เปิดทำเลทอง5 เส้นทางตัดถนนใหม่ บูมกทม.-ปริมณฑล
ทช.เปิดทำเลทอง5 เส้นทางใหม่ บูมกทม.-ปริมณฑล 3 หมื่นล้าน เชื่อมโครงข่ายการเดินทาง จับตา ราคาที่ดิน บ้านจัดสรรแห่ปักหมุดจองพื้นที่
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเมืองเนื่องจากมีการจัดสรรงบประมาณในแต่ละปี ลงพื้นที่ก่อสร้างโครงข่ายถนนสายใหม่และขยายเขตทางแบ่งเบาการจรจาจร
เชื่อมต่อกับถนนสายหลักของกรมทางหลวง สำหรับถนนสายสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของทช.และอยู่ในการเร่งรัดพัฒนาล้วนอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)และจังหวัดปริมณฑล
ซึ่งเป็นแผนก่อสร้างถนนและสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพฯโซนตะวันตกและปรับปรุงถนนเดิม จำนวน 5 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 36,783 ล้านบาท โครงข่ายเชื่อมแนวตะวันออก-ตะวันตก ต่อขยายจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
เชื่อมกับวงแหวนรอบกลาง อย่างถนนราชพฤกษ์ และวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่เป็นแนวเหนือ-ใต้ ในลักษณะตารางสี่เหลี่ยมใยแมงมุมประกอบด้วย
1.โครงการต่อเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยานนทบุรี 1 หรือสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์กับถนนกาญจนาภิเษก วงเงิน 4,032 ล้านบาทมีจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณทางแยกต่างระดับราชพฤกษ์เดิมบริเวณแยกวัดโบสถ์ดอนพรหม
ตัดตรงไปจนเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก บริเวณ กม.23+300 ห่างแยกต่างระดับบางใหญ่ 3.5 กิโลเมตร และห่างจากต่างระดับบางคูเวียง 2 เมตร มีระยะทาง 3.827 กิโลเมตรการก่อสร้าง
แยกเป็นค่าจ้างที่ปรึกษาสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 15 ล้านบาทค่าเวนคืนที่ดิน 2,396 ล้านบาท เป็นที่ดิน 160 ไร่ จำนวน 340 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 220 รายการ และค่าก่อสร้าง 1,621 ล้านบาท เป็นถนนสายใหม่ ขนาด 6-8 ช่องจราจร
แนวเส้นทางต่อขยายจากถนนต่อเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณถนนนนทบุรี 1 ที่เปิดใช้ไปแล้วเมื่อปี 2558 คาดว่าจะเริ่มประมูลก่อสร้างในปี 2566 แล้วเสร็จในปี 2568
หากเปิดใช้เส้นทาง จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรของพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานครโซนตะวันตกได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบนถนนราชพฤกษ์ที่มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้น รวมถึงรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้น
จากการเจริญเติบโตของเมืองและลดขนาดพื้นที่ปิดล้อมขนาดใหญ่ (super block) ของพื้นที่ในกรอบถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนนครอินทร์ ถนนบางใหญ่-บางคูลัด และถนนกาญจนาภิเษก และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม
2.โครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์-ศาลายา วงเงิน 9,200 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 4,600 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดิน 4,600 ล้านบาท มีที่ดินถูกเวนคืน 1,370 แปลง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และสิ่งปลูกสร้าง 87 หลัง
สำรวจอสังหาริมทรัพย์และเริ่มเวนคืนภายในปี 2565 ก่อสร้างในปี 2566 แล้วเสร็จในปี 2568 รูปแบบเป็นถนนตัดใหม่ขนาด 6 ช่องจราจร พร้อมทางต่างระดับ 2 แห่ง
ก่อสร้างตามแนวตะวันตก-ตะวันออก เป็นพื้นที่ปิดล้อมขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 90 ตารางกิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด 3 อำเภอ ได้แก่ บางกรวย บางใหญ่ ของ จังหวัดนนทบุรี และ พุทธมณฑล นครปฐม ระยะทางรวม 12 กิโลเมตร
แนวเส้นทาง มีจุดเริ่มต้นบนทางหลวงชนบท สาย นฐ.5035 ช่วงด้านเหนือของเดอะรอยัลเจมส์กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ ห่างจากทางหลวงชนบท สาย นฐ.3004 (ศาลายา-บางภาษี) ประมาณ 1 กิโลเมตร
จากหมู่บ้านอาภากร และหมู่บ้านอาภากร 3 ไปทางทิศใต้ประมาณ 250 เมตร ทางทิศตะวันออกใกล้คลองนราภิรมย์ และทางแยกต่างระดับศาลายา สภาพการใช้ที่ดินโดยรอบเป็นอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย รวมทั้งที่ว่างตัดผ่านทางหลวงชนบท สาย นบ.5014 ข้ามคลองสามท้าว
ตัดทางหลวงชนบท สาย นบ.1001 ข้ามคลองจีนบ่าย คลองขุนเจน โดยแนวเส้นทางจะอยู่ทางทิศเหนือของศูนย์พัฒนาชีวิตใหม่ แล้วแนวจะเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามคลองลาดละมุด ผ่านทางหลวงชนบท สาย นบ.5035 ใกล้กับทางแยกเข้าวัดบางม่วง
ข้ามคลองโสนน้อย ผ่านทางหลวงชนบท นบ.1001 บริเวณซอยอินทนิล ผ่านพื้นที่โล่งด้านหลังหมู่บ้านศุภาลัยการ์เด้นวิลล์ ข้ามคลองบางนาและคลองประปา ก่อนเบี่ยงขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือผ่านพื้นที่ระหว่างหมู่บ้านมัณฑนา กับโครงการบ้านเอื้ออาทร บางกรวย (วัดพระเงิน)ของการเคหะแห่งชาติ(กคช.)
