สาระน่ารู้ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2566

รถไฟฟ้าสีแดง จับมือ สยามพรีเมี่ยมฯ ช็อปครบ รับกระเป๋ากันน้ำฟรี มูลค่า 750 บาท

รถไฟฟ้าสายสีแดง จับมือ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ส่งโปรโมชันเด็ด ช้อปครบ โชว์บัตร รับทันทีกระเป๋ากันน้ำ มูลค่า 750 บาท หรือใช้บริการห้องรับรองพิเศษ ฟรี! ถึง 31 ธ.ค. 2566

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง

เปิดเผยว่า รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ร่วมกับ นายไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อนจำกัด ผู้ดูแลโครงการ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ (Siam Premium Outlets Bangkok)

จัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบโค-โปรโมชัน เอาใจสมาร์ทช้อปเปอร์ ขาประจำรถไฟฟ้าสายสีแดง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2566

รายละเอียด มอบสิทธิพิเศษสำหรับนักช้อป ผู้ถือบัตรรถไฟฟ้าสายสีแดงทุกประเภท รับฟรี กระเป๋ากันน้ำ มูลค่า 750 บาท และรับสิทธิ์ใช้บริการห้องรับรองพิเศษ (VIP Lounge)

เงื่อนไข เพียงแสดงบัตรรถไฟฟ้าสายสีแดง รับทันที บัตร Shopper Club เป็นส่วนลด On Top พร้อมรับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ

ได้แก่ ต่อที่ 1 ช้อปครบ 5,000 บาท รับฟรีกระเป๋ากันน้ำ มูลค่า 750 บาท (จำกัด 500 รางวัลตลอดรายการ)

ต่อที่ 2 เมื่อใช้จ่ายครบ 20,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ (VIP Lounge)  แวะพักผ่อนระหว่างการช้อปปิ้งแบบสบาย ๆ โดยสามารถมีผู้ติดตามสูงสุด 1 ท่าน

ทั้งนี้ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ช้อปปิ้งเอาท์เล็ตระดับโลก ด้วยสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ดัง และโปรโมชั่นลดสูงสุด 70% ทุกวัน

“อย่าลืมพกบัตรรถไฟฟ้าสายสีแดง แล้วเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ ที่สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.

ผู้สนใจติดตามกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้ที่ www.siampremiumoutlets.com หรือ โทร. 02 0828 998

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


อสังหาฯ ลั่นกลองรบ Q3/66 AP ลากยาวเต็มไตรมาส-แข่งโละสต๊อกทั่วไทย

ไตรมาส 3/66 ไปต่อไม่รอรัฐบาลใหม่ เพราะเวลาไม่คอยท่าใครอีกแล้ว

จับสัญญาณขั้วบวกขั้วลบวงการธุรกิจที่อยู่อาศัย ตัวเลขโชว์ชัดเจนว่าสถิติการเปิดโครงการใหม่ในภาพรวม เขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2566 แนวโน้มไม่เปรี้ยงปร้างเท่าปี 2565

เหตุผลเพราะปี 2565 มีซัพพลายที่ชะลอเปิดตัวสะสมในยุคโควิดช่วงปี 2563+2564 รวมกัน ทำให้ยอดเปิดตัวใหม่ปีที่แล้วทะลักทลาย

นำมาสู่ปฏิบัติการผลักดันยอดขายตุนบนหน้าตักให้มากที่สุด เพราะช่วงครึ่งปีหลัง 2566 …อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้

บ้านเดี่ยวเอพีโปรยาวเต็ม Q3

สัญญาณร้อนแรงมาจากค่ายเอพี ไทยแลนด์ โดย “พิมพรรณ ปรีชานนท์” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้คำมั่นสัญญา “ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้” ประกาศครึกโครมว่า ไตรมาส 3/66 กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพี นำเสนอแคมเปญใหญ่ AP HOME x VATANIKA

นำบ้านเดี่ยวเอพี 3 แบรนด์ดัง ได้แก่ “THE CITY” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ดีไซน์ใหม่เซ็กเมนต์ไฮเอนด์, “CENTRO” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซ็กเมนต์กลาง-บน และ “MODEN” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สไตล์มินิมอล ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ Gen Z รวมทั้งสิ้นกว่า 40 โครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ

กิมมิกอยู่ที่เอพีร่วมกับพันธมิตรดีไซเนอร์แถวหน้าที่ทั่วโลกต่างยอมรับ อย่าง “แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา” มาเป็นตัวแทนและร่วมถ่ายทอดมุมมองของ “คนช่างเลือก-เลือกสิ่งที่ดีที่สุด” สำหรับลูกค้าที่สนใจบ้านเดี่ยวหลังใหม่ 3 แบรนด์ดังกล่าว

ในขณะที่ไฮไลต์ มีการจัดแคมเปญพิเศษ “โปรบ้านเป๊ะ” ลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจแต่งบ้านเป๊ะ เลือก Voucher จริตที่ใช่จากแบรนด์ดัง และส่วนลดรวมสูงสุด 5 ล้านบาท และสิทธิพิเศษออนท็อปอีกมากมาย

จุดเน้นอยู่ที่เป็นแคมเปญพิเศษ เพื่อระบายยอดขายบ้านเดี่ยวเอพีแบบเต็มไตรมาส เพราะมีอายุโปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2566

“เอกลักษณ์การออกแบบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในแต่ละสเปซฟังก์ชั่น ภายในบ้านเดี่ยวเอพี กับการเป็นต้นแบบบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ พื้นทื่ใช้สอย 164-580 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.39-45 ล้านบาท”

จุดเด่น บ้านเดี่ยวเอพี ดีไซน์ฟังก์ชั่นพิเศษเพื่อคุณ อาทิ Double Volume Living สะท้อนถึงการเชื่อมต่อกันของรสนิยมเเละความหรูหราที่ลงตัว, โซนนั่งเล่นขนาดใหญ่ ซ่อนความเป็นส่วนตัวและการใช้งานร่วมกัน, Pantry-Dining โซนรับประทานอาหารที่ตอบโจทย์การใช้งานสมาชิกครอบครัวขนาดใหญ่ และ Master Suite Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ สเปซที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุด ตอบโจทย์การพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

บิ๊กเนมแข่งระบายสต๊อกทั่วไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นำคอนโดฯ พร้อมอยู่และเปิดพรีเซลในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 30 โครงการ จัดเต็ม “Origin Mission Possible” ระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคมนี้ ที่ Fashion Hall ชั้น 1 สยามพารากอน ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท

รายละเอียดแคมเปญ มอบส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท กับแพ็กเกจการเงินรับดอกเบี้ย 0% ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน, โปร Bundle จับคู่ของแถมที่คุณต้องการ รับฟรี เฟอร์นิเจอร์ 5-10 รายการ โปรแกรม Origin Healthcare มูลค่า 20,000 บาท ทั้งยังมี Hot Deal Unit ราคาพิเศษ

ภายในงานเตรียมพบกับมินิคอนเสิร์ตศิลปินดัง พร้อมกิจกรรมพิเศษ เติมความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์และการเงิน ที่ตอบโจทย์สำหรับคนอยากมีคอนโดฯ จากกูรูที่แวะเวียนกันมาพูดคุยตลอดงาน สำหรับลูกค้าที่จองในงาน มีสิทธิ์มาร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อสังคม เมื่อหยอดขวดน้ำพลาสติกที่ตู้รับบริจาคภายในงาน รับทันที Gift Voucher นู๋เมด (บัตรกำนัลทำความสะอาด) มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท

บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ นำโครงการบ้านแนวราบทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ราคา 2-10 ล้านบาทในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จัดโปรฯ “ดีลฉ่ำ รับฝน ลด 5 แสนบาท” กำหนดจัดวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2566 สำหรับผู้ที่จองซื้อภายในงาน รับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท เงื่อนไขโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 31 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ แบรนด์บ้านในเครือลลิลฯ ได้แก่ แลนซีโอ, ไลโอ, บ้านลลิล และลลิล กรีนวิลล์ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด sustainable architecture สถาปัตยกรรมยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นำนวัตกรรมประหยัดพลังงานเข้ามาใช้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น สร้างคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีแก่ลูกค้า ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่สไตล์ โพรวองซ์ (Provence) จำลองมาจากประเทศฝรั่งเศส ช่วยฟอกอากาศบริเวณโดยรอบโครงการ และสามารถเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดได้อีกด้วย

