10รถไฟฟ้า ดัน ที่ดิน พุ่ง 30% เดอะมอลล์ ยึดสถานีมีนบุรี
10 รถไฟฟ้า ดันราคาที่ดินพุ่ง ทั่วกรุง บิ๊กทุนยึดทำเลทอง โฟกัสสายใหม่ชานเมือง เดอะมอลล์ซุ่มซื้อที่ดินจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีชมพู-ส้มสถานีมีนบุรี ปักหมุดห้างแสนตร.ม. สายสีชมพู รามอินทรา กม.2 -ลำลูกกา-พุทธมณฑลสาย4 ฮอต ราคาที่ดินยังขยับได้อีก
รัฐบาลพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้ากว่า 10 สายเชื่อมโยงการเดินทาง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลส่งผลให้เมืองขยายตัวราคาที่ดินขยับสูงสวนทางสถานการณ์การแพร่ระบาด ไวรัสโควิด-19 สะท้อนจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) สำรวจที่ดินดิบในช่วงไตรมาส3 ของปีนี้ จากสำนักงานที่ดินเขตกรุงเทพมหานครพบว่าปรับขึ้นสูงสุดกว่า30%โดยเฉพาะเส้นทางที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตลอดจนเส้นทางในอนาคต ย่านชานเมือง อย่างรถฟ้าสายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรีที่ ปรับขึ้น 35.7% รองลงมาเป็นสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) 34.23% ที่จะเปิดเดินรถปลายปีนี้
รถไฟฟ้าใหม่ดันที่พุ่ง
เช่นเดียวกับสายสีนํ้าเงิน ส่วนต่อขยายจากบางแคไปพุทธมณฑลสาย4 และส่วนต่อขยายสายสีแดงวิ่งต่อจาก ตลิ่งชันไปศาลายา จังหวัดนครปฐม แม้ยังไม่มีการก่อสร้างแต่รัฐมีแผนลงทุนชัดเจนจึงเป็นเหตุให้ ดีเวลอปเปอร์เข้าพื้นที่ตุนที่ดินรอพัฒนา รวมถึงความนิยมที่อยู่อาศัยแนวราบย่านชานเมืองมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียม ทำให้ทำเลชานเมืองยังเป็นที่ต้องการประกอบกับฐานราคาที่ดินยังตํ่าจึงขยับได้สูง เฉลี่ยเกือบ 30% เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการในเขตเมืองปรับขึ้น ไม่เกิน 2-3% เพราะราคาสูงชนเพดานที่ดินไม่เหลือให้จับจองอีกทั้งราคาแพงจนจับต้องไม่ได้ทำให้ การซื้อขายอยู่ในช่วงทรงตัว
อย่างไรก็ตามราคาที่ดินทำเลใหม่แนวรถไฟฟ้าเป็นโอกาสทองของคนซื้อบ้านและ ดีเวลอปเปอร์ไล่ตั้งแต่ ย่านบางแคปลายทางส่วนต่อขยายสายสีนํ้าเงิน (บางแค-พุทธมฑลสาย4) นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโมเดิร์นพรอพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ จำกัด ระบุว่าราคาที่ดิน ขยับไปที่ 3 แสนบาทต่อตารางวา เนื่องจากเป็นปลายทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน ที่เปิดให้บริการ อีกทั้งมีห้างเดอะมอลล์ทำให้ราคา ปรับตัวค่อนข้างสูง และต่อจากนั้นระหว่างทางตามแทนเส้นทางใหม่ ก่อนถึงพุทธมณฑลราคา ขยับอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อตารางวา เมื่อเข้าสู่ เขตพุทธมณฑลสาย1-สาย 4 ราคาอยู่ที่ 1-1.3 แสนบาทต่อตารางวาเนื่องจากมีการพัฒนาบ้านจัดสรรค่อนข้างหนาแน่น เช่นเดียว กับตลิ่งชัน ช่วงต้นของถนนราชพฤกษ์ ราคาอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตารางวา และเส้นทางศาลายา ราคา อยู่ที่ 2-3 หมื่นบาทต่อตารางวา ทั้งนี้บริเวณนี้ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกมาก หากรถไฟฟ้าพาดผ่านจะขยับขึ้นได้อีก เท่าตัวประเมินว่าทำเลนี้จะมีที่อยู่อาศัยขยายตัวตามมาอย่างมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเพราะนอกจากมีเมืองมหาวิทยาลัยที่ศาลายาแล้ว ห้างเซ็นทรัลยังเปิดดักนักช็อป ก่อนเข้ากทม.
เดอะมอลล์ยึดสถานี มีนบุรี
โซนตะวันออกกทม.ร้อนแรงไม่แพ้กัน จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่คืบหน้าไปกว่า71% ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) เอื้อต่อการพัฒนา มีส่วนทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูง ผู้ประกอบการ ซื้อที่ดิน รอพัฒนาแหล่งข่าวจาก กรุงเทพมหานครเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าราคาที่ดินชานเมือง มีการขยับขยายมากขึ้นจากกลไกทางผังเมืองที่เปิดกว้างให้นายทุน มีโอกาสพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้นเมื่อเทียบผังเมืองกทม. ฉบับก่อนที่เห็นเด่นชัดทำเลจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกกับสายสีชมพูบริเวณสถานีมีนบุรีกลุ่มเดอะมอลล์ซื้อที่ดิน เตรียมพัฒนาศูนย์การค้าพื้นที่ไม่ตํ่ากว่า 1 แสนตารางเมตรดักกำลังซื้อปลายทาง เชื่อมโยงการเดินทาง ไปยังภาคตะวันออกและสามารถเข้าเมือง โยงรถไฟฟ้าสายสีส้มทะลุใจกลางเมืองย่านพระราม 9 ออกประตูนํ้าไปยังฝั่งธนบุรีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ทั้งนี้บริเวณสถานีมีนบุรี ผังเมืองกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง เอื้อให้พัฒนาอาคารอยู่อาศัยรวมหรือ คอนโดมิเนียมได้ ทั้งนี้กทม.ยังกำหนดให้มีนบุรี เป็นศูนย์กลางย่านอยู่อาศัย ส่วนขยายต่อมาจากโซนใจกลางเมืองและ มีความคาดหวังให้เกิดตึกสูงแหล่งงานขนาดใหญ่ มีออฟฟิศ และแหล่งรวมของการช็อปปิ้ง ในอนาคต ขณะเจ้าถิ่นบริษัทพัฒนาที่ดินบริษัทพร็อพเพอร์ตี้เพอร์ เฟค จำกัด (มหาชน) สะสมแลนด์แบงก์ทำเลรามคำแหงตอนปลาย รอพัฒนา บ้านแนวราบไม่ตํ่ากว่า 200 ไร่
รามอินทราร้อนฉ่า
ขณะถนนรามอินทรากิโลเมตรที่2 รถไฟฟ้าสายสีชมพูพาดผ่าน ราคาที่ดิน วิ่งไปที่ 3-4แสนบาทต่อตารางวา ค่ายพฤกษา ซื้อพัฒนาเตรียมขึ้นคอนโดมิเนียม พลัมคอนโด ใกล้กับ เซ็นทรัลรามอินทรา ซึ่งก่อนหน้านี้ มีคอนโดมิเนียมแบรนด์ลุมพินี ของบริษัทแอล.พี.เอ็น ดีเวล็อปเม้นท์จำกัด(มหาชน) เกิดขึ้น ก่อน มองว่าโซนนี้ กำลังเติบโตสูงไม่แพ้ สายสีเขียวเหนือ ที่มีโครงการแนวสูง เปิดขายจำนวนมาก นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) (CEO-PS) ระบุว่า ทำเลรามอินทรา ยังไปได้ดีเนื่องจากมี สายสีชมพู อยู่ระหว่างก่อสร้างสามารถพัฒนาได้ทั้งแนวราบและแนวสูงราคาที่ดินต่างขยับสูงอย่างไรก็ตามบริษัทได้ซื้อที่ดินทำเลนี้ไว้เมื่อ2ปีก่อนปัจจุบันทะลุไป4 แสนบาทต่อตารางวาแล้วเช่นเดียวกับสายสีเหลืองย่านพัฒนาการ ถนนศรีนครินทร์ราคาที่ดินอยู่ที่ 4-5 แสนบาทต่อตารางวา ซึ่งบริษัทเตรียมขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมเช่นกันเนื่องจากซัพพลายยังไม่มากเหมือนทำเลลาดพร้าว-บางกะปิที่บมจ.ออริจิ้นอยู่ระหว่างเปิดขายคอนโดมิเนียมซอยลาดพร้าว111 ใกล้เดอะมอลล์บางกะปิ
3บิ๊กอสังหาฯตุนที่ดิน
อีกทำเลที่ฮอตฮิตทำเล คูคตปลายเส้นทางสายสีเขียวเหนือ รัศมีรอบสถานีราคาวิ่งไปที่ 2 แสนบาทต่อตารางวาจาก ก่อนหน้านี้ราคา ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อตารางวา เช่นเดียวกับ สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาลำลูกกาที่ระบุว่าทำเลย่านลำลูกกาเติบโตสูง และขยายตัวไปจนถึงเขตดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เขตปกครองของกทม.หลังจากมีรถไฟฟ้าเชื่อมถึงการพัฒนาส่วนใหญ่ ยังคงเป็นบ้านจัดสรรมีรายใหญ่ซื้อที่ดิน ได้แก่ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทศุภาลัยจำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่งจำกัด (มหาชน) ยื่นขออนุญาตจัดสรรเข้ามารอการพิจารณาอยู่ในขณะนี้ ขณะการพัฒนาต้องขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองปทุมธานีซึ่งปัจจุบันอาจเปิดกว้างมากกว่าในกทม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘ซีพีจีซี’เล็งปั้นชุมชนจีนในนิคมฯ เพิ่มพอร์ตรายได้รับศก.ขาลง
นิคมอุตสาหกรรม “ซีพีจีซี” เป็น 1ใน7 ธุรกิจของ ซี.พี.แลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่มี “สุนทร อรุณานนท์ชัย” นั่งแท่นกุมบังเหียน ตั้งเป้าหมายว่า จะเป็น ธุรกิจอนาคตที่เป็นนิวเอสเคิร์ฟ
สมเกียรติ เรือนทองดี กรรมการ บริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ที่ดินนิคมฯ ซีพีจีซี ซื้อมา 33 ปีแล้ว แต่เพิ่งนำมาพัฒนาในช่วง 2-3 ปีนี้ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ภายใต้นโนบายขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาลให้ผู้ประกอบใน 3 จังหวัด หนึ่งในนั้น คือ ระยอง จึงเป็น “โอกาส” ในการพัฒนาพื้นที่ เป็นโครงการที่ใกล้กับตลาด ท่าเรือมาบตาพุด รวมทั้งใกล้อู่ตระเภา และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพียง 35 กิโลเมตร
นิคมฯ ซีพีจีซี จ.ระยอง นับเป็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดจำนวน 3,000 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง บริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียร์ริ่ง กรุ๊ป ยีอาน จากจีน กับ ซี.พี.แลนด์ เพื่อรับเหมาก่อสร้างพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ดึงนักลงทุนจีน เข้ามาลงทุนก่อสร้างและพัฒนาโปรดักท์ในนิคมฯ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มลูกค้าจีน รวมทั้งลูกค้าต่างชาติอื่นๆ ที่สนใจเข้ามาลงทุน บนพื้นที่โครงการ 3,065 ไร่ แบ่งเป็น 3 เฟส
เริ่มจากเฟสแรก พัฒนาที่ดิน 1,000 ไร่ ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคสัดส่วน 90% ของสาธารณูปโภคทั้งหมด อาทิ ถนนสายหลัก 3 กิโลเมตร โรงงานบำบัดน้ำเสีย และผลิตน้ำดิบ โครงข่ายไฟฟ้าและโทรคมนาคม ซึ่งจะนำฝังลงใต้ดินทั้งหมด
พงศ์พัฒน์ สารสิน ผู้จัดการโครงการ ระบุว่าจากการศึกษาปัญหานิคมฯ ในอดีตพบว่า มักมีปัญหาเรื่องการจราจร จึงเปิดทางออกถึง 4 ช่องทาง มีช่องทางการจราจรถึง 6 ช่องทาง ปัญหาต่อมาเรื่องแรงงาน ซึ่งในพื้นที่เฟส 3 จะอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือและเทคนิคบ้านค่าย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตบุคลากรตั้งแต่ระดับ ปวช.ไปจนถึงปริญญาเอก
อีกปัญหาคือ น้ำท่วม ทางเข้าของนิคมฯ จะเป็นเนิน และเป็นพื้นที่สูงกว่าพื้นที่ข้างเคียงฉะนั้นโอกาสที่จะน้ำท่วมมีน้อยมากและผ่านมาไม่เคยท่วม นอกจากนี้ในพื้นที่จะปลูกต้นไม้จำนวนมากตามคอนเซปต์“กรีน อินดัสทรี” หรือโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว และ‘สมาร์ท อินดัสเตรียล’ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการพัฒนาระบบโทรคมมนาคมที่รองรับ5G
ทั้งนี้ นิคมฯ ซีพีจีซีจะมีพื้นที่ “อุตสาหกรรม 2,205 ไร่” คิดเป็น 71.89% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ “พาณิชยกรรม 112 ไร่” คิดเป็น 3.67% ทำไว้เพื่อรองรับคนที่อาศัยอยู่ในโรงงานหรือคนที่ทำงานในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องออกไปนอกพื้นที่
ในอนาคตถ้ามีกลุ่มนักลงทุนจีนเข้ามาจะเปิดอาคารสำนักงาน รีเทล ร้านอาหาร ธนาคารจีนเข้ามาเพื่อให้ส่งเงินกลับประเทศได้ โดยทำให้เป็นคอมเมอร์เชียลสำหรับคนจีน ในอนาคตจะมีอพาร์ตเมนต์ ที่เป็นที่พักของคนจีน สำหรับคนจีนที่เข้ามาทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ห่างบ้าน เพราะมีชุมชนคนจีนอยู่ในนิคมฯที่พัฒนาร่วมกัน
โดย 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่จะเข้ามา เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐานตามอีอีซี กลุ่มแรก จะเป็นอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ กลุ่มที่สองคือกลุ่มดิจิทัล กลุ่มที่สามยานยนต์สมัยใหม่ กลุ่มที่สี่ การแพทย์และกลุ่มที่ห้า คืออาหารอนาคตแนวฟังชั่นนอลเพื่อสุขภาพ
สมเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาในเฟสที่ 1 พัฒนาที่ดิน 1,100 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย 600ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เฟสที่ 2 พื้นที่ 1,200 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย 1,000ไร่ และเฟสที่ 3 พื้นที่ 700 ไร่เป็นพื้นที่ขาย 500ไร่
สำหรับการก่อสร้างในเฟสแรก คาดว่า ปลายปี2563จะแล้วเสร็จ พร้อมที่ให้ลูกค้าเข้ามาดำเนินการก่อสร้างโรงงานต่างๆได้และพร้อมที่ดำเนินการในเฟส2 และเฟส3 ต่อในปี2564 คาดว่าจะเกิดการลงทุนตั้งโรงงานทั้งหมดในนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20,000 อัตรา
“แม้ไทยเผชิญวิกฤติโควิดแต่เรามีลูกค้าที่ติดต่อไว้แล้ว คาดว่ากลางปี 2564 เป็นต้นไปจะสามารถเดินทางนอกประเทศได้แล้ว โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นคนจีนที่จองไว้จำนวน 50 รายผ่านระบบออนไลน์ และมีประเทศอื่นที่ติดต่อมา อาทิ ไต้หวัน ยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี จะเป็นโรงงานผลิตวัสดุเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นไบโอเคมี เพื่อรองรับอุตสาหกรรมชั้นสูงที่มาลงทุนในอีอีซี และ สหรัฐ เพราะเราตั้งใจจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
เตือนสินทรัพย์เสี่ยงผันผวนสูง
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.45 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.28 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 5.9 พันล้านบาท แต่ขายพันธบัตรสุทธิ 8.1 พันล้านบาท โดยคาดว่าในระยะสั้นตลาดเงินอาจเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หลังราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนจากความชัดเจนของผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการพัฒนาวัคซีนซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีภาคบริการและการจ้างงานนอกภาคเกษตร การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อคณะกรรมการในสภา สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังชาวอเมริกันเดินทางมากขึ้นช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยรายงานการประชุมเฟดบ่งชี้ว่าเฟดอาจปรับเพิ่มอายุของพันธบัตรที่เข้าซื้อ และเห็นควรว่าเฟดอาจจำเป็นต้องส่งสัญญาณชี้นำที่ชัดเจนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหนุนจากภาพการเมืองสหรัฐฯ ราบรื่นมากขึ้นหลังฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้เริ่มถ่ายโอนอำนาจให้แก่รัฐบาลภายใต้การนำของนายไบเดน นอกจากนี้การเจรจา Brexit และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำซึ่งปรับฐานลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจ
“ฟรัปปาร์” จ่อเป็นผู้ตัดสินหญิงคนแรก ลงเป่า ชปล. เกม “ยูเวนตุส-เคียฟ”
สเตฟานี ฟรัปปาร์ เตรียมเป็นผู้ตัดสินหญิงคนแรกที่ได้เป่าเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของผู้ชายในคู่ระหว่าง ยูเวนตุส กับ ดินาโม เคียฟ วันพุธนี้
วันที่ 1 ธ.ค. 63 บีบีซี สปอร์ต เปิดเผยว่า สเตฟานี ฟรัปปาร์ กำลังจะเป็นผู้ตัดสินหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ทำหน้าที่ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของฝ่ายชาย ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 กลุ่มจี ซึ่ง ยูเวนตุส แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี จะเปิดบ้านต้อนรับ ดินาโม เคียฟ รองแชมป์ลีกยูเครนในวันพุธที่ 2 ธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ เชิ้ตดำสาวชาวฝรั่งเศส วัย 36 ปี ก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลฝ่ายชายรายการใหญ่ของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ในศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ระหว่าง ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เชลซี แชมป์ยูโรปาลีก เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019
สำหรับ สเตฟานี ฟรัปปาร์ เป็นผู้ตัดสินหญิงระดับฟีฟ่า โดยเริ่มทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลชายในศึกลีกเดอซ์ ฝรั่งเศส เมื่อปี 2014 และมีประสบการณ์ในเกมระดับสูงกับศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2 สมัยในปี 2015 และ 2019 ซึ่งในหนล่าสุดเมื่อปีที่แล้วที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ เธอได้เป่าในรอบชิงชนะเลิศที่ สหรัฐอเมริกา ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-0 ด้วย
จากนั้น ฟรัปปาร์ ก็ได้โอกาสลงตัดสินในลีกเอิง ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของแดนน้ำหอม เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะถูกเลือกให้ลงเป่าในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ถึง 2 ครั้ง เริ่มจากนัดแรกในกลุ่มจี ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านชนะ ซอร์ยา จากยูเครน 3-0 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และล่าสุดในเกมที่ 4 กลุ่มอี กรานาดา จากลา ลีกา สเปน เปิดบ้านเฉือน โอโมเนีย นิโคเซีย 2-1 วันที่ 26 พฤศจิกายน
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
มะเร็งตับพบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย
กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยว่า มะเร็งตับ พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในคนไทย แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตราว 16,000 ราย
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดประมาณ 120,000 ราย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทยรายงานผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีรายใหม่ 20,671 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,912 ราย ซึ่งมะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีตับ สาเหตุของมะเร็งเซลล์ตับเกิดจากภาวะตับแข็ง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และการดื่มสุรา ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดีเกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับจากการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ รวมถึงการมีภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเกี่ยวกับอาการของมะเร็งตับว่า ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแสดงแตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น
ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การป้องกันโรคทำได้โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังหรือมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ ควรรับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อสามารถพบรอยโรคได้เร็ว ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับลงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
รักษามารยาทในภาษาอังกฤษ
คุณเคยบ้างมั้ยที่พูดอะไรออกไปแล้วดูเหมือนว่าจะผิดหูคนฟังโดยไม่ได้เจตนา? มีบ้างหรือเปล่าที่คนมักเมินต่อคำร้องขอของคุณ? ถ้าคุณเคยประสบปัญหาข้างต้นมา แสดงว่าอาจเป็นได้ที่คนรอบข้างมีความเห็นว่าภาษาอังกฤษของคุณฟังดูไม่สุภาพนัก ลองดูเคล็บลับในการหลีกเลี่ยงความเป็นคนหยาบคายโดยไม่ได้ตั้งใจดังต่อไปนี้!
Can you pass me…? vs Give me…
ผู้คนโดยทั่วไปไม่ชอบให้ใครมาสั่งให้ทำอะไร ฉะนั้นบางครั้งมันอาจไม่ง่ายนักที่คุณจะได้ในสิ่งที่ต้องการโดยไม่สร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ผู้ใด ป้องกันเหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้นด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่ฟังเหมือนเป็นคำสั่งอย่าง “Give me the newspaper” แล้วหันไปใช้ประโยคในทำนองขอร้องอย่างเช่น “Can you pass me the newspaper?” แทน
Could you give me five minutes? vs Go away.
คุณกำลังงานยุ่งมากแต่เพื่อนร่วมงานต้องการความช่วยเหลือจากคุณ…ถ้าคุณยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวไปทำอย่างอื่นได้ในขณะนั้น การพูดแค่ว่า “Go away” นั้นไม่เหมาะสมแน่นอน คุณควรรักษาน้ำใจคนอื่นด้วยการพูดว่า “Could you give me five minutes?”
Excuse me. vs Move.
การสั่งให้คนอื่น “Move out of the way” นั้นถือว่าหยาบคายมากและอาจทำให้คนอื่นมีปฏิกิริยาตอบโต้ในทางลบ ถ้าคราวหน้ามีใครขวางทางคุณอยู่ ให้พูดว่า “Excuse me” ซึ่งผลที่ได้จะทำให้คุณพอใจโดยที่คุณไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองให้ใครเลย!
I’m afraid I can’t. vs No.
บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องตอบปฏิเสธคำเชิญชวนจากเพื่อน และการพูดแค่ว่า “No” อาจถูกมองว่าไม่ค่อยสุภาพรื่นหูนัก คราวหน้าถ้าคุณต้องปฏิเสธคำเชิญจากใคร ให้พูดว่า “I’m afraid I can’t.” แทน
I would like… vs I want…
ปกติจะถือว่ามันไม่สุภาพที่คุณจะกล่าวตรงตัวว่า “I want” โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้คนอื่นทำอะไรให้ ดังนั้นแทนที่จะพูดว่า “I want a cup of coffee” ก็ลองบอกพนักงานเสิร์ฟว่า “I’d like a cup of coffee, please” แค่นี้คุณก็จะได้กาแฟสมใจแถมรอยยิ้มจากเจ้าหล่อนด้วย !
Would you mind…? vs Stop it!
ถ้าใครทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจ คุณอาจคิดว่ามันหยาบคายด้วยซ้ำ แล้วคุณต้องการให้เขาหยุดการกระทำนั้นมั้ยล่ะ? เพื่อให้ได้ผลอย่างที่คุณต้องการ แทนที่จะตะโกนว่า “Stop talking on your phone in the cinema!” ให้ลองถามเขาอย่างสุภาพโดยการใช้ประโยคอย่าง “Would you mind not using your phone in the cinema, please?”
Can you hold, please? vs Wait.
การเลือกใช้คำให้ระดับความสุภาพอยู่ในขั้นที่เหมาะสมอาจเป็นสิ่งชี้ขาดระหว่างการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กับการไม่มีการสนทนาอย่างสิ้นเชิง ถ้าคนโทร.เข้าขอพูดสายกับคนอื่น อย่าบอกเขาแค่ว่า “Wait” แต่ให้ถามกลับอย่างสุภาพว่า “Can you hold, please?” แทน
ขอบคุณข้อมูลจาก englishlive.ef.com
อวดโฉมเครื่องพิมพ์หมึกสะท้อนแสงรุ่นแรกของโลก
เอปสัน เปิดตัวเครื่องพิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอประเภท Dye Sublimation ซีรี่ส์ SureColor SC-F500 เพื่อรองรับการขยายตัวของการพิมพ์แบบออนดีมานด์ โดยมีไฮไลท์ที่รุ่น SC-F531 ที่สามารถพิมพ์หมึกสะท้อนแสงเครื่องแรกของโลก พร้อมปั้นแพคเกจเอาใจสตาร์ทอัพ เริ่มธุรกิจได้ด้วยเงินทุนไม่ถึง 1 แสนบาท
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสภาพเศรษฐกิจในปีนี้บวกกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีคนเลือกทจะทำงานเป็นฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจของตัวเองมากขึ้น ในธุรกิจให้บริการการพิมพ์ก็มีผู้ประกอบการที่เน้นงานประเภทออนดีมานด์เกิดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และหันมาลงทุนเครื่อง พิมพ์ขนาดเล็กและกลางมากขึ้น โอกาสทางการตลาดสำหรับเครื่องพิมพ์ของเอปสันโดยเฉพาะในกลุ่มสิ่งทอจึงเปิดกว้างมาก SureColor SC-F530 และ SC-F531 ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นเครื่องพิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอรุ่นล่าสุดของเอปสัน สำหรับรองรับตลาดที่กำลังขยายตัว โดยมีลูกค้าเป้าหมายเป็นสตาร์ทอัพ นักออกแบบ มินิแล็บ โรงงานพิมพ์ผ้า ร้านรับทำของพรีเมี่ยม ร้านเสื้อผ้ากีฬา แบรนด์แฟชั่น รวมถึงสถาบันศึกษา”
SureColor SC-F530 และ SC-F531 เป็นเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 24 นิ้ว มีขนาดกะทัดรัด สามารถพิมพ์งานที่มีสีสันสดใส คมชัด ด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore และชิป Micro Thin-Film Piezo ที่ควบคุมการหยดหมึกได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังใช้หมึก UltraChrome ประเภท Dye Sublimation ของเอปสันที่ทำให้งานพิมพ์ทนได้ทั้งแสง น้ำ และกรดด่างได้ดี และเป็นหมึกที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน OEKO-TEX ว่าไม่มีอันตรายจากสารตกค้างที่เป็นพิษ ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก และไม่ทำลายธรรมชาติ สำหรับรุ่น SureColor SC-F531 ที่เป็นเครื่องพิมพ์หมึกสะท้อนแสงเครื่องแรกของโลก ใช้ชุดหมึก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า สีชมพูสะท้อนแสง สีเหลืองสะท้อนแสง และสีดำ นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Edge Print RIP ลิขสิทธิ์ของเอปสัน ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดและความสะดวกในจัดการไฟล์ภาพ และโปรแกรม LFP Accounting Tool ที่ช่วยเรื่องการคำนวณต้นทุนการพิมพ์ได้อย่างแม่นยำ
“ตั้งแต่เปิดปีงบประมาณ 2563 มาได้ 6 เดือน (เมษายน-กันยายน) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ระดับมืออาชีพของบริษัทฯ ถือว่าทำได้ดีเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยมี F-Series เครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ทำยอดขายได้มากสุด คิดเป็น 35% ของยอดขายทั้งหมดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ รองมาคือ S-Series เครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา 28% และ P-Series เครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจโฟโต้ และงานศิลป์ 27% ตามมาด้วย T-Series เครื่องพิมพ์ในองค์กรสำหรับงานเขียนแบบ งานกราฟิก พิมพ์เขียว และโปสเตอร์ 8% และ SurePress เครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัล 2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ผู้ประกอบการจำนวนมากในอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังนำธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น และให้ความสนใจกับเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการรับงานแบบออนดีมานด์ และไม่สร้างมลภาวะในที่ทำงาน”
นายยรรยง กล่าวว่า “หมึกสะท้อนแสงจะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับงานพิมพ์ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของพรีเมี่ยม เช่น เคสมือถือ แก้ว ที่รองแก้ว หรือหมอน เป็นต้น หรือชุดและอุปกรณ์กีฬา เช่น เสื้อวิ่ง เสื้อจักรยาน หรือแบรนด์เสื้อผ้าที่ต้องการผลิตสินค้าเพื่อทดลองตลาด หรือชุดต้นแบบเพื่อจัดแสดง ทั้งยังสามารถพิมพ์วัสดุสำหรับตกแต่งภายในสถานที่ต่างๆ อย่างร้านอาหารและสถานบันเทิง บริษัทฯ เลือกเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการมอบของขวัญ โดยเชื่อว่าจะมีสตาร์ทอัพและธุรกิจรับทำของพรีเมี่ยมจำนวนมากให้ความสนใจ ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมแพคเกจพิเศษ ซื้อ SureColor SC-F530 หรือ SC-F531 วันนี้ รับฟรีกระดาษทรานสเฟอร์ 2 ม้วน หมึกพิมพ์ 2 ชุด พร้อมประกัน 2 ปี รวมในราคาไม่ถึง 1 แสนบาท”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สาวน้อยประแป้ง ไม้ประดับที่มีพิษถึงตาย
สาวน้อยประแป้ง (Dumb cane) จัดเป็นไม้ประดับต้น และใบที่นิยมปลูกในกระถางสำหรับประดับในอาคาร และนอกอาคาร เนื่องจาก แผ่นใบมีขนาดใหญ่ พื้นใบมีสีเขียว และประเป็นลายด่างด้วยสีขาวจนดูแปลกตา และสวยงาม แต่ทั้งนี้ สาวน้อยประแป้ง ถือเป็นไม้ประดับที่ทุกส่วนมีสารพิษที่อาจทำให้ถึงตายได้ หากรับประทานเข้าไป
• วงศ์ : Araceae
• วิทยาศาสตร์ : Dieffenbachia sp. (ตั้งเป็นเกียรติให้แก่นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน J.F. Dieffenbachia)
• ชื่อสามัญ : Dumb cane
• ชื่อท้องถิ่น :
– สาวน้อยประแป้ง
– ว่านหมื่นปี
– ช้างเผือก
– ว่านพญาค่าง
– อ้ายใบก้านขาว
– บ้วนมีแช
– ว่านเจ้าน้อย
– มหาพรหม
– อ้ายใบ
• ถิ่นกำเนิด : หมูเกาะอินดิสตะวันตก และทวีปอเมริกาใต้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
สาวน้อยประแป้ง มีลำต้นทั่วไปคล้ายกับแก้วกาญจนา/เขียวหมื่นปี ลำต้นทรงกลม ตั้งตรง และอวบน้ำ ผิวลำต้นมีสีเขียวสด และเป็นข้อถี่ที่เป็นวงสีขาวอันเกิดจากจากรอยแผลของใบ ปลายลำต้นแตกยอดอ่อนของใบทีละใบ ทั้งนี้ ต้นสาวน้อยประแป้งสามารถแตกหน่อเป็นลำต้นใหม่ที่โคนต้นได้
ใบ
สาวน้อยประแป้ง เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบแตกออกเป็นใบเดี่ยวๆบริเวณปลายยอดของลำต้น แต่ละใบเรียงสลับกันเป็นวงตามความสูงของลำต้น ใบมีรูปไข่แกมขอบขนาน กว้างประมาณ 15-25 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร โคนใบสอบแคบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบมีสีพื้นเป็นสีเขียว และเส้นกลางใบสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ พร้อมมีลายประสีขาวกระจายออกจากเส้นกลางใบในแนวเฉียงบริเวณของเส้นใบย่อย
ดอก
ดอกสาวน้อยประแป้งออกเป็นช่อที่ปลายยอด คล้ายดอกหน้าวัว ตัวช่อดอกมีกาบหุ้มสีเขียวล้อมรอบ ด้านในกาบหุ้มบรรจุด้วยดอกขนาดเล็กสีขาวที่เรียงซ้อนกันแน่นจำนวนมาก เมื่อดอกบาน กาบหุ้มจะกางออก จนมองเห็นช่อดอกที่เป็นรูปทรงกระบอกยาว
ผล
ผลเจริญมาจากดอก มีลักษณะเป็นเครือคล้ายเครือกล้วย แต่ไม่เป็นหวี แต่จะเป็นผลแต่ละผลเรียงซ้อนกันแน่น ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกมีสีแดง ด้านในเป็นเมล็ด รูปทรงกลมถึงทรงรูปไข่
ประโยชน์สาวน้อยประแป้ง
1. สาวน้อยประแป้งนิยมปลูกเพื่อประดับต้น และใบเป็นหลัก เนื่องจาก แผ่นใบมีขนาดใหญ่ พื้นบีสีเขียว และมีลายประสีขาวทั่วใบ ซึ่งดูแปลกตา และสวยงาม ลายประสีขาวนี้ ถือเป็นที่มาของชื่อ สาวน้อยประแป้ง
2. สาวน้อยประแป้งนอกจากจะปลูกเพื่อประดับต้น และใบแล้ว ผู้ที่นิยมปลูกยังมีความเชื่อว่า เป็นพรรณไม้ที่คอยให้โชคลาภ ช่วยคุ้มครองภัย และช่วยให้ผู้ปลูกมีอายุยืนยาว
3. น้ำยางจากลำต้น ใบ และดอก ใช้เป็นยาพิษเบื่อสัตว์ แต่พึงระวัง หากคนกินอาจทำให้เสียชีวิตได้
สรรพคุณสาวน้อยประแป้ง
ทุกส่วนของสาวน้อยประแป้ง ยังไม่พบรายงาน ทั้งในรูปเอกสาร และเนื้อหาในเว็บไซต์ที่นำมาใช้ในด้านสมุนไพร ทั้งนี้ อาจเนื่องจาก ทุกส่วนมีสารพิษที่เป็นอันตรายถึงตายได้ โดยเฉพาะการรับประทานในปริมาณมาก
พิษสาวน้อยประแป้ง
สารพิษที่พบ
ทุกส่วนของต้นสาวน้อยประแป้งมีสารละลายของสารพิษ ได้แก่
– แคลเซียมออกซาเลท (calcium oxalate) มีสถานะเป็นของแข็ง เป็นผลึกรูปเข็ม โดยต้นสาวน้อยประแป้งพบในสถานะของเหลวในรูปสารละลายในทุกส่วน
– สารโปรตีน และเอนไซม์บางชนิด ที่สามารถย่อยสลายโปรตีนได้
อาการหลังได้รับพิษ
– เมื่อน้ำยางสัมผัสผิวหนัง สารละลายของผลึกแคลเซียมออกซาเลทจะทำให้เกิดผื่นแดง และเกิดอาการคันมาก
– เมื่อน้ำยางเข้าสู่ทางเดินระบบอาหารด้วยการกลืนกิน สารละลายของผลึกแคลเซียมออกซาเลทจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองทางเดินอาหาร รู้สึกปวดร้อน ทั้งในปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม ลำคอ และทางเดินระบบอาหาร เกิดอาการปวดบริเวณท้อง รวมถึงโปรตีน และเอนไซม์บางชนิดที่ย่อยโปรตีนได้จะเข้าทำลายเยื่อบุในช่องปาก ทำให้ปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม และคอ เกิดอาการบวมพอง เป็นตุ่มน้ำใสๆ ผู้ที่ได้รับพิษจะกลืนน้ำลาย และอาหารลำบาก รวมถึงพูดไม่ได้ และหากได้รับน้ำยางมากจะทำลายระบบอวัยวะภายในทำให้ถึงตายได้
การรักษาผู้ได้รับพิษ
– หากมีการสัมผัสบริเวณผิวหนัง ให้รีบล้างออกด้วย น้ำอุ่นหรือธรรมดา ร่วมกับสบู่หรือน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายทันที และหากมีอาการระคายเคือง เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ให้รับประทานยาระงับปวด รวมถึงใช้สมุนไพรบางชนิดทา เพื่อลดอาการ อาทิ ว่านหางจระเข้ เป็นต้น
-หากมีการกลืนกินเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารเพียงเล็กน้อย และแสดงอาการเป็นพิษไม่มาก ให้ใช้ยาระงับปวด meperidine ควบคู่กับดื่มน้ำที่ละลาย เกลือแร่ร่วมด้วย แต่หากรับประทานเข้าไปมาก และมีอาการปวดท้องมาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
– หากเป็นเพียงการเคี้ยวที่ไม่กลืนลงท้อง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปาก ให้รีบบ้วนปากด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเปล่าธรรมดา และอาจรับประทานยาแก้ปวดร่วมด้วยเพื่อช่วยบรรเทาอาการ แต่หากมีอาการระคายเคืองมาก ควรรีบไปพบแพทย์
– กรณีช่องปากเกิดรอยตุ่มพอง อาการนี้จะหายเองภายใน 3-4 อาทิตย์ แต่อาจใช้ 1% ethyl morphine และ 2% disodium edetate จะทำให้รอยตุ่มหายเร็วขึ้น
เพิ่มเติมจาก : 1) และ 2)
การปลูกสาวน้อยประแป้ง
สาวน้อยประแป้งสามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ปักชำต้น และการแยกหน่อ แต่ที่นิยมมาก คือ การขุดแยกหน่อจากต้นแม่มาแยกปลูก
การปลูกสาวน้อยประแป้ง นิยมปลูกมากในกระถาง และรองลงมาเป็นปลูกในแปลงจัดสวน หากปลูกในกระถาง ควรใช้กระถางดินเผาจะดีที่สุด เพราะช่วยรักษาความชื้นของดินหรือวัสดุปลูกได้ดี ส่วนวัสดุปลูกควรผสมดินกับวัสดุอินทรีย์ อาทิ แกลบดำ ขุ๋ยมะพร้าว และปุ๋ยคอก อัตราส่วนที่ใช้ 1:2:1:1 ตามลำดับ ทั้งนี้ กระถางสาวน้อยประแป้งสามารถวางประดับได้ในทุกที่ รวมถึงในอาคารที่แสงส่องไม่ถึงก็ตาม แต่ควรรดน้ำเป็นระยะ 2 ครั้ง/อาทิตย์ เป็นอย่างต่ำ แต่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก puechkaset.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,450.00 | 25,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,649.00 | 24,998.84 | 26,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,484.10 | 22,498.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,319.20 | 19,999.07 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 742.00 | 11,248.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 577.00 | 8,747.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,709.00 | 25,908.44 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/12/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 | 22.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 | 22.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.84 | 20.84 | 20.84 | 20.84 | 20.84 | – | 20.84 | 20.84 | 20.84 | 20.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.34 | 18.34 | – | – | – | – | – | – | – | 18.34 |
เบนซิน 95 | 29.76 | – | – | – | 30.21 | – | 30.26 | 29.76 | – | 29.76 |
ดีเซล B7 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 | 23.79 |
ดีเซล | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 | 20.79 |
ดีเซล B20 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | – | 20.54 | 20.54 | – | 20.54 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 28.24 | 28.26 | 30.24 | 29.64 | – | – | – | – | – | 28.24 |
แก๊ส NGV | 13.10 | 13.10 | – | – | – | – | – | – | – | 13.10 |