แนวสายทางจะอยู่ด้านทิศใต้ของวัดสุนทรธรรมิการาม ข้ามคลองหัวคู และเข้าบรรจบกับถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันตก บริเวณ กม.ที่ 11+997 เป็นจุดเชื่อมทางแยกต่างระดับบางคูเวียง
สภาพการใช้ที่ดินปัจจุบันบริเวณโดยรอบจุดสิ้นสุดโครงการ มีอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย (หมู่บ้านกฤษณา) และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ คือ พลัสมอลล์ โลตัส
3. โครงการส่วนต่อขยายถนนกัลปพฤกษ์-ถนนพุทธสาคร ระยะทาง 13.6 กิโลเมตร วงเงิน 7,364 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 6,014 ล้านบาท ค่าเวนคืน 1,350 ล้านบาท มีที่ดินถูกเวนคืน 316 แปลงวงเงิน 1,140 ล้านบาท อาคารสิ่งปลูกสร้าง
ถูกเวนคืน 137 หลัง วงเงิน 210 ล้านบาท เป็นถนนตัดใหม่ขนาด 6 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนเดิม ทำให้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเป็น 3 แยก จะเป็น 4 แยก เปิดพื้นที่ตาบอดให้มีการพัฒนา
แนวเส้นทางจะเริ่มต้นบริเวณจุดเชื่อมต่อถนนกัลปพฤกษ์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก มีจุดตัด 5 แห่ง ที่ถนนบางบอน 3, 4 และ 5 และถนนสาธารณะอีก 2 แห่ง และบรรจบกับจุดที่ถนนพุทธสาคร
ตัดกับถนนเศรษฐกิจ ซึ่งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดโครงการออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับ เชื่อมกับถนนสายหลักได้ทุกทิศทาง โดยไม่มีสัญญาณไฟจราจร จุดตัด 5 แห่งออกแบบเป็นสะพานข้ามทางแยก โดยด้านล่างจะเป็นทางแยกสัญญาณไฟจราจรพร้อมทางกลับรถ
หากแล้วเสร็จช่วยบรรเทาจราจรบนถนนพระราม 2 และโดยรอบ ซึ่งถนนพุทธสาครจะต่อเชื่อมกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนเศรษฐกิจ
4.โครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ช่วงจากสะพานพระราม 4-กาญจนาภิเษก ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร จาก 6 ช่องจราจร เป็นถนน 10 ช่องจราจร เนื่องจากการจราจรหนาแน่นมาก จากการที่เมืองมีการขยายตัวมายังโซนนี้ คาดว่าปลายปี2565จะแล้วเสร็จและเปิดใช้เส้นทาง
และ5.โครงการก่อสร้างถนนและสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสนามบินน้ำโดยพิจารณาสร้างช่วงแนวตะวันตก จากถนนกาญจนาภิเษกใกล้กับสถานีศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร (เดโป้) รถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) ข้ามถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนราชพฤกษ์ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสนามบินน้ำมาสิ้นสุดที่ถนนติวานนท์
ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 15,257 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 4,199 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดิน 11,058 ล้านบาท
หากแล้วเสร็จเปิดใช้เส้นทางทั้ง5โครงการจะช่วยระบายการจรจาติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อย่างมาก แต่ปัจจุบันเชื่อว่า มีการจับจองซื้อขายเปลี่ยนมือรออยู่ก่อนแล้ว !!!