บมจ.ศุภาลัย จัดแคมเปญ “รวบตึง! อึ้งทุกโปร” กำหนดเวลาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม-31 สิงหาคมนี้ สำหรับยอดช็อปบ้านและคอนโดฯ ในเครือศุภาลัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาสุดคุ้ม ลูกค้าเลือกได้ตามใจ อาทิ Choice A บัตรกำนัลช็อปมันส์ มูลค่าสูงสุด 200,000 บาท, Choice B เครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง สูงสุด 9 ชิ้น และ Choice C ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท

นอกจากนี้ ออนท็อปรับฟรี ค่าโอน, ค่ามิเตอร์น้ำ ค่ามิเตอร์ไฟ, ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก และหากลูกค้ากู้ไม่ผ่านพร้อมยินดีคืนเงิน

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 7ก.ค. ที่ระดับ 35.20 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำได้บ้าง หากบอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่ออาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ไทยปรับขึ้นตาม ฟันด์โฟลว์ตลาดบอนด์อาจพอช่วยลดทอนผลกระทบจากแรงขายหุ้นไทย

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 7 ก.ค.2566 ที่ระดับ  35.20 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.05 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้ หลังตลาดเริ่มปรับมุมมอง (reprice) แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งเราจะพร้อมปรับมุมมองของเราต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเช่นกัน

หากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งกว่าคาดมาก ทำให้เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 1 ครั้งได้จริง (เราคาดว่า เฟดน่าจะจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม หากมีการขึ้นดอกเบี้ยได้จริง) อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดได้ทยอยรับรู้แนวโน้มข้อมูลการจ้างงานที่อาจออกมาดีกว่าคาดไปมากแล้ว

หลังจากยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ในคืนก่อนหน้าออกมาดีกว่าคาดไปมาก (เพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดมองไว้เพียง +2.3 แสนตำแหน่ง) ทำให้ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) และอัตราการเติบโตของค่าจ้าง ต้องออกมาดีเกินคาดไปมากเช่นกัน ถึงจะสามารถช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์พอจะแข็งค่าขึ้นต่อได้

ทั้งนี้ แม้ว่า เงินดอลลาร์อาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อมาก หากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันนี้ ไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดไปมาก แต่เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำได้บ้าง หากบอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อ

นอกจากนี้ เรามองว่า ควรระวัง ความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาทยอยขายหุ้นไทยอีกครั้ง จากความกังวลสถานการณ์การเมืองไทย แต่เราคาดว่า การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ฝั่งสหรัฐฯ อาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ไทยปรับตัวขึ้นตามได้บ้าง ซึ่งก็จะช่วยหนุนให้ผู้เล่นในตลาด

อย่าง นักลงทุนต่างชาติ ทยอยกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทยเพิ่มเติมได้ ซึ่งฟันด์โฟลว์ในส่วนตลาดบอนด์ก็อาจพอช่วยลดทอนผลกระทบจากแรงขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติได้บ้าง ทำให้เงินบาทอาจพอมีแนวต้านอยู่ในช่วง 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.30 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

และมองกรอบเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.00-35.45 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องทดสอบโซนแนวต้าน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 35.00-35.25 บาทต่อดอลลาร์) ตามการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงของราคาทองคำสู่ระดับ 1,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดไปมาก ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อมั่นว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงชัดเจน โดยดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.79% แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดการจ้างงานนอกภาคเอกชนโดย ADP และดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ จะออกมาดีกว่าคาดไปมาก แต่ภาพดังกล่าวกลับทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมองว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง กดดันให้ผู้เล่นในตลาดเลือกจะทยอยขายหุ้นออกมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ที่อ่อนไหวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย (Tesla -2.1%, Amazon -1.6%)

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ดิ่งลงกว่า -2.34% ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟด หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด กดดันให้ผู้เล่นในตลาดต่างขายหุ้นกลุ่มเทคฯ (ASML -3.0%) นอกจากนี้ ภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่สดใสก็ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นยุโรปผ่านแรงขายหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (Hermes -4.8%, Anglo American -4.4%)

ในฝั่งตลาดบอนด์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดไปมาก ยิ่งหนุนให้ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 4.00% ก่อนที่บอนด์ยีลด์จะย่อตัวลงเล็กน้อย ตามแรงซื้อของนักลงทุนบางส่วน ท่ามกลางภาวะตลาดการเงินผันผวน และส่วนหนึ่งก็อาจมองว่า บอนด์ยีลด์ระดับดังกล่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ หลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดมาก อย่างไรก็ดี เราเห็นว่าผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ทยอยขายทำกำไรเงินดอลลาร์ออกมาบ้าง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเกินกว่าระดับ 103.5 จุด ไปได้ไกล (กรอบการเคลื่อนไหว 102.95-103.5 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา)

