สาระน่ารู้ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2565

‘พฤกษา’ ทุ่ม 248 ล. ลงทุนสตาร์ทอัพ ‘เฮลท์เทค’ ปั้นธุรกิจสุขภาพเจาะอาเซียน

'พฤกษา' ทุ่ม 248 ล. ลงทุนสตาร์ทอัพ 'เฮลท์เทค' ปั้นธุรกิจสุขภาพเจาะอาเซียน

พฤกษาเดินเกมธุรกิจเหนือชั้น ทุ่ม 248 ล้าน ขยายการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ” นัลลูรี่ ” เฮลท์เทคสัญชาติมาเลเซีย คาดใช้ต่อยอดนวัตกรรมธุรกิจดูแลสุขภาพ เสริมทัพโรงพยาบาลวิมุต เปิดเผยเจาะภูมิภาคอาเซียและอสเตรเลีย

7 ก.ค.2565- ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เห็นชัดเจน สำหรับการเร่งสร้างซินเนอร์จี 2 ธุรกิจใหญ่ ของกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หลังจากประกาศเพิ่มพอร์ตลงทุนหลากหลายธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ระหว่างธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และ ธุรกิจบริการสุขภาพ หลังจากโรงพยาบาลวิมุต เปิดให้บริการอย่างเต็มตัว 

ล่าสุด พบว่า พฤกษา เข้าร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทค “นัลลูรี่” (Naluri) ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล  สัญชาติมาเลเซียที่ประสบความสำเร็จและกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ร่วมกับ Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation จากญี่ปุ่น  และยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมอีกหลายราย รวมถึง M Venture Partners (MVP) จากสิงคโปร์, Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา ด้วยวงเงินลงทุนรวมทั้งหมด ประมาณ 248 ล้านบาท (7 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ขณะที่ความน่าสนใจนั้น พบว่า  “นัลลูรี่” มีแผนขยายการให้บริการในไทย อินโดนีเซีย และครอบคลุมเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย จึงคาดว่า แผนการดังกล่าว น่าจะมาช่วยต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกระดับบริการแก่ลูกบ้านพฤกษาและผู้รับบริการของโรงพยาบาลวิมุตในอนาคต

พฤกษา เข้าร่วมลงทุนสตาร์ทอัพ “นัลลูรี่” 

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เน้นการลงทุนร่วมในธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Health Tech และ Prop Tech โดยมีหลักในการพิจารณากลุ่มธุรกิจที่จะร่วมลงทุน คือต้องมีแผนพัฒนาโซลูชันที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการอยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพ  ที่สำคัญต้องเป็นโมเดลธุรกิจ ที่ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainability) อันเป็นแนวทางการประกอบกิจการของกลุ่มพฤกษามาโดยตลอด

นายอุเทน กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้  พฤกษาได้ตัดสินใจลงทุนใน “นัลลูรี่” ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล (Digital Health Service Provider) โดยให้บริการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผ่านแอปพลิเคชั่น  “Naluri” ซึ่งมอบโซลูชั่นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health Care) ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ใช้เทคโนโลยีในการดูแลตัวบุคคลแบบครบถ้วน เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่มีความเสี่ยง หรือ ต้องการจัดการโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วนลงพุง และภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคและเป็นปัจจัยที่ทำให้ศักยภาพในการทำงาน อายุขัย และผลิตภาพทางเศรษฐกิจลดลง


สำหรับ Naluri ที่มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจครั้งนี้ นำทีมโดยพฤกษา จากประเทศไทย Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Naluri เองยังมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมหลายราย อาทิ Sumitomo Corporation จากประทศญี่ปุ่น M Venture Partners จากสิงคโปร์  Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ Naluri ในประเทศไทย และช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในมาเลเซีย สิงคโปร์  และ อินโดนีเซีย รวมทั้งมีแผนขยายบริการในอนาคตให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สัมมากรสปีดผุด9โครงการมูลค่ากว่า1หมื่นล้านใน4เซกเมนต์ครั้งแรกในรอบ52ปี

สัมมากรสปีดผุด9โครงการมูลค่ากว่า1หมื่นล้านใน4เซกเมนต์ครั้งแรกในรอบ52ปี

สัมมากร สบช่องดีมานด์แนวราบโตต่อเนื่องเร่งสปีดผุด9โครงการมูลค่ากว่า1หมื่นล้านกระจาย4เซกเมนต์ ภายใต้ 7แบรนด์เป็นครั้งแรกในรอบ52ปี หวังขยายฐานครอบคลุมตลาดบนเผย 6 เดือนแรกกวาดยอดขาย 1,500 ล้านบาท เป้ายอดขายทั้งปี 3,500 ล้านและรายได้ 2,500 ล้าน

นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า 2 ปีที่ผ่านมาตลาดแนวราบยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง  และมีแนวโน้มสูง 48% โดยเฉพาะตลาดลักชัวรี ทางบริษัทจึงเร่งพัฒนาสินค้าโดยโฟกัสตลาดบ้านเดี่ยวให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเปิดตัว 7 แบรนด์ใหม่ใน 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาทถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี ที่มีการเปิดตัวโครงการมากที่สุด