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘แคมปัสคอนโด’ เนื้อหอม นักลงทุน แห่ซื้อปล่อยเช่า พ่อแม่ขายต่อ ทำกำไร 20%
แคมปัสคอนโดฯ ใกล้มหาวิทยาลัย ปลุกชีพนักลงทุน ไนท์แฟรงค์ เผย ตลาดฟื้นแรง หวังบางโครงการ ทำกำไรส่วนต่างราคา10-20% ตระกูลตั้งสิน ขุดที่ดินเก่า ปั้นฮับใหม่ ‘ศาลายา’ ขณะ ASW ครองตลาดรังสิต ส่งแบรนด์เคฟตัวใหม่ ใกล้ ม.กรุงเทพ ขณะ ออริจิ้น บุกต่อ เกษตรศรีราชา
6 ก.ค.2565 – นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดคอนโดฯ ที่ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ขณะ ณ สิ้นไตรมาส 1 มีจำนวนหน่วยเปิดใหม่แล้ว 16,000 ยูนิต ส่วนยอดขายไปได้ดีกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ที่ 43% สะท้อนการกลับมาของเรียลดีมานด์และนักลงทุนบางกลุ่มโดยเฉพาะ ตลาดแคมปัสคอนโดฯ (คอนโดมิเนียมใกล้สถานศึกษา) ที่เคยเงียบเหงาไป ทั้งการพัฒนาโครงการ และ การลงทุน ,เช่าใหม่ จากการที่สถานศึกษาปิด และปรับไปเรียนออนไลน์กว่า 2 ปี
แต่ ปัจจุบัน หลังจากสถานศึกษา, มหาวิทยาลัย กลับมาเปิดทำการเรียน การสอน พบผู้เช่าที่เคยยกเลิกการเช่าคอนโดฯไป เริ่มกลับเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะ การหาโครงการที่มีความแปลกใหม่ ปัจจัยนี้เอง ทำให้นักลงทุนเล็งเห็นโอกาสการเข้ามาลงทุนซื้อคอนโดฯ เพื่อไว้ปล่อยเช่าระยะยาว
ผู้ปกครองแห่ซื้อมากกว่าเช่า
ไนท์แฟรงค์ ยังเผยว่า นักลงทุนแคมปัสคอนโดฯ มีความเฉพาะตัว ต่างจาก ความเคลื่อนไหวนักลงทุน ที่เน้นอสังหาฯในเมือง และมองหาโซลูชั่นการบริหารจัดการจากเจ้าของโครงการ เพื่อหวังเพิ่มผลตอบแทน แต่นักลงทุนกลุ่มนี้ จะมองโอกาสในระยะยาว จากดีมานด์ ผู้เช่าเก่าไป-ใหม่มา ขณะเดียวกัน ก็มีนักลงทุนหน้าใหม่ ที่บาดเจ็บจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ นำกำไรที่เคยได้ เข้ามาลงทุนในอสังหาฯ เช่นกัน หลังจากเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ โดยบางโครงการ ทำ Capital Gain (กำไรจากส่วนต่างราคา) ได้สูงถึง 10-20%
อีกกลุ่มผู้ซื้อที่น่าสนใจ คือ พ่อแม่-ผู้ปกครอง เข้ามาจากกำไรส่วนต่างที่เห็นชัดเจนเบื้องต้นเช่นกัน ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ปกครองที่มีความพร้อมและเห็นโอกาสการลงทุน เมื่อเทียบกับค่าเช่าระยะเวลา 4-6 ปี ค่าเช่าเดือนละ 12,000 บาท เทียบกับคอนโดใหม่ ราคาประมาณ 2.55 ล้านบาท จะคิดเป็นประมาณ 22% ของราคาซื้อขาดแล้ว จะมองว่า “การซื้อ” ถือว่าคุ้มค่ามากกว่า เพราะได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าในระหว่างเรียน และหลังเรียนจบก็ยังสามารถปล่อยเช่า หรือ ขายต่อได้ในราคาที่ดี ส่วนราคาของตลาดแคมปัสคอนโดฯที่ผู้ซื้อตอบรับดี จะอยู่ในช่วง80,000 – 85,000 บาทต่อตร.ม. หรือ ราว 2-3 ล้านบาท
“นักลงทุนอสังหาฯ มักจะพิจารณา ถึงโครงการที่สามารถมองหาผู้เช่าได้ระยะยาวแบบต่อเนื่อง โดยทำเลใกล้สถานศึกษาตอบโจทย์ที่สุด เพราะแต่ละปีมีนักศึกษาเข้าใหม่ 4-5 พันคน เก่าไป-ใหม่มา ทำให้เปอร์เซ็นต์ปล่อยเช่าแทบเป็นศูนย์ ต่างจากทำเลอื่นๆ”
ASW ขายดี ปั้นฮับรังสิต
เจาะกลยุทธ์ เจ้าพ่อแคมปัสคอนโดฯ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW หลังจาก ปั้นแบรนด์เคฟ (KAVE) ติดตลาด เป็นที่รู้จักของนักลงทุน และ ตลาดผู้เช่านิสิต – นักศึกษา ชูจุดขาย Facilities ครบทุกมิติ และ อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield) สูงถึง 8-10 %
โดย นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW เผยว่า ปัจจุบัน ตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ หลังจากเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา พบดีมานด์แคมปัส คอนโดฯ ใกล้สถานศึกษา เติบโตอย่างโดดเด่น สะท้อนจากยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังเปิดภาคเรียน จึงลุยเปิดโครงการใหม่ Kave Town Colony ม.กรุงเทพ มูลค่า 1.8 พันล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ซึ่งเพียงเปิดขายรอบเดียว มียอดแล้ว 42% ซึ่งจะเป็นการเติมซัพพลายเข้าไปใหม่ในโซนรังสิต หลังจากโครงการก่อนหน้า ทั้ง เคฟทาวน์ สเปซ (Kave Town Space) และเคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) ปิดการขาย 100% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รังสิตจึงกลายเป็นฮับขนาดใหญ่ในการยอดขายของ ASW
ตระกูลตั้งสินเปิดทำเลใหม่ ‘ศาลายา’
