เปิดทางรอด รายกลาง ปรับตัวเป็น “เสือปืนไว”
อสังหาฯ ปรับตัวหนัก รับตลาดไร้ทิศทาง รายกลาง ลดเสี่ยงลงทุนใหญ่ สู่โมเดลร่วมลงทุน – รับจัดการและพัฒนาสินทรัพย์
บรรยากาศการซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอตัวจากภาพรวมผู้บริโภคได้รับผลกระทบหนักจากปัจจัยโควิด-19 ผ่านตัวเลขสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ ณ ช่วงครึ่งปีแรก 2563 ปรับลดลง ถึง 10.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เหลือราว 2.8 แสนล้านบาทเท่านั้น ทั้งยังมีผลมาจากมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาวะเศรษฐกิจกดดันกำลังซื้ออ่อนแอ ขณะความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ไวรัสแพร่ระบาดระลอก 2 ระลอก 3ยังเป็นความกังวลหลักของผู้บริโภคและฉุดความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง สะท้อนภาพตลาดไร้ทิศทาง 1-3 ปี หรือเกิดการฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางซัพพลายส่วนเกิน และการลดลงของราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งประเด็นที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ ภาพการปรับตัวของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน และกระแสเงินสดเดินหน้าต่อยอด โดยรายใหญ่มีแนวโน้มลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ ขณะรายเล็ก-รายกลาง ไม่เซ ก็เหนื่อยหนัก รุกหาทางรอด
ที่ผ่านมา นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย เคยระบุว่า ด้วยปัจจัยลบที่เข้ามาบีบคั้นตลาดอย่างหนักหน่วงในปีนี้ แทบจะประเมินภาวะการหดตัวของตลาดภาพรวมออกมาเป็นตัวเลขชัดเจนได้ไม่ได้ ทั้งยังไม่มีอะไรการันตรีว่าปี 2564 ตลาดจะมีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต่างกังวลในแผนลงทุนพัฒนาโครงการ และบางส่วนต้องการกำเงินสด แปลงสินทรัพย์ส่วนเกินเป็นสภาพคล่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยขณะนี้มีดีเวลลอปเปอร์จำนวนไม่น้อย พยายามตัดชิ้นเนื้อ หรือ โครงการที่กำลังก่อสร้าง เข็นต่อไม่ไหว ส่งต่อไปให้นายทุน หรือ บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลัก ทรัพย์ รับช่วงพัฒนาต่อแทน เพื่อนำเงินไปพยุงโครงการอื่นๆ ที่เหลือ ขณะเดียวกัน เริ่มเห็นรูปแบบการร่วมลงทุน (JV) ระหว่าง รายย่อยด้วยกันเองหรือร่วมลงทุน กับเจ้าของที่ดิน ส่วนรายใหญ่ยังคงใช้โมเดลรูปแบบการ JV กับทุนต่างชาติเป็นหลักในการพัฒนาโครงการ เพื่อรักษาส่วนแบ่งทาง การตลาด และสร้างการเติบโตในช่วงปี 2564
ล่าสุดบริษัทรายกลาง อย่าง บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีแผนก่อนหน้า ว่าเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปี 2564 นั้น ประกาศถอย ตั้งหลักใหม่ รับสถานการณ์ท้าทายในปีวิกฤติซ้อนวิกฤติ โดยนายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เผย ว่า ภายใต้ความกดดันของปัจจัยโควิด-19 ในตลาด บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจใหม่ จากการพัฒนาโครงการเพื่อขาย สู่รูปแบบการเติบโตด้วยธุรกิจร่วมทุนและรับจัดการและพัฒนาสินทรัพย์ (Turnkey Asset Development)อย่างเต็มตัว เพื่อเป็นการลดเสี่ยง และแก้เกมเศรษฐกิจช่วงขาลง ยึดโอกาสทางธุรกิจ หลังมีแนวโน้มเจ้าของทรัพย์สิน หรือเจ้าของที่ดิน ที่ไม่ก่อเกิดรายได้ มีความต้องการแปลงสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่า รวมถึงกลุ่มทุน (Hi-Network) ผู้มีกระแสเงินสดเหลือ และต้องการบริหารพอร์ตลงทุน คาดหวังผลตอบแทนการลงทุนมากกว่า 15% ต่อปี สนใจเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งการดำเนินธุรกิจร่วมกันนั้น จะเป็นไปในรูปแบบความร่วมมือระหว่างบริษัทกับบริษัท หรือกับบุคคลชั้นนำ เป็นพันธมิตรร่วมกันรายโครงการ
โดยบริษัทหรือบุคคลข้างต้น เป็นเจ้าของเงินทุนหรือที่ดิน ขณะอัลติจูดรับบทบาทเป็นผู้จัดการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ขั้นตอนต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงวางแผนการตลาดและการขายให้ โดยมีรายได้จากแต่ละส่วนเป็นค่าตอบแทน ล่าสุด อยู่ระหว่างการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ในสนามกอล์ฟย่านศาลายา “เดอะ รอยัล เจมส์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ” อาณาจักรที่ดินเก่าราว 30 ปี ของนายสริยน ศรีอรทัยกุล เจ้าของบิวตี้ เจมส์ บริษัทอัญมณีอันดับหนึ่งของไทย ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่า 2 แปลง และอาคารชุดเก่าอายุราว 20 ปี 1 อาคาร รวมที่ดินประมาณ 20 ไร่ ในเฟสแรก (จากเนื้อที่ทั้งหมด 2 พันไร่) สำหรับ 3 โครงการ ได้แก่ คฤหาสน์หรู ดิ วัน เบลลาจิโอ (อยู่ระหว่างเปิดขาย), โครงการบ้านเดี่ยวราคาแพง วัน ฟอเรสต์ (เตรียมเปิดปี 2564) และคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท วัน พาร์ค (รีโนเวตอาคารเก่า เตรียมเปิดขาย ธ.ค. 2563) รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1 พันล้านบาท และยังร่วมกันในรูปแบบ JV ซื้อที่ดินใหม่ อีก 1 โครงการ ย่านเจริญกรุง “วัน อัลติจูด เจริญกรุง” คอนโดฯหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 1,152 ล้านบาท 85 ยูนิต แต่มียอดขายแล้ว 60 ยูนิต จากฐานลูกค้าของบิวตี้เจมส์ นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับกลุ่มทุน 2-3 ราย ซึ่งบางครอบครัวมีที่ดินในการครอบครองมูลค่านับหมื่นล้านบาท โดยจะคัดเลือกแปลงที่ดินที่มีความเหมาะสมและสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาโครงการได้ ซึ่งเป็นอีกส่วนที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้บริษัท เพิ่มพอร์ตสินค้า และยอดรับรู้รายได้ (Backlog)ก่อนเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ SET ในปี 2565 แบบความเสี่ยงต่ำ
“เปิดศักราชใหม่ในการทำอสังหาฯ เป็นการเข้าไปในรูปแบบไม่ได้ลงทุนโดยตรง แต่เข้าไปในเชิงระบบ คล้ายเชนจ์โรงแรม”
อีกรายก่อนหน้า บริษัท แอสแซทไวส์ จำกัด (มหาชน) รายกลางที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ เตรียมการเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรก ประกาศความสำเร็จ หลังจากร่วมลงทุนกับบริษัทบ้าน ภูริปุรี โฮลดิ้งจำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่รวมตัวกันของสถาปนิก ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่นาม “เอบีเจวี จำกัด” ในการพัฒนาโครงการทาวน์โฮมลักชัวรีรูปแบบใหม่แบรนด์ “ภูริปุรี” ร่วมกัน รวมปัจจุบัน 5 โครงการ เช่น บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 และ บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด -พัฒนาการ ในราคาประมาณ 14 ล้านบาทต่อยูนิต โดยนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ระบุว่า บริษัท ยังมีแผนพัฒนาโครงการสำหรับแบรนด์ดังกล่าวในรูปแบบร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตของบริษัท ทั้งในแง่ยอดขาย และเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำหรับพอร์ตแนวราบควบคู่กับการพัฒนาโครงการแนวสูง ซึ่งกลยุทธ์นั้น คือ การเฟ้นหาที่ดินทำเลพรีเมียมกลางเมือง หรือใกล้เมืองในราคาไม่เกินตารางวาละ 1 แสนบาท ขนาด 3-5 ไร่ ซัพพลายแข่งขันน้อย และใช้รูปแบบร่วมลงทุนเป็นหลัก ส่วนการออกแบบเป็นหน้าที่้ของบริษัทภูริปุรีซึ่งมีความถนัดและเชี่ยวชาญ เอื้อประโยชน์ต่อกัน ลดเสี่ยงด้วยขนาดโครงการไม่ใหญ่ บริหารต้นทุน และมีดีมานด์รองรับ สำหรับการขยายตลาดแนวราบเพิ่มขึ้น 20-30% ในช่วงปี 2564 กลุ่มราคา 4-6 ล้าน และ 6-12 ล้านบาท หลังจากประเมินว่า ตลาดยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์โควิด ปัจจัยทางการเมือง ทิศทางการฟื้นตัวของกำลังซื้อ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘โควิด’สะเทือนวงการออกแบบ งานหด โจทย์ยาก
คอลัมน์ ผ่ามุมคิด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กินเวลาเกือบหนึ่งปีเต็ม ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่า เฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.29 ล้านล้านบาทนั้น จะชะลอตัวลงอย่างมีนัย อ่วมสุดในโครงการคอนโดมิเนียม ไม่นับรวมถึงความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นอย่างวงกว้างทางสังคม และจะมีผลต่อแนวคิด การออกแบบ ตึกรามบ้านช่อง โครงการอสังหาริมทรัพย์น้อย-ใหญ่ทั่วประเทศ ขณะในวงการออกแบบและก่อสร้าง เปรียบเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายไม่น้อย ในการปรับตัว สร้างสรรค์นวัตกรรม การพัฒนาใหม่ๆ ขึ้นมาตอบโจทย์ New Nomal หรือการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคต ท่ามกลางอุปสรรค ต้นทุนเพิ่ม แต่กำลังซื้ออ่อนแอลง ขณะนายไพทยา บัญชากิติคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะตอม ดีไซน์ จำกัด ในฐานะกรรมการสมาคมแบบจำลองสารสนเทศอาคาร เผยแนวโน้มตลาด คาดปีนี้ งานก่อสร้างคอนโดฯจะหายไป ราว 20-30% ห่วงสุดพบปิดดีลรับเหมาก่อสร้าง เกิดราคาดิ่งต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภค กดดันให้วงการสถาปนิกยกเครื่องครั้งใหญ่ ผ่านแนวคิดใหม่ๆ เชื่อคอนโดฯ ขนาดเล็ก 24 ตร.ม. อาจสูญพันธุ์ ระบุ ตลาดไปต่อได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ “ความแม่นยำของโปรดักต์” เป็นหลัก เพราะหลายความเปลี่ยนแปลงคือโอกาส
งานในมือหดตัว10-20%
ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่ละปีมีมูลค่า 1.29 ล้านล้านบาทนั้น คาดว่าปี 2563 คงทรงตัวหรือหดตัวลงเล็กน้อย โดยมีจุดบอดในตลาดคอนโด ซึ่งเป็นชิ้นงานหลักในการออกแบบ-ก่อสร้าง ลดลงราว 20-30% ของมูลค่า 3 แสนล้านบาท เฉพาะช่วงไตรมาส 2 ซีบีอาร์อี เผย มีตัวเลขลดลงถึง 70% ต่ำสุดในรอบ 10 ปีในแง่หน่วยเปิดใหม่ แต่ทั้งนี้ ที่ตลาดยังทรงตัวได้ เนื่องจากอีก 9 แสนล้านบาท-1 ล้านล้านบาทกระจุกตัวในอสังหาฯประเภทอื่นๆ นั้นมีปริมาณงานลดลงแค่เล็กน้อย โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของตลาดแนวราบ เกิดการดูดซับดีกว่าปกติถึง 2 เท่า วิกฤติจึงยังไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตาม จากภาวะดังกล่าว ได้ส่งผลภาพรวมทำให้ธุรกิจสถาปนิก มีโครงการในมือลดลง 10-20% และระยะเวลาการส่งมอบงานช้าขึ้น จากเดิม 6 เดือน เพิ่มเป็น 1 ปี
“แนวโน้มอสังหาฯมันน่ากังวลตั้งแต่ปี 2560 และชัดเจนขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขาลงในช่วงปีที่แล้ว พอเจอโควิด ตลาดเลยช็อก ส่งต่อปริมาณงานในมือธุรกิจออกแบบลดน้อยลง แต่อยู่ในภาวะไปได้ เนื่องจากอสังหาฯบางส่วน ยังงัดที่ดินออกมาพัฒนาอยู่ โดยงานอาคารสูง อาจปรับลดลง แต่แนวราบเพิ่มขึ้น ท่ามกลางอัตราการเร่งงานที่น้อยลง และราคาก่อสร้าง ซึ่งพบล่าสุด มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ปิดงานในราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่อง จากต้องการงาน”
ส่วนตลาดจังหวัดยังไปต่อได้ เช่น ภูเก็ต พัทยา คาดเนื่องจาก ผู้ประกอบการบางส่วน เริ่มมองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ หลังจากตลาดกทม.หลายทำเล มีภาวะโอเวอร์ซัพพลาย และอยู่ในช่วงขาลงตามวัฎจักร
โอกาสและความเปราะบาง
ขณะตลาดก่อสร้างโรงแรมนั้น ช่วงนี้อาจมองว่าเป็นโอกาส เนื่องจากมีการเทคโอเวอร์เปลี่ยนมือ และ