 โดยบริษัทได้วาง 4 เซกเมนต์ใหม่ในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ 1. กลุ่ม Super Luxury เปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 505 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์ “One Gate”ตั้งอยู่โซนเอกมัย-รามอินทรา บนพื้นที่500 ตารางวา พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ขนาด 120-150 ตารางวา จำนวน 3 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 95-135 ล้านบาท มูลค่า 335 ล้านบาท และ แบรนด์ “Two Ekkamai” ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 10 หรือซอยสุขุมวิท 65 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 120 ตารางวา เป็นโครงการสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียง 2 ยูนิต ราคาอยู่ที่ 85 ล้านบาทมูลค่า170 ล้านบาท

2.กลุ่ม Luxury เปิดตัว 2 โครงการใหม่มูลค่ารวมทั้งหมด 2,210 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์ “PROVIDENCE  LANE”ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ ย่านเอกมัย-รามอินทรา ราคาขายเริ่มต้นที่ 39 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขายเพียง 3 ยูนิต และแบรนด์ “Park Heritage” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่ บริเวณซอยพัฒนาการ 20 พัฒนาในรูปบ้านแบบวิลล่าหรู 3 ชั้น สไตล์ Modern Classic ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท จำนวน 35 ยูนิต โครงการ 2,210 ล้านบาทจะเปิดตัวไตรมาส 3/2565

สัมมากรสปีดผุด9โครงการมูลค่ากว่า1หมื่นล้านใน4เซกเมนต์ครั้งแรกในรอบ52ปี

3.กลุ่ม High-end เปิดตัว 2โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์ “Barn Yard”บ้านที่ออกแบบด้วยแนวคิด Classic American Farmhouse กับโลเคชั่นใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 กว่าไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 15.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ ย่านกรุงเทพกรีฑา บนพื้นที่ 29 ไร่ พัฒนาในรูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ขนาด 100 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท จำนวน 64 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาทจะเปิดตัวไตรมาส 4/2565

4.กลุ่ม Upscale เปิด 4 โครงการใหม่ 2 แบรนด์ มูลค่ารวมทั้งหมด 4,440 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์ “Anapana” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 41 ไร่ ติดถนนลาดกระบังและอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้นที่ 7 ล้านบาท จำนวน 162 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,540 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในไตรมาส 3/2565  และ แบรนด์ “Mitti” ซึ่งจะมาทดแทนแบรนด์ “สัมมากร” มีด้วยกัน 3 โครงการ ใน 3 ทำเล มูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท  ได้แก่ ชัยพฤกษ์-วงแหวน, ราชพฤกษ์ 346 และรังสิต คลอง 6 ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาทจะเปิดตัวในไตรมาส 4/2565  

สัมมากรสปีดผุด9โครงการมูลค่ากว่า1หมื่นล้านใน4เซกเมนต์ครั้งแรกในรอบ52ปี

  “  4-5 ปีที่ผ่านมา บริษัทเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10%  ใน 6 เดือนแรกบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 1,500 ล้านบาทหรือเติบโต 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 42% จากเป้ายอดขายทั้งปีที่วางไว้ 3,500 ล้านบาท และเป้ารายได้รวมที่ 2,500 ล้านบาท   ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการแนวสูง (คอนโด)  จากก่อนหน้านี้เคยพัฒนาไปแล้ว 1 โครงการ รอให้สภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและนักลงทุนชาวต่างชาติกลับมาซึ่งจะเป็นคอนโดระดับกลางในปี 2567” นายณพน กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


วิกฤตฟองสบู่อสังหาจีน “ปัญหาซุกใต้พรม” ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

วิกฤตฟองสบู่อสังหาจีน "ปัญหาซุกใต้พรม" ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

นักวิเคราะห์เผยข้อมูลที่น่าตกใจ ชี้อาจมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีนอีกกว่า 30 แห่งที่จะผิดชำระหนี้ คิดรวมกันเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้วงการอสังหาจีนสั่นสะเทือนจากการที่ Evergrand Group บริษัทอสังหายักษ์ใหญ่แดนมังกร ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ จนทำให้รัฐบาลจีนได้มีนโยบายการเข้ามาควบคุมการก่อหนี้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ 

Charlene Chu นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Autonomous Research หน่วยงานวิจัยจาก Sanford C. Bernstein & Co. ออกตัวเลขคาดการณ์ว่า จะมีบริษัทอสังหาถึงกว่า 30 แห่งที่ผิดชำระหนี้ คิดรวมเป็นมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

“เรายังอยู่เพียงแค่ช่วงเริ่มต้น” (การนัดผิดชำระของบริษัทอสังหาในตลาด)

“สถานการณ์ต่าง ๆ จะหนักหนาสาหัสมากขึ้นเมื่อธนาคารจะตีมูลค่าหลักประกันของบริษัทลดลง รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ของแต่ละบริษัท จะยิ่งกินเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นหนี้เสียก้อนโตที่คนซื้ออสังหาไปแล้วเริ่มผ่อนไม่ไหว ก็มีแนวโน้มมากขึ้น เนื่องจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นในจีน”  

“ความจริงวันนี้คือ ภาคอสังหาไม่โตแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งภาวะนี้ก็ยิ่งทำให้กระทบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยพึ่งพากัน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าตกแต่งบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่าง ๆ ก็จะมียอดขายดร็อปตามไปด้วย รวมทั้งประชากรในจีนที่มีอัตราเกิดน้อยลง”

ทั้งนี้ ประชากรกลุ่มวัยทำงานคือลูกค้าหลักของภาคอสังหา โดยจากสถิติคนกลุ่มนี้เคยมีมากที่สุดราว 801 ล้านคนในปี 2015 และปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 20 ล้านคน ซึ่งจากปัจจัยลบเหล่านี้ ทำให้ Chu คาดการณ์ว่า มีโอกาสที่จีนกำลังก้าวเดินเข้าสู่ยุคใหม่ ที่อาจเห็นตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับเลขตัวเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


กระแสแรงข้ามประเทศ! แฟนกัมพูชาแห่ดู “บัวขาว” ศึก World Fight Tournament

กระแสแรงข้ามประเทศ! แฟนกัมพูชาแห่ดู "บัวขาว" ศึก World Fight Tournament (ภาพ)

ยังคงมีแฟนคลับหนาแน่นเหมือนเคยสำหรับการขึ้นชกไฟต์ล่าสุดของ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย ในรายการ World Fight Tournament ที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช, กัมพูชา เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

โดยผลการแข่งขันถือว่าสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ชาวไทย เมื่อ ยอดนักชกขวัญใจ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ดมิทรี วารัตส์ นักชกชาวเบลารุส หลังชกครบ 3 ยก ในกติกาคุนขแมร์ (คล้ายกติกา มวยไทย ออกอาวุธได้หมดทั้ง หมัด เท้า เข่า และ ศอก) แม้สภาพพื้นเวทีจะไม่เป็นใจก็ตาม

แต่อีกซึ่งหนึ่งที่ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ก็คือในศึก World Fight Tournament ครั้งนี้ต้องบอกว่ามีแฟนกำปั้นชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาชมติดขอบสังเวียนที่สนามกีฬาแห่งชาติ มากเกือบ 10,000 คน แถมหลังจบการชกยังมีแฟนคลับมาขอถ่ายรูปกับ นักชกชาวไทย หลายราย

นอกจากนี้ในเพจเฟสบุ๊ค Banchamek Gym ของ ยอดมวยดัง ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนการชก มีแฟนๆ เข้ามาชมมากกว่า 16 ล้าน โดยมีรายงานว่าเป็นแฟนมวยชาวกัมพูชา ที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการชกไฟต์นี้เป็นอย่างมาก

สำหรับ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้รับการยอมรับในวงการการต่อสู้ทั่วโกล ทั้งในยุโรป และเอเชีย จนกลายเป็นคนดังในวงการหมัดมวย งานนี้บอกเลยแม้วัยจะล่วงเลยเข้า 40 ปี แต่กระแส บัวขาวฟีเว่อร์! ยังคงแรงทุกที่ที่เจ้าตัวเดินทางไปชกจริงๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อันตรายจาก “ยุงกัด” อาจทำให้ติดเชื้อจนเสียชีวิตได้

อันตรายจาก “ยุงกัด” อาจทำให้ติดเชื้อจนเสียชีวิตได้

เมื่อยุงกัด หลายคนอาจไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ทายาก็หาย หรือบางทีก็ปล่อยไว้เฉยๆ เดี๋ยวกก็หายเอง แต่ในบางครั้งยุงอาจทำให้บางส่วนของร่างกายผิดปกติ ติดเชื้อ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้เลยทีเดียว

อันตรายจากยุงกัด

ในจำนวนน้อยมากๆ แต่อาจเกิดขึ้นได้ คือการโดนยุงกัดแล้วร่างกายติดเชื้อ ลามไปถึงส่วนที่สำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจหรือสมอง แล้วทำให้อาการแย่ลงอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิตได้ ในกรณีนี้สามารถเกิดขึ้น แต่อาจจะหลากหลายสาเหตุแตกต่างกันไปเฉพาะแต่ละบุคคล ตำแหน่งที่ยุงกัด ชนิดของยุงที่กัด สภาพร่างกายของคนที่ถูกยุงกัด และอื่นๆ แต่อาจมีความเป็นไปได้จากสาเหตุเหล่านี้

  • ติดเชื้อจากแผลยุงกัดอุดตันหลอดเลือด

มีบางกรณีที่เมื่อถูกยุงกัดแล้วแผลบวมอักเสบติดเชื้อ แล้วเชื้อดันเข้าไปอุดตันหลอดเลือด (Septic embolism) โดยเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) โดยอาจเกิดขึ้นกับตำแหน่งที่โดนยุงกัดและตำแหน่งที่ติดเชื้อที่ใกล้อวัยวะสำคัญ จนทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้

  • ติดเชื้อไวรัส เวสต์ไนล์ (West Nile) 