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง แต่การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางมุมมองเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องใกล้ระดับ 1,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าว ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ต่างมองว่า ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อาจเพิ่มขึ้นราว 2 แสนตำแหน่ง ในเดือนมิถุนายน ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3.4 แสนตำแหน่ง ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งการชะลอลงของการจ้างงานจะส่งผลให้อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) อยู่ที่ระดับ +0.3%m/m หรือ +4.2%y/y ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ หากยอดการจ้างงานออกมาสูงกว่าคาดมาก เช่น +3 แสนตำแหน่งขึ้นไป หรือ อัตราการเติบโตของค่าจ้างมากกว่า +4.3%y/y ก็อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดมีโอกาสมากขึ้นที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมเดือนกันยายน

โดยล่าสุด จาก CME FedWatch Tool ตลาดให้โอกาส 92% เฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม โอกาส 56% ในการขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือนพฤศจิกายน (ตลาดมอง เฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อเพียง 28%) เราประเมินว่า ในกรณีดังกล่าว ที่ข้อมูลการจ้างงานนั้นออกมาดีกว่าคาดมาก เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้พอสมควร หากตลาดให้โอกาสเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือนกันยายนไม่น้อยกว่า 40%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า  เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.24-35.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.00 น.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงท่ามกลาง sentiment ที่อ่อนแอของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย

หลังจากเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่เพิ่มขึ้นถึง 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. (มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 220,000 ตำแหน่ง) ซึ่งยิ่งกระตุ้นในตลาดปรับพเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ค. มากขึ้น

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.15-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยทางการเมือง ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และเครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ เดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“รัชนก” ตบฉลุยสยบ “ศุภนิด” 2-0 เกม ลิ่วรอบ 8 คน ศึกแคนาดา โอเพ่น

การแข่งขันแบดมินตัน รายการ โยเน็กซ์ แคนาดา โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับ เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ที่ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 4-9 ก.ค. 66

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 16 คนสุดท้าย ‘เมย์’ รัชนก อินทนนท์ มือ 8 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ ‘เม’ ศุภนิดา เกตุทอง มือ 17 ของโลกเพื่อนร่วมชาติ

ปรากฎว่าแมตช์นี้ รัชนก โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าใช้เวลา 40 นาทีตบเอาชนะไป 2-0 เกม 21-15 และ 21-15 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ Wen Chi HSU มือ 21 ของโลกจาไชนีส ไทเป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“ปวดข้อ” อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และอาหารที่ควรกิน

การเป็นข้ออักเสบ (arthritis) หรือ ปวดข้อ หมายความว่าคุณไม่สามารถรับประทานอาหารใดๆ ก็ตามที่คุณต้องการได้ ในทางกลับกัน คุณต้องรับประทานอาหารพิเศษ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการอักเสบ ไปพร้อมกับให้สารอาหารที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ คุณควรมีความรู้เกี่ยวกับประเภทของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ต่อไปนี้เป็นรายการสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง

  1. อาหารทอดและอาหารแปรรูป

งานวิจัยเกี่ยวกับอาหารและการป้องกันโรคเผยว่า หากผู้ป่วยรับประทานอาหารทอดและอาหารแปรรูปน้อยลง เช่น เนื้อสัตว์ทอดหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบน้อยลง นอกจากนี้กลไกการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูขึ้น 

ทางออก: ลดปริมาณอาหารทอดและอาหารแปรรูป ให้บริโภคผักและผลไม้มากขึ้น

  1. AGE

สาร AGE (advanced glycation end product) เป็นสารพิษที่เกิดขึ้นเมื่ออุ่น ย่าง ทอด หรือฆ่าเชื้อในอาหาร ด้วยความร้อนสูงๆ สาร AGE จะทำให้โปรตีนบางประเภทในร่างกายถูกทำลายลง และในการทำลายสาร AGE ร่างกายจำเป็นต้องใช้ไซโตไคน์ (cytokines) ซึ่งเป็นสารช่วยลดการอักเสบ ดังนั้น บริเวณที่มีสาร AGE เกิดขึ้น มักมีอาการข้ออักเสบรวมทั้งอาการอักเสบประเภทอื่นๆ 

