อสังหาฯใหญ่ ประกาศ “รับซื้อที่ดินทั่ว กทม.”
อสังหาฯ รายใหญ่ “เอพี ไทยแลนด์” สวนกระแสตลาด ประกาศรับซื้อที่ดิน 23 ทำเลทั่วกรุงเทพฯ คาด หวังใช้รองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแข่งขันในอนาคต
30 ตุลาคม 2563 – เพจ AP Thai ของบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าและโครงการแนวราบหลายระดับราคา โพสต์ข้อความ ประกาศรับซื้อที่ดิน 23 ทำเล ทั่วกรุงเทพฯ ตามรายละเอียดดังนี้
ขนาด 20 ไร่ ขึ้นไป สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์
• กรุงเทพโซนเหนือ : ดอนเมื่อง สรงประภา วิภาวดี ศรีสมาน
• กรุงเทพโซนใต้ : สุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ พระราม 2
• กรุงเทพโซนตะวันออก :บางนา อ่อนนุช รามคำแหง รามอินทรา
• กรุงเทพโซนตะวันตก : ปิ่นเกล้า พุทธมณฑล นครอินทร์ ราชพฤกษ์
ขนาด 3 – 10 ไร่ ในเมือง ซอยกว้างเกิน 6 เมตร สำหรับหรับโครงการคอนโดมิเนียม
• พหลโยธิน – ลาดพร้าว
• พญาไท พระราม 9
• เพชรบุรีตัดใหม่ สุขุมวิท พระราม 4
• เจริญกรุง ราษฎร์บูรณะ
พร้อมระบุช่องทางการติดต่อ ว่าหากสนใจเสนอขายที่ดิน สามารถส่งข้อมูล หรือสอบถามเพิ่มเติม โดยส่งอีเมลมาที่ spi@apthai.com หรือ LINE ID: @690doyxb
ทั้งนี้ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทมีรายได้รวมสูงกว่า 13,140 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2563 บริษัทมีรายได้รวมทั้งจากธุรกิจสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ ที่ 19,960 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1,830 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
จีน สบช่อง ช็อป คอนโด ถูก
ทุนจีนไล่ซื้ออสังหาฯราคาถูก ดีเวล็อปเปอร์ โละสต๊อกคอนโด 6 หมื่นหน่วย-รัฐบาล เปิดประตู ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ สมาคมอาคารชุด ยันสัญญาณบวก ทำเลใจกลางเมือง นานา-สุขุมวิท-เอกมัย มีการวางเงินดาวน์แล้ว
เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หลังรัฐบาลแง้มประตูให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มเข้าประเทศท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่หลายฝ่ายยังวิตก ว่าอาจเกิดการระบาดรอบสอง อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มเห็นสัญญาบวกของทุนจีน ที่มีความพยายามติดต่อซื้อ คอนโดมิเนียมในไทยเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยตลอดจนลงทุนในอนาคตแม้ผู้ซื้อยังไม่สามารถเดินทางเข้าไทยได้ จากอุปสรรคที่ยังไม่เปิดน่านฟ้า
ในทางปฏิบัติสามารถติดต่อผ่านสถานทูต อีกทั้งยังเจรจากับโบรกเกอร์ ทั้งจีนและไทยตลอดจน เพื่อนชาวจีนที่อยู่ในไทยมาก่อนหน้านี้ โดยทำเลที่มีความต้องการส่วนใหญ่ อยู่ใจกลางเมือง อย่างสุขุมวิทตอนต้น นานา เอกมัย พระราม 4 ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ที่ผู้ประกอบการยอมรับว่าต่างชาติยังสนใจอันดับต้นๆ และยังมีเงินเย็นที่มองว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยยังมีความคุ้มค่าเนื่องจากดอกเบี้ยทั่วโลกค่อนข้างตํ่า
ขณะเดียวกันดีเวลอปเปอร์ไทย ต่างระบายสต๊อกในมือทั้งลดราคาขายเฉลี่ย10-30% จึงเป็นโอกาสทองที่ต่างชาติได้อานิสงส์สามารถซื้อ ได้ในราคาถูกเพื่อลงทุน หรือแม้อยู่อาศัยในระยะยาว ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลดีต่อสต๊อกคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ 6.4 หมื่นหน่วยทั้งในกทม.และปริมณฑลประเมินว่าอย่างน้อยน่าจะพอขายออกได้บ้างหากมีโครงการตั้งอยู่ในทำเลดังกล่าวทั้งระดับราคาสอดรับกับความต้องการของลูกค้าชาวจีนระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปจนถึง ราคา 100 ล้านบาท ต่อหน่วย
ด้านรัฐบาลต้องใจกล้าลดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงหากต่างชาติต้องเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทย เช่นควรสนับสนุน ใบต่างด้าว หากซื้ออสังหาฯราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ขยายวีซ่าระยะยาว 5 -10 ปี สำหรับคนที่ซื้อที่อยู่อาศัย ระดับ5-10 ล้านบาทตามลำดับ มองว่าจะเป้นแม่เหล็กให้เกิดการซื้อขายสะดวกขึ้น
ต่อเรื่องนี้นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย ยืนยันกับ“ฐานเศรฐษกิจ” ว่า ทันทีที่รัฐบาลเปิดประเทศให้คนต่างชาติบางกลุ่มเข้าประเทศมองว่าเป็นโอกาสที่ดีของดีเวลอปเปอร์ ไม่เพียงเฉพาะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังเห็นสัญญาณความต้องการ ของลูกค้าจีน สนใจติดต่อซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทในทำเลนานา จำนวน 5 ห้องรวมมูลค่า 90 ล้านบาท และล่าสุดได้โอนเงินจำนวน 1 ล้านบาท วางดาวน์เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เอกมัยกว่า50% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชาวจีน ซื้อไปในราคาหน่วยละ 10-20 ล้านบาททั้งที่ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ เจ้าตัวไม่สามารถเดินทางมาได้ และหากใครซื้อช่วงนี้ จะได้โครงการราคาถูกลง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลดราคา แต่ไม่น่าจะลงได้ถึง30% นอกจากบางค่ายที่มีสต๊อกในมือค่อนข้างมากและต้องการเงินสดในมือ
“เมื่อเทียบกับการขายโครงการให้กับคนไทยแล้ว 5 ห้อง อาจได้ เงินวางดาวน์เพียงห้องละ 5,000 บาท ซึ่งเทียบกับต่างชาติไม่ได้”
ขณะเดียวกันยังไม่ลืมนึกถึงลูกค้าภายในประเทศที่อยากให้ รัฐบาลต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองออกไป และพุ่งเป้าไปที่กลุ่มกลางบน อย่างกลุ่มระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไปแทน จากกลุ่มบ้านราคาตํ่ากว่า 3 ล้านบาท หรือ กลาง-ล่าง กำลังซื้อกลุ่มนี้หายไปจากตลาดแล้วด้านนายปิยะ ประยงค์ ซีอีโอ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ยืนยันว่าแม้คนจีนจะออกนอกประเทศไม่ได้ แต่ยังมีบางกลุ่มที่มีเงินให้ความสนใจซื้อคอนโดมิเนียม ของโครงการหากโควิดเบาบางลงคนต่างชาติจะกลับเข้ามาเนื่องจากรัฐบาลบริหารจัดการสถานการณ์ได้ดี
เช่นเดียวกับ นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บจก.โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ ระบุว่าขณะนี้คนฮ่องกง ให้ความสนใจซื้อ คอนโดมิเนียม ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ระดับราคา ตั้งแต่ 10-100 ล้านบาทขึ้นไป รวมไปถึงให้ความสนใจซื้อ ตึกแถวเก่า อาคารสำนักงาน โรงแรมเพื่อพัฒนาในอนาคตหากโควิดลดผลกระทบลง อย่างไรก็ตามด้วยการที่ประเทศไทยสามารถจัดการกับโควิดได้ดี อีกทั้ง ความชื่นชอบเป็นทุนเดิมของคนจีน แน่นอนว่าอสังหาริมทรพย์ไทย ยังคงได้รับความนิยมในสายตาชาวโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หนี้สาธารณะ64จ่อคอหอย9ล้านล้านบาท
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ได้รายงานหนี้สาธารณะ ล่าสุด ณ 30 ก.ย. 2563 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2563 มีหนี้สาธารณะจำนวน 7.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 49.35% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับ ณ 31 ส.ค. 2563 หนี้สาธารณะอยู่ที่ 7.66 ล้านล้านบาท คิดเป็น 47.90% ของจีดีพี คิดเป็นจำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้น 1.8 แสนล้านบาท
สำหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเดือน ก.ย. 2563 ที่เพิ่มเป็น 49.35% มาจากทั้งจำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมูลค่าของจีดีพีก็ลดลง โดยในเดือน ก.ย. 2563 มูลค่าจีดีพีอยู่ที่ 15.9 ล้านล้านบาท ขณะที่เดือน ส.ค. 2563 มูลค่าจีดีพีอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท
ทั้งหนี้สาธารณะล่าสุด แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 6.73 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 7.95 แสนล้านบาท หนี้สถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน 3.09 แสนล้านบาท และหนี้ของหน่วยงานรัฐ 7,821 ล้านบาท
ในส่วนของหนี้ที่รัฐบาลก่อเพิ่มในปีงบประมาณ 2563 ได้แก่ การกู้เพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณ 4.91 แสนล้านบาท กู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 3.55 แสนล้านบาท และเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. โควิด-19 อีก 3.35 แสนล้านบาท
สำหรับแผนการก่อหนี้สาธารณะใหม่ในปีงบประมาณ 2564 มีจำนวน 1.46 ล้านบาท เป็นรัฐบาลก่อหนี้ 1.34 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการ กู้เพื่อชดเชยขาดดุล 6.23 แสนล้านบาท กู้ภายใต้ พ.ร.ก. โควิด-19 จำนวน 5.5 แสนล้านบาท กู้บริหารสภาพคล่อง 9.9 หมื่นล้านบาท และกู้ลงทุนโครงการ 7.41 หมื่นล้านบาท
ขณะที่เหลือเป็นการก่อหนี้ของรัฐวิสาหกิจ 1.17 แสนล้านบาท และการก่อหนี้ของหน่วยงานอื่นอีก 1,808 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์” ผงาดคว้าแชมป์ ซูเปอร์คาร์ 2 รุ่นซ้อน ศึก “Thailand Super Series 2020” ที่บุรีรัมย์
โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ทีมแข่งรถภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ท็อปฟอร์มสุดพีคคว้าแชมป์ทุกรุ่นในรายการ “Thailand super series 2020” การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน เรซ 1-2 นำทีมโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์, อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563
ประเดิมลงสนามแรกของรายการ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ จัดทีมนักแข่งสุดแกร่งลงสู้ศึก ขับเคี่ยวความเร็วแรงแบบรุ่นใหญ่ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง ที่ไฮไลท์ต้องยกให้รุ่น Thailand Supercar GTM ด้วยรถ Lexus RC-F GT3 รถหมายเลข 39 ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ โชว์ความเก๋าสร้างผลงานสุดยอดเยี่ยมม้วนเดียวจบคว้าดับเบิ้ลแชมป์ขึ้นโพเดียมอันดับที่ 1 ทั้งเรซที่ 1 และ 2 ด้านรถหมายเลข 38 ขับโดยทีมเมท ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และอัครพงษ์ อัคนีนิโรธ ไม่น้อยหน้าคว้าอันดับที่ 2 ทั้งในเรซที่ 1 และ 2 เช่นกัน และยังรับถ้วยรางวัลประเภททีมไปครอง
ด้านการแข่งขันในรุ่น Thailand Super Car GTC ทีมเปิดตัวใช้รถ Toyota GR Supra รถสปอร์ตในตำนานเข้าประจำการลงสนามแข่งเป็นครั้งแรก เหยียบกันเต็มสปีด 12 รอบ รถหมายเลข 37 ขับโดยมานัต กุละปาลานนท์ ทำเต็มที่ก่อนจบเรซที่ 1 ในอันดับที่ 5 เข้าสู่เรซ 2 วันนี้ลงสนามแบบดุดันโชว์พลังฝีมือและใจสุดแกร่งเหยียบเต็มสปีดแซงขึ้นนำ จนถึงรอบสุดท้ายสู้เต็มพิกัดพุ่งรับธงหมากรุกไปอย่างเหนือชั้นจบเรซที่ 2 คว้าชัยชนะอันดับที่ 1 และหมายเลข 19 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ จบการแข่งขันเรซ 2 ได้ในอันดับที่ 4 และรับถ้วยรางวัลประเภททีม ทำให้จบการแข่งขันทั้ง 2 วัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปอย่างยิ่งใหญ่
โดยคุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวถึงผลการแข่งขันในสนามแรกนี้ว่า “เป็นการแข่งขันที่สนุกและตื่นเต้นมากครับ เป็นสนามเปิดฤดูกาลหลังจากที่รอคอยมานาน ทุกทีมตั้งใจและเตรียมตัวมาเต็มที่ ยิ่งทำให้การแข่งขันสนุกมาก ทีมเราเองก็ทำเต็มที่ และมี Toyota GR Supra มาเสริมความแกร่งให้กับทีม ทำให้วันนี้เราเปิดฤดูกาลของไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ 2020 ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ”
สำหรับ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ มีโปรแกรมแข่งขันอีกครั้งในรายการ Thailand Super Series 2020 สนาม 3-4 และรายการ RAAT Endurance Championship International 2020 สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมติดตามชมและเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ภาวะปัสสาวะบ่อย โรคใกล้ตัวกวนใจ
ภาวะของการปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ บางคนปวดปัสสาวะ 2-3 ครั้งต่อชั่วโมง หรือต้องลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อยๆ ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
ศ.นพ.วชิร คชการ สาขาวิชาศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ภาวะปัสสาวะบ่อยเกินไป เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย บางรายไม่รู้ตัวว่าเป็นอยู่หรือไม่รู้ตัวว่า มีอาการส่อแววว่าเข้าข่ายโรคนี้ โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยกว่าคนทั่วไป ทุกครั้งที่ปวดจะมีอาการรุนแรงที่ต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ อาจปวดทุกชั่วโมงจนไม่เป็นอันทำอะไร แม้แต่ตอนกลางคืนก็นอนไม่ได้เพราะต้องลุกมาเข้าห้องน้ำทั้งคืน สร้างความทุกข์ทรมานและความรำคาญให้กับผู้ที่เป็น
ในภาวะคนปกติ เมื่อมีน้ำอยู่ในกระเพาะปัสสาวะในปริมาณครึ่งหนึ่งของกระเพาะปัสสาวะ คนทั่วไปจะเริ่มรู้สึกหน่วง ๆ ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าปวด แต่หากเดินผ่านห้องน้ำก็อาจจะแวะเข้าห้องน้ำ เพื่อปลดความหน่วงนั้นทิ้งไป แต่ถ้ายังหาห้องน้ำไม่ได้ หรือติดภารกิจอื่นอยู่ จะยังไม่ขวนขวายที่จะเข้าห้องน้ำกระทั่งมีน้ำอยู่ในกระเพาะปัสสาวะจนเต็ม กระเพาะปัสสาวะจะเกิดการบีบตัวและปวดในที่สุด และเมื่อปวดคนปกติจะเข้าห้องน้ำและถ่ายปัสสาวะตามลำดับ
แต่ถ้าหากเป็นคนที่ผิดปกติหรือมีภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป จะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยเกือบทุกชั่วโมง หากเป็นเวลากลางคืนจะนอนไม่เพียงพอเพราะต้องลุกมาเข้าห้องน้ำทั้งคืน ซึ่งกระเพาะปัสสาวะจะเกิดการบีบตัวทั้งที่น้ำยังไม่เต็มกระเพาะปัสสาวะ เมื่อขับถ่ายออกมาจะมีปริมาณน้อยสวนทางกับอาการปวด เพราะคนที่มีภาวะนี้ จะรู้สึกปวดหนักมากและต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ และอาจกลั้นไม่อยู่จนต้องปล่อยราดออกมา
สาเหตุที่แท้จริงของภาวะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สรุปได้ คร่าว ๆ ได้ว่ามีบางอย่างรบกวนการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ โดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับระบบประสาทควบคุมที่ทำให้มีการบีบตัวไวเกินไป แต่อย่างไรก็ตามอาจมีโรคอื่นที่ไม่ใช่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไปเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน หากมีการพบแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจหาโรคอื่นก่อน เช่น ตรวจอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะว่ามีหรือไม่ ตรวจว่ามีเม็ดเลือดแดงปนอยู่ในกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ หรืออาจตรวจเลือดหาความผิดปกติ และตรวจดูการทำงานของไตว่า มีความบกพร่องหรือมีการกลั่นปัสสาวะบ่อยเกินไปหรือไม่
อาจต้องให้คนไข้จดบันทึกว่าภายใน 24 ชั่วโมง มีการดื่มน้ำเท่าไร ดื่มน้ำชนิดไหนบ้าง เช่น น้ำเปล่า น้ำส้ม กาแฟ เป็นต้น และดื่มในปริมาณเท่าไร มีการถ่ายปัสสาวะกี่ครั้ง เวลาไหนบ้าง มีอาการอื่นร่วมหรือไม่ เพื่อทำการประเมินต่อไป ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจดบันทึกคือ 3 วัน จากนั้นแพทย์จะประเมินจากข้อมูลเหล่านั้น เพื่อหาสาเหตุของการขับถ่ายปัสสาวะที่บ่อยกว่าคนปกติ
เพราะในผู้ป่วยบางรายพบว่ามีพฤติกรรมดื่มน้ำบ่อยทั้งที่ร่างกายยังไม่ทันขาดน้ำ อาจเกิดจากอาการคอแห้งบ่อย ก็เป็นสาเหตุให้ปัสสาวะบ่อยกว่าคนปกติได้ หรือบางคนชอบทานผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากก็ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็ต้องรู้ก่อนว่าคนไข้มีพฤติกรรมอย่างไร จึงจะทำการรักษาได้ถูกจุด หากพบว่าเป็นที่พฤติกรรมก็ต้องให้คนไข้ปรับพฤติกรรมตนเอง และอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากภาวะบีบตัวไวเกินไปของกระเพาะปัสสาวะ
และสังเกตได้ว่าการขับถ่ายแต่ละครั้งมีปริมาณที่สมเหตุสมผล ซึ่งอาการปวดเกิดจากน้ำที่เต็มกระเพาะปัสสาวะ แตกต่างจากคนที่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติที่มักขับถ่ายออกมาในปริมาณน้อยเพราะขับถ่ายทั้งที่น้ำยังไม่ทันเต็มกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้อาจมีการตรวจร่างกายต่อไปเป็นลำดับ หลังจากจดบันทึกพฤติกรรมของผู้ป่วยแล้ว และยังหาสาเหตุไม่พบ
ส่วนใหญ่ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไปจะเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะโดยตรง เช่น การอักเสบ เรื่องของโรคในกระเพาะปัสสาวะ เช่น มีนิ่วหรือก้อนเนื้องอก หรือความผิดปกติของอวัยวะข้างเคียง เช่น ในผู้หญิงอาจมีความผิดปกติของมดลูก เรื่องของฮอร์โมนที่ขาดไป แต่เรื่องสำคัญที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกันที่ต้องทำการแยกแยะ คือความผิดปกติของระบบประสาทสั่งการทั้งสมอง ไขสันหลัง และส่วนต่าง ๆ ทั้งหมด
สาเหตุแท้จริงนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่ามีหลายอย่างมากระตุ้นได้ เช่น อุปนิสัย เครื่องดื่มบางชนิด การใช้ชีวิต อย่างเช่นบางคนอาจมีภาวะที่ต้องกลั้นปัสสาวะอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงอาหารบางอย่างที่มีคุณสมบัติในการเร่งการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ เช่น กาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีรสจัด โซดา อาหารที่รสจัด เครื่องเทศ วาซาบิ เป็นต้น
ภาวะดังกล่าวสามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่อาจพบที่ช่วงอายุต่างกัน ในผู้หญิงมักพบในวัยทำงาน วัยมหาวิทยาลัย แต่ในผู้ชายจะพบเมื่ออายุมากกว่าอาจมาจากต่อมลูกหมากโตหรือการทำงานของสมองเริ่มบกพร่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
MG EV ไม่ง้อร้าน 7-11 ลุยเพิ่มควิกชาร์จ 500 สถานีทั่วไทย
MG บุกตลาด EV รถยนต์ไฟฟ้า วางแผนลงทุนสร้างสถานี DC ควิกชาร์จ 500 แห่ง ทั่วประเทศ ประเดิมโชว์รูม MG 100 แห่งปีนี้
MG ปลุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง อีวี ( MG EV ) และ ปลั๊ก-อินไฮบริด ( MG Plug-in Hybrid ) ราคาประหยัด พร้อมลงทุนสร้างสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC “ควิกชาร์จ” สาธารณะ ตั้งเป้า 500 แห่งภายในปี 2564 แต่ไม่มีแผนติดตั้งที่ร้านสะดวกซื้อในเครือซีพี 7-11
เอ็มจี ( MG ) โดย เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี (บริษัทผลิตรถยนต์) และเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)จำกัด (บริษัทขายรถยนต์) เปิดยุคใหม่รถยนต์ไฟฟ้า MG EV และ MG Plug-in Hybrid ในเมืองไทยเต็มตัว ทั้งการนำเข้าจากจีน และประกอบในประเทศ กับโปรดักต์หลากหลายที่สุดในตลาดแมส เน้นออกแบบสวยงาม เทคโนโลยีเพียบ ฟังก์ชันเยอะ ในราคาเข้าถึงง่าย ที่สำคัญยังพยายามลดความกังวลในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า โดยผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจี จะได้ของแถมเป็น Wallbox มูลค่า 5 หมื่นบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี
ขณะเดียวกัน MG วางแผนขยายสถานีชาร์จแบบ DC หรือ ควิกชาร์จ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศรวม 100 แห่งภายในปีนี้ (ส่วนใหญ่ติดตั้งที่โชว์รูม-ศูนย์บริการของเอ็มจี) และปี 2564 มีแผนร่วมมือกับพันธมิตร หาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อทำสถานีชาร์จ ซึ่งเอ็มจีจะเป็นผู้ลงทุนเรื่องตู้ชาร์จไฟ DC มูลค่าประมาณ 6-8 แสนบาทต่อตู้
สำหรับ MG ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ DC ให้ถึง 500 แห่งในปี 2564 โดยเริ่มพูดคุยกับเจ้าของสถานที่ทั้ง สถานีบริการนำ้มัน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกต่างๆ แต่ยืนยันว่าไม่มีแผนติดตั้งตู้ชาร์จพลังงานไฟฟ้า ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ของ “ซีพี ออลล์” ที่อยู่ในธุรกิจของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เหมือนกัน
“เราเคยพูดคุยถึงแผนการติดตั้งตู้ชาร์จพลังงานไฟฟ้ากับ 7-11 แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะติดปัญหาด้านเทคนิค เช่น บางที่ทำได้บางที่ทำไม่ได้ เป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ลงตัว” นายจาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
เราเตรียม เปิดตัว MG EV รุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง และจากการสำรวจพบว่าคนที่เคยใช้ EV แล้ว ไม่อยากกลับไปใช้รถยนต์ทั่วไป (ICE) ดังนั้นเราจึงพยายามลดความกังวลตรงนี้ ด้วยการขยายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้า 500 แห่งภายในปี 2564
นายจาง กล่าวว่า ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะต้องลงทุนทำสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าเองทั้งหมด เพราะเห็นตัวอย่างจากประเทศอื่นๆ เช่น จีน และแถบยุโรป ที่มีผู้ลงทุนให้ หรือรัฐบาลสนับสนุน แต่สำหรับเมืองไทย หลังจากการพูดคุยกับหลายภาคส่วน บอกกับเราว่า ถ้าอยากให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิด ต้องมีสถานีชาร์จให้มากพอ และขอให้เราลงทุนไปก่อน
“ที่ผ่านมารัฐบาลมีแอคชั่นเรื่องสถานีชาร์จบ้าง และมีหน่วยงานต่างๆ เช่น การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่เรามองว่ายังไม่มากพอ เพราะเราอยากให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีที่ชาร์จเพียงพอ และเพื่อรองรับการ เปิดตัว MG EV รุ่นใหม่ๆ ของเราในอนาคต” นายจาง กล่าว
ล่าสุด เอ็มจี เปิดตัว MG HS PHEV เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริด ประกอบในไทย ราคา 1.359 ล้านบาท แถมฟรีเครื่องชาร์จไฟฟ้า Wallbox และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายใน 31 ธันวาคม 2563โดยเอ็มจีตั้งเป้าหมายการขาย 800 คันภายในปีนี้
MG HS PHEV วางเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (โหมด EV) ได้สูงสุด 67 กิโลเมตร
สำหรับ MG HS PHEV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลที่ 2 ที่ทำตลาดในไทย ต่อจาก MG ZS EV เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ผ่านมา 9 เดือน(ม.ค.- ก.ย.63) ขายไป 327 คัน (MG ZS รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ขายได้ 7,168 คัน)
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลที่ 3 ของเอ็มจี เตรียมเปิดตัวปลายเดือนพฤศจิกายน นี้ทันที กับรุ่น MG 5 EV ตัวถังสเตชั่นแวกอน ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากจีน คาดราคาไม่เกิน 1.3 ล้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คำศัพท์ เนื้อสัตว์ ต่างๆ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน คำแปล
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ หมวด เนื้อสัตว์ สำหรับกิน ทำอาหารทาน พร้อมคำอ่าน คำแปล คำศัพท์ เนื้อสัตว์ ภาษาอังกฤษ […]
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ หมวด เนื้อสัตว์ สำหรับกิน ทำอาหารทาน พร้อมคำอ่าน คำแปล
คำศัพท์ เนื้อสัตว์ ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน อ่านว่า | คำแปล แปลว่า |
Bacon | เบ’เคิน | เบคอน |
Beef | บีฟ | เนื้อวัว |
Chicken | ชิค’เคิน | เนื้อไก่ |
Chicken wings | ชิค’เคิน-วิงสฺ | ปีกไก่ |
Duck | ดัค | เนื้อเป็ด |
Fillet | ฟิเล’ | เนื้อไม่มีกระดูก |
Ground beef | เกราดฺ-บีฟฺ | เนื้อบด |
Hot dog | ฮอท-ดอก | ฮอตดอก (ไส้กรอกปรุงสุก) |
Lamb | แลมบ์ | เนื้อลูกแกะ |
Meat | มีท | เนื้อสัตว์ |
Minced pork | มินซฺ-พอร์ค | หมูสับ |
Mutton | มัท’เทิน | เนื้อแกะ |
Ox tail | ออคซฺ-เทล | หางวัว |
Ox tongue | ออคซฺ-ทัง | ลิ้นวัว |
Pork | พอร์ค | เนื้อหมู |
Rib | ริบ | ซี่โครง |
Sausage | ซอส’ซิจฺ | ไส้กรอก |
Short ribs | ชอร์ท-ริบสฺ | กระดูกหมู |
Sirloin | เซอ’ลอยน์ | เนื้อสันนอก |
Turkey | เทอ’คี | เนื้อไก่งวง |
Veal | วีล | เนื้อลูกวัว |
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
แป๊ะฮะ ครอบครัวเดียวกับลิลลี่
ดอกลิลลี่กลิ่นหอม ๆ น่าจะเป็นดอกไม้ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน วันนี้เราเลยไปค้นสมุนไพรจีนที่เป็นพืชตระกูลไม้ล้มลุกตระกูลเดียวกับลิลลี่มาฝากกันนั่นก็คือ แป๊ะฮะ นั่นเอง
แป๊ะฮะ มีของดีอะไรให้คุณบ้าง?
ต้องขอบอกก่อนว่าแป๊ะฮะนั้นมาพร้อมกับฤทธิ์กลาง ๆ และมาพร้อมกับรสหวานอมขมเรียกได้ว่าเป็นรสของยาขนานดีกันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีของหลาย ๆ ระบบไม่ว่าจะเป็น ปอด ช่วยลดอาการปอดร้อน ลำไส้ กระเพาะ ยังช่วยลดอาการไอ ลดไข้ ขับปัสสาวะให้คุณได้เป็นอย่างดี
ยิ่งถ้าใครอึดอัดเพราะลมในร่างกายบ่อย ๆ ล่ะก็แป๊ะฮะนี่แหละช่วยขับลมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้คุณได้เป็นอย่างดี แก้ร้อนในตัดรำคาญคุณไปได้เยอะทีเดียว
และถ้าคุณมีภาวะความเครียดอย่างเช่น อาการกระวนกระวาย ตกใจง่าย ๆ เครียดบ่อย ๆ และนอนไม่ค่อยหลับนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีส่วนช่วยคุณได้เป็นอย่างดี แถมยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองให้กับคุณอีกด้วย
ถ้าคุณคือหนึ่งคนที่อาจกำลังต้องเผชิญกับอาการวัยทองอยู่ล่ะก็แป๊ะฮะก็ยังคงเป็นตัวช่วยที่เหมาะกับคุณมากที่สุดตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะสามารถช่วยลดอาการแปรปรวน เพิ่มความสงบ บำรุงผิวได้ดีเยี่ยม อีกด้วย
แป๊ะฮะกินแบบไหนได้บ้าง?
ไม่ว่าคุณอยากจะต้ม ตุ๋น หรือว่าอยากได้ซุปแป๊ะฮะก็ตอบโจทย์คุณได้ทั้งนั้น เอามาปรุงกับสมุนไพรจีนและเนื้อสัตว์ได้อย่างหลากหลาย หลัก ๆ แล้วผู้คนมักจะนำแป๊ะฮะมาผสมผสานได้กับทั้ง น้ำผึ้ง น้ำอ้อย มันเทศ กล้วยหอม แครอท ดอกไม้จีน เม็ดบัว หมูแดง ปลาเก๋า และเป็ด เป็นต้น
แต่อย่างไรก็มีข้อควรระวัง
ถ้าคุณรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องของกระเพาะ ม้าม หรือกำลังเป็นหวัดอยู่ ท้องเสีย แล้วก็รู้สึกได้เลยว่าอาหารไม่ย่อยล่ะก็ แป๊ะฮะ เป็นสิ่งต้องห้ามที่คุณไม่ควรกิน เพราะอาจทำให้อาการของคุณแย่ลงกว่าเดิมเสียมากกว่า ก่อนทานควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ให้ดีก่อนเพื่อให้แป๊ะฮะดูแลสุขภาพของคุณได้ดีที่สุด
สมุนไพรของจีนต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายแบบตอบโจทย์สุขภาพคุณได้เยอะแต่ก็มีข้อควรระวังตามมาด้วยเหมือนกัน จำเป็นมากที่คุณต้องรู้ข้อดีและข้อเสียควบคู่กันไปเพื่อให้การทานสมุนไพรจีนของคุณได้ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,700.00 | 27,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,794.00 | 27,197.04 | 28,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,614.60 | 24,477.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,435.20 | 21,757.63 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 807.00 | 12,234.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 628.00 | 9,520.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,859.00 | 28,182.44 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/11/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.64 | 17.64 | – | – | – | – | – | – | – | 17.64 |
เบนซิน 95 | 28.56 | – | – | – | 29.01 | – | 29.06 | 28.56 | – | 28.56 |
ดีเซล B7 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 |
ดีเซล | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 | 18.49 |
ดีเซล B20 | 18.24 | 18.24 | 18.24 | 18.24 | 18.24 | – | 18.24 | 18.24 | – | 18.24 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.94 | 25.96 | 27.94 | 27.34 | – | – | – | – | – | 25.94 |
แก๊ส NGV | 13.83 | 13.83 | – | – | – | – | – | – | – | 13.83 |