เชื้อไวรัส เวสต์ไนล์ เป็นเชื้อไวรัสอันตราย เกิดจากไวรัสสายพันธุ์หนึ่งที่พบในนกเป็นส่วนใหญ่ และแพร่กระจายสู่มนุษย์ผ่านยุง อาการของผู้ที่โดนยุงติดเชื้อกัดจะคล้ายกับผู้ที่เป็นหวัด เช่น ปวดหัว มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดข้อต่อและกล้ามเนื้อ ตาแดง เป็นผื่น และอาจมีอาการปวดศีรษะ หรือท้องเสียร่วมด้วย แต่หากมีอาการหนัก อาจติดเชื้อในสมอง ทำให้เป็นอัมพาต สมองถูกทำลาย ไปจนถึงเสียชีวิตได้

  • ไข้เลือดออก

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก สาเหตุมาจากยุงลาย มีอาการไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และอาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามลำตัว แขน ขา ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลว หรือภาวะช็อก อาจมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเบาเร็ว และความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง และอาจทำให้เสียชีวิตได้

  • มาลาเรีย

มาลาเรีย มีสาเหตุมาจากยุงก้นปล่อง พบได้มากในป่า พื้นที่รกๆ อากาศร้อนชื้น แหล่งน้ำต่างๆ หรือพื้นที่อื่นๆ ทั่วไป อาการของผู้ป่วยโรคมาลาเรีย คือ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน หน้าซีดปากซีดจากการที่เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย เริ่มเข้าสู่ภาวะโลหิตจาง ตัวเหลืองเหมือนดีซ่าน และอาจมีปัสสาวะสีเข้มเหมือนสีน้ำปลา หากอาการหนักจนช็อก อาจเสี่ยงเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโรคที่เป็นโรคอันตรายที่เกิดจากการโดนยุงกัด เช่น เท้าช้าง ไข้สมองอักเสบ ไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนย่า) รวมไปถึงโรคเนื้อเน่า ที่แผลยุงกัดสัมผัสกับแบคทีเรียที่อยู่ในดินหรือในน้ำ และอาจดูแลแผลไม่ดี จนแผลลาม ทำให้แผลติดเชื้อซ้ำซ้อน เป็นต้น

จะรู้ได้อย่างไรว่ายุงกัดแบบไหนถึงอันตราย

ส่วนมากแล้วอาการยุงกัดธรรมดาๆ มักไม่มีอะไรน่ากลัวมาก แต่หากยุงกัดแล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น แผลยุงกัดปวดบวมอักเสบผิดปกติ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิตฉัยโรค ซักถามอาการและความเป็นไปได้อย่างละเอียดจะดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สแลงที่ชาวแคนาดาใช้กัน แต่ประเทศอื่นมี “งง”

Canadian Slang Words You Need to Know

ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาที่ใช้กันสากลทั่วโลก แต่ก็ยังมีคำบางคำที่ใช้เฉพาะเจาะจงกันตามแต่ละพื้นที่ไป เช่นเดียวกันกับสแลง ที่แต่ละพื้นที่ก็มีการปรับเปลี่ยนกันไปตามผู้คนหรือตามวัฒนธรรม ทีนี้เรามาดูกันที่แคนาดาดีกว่า แม้ว่าแคนาดา จะอยู่ในซีกเดียวกันกับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอย่างสหรัฐอเมริกา แต่แคนาดากลับมีสแลงเป็นของตัวเองเยอะแยะไปหมด ตามไปดูกันเล้ย

“ตู้กดเงินอัตโนมัติ”

โดยทั่วไปจะใช้

ATM (Automatic teller machine)

แคนาดาใช้

ABM (Automatic banking machine)

“ชาวแคนาดา”

โดยทั่วไปจะใช้

Canadian

แคนาดาใช้

Canuck [คานัก’]

“บุหรี่”

โดยทั่วไปจะใช้

Cigarette 

แคนาดาใช้

Dart [ดาร์ท]

“ร้านสะดวกซื้อ”

โดยทั่วไปจะใช้

 Convenience store

แคนาดาใช้

Depanneur [ดะแพน’เนอะ]

“เสื้อแขนยาวมีฮู้ด”

โดยทั่วไปจะใช้

 Hoodie

แคนาดาใช้

Bunnyhug [บัน’นิฮัก]

“ไฟฟ้า”

โดยทั่วไปจะใช้

Electricity

แคนาดาใช้

Hydro [ไฮโดร]

“กระเป๋าเป้”

โดยทั่วไปจะใช้

Backpack

แคนาดาใช้

Knapsack [แนพ’แซค]

“เหรียญ 1 ดอลลาร์”

โดยทั่วไปจะใช้

One-dollar coin

แคนาดาใช้

Loonie [ลูนี’]

“พุงบวมเบียร์”

โดยทั่วไปจะใช้

Beer belly

แคนาดาใช้

Molson Muscle [โมลซัน มัซ’เซิล]

“ดินสอสี”

โดยทั่วไปจะใช้

Colored pencil

แคนาดาใช้

Pencil crayon [เพน’เซิล เคร’เอิน]

“เขตเลือกตั้ง”

โดยทั่วไปจะใช้

Electoral district

แคนาดาใช้

Riding [ไร’ดิง]

“รองเท้าวิ่ง”

โดยทั่วไปจะใช้

Running shoes

แคนาดาใช้

Runners [รัน’เนอะ]

“ปาร์ตี้สละโสด”

โดยทั่วไปจะใช้

Bachelor party/Bachelorette party

แคนาดาใช้

Stagette [สตาเกท]

“เหรียญ 2 ดอลลาร์”

โดยทั่วไปจะใช้

 Two-dollar coin

แคนาดาใช้

Toonie [ทูนี’]

“หมวกไหมพรม”

โดยทั่วไปจะใช้

Beanie

แคนาดาใช้

Tuque [โทค]

“ห้องน้ำ”

โดยทั่วไปจะใช้

Restroom

แคนาดาใช้

Washroom [วอช’รูม]

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


ความล้ำของเทคโนโลยี ที่พาคนที่รักให้กลับมาจากโลกแห่งความตาย

ความล้ำของเทคโนโลยี ที่พาคนที่รักให้กลับมาจากโลกแห่งความตาย

แม้ว่า “การจากลา” จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราทุกคน แต่ทุกครั้งที่เราต้องเผชิญหน้าและรับมือกับการจากลา ไม่ว่าจะ “จากเป็น” หรือ “จากตาย” มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจยอมรับ และอดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น การที่ใครสักคนจะปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตเราโดยที่เรายินดีจะให้เขาเป็น “ของขวัญ” ในชีวิต นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีอิทธิพลทางใจต่อเรามาก เกิดความต้องการให้พวกเขา “อยู่กับเราตลอดไป” ทว่าหากนึกย้อนไปในช่วงเวลาแห่งความสุขที่เคยมีร่วมกันแล้ว เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครจินตนาการถึงฉากสุดท้ายได้หรอกว่า “สักวันหนึ่งมันจะจบลง”

เพราะ “ตลอดไปไม่มีอยู่จริง” ลึก ๆ แล้วเราทุกคนตระหนักดีว่าทุกอย่างบนโลกไม่มีอะไรเที่ยงแท้ มีเกิดก็ต้องมีดับ มีพบก็ต้องมีจาก งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราในสักวัน และมนุษย์ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นอมตะนิจนิรันดร์ ต่อให้ยังไม่ตายจากกันไป แต่ชีวิตมนุษย์ไม่เคยหยุดนิ่ง มันมีความเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลง และการเดินหน้าต่อไปทุกวัน เราจึงไม่อาจรั้งให้ใครอยู่กับเราไปได้ตลอดไป โลกได้นำพาคนมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราอยู่เสมอ มีความสัมพันธ์ มีความผูกพัน หลาย ๆ คนอาจจะอยู่ได้นาน ทว่าท้ายที่สุดก็ตราบเท่าที่ “ความตายจะพรากไป”

ก่อนจะถึงวันสุดท้าย มันไม่เคยมีสัญญาณเตือน เพราะมันก็แค่วันธรรมดา ๆ วันหนึ่ง หลายคนต้องเผชิญหน้ากับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของบุคคลอันเป็นที่รักโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกลากันดี ๆ ทิ้งไว้เพียงความเศร้าโศกของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเรารู้ว่านี่จะเป็นวันสุดท้ายของพวกเขา อย่างน้อยเราก็คงอยากจะได้เจอ ได้พูดคุยกับเขาในตอนที่ยังมีลมหายใจอีกสักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็ยังดี การคิดถึงใครสักคนที่เราจะไม่มีวันได้พบเขาอีกแม้จะด้วยความบังเอิญ และเขาก็ไม่มีวันกลับมา เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอยู่ไม่น้อยเลย

istock-1318426446(1)

อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีโลกปัจจุบันมีอะไรหลายอย่างที่ทันสมัยและล้ำหน้าสุด ๆ เราอาจจะเคยได้ยินข่าวคราวความก้าวหน้าของเทคโนโลยีว่าสามารถทำนั่นทำนี่ได้ ชนิดที่เราก็คงไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าโลกเราจะมาถึงจุดนี้ ล่าสุด มีเทคโนโลยีบางอย่างที่ทำได้แม้กระทั่ง “พาคนที่จาก (ตาย) ไปแล้วกลับมา” ฟังดูน่าสนใจใช่ไหม พาคนที่จากเป็นกลับมาว่ายากแล้ว แต่เทคโนโลยีนี่ดันสามารถพา “คนตาย” กลับมาหาเราได้

เทคโนโลยีพา “คนที่ตายไปแล้ว” กลับมาอย่างไร

แน่นอนว่าไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะชุบวิญญาณหรือปลุกคนที่ตายไปแล้วขึ้นมาจากโลกของความตายหรอก ไม่สามารถทำให้พวกเขากลับมามีชีวิตหรือมีลมหายใจได้อีกครั้ง เพราะแม้แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์สุดทันสมัยก็ยังเอาชนะการสิ้นอายุขัยของคนเราไม่ได้ รวมถึงอาจจะดีกว่าการปลุกคนตายหากเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คนเราไม่ตาย แต่สิ่งที่เทคโนโลยีปัจจุบันทำได้ คือช่วยให้เราได้ “สื่อสาร” กับคนที่จากไปแล้วอีกครั้ง นอกเหนือจากการคิดถึงเฉย ๆ

เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา หลาย ๆ คนน่าจะได้เห็นโฆษณาตัวหนึ่งของ “ไก่ห้าดาว” แบรนด์ไก่ย่างและไก่ทอดที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ โฆษณาตัวนี้เป็นไวรัลอยู่บนโลกออนไลน์ในช่วงนั้น ไม่ว่าใครที่ได้เปิดเข้าไปดูก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นโฆษณาที่เรียกน้ำตาได้ดีจริง ๆ และหลังจากดูจบ หลายคนอาจจะพยายามติดต่อ “ครอบครัวอันเป็นที่รัก” ทันที อยากกลับไปหา อยากกินข้าวด้วยกันสักมื้อ อยากใช้เวลาที่มีด้วยกัน…ให้อิ่มที่สุด

ในโฆษณาตัวนั้น ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของคุณสุพิชญา ณ สงขลา (คุณโอ) เธอมีคุณพ่อและคุณแม่เป็นผู้พิการทางการได้ยินทั้งคู่ ภาษามือจึงเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ไว้ ในช่วงแรก โฆษณาชวนให้เราคิดว่าก็คงนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ของแม่ลูกแบบธรรมดา ๆ ขายความซึ้งใจ เรียกน้ำตา ซึ่งเป็นจุดขายทั่ว ๆ ไปที่แบรนด์ไหนก็หยิบมาทำได้ แต่เมื่อดูไปสักพักจะพบว่าโฆษณานี้มีอะไรที่แตกต่างออกไป เพราะเธอพูดถึงคุณแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2553 จากนั้นโฆษณาก็ปรากฏภาพคุณแม่ของเธอกำลังเตรียมมื้ออาหารอยู่ในครัว

ยังไม่ทันจะคิดว่าโฆษณาอาจหานักแสดงที่มีหน้าตาคล้ายกับคุณแม่ของเธอมาเข้าฉาก แสดงเหมือนกับว่าเป็นแม่ของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่ กลับมีข้อความปรากฏขึ้นมาในฉากนั้นว่า “ภาพนี้ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยี Deepfake” โดยทีมงานได้ใช้รูปภาพของคุณแม่ที่เสียชีวิตไปในปี 2553 กว่า 2,000 ภาพ ให้ระบบคอมพิวเตอร์หรือ AI ได้เรียนรู้ สร้างเป็นภาพเสมือนคุณแม่ออกมา ทำให้เธอได้พบกับคุณแม่อีกครั้ง หากแต่เป็นแม่ที่อยู่ในรูปภาพเสมือน ไม่ใช่ตัวคนที่จับต้องได้ และเธอก็ต้องใช้แว่น VR เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับแม่ จากนั้นเนื้อเรื่องของโฆษณาก็ดำเนินต่อไปด้วยการใช้เวลาบนโต๊ะอาหาร สองแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน

Deepfake (ดีปเฟก) คือ เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ถูกกล่าวถึงในโฆษณาไวรัลตัวนี้ ซึ่ง Deepfake เป็นคำที่เกิดจากผสมคำ ระหว่างคำว่า deep ที่แปลว่า ลึก และ fake ที่แปลว่า ปลอม เมื่อรวมความหมายแล้ว Deepfake จึงกลายเป็นการปลอมอย่างลึกซึ้ง ปลอมได้เนียนจนแยกไม่ออกนั่นเองหลักการทำงานของเทคโนโลยีนี้ คือการสร้างภาพเสมือนจากการประมวลผลของระบบการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ทำให้เราสามารถทับซ้อนภาพใบหน้าของบุคคลหนึ่งกับอีกบุคคลหนึ่งได้อย่างแนบเนียน หรือนำภาพของบุคคลอื่นมาสร้างเป็นตัวตนเสมือนดังเช่นในโฆษณา

เทคโนโลยี AI ที่มีประโยชน์และอาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์

ภายในระยะเวลา 5.39 นาทีของโฆษณาตัวนั้น คงทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกปวดหนึบในใจอยู่ไม่น้อย การได้สื่อสารกับบุคคลที่เราคิดถึงและโหยหาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่มีผลต่อจิตใจ หลาย ๆ คนไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้บอกลาดี ๆ ตอนที่อีกฝ่ายยังมีลมหายใจ หรือไม่มีโอกาสที่จะขอโทษ บอกรัก ทำดีด้วยก่อนที่พวกเขาจะจากไป การได้พบเจออีกครั้งจึงเหมือนกับการพังทลายสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพเสมือนที่จับตัองไม่ได้ และพวกเขาไม่ได้กลับมามีชีวิตอยู่จริง ๆ ก็ตาม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่สร้างโอกาสแม้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่นำพาคนที่รักกลับมา

แต่ในอีกมุมหนึ่ง เทคโนโลยีมันก็เป็นเหมือน “ดาบสองคม” อยู่แล้ว มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อเน้นใช้ประโยชน์ก็จริง แต่มันก็มีโทษอยู่เหมือนกัน เทคโนโลยีหากใช้ในทางที่ถูกต้องมันก็จะเกิดประโยชน์มหาศาล แต่หากใช้ในทางที่ผิด มันก็คือคมดาบดี ๆ นี่ล่ะ ที่จะย้อนกลับมาทิ่มแทงและทำลายมนุษย์ที่คิดค้นมันขึ้นมาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน ถ้าวันหนึ่งมนุษย์ควบคุมมันไม่ได้แล้ว

ยกตัวอย่างเทคโนโลยี AI ซึ่ง Tonkit360 เคยนำเสนอบทความ AI อาจทำลายมนุษยชาติ เป็นภัยคุกคามมากกว่าผู้ช่วย ไปแล้ว ต้องยอมรับว่า AI คือเทคโนโลยีหนึ่งที่สร้างความกังวลใจแม้แต่กับคนที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ว่าถ้าถึงจุดหนึ่งที่ AI มันพัฒนาตนเองได้แบบก้าวข้ามเงื่อนไขและขีดจำกัดต่าง ๆ จนฉลาดเกินมนุษย์ขึ้นมาจริง ๆ มันจะเริ่มเป็นภัยคุกคามชีวิตมนุษย์ และวันนั้นมันอาจเป็นผู้ทำลายเต็มขั้นมากกว่าที่จะเป็นผู้ช่วย วันใดที่มันเกิดนึกคิดของมันเองได้ ไม่ต้องรอประมวลผลจากคำสั่งที่มนุษย์ป้อนเข้าไป มันคงเป็นอิสระจากมนุษย์ที่คอยควบคุมมันอยู่เป็นแน่

ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ AI กันได้อย่างเต็มปาก เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีทั้งหลายที่เราหยิบจับอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่พึ่งพาการทำงานของ AI แทบทั้งนั้น ความฉลาดล้ำของมันทำให้ใครหลายคนตะลึงกับความสามารถที่มันทำได้ เพราะฉะนั้น ตราบใดที่เรายังใช้ประโยชน์จากมันได้ เราก็พร้อมที่จะมองข้ามโทษของมันไปเสมอ อย่างการสร้างภาพเสมือนของบุคคลที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ในมุมหนึ่งมันคือเรื่องราวสุดซึ้งเรียกน้ำตา แต่ในทางกลับกันหากมีคนพยายามจะใช้ความสามารถนี้ของเทคโนโลยีในทางมิชอบล่ะ? นี่เป็นสิ่งที่ต้องระวังและรู้เท่าทัน ดูที่เจตนาให้ดี

สร้างภาพเสมือน นำคนที่รักกลับมา ไม่ได้มีแค่ในโฆษณา

การนำคนที่รักที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมา (แม้จะเป็นแค่ภาพเสมือน) ไม่ได้ปรากฏแค่เป็นคอนเทนต์ในโฆษณาเท่านั้น แต่ยังมีความพยายามที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ยามที่พวกเราคิดถึงและอยากเจอพวกเขา เช่น Amazon ที่เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่และกำลังทดลองบนลำโพงอัจฉริยะ Alexa ซึ่งฟีเจอร์นี้คือการใช้เทคโนโลยี AI เลียนแบบเสียงของคนรู้จักหรือคนในครอบครัวของผู้ใช้งานที่เสียชีวิตไปแล้ว เสมือนว่าพวกเขายังอยู่ใกล้ ๆ ยังพูดคุยกับเราอยู่

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับปรโลกได้แต่อย่างใด เพราะมันเป็นเพียงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานเหมือนกับ Deepfake ให้ AI จดจำเสียงของผู้เสียชีวิตที่เราเคยเก็บบันทึกไว้ โดยอาจจะเป็นคลิปวิดีโอ หรือไฟล์เสียงสนทนาที่เรามีเก็บไว้ก็ได้ AI จะบันทึก เรียนรู้ จดจำ และเลียนแบบใช้เสียงของบุคคลนั้นเป็นเสียงของผู้ช่วยเสมือนที่มาสนทนากับเราผ่านระบบผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงก็เท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าปกติเราใช้งานลำโพงนี่ให้ปลุกเราตื่นยามเช้า ต่อไปก็อาจจะมีเสียงของคนในครอบครัวที่จากไปแล้วมาปลุกเราในทุกเช้าแทนก็ได้

โดย Rohit Prasad หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ผู้พัฒนา Alexa AI ได้อธิบายถึงความพยายามที่จะเพิ่มฟีเจอร์เลียนแบบเสียงบุคคลเข้าไปใน AI ว่ามันเป็นเรื่องที่มีผลต่อจิตใจคนเรา โดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก หลายคนไม่เคยเตรียมใจมาก่อนว่าพวกเขาจะจากไปกะทันหัน และยังรับไม่ได้ที่ต้องสูญเสียบุคคลนั้นไป “ถึง AI จะกำจัดความรู้สึกเสียใจที่สูญเสียใครสักคนไปไม่ได้ แต่มันช่วยให้เราหายคิดถึงบุคคลที่เราสูญเสียได้” เพราะ AI จะทำงานราวกับว่าบุคคลนั้นยังอยู่กับเราเสมอ

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาก็เคยมีการใช้เทคนิค Hologram ในการสร้างภาพแบบ 3D จำลองภาพบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วให้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งมาก่อนหน้านี้แล้วเหมือนกัน อย่างเช่น Kanye West ที่เคยพาพ่อของ Kim Kardashian ที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาอวยพรวันเกิดให้ลูกสาวในรูปแบบของ Hologram หรือ Snoop Dogg แรปเปอร์ที่ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตคู่กับ Hologram ของ Tupac Shakur ที่เสียชีวิตไปนานถึง 15 ปีแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายครั้งทีเดียวที่มีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี พาคนที่เรารักกลับมาจากโลกแห่งความตาย ไม่ว่าจะเป็นการผสาน AI เข้ากับ Hologram เพื่อให้ภาพ Hologram สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ หรือจะใส่ข้อมูลอื่น ๆ ที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์ลงไปก็ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR หรือ VR ทั้งแบบที่ดูในจอหรือแบบที่สวมใส่เพื่อมองโลกเสมือนให้เป็นโลกเดียวกับโลกจริง ก็จะยิ่งช่วยให้เราเห็นเหมือนคนจริง ๆ จนแทบแยกไม่ออก หรือแชตบอทพูดคุยกับคนที่จากไปแล้ว เกิดจากการวิเคราะห์แชตจริงที่เราเคยคุยกับบุคคลนั้นก็ทำได้

อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีลักษณะนี้จะดีต่อใจคนบางกลุ่มที่โหยหาคนที่จากไปแล้ว แต่ก็มีผู้คนมากมายที่ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะมองว่าเทคโนโลยีจะทำให้คนเราไม่ยอมรับที่จะอยู่ในโลกของความเป็นจริง ยังยึดติดไม่มูฟออนแม้แต่กับคนที่ตายไปแล้ว รวมถึงความน่ากังวลว่าอาจมีมิจฉาชีพนำไปใช้ปลอมแปลงเป็นเสียงของคนที่เราคุ้นเคยเพื่อใช้ในจุดประสงค์ในทางที่ไม่ดี หรือมันอาจจะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับคนบางกลุ่มในการหากินกับคนที่จมกับความเศร้าเพราะความสูญเสียและคนที่ตายไปแล้วก็เป็นได้

และอีกสิ่งที่สำคัญ คนเราจะยอมให้คนรักที่เสียชีวิตไปแล้วกลายเป็น AI ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าแค่เป็นการปรากฏเพื่อให้ระลึกถึงชั่วครั้งชั่วคราว เพราะอยากมีโอกาสอีกสักครั้งนั้น มันอาจจะดีต่อใจคนบางคนได้จริง ๆ ตอบสนองความโหยหาและความคิดถึง แต่ถ้าจะอยู่กันต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะ จะดีจริงเหรอที่คนที่ตายไปแล้วจะยังวนเวียนอยู่รอบตัวเราด้วยความล้ำของเทคโนโลยี เพราะคนตายที่กลับมาก็ไม่ใช่ผี แต่จะให้มองว่าเป็นเพียงภาพเสมือนจากเทคโนโลยีก็ไม่สะดวก รวมถึงพวกเขาอาจไม่ได้อยากกลับมา คนเป็นนี่แหละที่ไม่ปล่อยวาง เราจะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรล่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แผงโซลาร์ใครว่าต้องอยู่บนหลังคาเท่านั้น? ส่องนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่คุณสามารถเดินเหยียบได้!

พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับประเทศที่แดดจ้าดังกลัวว่าเราจะไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ข้อจำกัดด้านพื้นที่ก็(เคย)เป็นอุปสรรคหนึ่งที่หลายคนไม่สามารถติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ได้ จึงทำให้พลาดโอกาสในการประหยัดค่าใช้จ่ายและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก แต่วันนี้ขีดจำกัดเดิม ๆ ของการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้พัฒนามากมายพากันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถเหยียบได้ (หรือ “ทางเท้าที่ให้พลังงานแสงอาทิตย์”) นี้

ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย เมืองอัจฉริยะ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในทะเล “ทางเท้าที่ให้พลังงานแสงอาทิตย์” จาก Platio ก็สามารถสร้างความงามพร้อมพลังงานสะอาดได้ เป็นมิตรกับธรรมชาติสูงสุด เพราะผลิตจากวัสดุรีไซเคิล อย่าง พลาสติก แก้ว และเศษหินดินทราย มาพร้อมรูปลักษณ์ที่งดงามพร้อมสำหรับการติดตั้งอย่างไม่ต้องแลกกับการใช้พื้นที่ที่มีค่ามากมาย เปลี่ยนสถาปัตยกรรมธรรมดาให้เป็นสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน เสริมภาพลักษณ์ธุรกิจธรรมดาให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยจุดเด่นที่สามารถติดตั้งเป็นแผ่นปูทางเท้าให้คุณสามารถเดินเหยียบได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศขอสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 8/07/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,700.0029,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,924.0029,167.8430,300.00
ทองรูปพรรณ 90%1,731.6026,251.06n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,539.2023,334.27n/a
ทองรูปพรรณ 50%866.0013,128.56n/a
ทองรูปพรรณ 40%673.0010,202.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,994.0030,229.04n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 8/07/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9541.5541.5541.5541.5541.8541.5541.5541.5541.5541.55
แก๊สโซฮอล์ 9141.2841.2841.2841.2841.5841.2841.2841.2841.2841.28
แก๊สโซฮอล์ E2040.4440.4440.4440.4440.7440.4440.4440.4440.44
แก๊สโซฮอล์ E8535.3435.3435.34
เบนซิน 9548.9649.7149.4649.7648.96
ดีเซล B734.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม46.3649.3651.3950.5650.5946.36
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า