ทางออก: บริโภคอาหารที่ปรุงสุกด้วยอุณหภูมิสูงมากๆ ในปริมาณที่น้อยลง

  1. น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี

ยิ่งคุณบริโภคน้ำตาลมากเท่าไร สาร AGE ในเลือดก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ สาร AGE ทำให้เกิดการอักเสบ ข้ออักเสบ หรืออาการปวดข้อต่อ 

ทางออก: ลดการบริโภคของหวาน อาหารแปรรูป อาหารอบจากแป้งขาว และน้ำอัดลม

  1. ผลิตภัณฑ์จากนม

ผลิตภัณฑ์จากนมมีส่วนประกอบเป็นโปรตีน ที่อาจทำให้เกิดข้ออักเสบได้ องค์กร Physicians Committee for Responsible Medicine ซึ่งเป็นองค์กรแพทย์ทางเลือกในสหรัฐฯ ระบุว่า โปรตีนสามารถเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบข้อต่อได้ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผู้ที่เป็นข้ออักเสบบางคนเลือกที่จะรับประทานอาหารแบบวีแกน (Vegan) หรือมังสวิรัติแบบบริสุทธิ์ ที่ไม่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อสัตว์เจือปนเลย 

ทางออก: รับประทานโปรตีนจากแหล่งโปรตีนทางเลือก เช่น ผักและเมล็ดพืชต่างๆ ผักโขม เนยถั่ว เต้าหู้ ถั่วฝักต่างๆ ถั่วเลนทิล และควินัว ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเลือกที่ดี

  1. แอลกอฮอล์ และบุหรี่

เราทุกคนทราบดีว่า แอลกอฮอล์และบุหรี่เป็นสาเหตุของภาวะทางสุขภาพหลายประการ ซึ่งรวมถึงภาวะที่ส่งผลต่อข้อต่อด้วย งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสมากที่จะเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) ในขณะที่ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเกาต์ 

ทางออก: เลิกสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ วางแผนและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และพักผ่อนให้เพียงพอ

  1. เกลือ และวัตถุกันเสีย

ให้มั่นใจว่าคุณรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับอาหารของคุณ มีอาหารหลายประเภทที่เกลือและวัตถุกันเสียอื่นๆ ในปริมาณที่มากเกินไป การบริโภคเกลือในปริมาณมากเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นข้อต่ออักเสบ 

ทางออก: ให้อ่านฉลากอย่างระมัดระวังเมื่อซื้ออาหาร ดูให้แน่ใจว่าอาหารมีวัตถุกันเสีย และสารปรุงแต่งอาหาร ในปริมาณเล็กน้อย หรือไม่มีเลย อาหารสำเร็จรูปไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เนื่องจากอาจมีโซเดียมสูง

  1. น้ำมันข้าวโพด

อาหารและอาหารว่างประเภทอบ อาจมีส่วนผสมเป็นน้ำมันข้าวโพดและน้ำมันประเภทอื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 6 ในปริมาณสูง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งกระตุ้นอาการอักเสบทั้งสิ้น 

ทางออก: แทนที่จะปรนเปรอตัวเอง ด้วยการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 6 ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งเป็นอันตรายต่อภาวะร่างกายของคุณ ให้บริโภคโอเมก้า 3 ซึ่งดีต่อสุขภาพและต้านการอักเสบได้ แหล่งโอเมก้า 3 ที่ดี ได้แก่ น้ำมันมะกอก ถั่ว เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดฟักทอง การศึกษาเผยว่าโอเมก้า 3 สามารถลดอาการปวดข้อต่อในกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากได้

เคล็ดลับเพิ่มเติม

แผนการรับประทานอาหารไม่ตายตัวสำหรับผู้ป่วยทุกราย สิ่งที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่ง อาจไม่ได้ผลสำหรับคนอื่น ให้ทดลองแล้วคุณจะค้นพบสิ่งที่เหมาะสมสำหรับคุณ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยข้ออักเสบทุกราย ควรรักษาน้ำหนักร่างกายในระดับที่สุขภาพดี และปฏิบัติตามแผนการรับประทานอาหารที่สมดุล

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สรุปแล้วมันต่างกันไหม You and I กับ You and me

“you and I กับ you and me” ทั้ง 2 รูปแบบนี้มันก็มีความหมายเหมือนกัน ที่หมายถึง คุณกับฉัน แล้วมันใช้ต่างกันมั้ยน้า? ทำไมเวลาจะใช้เลือกใช้ไม่ถูกเลย? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจทางภาษาเรื่องนี้กัน!!!