รีโนเวตใหม่เกิดขึ้น ส่วนตลาดคอนโดฯ หากมองมุมบวก พบ การดัมพ์ราคาขายลง 30-50% ท่ามกลางปริมาณหน่วยใหม่เข้าตลาดน้อยลง ก็จะทำให้ซัพพลายเก่าๆ ถูกเคลียร์ออกไป เปิดรับโครงการใหม่ๆ อีกทั้งยังพบว่า ตลาดช่วงไตรมาส 3 เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น บางโครงการสามารถปิดการขายได้ ไม่ได้โอเวอร์ซัพพลายในทุกโลเคชั่น และอาจมีปัจจัยบวกเรื่องราคาที่ดินในบางทำเล ซึ่งพบอีกเช่นกัน ว่า บางแปลงมีราคาซื้อขายกันลดลง 20-30% เนื่องจากการตัดขายทิ้งของผู้ประกอบการที่ถือไว้ หรือเจ้าของที่ร้อนเงินต้องการสภาพคล่อง จึงยอมขาดแบบขาดทุนกำไร ส่วนการเติบโตในกลุ่มแนวราบนั้น เชื่อว่า มาจากผู้บริโภคบางกลุ่ม ยังมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง และบางส่วนซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ระหว่างบ้าน หรือคอนโดฯในเมือง เมื่อเผชิญกับรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ จึงมองหาความคุ้มค่า ซึ่งได้สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
สร้างความแม่นยำโปรดักต์
นายไพทยา กล่าวต่อว่า ความปกติใหม่ (New Normal) กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงการออกแบบ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของเทรนด์สุขภาพ ผู้อยู่อาศัยคำนึงถึงความสะอาดและสุขอนามัยเป็นหลัก ซึ่งเดิมโปรดักต์ในรูปแบบดังกล่าว จะมีต้นทุนที่สูงกว่าปกติ 5-10% ด้วยขนาด และการใส่เพิ่มเทคโนโลยีทั้งภายในบ้าน คอนโดฯ และพื้นที่ส่วนกลาง ท่ามกลาง โจทย์ใหญ่ ที่ผู้ประกอบการต้องการควบคุมต้นทุน ขณะผู้ซื้อเอง ต้องการราคาขายที่สามารถเข้าถึงได้ตามสภาพเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน มีโครงการเปิดใหม่ จำนวนยูนิตมาก หลายโครงการต้องปรับปรุงรูปแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านเพิ่มขึ้น ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการออกแบบ พบมีการคำนึงถึงขนาดภายในห้องพักที่ขยายใหญ่ขึ้น เพิ่มฟังก์ชั่นห้องครัว ห้องทำงานแยก ขณะโครงการบ้านจัดสรรนั้น การมีสระน้ำส่วนตัว กำลังเป็นที่นิยม โดยทั้งหมดจะมีราคาเป็นตัวกำหนดหลังจากนี้
“จากโอกาสของตลาดยังมี ความแม่นยำทางโปรดักต์จึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง พบบางส่วนยอมไปเคาะลดต้นทุนส่วนอื่นๆลง เพื่อนำมาสร้างจุดขายด้านสุขอนามัย ซึ่งโจทย์ปีหน้า เป็นหน้าที่ของดีเวลลอปเปอร์ ต้องไปหาวิธี ทำให้ราคาขายลดลงได้ราว 20-30% เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ตามโจทย์ความต้องการใหม่”
คอนโดฯ 24 ตร.ม.สูญพันธุ์
โดยประเด็นดังกล่าว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในตลาดคอนโดฯ เพราะพบผู้ซื้อมีความต้องการพื้นที่ใช้สอย เพิ่มขึ้นอีก 20% จากเดิม ขนาด 21-24 ตร.ม. เพิ่มเป็นอย่างต่ำต้อง 27 ตร.ม. ขึ้นไป สำหรับ1 ห้องนอน ขณะรูปแบบที่ใหญ่ขึ้น พื้นที่อาจต้องขยายเป็น 35 ตร.ม. เพื่อให้รองรับการอยู่อาศัยได้มากกว่า2 คน ในระดับราคาที่จากเดิม 1 แสนบาทต่อตร.ม. ต้องให้เหลือ 7-8 หมื่นบาทต่อตร.ม. และเพิ่มสัดส่วนรูปแบบห้องขนาดใหญ่ต่อโครงการให้มากขึ้น หลังจากอดีตผู้พัฒนาฯมักให้น้ำหนัก กับห้องสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน จำนวนมากสุด
“อนาคต ผู้ซื้อต้องการห้องใหญ่ขึ้น แต่ราคาถูกลง กล่าวได้ว่า ห้องขนาดเล็ก จะไม่น่าสนใจอีกต่อไป ตัวอย่าง เช่น ผู้ซื้อมีงบ 3 ล้านบาท เดิมหากเฉลี่ย 1 แสนต่อตร.ม. จะซื้อได้ 30 ตร.ม. แต่ตอนนี้จะมีมองหาในราคาเพียง 8 หมื่น เพื่อให้งบเท่าเดิม แต่ได้ห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 ตร.ม. เป็นต้น”
ทั้งนี้ยังรวมถึงการออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของคนหลากหลายกลุ่มอายุ ทั้งกลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มวัยรุ่น และผู้เริ่มทำงาน ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 30.27 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.27 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.25 บาท/ดอลลาร์ หลังมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ถึงแม้จะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ยังต้องใช้ระยะเวลา
“บาทอ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาดจากความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังด้วยการถือครองดอลลาร์มากขึ้น” นักบริหารเงิน กล่าว
“โครส” จวกนักเตะแสดงท่าดีใจไร้สาระ
โทนี่ โครส มิดฟิลด์ตัวเก่ง เรอัล มาดริด จัดหนักจัดเต็มพวกนักเตะอาชีพที่มักจะใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการคิดท่าดีใจหลังยิงประตูได้ บอกนี่คือเรื่องไร้สาระสิ้นดี และไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีสำหรับเยาวชนเลย
โทนี่ โครส กองกลางทีมชาติเยอรมนีของ เรอัล มาดริด วิจารณ์บรรดานักฟุตบอลอาชีพโดยเฉพาะ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าอาร์เซน่อล กับ อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงบาร์เซโลน่า ที่ทำตัวไร้สาระในการคิดท่าทางการแสดงความดีใจหลังจากยิงประตูได้
ดาวเตะเลือดด๊อยท์ช วัย 30 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งกับ “ราชันชุดขาว” และทีมชาติรวมไปถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ได้รับการเชิดชูอย่างมากเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา และให้ความสำคัญผลงานในสนามมากกว่าเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะการแสดงอาการดีใจเวลาทำประตูได้ที่เจ้าตัวไม่ค่อยแสดงออกอะไรมากนัก
สำหรับในกรณีนี้ โครส มองว่านักฟุตบอลบางครั้งโดยเฉพาะ โอบาเมยอง ซึ่งโด่งดังจากการสวมหน้ากากเมื่อยิงประตูได้ และ กรีซมันน์ มักจะฉลองยิงประตูด้วยการเต้นยกขาซ้าย-ขวา แบบเกม ฟอร์ตไนท์ มักทำตัวไร้สาระในการคิดท่าดีใจซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีสำหรับเยาวชน
“ผมพบว่านี่มันเป็นเรื่องที่โง่งี่เง่าจริงๆ ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือมีการนำสิ่งของบางอย่างซ่อนเอาไว้ในถุงเท้า มีอยู่ครั้งหนึ่ง โอบาเมยอง ฉลองประตูด้วยการใส่หน้ากาก นั่นเป็นอะไรที่ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นตัวอย่างที่ดีเลย นี่คือเรื่องไร้สาระที่สุด” โครส กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
รังสี UV ต้นเหตุมะเร็งผิวหนัง
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง “รังสี UV เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง”กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า รังสี UV เป็นหนึ่งในสาเหตุที่
ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลรังสี UV เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง นั้น ทั้งนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ผิวหนังมีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวผิดปกติ โดยสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต หรือแสงสังเคราะห์ที่นิยมใช้ในเตียงอาบแดด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย เช่น การสัมผัสกับสารพิษเป็นเวลานาน ๆ หรือระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ มีไฝหรือขี้แมลงวันมากผิดปกติ เป็นต้น
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า เราสามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังได้จาก การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดทุกครั้งหากต้องออกไป อยู่กลางแดด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงสังเคราะห์ เช่น แสงจากเตียงอาบแดด และหมั่นสังเกตผิวหนังของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีความผิดปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
11 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่นิยมใช้แทนคำว่า “very”
บางครั้งการใช้คำศัพท์คำว่า “very” บ่อยๆ โดยเฉพาะในงานเขียน จะทำให้ดูน่าเบื่อและดูไม่เป็นมืออาชีพได้ บทความนี้ผมก็เลยมีตัวอย่าง “คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่นิยมใช้แทนคำว่า very” มาฝากให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ
1. Very scared : กลัวมากๆ ใช้คำว่า Terrified
2. Very angry : โกรธสุดๆ เปลี่ยนเป็น Furious
3. Very bad : แย่มาก ชั่วร้ายมาก เปลี่ยนเป็น Atrocious แปลว่า โหดร้าย ชั่วร้าย เลวร้าย
4. Very beautiful : สวยมาก เปลี่ยนเป็น Exquisite แปลว่า สวยงาม วิจิตร งดงาม
5. Very clean : สะอาดมาก เปลี่ยนเป็น Spotless แปลว่า ไร้ที่ติ ไร้จุดด่างพร้อย
6. Very dirty : สกปรกมาก เปลี่ยนเป็น Squalid แปลว่า มอมแมม มอซอ สกปรก เสื่อมโทรม
7. Very cold : หนาวมาก เปลี่ยนเป็น Freezing! แปลว่า หนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้ว!
8. Clever : ฉลาด เปลี่ยนเป็น Brilliant! แปลว่า ฉลาดล้ำเลิศ
9. Very tired : เหนื่อยจุงเบย เปลี่ยนเป็น Exhausted แปลว่า หมดแรง หมดสภาพ
10. Very wet : เปียก เปลี่ยนเป็น soaked แปลว่า แฉะชุ่ม
11. Very good : ดีมากๆ เปลี่ยนเป็น Excellent หรือ Awesome แปลว่า ดีเยี่ยม, ดีเลิศ, เป็นเลิศ, เยี่ยมยอด
ขอบคุณข้อมูลจาก wegointer.com
ไมโครซอฟท์ปล่อยแพตช์อุดช่องโหว่ 112 จุด แนะรีบอัพเดต
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ความมั่นคงปลอดภัยประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 แก้ไขช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีแล้ว ควรรีบอัพเดต
ศูนย์ประสานการรักษาความ มั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย หรือ ThaiCERT (ไทยเซิร์ต) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 บริษัทไมโครซอฟท์ ได้ออกแพตช์ความมั่นคงปลอดภัยประจำเดือน โดยมีช่องโหว่ที่ถูกแก้ไขทั้งหมด 112 จุด เป็นช่องโหว่ระดับวิกฤต (Critical) จำนวน 17 จุด และช่องโหว่สำคัญ (Important) จำนวน 93 จุด ในแพตช์รอบนี้มีการแก้ไขช่องโหว่จำนวน 1 จุดที่มีรายงานว่าถูกใช้โจมตีแล้ว
ช่องโหว่ที่มีรายงานการโจมตีแล้วคือช่องโหว่รหัส CVE-2020-17087 ซึ่งเป็นช่องโหว่ระดับวิกฤตประเภท Remote Code Execution (RCE) ใน Windows Kernel Cryptography Driver (cng.sys) ระดับความรุนแรง CVSS 7.8 ผลกระทบจากช่องโหว่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีสามารถควบคุมเครื่องของเหยื่อได้จากระยะไกล ทั้งนี้ถึงแม้ในรายงานจะระบุว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคของช่องโหว่ดังกล่าว
เนื่องจากแพตช์ประจำเดือนมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัย ผู้ใช้ทั่วไปและผู้ดูแลระบบควรพิจารณาอัพเดตแพตช์เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ว่านหางจระเข้ สรรพคุณ และ ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ สมุนไพรสมานแผล
ว่านหางจระเข้เป็น “พืชมหัศจรรย์” เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ว่านหางจระเข้เป็นพืชสกุลที่แผ่นใบหนาอวบน้ำมาก ข้างในเป็นวุ้นใส ความโดดเด่นด้วยความอดทนที่รุนแรงและสามารถอยู่ในสภาพที่รุนแรงที่สุดโดยมีการขาดความชุ่มชื้นอย่างมาก มากกว่า 500 สายพันธุ์ ว่านหางจระเข้จำนวนมากเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแอฟริกาเหนือ
ว่านหางจระเข้เป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และเครื่องสำอาง การเตรียมยาทำบนพื้นฐานของส่วนประกอบของพืช แต่เป็นไปได้ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ยาเป็นอิสระ อย่างไรก็ตามยาสมุนไพรมีความแตกต่างของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเป็นประโยชน์
จากการอ้างอิงของ สวนพฤกษศาสตร์ คิว การ์เด้น (Kew Garden) อันยอดเยี่ยมของประเทศอังกฤษ ว่านหางจระเข้ถูกใช้มานานนับศตวรรษและได้รับความนิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
ว่านหางจระเข้ก็เป็นที่นิยมของทั่วโลกไปแล้ว ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือ มีใบแหลมคล้ายเข็ม
ว่านหางจระเข้ สรรพคุณ และ ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ 9 ประการ
- อาหาร- ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA ว่าเป็นเครื่องปรุงชั้นเยี่ยม
- เครื่องสำอาง
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- สมุนไพร
บันทึกแรกสุดที่มนุษย์ใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยสมุนไพร คือ Ebers Papyrus (เวชระเบียนชาวอียิปต์) จากศตวรรษที่ 16 จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารโรคผิวหนังแห่งอินเดียในอียิปต์โบราณพวกเขาเรียว่านหางจระเข้ว่า “พืชแห่งความอมตะ” ผู้เขียนกล่าวเสริมว่าพืชนี้ถูกใช้รักษาโรคมานานหลายศตวรรษในประเทศจีน อินเดีย กรีซ อียิปต์ เม็กซิโก และญี่ปุ่น
สรรพคุณของว่านหางจระเข้
สรรพคุณทางยาของว่านหางจระเข้ วนของว่านหางจระเข้ ซึ่งนอกจากสรรพคุณดังกล่าวแล้วยังมีประโยชน์ของว่านหางจระเข้อื่น ๆ อีกมากมาย ไปดูกันเลย
- โรคเกี่ยวกับฟันและเหงือก
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในทันตกรรมทั่วไปรายงานว่าว่านหางจระเข้ในเจลฟันนั้นมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาสีฟันที่ช่วยป้องกันฟันผุ
นักวิจัยได้เปรียบเทียบว่าสรรพคุณของเจลว่านหางจรเข้สามารถป้องกันเชื้อโรคสาเหตุของฟันผุ เทียบเท่ากับยาสีฟันยอดนิยม พวกเขาพบว่าเจลนั้นดีและในบางกรณีก็ดีกว่ายาสีฟันทางการค้าที่ควบคุมแบคทีเรียในช่องปากที่ทำให้เกิดช่องปาก
น้ำยางว่านหางจระเข้นั้นมีสารแอนทราควิโนนซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยรักษาและลดความเจ็บปวดผ่านฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติ
- สำหรับอาการท้องผูก
หน่วยงานกำกับดูแลด้านสมุนไพรของเยอรมนี Commission E ได้อนุญาตให้ใช้ ว่านหางจระเข้ในการรักษาอาการท้องผูก ปริมาณของน้ำยางว่านหางจระเข้ 50-200 มิลลิกรัม มักใช้ในรูปของเหลวหรือแคปซูลวันละครั้งนานสูงสุด 10 วัน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ตัดสินว่าในปี 2545 มีข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้ไม่เพียงพอ ดังนั้นในสหรัฐอเมริกาไม่สามารถขายเพื่อรักษาอาการท้องผูกได้
- แผลที่เท้าจากเบาหวาน
การศึกษาดำเนินการที่ Sinhgad College of Pharmacy ประเทศอินเดียและตีพิมพ์ใน International Wound Journal เพื่อดูความสามารถของว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลจากเบาหวาน
พวกเขารายงานว่า “เจลที่มี Carbopol 974p (1 เปอร์เซ็นต์) และ ว่านหางจระเข้ส่งเสริมการรักษาแผลและการปิดแผลที่สำคัญในเบาหวานเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และให้ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะใช้ในแผลที่เท้าจากเบาหวาน”
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสรและคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Las Palmas de Gran Canaria ประเทศสเปน ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสารโมเลกุล
จากการสำรวจเพื่อตรวจสอบว่าสารสกัดเมทานอลของผิวหนัง วุ้นใบว่านหางจระเข้นอกจากจะมีสรรพคุณรักษาแผลต่อต้านเชื้อแบคทีเรียแล้วยังช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นไปได้และ แบคทีเรียขนาดเล็กได้
ว่านหางจรเข้ส่วนที่เป็นวุ้นหรือสารสกัดจากว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระได้ดีและฤทธิ์การต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราของว่านหางจระเข้จึงมีผลในการช่วยมิให้บาดแผลติดเชื้อจนลามรุนแรงออกไปเรื่อยๆ
- การป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)
นักวิทยาศาสตร์ที่ Kyung Hee University Global Campus ประเทศเกาหลีใต้ได้ตรวจสอบว่าสารสกัดจากว่านหางจระเข้สำหรับทารกและสารสกัดจากว่านหางจระเข้สำหรับผู้ใหญ่อาจมีผลในการปกป้องผิวจากรังสี UVB กล่าวอีกนัยหนึ่ง ว่าว่านหางจรเข้สามารถปกป้องผิวจากการแก่ก่อนวัยจากแสงแดดได้
สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (BAE) มาจากยอดอายุ 1 เดือนในขณะที่สารสกัดจากว่านหางจระเข้สำหรับผู้ใหญ่มาจากยอดอายุ 4 เดือน
ในบทความที่ตีพิมพ์ในงานวิจัย Phytotherapy ผู้เขียนสรุปว่า: “ผลลัพธ์ของเราแนะนำว่า BAE อาจปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจาก UVB มากกว่า AE”
- การป้องกันความเสียหายผิวหลังการรักษาด้วยรังสี
การศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนเปิลส์ประเทศอิตาลีได้ทำการทดสอบครีมทา 5 ชนิดที่แตกต่างกันเพื่อดูว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยรังสี หนึ่งในครีมเหล่านี้มีส่วนผสมจากว่านหางจระเข้
พวกเขาแบ่งผู้ป่วย 100 คนออกเป็นห้ากลุ่มจาก 20 คน แต่ละคนถูกกำหนดให้รักษาเฉพาะที่แตกต่างกัน พวกเขาใช้ครีมวันละสองครั้งเริ่มต้น 15 วันก่อนการรักษาด้วยการฉายรังสีและดำเนินการเป็นเวลา 1 เดือนหลังจากนั้น
ในช่วงระยะเวลา 6 สัปดาห์ผู้เข้าร่วมได้รับการประเมินผิวประจำสัปดาห์
ในวารสาร Radiation Oncology นักวิทยาศาสตร์รายงานว่าการใช้ครีมบำรุงเฉพาะที่ช่วยลดอุบัติการณ์ของผลข้างเคียงทางผิวหนังในผู้หญิงที่ได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสีรักษามะเร็งเต้านม
” ครีมให้ความชุ่มชื้นทั้งหมดที่ใช้ในการศึกษานี้มีความถูกต้องเท่าเทียมกันในการรักษาความเสียหายของผิวที่เกิดจากรังสีบำบัด ”
- อาการซึมเศร้าการเรียนรู้และความจำ – การทดลองกับสัตว์
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในโภชนาการทางโภชนาการพบว่าว่านหางจระเข้ลดภาวะซึมเศร้าและความจำที่ดีขึ้นในหนู
หลังจากทำการทดลองกับหนูทดลองพวกเขาสรุปว่า: ” ว่านหางจระเข้ช่วยเพิ่มการเรียนรู้และความทรงจำและยังช่วยลดความซึมเศร้าในหนู ”
จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อกำหนดว่ามนุษย์อาจได้รับประโยชน์เหมือนกันหรือไม่
- แผลไหม้หรือบาดแผลระดับสอง
ทีมศัลยแพทย์พลาสติกเปรียบเทียบเจลว่านหางจระเข้กับครีมซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน 1 เปอร์เซ็นต์สำหรับการรักษาแผลไหม้ระดับที่สอง
จากรายงานในวารสารสมาคมการแพทย์แห่งประเทศปากีสถานว่าแผลไหม้ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย ว่านหางจรเข้จะหายเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่รักษาด้วย Silver Sulfadiazine (ซิลเวอร์ ซัลฟาไดอะซีน) ยาปฏิชีวนะในกลุ่มยาซัลฟา (SSD) ร้อยละ 1
- ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคไอบีเอส
มีการทดลองจากโรงเรียนแพทย์ของโรงพยาบาลเซนต์จอร์จ ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ พบว่าสรรพคุณของว่านหางจระเข้ช่วยขจัดอาการ IBS ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน International Journal of Clinical Practice
ทางด้านการวิจัย
หน่วยงานด้านสุขภาพทั่วโลกส่วนใหญ่กล่าวว่าผลประโยชน์การรักษาหลายสิบอย่างของว่านหางจระเข้นั้น ต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมกว่านี้
ตามศูนย์การแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ (NCCAM) ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติกล่าวว่าน้ำยางข้นของว่านหางจระเข้มีสารประกอบยาระบายที่แข็งแกร่ง
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ aloin, aloe-emodin และ barbaloin (ส่วนประกอบของว่านหางจระเข้) ถูกควบคุมโดยองค์การอาหารและยาว่าเป็นยาระบาย OTC ในปี 2545 องค์การอาหารและยากำหนดให้ยาระบาย OTC Aloe ทั้งหมดถูกลบออกจากตลาดหรือปรับโครงสร้างใหม่เนื่องจากขาดข้อมูลด้านความปลอดภัย
อย่างไรก็ตามการใช้ว่านหางจระเข้เฉพาะที่มีแนวโน้มว่าจะปลอดภัย ควรทดสอบก่อนใช้ (ทดสอบบนผิวหนังและรอผลภายใน 24 ชั่วโมง)
การศึกษาบางอย่างแสดงให้เห็นว่าเจลว่านหางจระเข้เฉพาะที่อาจช่วยในการสมานแผลถลอกและแผลไหม้ อย่างไรก็ตาม NCCAM เขียนว่า: ” ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะสนับสนุน Aloe vera สำหรับการใช้งานอื่น ๆ ของมัน ”
ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,700.00 | 26,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,730.00 | 26,226.80 | 27,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,557.00 | 23,604.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,384.00 | 20,981.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 779.00 | 11,809.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 606.00 | 9,186.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,793.00 | 27,181.88 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/11/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.85 | 21.85 | 21.95 | 21.85 | 21.95 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.58 | 21.58 | 21.68 | 21.58 | 21.68 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.34 | 20.34 | 20.44 | 20.34 | 20.44 | – | 20.34 | 20.34 | 20.34 | 20.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.99 | 17.99 | – | – | – | – | – | – | – | 17.99 |
เบนซิน 95 | 29.26 | – | – | – | 29.81 | – | 29.76 | 29.26 | – | 29.26 |
ดีเซล B7 | 22.89 | 22.89 | 22.99 | 22.89 | 22.99 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 |
ดีเซล | 19.89 | 19.89 | 19.99 | 19.89 | 19.99 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 |
ดีเซล B20 | 19.64 | 19.64 | 19.74 | 19.64 | 19.74 | – | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 27.34 | 27.36 | 29.44 | 28.74 | – | – | – | – | – | 27.34 |
แก๊ส NGV | 13.83 | 13.83 | – | – | – | – | – | – | – | 13.83 |