อสังหาฯเร่งแก้ปมปฏิเสธสินเชื่อ ผนึกแบงก์ดูแลสุขภาพการเงินลูกค้า
ปัญหาใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เวลานี้อาจไม่ใช่เรื่องราคา เพราะต่อให้โปรโมชั่นแรงแค่ไหน แต่ถ้าคน “ไม่มีกำลังซื้อ” ทุกอย่างก็จบ!!! ซึ่งปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นปัญหาชัดที่สุดคือ “ยอดปฏิเสธสินเชื่อ” หรือ Rejection Rate ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ปัญหาใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เวลานี้อาจไม่ใช่เรื่องราคา เพราะต่อให้โปรโมชั่นแรงแค่ไหน แต่ถ้าคน “ไม่มีกำลังซื้อ” ทุกอย่างก็จบ!!! ซึ่งปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นปัญหาชัดที่สุดคือ “ยอดปฏิเสธสินเชื่อ” หรือ Rejection Rate ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัย แต่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ พบว่ามียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 30-40% ซึ่งผู้ประกอบการต้องงัดสารพัดกลยุทธ์แก้เกม
“ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากปัญหาที่เกิดจากการยกเลิก (Cancellation Rate) ในแต่ละปีสูงขึ้นหลังจากลูกค้าจองซื้อบ้าน แต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ เพราะขาดคุณสมบัติหรือถูกธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อ (Rejection Rate) ทำให้กระบวนการขายไม่สมบูรณ์ พฤกษา จึงให้ความสำคัญกับ “บิ๊กดาต้า” ของลูกค้าในทุกขั้นตอนของการซื้อบ้าน นับตั้งแต่การเข้าเยี่ยมชมโครงการจนถึงการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป้าหมายที่พฤกษาให้ความสนใจมาก คือ กลุ่มลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยใช้ Big Data Analytics และ Algorithms Machine Learning มาช่วยวิเคราะห์หาลูกค้าที่มีโอกาสปิดการขาย หรือกลยุทธ์ Win back เป็นการดึงเอไอช่วยลูกค้าแก้ปัญหากู้ไม่ผ่าน
“กลยุทธ์ Win back เป็นการช่วยเหลือลูกค้าที่ซื้อไปแล้วหลุด เรานำมาทำให้สุขภาพการเงินเขาแข็งแรงขึ้น โดยเก็บรายละเอียดที่สำคัญทุกอย่างไว้ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ โปรไฟล์ การทำงาน ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ใช้ Machine Learning มาวิเคราะห์เพื่อช่วยแก้ปัญหาจุดบกพร่องที่ทำให้ถูกปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าแต่ละรายเพื่อสามารถกลับมาซื้อบ้านอีกครั้ง”
ในปี 2563 พฤกษา มียอดขายจาก Win back ได้ถึง 4,600 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้าที่หลุดไปทั้งหมด แล้วใช้ Data Analytics ดึงลูกค้าให้กลับมาซื้อ! โดยตั้งทีมดูแลโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ประสานงานกับคนขายและเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขอสินเชื่อธนาคารให้ลูกค้าสามารถกลับมาซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมพฤกษาได้ ปี 2564 นี้ คาดว่าจะมียอดขายจาก Win back ได้ถึง 6,000 ล้านบาท
Win back เป็นหนึ่งในช่องทางการขายของพฤกษา ดำเนินการมากว่า 2 ปี ทำให้ยอดขายกลับมาและช่วยเหลือให้คนมีบ้านได้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะมีรายได้ราว 20,000-50,000บาท ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี การยกเลิกหรือ Cancellation Rate ยังคงสูงทั้งที่เป็นกลุ่มที่มีความต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่สนใจเข้ามา 100 คน เข้าสู่ขั้นตอน พรีแอพพรูฟ จะคัดออก 50 คน เมื่อเข้าสู่ขึ้นตอนการจองหายไป 30 คน
ดังนั้น แทนที่เราหาลูกค้าใหม่สู้เอาฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่กลับมาเป็นลูกค้าให้ได้ wiw win ทั้งบริษัทและลูกค้า
สำหรับภาพรวมปีที่ผ่านมา Cancellation Rate ของพฤกษาอยู่ที่ 38% เป็นคอนโดกว่า 50% บ้านเดี่ยว 10% ทาวน์เฮ้าส์ 20% มียอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารประมาณ 10% ของยอดทุกปี หากคิดเป็นมูลค่าถือว่าสูงทีเดียว “Win back” จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มรายได้ให้พฤกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
“วรางคณา อัครสถาพร” ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแผนการทำตลาดปีนี้ที่ให้ความสำคัญกลุ่มลูกค้าระดับแมส (Mass) ด้วยแผนพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย อาทิ ทาวน์โฮมแบรนด์สิริ เพลส มิกซ์โปรดักส์ บ้านและทาวน์โฮม แบรนด์อณาสิริ และบ้านเดี่ยวแบรนด์สราญสิริ รวมถึงคอนโด โลว์ไรส์ ไม่เกิน 8 ชั้น 4 โครงการมูลค่า 2,700 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ใหม่ เจาะคนรุ่นใหม่ อายุ 18-30 ปี ในทำเลคอมมูนิตี้เมือง อาทิ รัชดา เกษตรฯ รามคำแหงหลังเดอะมอลล์ และ บางนา ระดับราคาเริ่มที่ 1 ล้านต้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบ้านของคนทุกกลุ่มและรองรับเซกเมนต์ระดับราคาเข้าถึงง่าย ด้วยบริการ “Sansiri Home Financial Planner” หรือ ที่ปรึกษาเพื่อการซื้อบ้าน ทำให้การซื้อบ้านเป็นเรื่องง่าย ตั้งแต่ “ก่อนซื้อ” และ “ระหว่างซื้อ” ภายใต้แคมเปญ “อยากได้บ้าน ต้องได้” เพื่อให้ทุกคนเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น!
“กลุ่มคนเริ่มทำงานไม่เคยกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัยมาก่อน จะมีทีมที่ปรึกษาเพื่อการซื้อบ้าน ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันการเงินให้คำแนะนำวางแผนการยื่นกู้ ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร แนะนำการเลือกดอกเบี้ยที่เหมาะสม การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการกู้ การติดต่อกับธนาคารพันธมิตรที่มีความชำนาญเฉพาะ ที่จะให้คำแนะนำ จนถึงติดตามผลอนุมัติ ดูแลการโอน ตรวจรับมอบบ้านก่อนการเข้าอยู่อาศัย”
โดยมีพันธมิตรทางการเงินทั้ง SCB, KBank , BBL, KTB, GHB, GSB, UOB, TMB ที่รวมทุกอัตราดอกเบี้ย โปรโมชั่นที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละรายที่มีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งไม่เพียงทำให้การขอสินเชื่อสะดวกและง่ายขึ้น แต่ยังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อไม่พอ! สามารถปรับเปลี่ยนไปซื้อโครงการที่เหมาะสมกับความสามารถในการกู้ เช่น เดิมจะซื้อบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านบาท อาจเปลี่ยนซื้อบ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ หรือบางคนอาจขยับขึ้นไปซื้อบ้านเดี่ยวจากเดิมจะซื้อบ้านแฝด
เพราะหากผนวกรวมกับแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่ช่วยให้ลูกค้ามีบ้านง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย สามารถนำเงินไปใช้จ่ายอื่นๆได้ เป็นเวลา 2 ปี เพราะแสนสิริผ่อนให้ ทั้งต้น ทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน ครอบคลุม บ้านและคอนโด 59 โครงการพร้อมอยู่ทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท จะตอบโจทย์ให้คนไทยมีบ้านและผลักดันยอดขายแสนสิริบรรลุเป้าหมาย 26,000 ล้านบาท และยอดโอน 27,000 ล้านบาทในปีนี้
“โอภาส ศรีพยัคฆ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ปัญหาแบงก์เข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อ กระทบความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าแม้จะมีมาตรการกระตุ้นด้วยการลดค่าโอน-จดจำนองจาก 3% เหลือ 0.01% ของภาครัฐเป็นปัญหาของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในยุคโควิด เพราะยอดปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ
“ประสบการณ์ของแอลพีเอ็น พบว่า กลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มฟรีแลนซ์ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีรายได้ประจำ กลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพค้าขาย ถือเงินสด ไม่มีเงินฝากในธนาคาร แต่เขามีรายได้พอที่จะจ่ายค่างวดบ้านได้สบายๆ ลูกค้ากลุ่มนี้กลายเป็นว่ายื่นขอกู้กี่ครั้งก็ไม่ผ่านเพราะเหตุผลที่เขาไม่ได้สะสมเงินฝากในบัญชีธนาคาร”
จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ยังไม่ต้องกู้ เข้าอยู่ได้เลย” ให้ลูกค้าผ่อนดาวน์ 2 ปี เริ่มต้น 5,000-10,000 บาท/เดือน พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที เป็นการช่วยลูกค้าให้มีประวัติทางการเงินตลอด 2 ปีที่ผ่อนดาวน์กับแอลพีเอ็น นำสู่การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในอีก 2 ปีข้างหน้า ถือเป็นกลยุทธ์การขายที่ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าที่มีปัญหากู้ไม่ผ่านสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
CMC โชว์ผลประกอบการปี 2563 กำไรสุทธิเติบโต 1.46 เท่า !!! สะท้อนความแข็งแกร่ง รองรับปีแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) CMC ผู้นำด้านพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 โดยมีกำไรสุทธิ รวม 59.57 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ที่มีกำไร 35.44 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 146.72 หรือ 1.46 เท่า มาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และรายได้จากก่อสร้าง รวม 1,164.74 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้ 1,383.18 ล้านบาท ลดลงคิดเป็น ร้อยละ 15.79 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ตลอดจนปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ จึงได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้การรับรู้รายได้จะไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่ CMC สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตได้ถึง 1.46 เท่า มาจากความสามารถในบริหารงาน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ถึงร้อยละ 24 สาเหตุหลักมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมก่อสร้างเสร็จ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสสุดท้าย คือ โครงการ แบงค์คอก ฮอไรซอน ไลท์ @ สถานีเพชรเกษม 48 (Bangkok Horizon LITE @ Phetkasem 48 Station)
CMC ปรับกลยุทธ์พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการบ้านในราคาที่คุ้มค่า โดยการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเน้นระบาย Inventory ยูนิตพร้อมอยู่ และในส่วนโครงการพรีเซลล์ได้จัดแคมเปญช่วยผ่อนเพื่อลดภาระให้กับผู้บริโภคในช่วง COVID-19 มีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการใช้สื่อออฟไลน์ และเน้นการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น มีการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข่าวสาร/ โปรโมชัน CMC ได้ทุกช่วงเวลา ตอบสนองการใช้ชีวิตแบบ New Normal รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ให้มีความหลายหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ตัดสินใจก่อนเข้ามาเยี่ยมชมโครงการจริง นอกจากการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ CMC เรายังมองหาโอกาสและแผนในการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ รับรู้รายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีแห่งความท้าทายในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ CMC เรายังสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในครั้งนี้ได้อย่างงดงาม สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยการดำเนินงานภายในปี 2564 นี้ CMC มีแผนจะนำโครงการที่ชะลอไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา กลับมาทบทวนการเปิดโครงการใหม่อีกครั้ง จำนวน 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งกำลังรอสถานการณ์ ไวรัส COVID-19 คลี่คลาย ซึ่งขณะนี้มีโครงการ เดอะคิวเว่ ติวานนท์ (The Cuvee Tiwanon) ที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม “Affordable Luxury” เจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ต้องการคอนโดมิเนียมลักซูรี่ติดรถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่บนทำเลที่ CMC มีความชำนาญและครองส่วนแบ่งการตลาดมาก่อน ได้แก่ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau In Town Ratchayothin) คอนโดมิเนียม Low Rise ตอบสนอง “Urban Lifestyle” การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS รัชโยธิน ในราคาคุ้มค่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 85,000 บาท ทั้งนี้มีโครงการที่กำลังก่อสร้าง ได้แก่ เดอะเคลฟ ริเวอร์ไลน์ เจ้าพระยา-วงศ์สว่าง (The Clev Riverline Chaophraya – Wongsawang) ได้ฤกษ์ลงเสาเอกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่มีแนวคิดการลงทุนแบบคุ้มค่า ความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อทุกการเดินทาง และ Facility ครบครัน นอกจากนี้ CMC มีโครงการทาวน์โฮมย่านสาทร – กัลปพฤกษ์ที่เป็นส่วนขยายจากโครงการเดิม ซึ่งมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านบริหาร โดยมีแผนการปรับโครงสร้างของการบริหารใหม่ สรรหาบุคลากรที่มีความชำนาญในสายอสังหาริมทรัพย์เข้ามาบริหารในองค์กร และยกระดับการบริการหลังการขายให้เข้าถึงง่าย อย่างรวดเร็ว และทันสมัยยิ่งขึ้น
“ปัจจุบัน CMC มีโครงการที่เปิดการขายทั้งหมด 29 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท และเตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ CMC เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 อย่างยั่งยืนในเร็ว ๆ นี้ ที่สำคัญต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่นและไว้วางใจในคุณภาพสินค้าและการบริการของบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา CMC เรามุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศแห่งการเป็นผู้พัฒนาการอยู่อาศัย ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้” นายแพทย์วิเชียร กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com
“สุริยะ” ฉุดเอสเอ็มอีฝ่าโควิด ชู 3 แผนฟื้นชีพจร 2,800 กิจการ
“สุริยะ” โชว์ยุทธศาสตร์อุ้มเอสเอ็มอี 2,800 กิจการ แรงงาน 1 หมื่นคน ฝ่าโควิด-19 ระลอกใหม่ ภายใต้งบประมาณ 110 ล้านบาท ผ่าน 3 มาตรการเร่งด่วน เสริมทักษะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน, ใช้เครื่องมือการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์, พัฒนาทักษะเจ้าของกิจการ พร้อมเปิดผลสำรวจเอสเอ็มอีถึงผลกระทบการระบาดรอบใหม่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่อาจรุนแรงน้อยกว่าระลอกแรก แต่ก็เป็นการระบาดในจังหวะที่ทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการ จึงส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย เพราะการระบาดระลอกใหม่นี้ เสมือนโดนเจาะไข่แดง เห็นได้จากพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้ง 28 จังหวัด จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมของภาคอุตสาหกรรม,เอสเอ็มอี, แรงงาน และประชาชนทั่วไป ที่ยังไม่มีภูมิต้านทานทางเศรษฐกิจที่แข็งแรง ทำให้ไม่มีความสามารถในการรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาด จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาโดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้ผ่าน
วิกฤตินี้ไปให้ได้
ทั้งนี้ ระหว่างเดือน ธ.ค.2563-ม.ค.2564 ผมได้สั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ ส่งเจ้าหน้าที่ กสอ.ลงไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการที่จะให้ภาครัฐช่วยเหลือ เพื่อรวบรวมนำมาวางนโยบายที่สอดรับกับปัญหาของแต่ละพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือ แม้ว่าโควิด-19 ระลอกใหม่เริ่มคลี่คลายลงในระดับหนึ่ง โดยการไปจัดเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการ 1,500 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 1,095 ราย หรือ 73% และวิสาหกิจชุมชน (โอทอป) รวม 405 ราย หรือ 27%”
นายสุริยะกล่าวว่า กสอ.ได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อให้ความช่วยเหลือในโครงการนี้ ไว้รวม 110 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ 2,800 กิจการ จำนวนแรงงานที่จะได้รับการช่วยเหลือ 10,000 คน จากจำนวน 350 ผลิตภัณฑ์ และ 28 กลุ่ม/ชุมชน คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทภายในกลางปีนี้
“ผลสำรวจพบว่า 3 อันดับแรกของผลกระทบของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเอสเอ็มอี คือกำลังซื้อของลูกค้าลดลง 84.87%, การแข่งขันทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น 66.53% , สินค้าขายได้น้อยลง ที่จำเป็นต้องจัดโปรโมชันลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้า และการลงทุนลดลง 63.05% เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียน รายได้ลดลง การเก็บเงินจากลูกค้าทำได้ยากขึ้น ทั้งยังต้องจ่ายค่าจ้างเพื่อรักษาแรงงานและผู้ประกอบการ 3.08% หรือ 46 รายระบุว่าสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ ขณะที่ 95.78% หรือ 1,431 รายระบุว่าได้มีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไว้แล้ว และมีการปิดกิจการไปแล้ว 1.14% หรือ 23 ราย”
ผู้ประกอบการร้องขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
เมื่อถามว่าต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเพิ่มเติมหลังการระบาดระลอกใหม่อย่างไรบ้าง พบว่า 35.27% ต้องการให้เพิ่มความช่วยเหลือ ด้านการเงิน อาทิ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณา การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ขณะที่ 16.87% ต้องการให้เพิ่มความ ช่วยเหลือในการขยายตลาด และ 14.06% ต้องการให้ลดค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า สิทธิในการลดหย่อนภาษีต่างๆ เป็นต้น
ขณะที่จากการสำรวจพบว่า การแพร่ระบาดระลอกใหม่ เอสเอ็มอีส่วนใหญ่มีการปรับตัวสอดคล้องไปกับแนวทางที่ กสอ.ได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งการขยายตลาดสู่ออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขาย, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค, การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการผลิต, การเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิต เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับประเทศต้นทาง เป็นต้น
“ผมได้สั่งการให้ กสอ. ไปจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีในโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 45 โครงการที่เน้นให้สอดคล้อง กับความต้องการของเอสเอ็มอีในพื้นที่แต่ละแห่งทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดกำหนดเป็นนโยบาย ที่เหมาะสมกับบริบทการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีในเชิงรุก โดยกำหนดเป็น 3 มาตรการเร่งด่วน”
เปิด 3 มาตรการพาเอสเอ็มอีพ้นวิกฤติ
ประกอบด้วย 1.มาตรการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ มีทักษะการบริหารการเงินที่ดี (Financial Literacy) ทั้งการวางแผนการบริการจัดการหนี้, การจัดการธุรกิจในภาวะวิกฤติ, การเตรียมความพร้อมการขอสินเชื่อผ่านทักษะการเขียนแผนธุรกิจเพื่อใช้ประกอบการขอสินเชื่อ
2.มาตรการสนับสนุนด้านการตลาดที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องใช้เครื่องมือที่เข้าถึงจูงใจให้เกิดความต้องการซื้อสินค้า ซึ่งต้องพัฒนาบุคลากรที่ กสอ.จะส่งคนเข้าไปเป็นเทรนเนอร์ ฝึกฝนนักศึกษาที่เป็น
คนรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญการใช้โซเชียลมีเดียให้มีทักษะทางการขายออนไลน์ พัฒนาให้เป็น “นักส่งเสริมการตลาดออนไลน์” ช่วยขับเคลื่อนพลังทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ
3.มาตรการเพื่อพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ อาทิ การใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่สามารถ เริ่มต้นการทำงานได้เองผ่านการรันโปรแกรมที่วางไว้เพื่อช่วยในการควบคุม หรือสั่งงานของระบบควบคุมอัตโนมัติให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (ออโตเมชัน) เพื่อทดแทนการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวที่บางส่วนมีการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ที่เป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ การใช้ออโตเมชันในภาคการผลิตจะทำให้สามารถคำนวณข้อจำกัดต่างๆ และช่วยให้เกิดการวางแผนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
“นอกเหนือจาก 3 มาตรการแล้ว ยังต้องส่งเสริมผู้ประกอบการเพิ่มเติมให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการฝึกอบรมพัฒนาทักษะเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักร เครื่องทุ่นแรง การวางแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดภาวการณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว”.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
ส.กอล์ฟอาชีพมอบใบประกาศฯสวิงอาชีพพร้อมเดินหน้าลุยซีซั่นใหม่ที่นครนายก
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ได้มีพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตร ไทยแลนด์ พีจีเอ คิว-สกูล 2021 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ สนามปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ภายหลังจากเสร็จสิ้นการสอบทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติ ในช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา
การจัดการสอบเพื่อเป็นสมาชิกสามัญและวิสามัญ ซึ่งจะมีขึ้นทุกๆปี โดยปีนี้ได้มีการดำเนินการอบรมกฏ และสอบภาคสนามในช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และปิดท้ายด้วยการอบรมภาคทฤษฎี เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.พ. 2564 โดยปีนี้มีผู้สำเร็จครบหลักสูตรทั้งสิ้น 107 ราย โดยแบ่งเป็นนักกอล์ฟอาชีพ 49 คน และประเภทผู้ฝึกสอนกอล์ฟอาชีพจำนวน 58 คน
สำหรับในพิธีมอบประกาศนียบัตร ได้รับเกียรติจาก โปรจิตติศักดิ์ แต้มประเสริฐ เลขาธิการสมาคมฯ และโปรป้อมเพ็ชร สารพุทธิ อุปนายกสมาคมฯ เป็นผู้ร่วมมอบประกาศนียบัตรและแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จหลักสูตร Thailand PGA Q-School ในครั้งนี้ โดยผู้สำเร็จหลักสูตร จะต้องมาขึ้นทะเบียนสมาชิกและชำระค่าบำรุงสมาคมฯต่อไป
โปรป้อมเพ็ชร เผยว่า “ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ในฐานะของอุปนายกสมาคมฯ ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ และรุ่นพี่ ใจความหลักเกี่ยวกับเรื่อง “อาชีพ” ไม่ว่าวัยเด็กหรือช่วงเล่นกอล์ฟในสถานะสมัครเล่น ทุกคนจะมีทักษะมากขนาดไหน แต่เมื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงของ “มืออาชีพ” ทุกคนย่อมต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา”
พร้อมกันนั้นทางสมาคมฯ ก็ได้มีการเปิดรับสมัครนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลหน้า โดยจะเริ่มต้นการแข่งขันรายการแรกในศึก ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ รายการ “สิงห์-ทีดีที นครนายก 2021” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านบาท แข่งขันระหว่าง 1-2 เม.ย.นี้ ณ สนามกอล์ฟ วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จ.นครนายก (รอบคัดเลือกในวันที่ 30 มี.ค.นี้)
นอกจากนั้นทางสมาคมก็ได้มีการเปิดรับสมัครนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันในศึก ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ 2021 ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยรายการ “สิงห์-เอสเอที นครนายก คลาสสิค 2021 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท แข่งขันระหว่างวันที่ 7-10 เม.ย.นี้ ณ สนาม รอยัลฮิลล์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.นครนายก (รอบคัดเลือกจะมีขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.นี้)
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
ระวังพายุฤดูร้อน แนะเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ในช่วงนี้ ซึ่งพบว่าในบางพื้นที่อาจมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก พร้อมแนะหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง อาจเกิดการหักโค่นหรือหล่นทับ ทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีพายุฤดูร้อน ซึ่งมีลักษณะเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกนั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายขณะเกิดฝนตกและลมกระโชกแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
การเตรียมความพร้อมรับมือกับลมพายุ สำหรับประชาชนอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยง ไม่ควรอยู่ใกล้ต้นไม้สูงใหญ่ เสาไฟฟ้า สิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจเกิดการหักโค่นหรือหล่นทับทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ แนะนำให้หลบในตัวอาคารที่มีความมั่นคง หากอยู่ในรถควรขับรถไปหลบในที่ปลอดภัยและปิดกระจกทุกบาน ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาดเพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบเห็นผู้ประสบอุบัติเหตุจากพายุฝนฟ้าคะนอง ต้องช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของตนเองในที่เกิดเหตุด้วย และโทรขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เบอร์ 1669 พร้อมแจ้งข้อมูลผู้ประสบอุบัติเหตุ และสถานที่เกิดเหตุแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
Facebook ลบขีด จำกัด ข้อความ 20% บนรูปภาพโฆษณา
Facebook ลบขีดจำกัดข้อความ บนรูปภาพโฆษณา Text Overlay
ผู้ซื้อสื่อในแพลตฟอร์มของ Facebook เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ รูปภาพของพวกเขาที่ไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากข้อความมากเกินไป ล่าสุดมีผู้ใช้หลายรายสามารถผ่านเครื่องมือตรวจสอบนี้แล้ว
สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง Text Overlay
เราได้รับการยืนยันจากแหล่งที่มาไม่กี่แห่งว่ากฎอันยาวนานสำหรับรูปภาพโฆษณาบน Facebook ที่มีข้อความไม่เกิน 20% นั้นได้รับการปิดแล้ว ผู้ซื้อเริ่มได้รับการสื่อสารโดยตรงจาก Facebook ในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้
ถึงแม้ว่าจะยังคงให้คำแนะนำในการลดสัดส่วนข้อความในรูปภาพโฆษณา แต่ตอนนี้ก็หยุดพูดสั้นๆ ได้ว่าให้คงไว้ที่ 20% เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่แนะนำ
กฎ Text Overlay 20% ในอดีต
จุดประสงค์ของกฎเดิมคือเพื่อความรบกวนในฟีดข่าวของ Facebook โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะมีหน่วยโฆษณาและตัวเลือกสื่อต่างๆที่มีอยู่ในตอนนี้ฟีดส่วนใหญ่จะเป็นข้อความและรูปภาพ การเพิ่มข้อความมากขึ้นมีโอกาสทำให้ประสบการณ์ที่รก และท่วมท้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปแพลตฟอร์มมีการพัฒนา ข้อความในรูปภาพไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ไขว้เขวอีกต่อไปเนื่องจาก Facebook ยังคงเปิดตัวโฆษณาประเภทใหม่ที่มีสีสันฉูดฉาดมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าข้อความบนรูปภาพแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นโฆษณา ย้อนกลับไปก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพมากมายด้วยโทรศัพท์ของพวกเขาเพื่อรวมข้อความเส้นขอบอิโมจิ ฯลฯ ผู้ใช้โพสต์ภาพธรรมดา ข้อความมีลักษณะเป็นความผิดปกติซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทราบได้ทันทีว่าเป็นโฆษณา
ในขณะที่โฆษณารูปภาพที่มีข้อความมากกว่า 20% เคยถูกปฏิเสธหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ปรับลดขนาดโฆษณาลงเพื่อให้สามารถทำงานได้แบบ “จำกัด ” โดยทั่วไปสิ่งนี้จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนในระดับการแสดงผลระหว่างภาพโฆษณาที่ไม่มีข้อความ และข้อความต่ำและโฆษณาได้รับระบบการให้คะแนนเพื่อเตือนผู้ลงโฆษณาในปี 2559
Text Overlay Tool เครื่องมือเซ็คข้อความ 20%
Facebook ได้ปล่อย Text Overlay Tool ทำให้ผู้โฆษณาสามารถอัปโหลดภาพที่ต้องการเรียกใช้ จากนั้นเครื่องมือจะตรวจสอบแต่ละรายการและให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้โฆษณาทันทีเกี่ยวกับสถานการณ์ข้อความของตน
100++ วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย ความหมายน่าสนใจ ไม่รู้ไม่ได้
ในภาษาอังกฤษมีหลายวาลีที่มีความหมายเพราะและใช้บ่อย ไม่รู้ไม่ได้ ดังนั้นวันนี้ EngBreaking จะพาคุณไปค้าหาวลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวันและวลีเพื่อการทำงานที่โดดเด่นแบบมือโปรวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัว ไปพร้อมกัน
วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน ทุกคนควรรู้ไว้
ก่อนอื่นเราจะไปทำความรู้จักกับวลีภาษาอังกฤษที่มักจะใช้บ่อยก่อนนะคะ สามารถจดไว้เพื่อฝึกใช้ในบทสนทนาทั่วไปได้เลยค่ะ
วลีภาษาอังกฤษ | แปลความหมาย |
Alive as well | เป็นสุขสบายดี |
All systems go | ทุกอย่างพร้อม |
Always the same. เ | เหมือนเดิมตลอด |
And away we go! | ไป … กันได้แล้ว |
Anyways, speak to you again soon | ยังไงก็ ไว่คุยกันใหม่นะ |
Almost there | เกือบถึงแล้ว / ใกล้จะถึงแล้ว |
Bye for now | แค่นี้ก่อนนะ |
bored to death | เบื่อมาก |
Back to square one | กลับไปตั้งต้นใหม่ |
Behave yourself | ทำตัวดีๆ นะ |
Believe me, I’m not lying | เชื่อฉันซิ ฉันไม่ได้โกหกนะ |
Break it up! | หยุดเถียงกันได้แล้ว |
Calm down please | ใจเย็นๆ |
call it a day | เลิกงานเลิกทำบางสิ่ง |
That’s the way it is | มันก็เป็นอย่างนี้แหละ |
On a scale of one to ten | จะให้แต้มเท่าใดดี |
Different strokes for different folks | ก็แล้วแต่คนชอบ |
Time files when you’re having fun | เวลาช่างผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน |
Go for it | เอาเลย, ลองดู, เต็มที่เลย |
I’ll take a rain check | เอาไว้คราวหน้า, ขอผัดเป็นคราวหน้าก็แล้วกัน |
It is one of those days | มันเป็นวันอะไรของมันกันนี่ |
Easier said than done | พูดง่ายแต่ทำยาก |
Like you can do better | เหมือนกับว่าทำได้ดีกว่างั้นแหละ |
I can live with that | พอทนไหว, รับได้, ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย |
Come again? | ไหนพูดใหม่สิ, ว่าไงนะ, (พูด) อีกทีสิ |
What’s the big deal? | ไม่เห็นจะมีอะไรเลย, อะไรกันนักกันหนา |
Pretty much so | ประมาณนั้น, ส่วนใหญ่ก็ตามนั้น, ก็ทำนองนั้น |
Help yourself! | เชิญตามสบาย |
I was just thinking | ฉันแค่กำลังคิด |
Is that so? | อย่างนั้นหรือ |
Of course! | แน่นอน |
I guess so | ฉันเห็นด้วย |
This is too good to be true | มันดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง (เหลือเชื่อ) |
You better believe it! | เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย |
Right on! (Great!) | ถูกต้อง! |
Never mind! | ช่างมันเถอะ |
Don’t go yet. | อย่าเพิ่งไป |
You’re a life saver | คุณช่วยชีวิตฉันไว้ |
That’s a lie! | นั่นเป็นเรื่องโกหก |
This is the limit! | นี่คือขีดจำกัด |
Ask for it! | แส่หาเรื่อง |
Don’t peep! | ห้ามแอบดู |
Say cheese! | ยิ้มหน่อย |
Be good! | อย่าซน ทำตัวดีๆ |
What a relief! | โล่งอกไปที |
Good job! / Well done! | ดีมาก |
Calm down! | ใจเย็นๆ |
Go for it! | ลงมือทำเลย |
Strike it lucky | โชคดี |
Just kidding (joking) | ล้อเล่น |
Discourages me much! | ฉันรู้สึกท้อมาก |
Got a minute? | มีเวลาไหม? |
This one is on me! | ฉันเลี้ยงเอง |
Sorry for bothering! | ขอโทษที่รบกวน |
read one’s mind | คิดเหมือนฉันเลย |
throw in the towel | ยอมแพ้ |
keep an eye on | เฝ้าดูเฝ้ามองจับตาดู (ตัวอย่างอื่น ๆ) |
give someone a hand | ช่วยเหลือ (ตัวอย่างอื่น ๆ) |
ยกคัสอย่างเกี่ยวกับ Phrases (วลี) สั้นๆ ตามนี้
- I have nothing to do all day. I’m bored to death. แปลว่า ฉันไม่มีอะไรทำทั้งวันเลยฉันเบื่อมาก
- It’s nine o’clock now. Let’s call it a day.แปลว่า ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้วเลิกงานกลับบ้านกันเถอะ
- You read my mind. I was going to say that. .แปลว่า คุณคิดเหมือนฉันเลย (เหมือนอ่านใจฉันได้) ฉันกำลังจะพูดมันเลย
- I don’t think I can win, so I’ll throw in the towel. แปลว่า ฉันไม่คิดว่าฉันจะชนะดังนั้นฉันจะยอมแพ้
- Finding a good job is easier said than done. แปลว่า การหางานที่ดีนั้นพูดง่ายแต่ทำยาก
- Please keep an eye on my son while I go to the bathroom.แปลว่า กรุณาจับตาดูลูกชายฉันในขณะที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ
- Can you give me a hand putting away these toys? แปลว่า คุณช่วยฉันเก็บของเล่นเหล่านี้หน่อยได้ไหม
วลีภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานที่โดดเด่นแบบมือโปร
แล้วในการทำงานมักจะมีวลีภาษาอังกฤษไหนที่ไม่รู้ไม่ได้ ลองดูรายละเอียดในตารางดังต่อไปนี้นะคะ
วลีภาษาอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย |
How are things? | เป็นอย่างไรบ้าง? |
How is it going? | เป็นอย่างไรบ้าง? |
What are you up to? | ทำอะไรอยู่เหรอ? |
What have you been up to? | ทำอะไรอยู่เหรอ? |
See you soon! | เจอกันเร็วๆนี้นะ! |
big deal | เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ |
Till next time! | เจอกันคราวหน้านะ! |
Until we meet again! | แล้วพบกันใหม่นะ |
Have a nice day! | ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ! |
Have a safe trip! | เดินทางปลอดภัยนะ |
First of all | อย่างแรกเลยนะ |
By the way | อนึ่ง, อีกประการหนึ่ง |
After all | สุดท้ายแล้ว, นอกจากนั้น |
If I’m not mistaken | ถ้าฉัน (คิด/ตัดสินใจ) ไม่ผิด |
On the contrary | โดยตรงกันข้าม |
As a rule | โดยทั่วไป |
On the other hand | ในทางกลับกัน |
As I said before | ที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว |
If I recall correctly | ถ้าฉันจำไม่ผิด |
Either way | อยู่แล้ว, อย่างไรก็ตาม |
Perhaps | อาจจะ, บางที |
Definitely | อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว |
Absolutely | อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว |
It can hardly be so | มันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้, มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น |
Most likely | มีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้น |
Most unlikely | ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น |
Not a bit | ไม่แม้แต่นิดเดียว |
I agree with you | ฉันเห็นด้วยกับคุณ |
I’m afraid so | ฉันก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ |
No doubt | อย่างไม่ต้องสงสัยเลย |
Thank you in advance! | ขอบคุณล่วงหน้า |
Don’t mention it! | ไม่เป็นไร อย่าไปพูดถึงมันเลย |
How was it? | แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง? (มันดีไหมหรือยังไง?) |
It doesn’t matter. | มันไม่สำคัญหรอก |
Lucky you! | ขอให้คุณโชคดี |
Things happen. | อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด, อะไรก็เกิดขึ้นได้ |
I’m so happy for you! | ฉันดีใจที่เห็นคุณมีความสุข/ได้รับสิ่งที่ดี |
My pleasure | ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง |
just name it | แค่บอกมา(จะทำให้ทุกอย่าง) |
you made it | ประสบความสำเร็จในบางอย่าง |
ยกคัสอย่างเกี่ยวกับ Phrases (วลี) สั้นๆ ตามนี้
- Come on, don’t be serious. It’s not a big deal. แปลว่า เอาน่าอย่าเครียดไปเลยมันไม่ใช่เรื่องใหญ่
- It was my pleasure to meet you. แปลว่าฉันรู้สึกยินดีมากๆที่ได้พบคุณ
- I will get whatever you need, just name it. แปลว่า ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการแค่บอกมา
- You made it! I am so proud of you. แปลว่า คุณทำได้จริงๆด้วยฉันภูมิใจในตัวคุณจริงๆ
วลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัว
เมื่ออยากแสดงความเห็นอกเห็นใจในเรื่องราวที่คนอื่นประสบมาก็ถือว่าเป็นมารยาทที่ดีทางสังคมอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆเลย แต่ไม่รู้ในภาษาอังกฤษจะพูดอย่างไรก็ไม่ต้องห่วงเพราะ English Breaking จะแนะนำให้คุณวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัวตามตารางดังต่อไปนี้
วลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ | ความหมายภาษาไทย |
Be strong! | เข้มแข็งไว้นะ |
Cheer up | ร่าเริงหน่อยสิ |
Chill out | ใจเย็นๆ นะ |
Don’t discourage | อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย |
Don’t feel so bad | อย่ารู้สึกแย่ไปเลย |
Don’t think too much | อย่าคิดมากเลยน่า |
Don’t worry about it | อย่ากังวลใจไปเลย |
I feel for you. | ฉันเห็นใจเธอนะ |
I’ ll encourage you | ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะ |
It can’t be that bad | มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง |
Pull yourself together | ทำตัวให้สดชื่นหน่อย |
Snap yourself out of it. | ลืมมันไป ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ |
Look on the bright side | มองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ |
it’s could happen to anyone. | เรื่องแบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้ |
I hope you get well soon. | หวังว่าคุณคงจะหายดีเร็วๆ นะ |
don’t give up | อย่ายอมแพ้ |
it’s gonna be ok | เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง |
You’ll get through this | เดี๋ยวเธอก็ผ่านมันไปได้นะจ๊ะ |
I’m always here for you | ฉันอยู่ข้างเธอเสมอนะ |
smile on chin up | ยิ้ม เริ่ด เชิด จบ |
You can do it | เธอทำได้แน่ |
May the force be with you | ขอให้พลังจงสถิตย์อยู่กับคุณ |
วลีอังกฤษใช้ในบทสนทนาได้แบบฝรั่ง
ทักษะการฟังและการพูดหรือเรียกได้ง่ายๆ คือทักษะการสื่อสารในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญมากบางทีผู้เรียนอาจจะรู้คลังศัพท์มากมาย แต่ไม่กล้าที่จะพูดก็ทำให้ทักษะในการสื่อสารค่อนข้างอ่อน และเมื่ออยากสื่อสารหรือสร้างบทสทนาได้แบบฝรั่งๆ ก็ต้องทราบวลีอังกฤษที่มักจะใช้บ่อยเพื่อทำให้การสนทนาของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวามากขึ้นตามตารางดังนี้
วลีอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย |
How are things? How is it going? |
เป็นไงบ้าง? |
How’s life? | ชีวิตเป็นไงบ้าง? |
Long time no see! | ไม่เจอกันนานเลยนะ! |
See you soon! | เจอกันเร็วๆนี้นะ! |
See you later! | ไว้เจอกันทีหลังนะ! |
Till next time! | เจอกันคราวหน้านะ! |
Take care! | ดูแลตัวเองด้วย! |
Talk to you later! | ไว้คุยกันทีหลังนะ! |
Have a nice day! | ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ! |
Have a good weekend! | สุขสันต์วันหยุดนะ |
Just for the record | เพื่อให้คุณรู้,… |
And so on and so forth | เป็นต้น |
In other words | กล่าวอีกนัยหนึ่ง, กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า |
The thing is | ประเด็นก็คือว่า |
So as to So that |
เพื่อให้ |
As well as | ตลอดจน |
All the same | ไม่ต่างกัน, เหมือนๆกันทั้งหมด |
On one hand | ด้านหนึ่งนั้น, เรื่องหนึ่งนั้น |
As I said before | ที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว |
Perhaps | อาจจะ, บางที |
Definitely Absolutely |
อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว |
It can hardly be so | มันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้, มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น |
I believe so I suppose so |
ฉันเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะ |
Exactly so Quite so |
อย่างนั้นแหละ, อย่างนั้นเลย |
I don’t think so | ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ |
I think I’ll pass | ฉันว่าฉันไม่เอาดีกว่า, ฉันไม่เอาด้วยหรอก (ในการปฏิเสธต่อคำเชิญที่จะไปที่ใดหรือทำอะไรสักอย่าง) |
It’s a great idea! | เป็นความคิดที่เยี่ยมไปเลย! |
I’m looking forward to it | ฉันคอยอยู่นะ |
Don’t mention it! | ไม่เป็นไร!, อย่าไปพูดถึงมันเลย ไม่เป็นไร! |
It’s very kind of you! | คุณใจดีมากเลย!, คุณมีน้ำใจจัง! |
It doesn’t matter. | มันไม่สำคัญหรอก |
It is new to me. | นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลย |
Things happen. | อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด, อะไรก็เกิดขึ้นได้ |
Let’s hope for the best. | ร่วมกันหวังเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกันเถอะ |
ขอบคุณข้อมูลจาก engbreaking.co.th
มะเขือเทศ สรรพคุณและประโยชน์ของมะเขือเทศ 28 ข้อ !
มะเขือเทศ
มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ?
คำตอบ “มะเขือเทศคือผลไม้” ซึ่งเป็นไปตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์ เพราะผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วนผักคือพืชที่กินได้ของพืชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผักเพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี
ข้อควรรู้ ! : มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่างกล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 คือ แอปเปิ้ลและส้ม ตามลำดับ
มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว ! และยังมีสารจำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และกรดอะมิโน เป็นต้น และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น
โดยน้ำมะเขือเทศที่เราคั้นเองสด ๆ จะดีกว่าน้ำมะเขือเทศขวดหรือกล่อง และไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ เพราะอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะได้รับประโยชน์ และการกินมะเขือเทศในปริมาณมากก็ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด มีงานวิจัยมะเขือเทศออกมาว่าการรับประทานมะเขือเทศให้ได้ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากเพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมาก และดีต่อสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน
สรรพคุณของมะเขือเทศ
- ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
- ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
- ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือเชื้อราที่ปาก
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ในเพศหญิง
- ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้มหรือถูกมีดบาดได้
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
- น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
- ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
- มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
- มะเขือเทศมีเบตาแคโรทีนและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
- มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
- ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
- มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือน้ํามะเขือเทศดอยคํา
- เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น
- ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน
- ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
- ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
- น้ำตาล 2.6 กรัม
- เส้นใย 1.2 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- โปรตีน 0.9 กรัม
- น้ำ 94.5 กรัม
- วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5%
- เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4%
- ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.037 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 3 0.594 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17%
- วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8%
- ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5%
- ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 24,550.00 | 24,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,590.00 | 24,104.40 | 25,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,431.00 | 21,693.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,272.00 | 19,283.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 716.00 | 10,854.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 557.00 | 8,444.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,648.00 | 24,983.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/03/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 25.75 | 25.75 | 26.05 | 26.05 | 25.75 | 25.75 | 25.75 | 25.75 | 25.75 | 25.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 25.48 | 25.48 | 25.78 | 25.78 | 25.48 | 25.48 | 25.48 | 25.48 | 25.48 | 25.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.24 | 24.24 | 24.54 | 24.54 | 24.24 | – | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.39 | 20.39 | – | – | – | – | – | – | – | 20.39 |
เบนซิน 95 | 33.16 | – | – | – | 33.61 | – | 33.66 | 33.16 | – | 33.16 |
ดีเซล B7 | 26.59 | 26.59 | 26.69 | 26.99 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 |
ดีเซล | 23.59 | 23.59 | 23.69 | 23.99 | 23.59 | 23.59 | 23.59 | 23.59 | 23.59 | 23.59 |
ดีเซล B20 | 23.34 | 23.34 | 23.64 | – | 23.34 | – | 23.34 | 23.34 | – | 23.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 31.04 | 31.16 | 33.14 | 32.84 | – | – | – | – | – | 31.04 |
แก๊ส NGV | 13.35 | 13.35 | – | – | – | – | – | – | – | 13.35 |