การที่จะทำความเข้าใจเรื่องนี้ เพื่อนๆ จะต้องรู้จักกับคำสรรพนาม (Pronoun) ในภาษาอังกฤษกันก่อน ซึ่งมันก็คือ คำที่ใช้เรียกแทนคำนาม เพื่อป้องกันการเรียกซ้ำคำนามเดิมบ่อยๆ นั่นเองเพราะ คำสรรพนามนั้นมีมากมายหลายชนิด และเจ้าชนิดของคำสรรพนามนี่แหละ ที่ทำให้ “you and I กับ you and me” นี้แตกต่างกัน 

You and I

เป็นสรรพนามที่แสดงถึง ” ประธานของประโยค ” ที่หมายถึง ฉันกับคุณ เมื่ออยากใช้ จึงจะต้องมาใช้เป็นประธานของประโยคเสมอ เช่น

  • You and I are going to the party together. 
    คุณกับฉันจะไปงานปาร์ตี้ด้วยกัน
  • You and I had got the same detention. 
    คุณกับฉันได้รับการกักบริเวณแบบเดียวกัน
  • You and I were the representatives of the company. 
    คุณกับฉันได้เป็นตัวแทนของบริษัท

สิ่งที่ควรระวัง เมื่อเป็นประธานของประโยค You จะต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น และ I ก็ต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เสมอเช่านกัน ห้ามลืมนะ!

แล้วเมื่ออยากใช้ you and me ล่ะ?

เมื่อด้านบนเป็นประธานของประโยค ไม่ต้องสงสัยเลย “you and me” นั้น เป็นสรรพนามที่แสดงถึง ” กรรมของประโยค ” ที่เป็นคน หมายถึง ฉันกับคุณ เมื่อเป็นคนที่ถูกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในประโยคนั่นเอง เช่น

  • The sun is shining on you and me.
    พระอาทิตย์กำลังส่งแสงลงมาที่คุณกับฉัน
  • Mom will take you and me to meet her friends tomorrow.
    แม่จะพาแกกับฉันไปเจอเพื่อนแม่ พรุ่งนี้ 
  • They gave you and me a present.
    พวกเขาได้ให้ของขวัญแก่คุณกับฉัน

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


มีเงิน 30 บาท สามารถซื้อ หูฟังสาย Hi-Res ราคาแค่ ในงาน Commart Crazy Deal

ระหว่างที่ผมเก็บภาพและดูโปรโมชั่นในงาน Commart Crazy Deal 2023 ที่กำลังเริ่มอยู่นั้น ก็มี Gadget จาก Studio 7 อยู่ชิ้นหนึ่งที่มีราคาแค่ 30 บาท เป็นหูฟังแบบสายจาก Blue Box นั่นเอง ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นความต่างกันอยู๋ที่มีที่เกี่ยวล็อคหูนั่นเอง 

แต่เมื่อได้นำมาเปิดสเปกด้านหลังดูแล้วหูฟังทั้งคู๋จะเน้นเบสที่มีกำลังขับที่มากอยู่ แต่ไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพเสียงร้องมากนัก ดังนั้นใครจะซื้อเน้นใข้งานทั่วไปผมว่า OK อยู่ครับ สำหรับในครั้งหน้าจะเจออะไรที่เด็ดมาเล่าให้ฟังอีก รอติดตามกันได้ และอย่าลืมมาดูของจริงได้ที่ งานคอมมาร์ต Crazy Deal 6-9 ก.ค. 66 EH98-99 ไบเทค บางนาเข้าฟรี ประตูเปิด 10.00-21.00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ถูกใจสายหวาน! “สตรอว์เบอร์รี่” ช่วยลดความอ้วนได้

สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งในเมืองไทยและในญี่ปุ่น นอกจากความอร่อยและมีคุณค่าต่อความงามแล้ว คนญี่ปุ่นยังนำสตรอว์เบอร์รี่มาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักด้วย มารู้ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี่ในการลดน้ำหนักและวิธีการรับประทานเพื่อลดน้ำหนักตามที่คนญี่ปุ่นแนะนำกัน

เหตุผลที่คนญี่ปุ่นเลือกสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ตัวช่วยลดน้ำหนัก

สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ โดยสตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัม (สตรอว์เบอร์รี่ผลขนาดกลาง 5-7 ผล) ให้พลังงานเพียง 34 กิโลแคลอรี่ สตรอว์เบอร์รี่ที่บรรจุขายเป็นแพ็กตามร้านค้าทั่วไปในญี่ปุ่นมีน้ำหนักประมาณ 200-300 กรัมให้พลังงานที่ประมาณ 85-102 กิโลแคลอรี่  ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่รับประทานจนอิ่มแต่ให้พลังงานต่ำมาก  นอกจากมีแคลอรี่ต่ำแล้วสตรอว์เบอร์รี่ยังมีคุณค่าสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้สวยและลดน้ำหนักได้ดังนี้คือ

  • ช่วยลดอาการบวมน้ำของร่างกาย

สตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัมมีโพแทสเซียมสูงประมาณ 170  มิลลิกรัม โดยโพแทสเซียมจะช่วยขับเกลือโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดและป้องกันอาการบวมน้ำของร่างกายได้ดี

  • ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติท้องไม่ผูก

สตรอว์เบอร์รี่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและกรดอินทรีย์ที่ไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ส่งผลให้ระบบการขับถ่ายทำงานเป็นปกติและช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี

  • ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและผิวพรรณดี

วิตามินซีจะช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรงจากการเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ป้องกันการเกิดรอยด่างดำบนผิวหนังได้ดี อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกายด้วย สตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 64 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 64 ของวิตามินซีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน การรับประทานสตรอว์เบอร์รี่สดจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีโดยไม่ต้องสูญเสียคุณค่าสารอาหารไปเลย

  • ช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย

แม้กลไกการทำงานยังไม่แน่ชัดในมนุษย์ แต่โพลีฟีนอลที่มีอยู่สูงในสตรอว์เบอร์รี่จะช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกายได้ดี

วิธีการรับประทานสตรอว์เบอร์รี่เพื่อเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก

  • รับประทานพร้อมโยเกิร์ต

คุณค่าคูณสองจากโยเกิร์ตและสตรอว์เบอร์รี่ นอกจากจะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากสตรอว์เบอร์รี่ได้เพิ่มขึ้นแล้ว เส้นใยอาหารจากสตรอว์เบอร์รี่และแลคติกแอซิดแบคทีเรียจากโยเกิร์ตจะช่วยปรับสภาพแวดล้อมของลำไส้ให้ดี ช่วยให้การขับถ่ายคล่องและป้องกันไม่ให้อ้วนได้ดี

  • รับประทานเป็นของว่าง

สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อย การรับประทานผลไม้ชนิดนี้เป็นอาหารว่างโดยไม่จิ้มน้ำตาล นมข้นหวาน หรือช็อกโกแลต จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่สูงจากขนมหวานและของขบเคี้ยวต่างๆ ได้ดี

การดูแลรูปร่างให้คงที่ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไปจะช่วยคงความอ่อนเยาว์ไปพร้อมกับการทำให้สุขภาพดีไปอีกนาน หากยังไม่มีวิธีลดน้ำหนักที่ถูกใจ ก็ขอแนะนำสตรอว์เบอร์รี่ตามวิธีที่คนญี่ปุ่นแนะนำดูนะ ถ้าไม่มีสตรอว์เบอร์รี่สดก็สามารถใช้แบบแช่แข็งได้เช่นกัน ได้ผลอย่างไรเอามาบอกเล่ากันด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 7/07/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,800.0031,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,060.0031,229.6032,400.00
ทองรูปพรรณ 90%1,854.0028,106.64n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,648.0024,983.68n/a
ทองรูปพรรณ 50%927.0014,053.32n/a
ทองรูปพรรณ 40%721.0010,930.36n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,135.0032,366.60n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 7/07/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.1535.1535.1535.1535.1535.1535.1535.1535.1535.15
แก๊สโซฮอล์ 9134.8834.8834.8834.8834.8834.8834.8834.8834.8834.88
แก๊สโซฮอล์ E2032.8432.8432.8432.8432.8432.8432.8432.8432.84
แก๊สโซฮอล์ E8533.2933.2933.29
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.5446.3446.9446.4442.54
เบนซิน 9542.9444.6143.4443.0942.94
ดีเซล B731.9431.9432.2431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.2431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.2431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม38.9439.9439.9441.7639.9438.94
แก๊ส NGV17.5917.5917.59


About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า