ที่น่าจับตามอง คือ การปลุกดีมานด์ใหม่ในฮับโซนทิศตะวันตกของกทม.บริเวณ ย่าน ศาลายา ซึ่งเดิม เป็นย่านที่พักอาศัยของกลุ่มนักศึกษาอย่างหนาแน่น ผ่านอัตราการเข้าพัก อพาร์ทเม้นท์ในละแวกดังกล่าว ราว 5,000 ห้อง สูงถึง 89% ราคาเช่า 3,000-7,500 บาทต่อเดือน ขณะอพาร์ทเม้นท์เกรดสูง ราคาเช่า 10,000-15,000 บาทต่อเดือน ใน 3 โซนหลัก คือ โซนหน้า ม.มหิดล ,โซนข้าง ม.มหิดล และ ซอยตั้งสิน
ล่าสุด ตระกูลตั้งสิน โดยนายเดชโรจน์ ตั้งสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีนำ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดแผนพัฒนาบิ๊กโปรเจ็กต์ มูลค่า 2.2พันล้านบาท โครงการ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” (Salaya One Residences) บริเวณปากซอยตั้งสิน ซึ่งเป็นที่ดินเก่าของตระกูล ในรูปแบบมิกซ์ยูส โดยจะสร้างคอนโดฯระดับพรีเมียม (471ยูนิต) โรงแรม เซอร์วิสอพาร์คเมนท์ และไลฟ์สไตล์มอลล์ร่วมด้วย หลังจากเล็งเห็นโอกาสจากดีมานด์ความต้องการ ทั้งจากนักลงทุน คณาจารย์ในมหาวิทยาลัย นักศึกษา ผู้ปกครอง และคนในละแวกดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายปลายปี ที่ 60-70%
“เดิมแคมปัสคอนโด กระจุกตัวย่าน ม.กรุงเทพ ,จุฬาฯ ,ธรรมศาสตร์ ศาลายาแทบไม่มี เนื่องด้วยข้อจำกัดรวมแปลงที่ดิน ทั้งนี้ โครงการ ศาลายา วัน แม้ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ก็มีคนลงทะเบียนสนใจแล้ว 500 คน ไม่นับยอด Walk in อีก 200 คน ขณะลงชื่อจ่ายจองแล้ว 30-40 คน สะท้อนความต้องการหนาแน่น แต่ที่ผ่านมาไม่มีซัพพลายมารองรับ “
Blue Ocean คอนโดออริจิ้น
ขณะอีกหนึ่งผู้เล่นรายสำคัญ จากเกมเร่งที่เห็นได้ชัด คือ บมจ.ออริจิ้น หลังจาก ปีนี้ ใส่เกียร์ เปิดโครงการคอนโดฯใหม่ มากถึง 19 โครงการ มูลค่า กว่า 28,600 ล้านบาท จนขึ้นแท่น ‘เจ้าตลาด’ ซึ่งเมื่อพิจารณา พบ 1ในกลยุทธ์สำคัญ เป็นการปั้นแบรนด์ใหม่ อิงไลฟ์สไตล์ เจาะตลาด Campus Condo กลุ่มนักลงทุน หลังจากผู้บริหาร ระบุ ล่าสุด ว่าเป็นตลาดที่ได้รับการตอบรับดีมาก
ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า ออริจิ้น สร้างปรากฎการณ์ Sold Out โครงการ ‘บริกซ์ตัน แคมบัส บางแสน’ ใกล้ ม.บูรพา หลังเปิดพรีเซลอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ยังมีแผนใช้แบรนด์ ‘บริกซ์ตัน’ (Brixton) ซึ่งถูกวางไว้สำหรับ เจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต อย่างนักลงทุน เปิดอีก 1 โครงการ ในย่าน ม.เกษตร – ศรีราชา จ.ชลบุรีอีกด้วย
นอกจากนี้ ออริจิ้น ยังอยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้าง โครงการไฮไลท์ ‘คอนโด โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์’ ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ผ่านการร่วมทุนกับญี่ปุ่น ‘โนมูระ เรียลเอสเตท’ ในราคาขายเริ่มกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยกระดับตลาดแคมบัสคอนโดฯ และสร้างสีสันความต่าง เรียกดีมานด์นักลงทุน และ ผู้ซื้ออยู่เองได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย
ไนท์แฟรงค์เผย ทำเล-มิกซ์ยูส ดันปล่อยเช่า
ทั้งนี้ นายณัฎฐา ระบุทิ้งท้ายว่า ปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่าคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามแนวรถไฟฟ้า หรือ ประเภทแคมปัสคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะได้ผลตอบแทนจากราคาค่าเช่า หรือ Gross Rental Yield อยู่ที่ 3-4% หากได้สูงกว่า 4% ขึ้นไป ถือว่ามีความคุ้มค่าน่าลงทุน และปัจจัยที่ต้องพิจารณาถัดมา คือ Capital Gain ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการมีมูลค่าสูงขึ้นนอกจากค่าที่ดินที่มีมูลค่าปรับขึ้นทุกปีก็คือการดูแลรักษาโครงการที่ดี อีกปัจจัยสำคัญคือทำเลที่ตั้งของโครงการ หากเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีปัจจัยสนับสนุนให้พื้นที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า จะผลักดันให้ราคาคอนโดในอนาคตพุ่งสูงขึ้น
ขณะโครงการมิกส์ยูส หรือ โรงแรม จะได้เปรียบในข้อนี้ เพราะเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ และอีกปัจจัยสำคัญคือทำเลที่ตั้งของโครงการ หากเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีปัจจัยสนับสนุนให้พื้นที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า จะผลักดันให้ราคาคอนโดในอนาคตพุ่งสูงขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คลังชี้ราคาน้ำมันไทยไม่ลดตามตลาดโลก เหตุอุ้มกองทุนน้ำมันติดลบอยู่
รมว.คลัง ยอมรับราคาน้ำมันขายปลีกของไทยไม่สามารถลดได้ตามราคาตลาดโลก เนื่องจากต้องอุ้มกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ติดลบทะลุ 100,000 ล้านบาท
แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกจะเริ่มปรับตัวลดลงมา โดยตั้งแต่คืนวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมานั้นมีการปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 9 หรือประมาณบาร์เรลละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับจากเดือน มี.ค. จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเวลานี้ไทยยังไม่สามารถปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกได้ เพราะต้องอุดหนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบมากกว่า 100,000 ล้านบาท
สำหรับกรณีหัวหน้าพรรคกล้า ตั้งข้อสังเกตว่าราคาน้ำมันโลกลดลง แต่ค่าการตลาดน้ำมันบางชนิดของไทยกลับเพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 3 บาทกว่า ทั้งที่ค่าการตลาดไม่ควรเกิน 2 บาทนั้น นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า การพิจารณาค่าการตลาดไม่ควรพิจารณาจากค่าการตลาดจากน้ำมันเพียงชนิดเดียว เนื่องจากสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันหลายชนิด ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามราคาตลาดโลก แต่ยืนยันว่าค่าการตลาดแต่ละเดือนยังอยู่ในกรอบที่รัฐบาลกำหนด
เมื่อราคาน้ำมันขายปลีกยังไม่มีแนวโน้มลดลง และแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 13 ปี ทำให้นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มั่นใจว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 3 ครั้ง โดยจะปรับขึ้นครั้งละร้อยละ 0.25 จะทำให้สิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 1.25 จากปัจจุบันร้อยละ 0.50
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
คนเรา “ตรอมใจตาย” ได้จริงหรือไม่
เมื่อไรที่สูญเสียคนในครอบครัวหรือคนรัก ในทางการแพทย์แล้ว เรา “ตรอมใจตาย” ได้จริงๆ หรือไม่
“ตรอมใจ” เป็นคำที่เรียกอาการเจ็บปวดบอบช้ำทางความรู้สึกมากกว่าอาการเจ็บปวดจากทางร่างกาย โดยมักเป็นอาการเสียใจจากการสูญเสียคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว สามีภรรยา หรือแม้กระทั่งอาการอกหัก รักที่ไม่สมหวัง ก็อาจมีอาการตรอมใจได้
แต่อาการ “ตรอมใจตาย” ที่เราเห็นกันอยู่ในหน้าข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งสูญเสียคนที่รักไป เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ เราเสียชีวิตจากความเสียใจได้จริงหรือไม่
รู้จัก Broken Heart Syndrome
สาเหตุของอาการตรอมใจ อาจมีด้วยกันหลายสาเหตุ แตกต่างกันไปตามปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคล แต่หนึ่งในนั้นมีอาการที่เรียกว่า Broken Heart Syndrome ที่อาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
Broken Heart Syndrome ไม่ได้มาจากอาการอกหักรักคุดแต่เพียงอย่างเดียวตามชื่อ แต่มาจากการเครียดสะสมหรือภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงสามารถทำให้เกิดอาการหัวใจสลาย นพ.เกรียงไกร เฮงรัศมี ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า อาการ Broken Heart Syndrome พบมากในหญิงวัยกลางคน มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากโรคทางกาย (Physical Stress) หรือความเครียดด้านจิตใจ (Mental Stress) ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่บีบตัวและอ่อนกำลังลงชั่วคราว หัวใจด้านล่างซ้ายผิดปกติโป่งออกรูปร่างคล้ายไหจับปลาหมึกของญี่ปุ่น อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเสียชีวิตได้
อาการตรอมใจที่สังเกตได้
อาการตรอมใจ หรือ Broken Heart Syndrome ที่สังเกตได้จากภายนอก คือ
- แน่นและเจ็บหน้าอก
- มีอาการหอบเหนื่อย
- หายใจลำบาก
- หน้ามืด
- ความดันเลือดต่ำ
นอกจากนี้ ยังมีอาการที่ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
- รู้สึกผิดในเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากที่เกี่ยวกับสิ่งที่คิดว่าตนควรทำ หรือไม่ควรทำในช่วงที่ผู้ตายเสียชีวิต
- คิดหมกมุ่นเกี่ยวกับความตาย นอกเหนือจากความรู้สึกอยากตายแทน หรือตายไปพร้อมกับผู้เสียชีวิต
- คิดหมกมุ่นว่าตนไร้ค่า ไม่มีความหมาย
- มีการเคลื่อนไหวและความคิดช้าอย่างชัดเจน (marked psychomotor retardation)
- มีการบกพร่องของการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆทั้งทางสังคมและการงานอย่างมากเป็นเวลานาน
- มีอาการประสาทหลอน นอกเหนือไปจากการคิดว่าได้ยินเสียง หรือเห็นภาพของผู้ตายเป็นช่วงขณะสั้นๆ ซึ่งอาจพบได้ในปฏิกิริยาปกติ
วิธีรักษาอาการตรอมใจ
ผู้ป่วยที่มีภาวะ Broken Heart Syndrome จะต้องรับไว้รักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพราะอาจจะมีอาการที่รุนแรงขึ้นได้ วิธีการรักษาหากอาการไม่รุนแรงอายุรแพทย์โรคหัวใจจะให้การรักษาด้วยยา แต่ในกรณีที่อาการรุนแรงและมีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วยอาจต้องมีการใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ และต้องรักษาภาวะเครียดที่เป็นปัจจัยกระตุ้นร่วมด้วย
นอกจากการรักษาด้วยยา ยังมีการรักษาด้วยการให้คำปรึกษาเพื่อรักษาอาการทางจิต โดยเน้นให้ผู้ป่วยยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ ให้ผู้ป่วยสามารถเผชิญกับความจริงของการสูญเสีย โดยปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียได้ สามารถปรับตัวกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการสูญเสียได้ และสามารถตัดใจจากผู้ที่จากไป และสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เช่น เปิดใจมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับคนอื่นอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
แพ็คคู่! “แข้งเทพ” คว้าตัวสองแข้งทีมชาติไทย “ปฏิวัติ-ชญาวัต” เสริมแกร่งสู้ศึกฤดูกาลใหม่
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสริมแกร่งทุกขุมกำลังเพื่อลุยศึกฤดูกาลใหม่ หลังคว้าตัวสองนักเตะใหม่ดีกรีทีมชาติไทยอย่าง “ไมค์” ปฏิวัติ คำไหม และ “บี” ชญาวัต ศรีนาวงษ์ จาก สมุทรปราการ ซิตี้ เข้ามาร่วมทัพแบบแพ็คคู่ แข้งใหม่ทั้งสองรายเผยสุดตื่นเต้นกับการย้ายทีมในครั้งนี้ พร้อมขอเป็นส่วนหนึ่งในการพาสโมสรไล่ล่าความสำเร็จ
สำหรับ “ไมค์” ปฏิวัต คำไหม ผู้รักษาประตูวัย 27 ปี เป็นผลผลิตจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เติบโตและเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด, เมืองทอง ยูไนเต็ด และพัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สมุทรปราการ ซิตี้ เขาลงเฝ้าเสาให้กับทีมอย่างต่อเนื่องถึง 7 ปี โดยฤดูกาลล่าสุดลงสนามให้กับ “เขี้ยวสมุทร” ทั้งสิ้น 32 เกม รวมถึงทำสถิติเป็นนักเตะคนเดียวในไทยลีกที่ลงสนามทุกนัดทุกนาทีของฤดูกาล 2021/22 ส่วนผลงานในทีมชาติ เจ้าไมค์ มีชื่อติดทัพทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ
ปฎิวัติ เปิดใจหลังเซ็นสัญญาเข้าร่วมทัพแข้งเทพว่า “รู้สึกตื่นเต้นมากๆครับ ที่จะมีโอกาสได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในทีมที่มีคุณภาพสูง ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณสโมสรสมุทรปราการฯ ที่เปิดโอกาสให้ผมย้ายมาร่วมทีมใหญ่อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ครับ อยากฝากถึงแฟนบอลแข้งเทพว่าผมจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และช่วยสโมสรให้ได้มากที่สุดครับ”
ด้านของหัวหอกรายใหม่วัย 29 ปี “บี” ชญาวัต ศรีนาวงษ์ เป็นผลผลิตจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียน หลังจากนั้นได้ย้ายเข้าร่วมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด และถูกปล่อยยืมให้กับ กรุงเทพคริสเตียนฯ, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, พีทีที ระยอง, บางกอก เอฟซี, นครนายก เอฟซี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด หรือ สมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบันอย่างถาวรตั้งแต่ฤดูกาล 2016 ฤดูกาลล่าสุดชญาวัตรับตำแหน่งกัปตันทีมของสโมสร โดยลงสนามในลีกไป 24 นัด ทำไป 8 ประตูกับ 3 แอสซิสต์
กับผลงานในทีมชาติ เจ้าบี ติดทีมชาติไทยในชุดเยาวชนมาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชุดเดียวกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา รวมถึงทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดลุยศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย และล่าสุดมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ ลงสนามในศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือกที่ประเทศอุซเบกิสถานภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กองหน้าป้ายแดงของทีมแข้งเทพเปิดเผยว่า “ดีใจมากครับที่มีโอกาสเข้ามาร่วมทีม ทรู แบงค็อกฯ เพราะผมทราบดีถึงศักยภาพของสโมสรที่มีนักเตะชั้นนำอยู่ในทีมมากมาย ผมอยากจะมีส่วนในการพาสโมสรแห่งนี้ประสบความสำเร็จให้ได้ อยากฝากแฟนบอลให้ช่วยสนับสนุนผมด้วยนะครับ และผมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่แน่นอนครับ”
สำหรับ ปฏิวัติ จะสวมเสื้อหมายเลข 25 ลงเฝ้าเสาให้กับสโมสร ส่วน ชญาวัต จะสวมหมายเลข 36 ลงล่าตาข่ายให้กับแข้งเทพ โดยดาวเตะทั้งสองถือเป็นการเสริมทัพรายที่ห้าและหก ต่อจาก รัชนาท อรัญญไพโรจน์, นิติพงษ์ เสลานนท์ ,ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ และมาห์มูด เอด เพื่อลุยศึกไทยลีกฤดูกาล 2022/23 ซึ่งจะเริ่มการแข่งขันนัดแรกในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคมนี้ โดย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะประเดิมสนามด้วยการเปิดรังทรู สเตเดียม พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยเวลาแข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในภายหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วลีและสำนวนเกี่ยวกับการหัวเราะ ในภาษาอังกฤษ
มีใครเส้นตื้นแบบแอดบ้างไหมหว่า หลายๆครั้งเวลาขำหรือหัวเราะก็คือไม่ไหวจริง หายใจแทบไม่ทัน บางทีก็อยากจะอธิบายว่าเอ้อเนี่ยชั้นขำจนขี้จะแตกเลยนะเว้ย แต่แค่คำว่า Laugh หรือ LOL มันก็ดูจะมีความหมายไม่หนักมากพอขนาดนั้น แล้วมันพูดแบบอื่นได้มั้ยนะ แอดบอกเลยว่า มีแน่นอนค่าา แถมยังมีวลีหรือสำนวนที่ดูเหมือนจะเกี่ยวกับคำว่า laugh ที่ไม่ได้แปลว่า หัวเราะ แต่มีความหมายแบบอื่นมาฝากด้วยนะ
A barrel/bundle of laughs
สนุก บันเทิง
A laugh a minute
ตลกไม่ไหว
Are you having a laugh?
เล่นมุกปะเนี่ย? ล้อกันเล่นไหมเนี่ย?
Belly laugh
หัวเราะลั่น หยุดขำไม่ได้ ขำจนพุงสั่น
For a laugh
แค่ขำๆ แค่หนุกๆ
Good for a laugh
เพื่อความสนุก เพื่อความบันเทิง
Laughing stock
คน/สิ่งที่ดูน่าขำ น่าตลก (ในเชิงลบ)
No laughing matter
สิ่งที่จริงจังมากและไม่สามารถเป็นเรื่องขำหรือเรื่องตลกได้
To burst out laughing
ระเบิดขำออกมาในทันที
To fall about (laughing)
ขำหรือหัวเราะจนคุมตัวเองไม่ได้
To have the last laugh
หัวเราะทีหลังดังกว่า
To kill yourself laughing
ขำหนักมากเพราะคิดว่าตลกมากๆ จนคุมตัวเองไม่ไหว
To laugh all the way to the bank
หาเงินได้ง่ายและรวดเร็วมาก
To laugh in someone’s face
หัวเราะเยาะใส่หน้าคนที่คุณไม่ชอบ
To laugh something off
หัวเราะกลบเกลื่อนความเลวร้ายที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้ทุกอย่างดูเบาลง
To laugh your head off
หัวเราะหรือขำหนักมาก ขำหนักไม่ไหว
To laugh yourself silly
หัวเราะหรือขำต่อเนื่องมาสักพัก จนคุมตัวเองไม่ได้
To play something for laughs
ทำให้คนอื่นหัวเราะในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม
To raise a laugh/smile
ทำให้ใครบางคนหัวเราะหรือยิ้มได้
To split your sides
ขำจนตัวสั่น
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
น้ำขิง ประโยชน์แจ่มจริง ๆ ดื่มทุกวันยิ่งดีเลย
น้ำขิง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกชนิดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะประโยชน์ของขิงเด็ดดวงจริง ๆ ยิ่งดื่มเป็นประจำจะช่วยแก้ได้หลายอาการเลย
ขิงเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่บ้านเราใช้ทั้งทำอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มแก้กระหายก็ได้ และหากใครกำลังมองหาเครื่องดื่มที่จะช่วยเพิ่มความเฮลธ์ตี้ได้อย่างเต็มที่ แนะนำเป็นน้ำขิงแก้วนี้นี่ล่ะค่ะ เพราะขิงมีสรรพคุณแจ่ม ๆ
1. ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด
สารประกอบฟีโนลิกในขิงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ขิงยังมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ส่งผลให้อาการท้องอืด แน่นท้อง และอาการท้องเฟ้อบรรเทาลงได้
2. บรรเทาอาการคลื่นไส้
ฤทธิ์ร้อนของขิงเป็นยาแก้อาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้ ที่ได้รับสารเคมีหรืออาหารแสลงบางอย่างมา นอกจากนี้ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Support Care Cancer เมื่อปี 2012 ยังบอกด้วยว่า การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันจะสามารถลดอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ด้วยนะคะ
3. ช่วยลดน้ำหนัก
ผลการศึกษาของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Society of Japan ในปี 2008 พบว่า ขิงมีส่วนช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติ จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้น้ำขิงอุ่น ๆ ยังสามารถช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก รวมทั้งลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายบริโภคไขมันมากขึ้นจนทำให้น้ำหนักขึ้นได้อีกด้วย
4. ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย
จากการทดลองน้ำที่ได้จากการแช่ขิงพบว่า น้ำขิงสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและพยาธิชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสารจิงเกอร์รอลในขิงยังมีอานุภาพมากพอจะลดโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ของร่างกายได้โดยเฉพาะหากเราดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวัน สารจิงเกอร์รอลจะต่อสู้กับเชื้อไวรัสโรคหวัดและอาการไข้ได้อย่างเต็มที่ เราก็จะมีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากโรคหวัดได้ง่าย ๆ
5. บำรุงรักษาสุขภาพช่องปาก
สารจิงเกอร์รอลของขิงยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากด้วยนะคะ โดยมีส่วนช่วยกำจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบและคราบพลัคในช่องปากเราได้อย่างมีประสิทธิภาพเชียวล่ะ
6. ช่วยลดอาการอักเสบ
ขิงอุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระก็ค่อนข้างสูงนอกจากนี้ในขิงยังมีสารจิงเกอร์รอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพริน และยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบภายในร่างกาย ดังนั้นหากดื่มน้ำขิงเป็นประจำ ก็จะช่วยป้องกันการอักเสบในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง
7. เป็นยาลดปวด
อย่างที่บอกว่าสารจิงเกอร์รอลมีฤทธิ์แรงกว่ายาแอสไพรินซะอีก ซึ่งก็สอดคล้องกับการศึกษาจาก University of Georgia ที่พบว่า การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันมีส่วนช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายได้ราว ๆ 25% เลย
8. แก้ปวดประจำเดือน
คุณสมบัติข้อนี้ของขิงเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนคู่ควรอย่างแรง โดยผลการศึกษาจาก University of Georgia พบว่า นอกจากขิงจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวได้แล้ว น้ำขิงยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดประจำเดือนของสาว ๆ ได้ราว ๆ 47% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการท้องเสียที่สาว ๆ บางคนอาจจะเป็นระหว่างวันแดงเดือดได้ด้วย
9. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
การศึกษาใน British Journal of Nutrition ระบุว่า น้ำขิงมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อีกทั้งในน้ำขิงยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และยังมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่จะชวยลดโอกาสเกิดเซลล์มะเร็งร้ายได้
ขอบคุณข้อมูลจาก fic.ifrpd.ku.ac.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 7/07/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,900.00 | 30,000.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,937.00 | 29,364.92 | 30,500.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,743.30 | 26,428.43 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,549.60 | 23,491.94 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 872.00 | 13,219.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 678.00 | 10,278.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,007.00 | 30,426.12 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 7/07/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 44.55 | 44.55 | 44.85 | 44.55 | 44.85 | 44.55 | 44.55 | 44.55 | 44.55 | 44.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 44.28 | 44.28 | 44.58 | 44.28 | 44.58 | 44.28 | 44.28 | 44.28 | 44.28 | 44.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 43.44 | 43.44 | 43.74 | 43.44 | 43.74 | – | 43.44 | 43.44 | 43.44 | 43.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 37.14 | 37.14 | – | – | – | – | – | – | – | 37.14 |
เบนซิน 95 | 51.96 | – | – | – | 52.71 | – | 52.46 | 52.76 | – | 51.96 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 46.36 | 49.36 | 51.69 | 50.56 | 50.59 | – | – | – | – | 46.36 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |