รังสิต ‘ทำเล’คลัสเตอร์อุตสาหกรรม แอลฟา ปักหมุด คลังสินค้า 5.6 หมื่นตร.ม.
“แอลฟา” ลงเสาเอก คลังสินค้าใหม่ เขย่าทำเล ยุทธศาสตร์ รังสิต ปทุมธานี พื้นที่เช่า 56,000 ตร.ม. ประเดิมลูกค้ายักษ์ “เอสซีจีโฮม รีเทล”
7 ธ.ค.2565 – นายปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเดินหน้าทำพิธีลงเสาเอกโครงการคลังสินค้า แอลฟา รังสิต (ALPHA Rungsit) หนึ่งในโครงการร่วมทุนพัฒนากับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ตามแผนงาน 5 ปีที่มุ่งพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าในทำเลยุทธศาสตร์ให้ได้รวม 1 ล้าน ตร.ม. โดยตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 54 ไร่ บนถนนพหลโยธิน กม.33 ที่มีความโดดเด่นด้านทำเล ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญด้านการขนส่ง มีพื้นที่รวมกว่า 87,000 ตร.ม. คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าสูงถึง 56,000 ตร.ม.
“โครงการคลังสินค้า แอลฟา รังสิต เป็นโครงการที่มีผู้ใจสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มพัฒนา และผู้เช่ารายแรกที่ให้ความไว้วางใจลงนามสัญญาเช่าระยะยาวแล้วคือ บริษัท เอสซีจีโฮม รีเทล จำกัด ในเครือเอสซีจี ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของทำเลและคุณภาพของคลังสินค้าที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมทันสมัย ได้มาตรฐานตอบโจทย์ความต้องการเป็นอย่างดี” นายปธาน กล่าว
ทั้งนี้ คลังสินค้าของเอสซีจีโฮม รีเทล จะเป็นการพัฒนาตามความต้องการของผู้เช่า (Built-to-Suit) โดยทีมงานของทั้ง 2 บริษัทร่วมกันออกแบบในทุกขั้นตอน เพื่อให้ตัวอาคารสามารถตอบสนองทุกกิจกรรมภายในคลังสินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อาทิ การออกแบบให้มีประตูเปิด 3 ด้าน การออกแบบ Floor Load ให้รองรับน้ำหนักได้ถึง 5 ตันต่อ ตร.ม. การวางระบบจัดเก็บสินค้าแบบวีเอ็นเอ (Very Narrow Aisle Racking System) เพื่อให้สามารถวางของแนวสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยยังสามารถเข้าถึงชั้นวางได้ง่าย การออกแบบฟังก์ชันและตกแต่งพื้นที่ออฟฟิศให้มีบรรยากาศน่าทำงาน ตลอดจนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาตอบโจทย์การทำงานในคลังสินค้า
ด้าน นายสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจีโฮม รีเทล จำกัด หรือ SCGHกล่าวว่า ทำเลย่านรังสิตถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญที่มีความได้เปรียบในการขนส่ง เหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์กระจายสินค้าประจำภูมิภาค (Regional Distribution Center) สนับสนุนการขนส่งสินค้าให้กับสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกต่อการประสานงานกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ของบริษัท ขณะเดียวกัน ยังเป็นทำเลย่านพักอาศัยที่มีหมู่บ้านขนาดใหญ่จำนวนมาก ถือเป็นทำเลที่เหมาะสมต่อการขนส่งสินค้าระยะสุดท้ายสู่มือผู้บริโภค (Last Mile Transportation) และทำให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ บริษัทจึงตัดสินใจเช่าพื้นที่ประมาณ 22,000 ตร.ม.ของโครงการแอลฟา รังสิต โครงการคลังสินค้าบนทำเลศักยภาพ เพื่อเป็นคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าหลักของบริษัท สามารถใช้จัดเก็บสินค้าได้มากกว่า 26,000 พาเลท พร้อมสนับสนุนการขนส่งสินค้าให้กับสาขาต่างๆ ตลอดจนรองรับการขยายสาขาเพิ่มเติมในอนาคต โดยจะบริหารพื้นที่กองเก็บ และพื้นที่รวบรวมสินค้าเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโครงการแอลฟา รังสิต (ALPHA Rungsit) ตั้งอยู่บน ถ.พหลโยธิน รังสิต คลอง 1 ในเขตพื้นที่สีม่วง (ที่ดินประเภทอุตสาหกรรม) ที่ใกล้กรุงเทพที่สุด มีที่ดินขนาดกว่า 54 ไร่ มีพื้นที่รวมกว่าประมาณ 87,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่ให้เช่ากว่า 56,000 ตร.ม. พัฒนาใน 2 ลักษณะ ได้แก่ คลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของผู้เช่า (Built-to-Suit หรือ BTS) และ คลังสินค้าสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน (Ready Built Warehouse หรือ RBW) ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าแบบ Ready Built แล้ว โดยยังมีพื้นที่ว่างเพียงพอรองรับความต้องการแบบ Built-to-Suit คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2/2566 โดยโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่สามารถรองรับความต้องการด้านคลังสินค้าได้หลากอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อีคอมเมิร์ซ ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์สุขภาพ บริการด้านโลจิสติกส์ ตลอดจนสินค้าอาหารสด เหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กระจายสินค้าห้องเย็น (Cold Chain Storage)
สำหรับ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) มุ่งดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.อสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Property) อาทิ คลังสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ สวนอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Order Fulfillment) 2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนเมือง (Urbanized Property) อาทิ บริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) ในคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร บริการคลังสินค้าออนไลน์ย่อย (Micro-fulfillment Center) 3.การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Services) อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มการบำบัดน้ำเสีย กลุ่มก่อสร้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ทะลวงทางตัน ‘อสังหาฯไทย’ เอพี ชิมลางบ้านเดี่ยว 3-5 ล. การแข่งขันที่ไม่ง่าย!
เปิดมุมมอง เจาะกรอบความคิดใหม่ของเอพี ผ่าน ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ‘นางพิมพรรณ ปรีชานนท์’ ภายใต้ความท้าทายของตลาดในเซกเม้นท์ ECONOMY ถอดสมการบ้านเดี่ยวที่ไม่แพง แต่มีพื้นที่และฟังก์ชั่นครบ
ปรากฎการณ์ทุบสถิติตัวเอง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้ ภาพปัญหาของ ‘กำลังซื้อ’ ฟื้นตัวช้า เศรษฐกิจติดหล่ม ‘หนี้ครัวเรือน’ ด้วยรายได้ 37,560 ล้านบาท และคว้ากำไรกว่า 4,700 ล้านบาท ในงวด 9 เดือน ปี 2565 ของ บริษัทเอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กับ ความท้าทาย วางตำแหน่งตัวเอง ให้เป็น ‘ผู้นำ’ ในตลาดแนวราบนั้น ยังคงมีความเคลื่อนไหวให้จับตามอง กระทั่งช่วงโค้งสุดท้ายของปีอย่างน่าสนใจ
เมื่อเอพี เปิดศึกตลาดใหม่ ผ่านการดันแบรนด์น้องใหม่ ‘โมเดน’ ในกลุ่มบ้านเดี่ยว มาชิมลางตลาดแบบดุดัน และถูกคาดหมายว่า น่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ ผู้พัฒนาฯ ที่กำลังปักหลัก บุกเจาะกำลังซื้อกลุ่มใหญ่ Young Generation คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ซับซ้อนและเฉพาะตัว แต่ราคาบ้าน ต้องจับต้องได้
ทั้งนี้ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ เปิดมุมมอง เจาะกรอบความคิดใหม่ของเอพี ผ่าน ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ‘นางพิมพรรณ ปรีชานนท์’ ภายใต้ความท้าทายของตลาดในเซกเม้นท์ ECONOMY ถอดสมการบ้านเดี่ยวที่ไม่แพง แต่มีพื้นที่และฟังก์ชั่นครบ ประเดิม 3 ทำเลใหม่ ชู ‘พระราม 2’ สนามแข่งของรายใหญ่ และ ก้าวต่อไปของอสังหาฯปี 2566 ยังไปต่อได้หรือไม่?
แบรนด์ MODEN พอร์ตใหม่บ้านเดี่ยว
นางพิมพรรณ ฉายภาพเบื้องต้นว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีก 11 โครงการ ภายใต้แผนงานทั้งปีที่ 60 โครงการ ส่วนแบรนด์ใหม่ข้างต้น จะเข้ามาเติมเต็มพอร์ตบ้านเดี่ยวให้ครบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จากเดิมมี CENTRO ราคา 6-12 ล้านบาท , CITY 12-มากกว่า 20 ล้านบาท และ ระดับท็อป THE PALAZZO มากกว่า 30 ล้านบาท ขณะราคาเริ่มไม่ถึง 4 ล้านบาท เป็นโอกาสที่น่าสนใจ แม้ต้องเล่นกับ กรอบต้นทุน และ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ถอดรหัสหาวิธีทำให้บ้านดูครบที่สุด ในราคาขายที่ลูกค้าต้องการ เพราะพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องการบ้านที่ใช้ชีวิตแบบคนเมือง อยู่ง่าย มีความปลอดภัยสูง แต่มีพื้นที่ธรรมชาติ ต้องการใช้พื้นที่เต็มที่ทั้งในและนอกบ้าน เพื่อเติมเต็ม และ ส่งเสริมตัวเองในโลกโซเซียล โดยจะประเดิมเปิด ‘โมเดน’ (MODEN) รวม 3 โครงการ มูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท
ถ่าง ‘ทำเล’ แข่งดุพระราม 2
ขณะโจทย์สำคัญของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอีกแง่ คือ การขุดเจาะหาทำเล ที่ยังมีดีมานด์ และ มีต้นทุนที่ดินไม่สูง เพื่อพัฒนาโปรดักส์ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ นางพิมพรรณ กล่าวว่า ภายใต้การบริหารต้นทุน ร่วมกับ ทีมออกแบบโปรดักส์ เพื่อขยายเซกเม้นท์ให้ครอบคลุมกับดีมานด์ที่น่าสนใจ ทำเลที่ตั้งของ แบรนด์ MODEN เซกเม้นท์ล่างสุด (ECONOMY) ระดับราคา 3-5 ล้านบาทนั้น ได้แก่ พระราม2 ,บางนา-ศรีนครินทร์ และ บางนา โดยจะเห็นได้ว่า ล้วนอยู่ในทำเลที่สามารถเข้า-ออก เมืองได้สะดวก มีจุดเชื่อมต่อกับทางด่วน และ วงแหวนรอบนอก
ขณะทำเลสำคัญอย่าง ‘พระราม 2’ ประเมินว่าเป็นอีกทำลที่มีความท้าทาย เพราะวันนี้กลายเป็น ‘ทำเล’ ยุทธศาสตร์ของผู้พัฒนารายใหญ่ๆ ระดับ TOP 10 มีโปรดักส์และระดับราคาใกล้เคียงกัน นับ 10 โครงการ ไม่นับรวม โครงการจาก ผู้ประกอบการเจ้าถิ่น เพราะ อนาคตพระราม2 จะมีดีมานด์ที่ร้อนแรง จากแผนมอเตอร์เวย์ใหม่ ทั้งดีมานด์ของคนในพื้นที่ ,คนทำงานกลุ่มโรงงานในนิคม และ คนทำงานในเมือง อย่างไรก็ดี คาดว่า ด้วยดีไซน์รูปลักษณ์ และ ฟังก์ชั่นใหม่ ของ MODEN จะแข่งขันได้ ประเมิน 204 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท จะสามารถปิดขายได้ไม่เกินระยะ 2 ปี
‘บ้านเดี่ยว – แนวราบ’ ยอดขายเกินเป้า
ความมั่นใจดังกล่าว ยังมาจากที่นางพิมพรรณ เผยว่า ขณะนี้ ทั้ง 3 โครงการ มียอดจองผ่านการลงทะเบียนเบื้องต้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาท ทั้งๆที่ยังไม่เปิดขาย สะท้อนถึงความสำเร็จของแนวคิด ‘การเอาราคาขายเป็นตัวกำหนดสิ่งที่ลูกค้าต้องการ’ และตอกย้ำ กลยุทธ์กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว ที่บริษัททำผลงานได้เติบโตดีเยี่ยม
โดย ม.ค.-ต.ค. 2565 บริษัท มียอดขายเกิดขึ้นจากโครงการแนวราบทั้งสิ้น 3.6 หมื่นล้านบาท ขยับเข้าใกล้เป้าหมายทั้งปีที่ 3.8 หมื่นล้านบาทแบบไม่ต้องลุ้น ขณะเฉพาะ ‘บ้านเดี่ยว’ หลังจากบริษัทให้น้ำหนัก และ เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 17 โครงการ พบในช่วง ม.ค.-ก.ย. มียอดขายอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท
“ตลาดบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านบาท ใหญ่มาก และ ท้าทายในแง่การแข่งขัน เพราะเป็นพื้นที่ของ TOP10 และ ยึดดีมานด์โดย TOP5 ขณะเอพีเอง เพิ่งเริ่มเข้ามา จากโอกาสที่มองเห็น ต่อยอดทาวน์เฮ้าส์ ส่วนตลาดใหญ่แนวราบ ยอมรับการแข่งขันดุ และแต่ละรายมีความเก่ง แต่จุดชี้วัด ประเมินว่า ขึ้นอยู่ที่กับการออกแบบเป็นหลัก”
เชื่อมั่น อสังหาฯ 66 ไปต่อไม่สะดุด
ทั้งนี้ เอพี ภายใต้ แผนขยายโครงการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และ บุกตลาดอย่างหนัก ในช่วงปี 2566 นั้น ผู้บริหารคนเดิม ให้มุมมองว่า มีความเชื่อมั่นว่าตลาดอสังหาฯ ปีหน้า ยังฟื้นตัวเติบโตได้ดี แม้แรงส่ง จากมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของรัฐ จะหมดไป เช่น การกลับมาบังคับใช้ LTV หรือ ท้ายที่สุด มาตรการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ 0.01% อาจไม่ได้รับการขยายต่อ แต่เนื่องจาก ‘ที่อยู่อาศัย’เปรียบเป็นปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการไทยมีความเก่งในการปรับตัว จะเห็นได้ว่า ในหลายๆวิกฤติที่เกิดขึ้น ก็ยังหาช่องทางไปต่อได้เสมอๆ
” อสังหาฯ ยังไม่ถึงทางตัน ความท้าทายก่อนๆหน้า เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าอุตสาหกรรมนี้เข้มแข็ง แม้ไม่มีมือหนุน หรือ ภาครัฐคอยกระตุ้น กลไกของตลาดก็ยังทำหน้าที่ได้ดี เพียงแต่ ในระยะข้างหน้า ดอกเบี้ยขาขึ้น ,ปัญหาแรงงาน ,กำลังซื้อหด และ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ดีเวลลอปเปอร์ อาจต้องตื่นตัวมากขึ้น ประเมินต้นทุน และพัฒนาโปรดักส์ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าให้ได้ ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า จากสัญญาณขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนต่างชาติ ฟันด์โฟลว์ที่อาจไหลออกจากตลาดหุ้นไทย
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.07 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า ค่าเงินบาทยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้ หากบรรยากาศในตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น
และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง (โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้)
นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่อาจไหลออกจากตลาดหุ้นไทยก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้
อย่างไรก็ดี เรามองว่า เงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าไปมากนัก โดยยังคงมองแนวต้านสำคัญในโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยในฝั่งปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทนั้น เรามองว่าโฟลว์ซื้อสุทธิบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ทั้งบอนด์ระยะสั้นและบอนด์ระยะยาว
รวมถึงแรงขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออกบางส่วนก็อาจพอช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ
ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.20 บาท/ดอลลาร์
ความกังวลแนวโน้มเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนอาจแตะระดับสูงกว่าที่ตลาดคาด (ไม่เกิน 5.00%) หลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการบริการโดย ISM รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงานนั้นออกมาดีกว่า ได้กดดันให้ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ต่างเดินหน้าเทขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth (Nvidia -3.8%, Amazon -3.0%, Apple -2.5%) ทำให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลง -2.00% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.44%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน (Exxon Mobil -2.8%, Chevron -2.6%) ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเฟดอาจฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอลงหนัก จนกระทบความต้องการใช้พลังงานได้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง -0.58% ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มธนาคารกลางหลัก ทั้งเฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นเทคฯ ยุโรป ต่างปรับตัวลดลง อาทิ Adyen -3.2%, ASML -0.8%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงานเช่นเดียวกันกับฝั่งสหรัฐฯ นำโดย BP และ TotalEnergies -1.8%
ด้านตลาดบอนด์ แม้ว่าผู้เล่นในตลาดจะเริ่มกังวลว่า เฟดอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับสูงกว่า 5.00% ตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ ทว่า ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดจากความกังวลดังกล่าว รวมถึงความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงหนักในปีหน้า ยังคงหนุนความต้องการถือ บอนด์ระยะยาวสหรัฐฯ ทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลง สู่ระดับ 3.54%
เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวใกล้ระดับ 3.50% ในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะรับรู้แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเฟดเดือนธันวาคม (วันพฤหัสฯ หน้า)
ฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.5 จุด หนุนโดยความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินผันผวน
ทั้งนี้ แม้บรรยากาศตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง จนทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง แต่ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านแถว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่ระดับ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในระยะสั้นราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลงบ้าง และเชื่อว่าอาจมีผู้เล่นบางส่วนรอจังหวะการพักฐานของทองคำในการเข้าทยอยซื้อ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินผลกระทบของการระบาด COVID-19 ต่อภาพเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะในฝั่งการค้าระหว่างประเทศ โดยตลาดมองว่า ภาคการค้าระหว่างประเทศของจีนจะซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัดจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ในจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
และภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง โดยยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนพฤศจิกายน อาจหดตัวมากขึ้นถึง -4.3%y/y ส่วนยอดการนำเข้า (Imports) ก็อาจหดตัวกว่า -7.1%y/y สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่สะท้อนภาวะหดตัวในอัตราเร่งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตอุตสาหกรรม
ส่วนในฝั่งไทย เราประเมินว่า แนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยที่ได้รับอานิสงส์จากการบริโภคในประเทศจะช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ยังคงอยู่ในระดับ 3.2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) จะทรงตัวที่ระดับ 6.0% (คิดเป็นการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า +0.3%)
ทั้งนี้ เงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากระดับฐานราคาสินค้าและบริการที่สูงในปีนี้ ขณะที่แรงกดดันด้านอุปทานก็เริ่มคลี่คลายลง ทำให้แม้เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
แต่ก็ไม่ได้น่ากังวลมากนัก ทำให้เราคงมองว่า ธปท. จะทยอยเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 25bps จนแตะระดับ 2.00% ได้ในปีหน้า
ส่วนนโยบายการเงิน ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอลง +25bps (จาก +50bps ในครั้งก่อนๆ) ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นสู่ระดับ 6.15% หลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอลงมากขึ้น
อีกทั้งสกุลเงินรูปีอินเดีย (INR) ก็เริ่มแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ลดแรงกดดันต่อ RBI ในการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อช่วยประคองค่าเงิน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ประเดิมวันนี้ ลุ้นนักตบลูกขนไก่ไทยลุยศึกแบดมินตัน เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022
แบดมินตัน เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022 ระเบิดความมันส์วันนี้เป็นวันแรก โดยนักแบดมินตันไทยจะลงพบกันเองครบทั้ง 3 ประเภท
คู่ผสม “บาส-ปอป้อ” พบ “เอ็ม-เฟม” คู่แรก 11.00 น. จากนั้น 14.20 น. หญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก พบกับ “ครีม” บุศนันทน์
เวลา 15.20 น. หญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว” พบกับ “อันนา-มูนา” เวลาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการแข่งขันในแต่ละแมตช์
แฟนๆ ชาวไทยสามารถไปเชียร์แบบติดขอบสนามได้ที่อาคารนิมิบุตร หรือรับชมผ่านการถ่ายทอดสดทาง SPOTV , True Sport 3 , True Sport 7 และ TRUE4U ช่อง 24
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ไข้เลือดออก VS ไข้หวัดใหญ่ แตกต่างกันอย่างไร?
ไข้หวัดหรือไข้เลือดออกกันแน่
Flu or Dengue Fever?
หนึ่งในข่าวที่ทุกคนติดตามในช่วงนี้ ต้องมีเรื่องของคุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ รวมอยู่ด้วยแน่ๆ คุณปอช่วยให้หลายคนตื่นตัวกับโรคไข้เลือดออก เพราะมีข่าวสารข้อมูลมากมายออกมาเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกให้ติดตามกันทุกวัน แต่มีใครทราบไหมคะว่า บางครั้งไข้เลือดออกมีอาการเบื้องต้นเหมือนไข้หวัด ทำให้รักษาผิดรักษาถูกเป็นเรื่องได้เหมือนกัน
มารู้จักไข้เลือดออกกันอย่างจริงจังดีกว่า
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งพบมากในประเทศเขตร้อนและเขตอบอุ่น สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง ของกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยแจ้งว่าในปี 2557 พบผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกประมาณ 40,000 ราย เสียชีวิต 41 ราย นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
