บอร์ด “KUN”เคาะจ่ายปันผลงวด 9 เดือน 0.05บาท/หุ้นจ่อขึ้น XD 17 พ.ย.นี้ หลังกวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 1,100 ทุบสถิติใหม่ – รายได้แตะ 737.60 ล้านบาท
บมจ. วิลล่า คุณาลัย (“KUN”) โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปี 2565 รายได้รวมแตะ 737.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33% (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิที่ 92.01 ล้านบาท พร้อมอวดยอดขาย(Pre-Sale) 9 เดือนแรกทุบสถิติใหม่ 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 65% ของเป้ายอด Pre-Sale ทั้งปี 1,700 ล้านบาท ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.05 บาท/หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 17 พ.ย. เพื่อจ่ายปันผลวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร”ส่งซิก รายได้ทั้งปีทุบสถิติออลไทม์ไฮต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน หลังโครงการคุณาลัย นาวาร่า-คุณาลัย พาร์โก้-คุณาลัย เดซี่ ทำยอดขายดีต่อเนื่อง
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ (“KUN”) เปิดเผยว่า จากภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงนโยบายผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV)ของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อ KUN ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ โดยจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 737.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และกำไรสุทธิ เท่ากับ 92.01 ล้านบาท ลดลง 16.80% (YoY) ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 มีรายได้รวม เท่ากับ 193.93 ล้านบาท ลดลง 22.34% (YoY) และกำไรสุทธิ เท่ากับ 16.11 ล้านบาท ลดลง 61.73% (YoY)
สำหรับปัจจัยที่ผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งไตรมาส 3 และ งวด 9 ปี 2565 ชะลอตัวนั้น เนื่องจาก ในไตรมาส 3 ประสบปัญหาสภาพอากาศ เนื่องจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง และการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทันตามเวลา
แต่หากพิจารณาจากยอดการรับรู้รายได้จากการโอน ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสดังกล่าว อาทิ โครงการคุณาลัย พรีม,โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2,โครงการคุณาลัย พาร์โก้, โครงการคุณาลัย จอย ออน 314, โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด รวมถึงโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ โครงการ คุณาลัย เดซี่ ที่เริ่มมียอดโอนเข้ามาต่อเนื่อง จึงทำให้ตัวเลขรายได้รวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
” คุณาลัย พาร์โก้ และโครงการคุณาลัย เดซี่ มีการเปิดขายไปแล้วในช่วงไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ของปี 2565 ซึ่งถือว่ากระแสการตอบรับดีมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มียอดขายคิดเป็นมูลค่ารวม 240 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถปิดการขายในปี 2565 ประมาณ 450 ล้านบาท”
ขณะที่ยอดพรีเซลในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 65% ของเป้ายอด พรีเซลทั้งปีที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท จาก 7 โครงการ ได้แก่ คุณาลัย คอร์ทยาร์ด, คุณาลัย พรีม, คุณาลัย บีกินส์ 2, คุณาลัย จอน ออน 314, คุณาลัย พาร์โก้, คุณาลัย เดซี่ และ คุณาลัย นาวาร่า ซึ่งยอดพรีเซลดังกล่าวถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุด ในรอบ 9 เดือนเทียบเท่ากับที่ทำได้ในปี 2563 ในช่วงโควิค-19 ซึ่งปัจจัยที่เป็นแรงหนุนให้ยอดพรีเซลเติบโตต่อเนื่อง มาจากการพัฒนาโครงการที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งรูปแบบโครงการแบบบ้าน ที่เน้นการจัดฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย รวมถึงระดับราคาบ้านตรงกับความต้องการของลูกค้า
อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยที่มีการปรับสูงขึ้น ซึ่งจะผลต่อการ ขอสินเชื่อ ประกอบกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนอง และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จะสิ้นสุดปลายปี 2565 นี้ จึงป็นกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
“ปัจจัยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ยอมรับว่า จะส่งผลกระทบต่อการกู้ซื้อบ้าน โดยการขึ้นดอกเบี้ยทุก 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% – 5% จากค่างวดเดิม และส่งผลให้ธนาคารจะเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระคืน แต่ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร และเชื่อว่ากำลังซื้อจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหาภาค ซึ่งทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดการตัวเลข GDP ในปี 2565 ไว้ที่ 3.4% และปีหน้า 3.8%”
จากปัจจัยการเติบโตของผลกากรดำเนินงานในงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.65) ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือน ปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ตามลำดับ
สำหรับความคืบหน้าการเปิดตัวโครงการ คุณาลัย นาวาร่า บางขุนเทียน นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งได้การตอบรับที่ดี โดยมียอดจองที่เข้ามากว่า 45 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการโดยรวม ประมาณ 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 1 ปี 2566
“โครงการคุณาลัย นาวาร่า เป็นโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 63 ตรว. ราคาเริ่มต้นที่ 5.98 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านในโซนธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในโซนบางขุนเทียน และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม จากอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมและผลการดำเนินของKUN ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานสำหรับปี2565 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15% เมื่อเทียบจากปีก่อน และจะเป็นการทำออลไทม์ไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ของบริษัทฯ เนื่องจากไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่น จะโดดเด่นทั้งยอดขาย และยอดโอน ดังนั้นเป้ายอดขายในปีนี้สามารถแตะระดับ 1,700 ล้านบาท ได้ตามแผนที่วางไว้แน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com
SCG Solar Roof Solutions ปล่อยแคมเปญ ‘Home Energy Management การบริหารจัดการพลังงานในบ้านได้ทั้งหลัง’
นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ Vice President – Housing Products and Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระบบหลังคาโซลาร์สำหรับที่พักอาศัย พร้อมโซลูชันครบวงจร เราเล็งเห็นถึงการพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงพัฒนาสินค้าและบริการให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนและผลักดันให้พลังงานสะอาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น มุ่งเน้นในการพัฒนาโซลูชันให้ตอบสนองความต้องการของที่อยู่อาศัยในปัจจุบันได้อย่างสูงสุด ในด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างตื่นตัวต่อการใช้ระบบโซลาร์เป็นอย่างมาก ซึ่งในระยะหลังได้มีการนำระบบโซลาร์มาใช้ติดตั้งให้บ้านพักอาศัยเพื่อเป็นจุดขายสำหรับโครงการบ้านพักอาศัย และรวมถึงการใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์ในส่วนกลางของหมู่บ้านที่มีการใช้ไฟในช่วงกลางวัน ซึ่งทิศทางในอนาคตจะมีระบบการซื้อขายไฟในชุมชนเดียวกัน และระหว่างชุมชน ซึ่งจะทำให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ “เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” จึงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความนิยมและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างตรงจุด สัมผัสถึงนวัตกรรมขั้นสุดของหลังคาโซลาร์ที่คุณมั่นใจ พร้อมส่งแคมเปญ ‘Home Energy Management การบริหารจัดการพลังงานในบ้านได้ทั้งหลัง’ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ไฟฟ้าในบ้านของคนยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุม ยกระดับให้การใช้ชีวิตในบ้านเป็น ‘Smart Living’ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์รูฟ ที่มีทั้งระบบ On grid เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟในเวลากลางวันเป็นหลัก และระบบ Hybrid ที่ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิตในบ้าน สามารถกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยมีแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุม ตรวจสอบการผลิตไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้อย่างเรียลไทม์ เพิ่มความสะดวกสบาย และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการมีสินค้าและบริการอย่าง เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า หรือ EV Charger ซึ่งเป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ พร้อมชูจุดแข็งด้วย 2 หัวใจหลัก คือ 1) มั่นใจไร้กังวล โดยมีกระบวนการตรวจสอบความพร้อมของหลังคา (Roof Health Check) เพื่อมั่นใจว่าหลังคามีความพร้อมในการติดตั้งแผงโซลาร์ และยังมั่นใจในความแข็งแรง ไม่รั่วซึมของหลังคา ด้วยนวัตกรรม Solar Fix เอกสิทธิ์เฉพาะเอสซีจี 2) One Stop Service ด้านการให้บริการและการดูแลหลังการขายจากผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่การตรวจสอบความพร้อมของหลังคาก่อนติดตั้งโซลาร์ ออกแบบ ติดตั้ง และขออนุญาตกับภาครัฐให้อย่างครบวงจร เพื่อให้การติดตั้งโซลาร์ รูฟเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน และยังสามารถลดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 60% พร้อมรับประกัน 25 ปีโดยเอสซีจีอีกด้วย
“เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน ตั้งเป้าขยายการเติบโตสู่ในตลาด Solar Rooftop สู่การเป็นผู้นำระบบหลังคาโซลาร์ในตลาด Residential ประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจากแคมเปญ Home Energy Management จะทำให้ยอดขายในกลุ่มบ้านพักอาศัย ปี 2022 ขยับเติบโตแตะ 300% หรือเทียบ 3 เท่าจากปี 2021 นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม SMEs ที่ให้บริการโดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% ของยอดขายทั้งหมด ทั้งนี้ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดและการพัฒนาโซลูชัน จะช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งของเอสซีจีสู่ผู้นำด้านระบบหลังคาโซลาร์ เซลล์ แบบครบวงจรในกลุ่มบ้านที่พักอาศัย และเดินหน้าพัฒนาโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพลังงานภายในบ้าน โดยตั้งเป้าหมาย ยอดขายที่ 2,000 ล้านบาท ในปี 2023” คุณวิโรจน์ กล่าวปิดท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com
สศอ. หนุนไทยฮับยานยนต์ไฟฟ้า ลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมจัดการประชุม APEC Automotive Dialogue ครั้งที่ 36 พร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืน เสนอแนวทางการขนส่งสาธารณะสีเขียว ผ่านแนวคิด BCG Economy หวังผลักดันนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน
นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565 กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) โดย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในฐานะเจ้าภาพร่วมจัดการประชุม APEC Automotive Dialogue (APEC AD) ครั้งที่ 36 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อติดตามสภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ และนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของสมาชิกเอเปค รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศน์ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอแนวทางการขนส่งสาธารณะสีเขียว ในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สำหรับเขตเศรษฐกิจเอเปคที่ควรผลักดัน ประกอบด้วย 1. การสนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านนโยบายการสร้างแรงจูงใจและกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
2.การสนับสนุนอุตสาหกรรมแบตเตอรี่อย่างยั่งยืนผ่านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมในการผลิตแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดการใช้คาร์บอนในกระบวนการผลิต และใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
3.การจัดทำกรอบนโยบายสำหรับยานยนต์อัตโนมัติ ผ่านการศึกษาในประเด็นการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี
4.การผลักดันนโยบายการใช้ยานพาหนะร่วมกัน การใช้ยานพาหนะขนาดเล็ก และใช้การขนส่งสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ และมลพิษทางอากาศ
สำหรับการดำเนินกิจกรรมของ APEC AD สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมและแนวคิดหลัก ของไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 รวมทั้งแนวทางการผลักดันนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและพลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนตามทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์และความต้องการของตลาดโลก
ทั้งนี้ สศอ. และหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ความร่วมมือกับสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ในการขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ยืนระยะมือ 1 ของโลก งานท้าทาย “โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล”
เป็นไปตามที่ผู้คร่ำหวอดในวงการกอล์ฟโลกคาดการณ์กันไว้ไม่มีผิด ไม่ช้าก็เร็ว “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักหวดวงสวิง วัย 19 ปี ที่ฟอร์มดีต่อเนื่อง จะก้าวขึ้นมาเป็นมืออันดับ 1 ของโลก
และในที่สุดก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จากการประกาศจัดอันดับคะแนนสะสมกอล์ฟหญิงของแอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 สาวไทยก้าวไปยืนหนึ่งของโลกได้เป็นที่เรียบร้อย
เป็นอีกประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยที่ต้องบันทึกไว้!!!
โดยอาฒยาขยับจากอันดับ 2 ขึ้นมาเป็นมือ 1 กอล์ฟหญิงโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ มีคะแนนเฉลี่ย 7.1253 คะแนน แซงหน้าโค จิน ยอง โปรเกาหลีใต้ ที่มีคะแนนเฉลี่ย 7.0928 คะแนน ได้สำเร็จ
และนั่นส่งให้โปรจากจังหวัดราชบุรีกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 16 ที่ได้ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก และเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ของไทย ต่อจาก “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล รุ่นพี่ที่เคยทำได้
อีกทั้งยังเป็นรุกกี้ หรือดาวรุ่งคนที่ 2 ที่ขึ้นมือ 1 โลก ต่อจากพัค ซอง ฮยอน โปรเกาหลีใต้ ที่ทำได้เมื่อปี 2017 รวมถึงสาวไทยรายนี้ยังเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ที่ครองมือ 1 ของโลก ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ด้วยวัย 19 ปี 8 เดือน 11 วัน ต่อจากลิเดีย โค ของนิวซีแลนด์ ซึ่งยึดมือ 1 โลก ด้วยอายุ 17 ปี 9 เดือน 9 วัน
ทั้งนี้ เหตุผลที่ทำให้ “โปรจีน” สร้างชื่อได้เช่นนี้ แน่นอนมาจากผลงานของเจ้าตัว ที่ยอดเยี่ยม ในปี 2022 ลงแข่งขันไปแล้ว 24 รายการ คว้าไปได้ 2 แชมป์
จากรายการ เจทีบีซี คลาสสิก ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ แชมป์แรกของเธอ ต่อมาได้แชมป์วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิป ที่รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 ได้อีก
