‘วิกฤติ’ เมืองในอนาคต อยู่ยาก – ลำบาก – เครียด – PM2.5 พุ่ง 5 เท่า
เปิดฉากทัศน์ วิกฤตเมืองในอนาคต อยู่ยาก-ลำบาก-เครียด นักวิจัย คาดปี 2050 ฝุ่น PM2.5 เพิ่ม 5 เท่าและ CO2 พุ่ง 8 เท่า บวกภัยแล้งและน้ำทะเลหนุน กระทบผู้คนทั่วโลก นับถอยหลัง เมืองในโดมฟอกอากาศ โลกใหม่แห่งความเหลื่อมล้ำ
5 ก.ย.2565 – ศูนย์วิจัย ชี้สภาพภูมิอากาศและมลภาวะของเมืองในปัจจุบัน รวมถึงแนวโน้มในอนาคตชี้ไปในทิศทางที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผย 2 ฉากทัศน์จำลองเมืองกรุงเทพฯ ในปี 2050 เป็น 2 รูปแบบ คือ เมืองในโดมฟอกอากาศที่มีความเหลื่อมล้ำของชีวิตความเป็นอยู่แบบสุดขั้ว และการโยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ของสังคมมนุษย์ที่ยากจะหลีกเลี่ยง
ข้อมูล ในงานเสวนา “MQDC Sustainnovation Forum 2022 เมืองเปลี่ยน คนต้องปรับ รับมือวิกฤตอย่างไร” ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังของ 4 องค์กรสำคัญด้านการพัฒนาเมืองทั้ง FutureTales Lab, RISC, Creative Lab และ Unisus-EEC ซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เปิดเผยข้อมูลงานวิจัยของสภาพเมืองแห่งอนาคตที่มีแนวโน้มน่าเป็นห่วง พร้อมระดมแนวคิดและโซลูชันจากทีมนักวิจัย นักวิชาการ สถาปนิก วิศวกร และนวัตกร ในการรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครฯ ในฐานะ Resilient City ไปสู่ทิศทางที่เหมาะสมและยั่งยืนมากที่สุด
ฉากทัศน์เมืองอันไม่พึงประสงค์
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ (FutureTales Lab) ซึ่งทำหน้าที่ศึกษาวิจัย คาดการณ์อนาคตและแนวโน้มการอยู่อาศัยในสังคมเมือง ได้นำเสนอการคาดการณ์อนาคตของเมืองปี 2050 โดยพิจารณาจากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก อัตราการใช้พลังงาน และพฤติกรรมของผู้คน พบว่าโลกในอนาคตจะเต็มไปด้วยมลภาวะที่ทำให้การอยู่อาศัยของมนุษย์กลายเป็นเรื่องที่ยากกว่าในปัจจุบันอย่างเทียบไม่ติด
โดยอุณหภูมิทุกแห่งจะสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมากกว่า 1 เมตร ซึ่งส่งผลทำให้มีผู้คนต้องย้ายถิ่นฐานมากถึง 200 กว่าล้านคน และมีผู้ที่ต้องประสบภัยพิบัติกว่า 400 ล้านคน จากการขาดแคลนน้ำและอาหาร รวมถึงภัยแล้งสุดขั้ว ซึ่งประเทศไทยก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพราะการเคลื่อนย้ายประชากรและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในปัจจุบันล้วนเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก และสิ่งที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอนคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศจะสูงขึ้น 8 เท่า ในขณะที่ฝุ่น PM 2.5 จะสูงขึ้น 5 เท่าของในปัจจุบัน
ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ยังได้เปิดเผยฉากทัศน์เมืองกรุงเทพฯ ในอนาคตปี 2050 เป็นครั้งแรกต่อสื่อมวลชน จากการคาดการณ์อนาคต ได้ฉากทัศน์ออกมาเป็น 2 รูปแบบ คือ ฉากทัศน์เมืองในโดมฟอกอากาศขนาดยักษ์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเฉพาะกลุ่มของคนที่มีต้นทุนและโอกาสทางสังคมสูงเท่านั้น ในขณะที่ชุมชนส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่นอกโดม ต้องเผชิญกลุ่มหมอกควันและมลพิษ และวิกฤตน้ำท่วมอยู่เสมอ และ ฉากทัศน์การโยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ของสังคมมนุษย์ เพื่อแสวงหาพื้นที่ใหม่เพื่อดำรงชีวิต ซึ่งทั้ง 2 ฉากทัศน์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม เรายังมีโอกาสร่วมมือกันปรับทิศทางอนาคตเมืองให้ดีขึ้น โดยการร่วมกันเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับนโยบาย การพัฒนาโครงการ และพฤติกรรมของผู้คนบนแนวคิด “Not Only Urbanscape But Also Humanscape”
เทรนด์การพัฒนาเมืองเพื่อสร้าง Urbanscape ที่ยั่งยืน
จากแนวโน้มเมืองในอนาคตของไทยที่น่าจะเกิดวิกฤตที่สร้างความตื่นตระหนกและความเครียดต่อผู้คนสูงมาก (Shocks & Stresses) และจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าในอนาคตประชากรบนโลกจะอาศัยอยู่ในเมืองมากถึง 70% รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) จึงมองว่าการแก้ไขต้องเริ่มต้นที่สร้างสังคมเมือง โดยอิงจากกรอบความคิดสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาขึ้นให้มีความพร้อมรับมือ (resilience) กับความไม่แน่นอนของอนาคตที่จะมาถึง หรือ “Resilience Framework for Future Cities: กลยุทธ์การรับมือเพื่อเมืองแห่งอนาคต” โดยเฟรมเวิร์คนี้ประกอบด้วย กลุ่มปัจจัยความไม่แน่นอนใน 3 ด้าน ได้แก่ Nature & Environment, Living & Infrastructure และ Society & Economy
ทั้งนี้ ปัญหาในแต่ละกลุ่มจะประกอบไปด้วย กลุ่มธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Nature & Environment)อาทิ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม ปัญหาเรื่องน้ำ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก น้ำท่วม ภัยแล้ง เป็นต้น กลุ่มที่สอง เป็นเรื่องการใช้ชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน (Living & Infrastructure)เช่น อุบัติการณ์ไม่คาดฝัน ปัญหาสุขภาพ และการหยุดชะงักของบริการสาธารณูปโภค และสุดท้าย กลุ่มสังคมและเศรษฐกิจ (Society & Economy) เช่น วิกฤตเศรษฐกิจและค่านิยมทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เหตุการณ์ความไม่สงบ ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน และ ประเด็นทางสังคม
เนื่องจากพื้นที่แต่ละแห่งในประเทศไทยมีความแตกต่างกัน จึงน่าจะประสบปัญหาต่างๆกันไป จึงต้องพิจารณาแยกรายพื้นที่และนำ Resilience Framework มาจับเพื่อตั้งรับและปรับตัวได้ตรงจุด อาทิเช่น การสร้าง Framework เฉพาะกลุ่มปัญหาเรื่องน้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราอาจพิจารณาความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกหนักและน้ำท่วมจากแม่น้ำหนุนสูง และลดน้ำหนักด้านการป้องกันภัยแล้งลง เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราพิจารณากลุ่มของปัญหาทั้งหมดให้ครบถ้วน เราจะได้ Framework ที่สมบูรณ์ซึ่งเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่หรือเมืองที่มีความจำเป็นแตกต่างกัน ทำให้เราสามารถมองเห็นโซลูชันในการสร้างเมืองนั้น ๆ
รวมถึงการป้องกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด และลงทุนเฉพาะสิ่งที่จำเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เฉพาะการแสวงหาโซลูชั่นที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่เรายังสามารถจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาโซลูชั่นและเทคโนโลยีขึ้นใหม่ที่ตอบโจทย์เมืองแห่งอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
ภายใต้กรอบ Resilience Framework For City Developments แต่ละด้านจะมีความท้าทายปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ RISC จึงดำเนินการวิจัยและบูรณาการหลายศาสตร์ เพื่อนำเสนอโซลูชันที่สร้างความอยู่ดีมีสุขของทุกสรรพสิ่ง (For All Well-Being) ผ่านการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ภายใต้ RISC 5 Research Hubs ได้แก่
Plants & Biodiversity: ศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ
- Air Quality: ศึกษาปัจจัยในการสร้างคุณภาพอากาศที่ดีทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- Happiness Science: ศึกษาการทำงานของสมองเพื่อสร้างความสุขด้วยวิทยาศาสตร์
- Materials & Resources: ศึกษาวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาวะ
- Resilience: ศึกษาด้านความเสี่ยงและภัยพิบัติในสภาพแวดล้อมเพื่อวางแผนรับมือ
- image.png
อีกหนึ่งพันธมิตรของงานเสวนาครั้งนี้อย่างกลุ่มบริษัทอีอีซี ซึ่งเป็นทีมวิศวกรที่ปรึกษาชั้นแนวหน้าที่มีผลงานทั้งในและต่างประเทศมามากกว่า 46 ปี โดยมีนายเกชา ธีระโกเมน ประธานคณะกรรมการ กลุ่มบริษัท EEC และประธานกรรมการ บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด ยังได้ร่วมเสนอแนวทางการทำงานด้านวิศวกรรมที่ต้อง “คิดในทิศทางใหม่” อย่างจริงจัง จากเดิมที่หน้าที่ของทีมวิศวกรในโครงการคือเพียงแค่ทำให้น้ำไหลไฟสว่างและแอร์เย็น แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอนาคต ทีมวิศวกรจะต้องเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยเริ่มจากการออกแบบระบบของโครงการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ระดับพื้นฐานเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น แต่เดิมวิศวกรจะออกแบบระบบปรับอากาศเพื่อทำให้อาคารเย็น แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนเป็นออกแบบระบบให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเย็นสบายโดยใช้ระบบปรับอากาศให้น้อยที่สุดหรือไม่ใช้เลย เพื่อเปลี่ยนจาก Heat Urban ให้กลายเป็น Cool Urban และแทนที่จะเป็นโครงการที่สร้างมลภาวะ แต่กลับเป็นโครงการที่ช่วยลดมลภาวะได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวทางและวิธีการคิดทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหามวลความร้อนในเขตเมืองที่ต้นเหตุ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้พลังงานของทุกระบบวิศวกรรม เป็นเหตุให้เกิดความร้อนสะสม
หนึ่งในโครงการตัวอย่างที่สามารถใช้ระบบวิศวกรรมและนวัตกรรมการออกแบบแนวใหม่เพื่อสร้างเมืองในอุดมคติให้เป็นจริงนั้น ได้แก่โครงการ The Forestias ซึ่งมีการออกแบบอาคารที่หายใจได้ (Breathable Building) ที่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีโดยไม่ต้องใช้พลังงาน บวกกับการปลูกป่าในโครงการในอัตราส่วนถึง 50% เพื่อช่วยฟอกอากาศให้มีคุณภาพดีขึ้น ทำให้โครงการสามารถลดความร้อนของพื้นที่ สร้างออกซิเจน เพิ่มการหมุนเวียนอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
รวมถึงการใช้ระบบ Zero Water Waste Model คือการนำน้ำเสียในโครงการมาบำบัดและ reuse กลับมาใช้ในโครงการ 100% โดยไม่ปล่อยออกสู่ทางระบายน้ำสาธารณะ เรียกว่าใช้ทรัพยากรน้ำจากภายนอกโครงการน้อยมาก แถมโครงการยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่รับน้ำเพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย รวมถึงโซลูชั่นการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่ช่วยสร้างความรู้สึกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยโดยไม่ต้องใช้พลังงานเลย เหล่านี้ถือเป็นแม่แบบและจุดเริ่มต้นที่สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาโครงการอื่น ๆ และพัฒนาพื้นที่เมืองเพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของผู้คน โดยไม่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม
Humanscape การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเริ่มได้จากเราทุกคน
การพัฒนาเมืองแห่งอนาคตจะขาดความเข้าใจในพฤติกรรมมนุษย์รวมถึงแรงจูงใจให้เกิดการปรับตัวไปไม่ได้เลย ดังที่ ภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการอาวุโส ครีเอทีฟ แล็ป (Creative Lab) และผู้อำนวยการโครงการ MQDC Metaverse หนึ่งในพันธมิตรการจัดงานเสวนาครั้งนี้เชื่อว่า “มนุษย์เป็นทั้งต้นทางและปลายทางของการพัฒนาเมืองให้ยั่งยืน”
ด้วยเหตุนี้ ครีเอทีฟ แล็ป จึงได้ทำการศึกษาปัญหาและความต้องการของมนุษย์ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมการออกแบบประสบการณ์ (Experience Innovation) และวิธีคิดทางธุรกิจแบบใหม่ ครีเอทีฟ แล็ปได้ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) และการออกแบบบริการ (Service Design) เข้ามาใช้ให้เกิดการออกแบบวิถีชีวิตที่ยั่งยืน โดยในบางกรณี การแก้ไขปัญหาใหญ่ระดับโลก สามารถทำได้จริงจากการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของประชากร รวมถึงพวกเราทุกคนที่สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนคือหัวใจสำคัญ
ดังที่ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ได้ชี้ไว้ในเบื้องต้นว่า การเปลี่ยนแปลงอนาคตจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม บริษัทผู้พัฒนาโครงการที่ต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอนาคตเมือง และถือประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดความสำเร็จของบริษัทนอกจากเม็ดเงิน และส่วนสำคัญที่สุดคือภาคประชาชนที่ต้องร่วมขับเคลื่อนการสร้างเมืองแห่งอนาคตที่ยั่งยืน ที่ซึ่งทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขทั้งกับเพื่อนมนุษย์ กับสิ่งมีชีวิตต่างๆรวมถึงโลกใบนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
รู้จัก ประเภทของ ‘ที่ดิน’ ก่อนซื้อ – ขาย – โอน
ประเภทที่ดินที่ควรรู้! ก่อนซื้อ-ขาย-โอน เพื่อประโยชน์ ทั้งฝั่งผู้ซื้อ และ ผู้ขาย นส.4 ,นส.3 ก,ที่ดิน สปก. และ โฉนดครุฑ แตกต่างกันอย่างไร?
5 ก.ย.2565 – Supalai Society (บมจ.ศุภาลัย) เผยแพร่ข้อมูล : รวบรวมประเภทของที่ดิน เพื่อประโยชน์ และ ความเข้าใจที่ถูกต้องของ ผู้ซื้อ และ ขาย ‘ที่ดิน’ ก่อนทำธุรกรรม ซื้อ-ขาย-โอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ซื้อผู้ขายได้ และป้องกันการถูกยึดคืนจากราชการ หรืออ้างสิทธิจากผู้ที่เข้ามาอยู่พื้นที่ ดังนี้
4 ประเภทของ ‘ที่ดิน’ ที่ควรรู้ ก่อนซื้อ-ขาย-โอน
- โฉนดครุฑแดง หรือ นส.4
ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแสดงกรรมสิทธิ์ที่ชัดที่สุด มีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน มีหมุดแสดงพื้นที่ชัดเจน สามารถซื้อ ขาย โอน นำไปจำนอง หรือค้ำประกันได้ สิทธิ์จะหมดลงก็ต่อเมื่อโดนครอบครองโดยปกปักษ์ 10 ปี คือ การครอบครองที่ดินของผู้อื่น ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ผู้เข้าครอบครองนั้นสามารถจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้
- โฉนดครุฑเขียว หรือ นส.3 ก
สิทธิ์ครอบครองการทำประโยชน์ มีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจนเหมือนกับโฉนดครุฑแดง หรือ นส.4 แต่จะต้องทำให้ที่ดินนั้นเกิดประโยชน์ขึ้น สามารถซื้อขาย โอน จำนองธนาคารได้ และในอนาคตเมื่อมีการสอบเขตอย่างแน่นอนแล้ว เจ้าของสามารถนำหลักฐานไปขอออกโฉนดได้ทันที โดยไม่ต้องรอรังวัดติดประกาศ 30 วัน สิทธิ์จะหมดลงก็ต่อเมื่อถูกผู้อื่นแย่งครอบครองเกิน 1 ปี
- โฉนดครุฑดำ หรือ นส.3
สิทธิ์ครอบครองการทำประโยชน์ แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ รายละเอียดที่ระบุมีเพียงรูปร่างของที่ดิน เนื้อที่ และแนวเขต สามารถซื้อขาย จำนองได้ แต่ต้องประกาศล่วงหน้า 30 วัน หากไม่มีผู้ใดคัดค้านก็สามารถจบธุรกรรมได้
- สปก. หรือโฉนดครุฑน้ำเงิน
สิทธิ์อยู่อาศัยให้ทำเกษตรกรรมเท่านั้น เจ้าของไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ออกโฉนดไม่ได้ ห้ามซื้อห้ามขาย ห้ามโอนขายสิทธิ์ให้คนอื่น เว้นแต่ส่งมอบเป็นมรดกให้กับทายาท และทายาทที่ได้รับเป็นมรดกก็ต้องใช้ประโยชน์โดยการทำเกษตรกรรมเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขยับสูงขึ้นหลังจากร่วงลง 3 สัปดาห์ติด
Investing.com – ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้นในช่วงค่ำของวันจันทร์เนื่องจากตลาดดัชนีหลักยังคงปิดทำการในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์หลังจากร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน
เมื่อเวลา 19:10 น. ET (23:10 น. GMT) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และ S&P 500 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.2%
ข่าวในสัปดาห์นี้จะเป็น รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ในเดือนสิงหาคม และ ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) จะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดรวมถึง คำกล่าวของสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา เมสเซอร์ เบรนาร์ด และ พาวเวลล์ ประธานเฟด นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตามองการเพิ่ม อัตราดอกเบี้ย จากธนาคารกลางยุโรปอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานรอบใหม่หลังจากรายงานว่า Gazprom ของรัสเซีย (MCX:GAZP) จะหยุดส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1
ในช่วงเซสชั่นของวันศุกร์ ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 338 จุดหรือ 1.1% เป็น 31,318.5 จุด S&P 500 ร่วง 42.6 จุดหรือ 1.1% เป็น 3,924.3 และ NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 154.3 จุด หรือ 1.3% เป็น 11,630.9
ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.231%
ขอบคุณข้อมูลจาก th.investing.com
เซอร์ไพรส์! “น้องจ๋า” ยิมสาวไทย ล้ม เกาหลีใต้ ซิวทองแอโรบิกชิงแชมป์เอเชีย
“น้องจ๋า” ชวิศา อินทกุล ประกาศศักดาล้มแชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ คว้าเหรียญทองยิมนาสติกแอโรบิก ได้อย่างยิ่งใหญ่ นายกสมาคมเชื่อมั่น ซีเกมส์ ปีหน้านักกีฬาไทยได้มากกว่า 4 เหรียญทอง โดยเฉพาะ ยิมแอโรบิก มีไม่ต่ำกว่า 3 เหรียญทองอย่างแน่นอน
การแข่งขัน ยิมนาสติกแอโรบิก ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 7 จัดขึ้นที่ยิมเนเซี่ยม ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก พัทยา จังหวัดชลบุรี วันสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศซึ่งมีนักกีฬาของไทยเข้ารอบชิงทุกประเภท โดยมี “มิสแทมมี่” ยาจิ คิตากาว่า ประธานยิมนาสติกแอโรบิกโลกชาวญี่ปุ่น ควบคุมการแข่งขันอย่างเข้มงวด
ประเภทประชาชนหญิงเดี่ยว (แด๊นซ์) มีผู้เข้ารอบ 4 คน ผลปรากฏว่า “น้องจ๋า” น.ส.ชวิศา อินทกุล เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ที่เวียดนาม ต้องสู้กับ คิม ยอน จี แชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ และ ทราน อาวี่ แชมป์เอเชียจากเวียดนาม
ผลปรากฏว่า สาวไทยรีดความสามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ทำได้ 19.250 คะแนน โดยคะแนนดีกว่าที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ / เหรียญเงิน ทราน อาวี่ (เวียดนาม) 18.950 คะแนน / เหรียญทองแดง คิม ยอน จี แชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ 18.750 คะแนน
ประเภทประชาชนชายเดี่ยว แด๊นซ์ เหรียญทอง คิม ฮาน จิน (แชมป์โลกเกาหลีใต้) 21.000 คะแนน , เหรียญเงิน พาน ธิ เจีย (เวียดนาม) 20.350 คะแนน , เหรียญทองแดง ชนกพล เยี่ยมสุขใจ 19.400 คะแนน
ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยว (อายุ 12-14 ปี ) เหรียญทอง โซ โดยอน (เกาหลีใต้) 18.750 คะแนน , เหรียญเงิน ชนัญธิดา ใจรักปรีดามิตร 17.250 คะแนน , เหรียญทองแดง แอนโจรี่ ปานกัมบัม (อินเดีย) 16.700 คะแนน
ประเภทกรุ๊ป ประชาชน เหรียญทอง เวียดนาม 19.783 คะแนน, , เหรียญเงิน เกาหลีใต้ 19.591 คะแนน และ เหรียญทองแดง ไทย 17.613 คะแนน ทำให้ ทีมไทยเพิ่มเหรียญทองแดงอีก 1 เหรียญ
ประเภทประชาชนชายเดี่ยว เหรียญทอง พาน ทิ เจีย (เวียดนาม) 19.300 คะแนน , เหรียญเงิน จอง ซัง ชาน ( เกาหลีใต้ ) 18.850 คะแนน. เหรียญทองแดง บัตบูยาน ชินบัต (มองโกเลีย) 18.450 คะแนน ส่วน ณัฐกิต ธีระสาทร ได้อันดับ 5
สรุปนักกีฬายิมแอโรบิกของไทย สร้างผลงานได้อย่างน่าพอใจ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ขณะที่ เกาหลีใต้ ครองเจ้าเหรียญทองแอโรบิกเอเชีย ไปครองได้ตามคาดหมาย
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่นำดีกรีชุดแชมป์โลกเดินทางมาแข่งขันและครองเจ้าเหรียญทอง เช่นเดียวกับ เวียดนาม มีทั้งแชมป์โลก และ แชมป์เอเชีย ส่วนทีมชาติไทย ได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ดีเกินคาดเนื่องจากเราเจอกับนักกีฬาระดับโลก
ส่วนปีหน้าอีก 8 เดือนมีรายการใหญ่ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กัมพูชา เรามีเวลาเตรียมทีมไม่มาก แต่ต้องเต็มที่อย่างน้อยได้ผู้ฝึกสอนชาวสเปน (แดเนี่ยล) มาคุมเข้ม นอกจากนี้นักกีฬายิมนาสติกศิลป์ ก็ซ้อมกันอย่างหนัก เชื่อว่าจากผลพวงการแข่งขันกีฬาแอโรบิกชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักกีฬายิมนาสติกไทย คว้าได้มากกว่า 4 เหรียญทอง อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วิธีออกกำลังกาย ชะลอ “ข้อเข่าเสื่อม”
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มต้น สามารถสังเกตได้จากอาการเจ็บปวดและมีเสียงภายในข้อเข่า อาการเหล่านี้จะมีเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จนไม่สามารถงอหรือเหยียดเข่าได้เต็มที่ จึงควรบริหารร่างกายเพื่อชะลอข้อเข่าเสื่อม
ผู้ที่มีอายุน้อยหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
ผศ. ดร. นพ.ศรัณย์ ตันติ์ทวิสุทธิ์ แพทย์ฝ่ายออร์โธปีดิกส์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ควรออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง การเต้นแอโรบิกหรือการเดินเร็ว เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบข้อเข่า
สำหรับวัยกลางคนขึ้นไป หรือผู้ที่มีอาการของข้อเข่าเสื่อมแล้ว
ควรออกกำลังกายที่ไม่เน้นการลงน้ำหนักที่ข้อเข่า หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการงอเข่ามาก เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อเข่าต้องรับภาระมากเกินไป การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การว่ายน้ำ การปั่นจักรยานอยู่กับที่ การรำมวยจีน เป็นต้น รวมถึงควรใส่ใจออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขาเป็นพิเศษด้วย
หากพบว่าเข้าข่ายมีอาการข้อเข่าเสื่อม ควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและรักษา เพราะหากเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกจะบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมได้ดียิ่งกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
New Year’s Resolutions ตั้งเป้าหมายชีวิตปีใหม่
สวัสดีปีใหม่ 2022 ค่าาา เปิดต้นปีมาแบบนี้ เพื่อน ๆ มีตั้งเป้าหมายอะไรให้ตัวเองในปีนี้กันบ้างหรือเปล่า วันนี้ วอลล์สตรีท อิงลิช มีไอเดียการตั้งเป้าหมายและเคล็ดลับการไปให้ถึงเป้าหมายมาฝากค่ะ
- ลิสต์เป้าหมายแล้วเลือกสิ่งที่ใช่ การตั้งเป้าหมาย ไม่ใช่ว่าตั้งไว้เยอะ ๆ แล้วพุ่งชนมันให้หมด แต่ควรเป็นเป้าหมายที่เราอยากทำให้สำเร็จและเป็นไปได้จริง โดยอาจเริ่มต้นจากการลิสต์เป้าหมายทั้งหมดขึ้นมาก่อน แล้วทบทวนกับตัวเองเลือกในสิ่งสำคัญที่เราอยากทำมากที่สุด และจัดลำดับก่อน-หลังเพื่อให้เห็นทางพิชิตเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อย เป้าหมายของเราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่โต บางครั้งเรื่องเล็ก ๆ แต่มีความหมายเมื่อเราทำสำเร็จก็ช่วยให้ชุ่มชื่นหัวใจไม่แพ้กัน และเมื่อเราทำเป้าหมายเล็ก ๆ สำเร็จแล้ว อาจจะค่อย ๆ เพิ่มดีกรีขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งเราทำสำเร็จมากเท่าไหร่ ความรู้สึกเราก็จะยิ่งพองโตเพราะเหมือนได้ค่อย ๆ ก้าวสู่ความสำเร็จไปทีละขั้นอีกด้วย
- ตั้งเป้าหมายทั้งเรื่องที่ควรทำและชอบทำ เราควรตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้งในเรื่องที่ควรทำ และเรื่องที่เราชอบทำ เรื่องที่ควรทำอาจไม่ได้เป็นเรื่องที่เราอยากจะทำ แต่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเรา เช่น การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ และเรื่องที่เราชอบทำ อยากทำ ทำแล้วชีวิตเราจะมีความสุขมากขึ้นแม้ไม่ได้จำเป็น เช่น เดินทางท่องเที่ยว ตั้งแคมป์ เดินป่า เป็นต้น
- ลงรายละเอียดให้ชัดเจน หลังจากตั้งเป้าหมายแล้ว เราควรวางแผนคร่าว ๆ ให้เห็นว่าเราควรทำอะไรบ้างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น และวางไทม์ไลน์ให้ชัดว่าอยากให้สำเร็จเมื่อไหร่ เมื่อเริ่มเห็นแนวทางที่ชัดเจนแล้ว เราก็จะสามารถเริ่มลงมือได้ง่ายขึ้น โดยระหว่างทางวิธีการไปถึงเป้าหมายนั้นอาจจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับแผนที่วางไว้
- หมั่นทบทวนและมีวินัยกับตัวเองสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายเราเป็นจริงได้คือตัวเราเอง บางคนตั้งเป้าหมายไว้ต้นปีแล้วก็ทิ้งไว้จนลืม หรือบางทีก็ผัดวันประกันพรุ่งจนล่วงเลยข้ามไปอีกปี ดังนั้นเราจึงควรหมั่นทบทวนเป้าหมาย และติดตามความคืบหน้าว่าเข้าใกล้ความสำเร็จแค่ไหนแล้ว สร้างวินัยและความรับผิดชอบในเป้าหมายของตัวเอง เพื่อจะได้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
All-new Honda Civic TYPE R 2023 ใหม่ พร้อมชุดแต่งแท้จาก Honda Access เผยโฉมที่ญี่ปุ่น
ฮอนด้าประเทศญี่ปุ่นเริ่มวางจำหน่ายชุดแต่งแท้สำหรับ All-new Honda Civic TYPE R 2023 ใหม่ ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวรถเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ชูไฮไลต์ด้วยสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 275,000 เยน หรือประมาณ 72,000 บาท
ชุดแต่งแท้ Honda Access สำหรับ All-new Honda Civic TYPE R 2023 ใหม่ ประกอบด้วย สปอยเลอร์คาร์บอนที่ถูกตกแต่งด้วยโพลีเอสเตอร์สีแดง โดยลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งน็อตยึดสำหรับกันขโมยที่ถูกประดับด้วยโลโก้ฮอนด้าเพิ่มเติมได้ นอกจากนั้นยังมีฝาครอบกระจกมองข้างสีแดง, กันสาดหน้าต่างประตู, ฟิล์มกันรอยขอบประตูและเบ้าที่เปิดประตู, แตรแบบ Euro Horn และกรอบป้ายทะเบียน เป็นต้น
ส่วนชุดแต่งภายในห้องโดยสารประกอบด้วย ไฟเรืองแสงบริเวณที่วางแก้วคอนโซลกลาง, ไฟส่องพื้นรูปสัญลักษณ์ TYPE R, แผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอน, บันไดข้างพร้อมสัญลักษณ์ TYPE R, ไฟส่องที่วางเท้าและแผงประตู, แถบตกแต่งแผงประตูคาร์บอน, หัวเกียร์ตกแต่งด้วยสีแดง และพรมปูพื้นสีแดงพร้อมสัญลักษณ์ TYPE R เป็นต้น
ทั้งนี้ ชุดแแต่งทั้งหมดจะถูกวางจำหน่ายและติดตั้งโดยตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งมาให้จากโรงงานแต่อย่างใด
สำหรับ All-new Honda Civic TYPE R 2023 ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร VTEC TURBO ที่เพิ่มพละกำลังสูงสุดขึ้นเป็น 330 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเท่านั้น โดยมีราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นอยู่ที่ 4,997,300 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 1,310,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 ประโยชน์ ที่น่ารู้ของหอมหัวใหญ่
“หัวหอมใหญ่” ไม่เพียงแต่เป็นผักที่ช้ในการประกอบอาหาร แต่ หัวหอมใหญ่ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์มากมาย
5 ประโยชน์ ที่ได้จาก “หัวหอมใหญ่”
1. ช่วยในการล้างพิษในร่างกาย
หัวหอมใหญ่ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับประกอบอาหารเท่านั้น หัวหอมยังมีกรดอะมิโนที่ช่วยในการชำระล้างสารพิษที่เป็นอันตรายให้ออกไปจากร่างกายจึงทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการใส่หัวหอมใหญ่ไว้ในถุงเท้าก่อนนอน จะช่วยล้างพิษในร่างกายและจะช่วยฆ่าเชื้อโรคทำให้สุขภาพดีขึ้น
2. ต่อต้านการอักเสบ
ถือเป็นพืชที่ช่วยป้องกันการอักเสบของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ ช่วยในเรื่องของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทหรือมีความสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในหอมแดงยังช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของกรดไขมันในร่างกายได้อีกด้วย
3. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
หัวหอมใหญ่ เพราะการรับประทานอาหารในแต่ละวันที่เราได้รับเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ไข่ เนื้อ ต่างๆทำให้เกิดการเพิ่มของ คอเลสเตอรอล ได้ ดังนั้นสรรพคุณของหอมใหญ่สามารถช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด กำจัดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) หัวหอมใหญ่สามารถลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีได้ การบริโภคหัวหอมดิบทุกวันจะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้นถึง 30% จึงช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
4. ป้องกันโรคมะเร็ง
หัวหอมใหญ่ สามารถจะช่วยลดความเสี่ยงและสาเหตุในการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ ได้ ซึ่งสำหรับในบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบกลิ่นของหอมแดงสักเท่าไร แต่ถึงแม้ว่าจะรับประทานเพียงเล็กน้อย ก็สามารถจะได้รับประโยชน์และสรรพคุณมากมายจากหอมหัวใหญ่เช่นกัน
5. รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
ประโยชน์นี้ คนส่วนใหญ่อาจจะชอบได้เพราะ เพียงนำหัวหอมใหญ่สับให้ละเอียดแล้วคั้นจนได้น้ำหัวหอมใหญ่ จากนั้นใช้สำลีชุบแล้วนำมาทาบนใบหน้าบริเวณที่มีฝ้ากระ ก็จะช่วยปรับผิวหน้าทำให้ฝ้ากระค่อยๆจางลงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก komchadluek.net
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 06/09/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,600.00 | 29,700.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,917.00 | 29,061.72 | 30,200.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,725.30 | 26,155.55 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,533.60 | 23,249.38 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 863.00 | 13,083.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 671.00 | 10,172.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,987.00 | 30,122.92 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/09/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.15 | 35.15 | 35.95 | 35.75 | 35.75 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.68 | 35.48 | 35.48 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.04 | 34.04 | 34.84 | 34.64 | 34.64 | – | 34.04 | 34.04 | 34.04 | 34.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 31.84 | 31.84 | – | – | – | – | – | – | – | 31.84 |
เบนซิน 95 | 42.56 | – | – | – | 43.61 | – | 43.06 | 43.06 | – | 42.56 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.34 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.34 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.34 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.66 | 44.66 | 46.06 | 45.66 | 45.66 | – | – | – | – | 44.66 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |