Generation Rentไร้เงินเก็บชะลอซื้อ-เช่าบ้านหันมาอยู่กับพ่อแม่
เศรษฐกิจโตช้า-ดอกเบี้ยแพง-ราคาบ้านแพงสวนทางกับรายได้ Generation Rentไร้เงินเก็บไม่พร้อมซื้อ-เช่าบ้าน เปลี่ยนมาอยู่กับพ่อแม่ตอบโจทย์ทางการเงินและลดภาระค่าใช้จ่าย
DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด พบว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้เจเนอเรชัน Y – Z ตัดสินใจชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อนเนื่องจากมีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อที่อยู่อาศัย
• “เงินเก็บสวนทางราคาบ้าน” ทำคนเลือกเช่า ในขณะเดียวกันเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อ ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยการเงินเป็นหลัก โดยมากกว่าครึ่ง (56%) เผยว่ามีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ขณะที่ราคาบ้านที่สูงเกินไปทำให้เกือบ 2 ใน 5 (37%) ขอเลือกออมเงินแทน และ 36% มองไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัยในเวลานี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้เช่าส่วนใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงินในยุคที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง จึงลดความเสี่ยงโดยหลีกเลี่ยงการซื้อที่อยู่อาศัย และหันมาเลือกเช่าซึ่งตอบโจทย์ทางการเงินและลดภาระค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า
ปัจจุบันมุมมองการเป็นเจ้าของที่อาศัยของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ Generation Rent ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไม่สร้างภาระทางการเงินในระยะยาวจากการซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งมีความคล่องตัวมากกว่าหากต้องการโยกย้ายในอนาคต โดยผู้เช่าเกือบ 2 ใน 5 (39%) เผยว่าได้วางแผนเช่า 2 ปีก่อนจะซื้อที่อยู่อาศัยในภายหลัง ส่วน 29% มีความไม่แน่ใจว่าจะเช่าอีกนานแค่ไหน เนื่องจากยังต้องพิจารณาปัจจัยความพร้อมด้านอื่น ๆ อีกครั้ง ขณะที่ 5% เผยว่าตั้งใจจะเช่าอยู่ตลอดชีวิต
สำหรับอัตราค่าเช่าที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในหมู่ผู้เช่าอยู่ในช่วงไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน สัดส่วน 46% สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การมองหาที่อยู่อาศัยให้เช่าที่มีราคาย่อมเยา ตอบโจทย์สถานะทางการเงินในยุคปัจจุบันเป็นหลัก รองลงมาคือ 5,001-10,000 บาท/เดือน และ 10,001-15,000 บาท/เดือน (สัดส่วน 32% และ 9% ตามลำดับ)
ขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) หรือ Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวและเริ่มวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยจึงมีความสำคัญต่อภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ดีมีผู้บริโภคเพียง 37% เท่านั้นที่มีแผนย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ภายใน 1 ปีข้างหน้า ขณะที่กว่า 3 ใน 5 (63%) เผยว่ายัง”ไม่มี”แผนย้ายออกเร็ว ๆ นี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิด 43% รองลงมาคือตั้งใจรับช่วงต่อบ้านของพ่อแม่ 28% และไม่มีเงินเก็บเพียงพอในการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยของตัวเองในเวลานี้ 27% สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายทางการเงินที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญของมนุษย์
แม้ความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อแผนการซื้อบ้าน/คอนโดฯ ของคนรุ่นใหม่ แต่ความต้องการซื้อนั้นยังคงมีอยู่ โดยกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และ Gen Z เผยว่าหากต้องเลือกระหว่างการซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่ต้องการซื้อมากถึง 82% มีเพียง 18% เท่านั้นที่สนใจเช่า
ทั้งนี้ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และ Gen Z วางแผนการเงินไปกับการใช้จ่ายภายในครอบครัวมากถึง 56% รองลงมาคือเก็บเงินไว้เป็นกองทุนเงินสำรองฉุกเฉิน 54% เพื่อรับมือสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต และเก็บเงินไว้เพื่อเคลียร์หนี้ต่าง ๆ ให้หมด 27% โดยมีเพียง 21% เท่านั้นที่วางแผนออมเงินไว้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่ง ปี 2567 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่า สถานการณ์สังคมสูงวัยที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับวัยแรงงานที่ลดลงในไทย ส่งผลให้ “แซนด์วิช เจเนอเรชัน (Sandwich Generation)” หรือคนที่อยู่ตรงกลางที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่สูงอายุและลูกของตนเอง มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเผชิญปัญหาทางการเงิน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางกลายเป็นความท้าทายให้คนรุ่นใหม่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ยากกว่าสมัยก่อน การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยจึงอาจไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ อีกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
อินไซต์เรื่องที่คนซื้อ-เช่ากังวล&ฟังก์ชันบ้านในฝัน
เปิด อินไซต์เรื่องที่คนซื้อ-เช่ากังวล อันดับหนึ่ง “บ้านไม่ตรงปก” รองลงมา “อัตราดอกเบี้ย” ที่มีผลต่อแผนการผ่อน และปัญหาโครงการเกิดข้อพิพาทส่งผลให้ไม่สามารถขาย โอน หรือปล่อยเช่าได้ ส่วนฟังก์ชันบ้านในฝัน ทำเลที่มีศักยภาพ ตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์
จากการสำรวจDDproperty Thailand Consumer Sentiment Study พบว่า “ได้บ้านไม่ตรงปก” ความกังวลอันดับ 1 ของคนซื้อบ้าน การซื้อที่อยู่อาศัยถือเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่และมาพร้อมความท้าทาย เนื่องจากหากซื้อแล้วเกิดปัญหา ผู้ซื้อไม่สามารถเปลี่ยนได้ง่ายดายเหมือนการซื้อสินค้าทั่วไป
เห็นได้ชัดจากความกังวลของผู้บริโภคที่ซื้อ ขาย หรือเช่าที่อยู่อาศัยนั้น พบว่ากว่า 3 ใน 5 (61%) มีความกังวลว่าคุณภาพของที่อยู่อาศัยที่ได้จะไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้มากที่สุด โดยมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางและสูง รองลงมาคือ กังวลว่าแผนการผ่อนชำระอาจได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนหรือเพิ่มขึ้นในอนาคต 51% ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินตามมาได้ ขณะที่อีก 42% กังวลว่าโครงการที่ซื้อไปแล้วจะมีข้อพิพาทกับหน่วยงานต่าง ๆ ส่งผลให้ไม่สามารถขาย โอนกรรมสิทธิ์ หรือปล่อยเช่าได้
“ขนาด-ทำเล” หัวใจสำคัญเมื่อเลือกซื้อบ้าน ปัจจัยภายในที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค กว่า 2 ใน 5 (43%) ให้ความสำคัญกับขนาดที่อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก โดยบ้าน/คอนโดฯ ในฝันต้องมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว รองลงมาคือพิจารณาราคาเฉลี่ยต่อพื้นที่ใช้สอยในสัดส่วนไล่เลี่ยกันที่ 42% สะท้อนให้เห็นว่าความคุ้มค่ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ตามมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก 37%
สำหรับปัจจัยภายนอกโครงการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย พบว่าผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) พิจารณาจากทำเลที่ตั้งของโครงการมาเป็นอันดับแรก โดยให้ความสำคัญกับการเลือกโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตหรืออยู่ในทำเลที่ภาครัฐมีแผนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและเมกะโปรเจกต์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของที่อยู่อาศัยตามไปด้วย รองลงมาคือโครงการที่เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และพิจารณาจากความปลอดภัยของโครงการ ในสัดส่วนเท่ากันที่ 44% ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาวทั้งสิ้น
“คุณภาพงานตกแต่งภายใน” ดึงดูดใจให้เลือกดีเวลลอปเปอร์ ปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณาเมื่อเลือกผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น มากกว่าครึ่ง (53%) ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการตกแต่งภายในของโครงการมากที่สุด เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สะท้อนคุณภาพของสินค้าโดยตรง และผู้บริโภคยังสามารถประเมินความคุ้มค่าจากคุณภาพงานเทียบกับราคาขายในเบื้องต้นได้ รองลงมาคือพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนาอสังหาฯ และข้อเสนอทางการเงินต่าง ๆ ส่วนลด หรือเงินคืน ในสัดส่วนเท่ากันที่ 50% ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อบ้านใหม่ได้ไม่น้อย โดยที่ผู้บริโภคยังสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นงบตกแต่งบ้านได้
เทรนด์ Pet Parent มาแรง 78% สนใจโครงการเลี้ยงสัตว์ได้ ผลสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยว่าคนไทยต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent) มากถึง 49% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงและโอกาสในการเจาะกลุ่มเป้าหมายนี้ในหลากหลายธุรกิจรวมทั้งตลาดที่อยู่อาศัยเช่นกัน สอดคล้องกับข้อมูลจากแบบสอบถามฯ DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study ที่พบว่า ผู้บริโภคกว่า 3 ใน 4 (78%) เผยว่าสนใจโครงการที่เลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet-Friendly โดยกว่า 2 ใน 3 (67%) ของกลุ่มผู้ที่สนใจนั้นคาดหวังว่าในโครงการเหล่านี้จะมีการแยกโซนระหว่างผู้ที่เลี้ยงสัตว์และไม่ได้เลี้ยงภายในอาคารอย่างชัดเจน รองลงมาคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น สวน สระว่ายน้ำ ระบบระบายอากาศ ฯลฯ ในสัดส่วนไล่เลี่ยกันที่ 66% และมีการออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง เช่น มาพร้อมระบบระบายอากาศภายในห้อง ระเบียงเสริมความปลอดภัยป้องกันการปีนป่าย 60%
• ฝุ่น PM 2.5 ยังไม่จาง คนไทยมองหาบ้านที่ช่วยจบปัญหา ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นความกังวลของคนหาบ้าน เนื่องจากความเสี่ยงนี้กระทบต่อสุขภาพอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยผู้บริโภคถึง 61% เลือกพิจารณาเฉพาะโครงการที่มีเครื่องปรับอากาศและระบายอากาศได้ดีเท่านั้น เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 รองลงมา 53% เผยว่าจะทบทวนแผนการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงอีกครั้ง ขณะที่ 37% จะพิจารณาการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่มีฟังก์ชั่นหรือคุณสมบัติที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 30ก.ย. “แข็งค่าเล็กน้อย”ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทอยู่ในโซน Overvalued มากขึ้นในเชิง valuation ในส่วนเงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมา แนะปิดความเสี่ยงผ่าน Options หรือ Local Currency ควบคู่ทำสัญญา Forward
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้30ก.ย.2567 ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทโดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ sideways แต่ก็มีจังหวะแข็งค่าขึ้น จนทะลุโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.27-32.42 บาทต่อดอลลาร์)
ตามจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมการปรับตัวขึ้นบ้างของราคาทองคำ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด
อย่างไรก็ดี เงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นตามบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลงราว -20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตามแรงขายทำกำไรและจังหวะการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่าเฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับที่เราประเมิน ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนซึ่งหนุนให้เงินหยวนจีน (CNY) และบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียแข็งค่าขึ้น
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ นอกจากนี้ ควรรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยจะเริ่มจาก รายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTs Job Openings) ยอดการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP จนถึง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และ
อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (ISM Manufacturing and Services PMIs) เดือนกันยายน
พร้อมกับรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดมีโอกาส “เร่งลดดอกเบี้ย” ได้ในสองการประชุมที่เหลือของปีนี้
และมีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ยต่อในการประชุมช่วงต้นปีหน้า ซึ่งเราคงมุมมองเดิมว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวลงหนักหรือออกมาแย่กว่าคาด
เฟดก็มีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot ล่าสุด ทำให้สุดท้ายผู้เล่นในตลาดต้องทยอยปรับลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง เปิดโอกาสให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นได้บ้างในกรณีดังกล่าว
▪ ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน เดือนกันยายน รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาสที่ 2 และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของ BOE เช่นกัน
▪ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของจีนในเดือนกันยายน (ซึ่งจะมีการรายงานในวันเดียวกันทั้งในส่วนของ Official PMI ที่เน้นบริษัทขนาดใหญ่เป็นหลัก
และ Caixin PMI ที่เน้นบริษัทขนาดเล็ก-กลาง) เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจ รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม รวมถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ Tankan Survey)
▪ฝั่งไทย – ควรรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเดือนกันยายน พร้อมจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังดัชนี SET ยังคงมีความเสี่ยงอาจย่อตัวลงได้บ้างในระยะสั้น อนึ่ง เงินบาทได้แข็งค่าหลุดทุกโซนแนวรับที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ เมื่อประเมินจากสถิติการเคลื่อนไหวของเงินบาทหลังรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
โดยเฉพาะรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ก็มีโอกาสที่เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นทะลุโซน 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ทว่า เราคงมุมมองเดิมว่า ในเชิง Valuation การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์นั้น ถือว่า เป็นระดับที่ Overvalued มากขึ้น (Z-Score ของดัชนีค่าเงินบาท REER เกินระดับ +1.0 หากเงินบาทแข็งค่าหลุด 32.00 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งหากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เงินบาทก็ไม่ควรแข็งค่าเกินระดับดังกล่าวไปมากนัก
ทำให้ผู้ประกอบการอย่างฝั่งผู้นำเข้าควรเตรียมพร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เราเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นจริง ส่วนนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทยตามคาด
ทว่า เงินบาทก็อาจยังได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ ทั้งนี้ เราขอย้ำว่า ในเชิง valuation เงินบาทนั้นอยู่ในโซน Overvalued มากขึ้น
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า Two-Way Volatility ยังคงเป็นธีมหลักของเงินดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นบ้าง หากตลาดทยอยลดความคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องเห็นภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ไม่ได้เลวร้ายนัก แต่หากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด เงินดอลลาร์ก็เสี่ยงอ่อนค่าต่อ ตามความเชื่อมั่นการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดที่จะสูงขึ้น
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.00-32.85 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของจีน)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สาวนครราชสีมาล้างตาคาซัคฯ คว้าที่ 3 ศึกวอลเลย์บอลสโมสรหญิงเอเชีย
“สาวย่าโม” สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี เล่นท็อปฟอร์มเอาชนะ กัวนิช วีซี จากคาซัคสถาน 3 เซตรวด คว้าเหรียญทองแดงมาครอง ในการแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2024
การแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย ณ ชาติชายฮอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ที่มี 8 สโมสรจากเอเชียเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อคัดเอา 2 ทีมเข้าไปแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์โลก 2024 ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2024 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และ 2 ทีมจากเอเชียที่คว้าตั๋วไปแข่งขันสโมสรชิงแชมปโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ, NEC Red Rockets Kawasaki แชมป์ วี.ลีก จากประเทศญี่ปุ่น ทีมของ” เพียว” อัจฉราพร คงยศ และ LPBank Ninh Binh จากเวียดนาม ที่นำทัพโดย “ตู้เย็น” เหงียน ทิ บิค เตวียน เป็นคู่ชิงชนะเลิศในศึกวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2024
ส่วนการแข่งขัน เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงอันดับ 3 ระหว่าง นักตบ “สาวย่าโม” สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี แชมป์ไทยแลนด์ลีก 6 สมัย และรองแชมป์สโมสรเอเซีย ปี 2021 ลงสนามพบกับ สโมสร Kuanysh VC จากคาซัคสถาน แชมป์ปี 2022 ที่ “สาวย่าโม” พ่ายมาในการแข่งขันรอบแรก 2-3 เซต ส่งผลให้เกมในนัดนี้ นักตบ “สาวแคทเดวิล” ต้องวางแผนการเล่นกันใหม่เพื่อหวังจะล้างตามและคว้าอันดับ 3
เกมนัดนี้ นักตบ “สาวย่าโม” ที่มีหัวเสามือเก๋า อดีตทีมชาติไทย อรอุมา สิทธิรักษ์ นักตบสาวตำนาน 7 เซียน , “ออมสิน” ศศิภาพร จันทรวิสูตร, สิริมา มานะกิจ และ 3 ผู้เล่นต่างชาติที่เอาลงสนามฟูลทีม ทำให้เกมในนัดนี้ “สาวย่าโม” เล่นได้ดีกว่าเกมในรอบแรก โดยเฉพาะผู้เล่นต่างชาติที่เริ่มจะเข้ากับมือเซตของทีม ทำให้เกมในนัดนี้สาวย่าโม โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะสโมสร Kuanysh VC จากคาซัคสถาน 3 เซตรวด (25-22, 25-18, 25-21) ล้างตาได้สำเร็จ คว้าอันดับ 3 มาครอง เป็นเหรียญรางวัลเหรียญที่สอง การแข่งขันสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย หลังจากที่เคยคว้าเหรียญเงินมาเมื่อปี 2021
สำหรับ สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี มาเข้ามาแข่งขันรายการ สโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้เป็นสมัยที่ 3 โดยครั้งแรกเมื่อปี 2014 และสโมสรนครราชสีมาจบอันดับ 5 จากนั้นในปี 2021 คว้าเหรียญเงินมาครอง และปี 2024 คว้าเหรียญทองแดงมาครอง แต่ยังไม่ดีที่จะคว้าตั๋วไปแข่งขันสโมสรชิงแชมป์โลก
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
คำอวยพรวันเกิดลูกภาษาอังกฤษ สุดเก๋ ที่ไม่ใช่แค่ Happy Birthday
“Happy Birthday To You” เชื่อว่าาเป็นประโยคอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษที่ได้ยินกันบ่อยที่สุด เพราาะะมีความหมายตรงตัว และสามารถสื่อได้ชัดเจน แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าใช้ประโยคนี้อวยพรลูกในวันเกิดทุกปีจนเบื่อแล้ว วันนี้เราจะพามาดูประโยคอวยพรวันเกิดลูกสุดเก๋ ที่รับรองว่าลูกของคุณจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน
10 คำอวยพรวันเกิดลูกเป็นภาษาอังกฤษ
เพราะวันเกิดมีเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้ง เชื่อว่าคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับวันเกิด โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ใกล้จะถึงวันเกิด ซึ่งจะดีแค่ไหน หากครอบครัวให้ความสำคัญกับวันเกิดของลูกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ของขวัญวันเกิด หรือคำอวยพรที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่เต็มเปี่ยมจากพ่อแม่ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อวนมาถึงวันเกิดอีกปีแล้ว ก็นึกไม่ออกว่าควรจะอวยพรว่าอย่างไรให้ลูกได้รับรู้ถึงความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก เราจึงได้รวบรวม 10 คำอวยพรวันเกิดสุดซึ้ง สำหรับวันเกิดที่สุดแสนจะพิเศษให้กับลูกของคุณ
- Happy birthday. You give us a thousand reasons to smile every day. (สุขสันต์วันเกิด ลูกทำให้เรามีร้อยพันเหตุผลที่จะยิ้มทุกวันเลย)
- Wishing you a lifetime of happiness, laughter and joy. (ขอให้ชีวิตของลูกมีแต่ความสุข ความยินดี และพบเจอแต่เสียงหัวเราะนะ)
- Happy birthday to our little angel. Thanks for joining our life. The world is waiting to see your wonders. (สุขสันต์วันเกิดนางฟ้าตัวน้อยของเรา ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพ่อแม่นะ โลกกำลังรอที่จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของลูกอยู่นะ)
- What a perfect gift you are to us, Happy Birthday. (ลูกเป็นของขวัญที่แสนวิเศษของพ่อกับแม่ สุขสันต์วันเกิดนะ)
- Your presence brings joy and happiness to the lives of so many. (การปรากฎตัวของหนูนำพาความสุขมาให้กับคนมากมาย)
- I hope you are always blessed with a fun life ahead of you. (แม่หวังว่าหนูจะมีชีวิตที่สนุกอยู่เสมอตลอดไปนะ)
- Your Birthday is memorable and is a special day to me. Wishing you everlasting fun and Joy. (วันเกิดของลูกเป็นวันที่น่าจดจำและแสนพิเศษสำหรับแม่ ขอให้ลูกสนุกและมีความสุขตลอดไปนะ)
- I wish you a fun-filled, bright, exciting and joyous birthday! (ขอให้วันเกิดของลูกเต็มไปด้วยความสุข แสงสว่าง และความสนุกสนาน)
- To the world, you may just be one person. But to me, you are the world. (ลูกอาจเป็นเพียงคนคนหนึ่งในโลกนี้ แต่สำหรับแม่ ลูกเป็นโลกทั้งใบ)
- I hope that all your stars keep shining and your biggest dreams come true. Congrats on another great year. (ฉันหวังว่าดวงดาวจะคอยส่องแสงอยู่ตลอด และขอให้ความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณเป็นจริง ยินดีด้วยนะกับอีกปีที่ยอดเยี่ยม)
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
Digital Twin แบบจำลองดิจิทัล | พิเศษ เสตเสถียร
แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas) หรือที่เรียกกันว่า “ฝาแฝดดิจิทัล” (Digital Twin) คือการจำลองเสมือนจริงของวัตถุหรือระบบทางกายภาพ กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การดูแลสุขภาพ และสถาปัตยกรรม
ตัวอย่างของแบบจำลองทางดิจิทัลเช่น บริษัทรถยนต์ Volvo ใช้แบบจำลองเสมือนจริง (Virtual replicas) เพื่อทดสอบและลองใช้วัสดุและอากาศพลศาสตร์ที่แตกต่างกันในการออกแบบรถยนต์ใหม่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถเลือกการออกแบบในอุดมคติที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพและสร้างโมเดลที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้
หรือในทางการแพทย์ บริษัทเช่น GE หรือ Siemens กำลังสร้างแบบจำลองดิจิทัลของผู้ป่วย โดยวิธีการนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถจำลองและคาดการณ์ผลกระทบของการรักษาเป็นรายบุคคลได้
การใช้แบบจำลองดิจิทัลแผ่ขยายไปทุกวงการ ในแง่หนึ่งแบบจำลองดิจิทัลมีประโยชน์มากมาย เช่น ปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย ในทางกลับกัน แบบจำลองดิจิทัลก็ก่อให้เกิดผลกระทบทางกฎหมาย
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ลงนามในกฎหมายชื่อ AB 2602 ซึ่งเป็นกฎหมายทีกล่าวถึงการใช้แบบจำลองดิจิทัลของนักแสดง
กฎหมายนี้กำหนดให้มีสัญญาของข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับการใช้แบบจำลองเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแบบจำลองดิจิทัลเข้ามาแทนที่งานที่นักแสดงจะต้องทำด้วยตนเอง
กฎหมายมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่านักแสดงมีอำนาจควบคุมวิธีการใช้ภาพลักษณ์ดิจิทัลของตน และได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
กฎหมายนี้ได้รับอิทธิพลจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้เสียงและภาพลักษณ์ของนักแสดงในทางที่ผิด ด้วยการเพิ่มขึ้นของ AI ที่สร้างขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น วิดีโอเกม ภาพยนตร์ และโฆษณา
คำจำกัดของกฎหมายครอบคลุมถึงการนำเสนอแบบดิจิทัลหลากหลายรูปแบบที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงสิ่งที่สร้างขึ้นโดย AI, deepfakes และเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ หากสัญญาเกี่ยวข้องกับการสร้างหรือการใช้แบบจำลองดิจิทัลของนักแสดงในการแสดงที่กำหนดไว้ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2025 ต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้
ในกฎหมายไทย พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ให้ความคุ้มครองงานต้นฉบับของผู้สร้างสรรค์ ซึ่งรวมถึงงานศิลปกรรม งานวรรณกรรม และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การคุ้มครองนี้จะครอบคลุมถึง “แบบจำลองดิจิทัล” ด้วยหรือไม่?
กฎหมายย่อมไม่ได้พูดถึง “แบบจำลองดิจิทัล” ไว้โดยตรง กฎหมายที่มีอยู่จะปรับใช้ได้ไหม หรือจะต้องออกกฎหมายใหม่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดปัญหากับกฎหมายที่มีอยู่เสมอ.
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
คอเลสเตอรอลสูง สูงแค่ไหน ถึงต้องกินยาลด
ผู้ที่มีปัญหา คอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินไป จำเป็นต้องลดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาภายหลังได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เส้นเลือดตีบอุดตัน เลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ยาลดคอเลสเตอรอล เป็นทางเลือกและวิธีการรักษาที่แพทย์จะพิจารณาให้กับผู้ป่วยบางรายที่มีความจำเป็นต้องลดคอเลสเตอรอลเพื่อป้องกันโรคอันตรายในอนาคต แต่ในบางรายอาจไม่จำเป็น หรือไม่สามารถใช้ยาลดคอเลสเตอรอลได้
ยาลดคอเลสเตอรอล
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล แพทย์ฝ่ายเภสัชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ยากลุ่มสแตติน เป็นยาลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดง เป็นยาที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมอง
คอเลสเตอรอล สูงแค่ไหน ถึงต้องกินยาลด
ในคนที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
- ระดับ LDL มากกว่าหรือเท่ากับ 190 mg/dL
- ระดับ LDL 70-189 mg/dL และเป็นเบาหวานร่วมด้วย
- มีความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันใน 10 ปี มากกว่าหรือเท่ากับ 7.5% และกลุ่มสุดท้ายที่ได้ประโยชน์แน่นอนคือ
- ในคนที่มีภาวะหลอดเลือดอุดตันแล้ว เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ
ข้อควรทราบในการใช้ยาสแตติน
- แม้ค่าไขมันจะอยู่ในระดับปกติ แต่ผู้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมองยังจำเป็นต้องได้รับยาสแตตินตลอดไป เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค
- ผู้ที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองที่มีไขมัน LDL สูงในเลือด และมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคเท่านั้น ที่จะได้รับประโยชน์จากสแตติน โดยประเมินจากระดับ LDL และ HDL ร่วมกับเพศ อายุ ประวัติการมีภาวะความดันเลือดสูง การเป็นโรคเบาหวาน และการสูบบุหรี่ เป็นต้น
- ผู้ที่ประเมินแล้วมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือสมอง (Thai CV rish score) ต่ำกว่า 10% ในระยะเวลา 10 ปี โดยทั่วไปมักไม่จำเป็นต้องได้รับสแตติน
คอเลสเตอรอลสูง ห้ามกินอะไร
- ไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม กะทิ หนังสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป
- อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่ปลา ไข่แดง ตับ ปลาหมึก
- ไขมันทรานส์ เช่น เนยเทียม ครีมเทียม ขนมอบที่มีไขมันสูง
- อาหารหวานและน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 ประโยชน์ดีๆ จาก “ย่านาง” ดีท็อกซ์ผิว-ลดน้ำตาลในเลือด
ใครที่ชอบทานหน่อไม้ อาจจะได้ยินคำว่า “ย่านาง” บ่อยๆ เพราะเป็นพืชที่ใช้ต้มร่วมไปกับหน่อไม้ เพื่อให้รสชาติขมๆ ของหน่อไม้ลดหายไป น้ำต้มออกมาสีเขียวๆ อาจดูไม่น่าทานนัก แต่รับรองว่ามีประโยชน์มากมายโดยที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ย่านาง คืออะไร?
ย่านางเป็นพืชที่เรานำส่วนใบมาประกอบอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นบ้าน มักนำมาต้มกับอาหารที่มีรสขม เพื่อลดรสชาติขมๆ ออกไป นอกจากจะช่วยลดความขมแล้ว ยังมีสารอาหารหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
ประโยชน์ของย่านาง
1. มีวิตามินเอ และซีสูง จึงช่วยบำรุงสายตา และบำรุงฟัน ป้องกันโรคหวัดได้เป็นอย่างดี
2. มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับพิษ และลดไข้
3. น้ำต้มกับใบย่านาง หรือน้ำย่านางสกัดเย็น (อาจผสมใบเตย) ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง และป้องกันมะเร็งได้
5. ช่วยลดอาการหอบ ของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น
ถึงแม้ว่าย่านางจะมีประโยชน์ที่ทำให้ใครหลายคนอยากลองทาน แต่ผู้ที่มีธาตุเย็น หรือความดันโลหิตต่ำ เลือดจาง และอ่อนเพลียง่าย ไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะยิ่งทำให้เลือดจางและอ่อนเพลียมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 30/09/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 40,550.00 | 40,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,627.00 | 39,825.32 | 41,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,364.30 | 35,842.79 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,101.60 | 31,860.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,182.00 | 17,919.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 919.00 | 13,932.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,722.00 | 41,265.52 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/09/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.25 | 35.25 | 35.55 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 | 35.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.18 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.14 | 33.14 | 33.44 | 33.14 | 33.14 | – | 33.14 | 33.14 | 33.14 | 33.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.89 | 32.89 | – | – | – | – | – | – | – | 32.89 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 43.84 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 43.84 |
เบนซิน 95 | 43.44 | – | – | – | 49.81 | – | 43.94 | 43.59 | – | 43.44 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.24 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 18.59 | 18.59 | – | – | – | – | – | – | – | 18.59 |