สาระน่ารู้ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2565

จีนแก้วิกฤติ ‘อสังหา’ ใช้ข้าวสาลี -กระเทียม วางดาวน์คอนโดฯได้

จีนแก้วิกฤติ 'อสังหา' ใช้ข้าวสาลี -กระเทียม  วางดาวน์คอนโดฯได้

หลือเชื่อ !โครงการอาคารชุดในจีน ให้ใช้ข้าวสาลี/กระเทียมเป็นเงินดาวน์ห้องชุดแล้ว คาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย และแก้วิกฤติอสังหาฯ ที่กำลังตกต่ำ

3 ก.ค.2565 – ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวถึงรายงานเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ฮ่องกงรายงานว่า บริษัทพัฒนาที่ดินในจีนชื่อ Central China ในท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ได้เสนอการส่งเสริมการขายในรูปแบบใหม่โดยเพิ่งเสนอให้เอาข้าวสาลีและกระเทียมเป็นเงินดาวน์ เพราะในพื้นที่นั้นมีเกษตกรอยู่เป็นจำนวนมาก

โฆษณาของบริษัทพัฒนาที่ดินดังกล่าวในมณฑลในเหอหนาน เขียนว่า “แลกข้าวสาลีกับบ้าน” โดยผู้ซื้อบ้านสามารถใช้พืชผลได้ในอัตรา 2 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัมในการวางเงินดาวน์ห้องชุดในราคา 160,000 หยวน โดยการส่งเสริมการขายนี้พุ่งเป้าไปที่เกษตรกรในท้องที่เป็นหลัก ทั้งนี้โฆษณาดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนและจะสิ้นสุดในวันที่ 10 กรกฎาคม  สำหรับห้องชุดในในมณฑลเหอหนานตอนกลางขายในราคาประมาณ 600,000 ถึง 900,000 หยวน

ยิ่งกว่านั้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม บริษัทดังกล่าวก็โฆษณาให้เกษตกรรมาจ่ายเงินดาวน์ห้องชุดเป็นกระเทียมได้เช่นกัน ปรากฏว่ามีผู้สนใจนำกระเทียมมาแลกถึง 30 รายในช่วงครึ่งเดือนที่ทำการส่งเสริมการขาย ปกติแล้ว ราคาตลาดขายส่งกระเทียมและข้าวสาลีอยู่ที่ 1.5 หยวนต่อ 500 กรัม

ในช่วงที่ผ่านมาในปี 2565 นี้ การขายห้องชุดค่อนข้างอืดเพราะมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดของจีน และภาวะ “ขาลง” ของตลาดที่อยู่อาศัย และภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 5.5% ในปี 2565 นี้ อย่างไรก็ตามการส่งเสริมการขายทั่วไปของบริษัทพัฒนาที่ดินในขณะนี้ ก็คือการแถมที่จอดรถฟรีหรือตกแต่งภายในหลังการซื้อ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


นับ 1-8 หลักการ ‘พัฒนาพื้นที่’ รอบสถานี ทำอย่างไร?เข็นไทยสู่สากล

นับ 1-8 หลักการ 'พัฒนาพื้นที่' รอบสถานี ทำอย่างไร?เข็นไทยสู่สากล

ส่องแบบประเมิน 8 ข้อ หลักการพัฒนาเมือง ผ่านรูปแบบ TOD ของสากล เทียบประเทศไทย เมื่อพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน ต้องถูกออกแบบและจัดสรรอย่างสมดุล

3 ก.ค.2565 – ระหว่างที่บ้านเรายังคงถกเถียง เรื่องอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าควรเก็บเท่าไหร่ ถึงพอเหมาะและสร้างประโยชน์ให้คนส่วนใหญ่ เพราะยิ่งแพง ยิ่งผลักให้คนหนีห่างจากการใช้ระบบขนส่งมวลชนในการเดินทาง สร้างปัญหาการจราจรไม่รู้จบ

ขณะเดียวกัน ปัจจุบัน เมือง กทม.ก็ถูกขยายออกไปเรื่อย ผ่านแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสี หลากเส้นทาง แต่ยังไร้การจัดสมดุลพื้นที่ หรือ การสร้างประโยชน์ที่เชื่อมต่อระหว่างกัน เพื่อคุณภาพชีวิตคนเมือง 

นี่จึงเป็นคำถาม ว่ารูปแบบ การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ หรือ การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วโลก จะสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่? ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ชวนพิจารณาร่วมกัน

TOD Standard หลักการพัฒนาพื้นที่ 8 ประการ ที่เราอยากเห็น 

ซึ่งหากนับตั้งแต่แนวคิด TOD (Transit Oriented Development) หรือ การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ เป็นที่รู้จักตั้งแต่ปีค.ศ.1993 จนถึงวันนี้ แนวทางการพัฒนาแบบ TOD ได้สร้างแนวทางการพัฒนาจนได้มาตรฐานที่สามารถนำไปใช้ในชื่อ TOD Standard ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาถึงเวอร์ชัน ที่ 3 หรือเรียกว่า TOD Standard 3.0 

โดยให้มาตรฐานตามคะแนนรวมทั้งหมด 100 คะแนน หากการพัฒนาพื้นที่นั้นได้คะแนน 86 – 100 จะได้ Gold standard ส่วนคะแนนตั้งแต่ 71 – 85 ได้ Silver standard และคะแนน 56 – 70 ได้ Bronze standard โดยคะแนนจะพิจารณาจากแนวทางการพัฒนาทั้ง 8 ด้าน ดังต่อไปนี้ 

นับ 1-8 หลักการ 'พัฒนาพื้นที่' รอบสถานี ทำอย่างไร?เข็นไทยสู่สากล
  • Walk (15 คะแนน)

โครงข่ายทางเดินเท้าที่ดีเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการพัฒนาตามแนวทาง TOD ทางเดินที่ดี ไม่เพียงแต่ทำทางเดินให้กว้างขวาง สะอาด สวยงาม และปลอดภัยเท่านั้น  แต่ยังต้องพิจารณาเรื่องสิ่งกีดขวาง ความลาดชัน บันได เส้นบล็อกนำทางอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางสายตา และผู้ใช้งานวีลแชร์ สำคัญที่สุด คือ ทางเดินนั้นต้องดีต่อกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นความร่มรื่นจากต้นไม้ เก้าอี้นั่งพักระหว่างทาง กิจกรรม สีสันของผู้คนระหว่างทางเดิน มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องน้ำสาธารณะ ถังขยะ ไฟทางเดิน ป้ายบอกทาง คือ โครงข่ายทางเดินเท้าที่มีคุณภาพ

  • Cycle (5 คะแนน)

แม้หัวข้อนี้จะมีความสำคัญเพียง 5 คะแนน แต่ก็เป็นคะแนนสำคัญที่อาจชี้วัดความเป็นไปว่าจะได้ TOD ระดับทองหรือไม่ การเดินทางด้วยจักรยานได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง รองลงมาจากการเดินเท้า ในจุดที่ TOD ให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่องการออกแบบเส้นทางจักรยานที่มีความปลอดภัย การจัดทำที่จอดจักรยานชั่วคราว ที่จอดจักรยานถาวร รวมถึงจุดขึ้นลงจักรยานว่าสามารถจอดแล้วจรต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน

  • Connect (15 คะแนน)

การสร้างเส้นทางเชื่อมโยงทุกการเดินทางในเมือง โดยใช้สถานีขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ ภายในระยะ 400 เมตรจากตัวสถานีขนส่งสาธารณะ ประชาชนสามารถสัญจรไปมาภายในรัศมี อย่างสะดวกสบายได้ด้วยโครงข่ายทางเดินเท้า และจักรยาน จูงใจทำให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเห็นว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้พวกเขาเข้าถึงสถานที่ทำงาน และร้านค้าดีกว่า

นับ 1-8 หลักการ 'พัฒนาพื้นที่' รอบสถานี ทำอย่างไร?เข็นไทยสู่สากล
  • Transit (ไม่มีคะแนน)

เส้นทางคมนาคมและสถานีขนส่งสาธารณะ เป็นหัวใจและจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทุกอย่างตามแนวทาง TOD ในหัวข้อนี้จึงไม่มีคะแนน แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไปไม่ได้เลย เพราะถ้าขาดระบบขนส่งสาธารณะก็จะไม่มีการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทาง TOD เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามคำแนะนำของ TOD กล่าวว่าสถานีขนส่งสาธารณะที่ดี ควรมีระบบขนส่งที่มีความหลากหลาย เข้าถึงทุกพื้นที่ของเมือง เพื่อเป็นทางเลือกการเดินทางให้กับประชาชน

  • MIX (25 คะแนน)

MIX คือ การผสมผสานพื้นที่ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ประชาชนต้องเข้าถึง ร้านค้า คลินิกการแพทย์ ร้านอาหาร ธุรกิจ สถานบริการ สนามเด็กเล่นหรือสวนสาธารณะ และการจัดสรรพื้นที่ที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผู้มีรายได้น้อยก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีเฉกเช่นผู้มีรายได้สูง ด้วยการเข้าถึงบริการพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกันได้ด้วยการเดิน หรือปั่นจักรยานเหมือนกัน  ที่สำคัญคือต้องไม่ทำลายชุมชน และวัฒนธรรมของผู้อยู่อาศัยเดิมที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงพื้นที่พัฒนา แต่ต้องทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงการมีส่วนร่วม และเข้ามาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาร่วมกันได้

  • Densify (15 คะแนน)

การกำหนดพื้นที่ความหนาแน่นของประชากรอย่างเหมาะสม คือส่วนสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย TOD ไม่ใช่เพียงการกำหนดความหนาแน่นโดยรวมของประชากรในพื้นที่ แต่ต้องทำให้พื้นที่พัฒนานั้นมีความหนาแน่นอย่างเหมาะสม ระหว่างพื้นที่อยู่อาศัย กับพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่นการจัดสรรพื้นที่ทำกิจกรรมของชุมชน สวนสาธารณะ พื้นที่โล่งกว้าง เป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้หายใจ หลีกหนีจากความแออัด ลองนึกภาพดูว่าแม้จะมีทางเดิน สวนสาธารณะ และสถานีขนส่งสาธารณะที่น่าใช้งานแค่ไหนก็ตาม แต่คงไม่มีใครอยากใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความแออัด มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้คน เดินหัวไหล่ชนกัน การจัดสรรพื้นที่ต่างๆ ต้องมีความหนาแน่นที่เหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

  • Compacts (10 คะแนน)

แม้จะเป็นสเกลการพัฒนาระดับใหญ่ แต่ในการใช้งานจริงต้องมีความกระชับในการเดินทาง กล่าวคือการออกแบบเส้นทาง ต้องช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ทุกจุดรอบสถานีขนส่งสาธารณะ สามารถเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเดินทางระหว่างที่พัก ที่ทำงาน ศูนย์การค้า สวนสาธารณะ หรือจุดหมายปลายทางในย่านนั้น โดยใช้เวลาไม่นาน ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อย เช่นหากต้องการเดินทางไปร้านขายยา จะสามารถเดินถึงได้ในระยะไม่เกิน 400 เมตร เป็นต้น

  • Shift (10 คะแนน)

ข้อสุดท้ายคือการดูภาพรวมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่พัฒนา ว่าสนใจลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล แล้วหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ยิ่งประชาชนหันมาใช้การเดินเท้า ปั่นจักรยาน และระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะท้อนคุณภาพชีวิตของคนเมืองมากขึ้นเท่านั้น

หากการพัฒนาข้อ 1 – 8 ทำได้ดี ย่อมจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ว่า TOD ไม่ใช่เพียงแค่สร้างแนวคิดการพัฒนาแล้วนำไปใช้ แต่ต้องทำให้แน่ใจว่าการพัฒนานั้น สามารถพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาในพื้นที่ใหม่ หรือพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยเดิมอยู่ก่อนแล้วก็ตาม ทุกคน ทุกฝ่าย ทุกชนชั้น จะต้องได้ประโยชน์จากการพัฒนาตามแนวทางของ TOD ไปด้วยกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


แบงก์รัฐผ่อนมาตรการป้องกันโควิด ให้บริการเต็มรูปแบบ

แบงก์รัฐผ่อนมาตรการป้องกันโควิด ให้บริการเต็มรูปแบบ

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ดำเนินตามนโยบายรัฐ เตรียมปรับเวลาเปิด-ปิดสาขาใหม่ ผ่อนคลายมาตรการจำกัดคนใช้บริการ

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ออกแถลงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลาย และภาครัฐได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดนั้น สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินสมาชิก พร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว จึงได้มีแนวทางปฏิบัติสำหรับการให้บริการลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ เพื่อลดผลกระทบในการใช้บริการต่อลูกค้าประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีการดำเนินการดังต่อไปนี้

1. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการปรับเวลาเปิด-ปิดทำการสาขา ตามความเหมาะสม โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาและเวลาทำการ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสาขา เว็บไซต์ หรือติดต่อผ่าน call center ของแต่ละแห่ง

2. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการจำกัดจำนวนลูกค้าในสาขาตามความเหมาะสมแต่ยังขอความร่วมมือลูกค้าผู้ใช้บริการให้เว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย ขณะทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร

ทั้งนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐและสถาบันการเงินสมาชิก ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสาธารณสุขของลูกค้าและผู้ใช้บริการ โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และมีมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยยังคงแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม และการเดินทาง รวมถึงยังสามารถติดต่อใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ Call Center Line@ Facebook Website และ Mobile Application

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


คว้าตั๋วใบสุดท้ายสำเร็จ! วอลเลย์บอลสาวไทย ทะลุรอบ 8 ทีม ศึก เนชั่นส์ลีก 2022

คว้าตั๋วใบสุดท้ายสำเร็จ! วอลเลย์บอลสาวไทย ทะลุรอบ 8 ทีม ศึก เนชั่นส์ลีก 2022

ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ ทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2022 ได้สำเร็จ หลังจบอันดับในรอบแรกเป็นอันดับที่ 8 จากทั้งหมด 16 ทีม

โดยหลังแข่งขันครบตามโปรแกรม 12 นัด นักตบลูกยางสาวไทย สร้างผลงาน ชนะ 5 นัด แพ้ 7 มี 15 คะแนน ทำให้ต้องไปลุ้นผลการแข่งขันในคู่ของ เยอรมนี ทีมอันดับ 10 ที่มีโอกาสทำอันดับแซงไทย หากสามารถเก็บชัยในเกมสุดท้ายที่จะพบกับ สหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันในคู่ดึกปรากฎว่า เยอรมนี ตกเป็นฝ่ายแพ้ สหรัฐฯ 1-3 เซต (17-25, 13-25, 25-13 และ 22-25) ทำให้ไม่สามารถเก็บแต้มแซง “สาวไทย” ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ของตารางได้ โดยมีเเพียง 14 คะแนน และทำให้สิทธิ์การผ่านเข้ารอบสุดท้ายยังคงเป็นของ ทีมไทย เหมือนเดิม

289830581_1224401511705650_90

ซึ่งทำให้ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” สร้างประวัติศาสตร์จบการแข่งขันในรอบแรก ด้วยอันดับที่ 8 ถือว่าเป็นอันดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ลงแข่งขันมา 4 สมัย โดยก่อนหน้านี้ทำได้ดีที่สุดคือการจบอันดับที่ 12 เมื่อปี 2019

สำหรับการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะใช้ระบบแพ้คัดออกทันที โดย “สาวไทย” ในฐานะทีมอันดับ 8 จากรอบแรก จะเจอกับ ตุรกี เจ้าภาพจัดการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2022 ในครั้งนี้

โปรแกรมในรอบ 8 ทีมสุดท้าย (เล่นแบบน็อกเอาท์)
วันที่ 13 กรกฎาคม : ตุรกี พบ ไทย
วันที่ 13 กรกฎาคม : อิตาลี พบ จีน
วันที่ 14 กรกฎาคม : บราซิล พบ ญี่ปุ่น
วันที่ 14 กรกฎาคม : สหรัฐฯ พบ เซอร์เบีย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


3 สิ่งที่ควรทำหลังตื่นนอน เพื่อให้หลับง่ายในตอนกลางคืน

3 สิ่งที่ควรทำหลังตื่นนอน เพื่อให้หลับง่ายในตอนกลางคืน

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ทั้งอาการหลับยาก หรือเหนื่อยมากแต่ก็นอนไม่หลับ ศาสตราจารย์โคบายาชิ ฮิโรยูกิ ศาสตราจารย์แห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุนเทนโด ชี้ว่าสาเหตุของปัญหาเหล่านี้คือความไม่สมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ ดังนั้น เราจะมาแนะนำ 3 สิ่งที่ควรทำเพื่อให้ระบบประสาทอัตโนมัติของเราทำงานได้ดียิ่งขึ้นกัน

ข้อความบางส่วนมาจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ฮิโรยูกิ โคบายาชิ

“เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ” คือสัญญาณอันตราย

เมื่อเข้าสู่วัย 50 ปีขึ้นไป ผู้คนมักเริ่มมีปัญหาเรื่องการนอน นอนน้อยบ้าง นอนไม่ค่อยหลับบ้าง หลับไม่สบายบ้าง หรือการลุกไปเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน ก็เป็นการบ่งบอกว่ากำลังมีปัญหาการนอนเช่นกัน การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพนี้เป็นอาการที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานได้ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ” ถือเป็นสัญญาณอันตรายทางร่างกายและจิตใจ

บางคนรู้สึกว่านอนแล้วแต่ก็ยังไม่หายเหนื่อย บางคนมัวแต่กังวลถึงสิ่งที่ต้องทำในวันถัดไปจนนอนไม่หลับ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเครียดทางจิตใจจนทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ทำให้มีความผิดปกติในการนอนหลับ เกือบ 100% อาจกล่าวได้ว่าสาเหตุมาจากการที่ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานรวนอันเนื่องมาจากความเครียด

ผู้คนส่วนมากหากรู้สึกเหนื่อยก็จะอยากนอนนานๆ แต่ยิ่งนอนนานก็ไม่ได้หมายความว่าจะนอนหลับได้ดี การนอนเป็นเวลานานอาจทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติเสียสมดุลและทำให้คุณภาพการนอนแย่ลงได้ด้วย มีการสำรวจครั้งใหญ่เรื่องเวลานอนและสุขภาพในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีประชากรประมาณ 1.1 ล้านคน ผลออกมาคือ เวลานอนที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำสุดคือ 6.5-7.4 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีมีการสำรวจที่คล้ายกันนี้ในญี่ปุ่นจากชาวญี่ปุ่นประมาณ 110,000 คน พบว่าการนอนประมาณ 7 ชั่วโมงดีที่สุด นั่นหมายความว่าเวลานอนหลับที่ดีต่อสุขภาพคือประมาณ 7 ชั่วโมง แต่นี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ยในแบบสำรวจ ซึ่งเวลานอนที่เหมาะสมก็มีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกว่าได้ “หลับสนิท”

เปลี่ยนการใช้ชีวิตในช่วงเช้า

เมื่อเรารู้แล้วว่าปัญหาการนอนเกิดจากการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ หากเราแก้ไขการทำงานของระบบประสาทได้ ก็จะสามารถนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น งั้นเรามาลองทบทวนช่วงเช้าตัวเองกันก่อน ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับระบบประสาทอัตโนมัติคือตอนเช้า หากเราเปลี่ยนวิธีการใช้เวลาในช่วงเช้า ระบบประสาทอัตโนมัติจะทำงานได้ดีขึ้นไปด้วย

ขณะที่เรานอนหลับ ระบบประสาทพาราซิมพาเทติกจะทำหน้าที่หลัก แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ระบบประสาทซิมพาเทติกจะค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นมาทำหน้าที่หลักแทน หากเราตื่นขึ้นมาและใช้เวลาในช่วงเช้าอย่างเร่งรีบ จะกลายเป็นว่าเราไปกระตุ้นระบบซิมพาเทติกเร็วเกินไป ทำให้สลับการทำงานได้ไม่ดี ระบบประสาทอัตโนมัติจะเสียสมดุลตลอดทั้งวัน ทำให้เหนื่อยง่าย ขาดแรงจูงใจ ขาดสมาธิ และหงุดหงิดง่าย แต่หากเราใช้เวลาในช่วงเช้าอย่างช้าๆ เพื่อให้ระบบประสาทค่อยๆ สลับการทำงาน วันนั้นเราจะรู้สึกสดชื่น ราบรื่น สามารถใช้เวลาทั้งวันในสภาพร่างกายและจิตใจที่ดี

3 สิ่งที่ควรทำหลังตื่นนอน เพื่อให้หลับง่ายในตอนกลางคืน

ดังที่กล่าวไป หากเราใช้เวลาในช่วงเช้ากับการรีบเร่งออกจากบ้าน ร่างกายจะเพลียตลอดทั้งวัน ควรตื่นเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงหรืออย่างช้าที่สุด 30 นาที และใช้เวลาให้มากขึ้นในช่วงเช้า หากเราสามารถใช้เวลาในช่วงเช้าอย่างช้าๆ ระบบประสาทอัตโนมัติก็จะสลับการทำงานได้อย่างราบรื่น โดยมีสิ่งที่แนะนำคือ

  1. ลุกขึ้นจากที่นอนช้าๆ

แม้ว่าจะลืมตาแล้วแต่ร่างกายก็ยังหลับอยู่ครึ่งหนึ่ง หากลุกขึ้นมาทันที มันจะกระตุ้นระบบซิมพาเทติกเร็วเกินไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ลองยืดเหยียดแบบง่ายๆ หรือพยายามออกกำลังกายง่ายๆ เบาๆ ในท่านอนสักหนึ่งหรือสองนาทีก่อนจะลุกขึ้น การทำแบบนี้จะเป็นการปรับการหายใจอย่างเป็นธรรมชาติ และระบบประสาทอัตโนมัติจะค่อยๆ เปลี่ยนจากโหมดหลับเป็นโหมดตื่น

  1. อาบแสงแดดยามเช้า

เปิดประตูออกไปนอกบ้านแล้วอาบแสงแดดยามเช้า มองทิวทัศน์ภายนอกและสูดหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เพื่อส่งอากาศบริสุทธิ์ไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย การทำแบบนี้ช่วยทำให้สมองหลั่งเซโรโทนิน ซึ่งเป็น ฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยเพิ่มความรู้สึกมีความสุขและกระตุ้นให้พร้อมสำหรับชีวิตในวันนี้ ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อความเครียด ทั้งยังมีผลในการปรับสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ

ยิ่งไปกว่านั้น หากเซโรโทนินหลั่งออกมาได้ดีในตอนเช้าและยิ่งได้ใช้เวลาทั้งวันไปกับความรู้สึกที่มีความสุข เมลาโทนินหรือที่เรียกว่า ฮอร์โมนการนอนหลับ” ก็จะหลั่งออกมาในปริมาณมากและช่วยให้นอนหลับสนิทได้ในตอนกลางคืน นอกจากนี้การดื่มน้ำ 1 แก้วรวดเดียวจนหมดในตอนเช้ายังช่วยสามารถกระตุ้นลำไส้ได้อีกด้วย

  1. ฟังดนตรี

แนะนำให้เปิดเพลงฟังไปด้วยในระหว่างที่เตรียมตัวออกจากบ้าน ดนตรีช่วยให้ช่วงเวลาตอนเช้ามีความพิเศษ แต่จะแนะนำเป็นพลงที่เราไม่รู้ความหมายของเนื้อร้อง ไม่อย่างนั้นเราจะไปจดจ่อกับมัน เสียงเพลงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศตอนเช้าและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้อารมณ์ดี พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับวันใหม่

ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่นอนหลับยาก กว่าจะหลับก็ดึกดื่น สงสัยต้องทำตามคำแนะนำของศาสตราจารย์บ้างแล้ว เพื่อนๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องการนอนเหมือนกัน ลองมาแชร์วิธีแก้ไขของตัวเองกันได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


มา Recap 3 Tense ภาษาอังกฤษที่อยากให้สะกดจิตตัวเองไว้

ต้องบอกก่อนเลยว่าสาเหตุที่มา Recap เพราะว่าการเรียนภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ซ้ำและเห็นบ่อย ดังนั้นจึงอยากจะมารวบรวมข้อมูลให้เพื่อนได้เข้าใจ และกระตุ้นสมองตัวเองได้ต่อยอดและนำไปใช้กัน

เริ่มต้นด้วย Tense ที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอย่าง Present Simple Tense โดย Tense นี้จะใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือความสามารถเฉพาะตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ประโยคอุทาน เรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นจริงขณะพูด การกระทำซ้ำจนเป็นนิสัย และใช้กับคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ที่แสดงเวลาหรือเหตุการณ์ในอนาคต หรือกำหนดเวลาที่แน่นอนแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถมีคำวิเศษณ์เหล่านี้อยู่ด้วย เช่น sometimes, often, never, always เป็นต้น

Present Simple Tense

โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + V.1 (Verb ช่อง1) + O (Object)

หากคำนาม (noun) หรือประธาน (subject) เป็นเอกพจน์ กริยาช่อง1 (verb1) จะต้องเติม s หรือ es เช่น She eats rice in the morning.

หากคำนาม (noun) หรือประธาน (subject) เป็นพหูพจน์โดยรวมถึง I และ You ด้วย กริยาช่อง 1 (verb1) จะไม่ต้องเติม s หรือ es เช่น They/ I / You go to school.

ประโยคคำถาม

ใช้ verb to do/does นำหน้าประโยค
ถ้าต้องการทำเป็นคำถามที่ตอบ “Yes”, “No” ให้นำ Verb to be (is, am, are) ขึ้นต้นนำหน้าประโยค เช่น  Are you hungry? Yes, I’m so hungry.

Past Simple Tense

เป็น Tense ที่จะใช้สำหรับพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และจบลงไปแล้วซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้ทำแล้ว รวมถึงยังใช้กับเหตุการณ์ที่ทำจนเป็นนิสัยในอดีตซึ่งมักจะมีคำว่า often, always อยู่ในประโยค และมีคำบ่งบอกเวลา เช่น yesterday, at the time, last night, last week, in 2018 เป็นต้น

โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + V.2 (Verb ช่อง2) + O (Object)

เช่น They danced last night. หรือ He bought a bicycle last Saturday.

ประโยคคำถาม (ในรูปแบบบอกเล่า)

ใช้ Verb to do (did) ขึ้นต้นประโยค และเป็นกริยาแท้ในประโยคให้เป็นช่องที่ 1
เช่น Did you go to Siam Paragon yesterday? Yes, I did / No, I didn’t.
หรือ Did two kittens born last month? Yes, they did / No, they didn’t.

Future Simple Tense

เป็น Tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต ยังไม่ได้กระทำหรือเกิดขึ้นในขณะที่พูด แต่เป็นการคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมักจะมีคำวิเศษณ์บอกเล่าอยู่ด้วย เช่น tomorrow, next year, next week เป็นต้น

โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + will, shall + V.1 (Verb ช่อง1) + O (Object)

เช่น We will go to Japan next year.

หรือการใช้ be going to จะใช้กับเหตุการณ์ที่ตั้งใจจะทำและกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

S (Subject) + be going to + V.1 (Verb ช่อง1) + O (Object)

เช่น I am going to Japan next week.

จบไปแล้วกับการทบทวน Tense ที่มีการใช้งานบ่อยในชีวิตประจำวันรวมถึงเวลาทำข้อสอบ หวังว่าเพื่อนๆ ที่ได้อ่านจะนำหลักการสำคัญไปใช้ในการสร้างประโยคได้อย่างถูกต้อง หรือทำข้อสอบเกี่ยวกับเรื่อง Tense ได้คะแนนเต็มกันไปเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


นักข่าวดังเผย Apple Watch รุ่นหน้ามีระบบวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมเตือนเมื่อพบว่ามีไข้

นักข่าวดังเผย Apple Watch รุ่นหน้ามีระบบวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมเตือนเมื่อพบว่ามีไข้

Mark Gurman นักข่าวจากสำนักข่าง Bloomberg ได้ออกมาเผยข้อมูลของ Apple Watch Series 8 อีกครั้ง โดยรอบนี้ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาสำหรับคนที่ต้องการ Apple Watch Series 8 มีฟีเจอร์วัดไข้นั้นคาดว่ารุ่นนี้จะใส่เซนเซอร์ดังกล่าวมาด้วย

ในคอลัมน์ Power On ล่าสุดที่เผยว่า Apple กำลังทดสอบเซนเซอร์และฟีเจอร์ใหม่โดยสามารถที่จะทำให้ Apple Watch Series 8 จะมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ และคาดว่าจะมีการออกรุ่นเน้นความแกร่งที่สามารถลุยได้ และมีเซนเซอร์ที่คล้ายกับการทำงานของ Thermometer โดยไม่ต้องใช้มือแตะที่เครื่องวัดในสถานที่ต่างๆ และสามารถแจ้งเตือนได้ด้วย ว่าเรามีไข้หรือเปล่า

และนอกจากนี้ยังมีเรื่องของหน้าจอจะเปลี่ยนให้สว่างมากขึ้น ส่วนการเปิดตัวพบกันในปลายปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คิดจะต่อเติมครัวควรอ่าน! รวมข้อควรรู้ วัสดุและคำแนะนำต่าง ๆ ที่จะทำให้ครัวของคุณสมบูรณ์ที่สุด

“ห้องครัว” ถือเป็นหนึ่งจุดสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ภายในบ้าน เพราะไม่ใช่เป็นเพียงจุดประกอบอาหารเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่จะสร้างช่วงเวลาดี ๆ กับคนในครอบครัว การที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบครัว จะทำให้เรามีความสุขและเอนจอยกับโมเมนต์นั้น ๆ

ปัจจุบันห้องครัวแบ่งออกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ครัวใน ครัวนอก ครัวเปิด ครัวปิด ครัวไทย ครัวฝรั่ง เป็นต้น แต่หากจะทำกับข้าวหนัก ๆ ที่ส่งกลิ่นฉุน การมีครัวนอกบ้านก็นับว่าเป็นการแก้ปัญหากลิ่นอาหารลอยฟุ้งในบ้านได้อย่างดีทีเดียว

แต่หากใครที่ไม่มีครัวนอกบ้าน และต้องการจะต่อเติมนั้น ก็ต้องรู้ข้อกำหนด ข้อควรระวัง รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำให้ในอนาคตเกิดอาการทรุดตัว นอกจากจะปวดหัวกับการมานั่งแก้ปัญหาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะมีหนูหรือแมลงสาบเข้ามาในพื้นที่ครัว สร้างความน่าสยดสยองให้กับบ้านของคุณ

โดยบทความนี้จะแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย

ต้องดูพื้นที่ที่จะต่อเติม

โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะนำพื้นที่ซักล้างหลังบ้านมาต่อเติมเป็นครัว แต่เราก็ควรที่จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับซักล้างด้วย ดังนั้นจึงอาจมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ บางโครงการมีพื้นที่ซักล้างขนาดใหญ่ก็อาจจะดีหน่อย แต่หากโครงการในมีพื้นที่ให้ต่อเติมน้อย ก็อาจจะต้องออกแบบให้มีฟังก์ชันที่ครบครัน

สิ่งสำคัญสำหรับห้องครัวคือ เคาน์เตอร์ครัวสำหรับเตรียมอาหาร บางโครงการมีการบิลท์อินมาให้เป็นแนวยาว บางโครงการไม่มีให้ก็ต้องมาจัดวางกันเอง หากอยากได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มก็ต้องหาชุดครัวเข้ารูปตัวแอลที่มีตู้ทั้งด้านบนและล่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

ต้องรู้เรื่องกลิ่นและควัน

ฟังก์ชันที่ควรมีอย่างมากเลยคือที่ดูดควัน สำคัญมากหากคุณเป็นคนที่มีจิตวิญญาณของความเป็นเชฟ ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด ยังไงก็หลีกเลี่ยงเรื่องกลิ่นและควันไม่ได้อยู่ดี นอกจากจะรบกวนคนในบ้านแล้ว ยังอาจจะรบกวนเพื่อนบ้านก็เป็นได้

การต่อเติมครัวควรจะยกสูงกว่าปกติ เพื่อให้ที่ดูดควันพ้นรัศมีบ้านอื่น ๆ หากเป็นบ้านเดี่ยวก็อาจจะดีหน่อย แต่ถ้าเป็นทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ อาจต้องให้ความสำคัญกับเครื่องดูดควันสักหน่อย

ต้องระวังคราบสกปรก

นอกจากปัญหาเรื่องกลิ่นและควันแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างคือเรื่องคราบสกปรกที่จะเกาะตามผนัง ฝ้า เพดาน หรือหลังคา เพราะส่วนใหญ่จะใช้รั้วบ้านด้านหลังมาเป็นส่วนหนึ่งของผนังห้องครัว หากใครไม่อยากมีปัญหาเรื่องนี้ สามารถเลือกใช้สีหรือต่อเติมแบบปูนเปลือยไปเลย ใช้สีอะคริลิคแบบผิวมันที่ทำความสะอาดง่าย หรือใช้สีทึบ ๆ ไปเลยก็ได้

หลังคาก็อาจจะใช้กระเบื้องโปร่งแสง หรือใช้เป็นกันสาดแบบม้วนก็ได้ เพื่อให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไปในตัว การที่ได้แสงส่องเข้ามาในห้องครัวนั้นจะทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง แถมยังใช้แดดฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นได้ดีอีกด้วย

เสาเข็มและผนังเป็นสิ่งสำคัญ

บ้านโครงการในปัจจุบันจะให้เสาเข็มมาอยู่แล้ว อาจต้องสอบถามกับโครงการดู แต่หากใครไม่มั่นใจจุดนี้ แนะนำให้ตอกเสาเข็มลงไปจนถึงชั้นดินแข็งเพื่อลดการทรุดตัวของพื้นที่ที่จะต่อเติม และจะทำให้ครัวที่ต่อเติมนั้นมั่นคง แข็งแรง หากลงไม่ถึงอาจจะทำให้โครงสร้างทรุดตัวได้ง่าย

ที่สำคัญไม่ควรจะใช้เสาเข็มเดียวกับตัวบ้าน เพราะจะเสี่ยงทำให้ทั้งครัวที่เราต่อเติมและพื้นที่หลังบ้านทรุดตัวตามกัน (ในกรณีที่ลงเสาเข็มไม่ลึกพอ) การลงเสาเข็มแยกจากตัวบ้านเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด อาจต้องใช้งบประมาณสักหน่อยแต่ก็ดีกว่ามานั่งแก้ปัญหาในอนาคตซึ่งอาจใช้งบมากกว่าต่อเติมด้วยซ้ำ

ผนังก็เช่นกัน ไม่ควรใช้ร่วมกับตัวบ้านเด็ดขาด เพราะจะเป็นการไปรั้งผนังบ้าน อาจทำให้เกิดรอยร้าว รั่วซึม หากหนักมาก ๆ ก็อาจจะทรุดลงได้ พื้นที่ต่อเติมควรต่อเติมใหม่จริง ๆ เพื่อป้องกันบ้านที่เรารักมีปัญหา

คำนึงถึงข้อกฎหมาย

ควรเคร่งครัดกับ “กฎหมายต่อเติมอาคาร” เพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาที่อาจจะตามมาจากเพื่อนบ้านได้

  • ตรวจสอบการต่อเติมว่าต้องขออนุญาตหรือไม่ หากต่อเติมตั้งแต่ 5 ตารางเมตรขึ้นไป จะต้องขออนุญาตก่อสร้างก่อน แต่หากดัดแปลงขนาดพื้นที่บ้านที่มีการลดหรือการขยายเนื้อที่ของพื้นชั้นหนึ่งชั้นใดให้มีเนื้อที่น้อยลงหรือมากขึ้นรวมกันแล้วไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน รวมถึงการดัดแปลงหลังคาบ้านมีการลดหรือการขยายเนื้อที่ของหลังคาให้มีเนื้อที่มากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคานแบบนี้ไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง
  • หากเป็นทาวน์เฮ้าส์หรือทาวน์โฮมจะต้องเว้นพื้นที่ว่างด้านหลังกว้างอย่างน้อย 2 เมตร และด้านหน้าไม่น้อยกว่า 3 เมตร หากเป็นอาคารพาณิชย์จะต้องเว้นพื้นที่ว่างทางด้านหลังกว้างอย่างน้อย 3 เมตรจากแนวเขตที่ดิน
  • ผนังด้านที่เปิดประตู-หน้าต่างที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร แต่หากสูงเกิน 9 เมตร จะต้องห่าง 3 เมตรขึ้นไป
  • สำหรับผนังทึบจะต้องเว้นระยะห่างเขตที่ดินอย่างน้อย 0.50 เมตร ยกเว้นจะได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียง

ในเรื่องของกฎหมายหรือข้อกำหนดอื่น ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างสถาปนิกหรือนักออกแบบเพื่อการก่อสร้างที่ถูกต้องและปลอดภัย

พื้นครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน

พื้นห้องครัวควรจะลดระดับให้ต่ำกว่าพื้นที่บ้านประมาณ 5-10 เซนติเมตร และต้องลาดเอียงเล็กกน้อย เพื่อสะดวกในการระบายน้ำเวลาทำความสะอาดพื้นหรือล้างพื้น  

วัสดุท็อปครัว

การที่จะเลือกวัสดุท็อปครัว ขึ้นอยู่กับสีสันหรือลวดลายที่ควรเลือกมาให้เข้ากับตัวบ้าน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป

หินสังเคราะห์ Solid Surface
วัสดุยอดนิยม ผลิตมาเพื่อทดแทนหินจริง ข้อดีมากกว่าหินธรรมชาติ ทั้งความแข็งแรง ผิวหน้าที่ทนทาน สีสันที่ไม่ผิดเพี้ยนในแต่ละแผ่น ไม่มีรูพรุนจึงหมดปัญหาเรื่องความชื้น และเชื้อรา

ลามิเนต Laminate
ทำจากกระดาษเคลือบเมลานีน นำมาอัดเข้ากันหลาย ๆ ชั้น แข็งแรง มีสีสันและลวดลายให้เลือกหลากหลาย ทั้งลายธรรมชาติหรือจะเลือกสีสด ๆ ก็ทำได้ ราคาถูก ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้แทนเขียงได้เลยในบางยี่ห้อ

หินแกรนิต Granite
แข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี สวยงามตามเส้นแร่ของธรรมชาติ ทนความร้อน ทำความสะอาดง่าย แต่อาจต้องระวังเรื่องของน้ำหนัก โครงสร้างของครัวต้องแข็งแรง

ปูนเปลือย
ดิบ เท่ แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับครัวงานหนัก และยังสามารถโชว์ความเท่ของวัสดุได้อีกด้วย สามารถก่อขึ้นรูปทรงที่ต้องการได้ ป้องกันน้ำและความชื้นได้ดี แต่หากฉาบไม่ดีก็อาจแตกร้าวได้

ไม้
สวยงามตามสไตล์ ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ คลาสสิกตลอดกาล เหมาะกับครัวโชว์มากกว่า ตอบโจทย์งานดีไซน์สำหรับ Wood lover แต่ต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน กลิ่น ความชื้น เชื้อรา เหมาะกับแพนทรี หรือไอส์แลนด์มากกว่า

สเตนเลส
ที่สุดของวัสดุสำหรับครัวงานหนักที่ต้องเจอทั้งความร้อน ความชื้น ทนด่างทนกรด สารเคมีต่าง ๆ ได้ ไม่ดูดซึมน้ำ ทำความสะอาดง่าย ทนทุกสภาพการใช้งานอย่างแท้จริง แต่อาจต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน เพราะเป็นรอยง่าย เรื่องความสวยงามอาจเป็นรองวัสดุอื่น ๆ

ท็อปเคาน์เตอร์ครัวควรมีความลึกอย่างน้อย 60 เซนติเมตร และสูงจากพื้น 90 – 105 เซนติเมตร ส่วนขอบควรลบมุมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน

เทรนด์แต่งครัวกำลังมา

เลือกสไตล์ที่ใช่ ให้เข้ากับบ้าน หรือไลฟ์สไตล์ของคุณ BuilderNews ขอแนะนำการแต่งครัวที่กำลังมาอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้อาจจะเลือกใช้เพียงบางส่วนก็ได้ ครัวโดนใจยังไงก็มีแต่ความสุข

ดำล้วน
สีสุดคลาสสิก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงดูดีอยู่ แต่ต้องแต่งให้ดูเรียบ ๆ เลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสีคนละโทน อาจใส่ความเป็นสเตนเลสได้ หินอ่อน หรือไม้ ก็ดูหรูหรา ดุดันเหมือนกัน

ตู้หน้าบานกระจก
เหมาะกับบ้านที่มีจานชามลวดลายสวย ๆ ไว้รับแขก ไว้โชว์แขกได้ เก็บจานได้แล้วยังเป็นตู้โชว์ในตัว นอกจากนี้ยังทำให้ครัวของคุณโปร่ง โล่งตา ดูไม่อึดอัด ทึบตันแน่นอน

คู่สี Two Tone
การดึงคู่สีเด่น ๆ มาใช้จะทำให้ห้องครัวของคุณ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป จะเป็นสีสันสดใสพาสเทลไปเลยก็ได้ หรือหากหลุดโทนจากบ้านไปนัก ก็ลองใช้วัสดุหลัก 2 ชนิดก็ได้ เช่นไม้กับปูน, ขาวกับดำ, เขียวกับหินอ่อน สนุกแน่นอน

และนี้คือข้อควรรู้หลัก ๆ ของการออกแบบครัว หากคุณอยากใช้พลังในการออกแบบเองก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ หากคุณไม่มั่นใจว่าออกแบบมาสวยหรือไม่ เราขอแนะนำให้ลองปรึกษากับสถาปนิกหรือนักออกแบบดีกว่า เขาจะแนะนำได้ดีที่สุด หากไม่ชอบตรงไหนก็ปรับแก้ได้ ขอให้สนุกกับการออกแบบ!

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 4/07/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a30,450.0030,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,972.0029,895.5231,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,774.8026,905.97n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,577.6023,916.42n/a
ทองรูปพรรณ 50%887.0013,446.92n/a
ทองรูปพรรณ 40%690.0010,460.40n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,044.0030,987.04n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 4/06/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9544.5544.5545.4545.1545.4544.5544.5544.5545.1544.55
แก๊สโซฮอล์ 9144.2844.2845.1844.8845.1844.2844.2844.2844.8844.28
แก๊สโซฮอล์ E2043.4443.4444.3444.0444.3443.4443.4444.0443.44
แก๊สโซฮอล์ E8537.1437.1437.14
เบนซิน 9551.9653.3152.4652.7651.96
ดีเซล B734.9434.9435.2434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.2434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.2434.9434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม46.3649.3651.6950.5650.5946.36
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า