แถมตอนนี้ ยังนำอยู่ในอันดับ 1 นักกอล์ฟที่จบใน 10 อันดับแรก รวม 14 รายการ นำอันดับ 1 คะแนนสะสมรุกกี้แห่งปี 1,487 คะแนน อันดับ 3 สกอร์เฉลี่ยต่ำสุดในทัวร์ 69.432 คะแนน
อันดับ 4 คะแนนสะสมนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 129 คะแนน อันดับ 1 เบอร์ดี้รวมสูงสุด 375 เบอร์ดี้ อันดับ 2 นักกอล์ฟที่ทำสกอร์ช่วง 60 รวมได้ 44 รอบ และอันดับ 2 ร่วม นักกอล์ฟที่ทำอีเกิ้ลรวมสูงสุด ในทัวร์ 11 อีเกิ้ล
ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
หลักใหญ่ใจความที่บรรดาเกจิต่างก็คาดเอาไว้ว่า อาฒยาจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับท็อป เนื่องจาก นักกอล์ฟสาวไทยฉายแววมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ยังเป็นมือสมัครเล่นแล้วค่อยๆไต่อันดับบินสูงเรื่อยมา
“โปรจีน” สร้างความฮือฮา และกลายเป็นที่รู้จักครั้งแรกๆในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นจากการคว้าแชมป์ เลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการเลดีส์ ยูโรเปียน ไทยแลนด์ แชมเปียนชิป 2017 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ด้วยวัยเพียง 14 ปี 4 เดือน 19 วัน กลายเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุด ที่คว้าแชมป์รายการอาชีพได้สำเร็จ ก่อนที่เธอจะมาได้แชมป์รายการนี้อีกครั้งในปี 2019 ด้วยวัย 16 ปี
ต่อมารับใช้ชาติคว้า 2 เหรียญทอง มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย และเหรียญทอง ทีมผสม มหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2018 ที่อาร์เจนตินา
เข้าปี 2020 ได้เวลาอาฒยาเทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพ โดยได้ลงเล่นเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ เต็มตัว ถัดมา ปี 2021 ระเบิดฟอร์ม คว้า 2 แชมป์ ทิปสปอร์ต เช็ก เลดีส์ โอเพ่น และวีพี แบงก์ สวิส เลดีส์ โอเพ่น ร่วมด้วยการจบ 10 อันดับแรก 14 รายการ ทำเงินรางวัลได้สูงสุดของเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์
พร้อมรับ 3 รางวัลใหญ่ของเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ทั้งเรซ ทู คอสตา เดล โซล ออเดอร์ ออฟเมอริต หรือมือ 1 ของทัวร์ ปี 2021 โดยทำสถิติเป็นนักกอล์ฟหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัลนี้ ด้วยวัย 18 ปี 9 เดือน 8 วัน, ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 หรือ รุกกี้แห่งปี และนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี
จากผลงานดังกล่าว ทำให้สาวไทยขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟหญิง มืออันดับ 19 ของโลก เมื่อจบปี 2021 พร้อมคว้าตั๋วขึ้นไปเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2022 และโชว์วงสวิงจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้ว
อาฒยากล่าวว่า การขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก มีความหมายอย่างมากสำหรับทีมงานของตน ครอบครัวของจีน กองเชียร์ และตัวเธอเอง
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้จารึกชื่อตัวเอง ไว้ท่ามกลางนักกีฬาระดับโลก เรื่องนี้พิเศษมาก แต่การจะรักษาไว้ยากกว่ามาก ยังต้องเรียนรู้อีกมากจากนักกีฬาระดับตำนาน และผู้เล่นปัจจุบันทั้งในและนอกสนาม
พร้อมกับย้ำว่าจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อ ครอบครัว ทีมงาน กองเชียร์ และประเทศชาติ
เรียกได้ว่าจากนี้เลี่ยงไม่ได้เลย ที่ทุกสายตาของวงการกอล์ฟโลกและกีฬาโลก จะจับจ้องมาที่ “โปรจีน” อาฒยา ว่าผลงานของเธอจะเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะกับ 2 รายการที่เหลือในปีนี้ ทั้ง โตโต เจแปน คลาสสิก ที่แข่งขันวันนี้วันสุดท้าย ที่ญี่ปุ่น และส่งท้ายปี ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิป วันที่ 17-20 พฤศจิกายน ที่สหรัฐอเมริกา อีกทั้งในการแข่งขันปีต่อๆไปจะเพิ่มสถิติอะไรได้อีก
รวมถึงงานที่ท้าทายของสาวไทยรายนี้ กับการจะยืนระยะมือ 1 ของโลกได้นานมากน้อยเพียงใด หลังจากรุ่นพี่อย่าง “โปรเม” เอรียา ขึ้นมือ 1 ของโลกไว้ได้ 3 ช่วงเวลา
ช่วงแรก วันที่ 12-25 มิถุนายน 2017 นาน 2 สัปดาห์ ช่วงที่ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2018-19 สิงหาคม 2018 นาน 3 สัปดาห์ และช่วงที่ 3 วันที่ 29 ตุลาคม 2018-3 มีนาคม 2019 นาน 18 สัปดาห์
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
แนะผู้ปกครองพาเด็กเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะผู้ปกครองควรให้บุตรหลาน โดยเฉพาะ เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี ควรได้รับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้น
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์โควิดในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและประชาชนส่วนใหญ่เริ่มใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น อีกทั้งเป็นโรคประจำถิ่น แต่การป้องกันตนเองจากโควิดยังคงต้องปฏิบัติต่อไป โดยเฉพาะความปลอดภัยของเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี ควรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด (ฝาสีแดง) จำนวน 3 เข็ม ควรฉีดเข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 1 เดือนและเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มสอง 2 เดือน และผู้ปกครองสามารถให้เด็กฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคอื่น ๆได้ จะช่วยลดความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมถึงอาจอาจพบภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ ปอดอักเสบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเด็กเล็ก และเด็กที่มีโรคประจำตัว จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า เมื่อเปรียบเทียบความรุนแรงของโรคโควิด-19 ระหว่างเด็กเล็ก และเด็กโต พบว่า เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มีอัตราการเกิดปอดอักเสบรุนแรง สูงกว่ากลุ่มเด็กอายุ 5 – 14 ปี ถึง 4 เท่า และพบอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าถึง 3 เท่า
นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเห็นได้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความสำคัญในเด็ก เนื่องจากโรคโควิด-19 ก่อให้ความรุนแรงในเด็ก โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กเล็ก และวัคซีนมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่รุนแรงได้ดี และวัคซีนมีความปลอดภัยสูง ซึ่งนอกจากการได้รับวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว ผู้ปกครองควรป้องกันตนเองและบุตรหลานจากการติดเชื้อโควิดด้วยการสวมหน้ากากอนามัย การหลีกเลี่ยงไปสถานที่แออัด การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ การรักษาระยะห่าง แต่หากติดเชื้อโควิดขอให้สังเกตุอาการอย่างใกล้ชิดและหากมีอาการที่รุนแรง เช่น ไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสต่อเนื่องมากกว่า 1 วัน ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ขอเชิญผู้ปกครองทุกท่านนำบุตรหลานตั้งแต่อายุ 6 เดือนจนถึง 18 ปี รับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ทุกวันศุกร์ (ที่ไม่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) ด้วยการลงทะเบียนผ่าน QR Code ทาง Website : www.childrenhospital.go.th และ Facebook Fanpage : สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
เสาวรส สรรพคุณของผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดที่มากไปด้วยคุณค่า การันตีความคู่ควรกับคนทุกวัย
เสาวรส สรรพคุณของผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดที่มากไปด้วยคุณค่า การันตีความคู่ควรกับคนทุกวัย
ผลไม้อย่างเสาวรสหรือกะทกรกที่เรียกกัน ทุกคนคงรู้ประโยชน์ของเสาวรสกันมาบ้าง แต่ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวจัดบวกกับกลิ่นเฉพาะตัวของเสาวรส อาจทำให้หลายคนส่ายหน้าและไม่ยอมเปิดใจลองชิมเสาวรสเลยสักครั้ง ซึ่งนั่นไม่ต่างอะไรจากการปฏิเสธผลไม้เพื่อสุขภาพสรรพคุณเด็ดดวงกันเลยทีเดียว
เสาวรส ผลไม้ชนิดนี้ควรรู้จัก
เสาวรส จริง ๆ แล้วถูกเรียกในหลายชื่อ ทั้งเสาวรส กะทกรก หรือภาษาอังกฤษที่เรียกกันว่า แพสชั่นฟรุต (Passion fruit) ลักษณะต้นของเสาวรสเป็นไม้เถา ใบเป็นใบเดี่ยว มีขอบหยัก ส่วนลูกเสาวรสนั้นมีลักษณะเป็นรูปไข่ ผลอาจมีสีม่วง สีเหลือง สีส้มอมน้ำตาล แล้วแต่สายพันธุ์ โดยด้านในผลเสาวรสจะประกอบไปด้วยเนื้อและเมล็ดเสาวรสจำนวนมาก ส่วนรสชาติก็มีทั้งเปรี้ยวจัดและเปรี้ยวอมหวาน ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์เช่นเดียวกันค่ะ
เสาวรส สรรพคุณที่ทุกคนคู่ควร
ประโยชน์ของเสาวรสมีนับไม่ถ้วนพอสมควร โดยเฉพาะใครที่อยากลดไขมันในเลือด บำรุงสายตา และผิวพรรณ ไม่ควรพลาดเสาวรสด้วยประการทั้งปวง ทว่าสรรพคุณเสาวรสไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ แต่ยังมีประโยชน์ตามบรรทัดข้างล่างนี้ด้วย
– เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ในขณะที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 97 แคลอรีเท่านั้น
– เสาวรสดีต่อการขับถ่าย ด้วยความที่มีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ไปได้ในตัว
– ห่างไกลจากไข้หวัด เพราะเสาวรส 100 กรัม พกวิตามินซีมาด้วยถึง 30 มิลลิกรัม การันตีได้ว่า กินเสาวรสเป็นประจำแล้วจะห่างไกลจากไข้หวัด แถมมีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงแน่นอน
– บำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เพราะไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยวิตามินเอเท่านั้น ทว่าเสาวรสยังพ่วงสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนและคริบโทแซนทินเบต้า (cryptoxanthin-ß) ซึ่งผ่านการศึกษามาแล้วว่า สารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
– บำรุงหัวใจและความดันโลหิต เพราะเสาวรสอุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384 มิลลิกรัมต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกายของเรา รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย
– ป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งช่องปาก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์และวิตามินเอมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงมะเร็งทั้ง 2 ชนิดนี้ได้
เสาวรส กินยังไง ?
เห็นหน้าตาประหลาด ๆ สีสันก็แซ่บได้ใจ แถมยังมีกลิ่นเฉพาะตัวอีกต่างหาก หลายคนจึงเกิดข้อสงสัยว่า เจ้าเสาวรส หรือกะทกรกนี้กินยังไงกันละเนี่ย ต้องบอกตรงนี้ค่ะว่า ส่วนมากแล้วคนจะนิยมคั้นน้ำเสาวรสกัน โดยวิธีทำน้ำเสาวรสที่อร่อยและคงคุณประโยชน์ได้ครบสามารถทำได้ตามนี้ (น้ำเสาวรส เครื่องดื่มมหัศจรรย์ แก้วนี้เพื่อผู้สูงวัย !) ซึ่งประโยชน์ของน้ำเสาวรสก็ยืนยันได้จากงานวิจัยของ ดร.ศุภวัชร สิงห์ทอง คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมคณะ ที่พบว่า การดื่มน้ำเสาวรสมีส่วนทำให้ปริมาณวิตามินเอและวิตามินอีในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น และยังทำให้ปริมาณไซโตไคน์ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบลดลง นอกจากนี้การดื่มน้ำเสาวรสยังช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ควรดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ประโยชน์ของน้ำเสาวรสเด็ดสมคำร่ำลือจริง ๆ และนอกจากผลที่นำมาคั้นน้ำดื่มแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของเสาวรสก็นำมากินได้เช่นกัน โดยเฉพาะสรรพคุณด้านสมุนไพรของเสาวรสที่นิยมกินกันตามนี้
– ยอด สามารถรับประทานเป็นผักสด แต่จะมีรสขมเล็กน้อย อาจนำมาจิ้มน้ำพริกหรือนำไปแกงยอดเสาวรสก็ได้
– เนื้อไม้ ตำรับสมุนไพรใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษ และใช้รักษาบาดแผล
– ราก แก้ไข้ รักษาผื่นคัน และรักษาโรคกามโรค โดยนำรากไปต้มน้ำ
– ใบ นำมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ กินเป็นยาถ่ายพยาธิได้
– ดอก ขับเสมหะ แก้ไอ
แต่ถ้าใครอยากลองนำเสาวรสมาทำเมนูอื่น ๆ เราก็มีเมนูเสาวรสมาไกด์ให้ด้วยล่ะ ใครอยากรับประโยชน์เสาวรสพร้อมความอร่อยแสนฟิน ลองทำเมนูเสาวรสตามวิธีทำเหล่านี้เลยจ้า
เมนูเสาวรส
– ชามะนาวเสาวรส เปรี้ยวถึงใจได้สุขภาพ
– เสาวรสนมสดสีม่วง เครื่องดื่มแนวใหม่อร่อยกว่าเดิม
– ค็อกเทลขิงผสมเสาวรส เครื่องดื่มสำหรับวันสบาย ๆ
– น้ำเสาวรส น้ำฟักข้าว น้ำหมากเม่า เครื่องดื่มจากผักผลไม้พื้นบ้าน
– ครีมบูเล่เสาวรส รสชาติใหม่ชวนลิ้มลอง
– กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส หวานเย็นคลายร้อน ชื่นใจได้ประโยชน์
– แยมมะละกอโฮมเมด วิธีทำแยมกินเอง จับของเหลือมาทำของดี
– น้ำฟักข้าว เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิต ทำอย่างไร ดื่มแบบไหนให้อร่อย
เมล็ดเสาวรส กินได้ไหม
แนะนำเมนูเสาวรสไว้ซะเยอะแยะ แต่ก็เชื่อว่าหลายคนคงมีข้อสงสัยกันพอสมควรในเรื่องเมล็ดของเสาวรสที่มีอยู่เยอะเหลือเกิน แล้วสรุปเจ้าเมล็ดเสาวรสนี้กินได้ไหม ตอบตรงนี้ชัด ๆ เลยค่ะว่า เมล็ดเสาวรสกินได้ ทว่าควรจะนำเมล็ดไปปั่นละเอียดหรือนำไปตำให้แหลกพอประมาณ เพื่อช่วยให้ลำไส้ย่อยเมล็ดเสาวรสได้สะดวกขึ้นนั่นเอง
กินเสาวรสทุกวันดีไหม
แม้ประโยชน์ของเสาวรสจะดีต่อสุขภาพ แต่นายแพทย์วัลลภ พรเรืองวงศ์ จากโรงพยาบาลห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ได้นำผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซาท์แคลิฟอร์เนียและฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเตือนกันว่า เสาวรสมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ตับ ซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) เพิ่มสูงขึ้น จนกระตุ้นเซลล์มะเร็งที่ตอบสนองต่อโกรทฮอร์โมนให้แบ่งตัวเร็วขึ้นได้ โดยอ้างอิงจากผลวิจัยที่พบว่า ผู้หญิงที่กินเสาวรส 1 ใน 4 ผลขึ้นไปทุกวัน อาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นราว 30% ได้
ทว่านายแพทย์วัลลภ พรเรืองวงศ์ ก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า การศึกษานี้เป็นการศึกษาที่ทำในประชากรหมู่มาก และเป็นเพียงการศึกษาแรกเริ่มซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนหรือคัดค้านต่อไปในอนาคต แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ควรกินเสาวรสสับเปลี่ยนกับผักและผลไม้อื่น ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากอาหารหลาย ๆ ชนิดอย่างครบถ้วน
ข้อควรระวังในการกินน้ำเสาวรส ?
ในเมื่อกินเสาวรสทุกวันอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้ แล้วหากกินน้ำเสาวรสเป็นประจำอย่างนี้จะมีโทษหรือเปล่า คำถามนี้อาจตอบได้ว่า เราควรกินน้ำเสาวรสสลับกับการบริโภคผักผลไม้และอาหารเพื่อสุขภาพอื่น ๆ หมุนเวียนกันไป อีกทั้งหากจะดื่มน้ำเสาวรสก็ควรดื่มที่คั้นสด ๆ ไม่เติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเพิ่มความหวานลงไปอีก หรือถ้าไม่ชอบรสเปรี้ยวจริง ๆ ก็ให้เติมน้ำตาลลงไปได้เล็กน้อย เพื่อจะได้รับประโยชน์จากเสาวรสอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีโรคจากน้ำตาลที่เติมมาในแก้วเป็นของแถมนะคะ ที่สำคัญผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้ว ควรดื่มน้ำเสาวรสพอประมาณด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก skm.ssru.ac.th
19 คำอวยพรภาษาจีน ที่ใช้ได้กับทุกเทศกาล (祝词)
คำอวยพรในทุกเทศกาล มีความสำคัญอย่างไรกับชาวจีน ?
ในทุกเทศกาลของคนไทยเชื้อสายจีน ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีนั้น คือการไปไหว้ขอพรจากญาติผู้ใหญ่ ซึ่งผู้น้อยควรมีของไปไหว้ผู้ใหญ่ด้วยเสมอ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพนับถือ แสดงความรัก และความปราถนาดีที่มีต่อกัน ส่วนผู้ใหญ่ก็จะมีการแจกอั่งเปา รวมถึงการอวยพรซึ่งกันและกันด้วย สำหรับการกล่าวคำอวยพรภาษาจีน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกหลานเชื้อสายจีน หรือกำลังจะแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกับคนจีนควรรู้ และออกเสียงให้ถูกต้องค่ะ
ตัวอย่างคำอวยพรภาษาจีน ที่สามารถใช้ได้กับทุกเทศกาล
คำอวยพรภาษาจีนนั้น ถือว่ามีความสำคัญมากกับคนไทยเชื้อสายจีนในทุกเทศกาล เราได้รวบรวมคำอวยพรภาษาจีนอันเป็นมงคล พร้อมทั้งอินพิน คำอ่าน และคำแปลภาษาไทยมาให้เรียนรู้กัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับทุกเทศกาล ไปดูกันเลยค่ะ
1. 新正如意,新年发财 xīn zhèng rú yì xīn nián fā cái (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียงฟาไฉ ) ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ขอให้ร่ำรวย
2. 万事如意 wàn shì rú yì (ว่านซื่อหยูอี้) สมความปรารถนาในหลายๆเรื่อง
3. 恭喜发财 gōng xǐ fā cái (กงสี่ฟาไฉ) ขอให้ร่ำรวย
4. 财源广进 cái yuán guǎng jìn (ไฉเหยียนกว่างจิ้น) เงินทองไหลมา
5. 招财进宝 zhǎo cái jìn bǎo (เจาไฉจิ้นเป่า) เงินทองไหลมาเทมา
6. 年年有余 nián nián yǒu yú (เหนียนเหนียนโหย่วอวี๋) เหลือกินเหลือใช้ทุก ๆ ปี
7. 事事顺利 shì shì shùn lì (ซื่อซื่อซุ่นลี่) ราบรื่นในทุก ๆ เรื่อง
8. 金玉满堂 jīn yù mǎn táng (จินยวี้หม่านถัง) ร่ำรวยเงินทอง
9. 一本万利 yì běn wàn lì) (อิ้เปิ่นว่านลี่) กำไรมากมาย
10. 大吉大利 dà jí dà lì (ต้าจี๋ต้าลี่) ขอให้มีมหามงคล ผลกำไรเพิ่มพูน
11. 年年发财 nián nián fā cái (เหนียนเหนียนฟาไฉ) ร่ำรวยตลอดไป
12. 龙马精神 lóng mǎ jīng shén (หลงหม่าจินเสิน) สุขภาพแข็งแรง
13. 吉祥如意 jí xiáng rú yì (จี๋เสียงหยูอี้) สมหวังในโชคชะตา
14. 好运年年 hǎo yùn nián nián (ห่าวยวิ่นเหนียนเหนียน) โชคดีตลอดไป
15. 四季平安 sì jì píng ān (ซื่อจี้ผิงอัน) ปลอดภัยตลอดปี
16. 一帆风顺 yì fān fēng shùn (อี้ฟานเฟิงซุ่น) ทุกอย่างราบรื่น
17. 愉快 yúkuài (ยวีไขว้) มีความสุข
18. 恭贺新禧 gōng hè xīn xǐ (กง เฮ่อ ซิน สี่) ขอให้มีแต่เรื่องน่ายินดีปรีดา
19. 福禄双全 fú lù shuāng quán (ฟูลู่ซวงเฉวียน) สิริมงคลด้วยเงินทองและอำนาจวาสนา
ไม่ว่าเทศกาลไหนของคนไทยเชื้อสายจีน เราสามารถเลือกคำอวยพรภาษาจีน ให้เหมาะสมตามโอกาสต่าง ๆ ซึ่งมีความหมายที่ดี อันเป็นมงคลเหล่านี้ ไปพูดอวยพรกับญาติผู้ใหญ่ หรือคนที่เรารัก เพื่อสร้างความประทับใจต่อกันได้อย่างแน่นอนเลยละค่ะ
ขอบคุณข้อมูล sirithapeschool.com
สะเทือนทั้งโลก!!! ลือ “Meta” บริษัทแม่ของ Facebook อาจจะปลดพนักงานรอบใหญ่สุดในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวหลายแห่งได้เปิดเผยว่า Meta Platforms Inc. บริษัทแม่ของ Facebook มีแผนว่าจะปลดพนักงานครั้งใหญ่หลังอีกครั้ง จากช่วงปลายเดือนกันยายนมีการปลดพนักงานแบบเงียบๆ ไปครั้งก่อน
โดยรอบนี้มีการเปิดเผยจาก The Wall Street Journal ว่าอาจจะมีการปลดพนักงานครั้งใหญ่กว่าพันคน โดยทั้งหมดจะออกมาเปิดเผยในวันพุธที่จะถึงนี้ ซึ่ง Meta ได้มีกรายงานงานว่า อาจจะมีการปลดพนักงานกว่า 87,000 คนทั่วโลก ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
แต่ทาง Meta ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าวและมีความเห็นจาก Mark Zukerberg ว่า ในปี 2023 จะลงทุนในการเติบโตที่เป็นลำดับที่สำคัญ เท่ากับบางทีมที่เติบโตอยู่ก็ยังคงอยู่รอดแต่ถ้าไม่เติบโตแล้วก็อาจจะต้องถูกยุบไป และคาดว่าในปี 2023 จะมีขนาดองค์กรเท่าเดิมหรือเล็กกว่าเดิมเล็กน้อย
ทั้งนี้ Meta ยังคงเน้นเรื่องของการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ สำหรับ Instagram Reel, การโฆษณา รวมไปถึง Metaverse
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากแผนก Reality Labs ของ Meta ว่าขาดทุนกว่า 3.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในระยะเวลา 3 เดือน แต่ทาง Mark Zuckerberg เผยว่า การเดิมพันกับแบบทดลองจะทำให้บริษัทจะได้ผลและเมื่อเวลาผ่านไปการลงทุนในส่วนที่สำคัญก็จะมีความสำคัญต่อธุรกิจของเราในอนาคต
แต่ว่าจำนวนที่แท้จริงของการปลดคนครั้งใหญ่ที่ยังคงต้องรอติดตามกันว่า ส่วนไหนของ Meta ที่จะต้องถูกปลดออกเพิ่มกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 07/11/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,500.00 | 29,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,911.00 | 28,970.76 | 30,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,719.90 | 26,073.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,528.80 | 23,176.61 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 860.00 | 13,037.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 669.00 | 10,142.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,980.00 | 30,016.80 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/11/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.15 | 36.15 | 36.85 | 36.85 | 36.85 | 36.15 | 36.15 | 36.15 | 36.85 | 36.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.88 | 35.88 | 36.58 | 36.58 | 36.58 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 36.58 | 35.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.04 | 35.04 | 35.74 | 35.74 | 35.74 | – | 35.04 | 35.04 | 35.74 | 35.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.64 | 33.64 | – | – | – | – | – | – | – | 33.64 |
เบนซิน 95 | 43.56 | – | – | – | 44.71 | – | 44.06 | 44.01 | – | 43.56 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.64 | 35.44 | 35.44 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.44 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.64 | 35.44 | 35.44 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.44 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.64 | – | 35.44 | – | 34.94 | 34.94 | 35.74 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 45.86 | 45.56 | 45.56 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |