คอนโดฯมือสองมาแรง !ดัน ยอดขาย – ขอสินเชื่อ NPA ทะลุ 5,400 ล้าน
สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เผยยอดขายและยอดขอสินเชื่อ จากงาน “Home-Loan-NPA Grand Sale 2022” ทะลุ 5,400 ล้านบาท รับเทรนด์คอนโดมือสองกลับแรง หลังราคาน้ำมันพุ่ง ขณะบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านดีมานด์ยังแรง
4 สิงหาคม 2565- นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานกรรมการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผย ถึงยอดขายทรัพย์ NPA บ้าน – คอนโดมือสอง ภายในงาน “Home-Loan-NPA Grand Sale 2022” ที่เพิ่งปิดฉากไป ว่า ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขาย NPA รวม 1,000 ล้านบาท และยอดขอสินเชื่อภายในงานรวม 800 ล้านบาท
“คาดว่าจะมียอดขายจากลูกค้าที่เข้าชมงานทั้ง Online และ Onsite และตัดสินใจในภายหลังรวมแล้วไม่น้อยกว่า 3,215 ล้านบาท และมียอดขอสินเชื่อรวม 2,262 ล้านบาท หรือรวมกันกว่า 5,400 ล้านบาท
- ดอกเบี้ย-มาตรการกระตุ้นอสังหาฯดันยอดขาย
เนื่องจากยังมีปัจจัยที่จะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้น มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ที่จะช่วยลดภาระให้ผู้ซื้อได้ล้านละเกือบ 3 หมื่นบาท และราคา NPA ที่ถูกกว่าบ้านใหม่ 20-30% เป็นต้น”
นายกิตติ กล่าวอีกว่า การจัดงานในปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานแบบ Hybrid ทั้งการจัดงาน Online ผ่านเว็บไซต์ในรูปแบบ 3D Virtual Exhibition และงาน Onsite ภาพรวมของการจัดงานถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองที่เป็น NPA อยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นการจัดงานในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อเริ่มคลี่คลาย โดยมีผู้เข้าชมงาน Onsite รวม 6,318 คน และผู้เข้าชมงานผ่านระบบ Online จำนวน 27,000 คน
- คอนโดมิเนียมมือ2มาแรง
ขณะที่นายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ระบุว่า สำหรับที่อยู่อาศัยที่ผู้เข้าชมงาน ให้ความสนใจ ได้แก่ คอนโดมิเนียม 33.7% บ้านเดี่ยว 28.2% ทาวน์โฮม 25.8% และบ้านแฝด 12.3% จะสังเกตได้ว่า คอนโดมิเนียมเริ่มกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้งหลังจากราคาพลังงานยังปรับตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมก็ยังเป็นที่ต้องการ ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการพื้นที่ใช้สอยในบ้านที่เพิ่มขึ้น ที่อยู่อาศัยแนวราบจึงมีความที่ต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
- บ้านราคา 1-2 ล้านบาท ขายดีสุด
ในส่วนของระดับราคาบ้านที่สนใจ พบว่า ที่อยู่อาศัยในราคา 1-2 ล้านบาท ได้รับความสนใจมากที่สุดคิดเป็น 32% อันดับ 2 เป็นที่อยู่อาศัยราคา 2-3 ล้านบาทคิดเป็น 22% และอันดับ 3 เป็นที่อยู่อาศัยราคา 3-5 ล้านบาทคิดเป็น 18% ส่วนที่อยู่อาศัยราคา 5-7 ล้านบาทมีสัดส่วน 10% และที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทมีสัดส่วน 9% เป็นที่สังเกตว่าที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังเป็นตลาดใหญ่ที่มีสัดส่วนสูงถึง 63%
ขณะที่ความสนใจที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 41% สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ระบุว่า บ้านมือสองในระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทมีความต้องการซื้อมากที่สุด เพราะเป็นระดับราคาที่บ้านใหม่มีซัพพลายอยู่น้อยมากจากต้นทุนที่ดินและต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น บ้านมือสองจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“แอลฟา”ผนึกยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่น ปักหมุดคลังสินค้าครั้งแรกในไทย
“แอลฟา”ขานรับแผน Origin Multiverse ตามโรดแมป 5 ปี ขยายพื้นที่โรงงาน-คลังสินค้าตามเป้า 1 ล้าน ตร.ม. ผนึกกำลัง “โตคิว แลนด์ เอเชีย” พันธมิตรยักษ์ใหญ่อสังหาฯญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาคลังสินค้าครั้งแรกในไทย ปักหมุด บางนา กม.19 – รังสิต รวมพื้นที่เช่ากว่า 136,500 ตร.ม.
นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท ดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า
จากแผน Origin Multiverse หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล ให้บริษัทในเครือแยกกันดำเนินธุรกิจ สร้างการเติบโตแบบคู่ขนานกับบริษัทแม่ เพื่อจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2568 บริษัทจึงเร่งเดินหน้าตามแผนสร้างการเติบโตระยะ 5 ปี ตั้งเป้าขยายการบริหารพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ามากกว่า 1 ล้าน ตร.ม. พร้อมมีมูลค่า REIT Value ระดับ 12,000 ล้านบาท ภายในปี 2568
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนกันพัฒนาโครงการคลังสินค้าจำนวน 2 โครงการภายใต้ชื่อ แอลฟา บางนา กม.19 (ALPHA Bangna KM.19) และแอลฟา รังสิต (ALPHA Rungsit) ประเมินเป็นมูลค่า REIT ประมาณ 2,850 ล้านบาท
สำหรับทำเลที่ตั้งโครงการทั้ง 2 แห่ง ถือเป็นทำเลคลัสเตอร์อุตสาหกรรมระดับยุทธศาสตร์ที่มีความต้องการคลังสินค้าสูงเป็นอันดับต้นๆ และยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อประกอบกับจุดแกร่งของเราในการพัฒนาคลังสินค้าที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานระดับสากล
ส่งผลให้เราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดีในทุกเซ็กเตอร์ ขณะเดียวกัน การได้รับความไว้วางใจร่วมทุนจากพันธมิตรรายใหญ่อย่างโตคิว แลนด์ เอเชีย น่าจะสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อแอลฟาและการเติบโตของธุรกิจคลังสินค้าในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี นายปธานกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่นที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน 68 ปี ภายใต้การดำเนินธุรกิจของโตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี Nikkei 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินช่วง มี.ค.65 ของญี่ปุ่น ประมาณ 2,634,000 ล้านเยน
ด้านนายฮิเดทาสึ อิเคดะ ประธานกรรมการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มีศักยภาพพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน ส่งผลให้บริษัทพิจารณาพันธมิตรที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือในธุรกิจคลังสินค้ามาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่บริษัทเคยร่วมทุนด้วยในธุรกิจอื่น และความแข็งแกร่งของเจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ในด้านโลจิสติกส์โซลูชั่น ส่งผลให้บริษัทมั่นใจในการร่วมทุนธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าในประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับทางแอลฟา และเดินหน้าบุกถึง 2 โครงการในทำเลที่เป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรม
สำหรับโครงการแอลฟา บางนา กม.19 (ALPHA Bangna KM.19) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 80 ไร่ บน ถ.เลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ เป็นโครงการคลังสินค้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่รวม 125,920ตร.ม. พื้นที่ให้เช่า 80,192 ตร.ม. เริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส 3/2565 และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2566
ขณะที่โครงการแอลฟา รังสิต (ALPHA Rungsit) มีพื้นที่ขนาด 54 ไร่ ตั้งอยู่บน ถ.พหลโยธิน รังสิต คลอง 1 มีพื้นที่รวมประมาณ 87,145 ตร.ม. เป็นพื้นที่ให้เช่าประมาณ 56,314 ตร.ม. ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วในไตรมาส 3/2565 และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2566
โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่สามารถรองรับความต้องการด้านคลังสินค้าได้หลากอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อีคอมเมิร์ซ ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการด้านโลจิสติกส์
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้านำทั้ง 2 โครงการเข้าจดทะเบียนเสนอขายแก่นักลงทุนในรูปแบบทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ภายในไตรมาส 4/2566
บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) มุ่งดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.อสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Property)
อาทิ คลังสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ สวนอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Order Fulfillment) 2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนเมือง (Urbanized Property) อาทิ บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) ในคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร บริการคลังสินค้าออนไลน์ย่อย (Micro-fulfillment Center) 3.การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Services) อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มการบำบัดน้ำเสีย กลุ่มก่อสร้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตลาดหุ้นวันนี้: ดาวโจนส์ปิดบวก หลังผลประกอบการออกมาดี
Investing.com — ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันพุธ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด และผลประกอบการรายไตรมาสที่เป็นบวกส่วนใหญ่ได้กระตุ้นการลงทุนหุ้นให้กลับมาเป็นตลาดกระทิง
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.3% หรือ 416 จุด Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.6% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.5%
หุ้นผู้บริโภคเป็นหุ้นที่ทำกำไรได้มากที่สุดในวันนี้ นำโดยหุ้นค้าปลีกและการท่องเที่ยวที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนได้วิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการบริการของสหรัฐฯ ดีขึ้น และเป็นสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังคลี่คลาย
ISM ภาคบริการ เพิ่มขึ้นเป็น 56.7 ในเดือนกรกฎาคมจาก 55.3 ในเดือนก่อนหน้า เหนือกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ที่ 53.5
นอกเหนือจากตัวเลขในพาดหัวข่าว ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าดัชนี ดัชนีราคานอกภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ลดลงเหลือ 72.3 จาก 80.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021Jefferies กล่าวซึ่งระบุว่า “อัตราการเพิ่มขึ้นลดลง .“
เรือสำราญ Royal Caribbean Cruises (NYSE:RCL), Bath & Body Works (NYSE:BBWI), Ross Stores (NASDAQ:ROST) และ Starbucks Corporation (NASDAQ: SBUX) นำการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นในหุ้นผู้บริโภค โดยหลังกระโดดมากกว่า 4% ตามผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าประมาณการของวอลล์สตรีท
Starbucks รายงานผลกำไรต่อหุ้นดีกว่าคาดที่ 0.84 ดอลลาร์ใน ไตรมาสที่สอง เนื่องจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐฯ ช่วยชดเชยผลกระทบของการปิดเมืองในจีน
Under Armour (NYSE:UAA) ปรับลดคำแนะนำรายได้ทั้งปี แต่รายงานรายรับรายไตรมาส และรายได้ที่สูงกว่าประมาณการของ Wall Street โดยส่งหุ้นเพิ่ม สูงกว่า 1%
เทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็มีบทบาทในการหนุนตลาดเช่นกัน จากการไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร
Google-parent Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่ Facebook (NASDAQ:FB) เพิ่มขึ้นประมาณ 5% และ Apple (NASDAQ:AAPL) ปิดสูงขึ้นเกือบ 4%
หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ทรงตัวหลังจากร่วงลง 1% ใน Advanced Micro Devices (NASDAQ:AMD) เนื่องจากรายงาน รายไตรมาสที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการ
PayPal (NASDAQ:PYPL) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรสูงสุดในวันนี้ โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 9% หลังจาก รายงานผลออกมาดีกว่าคาด และประกาศหุ้นมูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์ โปรแกรมซื้อหุ้นคืน
ยักษ์ใหญ่ด้าน Fintech ยังกล่าวอีกว่า Elliott Investment Management ได้ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ในบริษัท เนื่องจากผู้ถือหุ้นพยายามสนับสนุนให้ PayPal สำรวจแผนการคืนทุนให้กับผู้ถือหุ้น
ด้านสาธารณสุข Moderna (NASDAQ:MRNA) พุ่งขึ้นเกือบ 16% หลังจากทำผลงานได้ดีเกินคาดรายงานในไตรมาสที่สองได้รับแรงหนุนจากโควิด-19 การขายวัคซีนและเปิดเผยแผนการซื้อหุ้นคืน 3 พันล้านดอลลาร์
Gilead Sciences (NASDAQ:GILD) ในขณะเดียวกันก็ รายงานสูงกว่าที่วอลสตรีทประมาณการ และคาดการณ์ว่าปีหน้าจะแข็งแกร่งกว่าที่คาด โดยส่งหุ้นของบริษัทสูงขึ้นกว่า 4%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงในวงกว้าง เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงตามการพุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิดของ น้ำมันดิบสหรัฐฯคงคลังรายสัปดาห์ และการตัดสินใจจากผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่จะเพิ่มการผลิตขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรลต่อวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก th.investing.com
ยังดีไม่พอ! “บิว ภูริพล” ไม่ผ่านตัดตัววิ่ง 200 เมตร กรีฑาชิงแชมป์โลก ยู-20
การแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย ช่วงค่ำตามเวลาท้องถิ่น สองนักกรีฑาดาวรุ่งทีมชาติไทยอย่าง ภูริพล บุญสอน กับ ธวัชชัย หีมเอียด กลับมาลงสนามแข่งอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศประเภท 200 เมตร
เดิมทีรอบรองชนะเลิศ 200 เมตร แข่งในช่วงบ่าย ทว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักจนต้องดีเลย์ออกไป กระทั่งฝนหยุดจึงกลับมาแข่งต่อได้ในช่วงเย็น โดย Heat แรกเป็นหน้าที่ของ ธวัชชัย หีมเอียด ลงสนามในลู่ 1 ก่อนโชว์ฟอร์มทำเวลา 21.86 วินาที เข้าอันดับ 8 ลำดับสุดท้าย ไม่ผ่านเข้ารอบ
ส่วน Heat 3 เป็นคิวของ ภูริพล บุญสอน ประจำการในลู่ 4 ก่อนออกตัวสับสปีดทำเวลาได้ 20.61 วินาที จบที่อันดับ 4 ทว่าสถิตินี้ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าตัวผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จึงพลาดโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลรุ่นนี้แบบน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม “เจ้าบิว” ภูริพล และผองเพื่อนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ยังมีโปรแกรมลงแข่งขันอีกครั้งในประเภทวิ่งผลัด 4×100 เมตร รอบคัดเลือก ในวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม เวลา 03.25น. ตามเวลาเมืองไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
นอนน้อย นอนไม่หลับ เสี่ยง “หัวใจโต”
นอนน้อย นอนไม่หลับ เสี่ยงอันตรายไปถึงโรคที่เกี่ยวกับหัวใจอย่างโรคหัวใจโตได้ด้วย
ระยะเวลาการนอนที่ดีและเหมาะสมที่สุดคือต้องนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมง และเป็นการนอนที่เพียงพอ ควรรู้สึกสดชื่นหลังจากตื่นนอน หลับสนิท ไม่หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน แต่กิจวัตรประจำวันของบางคนอาจทำให้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการนอนเท่าที่ควร และคิดว่าการนอนน้อยหรือนอนดึกไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดยอาจไม่ทราบว่าการนอนน้อยหรือมากเกินไปนั้น อาจส่งผลโดยตรงกับหัวใจ ซึ่งอันตรายถึงชีวิตหากไม่รีบตรวจเช็กหัวใจและปรับพฤติกรรมการนอนโดยเร็ว
ทำไม นอนน้อย ถึงส่งผลต่อหัวใจ
นพ. อนุสิทธิ์ ทัฬหสิริเวทย์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า National Library of Medicine ได้ระบุว่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา จำนวนชั่วโมงการนอนหลับโดยเฉลี่ยสั้นลง 1.5 – 2 ชั่วโมงต่อคนและในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาระยะเวลาการนอนหลับในวัยทำงานลดลง 37 นาที ซึ่งการนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันส่งผลเสียต่อร่างกาย สมองลดการหลั่งเมลาโทนิน กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติมากเกินไป ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีความดันโลหิตสูง และเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน นำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจโตในที่สุด
นอนดึก ตื่นสาย ก็เสี่ยงโรคหัวใจ
สำหรับผู้ที่นอนมากกว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนอนดึก ตื่นสาย คือนอนหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ มีงานวิจัยจาก JAMA Internal Medicine ระบุว่า การนอน 9 ชั่วโมงขึ้นไปต่อคืน เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้ 38% และหากนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท หรือนอนหลับไม่ลึกย่อมทำให้ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซมอย่างเต็มที่
มีข้อมูลจาก American Heart Association ระบุว่า การนอนไม่หลับ นอนหลับไม่ลึก นอนหลับไม่สนิท กระตุ้นความดันโลหิตกับชีพจรให้ทำงานหนักขึ้น กระตุ้นไขมันและน้ำตาลให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย การทำงานของหัวใจลดลง เส้นเลือดเสื่อมเร็ว ส่งผลกับหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง เกิดความดันโลหิตสูงมากกว่าคนนอนปกติถึง 2 เท่า
นอนอย่างไร ให้ดีต่อหัวใจ
การนอนให้ดีต่อหัวใจต้องสร้างสุขนิสัยการนอนที่ดี เช่น
- นอนวันละ 7-8 ชั่วโมง
- กำหนดเวลาเข้านอนให้คงที่ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือวันทำงาน ไม่ต่างกันเกินกว่า 1 ชั่วโมง เช่น ในวันทำงานเข้านอน 4 ทุ่ม ตื่นนอน 6 โมงเช้า ในวันหยุดอาจเข้านอน 5 ทุ่ม ตื่นนอน 7 โมงเช้า เป็นต้น
- ห้องนอนต้องมืด เงียบ และเย็น
- ไม่ควรมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์
- ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ต้องไม่ออกกำลังกายหนักและนานเกินไป เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้ และไม่ควรออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
- จัดการความเครียดและความวิตกกังวล เพราะส่งผลให้นอนไม่หลับได้ อาจทำสมาธิ ฟังเพลงเพื่อผ่อนคลาย
- หากมีปัญหาการนอนอย่างนอนกรน นอนหลับไม่สนิท หยุดหายใจขณะหลับ ควรรีบพบแพทย์ทันที
เช็กพฤติกรรมการนอนที่มีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจ
การตรวจเช็กพฤติกรรมการนอนที่มีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจนั้น แพทย์จะทำการซักประวัติอย่างละเอียด ทั้งเวลาเข้านอน เวลาตื่นนอน กิจกรรมก่อนเข้านอน ระยะเวลาในการทำกิจกรรมก่อนเข้านอน ขณะนอนหลับมีการตื่นกลางดึก กรน หรือขยับขาหรือไม่ เมื่อตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่น สมองไม่ปลอดโปร่งหรือไม่ เป็นต้น
จากนั้นจะส่งตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อประเมินคุณภาพการนอน ลักษณะคลื่นสมอง และปริมาณออกซิเจนในร่างกาย ทั้งยังสามารถนำข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะนอนหลับมาประเมินภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะขณะนอนหลับได้ ซึ่งมักสัมพันธ์กับอาการผิดปกติของหัวใจ และอาจตรวจหัวใจเพิ่มเติมตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางหัวใจ ได้แก่ ตรวจสมรรถภาพของหัวใจ (EST – Exercise Stress Test) การตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG – Eletrocardiogram) เป็นต้น
ซึ่งปัญหาการนอนที่พบแพทย์จะรักษาตามอาการเป็นสำคัญ เช่น นอนน้อยต้องสร้างสุขนิสัยการนอนใหม่ นอนมากไป นอนไม่หลับ หรือนอนกรนต้องตรวจเช็กการนอนเพิ่มเติมแล้วรักษาตามสาเหตุ รวมถึงการทำแบบคัดกรองตามที่แพทย์แนะนำ นอกจากนี้ การนอนน้อยเกินไป ยังส่งผลต่อการรับประทานอาหาร เพราะผู้ที่นอนน้อยมักเลือกอาหารให้พลังงานสูงและขาดความสมดุล ทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานตามมาได้
มีข้อมูลงานวิจัยจาก PLOS ระบุว่าผู้ที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวันมีแนวโน้มน้ำหนักเกินมากกว่าผู้ที่นอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน
การนอนน้อย และนอนดึกนั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรหันมาใส่ใจเรื่องการนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดี เพราะหากนอนไม่ดีนอกจากส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ยังส่งผลเสียกับหัวใจ ควรปรับพฤติกรรมการนอนตั้งแต่วันนี้ หมั่นสังเกตตัวเอง และตรวจเช็กสุขภาพหัวใจตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อจะได้มีสุขภาพการนอนที่ดีและมีหัวใจที่แข็งแรง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำศัพท์และสำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความตาย
ถ้าพูดถึงความตาย ก็คงไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับแอดแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ เพราะความตายหรือการจากลา ได้ยินแล้วก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาเลย แต่ไม่ต้องห่วงไปนะ เพราะแอดจะแบ่งปันคำศัพท์และสำนวนเกี่ยวความตาย ในบรรยากาศที่อ่านแล้วสนุก ไม่รู้สึกเศร้าใจแน่นอนค่า เพราะแอดจะแชร์วิธีการจำฉบับของแอดเอง อาจมีผิดถูกไม่เข้าตามทฤษฎีบ้าง แต่รับรองว่าวิธีของแอดจะสามารถช่วยทำให้เห็นภาพง่ายขึ้นแน่นอน
At peace
ตาย (เป็นการกล่าวว่าใครตายแล้วอย่างสุภาพและอ่อนโยนขึ้น)
Be as dead as a doornail
ตายอย่างสนิท, ตายอย่างไม่ต้องสงสัย ( doornail หมายถึงตะปูที่ใช้ตรึงประตูหรือถ้าเป็นของก็คือเสียชนิดที่ซ่อมไม่ได้)
Be on your deathbed
กำลังจะตาย
Death (n.)
การตาย
Depart this life
ตายจากไปแล้ว
Die (v.)
ตาย
Dropping like flies
ล้มตายจำนวนมาก (ตรงนี้แสดงถึงการตายในจำนวนเยอะมาก จนเหมือนฝูงแมลง)
Extinction (n.)
การสูญพันธุ์
Gone to glory
ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว, จากไปแล้ว, ตาย (คำว่า glory แสดงถึงความงดงาม หรือแนวสวรรค์)
Food for worms/worm food
ตายและถูกฝังไปแล้ว (แปลตามตรงคือตายจนกลายเป็นอาหารของหนอนไปแล้ว)
Let nature take its course
ปล่อย/ยอมให้ (บางคน) ได้ตายอย่างธรรมชาติ
(ถ้าจะยื้อก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปตลอดหรือไม่งั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า)
Mortality (n.)
อัตราการตาย
Six feet under
ตายและถูกฝังไปแล้ว (ลึกลงไป 6 ฟุต เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าอยู่ในดินแล้ว เท่ากับถูกฝัง)
Stone-dead
ตาย (แข็งจนกลายเป็นหินแล้ว)
To be on one’s last legs
เข้าใกล้ความตายมากแล้ว (เหมือนกับเหลือขาข้างเดียว ไม่มั่นคงมากพอ)
To have one foot in the grave
ไม้ใกล้ฝัง สภาวะที่ใกล้ตาย (มีอายุมากหรือป่วยหนักมาก จวนจะไม่ไหวเหมือนกับมีเท้าหนึ่งข้างก้าวเข้าไปในสุสานแล้ว)
To kick the bucket
ตาย
(สมัยก่อนจะมีการแขวนสัตว์ไว้แล้วให้ยืนบนถัง พอถึงเวลาก็เตะถังออก ถือเป็นคำไม่สุภาพ ห้ามใช้เพื่อพูดกับผู้อื่น)
Wiped out
กวาดล้าง, สูญพันธุ์ (จริงๆคำนี้เราน่าจะคุ้นกับที่แปลว่า เช็ดถู อันนี้ก็เหมือนกัย เช็ดถูออกไปจนหมด ไม่เหลืออะไรเลย)
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
หนุ่มชาวออสเตรเลียถูกจับข้อหาพัฒนาและขายไวรัสมาตั้งแต่อายุ 15 ปี
เจค็อบ เวห์น จอห์น คีน (Jacob Wayne John Keen) ชายชาวออสเตรเลียในวัย 24 ปี ถูกจับในข้อหาพัฒนาและขายไวรัส Trojan ที่ชื่อ Imminent Monitor ให้กับบรรดาอาชญากรไซเบอร์ในมากกว่า 128 ประเทศ มาตั้งแต่อายุ 15 ปี
Imminent Monitor มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ของเหยื่อจากระยะไกลเพื่อสอดแนมเหยื่อทางกล้องและไมโครโฟนที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ของเหยื่อ จารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เปิดไฟล์เอกสาร และติดตามตัวเหยื่อ
ไวรัสที่คีนพัฒนาขึ้นนี้ ถูกนำไปใช้ในการสอดแนมเหยื่อเรือนหมื่นรายทั่วโลก ผู้ซื้อมากกว่า 200 รายอยู่ในออสเตรเลีย ในจำนวนนี้ เป็นผู้มีประวัติในการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว หลักฐานยังชี้ให้เห็นด้วยว่าเงินที่ได้จากการใช้ Imminent Monitor ส่วนใหญ่ถูกนำไปซื้ออาหารแบบกลับบ้าน
คีนทำเงินได้มากถึง 300,000 เหรียญ (ราว 10.8 ล้านบาท) โดยจากข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ คีนเริ่มขาย Imminent Monitor มาตั้งแต่อายุ 15 ให้แก่ผู้ใช้รายละ 35 เหรียญ (ราว 1,260 บาท) ในขณะอาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับมารดา ก่อนจะยุติการให้บริการลงในปี 2019 หลังจากที่สำนักงานตำรวจออสเตรเลีย (AFP) เข้าตรวจยึดฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการพัฒนา Trojan
สำหรับการจับกุมตัวคีน เกิดจากการที่ AFP ร่วมกับสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) และ Palo Alto Networks รวมถึงหน่วยบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก ในการปฏิบัติการล่อซื้อในชื่อ Operation Cephus ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2017
ผลก็คือคีนมีความผิดใน 6 ข้อหาและต้องขึ้นศาลภายในเดือนสิงหาคมนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แม่ของคีนก็มีความผิดในฐานะที่มีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์การกระทำผิดของบุตรชายด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 อาหาร “ไขมันดี” ช่วยลดคอเลสเตอรอล-ลดเสี่ยงโรคร้าย
ไขมัน ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหรือไม่ดีต่อร่างกายเสมอไป เพราะร่างกายก็ต้องการไขมันดี หรือที่เรียกว่า คอเลสเตอรอลชนิดดี หรือไขมันชนิดเอชดีแอล (HDL) ในการลำเลียงกรดไขมันและคอเลสเตอรอลไปที่ตับ เพื่อทำลายและขับออกทางน้ำดี การทราบว่า ไขมันดีมีอะไรบ้าง อาจช่วยให้เลือกรับประทานอาหารได้เหมาะสมจนส่งผลให้ร่างกายได้รับไขมันดีเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น ป้องกันไขมันชนิดเลวสะสมในหลอดเลือดแดงจนทำให้เส้นเลือดอุดตัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ไขมันดี คืออะไร
ไขมันดี หรือคอเลสเตอรอลชนิดดี หรือไขมันชนิดเอชดีแอล (High Density Lipoprotein หรือ HDL) เป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากช่วยในการการกำจัดไขมันเลว หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี หรือที่เรียกว่าไขมันแอลดีแอล (Low Density Lipoprotein หรือ LDL) ทั้งยังช่วยลำเลียงคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์จากหลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่อไปยังตับ เพื่อทำลายและขับออกทางน้ำดี ป้องกันคอเลสเตอรอลหรือไขมันสะสมก่อให้เกิดโรค
โดยทั่วไป ระดับไขมันดีในผู้ชายอายุ 20 ปีขึ้นไปควรมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไปควรมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือหากมากกว่า 60 มิลลิกรัม/เดซิลิตรนั้นยิ่งเป็นผลดีต่อร่างกาย ทั้งนี้ หากมีไขมันดีในร่างกายต่ำกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเส้นเลือดในอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ตีบตัน จนนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง
ประโยชน์ของไขมันดี
ไขมันดีนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากตับ และอาจมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น มีหน้าที่ในการช่วยขจัดคอเลสเตอรอลหรือไขมันเลวที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือด จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตาม การใข้ยาบางชนิด เช่น ยาเบต้าบล็อกเกอร์ที่ใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepines) ที่ใช้ในการรักษาโรคนอนไม่หลับและอาการวิตกกังวล รวมถึงการเป็นโรคเบาหวาน ก็อาจส่งผลให้ระดับไขมันดีในเลือดต่ำเกินไป และส่งผลเสียต่อการควบคุมไขมันในเลือดได้
อาหารที่มีไขมันดีมีอะไรบ้าง
อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดีอาจมีดังนี้
- น้ำมันมะกอก อาจช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดีและลดการอักเสบในร่างกายที่เกิดจากไขมันชนิดไม่ดี เนื่องจากในน้ำมันมะกอกมีโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่อาจช่วยเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับอิทธิพลของสารโพลีฟีนอลในน้ำมันมะกอกต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine ของประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2549 ซึ่งให้อาสาสมัครผู้ชายสุขภาพดี 200 คน รับประทานน้ำมันมะกอกที่มีสารประกอบฟีนอลิค (Phenolic) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกในระดับสูง กลาง ต่ำ พบว่าระดับไขมันเลวของผู้เข้าร่วมการทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
- ธัญพืช ธัญพืชที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ซีเรียล ขนมปังโฮลเกรน อุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งอาจช่วยลดไขมันไม่ดีในร่างกายได้
- ปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน เป็นปลาทะเลน้ำลึกที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งอาจช่วยลดไขมันเลวและเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย
- อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีโฟเลต (Folate) กรดโอเลอิก (Oleic Acid) และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งอาจเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ รวมถึงมีเบต้า-ซิโตสเตอรอล (Beta-Sitosterol) ที่อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
- ถั่วเหลือง มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) เลซิติน (Lecithin) ซาโปนิน (Saponins) ทั้งยังมีไฟเบอร์และโปรตีนจากถั่วเหลืองที่อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาที/วัน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายก็อาจช่วยลดไขมันเลวในร่างกายได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/08/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,200.00 | 30,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,956.00 | 29,652.96 | 30,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,760.40 | 26,687.66 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,564.80 | 23,722.37 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 880.00 | 13,340.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 685.00 | 10,384.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,027.00 | 30,729.32 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/08/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 | 38.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 | 37.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 37.14 | 37.14 | 37.14 | 37.14 | 37.14 | – | 37.14 | 37.14 | 37.14 | 37.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.74 | 33.74 | – | – | – | – | – | – | – | 33.74 |
เบนซิน 95 | 45.66 | – | – | – | 46.11 | – | 46.16 | 46.16 | – | 45.66 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 47.16 | 47.16 | 47.16 | 47.16 | 47.16 | – | – | – | – | 47.16 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |