลกับคะแนน พร้อมคำแนะนำ เช่น Active Zone Minutes และคอนเทนท์บน Fitbit Premium ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
โดย Fitbit Charge 5 ยังมาพร้อมกับ GPS ในตัวเครื่อง พร้อมโหมดการออกกำลังกว่า 20 แบบ ระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ และค่าประมาณ V02 max ของคุณ นอกจากนี้ ด้วยสมาชิก Fitbit Premium คุณยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การออกกำลังกายกว่า 200 แบบจากเทรนเนอร์ที่ได้รับการรับรองและแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Daily Burn, barre3, obé และการออกกำลังกายด้วยพลังงานสูงแบบใหม่จาก LES MILLS
ลดความเครียด ผ่อนคลายจิตใจ
ในช่วงปี 2020 พบว่า ผู้ใหญ่กว่า 40% ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นอย่างมาก และเพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการความเครียดได้ดียิ่งขึ้น Charge 5 จะเป็นแทรคเกอร์ตัวแรกที่มีเซนเซอร์ EDA ที่คอยวัดการตอบสนองของร่างกายของคุณต่อความเครียด ที่วัดจากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือ ซึ่ง ฟิตบิท ได้เปิดตัว EDA เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วพร้อมกับ Fitbit Sense และพบว่า 70% ของผู้ใช้ สามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจลงได้ ในระหว่างการทำ EDA Scan เป็นเวลา 2 นาที ซึ่งพิสูจน์ว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยลดความเครียดได้จริง
ซึ่ง Fitbit Charge 5 ยังมีฟีเจอร์ Stress Management Score บนแอปพลิเคชัน Fitbit ที่ช่วยให้คุณได้ข้อมูลในทุกเช้าว่า คุณพร้อมสำหรับความท้าทายที่มากขึ้นหรือต้องการการพักผ่อน ด้วยระบบสมาชิก Premium คุณยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การทำสมาธิกว่า 300 แบบจากแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณจัดการความเครียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ ฟิตบิทยังจะประกาศความร่วมมือกับ Calm แอปพลิเคชั่นอันดับ 1 ด้านการนอน นั่งสมาธิ และการผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยให้สมาชิก Fitbit Premium เข้าถึงเนื้อหาของ Calm ได้อีกด้วย
ลงลึกกับสุขภาพของคุณในทุกด้าน
เรายังช่วยให้คุณใส่ใจสุขภาพหัวใจของตัวเอง โดยที่ Fitbit Charge 5 สามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจของคุณตลอดเวลา และทำการแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำกว่าระดับปกติที่เป็นระดับเฉพาะตัวของคุณ ซึ่งอาจจะช่วยบ่งบอกอาการของหัวใจที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
นอกจากจะช่วยจัดการสุขภาพหัวใจของคุณแล้ว Charge 5 ยังนำเสนอภาพรวมของเมตริกที่สำคัญต่อสุขภาพของคุณผ่านทาง Health Metrics Dashboard ในแอป Fitbit ซึ่งรวมถึงข้อมูลอัตราการหายใจ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวหนัง และ SpO2 และด้วยสมาชิกแบบ Premium คุณยังสามารถแทร็คการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวและข้อมูลเฉพาะตัวของคุณ
และเพราะว่าการนอนก็สำคัญกับสุขภาพ คุณจะได้รับบริการจากเครื่องมือเกี่ยวกับการนอนหลับชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เช่น Sleep Score แบบรายวัน Sleep Stages และฟีเจอร์ปลุกอย่าง SmartWake นอกจากนี้ สมาชิก Fitbit Premium จะได้รับบทวิเคราะห์เชิงลึกและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการนอนอีกด้วย
ออกแบบมาสำหรับความสะดวก สมรรถภาพ และความสบาย
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านสุขภาพและฟิตเนสแล้ว Fitbit Charge 5 ยังมอบฟีเจอร์เพื่อความสะดวกให้คุณ ด้วยการปัดเพียงปลายนิ้ว ดูสถิติ จ่ายเงินแบบไร้การสัมผัส รับ/ส่งการแจ้งเตือน จากสมาร์ทโฟนของคุณ (พร้อมฟังก์ชั่นตอบกลับด่วนบนมือถือในระบบ Android) ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถเลือกหน้าปัดนาฬิกาสีสดใสได้ถึง 20 แบบเพื่อปรับเปลี่ยนการมองเห็นข้อมูลที่คุณอยากรู้มากที่สุด
ด้วยขนาดที่บางกว่ารุ่นก่อนหน้า 10% ฟิตบิต Charge 5 ยังมีดีไซน์แบบแอโรไดนามิกส์ที่เพิ่มสมรรถภาพและดีไซน์ทางวิศวกรรมสำหรับการสวมใส่แบบไร้รอยต่อ ด้วยหน้าจอสีแบบ AMOLED Charge 5 เป็นแทรคเกอร์ตัวแรกที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Always-on-display ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้คุณมองเห็นหน้าจอได้ตลอดเวลาออกกำลังกาย
ด้วยหน้าจอที่สว่างเป็นสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า คุณยังสามารถมองเห็นค่าต่าง ๆ ได้แม้ในวันแดดจ้า นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ตลอดเวลา ด้วยสายรัดข้อมือซิลิโคนแบบอินฟินิตีน้ำหนักเบา สายรัดข้อมือแบบสปอร์ตระบายอากาศ สายรัดข้อมือไนลอนแบบนิ่ม และสายรัดข้อมือหนังทำมือสุดพรีเมี่ยมจาก Horween
Fitbit Charge 5 ประกาศอัพเดท การวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ ในราคา 7,690 บาท โดยมาพร้อมกับสมาชิก Fitbit Premium เป็นระยะเวลา 6 เดือน ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อ Charge 5 ผ่านช่องทางออนไลน์กันได้แล้ววันนี้ ที่ Fitbit.com และมีวางจำหน่ายที่ B2S, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Dotlife, JD Central, Lazada, PowerBuy, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, Shopee, Super Sport และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
พลิกแหล่งน้ำให้สดใส Zebra Glass วัสดุใหม่จากเปลือกหอยสู่ผลึกแก้วสีธารน้ำแข็ง
ปี 2563 มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย หลายสถานการณ์เป็นด้านลบ เศรษฐกิจเข้าช่วงขาลง ธุรกิจหยุดชะงัก ทว่าสิ่งหนึ่งที่ยังคงฉายให้เห็นรอบโลกคือเรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ได้ลดลงเลย กลับกันอาจจะอยู่ในช่วงขาขึ้นเสียด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมีปัญหาคนก็ยิ่งพยายามหาทางแก้
ไม่เว้นแม้แต่วงการวัสดุที่เพิ่งริเริ่มออกแบบสิ่งใหม่ขึ้นมา ผลงานล่าสุดของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน 3 คน Emily Marquette, Mahsa Banadaki และ Wei Huang ที่ศึกษาเรื่องกลุ่มสีและออกแบบวัสดุจากการนำหอย 2 สายพันธุ์ ได้แก่ หอยม้าลาย (Zebra mussels) และหอยแมลงภู่ (Quagga) มาร่วมทดลองเพื่อสร้างประโยชน์
เราควรเก็บเปลือกหอยขึ้นมาสร้างวัสดุใช้งานหรือเปล่า?
หลายคนอาจจะตั้งข้อกังขาเพราะเราถูกสอนกันมาว่าไม่ควรเก็บเปลือกหอยจากแหล่งน้ำธรรมชาติขึ้นมา แต่ข้อเท็จจริงที่ควรรู้คือ หอยบางสายพันธุ์ โดยเฉพาะกับ 2 สายพันธุ์ที่เลือกมานี้ถือเป็นสายพันธุ์รุกรานระบบนิเวศ เดิมมีจุดกำเนิดจากรัสเซียและยูเครน ก่อนจะแพร่มายังอเมริกา เพราะพวกมันกระจายตัวอย่างรวดเร็ว แย่งกินแพลงก์ตอนจากสัตว์น้ำชนิดอื่น จนทำให้ระบบนิเวศท้องถิ่นเสียสมดุล ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเกาะกับวัสดุไหนใต้น้ำก็มักจะสร้างความเสียหายให้กับสิ่งที่มันไปเกาะ
ด้วยความที่ขยายพันธุ์เร็ว สร้างความเสียหายให้กับสิ่งมีชีวิตและวัตถุ แพร่ไปตามแหล่งน้ำผ่านการเกาะติดไปกับเรือขนส่งสินค้า จึงทำให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตเอเลี่ยนที่คอยไปทำลายสมดุลแหล่งน้ำ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบครั้งนี้
ของที่ดูเผิน ๆ มีแต่ด้านลบจะพลิกให้กลายเป็นบวกได้ไหม แทนที่กลุ่มนักศึกษาจะมองว่าหอยพวกนี้เป็นสิ่งไร้ค่าที่ควรทำลาย พวกเขากลับมองหาคุณสมบัติเฉพาะตัวของมันเพื่อนำมาใช้งาน จากการศึกษาพวกเขาพบว่าในเปลือกหอยแมลงภู่ทั้ง 2 สายพันธุ์นี้มีแคลเซียมคาบอร์เนตและสารสีซึ่งเป็นองค์ประกอบของการสร้างแก้วโซดาไลม์ (soda lime glass) ที่เรานิยมนำมาสร้างเป็นขวด แก้วน้ำ กระจก เป็นต้น จึงจัดตั้งโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า “Zebra Glass” เก็บเกี่ยวภัยคุกคามแหล่งน้ำเหล่านี้มาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมแก้วกับเซรามิกแทน
กระบวนการสกัดสร้างวัสดุเหล่านี้ ใช้วิธีการเก็บหอยนำมาต้ม ทำความสะอาดและนำเปลือกที่ได้มาบดด้วยครก จากนั้นจึงนำมาร่อนเอาผงบดละเอียดออกมา แล้วนำไปผสมธาตุผ่านกระบวนการทางเคมีและหลอมจนได้เป็นแก้วสีฟ้าใสเนื้อเนียน ข้อดีคือเมื่อทดลองกะเทาะ เราจะเห็นเลยว่าสีของแก้วที่หลอมละเอียดเนียนถึงเนื้อใน คล้ายผลึกน้ำแข็ง สวยงาม สมบูรณ์แบบเกินคาด
ที่สำคัญทางทีมยังพัฒนาการทดลองเรื่องสีกันต่อ โดยจะเก็บตัวอย่างของหอยทั้ง 2 ประเภทนี้จากแหล่งน้ำอื่น ๆ มาทดลอง เพื่อทดสอบค่าสีที่ได้ เพราะต่างแหล่งก็จะให้สีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้จากการทดลองพวกเขายังพบว่าถ้าใช้วิธีล้างเปลือกหอยม้าลายแทนการต้ม จะช่วยให้อินทรีย์ที่อยู่ในเปลือกได้รับผลกระทบน้อยกว่า ส่งผลให้สีเข้มขึ้นได้
หากการทดลองนี้พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ สิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นเอเลี่ยนในระบบนิเวศจะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรสร้างวัสดุที่ยั่งยืนในอนาคต
สำหรับประโยชน์ด้านอื่นของการใช้เปลือกหอยผสมผสานกับด้านวัสดุศาสตร์ นี่ไม่ใช่ผลงานวิจัยแรกที่นำเปลือกหอยมาริเริ่มสร้างสรรค์ แต่ก็ถือว่าน่าสนใจเพราะไปใช้กับอุตสาหกรรมเซรามิก ส่วนฝั่งบ้านเราเองก็ไม่น้อยหน้า แม้จะเป็นเปลือกหอยต่างชนิดกัน แต่ก็คิดค้นวิจัยและตีพิมพ์มาราว 4 ปีแล้ว โดยเผยแพร่ในบทความการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน วันที่ 8-9 ธันวาคม 2559 ในหัวข้อ “การประยุกต์ใช้ขยะซีเมนต์และเปลือกหอยในการแทนที่ปูนซีเมนต์เพื่อผลิตอิฐคอนกรีต” ซึ่งการวิจัยนี้นำเปลือกของหอยแมลงภู่และหอยแครงที่เป็นวัตถุดิบการทำเมนูอาหารยอดนิยมในไทยมาเป็นแรงบันดาลใจ
ผลจากงานวิจัยดังกล่าว พบว่าการผสมขยะซีเมนต์จากเปลือกหอย (หอยแมลงภู่และหอยแครง) เข้าไปในสัดส่วนที่พอเหมาะทำให้ค่าความต้านทานแรงอัดลดลงและค่าการดูดกลืนน้ำเพิ่มขึ้น เหมาะแก่การนำไปผลิตเป็นอิฐคอนกรีตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมคอนกรีตบล็อกรับน้ำหนักคุณภาพได้
ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้ทั้งการกำจัดขยะอย่างยั่งยืนและลดความสิ้นเปลืองทรัพยากรเดิมในงานวัสดุ ถ้ามีงานแนวนี้ออกมาเยอะ ๆ และได้รับการยอมรับมากขึ้น เชื่อว่าทั่วโลกจะน่าอยู่ขึ้นอย่างแน่นอน
ใครที่อยากศึกษากระบวนการและค่าสูตรโดยละเอียดสามารถเข้าไปติดตามข้อมูลต่อได้ที่ https://www.ccscmdmateriallab.com/projects/zebraglass
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 30/09/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,750.00 | 27,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,798.00 | 27,257.68 | 28,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,618.20 | 24,531.91 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,438.40 | 21,806.14 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 809.00 | 12,264.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 629.00 | 9,535.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,863.00 | 28,243.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/09/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.15 | 31.15 | 31.35 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.88 | 30.88 | 31.08 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.64 | 29.64 | 29.84 | 29.64 | 29.64 | – | 29.64 | 29.64 | 29.64 | 29.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.44 | 23.44 | – | – | – | – | – | – | – | 23.44 |
เบนซิน 95 | 38.56 | – | – | – | 39.01 | – | 39.06 | 38.56 | – | 38.56 |
ดีเซล B7 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 | 31.29 |
ดีเซล | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 |
ดีเซล B20 | 28.04 | 28.04 | 28.24 | – | 28.04 | – | 28.04 | 28.04 | – | 28.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 36.06 | 36.06 | 37.74 | 37.46 | – | – | – | – | – | 36.06 |
แก๊ส NGV | 15.80 | 15.80 | – | – | – | – | – | – | – | 15.80 |