Blog Post

นักลงทุน สน โรงแรมพัทยา “JLL”ปิดดีลแล้ว 40 โรง

ตลาดโรงแรมในพัทยาเริ่ม มีนักลงทุนให้ความสนใจ เจแอลแอลแนะผู้ประกอบการที่คิดจะขายโรงแรม ปรับกระบวนการขายให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการซื้อขาย

แม้สถานการณ์โควิด-19จะกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทรุดตัวอย่างรุนแรง แต่ เมืองพัทยายังเป็นหนึ่งในตลาดโรงแรมของไทยที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ โดยปกติ ภาคธุรกิจโรงแรมในพัทยามีการพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม พบว่านักลงทุนกำลังมองภาพความเป็นไปได้ใหม่ๆ รวมถึงศักยภาพในการจับตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น นอกเหนือจากโอกาสที่จะได้รับจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามการรายงานของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล

พัทยานับเป็นตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยมีจำนวนห้องพักโรงแรม-รีสอร์รวมเกือบ 64,000 ห้อง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดรองจากกรุงเทพฯ และมากกว่าจำนวนห้องพักที่ภูเก็ต

ตลาดโรงแรมของพัทยากำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นจากการที่มีทำเลที่ตั้งใกล้กรุงเทพฯ และ EEC โดยคาดว่า โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับ EEC จะมีส่วนช่วยกระตุ้นความต้องการให้กับภาคธุรกิจโรงแรมของพัทยาทั้งสำหรับการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางธุรกิจ นอกจากนี้ พัทยายังจะได้รับประโยชน์จากแผนการขยายสนามบินอู่ตะเภาให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน และโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมการเดินทางระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568

แม้จะมีปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวที่ดี ตลาดโรงแรมในพัทยาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากสถานการณ์โรคระบาดเช่นเดียวกับตลาดท่องเที่ยวหลักอื่นๆ ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังมีความสนใจตลาดพัทยา

นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม ภาคพื้นเอเชีย เจแอลแอล กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราได้รับการติดต่อสอบถามจากนักลงทุนจำนวนมากที่สนใจหาซื้อโรงแรมในพัทยา ในขณะที่เรายังไม่เห็นการขยายตัวของแนวโน้มที่ของเจ้าของโรงแรมมีการนำโรงแรมออกมาขายลดราคาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโรงแรมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับนักลงทุนสถาบัน แต่สถานการณ์ในขณะนี้ยังอ่อนไหวและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เนื่องจากเจ้าของโรงแรมยังประสบปัญหาการมีรายได้ไม่เพียงพอรองรับต้นทุนค่าใช้จ่าย ดังนั้น หากวิกฤติการณ์ยังคงยืดเยื้อออกไปอีก มีความเป็นได้ว่า ราคาที่ผู้ขายและผู้ซื้อต้องการจะขยับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันมากขึ้นในที่สุด”

นางสาวพิมพ์พะงา ยมจินดา รองประธาน ฝ่ายบริการลงทุนซื้อขาย ภาคพื้นเอเชีย เจแอลแอล กล่าวว่า “นับตั้งแต่วิกฤตการณ์โรคระบาดขยายตัว เราได้รับการติดต่อจากเจ้าของโรงแรมจำนวนมากที่ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ในการถือครองหรือปล่อยขายโรงแรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ดี ความท้าทายที่เจ้าของโรงแรมประสบมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องพบปะพูดคุยกับเจ้าของโรงแรมเป็นรายๆ ไป เพื่อทำความเข้าใจในความจำเป็นของเจ้าของโรงแรม และช่วยวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามแต่กรณี”

นายจักรกริชกล่าวเสริมว่า “สำหรับกรณีที่เจ้าของตัดสินใจขายโรงแรม กระบวนการขายจำเป็นต้องมีการปรับให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผู้ขายจะต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่องเงื่อนไขการขาย  อาทิ ผู้ขายอาจเสนอให้เงินกู้บางส่วนแก่ผู้ซื้อ (vendor financing) รับประกันรายได้ให้กับผู้ซื้อ เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถแบ่งการชำระเงินเป็นงวดๆ หรือยืดเวลาการส่งมอบทรัพย์สิน ซึ่งทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ผู้ขายมีโอกาสเรียกราคาที่สูงขึ้นได้ และทำให้การตกลงซื้อขายมีความเป็นไปได้มากขึ้น”

ขณะเดียวกันยังคาดการณ์ว่า กิจกรรมการลงทุนซื้อขายโรงแรมในพัทยาเริ่มฟื้นในปี 2564 ทั้งนี้ สะท้อนจาก นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา พัทยาไม่มีการซื้อขายโรงแรมรายการสำคัญๆ เกิดขึ้น สาเหตุหลักมาจากการที่ไม่มีโรงแรมคุณภาพเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อลงทุนออกมาเสนอขาย อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูต่อไปว่า สถานการณ์โรคระบาดจะปลดล็อคให้มีทรัพย์สินคุณภาพดีออกมาสู่ตลาดในช่วง 12 เดือนข้างหน้านี้มากน้อยเพียงใด”

รายงานจากเจแอลแอลระบุว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โรงแรมในประเทศไทยที่มีการตกลงซื้อขายเกิดขึ้น โดยเฉลี่ยเป็นโรงแรมขนาด 180 ห้อง ในขณะที่โรงแรมส่วนใหญ่ในพัทยามีขนาดเฉลี่ยประมาณ 100 ห้อง และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กกว่า 50 ห้อง

นายจักรกริชอธิบายว่า “ในมุมมองของนักลงทุน โรงแรมที่มีจำนวนห้องน้อย ส่วนใหญ่จะมีความประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ในระดับต่ำ ทำให้มีศักยภาพในการทำกำไรลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนที่สนใจตลาดพัทยา ส่วนใหญ่ต้องการลงทุนในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ซึ่งมีจำนวนห้องพักรวมกันคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่ถึง 20% ของโรงแรมที่มีทั้งหมดในพัทยา ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวลงไป ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง”

อย่างไรก็ตามยังพบว่าในประเทศเป็นนักลงทุนหลัก นายจักรกริชกล่าวว่า “จากมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามพรมแดน ทำให้นักลงทุนที่มีความเคลื่อนไหวสูงในตลาดโรงแรมของไทยขณะนี้ เป็นนักลงทุนภายในประเทศ ต่างจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่จะเห็นได้ชัดว่าความเคลื่อนไหวจากนักลงทุนต่างชาติเป็นสัดส่วนที่มีความสำคัญ โดยอ้างอิงจากธุรกรรมการซื้อขายโรงแรมที่เจแอลแอลเป็นตัวแทนการปิดการขายไปรวมเกือบ 40 แห่งในประเทศไทยด้วยมูลค่ารวมมากกว่า 4 หมื่นล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว”

หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของเจแอลแอล ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดการประชุมสัมมนาสัญจรเรื่องทิศทางการลงทุนในภาคธุรกิจโรงแรมของไทย โดยล่าสุดได้จัดการประชุมขึ้นที่พัทยา และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ภูเก็ตในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

---

กรมโยธาฯ พัฒนาผังเมืองรับ New Normal 

กรมโยธาธิการและผังเมือง ดึงผู้เชี่ยวชาญ ผนึกภาครัฐ เอกชน เปิดมุมมองพัฒนางานผังเมือง รับ New Normal จัดสัมมนา WELLNESS CITY TRANSFORMATION “คิดใหม่ ให้เมือง”

เมื่อโลกเปลี่ยนจากการมาของโควิด ดังนั้น  การพัฒนาเมืองตลอดจนการวางผังเมือง จึงต้อง เปลี่ยนแปลงให้สอดรับการ วิถีใหม่เน้นใส่ใจ สุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จัดสัมมนาทางวิชาการเนื่องในวันผังเมืองโลก WELLNESS CITY TRANSFORMATION : New Paradigm of Thailand City Planning “คิดใหม่ ให้เมือง”ดึงผู้เชี่ยวชาญร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ เปิดมุมมอง รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการออกแบบและขับเคลื่อนงานด้านการผังเมือง หลังสถานการณ์โควิด – 19

เพื่อการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความสมดุลของเมือง มุ่งหาแนวทางใหม่ ทั้งทางด้านนโยบายและด้านกายภาพในการวางผังและออกแบบเมือง  ให้มีความยืดหยุ่นในทุกด้าน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในรูปแบบใหม่    โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องเลอ คองคอร์ด บอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 6พฤศจิกายน ที่ผ่านมาในการวางผังและออกแบบเมือง งานสัมมนาในปีนี้ จึงจัดขึ้นในหัวข้อ WELLNESS CITY TRANSFORMATION : New Paradigm of Thailand City Planning “คิดใหม่ ให้เมือง”      

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยสะท้อนว่าการจัดสัมมนาทางวิชาการเนื่องในวันผังเมืองโลก เป็นงานที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจัดต่อเนื่องเป็นประจําทุกปีเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผังเมือง ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนได้ตระหนักถึงบทบาทและความสําคัญของการผังเมือง ประกอบกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นผู้คน เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผ่านมา ทั่วโลกประสบปัญหาการรับมือกับโรคระบาดแทบทุกประเทศ เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ มุ่งหาแนวทางใหม่ ทั้งทางด้านนโยบายและด้านกายภาพ         

นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจากทุกภาคส่วนได้ใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผังเมือง ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนา    ไปสู่ความยั่งยืน และทราบแนวทางการดำเนินงานด้านการผังเมืองที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลที่เสริมศักยภาพการพัฒนาของภูมิภาคและท้องถิ่นในการจัดทำผังกายภาพตามหลักวิชาการ  ผังเมือง ซึ่งจะส่งผลให้การผังเมืองและการพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

โดยทุกภาคส่วน ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาและแนวทางใหม่ ๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเมืองได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UddC), รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์, นางสาวกชกร วรอาคม นักภูมิสถาปนิก ผู้ก่อตั้งบริษัท Landprocess และ นายรติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ ผู้ก่อตั้ง OPENBOX ARCHITECTS

“การจัดสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพการออกแบบและพัฒนาเมือง ส่งผลให้เมืองเกิดนวัตกรรมใหม่ในหลากหลายมิติและพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

---

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่ง200จุดหลัง “ไบเดน”ประกาศชนะเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 63 เวลา 06.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นขึ้น 241 จุด หรือ 0.85% แตะที่ 28,445 จุด หลังจากนายโจ ไบเดน ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และให้คำมั่นที่จะใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญด้านอื่นๆ

ทั้งนี้นายไบเดนได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 โดยนายไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นไปอย่างราบรื่น และยังให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญด้านอื่นๆ

การประกาศชัยชนะของนายไบเดนทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

---

โซเลร์กดโทษแฮตทริก! บาเลนเซีย เปิดรังรัวถล่ม เรอัล มาดริด ยับ 4-1

การแข่งขัน ฟุตบอล ลาลีกา สเปน คู่ระหว่าง “ค้างคาว” บาเลนเซีย พบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่สนาม เอสตาดิโอ เด เมสตาย่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563

เปิดเกมมา 10 นาที ทีมเยือนได้โอกาสทักทายก่อนจาก มาร์โก อาเซนซิโอ ที่ได้กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไกลออกหลังไป

นาทีที่ 23 “ราชันชุดขาว” ต่อเกมได้สวย มาร์เซโล่ ไหลคืนให้ คาริม เบนเซม่า สับไกด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ เยาเม่ โดเมเน็ค ตุงตาข่าย เรอัล มาดริด นำ 1-0

นาทีที่ 29 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ โฆเซ่ กาย่า เปิดบอลไปติดแขน ลูกัส บาสเกซ ผู้ตัดสินเป่าทันทีซึ่ง การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาดในครั้งที่สองหลังครั้งแรก VAR สั่งให้ยิงใหม่ทำให้ บาเลนเซีย ตีเสมอ 1-1

ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 มักซี่ โกเมซ เปิดบอลแฉลบก่อนเป็น ราฟาแอล วาราน พยายามสกัดแต่โดนไม่ดีบอลข้ามตัว ติโบลต์ กูร์กตัวส์ เข้าประตูตัวเอง บาเลนเซีย แซงนำ 2-1 พร้อมหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลัง นาทีที่ 52 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษอีกจากจังหวะที่ มักซี่ โกเมซ โดน มาร์เซโล่ ทำฟาวล์ และเป็น การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด บาเลนเซีย หนีเป็น 3-1

นาทีที่ 60 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนชี้ทันที และเป็น การ์ลอส โซเลร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด บาเลนเซีย ทิ้ง 4-1 รวมทั้งเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้

จบเกม “ค้างคาว” บาเลนเซีย เปิดบ้านเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 4-1 เก็บสามแต้มขยับมาอยู่ที่ 9 ขณะที่ “ราชันชุดขาว” รั้งอันดับที่ 4 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาเลนเซีย (4-2-2) เยาเม่ โดเมเน็ค – ดาเนี่ยล วาส, กาเบรียล เปาลิสต้า, อูโก้ กียามอน, โฆเซ่ กาย่า – ยูนุส มูซาห์, การ์ลอส โซเลร์, อูรอส ราซิช, เดนิส ชีรีเชฟ – ลี คัง อิน, มักซี่ โกเมซ
เรอัล มาดริด (4-3-3) ติโบลต์ กูร์กตัวส์ – ลูกัส บาสเกซ, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, มาร์เซโล่ – เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้,อิสโก้, ลูก้า โมดริช – มาร์โก อาเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

---

พัฒนาชุดตรวจโควิดในอาหาร สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

“กรมวิทยาศาสตร์ฯ” พัฒนาชุดตรวจแอนติบอดี้โควิด-19 ที่ปนเปื้อนในบรรจุภัณฑ์และอาหาร มีความแม่นยำ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงความคืบหน้าการเตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย สธ. โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการพัฒนาวิธีตรวจวินิจฉัย ด้วยเทคนิค Real-time RT PCR ซึ่งเป็นวิธีตรวจมาตรฐาน ที่องค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ พร้อมทั้งดำเนินงานตามนโยบาย “1 แล็บ 1 จังหวัด 100 ห้องปฏิบัติการ” รายงานผลใน 1 วัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาเชื้อโควิด-19

“ขณะนี้มีห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองแล้ว 236 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมเกือบทุกจังหวัด เหลือเพียง 1 จังหวัด จะพัฒนาให้ตรวจได้ทั้งหมด สามารถรองรับการตรวจได้มากกว่า 20,000 ตัวอย่างต่อวัน (แบ่งเป็นศักยภาพการตรวจในกรุงเทพมหานคร 10,000 ตัวอย่างต่อวัน และศักยภาพการตรวจในต่างจังหวัด 10,000 ตัวอย่างต่อวัน หรือ 835 ตัวอย่างต่อเขตสุขภาพ ปัจจุบันมีจำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจสะสมรวม 1,217,873 ตัวอย่าง” นพ.ศุภกิจ กล่าว

นอกจากนี้ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ สยามไบโอไซเอนซ์ ร่วมวิจัยพัฒนาและผลิตชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี Real-time RT-PCR สนับสนุนการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อให้รวดเร็วและทั่วถึง สร้างความมั่งคงด้านสุขภาพของประเทศไทย มีแหล่งผลิตชุดน้ำยาภายในประเทศ เพื่อการให้บริการตรวจคนไทย ตลอดจนสนับสนุนการคัดกรองเพื่อกักกันในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการควบคุมและป้องกันโรคภายในประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีชุดน้ำยาตรวจ Real-time RT-PCR สำหรับโควิด-19 รองรับไปตลอด ช่วงระยะเวลาการระบาดของโควิด-19 มีการสำรองชุดน้ำยาตรวจไว้ใช้กว่า 700,000 ตัวอย่าง

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ล่าสุดกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาชุดตรวจหาแอนติบอดี้ต่อเชื้อ SARS-CoV-2 ทั้งชนิด IgM และ IgG เพื่อรองรับการระบาดของโรคโควิด-19 โดยใช้หลักการตรวจทางภูมิคุ้มกันวิทยา ด้วยวิธีอิมมูโนโครมาโตกราฟี ชนิดอ่านผลด้วยตาเปล่าจากตัวอย่างซีรัม พลาสมา และเลือดจากปลายนิ้ว ซึ่งชุดตรวจนี้ เป็นการตรวจคัดกรองเท่านั้น และจะให้ผลที่มีความแม่นยำในกรณีที่ใช้กับตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อที่มีอาการมากกว่า 15 วัน

ทั้งนี้ การทดสอบและการแปรผลต้องทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ และควรตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส ร่วมกับระดับแอนติบอดี้เพื่อเพิ่มความไว ความจำเพาะ และความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคโควิด-19

“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังได้พัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนในบรรจุภัณฑ์และอาหาร โดยใช้ชุดน้ำยา DMSc COVID-19 Real-time RT-PCR Kit ซึ่งห้องปฏิบัติการได้ผ่านการเข้าร่วมแผนทดสอบความชำนาญการตรวจเชื้อโควิด-19 ผลอยู่ในเกณฑ์ยอมรับ และพร้อมให้บริการตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ประมาณเดือนธันวาคม 2563 ในตัวอย่างทุเรียนแช่แข็ง และบรรจุภัณฑ์ในราคา 7,000 บาทต่อตัวอย่าง

ใช้ระยะเวลาการตรวจประมาณ 3 วันทำการ เนื่องจากทุเรียนเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศไทยอย่างมาก เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ส่วนอาหารทะเลแช่แข็งชนิดอื่นๆ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการทดสอบความใช้ได้ของวิธี ซึ่งจะเปิดให้บริการในลำดับต่อไป” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th

---

บอกเวลาด้วยเหตุการณ์ การใช้ adverb clause of time ง่ายนิดเดียว

Adverb clause คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายประโยคหลักซึ่งมีหลายประเภทด้วยกันค่ะ วันนี้ครูณิชาเรียบเรียง adverb clause of time มาให้ศึกษากันก่อนค่ะ

สำหรับ adverb clause of time นั้น จะเป็นอนุประโยคบอกเวลาที่ทำหน้าที่ขยายอีกประโยคหนึ่ง (หรือประโยคหลัก) ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ก่อนหรือหลังนั่นเองค่ะ ถ้าใครสนใจรับบทเรียนดี ๆ แบบนี้สามารถลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์มที่ปรากฎด้านหน้าได้เลยค่ะ (ส่วนสิทธิพิเศษนี้นักเรียนของ Engnow.in.th จะได้รับตลอดต่อเนื่องถึง 1 ปีเต็มอยู่แล้วค่า)

ลักษณะของ Adverb clause (หรือ clause ชนิดต่าง ๆ) จะเป็นลักษณะโครงสร้างประโยคคือ มีประธาน กริยา กรรมครบถ้วนค่ะ

Adverb Clause of Time

จะใช้ conjunction (คำสันธาน) ที่เราพบบ่อย ๆ เช่น ‘when’, ‘whenever’, ‘before’, ‘after’, ‘as’, ‘while’ ‘until’, ‘as soon as’, และ ‘since’:

ตัวอย่าง

• I stopped doing my homework when my friend rang me.
  ฉันหยุดทำการบ้านของฉันเมื่อเพื่อนของฉันโทรมา.
• Joseph gets excited whenever he sees a dog.
  โจเซฟรู้สึกตื่นเต้นเมื่อใดก็ตามที่เขาเจอสุนัข
• I’ll do my homework before I go back to school.
  ฉันจะทำการบ้านก่อนฉันกลับจากโรงเรียน
• Alice went home after the movie ended.
  อลิซกลับบ้านหลังจากภาพยนตร์จบแล้ว
• I was reading a book as my mother was preparing our dinner.
  ฉันกำลังอ่านหนังสือขณะที่แม่ของฉันกำลังเตรียมอาหารเย็นของพวกเรา
• My father came into my room while I was doing my homework.
  พ่อของฉันเข้ามาในห้องฉันในขณะที่ฉันกำลังทำการบ้านของฉันอยู่
• I will come over as soon as I finish eating.
  ฉันจะไปเยี่ยมนะทันที่ที่ฉันรับประทาน(อาหาร)เสร็จแล้ว
• Jonathan hasn’t stopped working since he arrived.
  โจนาธานยังไม่ได้หยุดทำงทานเลยตั้งแต่เขามาถึง

หากเรานำประโยค Adverb clause ขึ้นต้นประโยค จะต้องมีการใช้ (,) comma แบ่งประโยคด้วย เช่น
As soon as I finish eating, I will come over. การสลับประโยคแบบนี้ไม่ได้ทำให้ความหมายเปลี่ยนไปค่ะ

ข้อควรระวัง คือ การใช้ tense ให้สอดคล้องกันค่ะ ซึ่งจะมีกฎการจำง่าย ๆ เช่น อนุประโยค since … จะใช้ past simple และใช้ขยายประโยค present perfect และอนุประโยค when … ใช้ past simple ในการขยาย ประโยค past simple หรือ past continuous (ในกรณีที่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นอยู่ (continuous) แล้วอีกเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นแทรกเข้ามา (simple) ค่ะ ส่วนอะไรที่เป็นลักษณะนิสัยก็จะใช้ present simple ทั้งสองประโยค (ทั้งประโยคหลักและอนุประโยค) ได้ เช่น Joseph gets excited whenever he sees a dog. แปลว่าอุปนิสัยโจเซฟคือกลัวสุนัข ทุกครั้งที่ (whenever เมื่อใดก็ตาม) เจอสุนัขก็จะรู้สึกตื่นเต้น (ตื่นเต้นคำนี้คือตื่นเต้นแบบประหม่าพรั่นพรึงค่ะ)

บทเรียนนี้สั้นนิดนึงนะคะ แต่ถ้าเรียนครบทุกประเภท clause ในคราวเดียวล่ะก็จะยาวมาก ๆ เลยค่ะ วันนี้ครูณิชาจึงนำ adverb clause มาเขียนก่อนค่ะ สำหรับวันนี้ครูณิชาขอตัวก่อนค่า  

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th

---

‘ฟูจิ ซีร็อกซ์’ รีแบรนด์สู่ ‘ฟูจิฟิล์ม’ ผนึกกำลังสร้างการเติบโต

ฟูจิ ซีร็อกซ์ ผนึกกำลัง ฟูจิฟิล์ม กรุ๊ป ลุยสร้างการเติบโตทั่วโลก เผย เม.ย.64 รีแบรนด์สู่ ‘ฟูจิฟิล์ม’ ทั่วเอเชียแปซิฟิก

       ฟูจิ ซีร็อกซ์ ได้ออกมาประกาศว่ากิจการของบริษัททั้งหมดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อแบรนด์ ฟูจิฟิล์ม ตามที่บริษัทเตรียมเปลี่ยนชื่อจาก ฟูจิ ซีร็อกซ์ จำกัด (Fuji Xerox Co., Ltd.) มาเป็น ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น คอร์ปอเรชั่น (FUJIFILM Business Innovation Corp.) ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป เป็นผลมาจากที่บริษัทได้ตัดสินใจยุติข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับบริษัท ซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 นี้ โดยข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวครอบคลุมการใช้ประโยชน์จากใบอนุญาตด้านเทคโนโลยีและแบรนด์ รวมถึงพื้นที่ในการทำการตลาดที่ได้กำหนดให้แต่ละบริษัท

ฟูจิ ซีร็อกซ์ และ ซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชั่น ต่างได้ใช้ประโยชน์จากการแบ่งปันเทคโนโลยีร่วมกันที่แต่ละบริษัทต่างพัฒนาขึ้นเองโดยอิสระมาอย่างยาวนาน ซึ่ง ฟูจิ ซีร็อกซ์ ประสบความสำเร็จในการเร่งความเร็วและระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเป็นของตัวเองมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเดินหน้าผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองต่อไป หลังจากสิ้นสุดข้อตกลงด้านเทคโนโลยีกับ ซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชั่น

ฟูจิ ซีร็อกซ์ ยังคงมอบบริการและการบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ รวมถึงระบบบริหารจัดการงานพิมพ์ในองค์กร (managed print services) แก่ลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพดังเช่นที่ระบุไว้ในข้อตกลงปัจจุบันที่ทำไว้ แม้ข้อตกลงความร่วมมือทางเทคโนโลยีกับ ซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชั่น จะสิ้นสุดลง    ด้วยความรู้ความสามารถที่สะสมมาจนปัจจุบันและความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้า ฟูจิ ซีร็อกซ์ มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับบริษัทอื่น ๆ ในเครือ ฟูจิฟิล์ม กรุ๊ป ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นและบริการที่สร้างจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) ออกสู่ตลาดขณะเดียวกัน บริษัทจะเร่งความเร็วในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้านงานเอกสารและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการขยายกิจการไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมธุรกิจผ่านการเข้าไปสนับสนุนการใช้งานและแบ่งปันความรู้ เพื่อช่วยให้การทำงานของพนักงานในออฟฟิศมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

    นอกจากนั้น ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564 ฝ่ายขายในประเทศญี่ปุ่นและสาขาทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ รวมถึง ฟูจิ ซีร็อกซ์ อินเตอร์ฟิลด์ จะรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ที่มีชื่อว่า ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น เจแปน คอร์ปอเรชั่น ทั้งนี้ชื่อบริษัทใหม่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ฟูจิ ซีร็อกซ์ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ ฟูจิฟิล์ม กรุ๊ป ซึ่งสนับสนุน “คุณค่าจากนวัตกรรม” อันเป็นสโลแกนของบริษัทเพื่อขยายธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการนำเสนอนวัตกรรมหลากหลายอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

---

เอ็กไคนาเชีย Echinacea สมุนไพรเอ็กไคนาเชีย เพิ่มภูมิต้านทาน

เอ็กไคนาเชีย ( Echinacea)  เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสมุนไพรพื้นบ้านของอเมริกัน สมุนเอ็กไคนาเชีย ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยนักสมุนไพรดั้งเดิมและชาวอเมริกันพื้นเมืองมาหลายชั่วอายุแล้ว

ในที่สุดก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรปช่วงทศวรรษ 1900 คุณสมบัติหลักคือรักษาและป้องกันหวัด ตอนนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีมากที่สุดในร้านอาหารเพื่อสุขภาพและยังคงเป็นพืชที่นักวิจัยใช้ทางวิทยาศาสตร์มากมายเพื่อศึกษาฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันมากที่สุด เอ็กไคนาเชียถือเป็นสมุนไพรชั้นนำที่ใช้เพื่อสุขภาพมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี

สมุนไพรเอ็กไคนาเชีย ในพฤกษศาสตร์

เอ็กไคนาเชีย ( Echinacea)  เป็นสกุลหรือกลุ่มของพืชไม้ดอกในตระกูลเดซี่ Echinacea สกุลมีสิบชนิดซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่า coneflowers พวกเขาพบได้เฉพาะในภาคตะวันออกและภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนือซึ่งพวกมันเติบโตขึ้นในที่ราบชื้นและแห้งแล้งและพื้นที่ป่าเปิดโล่ง พวกเขามีขนาดใหญ่หัวโกนของดอกไม้คอมโพสิตบานตั้งแต่ต้นถึงปลายฤดูร้อน วัสดุที่พบในการค้าขายโดยทั่วไปคือ Echinacea purpurea, Echinacea angustifolia และบางครั้ง Echinacea pallida เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่โตสูง 4-5 ฟุตพร้อม coneflowers สีม่วงสดใส (เพราะฉะนั้นชื่อสามัญของ ‘coneflower สีม่วง’) ใบกว้างกว่า E. angustifolia ซึ่งมีมากกว่าเชิงมุมและมีขนดก (ชื่อเฉพาะหมายถึงสิ่งนี้หมายถึง ‘ใบแคบ) และเติบโตขึ้นสูงเพียงประมาณหนึ่งฟุต บ่อยครั้งที่ E. pallida และ E. angustifolia มีความสับสนเนื่องจากทั้งคู่มีกลีบสีชมพูอ่อนและมีการใช้ในลักษณะที่คล้ายกัน

ชื่อสกุล Echinacea มาจากภาษากรีก ‘echinos’ ซึ่งหมายถึงเม่นและหมายถึงลักษณะที่ปรากฏของหัวเมล็ดหนาม

การเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยว

1. purpurea เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการปลูกฝังกันอย่างกว้างขวางที่สุดของ Echinacea แต่ก็พบได้น้อยมากในป่าเนื่องจากมีการเก็บเกี่ยวมากเกินไป E. pallida และ E. angustifolia เติบโตได้ยากกว่ามาก ในเชิงพาณิชย์การเตรียมการของ E. pallida บางครั้งมีการระบุว่าไม่ถูกต้องในชื่อ ‘Echinacea angustifolia’ (สมุนไพรอี)

ประวัติและความเป็นมา เอ็กไคนาเชีย

สมุนเอ็กไคนาเชียถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรโดยชาวอเมริกันพื้นเมือง และเป็นสมุนไพรดั้งเดิมในสหรัฐอเมริกาและในแคนาดา  อีกทั้งเอ็กไคนาเซียยังถูกใช้เป็นสมุนไพรดั้งเดิมของชาวเผ่าเกรตเพลนอินเดียน (Great Plains Indian tribe) ชนเผ่านี้ได้ตั้งรกรากตามแบบอย่างของชาวอินเดียนแดง และใช้เอ็กไคนาเซียสำหรับทำยา  ปัจจุบันผู้คนเริ่มสนใจในพืชชนิดนี้มากขึ้นเนื่องจากมีเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะมากขึ้น สมุนไพรนี้ได้แปรรูปมาเป็นน้ำผลไม้สด, มักจะใช้ทั้งใบหรือรากเป็นเพียงเคี้ยวเอ็กไคนาเชีย เพื่อใช้ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันและสำหรับใช้เฉพาะ

สมุนไพรเอ็กไคนาเชีย ( Echinacea)  

อื่น ๆ : โคนฟลาวเวอร์สีม่วง

ชื่อ BOTANICAL

Echinacea purpurea (L. ) Moench

ตระกูลพืช: Asteraceae

แพทย์ผสมผสานในสหรัฐอเมริกานิยมใช้เอ็กไคนาเชีย ในปลายปี 1800 แสดงความสนใจโดยเฉพาะใน E. angustifolia John Uri Lloyd และ John King  จนกระทั่งมันปิดตัวลงในช่วงกลางทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นจุดที่ความนิยมของเอ็กไคนาเชีย ลดลงในสหรัฐอเมริกา มันหลุดออกไปจากวงการสมุนไพร จนถึงปี 1970 เมื่อนักสมุนไพรฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ E. purpurea ได้รับการยอมรับในประเทศเยอรมนี แดกดัน, E. angustifolia เป็นสปีชีส์ที่นักสมุนไพรดั้งเดิมและชาวอเมริกันพื้นเมืองส่วนใหญ่ใช้ยา แต่ E. purpurea เป็นสปีชีส์ที่เยอรมันได้ทำการค้นคว้า และดังนั้นจึงกลายเป็นที่นิยมที่สุดในยุโรปเป็นอันดับแรกในยุโรป สหรัฐอเมริกา ดังนั้นสปีชีส์ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์ได้จริงมากที่สุดจึงมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์น้อยที่สุด เมื่อเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1950 ดร. โวโกลแพทย์ทางธรรมชาติแห่งสวิสได้เดินทางมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษา Echinacea ในเซาท์ดาโคตา เขานำเมล็ดกลับมาซึ่งเขาเชื่อว่ามาจาก E. angustifolia และมอบให้กับแพทย์ชาวเยอรมันที่ปลูกและเตรียมการ ในไม่ช้ามันก็ถูกค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเป็นเผ่าพันธุ์อี purpurea ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มันกลายเป็นที่นิยมและศึกษากันอย่างแพร่หลายในยุโรป

สรรพคุณของสมุนไพรเอ็กไคนาเชีย

• ภูมิคุ้มกันระบบน้้าเหลืองและภาวะติดเชื้ออื่น ๆ

วิธีใช้สมุนไพรเอ็กไคนาเชีย

• ใช้ส่วนของรากสดหรือแห้ง นำมาชงกับชาหรือน้ำขิง
• นำมาทำเป็นน้ำผลไม้สด

ข้อควรระวัง

ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ Asteraceae ควรใช้ความระมัดระวังกับ Echinacea เนื่องจากมีละอองเกสร Echinacea แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยเฉพาะ สตรีมีครรภ์: เอ็กไคนาเซียถูกจัดว่าอาจจะปลอดภัยเมื่อรับประทานในระยะสั้น มีหลักฐานว่าการรับประทานเอ็กไคนาเซียอาจจะปลอดภัยต่อตัวอ่อนเมื่อใช้ในช่วงไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังคงไม่มีงานวิจัยเพิ่มเติมใด ๆ ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการใช้สินค้าเอ็กไคนาเซียเพื่อความปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com

---

ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 09/11/2563