เจ้าเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มี 4 ชนิด คือ DEN-1, DEN-2, DEN-3 และ DEN-4 ทั้ง 4 ชนิดนี้ มี antigen ร่วมบางชนิด จึงทำให้มี cross reaction และ cross protection ได้ในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสเดงกีชนิดหนึ่งจะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีชนิดนั้นตลอดไป (long lasting homotypic immunity) และจะมีภูมิคุ้มกัน cross protection ต่อชนิดอื่น (heterotypic immunity) ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 3-12 เดือน ฟังดูเหมือนจะดี แต่พอนานวันเข้าภูมิคุ้มกันนี้ก็จะค่อยๆ จางลงเพราะร่างกายเราก็จะผลิตภูมิคุ้มกันตัวจริงออกมาไล่บี้ของแปลกปลอม ถ้าคนที่มีภูมิคุ้มกันจางๆ ปลอมๆ นี้อยู่ในตัว (คนที่เคยเป็นไข้เลือดออก) ได้รับไวรัสเดงกีตัวอื่นเข้าไปนอกจากมันจะไม่สามารถช่วยป้องกันอะไรได้แล้ว มันยังกลายพันธุ์ลุกขึ้นมาชักศึกเข้าบ้านได้อย่างง่ายดาย แถมช่วยให้เจริญเติบโตได้เร็วกว่าปกติอีกนะคะ นี่คือเหตุผลที่ทำคนที่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้ว กลับมาเป็นได้อีกและแถมหนักกว่าเดิมด้วย
มาตอกย้ำความรู้เรื่องไข้หวัดกันอีกที
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอ็นซ่า Influenza virus) โดยสามารถจำแนกออกเป็น 3 ชนิดตามฤดูกาล ได้แก่ ชนิดเอ บี และซี โดยที่พบมากที่สุด คือ ไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (H1N1) (H3N2) รองลงมาได้แก่ ชนิด บี และซี
เชื้อไวรัสนี้จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ซึ่งสามารถแพร่ติดต่อไปยังคนอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น การไอหรือจามรดกัน หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป หากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก
ในผู้ใหญ่อาจแพร่เชื้อได้นานประมาณ 3-5 วัน นับจากเริ่มป่วย ในเด็กเล็กสามารถแพร่ได้นานกว่าผู้ใหญ่ อาจพบได้ 7-10 วัน และอาจนานขึ้นไปอีก ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง
สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ พบผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ถึงเกือบ 65,000 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 27 ราย ใครจะเชื่อว่าไข้หวัดก็รุนแรงได้ แล้วก็อย่าหวังว่าคนที่เป็นแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน
ความเหมือนของ 2 ไข้นี้
อาการของ 2 โรคนี้แทบไม่แตกต่างกันมากนัก ขนาด World Health Organization (WHO) ยังบอกเลยว่า 2 โรคนี้แทบจะแยกกันไม่ออกโดยเฉพาะ 2-3 วันแรก มีทั้งปวดหัว ตัวร้อน เจ็บคอ ปวดตามข้อ ที่สำคัญ “ไม่มียารักษา และเป็นแล้วเป็นอีกได้”
ไข้หวัดใหญ่ยังมีวัคซีนป้องกันได้นะคะ แต่ก็ได้แค่ไข้หวัดใหญ่ ถ้าเป็นไวรัสอื่นก็ไม่ได้นะคะ และฉีดป้องกันแล้วไม่แล้วกันนะคะ ต้องฉีดทุกปี โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
ถ้าพูดถึงความเหมือนของอาการเบื้องต้นของทั้ง 2 โรคนี้แล้ว สำหรับผู้ใหญ่บางทีก็ยังบอกไม่ได้เต็มที่เลยใช่ไหมคะว่ามีอาการอย่างไร พอป่วยก็รู้แต่ว่าไม่อยากไปทำงาน แล้วถ้าเป็นเด็กเล็กล่ะคะจะมานั่งอธิบายอะไรได้ คำศัพท์บางคำยังไม่รู้เล้ย คงโยเยๆ ไปตามเรื่อง คุณพ่อคุณแม่นั่นล่ะค่ะที่ต้องติดตามดูอาการนะคะ
แล้วจะรู้ได้อย่างไร
ไข้เลือดออก
อาการโดยรวมซึ่งคนไข้จะมีมีไข้สูง ปวดกระบอกตา อ่อนเพลีย ไม่อยากรับประทานอาหาร ปวดท้อง หน้าแดง หรือมีผื่นขึ้นตามตัวและปวดตามข้อต่างๆ บางกรณีปวดแบบรุนแรงถึงเสียชีวิตได้เลยนะคะ บางที่ก็เรียกว่า “break bone fever” เลยทีเดียว อันนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเชื้อ dengue ที่โดนนะคะ
ดูกันให้ชัดๆ ไปเลยว่าอาการพัฒนาเป็นขั้นตอนอย่างไร โรคไข้เลือดออกเดงกี มีอาการสำคัญที่เป็นรูปแบบค่อนข้างเฉพาะ 4 ประการ เรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง ดังนี้
1. ไข้สูงลอย 2-7 วัน โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไข้จะสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส บางรายอาจมีอาการชักเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเด็กที่เคยมีประวัติชักมาก่อน ผู้ป่วยมักจะมีหน้าแดง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการน้ำมูกไหลหรืออาการไอ เบื่ออาหาร และอาเจียน
2. มีอาการเลือดออก ส่วนใหญ่จะพบที่ผิวหนัง โดยอาจพบผื่นขึ้นตามผิวหนัง หรือมีอาการเลือดออกที่ผิวหนัง รวมถึงมีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน ในรายที่รุนแรงอาจมีอาเจียนและถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ซึ่งมักจะเป็นสีดำ
3. มีตับโต กดเจ็บ ส่วนใหญ่จะคลำตับ โต ได้ประมาณวันที่ 3-4 นับแต่เริ่มป่วย ในระยะที่ยังมีไข้อยู่ ตับจะนุ่มและกดเจ็บ
4. มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลว/ภาวะช็อก ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี จะมีอาการรุนแรง มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลวเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่มีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ภาวะช็อกที่เกิดขึ้นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะมีอาการเลวลง และจะเสียชีวิตภายใน 12-24 ชั่วโมง หลังเริ่มมีภาวะช็อก
ไข้หวัดใหญ่
ถ้าเป็นไข้หวัดอาการไข้จะหายภายใน 2-3 วัน และถ้าเป็นหวัดจริงๆ อาการส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ ระบบหายใจ
อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ไข้สูง คัดจมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไอและรู้สึกเหนื่อย อาการเหล่านี้ตรงแบบเริ่มสองวันหลังได้รับไวรัสและส่วนมากอยู่นานไม่เกินสัปดาห์ แต่อาการไออาจกินเวลานานกว่าสองสัปดาห์ได้ ในเด็ก
อาการแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่อาจมีปอดบวมจากไวรัส ปอดบวมจากแบคทีเรียตามโพรงอากาศ (sinus) ติดเชื้อ และปัญหาสุขภาพที่มีอยู่เดิมแย่ลง เช่น โรคหอบหืดหรือภาวะหัวใจล้มเหลว
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำสำหรับไข้เลือดออก
• เมื่อมีอาการไข้สูงห้ามรับประทานยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน และ ไอบูโพรเฟน หรือยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอย เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดเสียการทำงาน จะระคายกระเพาะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
• ถ้าอาการไข้ไม่ลดในช่วง 2-3 วันแรกที่ไม่สบาย รีบปรึกษาหมอด่วน อธิบายอาการให้ครบถ้วน และอธิบายสภาพแวดล้อมที่บ้านด้วยนะคะ รวมถึงปรีกษาหมอว่าควรตรวจเกล็ดเลือดหรือไม่ โดยปกติคนเรามีเกล็ดเลือดนับแสน คือ มากกว่า 300,000 ถ้าเกล็ดเลือดต่ำกว่า 200,000 หลังเป็นไข้มา 3-4 วันแล้วล่ะก็อาการเริ่มน่าเป็นห่วงแล้ว และถ้าต่ำกว่า 100,000 ควร admit อยู่โรงพยาบาลดีกว่าค่ะ ในช่วงที่เริ่มเป็น 1-3 วันแรกอาจยังไม่สามารถตรวจได้นะคะ จะตรวจได้ก็เมื่อไวรัสเริ่มออกตัวค่ะ
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำสำหรับไข้หวัดใหญ่
• ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ และยังรับประทานอาหารได้ อาจไปพบแพทย์ หรือขอรับยาและคำแนะนำจากเภสัชกรใกล้บ้าน และดูแลรักษากันเองที่บ้านได้ ดังนี้
o นอนหลับพักผ่อนมาก ๆ ในห้องที่อากาศถ่ายเทดี ไม่ควรออกกำลังกาย
o ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ น้ำผลไม้ มากๆ งดดื่มน้ำเย็น
o รักษาตามอาการ หากมีไข้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว หากไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน หากทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์
o พยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
ทีนี้เวลาเป็นไข้ปุ๊บ เฝ้าดูอาการดีๆ นะคะ 2-3 วันอาการไม่ดีขึ้น หาหมออย่างเดียวเลย อย่าชะล่าใจเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นอาจบานปลายได้ ต้องขอบคุณคุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ จริงๆ ที่ทำให้ทุกคนต้องหันมาทำความรู้ความเข้าใจกับโรคไข้เลือดออกอย่างจริงจัง ขอพรคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้คุณปอหายวันหายคืน กลับมาเป็นขวัญใจของพวกเราต่อไปนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
20 แคปชั่นหน้าหนาว ภาษาอังกฤษ ถึงจะหนาวเล็กหนาวน้อยก็ต้องได้ใช้
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว และถึงแม้ว่าบ้านเราจะหนาวยากหนาวเย็น หนาวนิดหนาวหน่อยเสียเหลือเกิน แต่การลงรูปต้อนรับฤดูกาลที่รอคอยมานานนั้นเป็นสิ่งที่สาว ๆ คนไหนก็ทำกันใช่ไหมล่ะ วันนี้เราก็เลยมี แคปชั่นหน้าหนาว ภาษาอังกฤษ มาฝากกัน เอาไว้ไปโพสต์คู่กับรูปที่บรรยายถึงความหนาวเย็นด้วยเสื้อผ้า หรือไอเท็มสุดเก๋ต่าง ๆ ให้คนในโลกโซเชียลได้รู้ว่าเราก็เตรียมพร้อมอยู่เหมือนกันนะ
แคปชั่นหน้าหนาว ภาษาอังกฤษ
- Ice, ice, baby!
เย็น, เย็น, ที่รัก! - Catching snowflakes
ไล่จับเกล็ดหิมะ - There are only two seasons: winter and baseball.
มีเพียงสองฤดูกาลเท่านั้น ฤดูหนาวและเบสบอล - It’s snow laughing matter.
มันเป็นเรื่องหิมะที่มีอารมณ์ขัน - It’s never too cold for ice cream.
มันเคยเย็นเกินไปสำหรับไอศกรีม - All about that winter white
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฤดูหนาวที่ขาวโพลน - Feeling frosty
รู้สึกหนาว - Hot chocolate is like a hug from the inside.
ช็อกโกแลตร้อนเป็นเหมือนการโอบกอดจากภายใน - It’s too cold to dress cute.
หนาวเกินไปที่จะแต่งตัวให้น่ารัก - Kiss me on this cold December night.
จูบฉันในเดือนคืนเดือนธันวาคมที่หนาวเหน็บนี้ - We go together like winter and a sweater.
เราไปด้วยกันให้เหมือนกับฤดูหนาวและเสื้อกันหนาว - It’s hot chocolate weather
มันเป็นภูมิอากาศช็อกโกแลตร้อน - Every day I’m shovelin’
ทุกวันฉันเป็นพลั่ว(พรวนดิน) - Who needs wings when you have skis?
ใครต้องการปีกในเมื่อคุณมีสกี? - Sugar and ice and everything nice
น้ำตาล น้ำแข็ง และทุกอย่างที่สุดเจ๋ง - Home sleet home
บ้านหิมะที่แสนเยือกเย็น - Winter is not a season, it’s a celebration.
ฤดูหนาวไม่ใช่ฤดูกาล แต่เป็นการเฉลิมฉลอง - The first snow is like the first love.
หิมะแรกก็เหมือนรักแรกพบ - Frozen fingers and eskimo kisses.
นิ้วที่เยือกแข็งและจูบของชาวเอสกิโม - Beautiful, but oh-so cold.
สวยงาม แต่โอ๊ยเย็น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Google แนะนำเครื่องมือสำหรับคนพิการและครีเอเตอร์พิการบน YouTube
นอกจากการพัฒนาแอปพลิเคชันและฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว Google ยังให้ความสำคัญต่อการทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นประโยชน์และเข้าถึงได้สำหรับคนพิการ ซึ่งทั่วโลกมีอยู่ 15% หรือประมาณ 1 พันล้านคน โดยปัจจุบัน Google มีฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาโดยคำนึงถึงคนพิการมากมาย ได้แก่
Action Blocks สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพื่อให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันบน Android ได้ง่ายขึ้นด้วยปุ่มที่ปรับแต่งได้บนหน้าจอหลักเพียงปุ่มเดียว โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้ Action Blocks และเลือกกิจกรรมจากรายการที่มีอยู่ภายในแอป หรือพิมพ์กิจกรรมเพิ่มลงไปในการตั้งค่าด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เช่น วิดีโอคอลกับคนสำคัญ ตรวจสอบสภาพอากาศ หรือเปิดคลิปวิดีโอที่ชื่นชอบ
นอกจากนี้ Reading mode หรือโหมดการอ่านบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ ที่มาพร้อมตัวเลือกหน้าจอที่ปรับแต่งได้ เช่น คอนทราสต์ รูปแบบของฟอนต์ และขนาด และฟังก์ชั่นการอ่านออกเสียงข้อความที่สามารถกำหนดความเร็วได้ ยังช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหาทางการมองเห็น เช่น ตาบอด สายตาเลือนราง หรือมีภาวะผิดปกติทางด้านการอ่าน สามารถติดตามคอนเทนต์ที่ชื่นชอบได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Live Transcribe ที่สามารถแปลงเสียงพูดให้กลายเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ได้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการสนทนาในชีวิตประจำวันของคนหูหนวก หรือผู้ที่มีปัญหาในการได้ยิน ซึ่งมีภาษาให้เลือกกว่า 80 ภาษา และสลับระหว่าง 2 ภาษาได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นเมื่อชื่อของผู้ใช้ถูกเรียก มีตัวเลือกในการเพิ่มคำศัพท์ สถานที่ และสิ่งต่างๆ ลงใน Live Transcribe ของผู้ใช้ รวมไปถึงคำที่ไม่มีในพจนานุกรม และฟีเจอร์ที่ช่วยค้นหาการถอดเสียงที่ผู้ใช้บันทึกไว้ รวมไปถึงการแจ้งเตือนเสียงที่มีคุณลักษณะแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจมีความเสี่ยงและสถานการณ์ส่วนบุคคลโดยพิจารณาจากเสียงที่ดังขึ้นที่บ้าน เช่น เสียงสัญญาณเตือนควัน เสียงไซเรน เสียงเด็กทารก
Sound Amplifier เป็นโปรแกรมขยายเสียงที่ช่วยให้เสียงบนสมาร์ทโฟน Android ชัดเจนขึ้น ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ปรับเสียงให้ดังเกินไป พร้อมด้วยการตั้งค่าที่ให้คุณปรับแต่งตามความต้องการได้ และยังเพิ่มความสามารถในการใช้ Sound Amplifier ให้เป็นโปรแกรมขยายเสียงแบบพกพาด้วยหูฟังบลูทูธ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถวางอุปกรณ์ของคุณใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงและเพิ่มระดับเสียงโดยไม่รบกวนผู้อื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขยายเสียงสำหรับแอปอื่นๆ ในสมาร์ทโฟน Pixel เช่น YouTube และ Spotify ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ผู้ใช้งาน YouTube ยังสามารถเพิ่มคำบรรยาย ประกอบด้วยข้อความที่มีการพูดในวิดีโอ ซึ่งฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ชมที่มีปัญหาในการได้ยิน
และเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ใช้งาน Google Maps ในประเทศไทย สามารถดูข้อมูลสถานที่ที่รองรับเก้าอี้รถเข็น (Accessible Places) หรือสถานที่ที่สามารถใช้รถวีลแชร์ได้บน Google Maps เช่น ที่นั่ง ทางเข้าออก ห้องน้ำ ลิฟท์ และที่จอดรถ เป็นต้น รวมทั้งผู้ประกอบการก็สามารถตั้งค่าแอตทริบิวต์ของวีลแชร์เพื่อแสดงให้ผู้ใช้บริการเห็นการช่วยเหลือพิเศษดังกล่าว
นอกจากฟีเจอร์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้แล้ว YouTube ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับทุกคนในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ปัจจุบัน มีครีเอเตอร์พิการหลายคนได้ใช้ YouTube เป็นช่องทางแสดงความสามารถที่น่าทึ่งมากมาย อาทิ
GOLF NO HANDS channel ภราดร รุ่งเรื่อง อายุ 19 ปี กับฉายาสตรีมเมอร์ไร้แขน เด็กหนุ่มผู้บกพร่องทางร่างกายเพราะอุบัติเหตุที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ใช้ความชอบและความสามารถทางร่างกายเล่นเกม ใช้ปากสตรีมเกม โชว์สกิลสุดเทพ
Nan Can Do แนน แม้จะมีความพิการทางร่างกายของแขนและขา แต่เธอไม่ย่อท้อ เปลี่ยนปมด้อยเป็นจุดเด่น สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
ฝ้าย ใช้เท้าแต่งหน้า ฝ้าย มีความพิการทางร่างกายมาแต่แรกเกิด ไม่มีแขน ขาสั้นข้างยาวข้าง เธอเริ่มเรียนรู้การแต่งหน้าด้วยการเปิดดูวิดีโอบน YouTube และหลังจากนั้นเธอก็ทำคลิปวีดิโอลง YouTube โดยใช้เท้าแต่งหน้า
Ozeeoos Right here อำนาจ ศรีสังข์ แรปเปอร์และนักกีฬาไตรกีฬา ที่พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด แต่สามารถเขียนเพลง แต่งเพลง และยังเป็นโปรดิวเซอร์งานเพลงโฆษณา
ครูแว่นดํา STUDIO ชาตรี บุญมี คนพิการทางการเห็นประเภท 2 (คนที่มีการเห็นเลือนราง) ปิ้งไอเดียใช้ YouTube เป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน และปรับให้เข้ากับสังคมเด็กยุคใหม่
Hello Harley ฟ้าพิการตั้งแต่กำเนิด เหลือเท้าน้อยๆ เพียงข้างเดียวติดกับร่างกายช่วงล่างสั้นๆ ตั้งแต่ช่วงเอวลงไป เสนอไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกับการพิสูจน์ความรักแท้กับคู่ชีวิต และครอบครัวที่อบอุ่น
morcom1414 คนพิการทางการเห็นที่มีความสามารถทางด้านซ่อมอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ และรีวิวอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้กับเพื่อนๆ คนพิการท่านอื่นๆ
S2S Channel ช่องที่เผยแพร่ผลงานของนักร้องนักดนตรีตาบอดจากโครงการพัฒนาศักยภาพนักร้องนักดนตรีตาบอดในที่สาธารณะ: จากถนนสู่ดวงดาว (From Street to Stars) หรือ S2S
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ดีไซน์หรู คุณภาพเกินคาด กับ ผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูป จาก TS-TEAK ในงานสถาปนิก’66
การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูปโดยเฉพาะไม้สักที่ให้ความสวยงามและเติมเต็มความอบอุ่นให้กับบ้านของคุณ จำต้องมาพร้อมกับการคัดสรรแบรนด์คุณภาพที่พร้อมจะส่งมอบผลิตภัณฑ์ดี ๆ ร่วมกับการดีไซน์สุดหรูที่มีผลต่อการสร้างบรรยากาศในบ้าน และวันนี้ผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูปจาก TS-TEAK จะมาตอบสนองความต้องการเหล่านั้น
TS-TEAK คือ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ไม้สักที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย THASAO SAWMILL CO., LTD. หรือ โรงเลื่อยจักรท่าเสา ที่ดำเนินกิจการตั้งแต่การทำสัมปทานในปี 2510 จนพัฒนามาเป็นธุรกิจโรงเลื่อยในปี 2522 ด้วยช่วงระยะเวลาที่ยาวนานทำให้ TS-TEAK ได้พัฒนาและคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและมาตรฐานมาให้กับบ้านของคุณถึงที่
การดีไซน์ที่เรียบหรูมาคู่กับคุณภาพที่เกินคาด
พื้นไม้ทำสีสำเร็จ (Floor)
พื้นไม้ที่มีให้เลือกสรรถึง 4 ประเภท ได้แก่ ไม้แผ่น (Plank) ไม้อะตอมมิค (Atomic) ไม้คอมพาวด์ (Compound) สำหรับใช้ภายใน และไม้เด็กกิ้งบอร์ด (Decking Board) สำหรับใช้ภายนอก โดยนำมาอบเพื่อเสริมความแข็งแรง ลดอัตราการหดตามธรรมชาติของไม้ คัดสรรเกรดไม้ และทำสีสำเร็จด้วย Water Based Color พร้อมเคลือบด้วยระบบ UV Coating สำหรับพื้นภายใน เพิ่มความแข็งแรงที่ผิวไม้เพื่อลดการเกิดรอยขีดข่วน ไม่เย็นเท้า ไม่ลื่น และ PVC PU Based Color สำหรับพื้นไม้ภายนอก รองรับความหลากหลายของการใช้งาน ทั้งยังเป็นมิตรกับคนใช้และสิ่งแวดล้อม
ชุดบันไดทำสีสำเร็จ (Stairs)
ชุดบันไดที่ทางแบรนด์ได้ออกแบบโครงสร้างบันไดถึง 4 ส่วน ประกอบด้วยบันได บังขั้น ราวบันได ลูกกรง รองรับรูปแบบบ้านทุกประเภท โดยคัดสรรเกรดไม้ นำมาอบเพื่อเสริมความทนทานแข็งแรง ลดอัตราการยืดหดตามธรรมชาติของไม้ อัดประสาน ทำสีสำเร็จด้วย Water Based Color พร้อมเคลือบผิวไม้ด้วย UV Coating เพื่อลดรอยขีดข่วนที่จะเกิดกับพื้นผิวไม้โดยตรง ติดตั้งง่าย มีบริการวัดหน้างานและทีมติดตั้งให้พร้อมตอบสนองความสะดวกและรวดเร็ว รองรับรูปแบบบ้านและอาคารทุกรูปแบบ
ชุดประตูทำสีสำเร็จ (Door)
โครงสร้างประตูที่มีรูปแบบหลากหลาย ได้แก่ ชุดประตูบานเปิด ชุดประตูบานสวิง ชุดประตูบานเฟี้ยม และประตูบานเลื่อน โดยผ่านการอบเพื่อลดอัตราการยืดหดตามธรรมชาติของไม้ คัดสรรเกรดไม้ที่มีคุณภาพ ทำสีสำเร็จด้วย PU Water Based ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ได้สีที่สวยงาม ทนทานเหมาะกับงานภายนอก
ชุดไม้ตกแต่งทำสีสำเร็จ (Decorative)
ไม้จริงเต็มแผ่นที่ผ่านกระบวนการคัดสรรเกรดไม้ที่มีคุณภาพ ผ่านการอบเพื่อลดการบิดงอ เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ได้สีที่สวยงาม ทนทานเหมาะกับการใช้งานภายนอก มีการออกแบบโครงสร้างที่หลากหลาย ทำรางร่องลิ้นรอบตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการบนพื้นฐานความแข็งแรง มีการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว โดยชุดไม้ตกแต่งของเรามีให้คุณเลือกถึง 4 ประเภท ได้แก่ ระแนง (LATH) ไม้กรุผนังแบบมีร่องลิ้น (WALLING) ไม้ฉลุตกแต่งผนัง (FRETWORK) บัวบนและบัวล่าง (SKIRTING AND MOLDING) แป้นเกล็ดหลังคา (WOODEN ROOF) รองรับรูปแบบบ้านทุกประเภทให้คุณเลือกสรร
ทุกนวัตกรรมและการออกแบบงานไม้ มีให้คุณมาสัมผัสแล้วที่งานสถาปนิก’66
ดีไซน์ที่หรูหรามาพร้อมกับคุณภาพที่น่าจับจองเป็นเจ้าของ มาเลือกผลิตภัณฑ์ไม้สักสำเร็จรูปของ TS-TEAK จาก THASAO SAWMILL CO., LTD. ด้วยตัวคุณเองที่บูธหมายเลข F427 ในงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://architectexpo.com/2023/en/about-the-expo/#space-reservation หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 7/12/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,350.00 | 29,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,901.00 | 28,819.16 | 29,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,710.90 | 25,937.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,520.80 | 23,055.33 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 855.00 | 12,961.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 665.00 | 10,081.40 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,970.00 | 29,865.20 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 7/12/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.75 | 34.75 | 35.05 | 35.05 | 35.05 | 34.75 | 34.75 | 34.75 | 35.05 | 34.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.48 | 34.48 | 34.78 | 34.78 | 34.78 | 34.48 | 34.48 | 34.48 | 34.78 | 34.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.04 | 33.04 | 33.34 | 33.34 | 33.34 | – | 33.04 | 33.04 | 33.34 | 33.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 32.39 | 32.39 | – | – | – | – | – | – | – | 32.39 |
เบนซิน 95 | 42.16 | – | – | – | 42.91 | – | 42.66 | 42.61 | – | 42.16 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 35.54 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 35.54 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | – | 35.54 | – | 34.94 | 34.94 | 33.34 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 44.26 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |