‘ เศรษฐา ‘ ตอบรับ เปิดประเทศ เชื่อไตรมาส 4 เศรษฐกิจฟื้น
บิ๊กแสนสิริ ‘ เศรษฐา ‘ เคาท์ดาวน์ เปิดประเทศภายใน 120 วัน เชื่อมั่นไตรมาส 4 เศรษฐกิจฟื้น เดินหน้าธุรกิจเต็มสูบ
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า จากการที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้า “เดิมพันเปิดประเทศภายใน 120 วัน ” นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจ เป็นการเดินหน้าระหว่างระบบสาธารณสุขไทยกับทิศทางเศรษฐกิจที่เดินหน้าไปพร้อมกันเป็นครั้งแรกและมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น การเร่งเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศจะเป็นสัญญาณที่กระตุ้นให้ภาคเอกชนรวมถึง SME ที่นับเป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศเริ่มมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น
สำหรับแสนสิริ เราเดินหน้า Speed to Market อยู่ตลอดเวลา มีแผนพร้อมรับการกลับมาเปิดประเทศ และการฟื้นตัวของเมืองท่องเที่ยวทั้งหัวหิน พัทยา ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย เต็มสปีด เรามีที่ดินพร้อมแผนเปิดตัวโครงการ รอแค่การเปิดประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง เราก็จะออกวิ่งได้ก่อน
นอกจากนี้ แสนสิริยังมองแง่บวกถึงทิศทางข้างหน้า และต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาด ก่อนเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร ทั้งนี้จากการที่แสนสิริแข็งแกร่งด้วย Cash flow Strategy จากการบริหารจัดการสต็อคที่อยู่อาศัยที่ดี ทำให้บริษัทมีสต็อกบ้านเดี่ยวเพียงพอ
ซึ่งหากสถานการณ์กลับมาฟื้นตัวแสนสิริจะมีที่อยู่อาศัยที่พร้อมรองรับความต้องการจากลูกค้าได้มากที่สุด แสนสิริยังมียอดรอรับรู้รายได้ (Presale Backlog รวมโครงการร่วมทุน) รองรับการเติบโตระยะยาวในอีก 3 ปี อีกถึง 28,000 ล้านบาท โดยเป็น Backlog และยอดรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ Secure เป้ารายได้ ในปีนี้ไปแล้วถึง 77% เหลือที่ต้องทำอีกเพียง 23% ในครึ่งปีหลัง ก็จะทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้
พร้อมยังมีสภาพคล่องในมือีกกว่า 15,000 ล้านบาท ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน ที่เปรียบเหมือนภูมิคุ้มกันอย่างดีที่ช่วยให้แสนสิริหล่อเลี้ยงธุรกิจโดยไม่สะดุดในทุกสถานการณ์
“ผมเชื่อว่า เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4 รวมถึงเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยวที่จะเริ่มฟื้นตัว นี่ไม่ใช่แค่ความหวังแต่คือความจริง ต่างชาติจะกลับมา ภาคเอกชนในธุรกิจต่างๆ จะเร่งพลิกฟื้นธุรกิจภายหลังจากที่ประเทศต้องฝ่าวิกฤตโควิด–19 มามากกว่า 1 ปี ”
ขณะที่ศักยภาพเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป จะพร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ ให้กลับมาคึกคักและสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งอีกครั้ง ทั้งนี้จากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิริและความเชื่อมั่นของลูกค้า บริษัทได้วางเป้าหมายยอดขายและยอดโอนไว้ที่ 31,000 ล้านบาท จากการเปิดตัว 24 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาทในปีนี้ รวมทั้งจากสัญญาณที่ดีของการเปิดประเทศภายใน 120 วัน
แสนสิริยังได้เล็งปรับแผนธุรกิจ พร้อมเป้าหมายยอดขาย และยอดโอนใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะประกาศให้ทราบต่อไป สำหรับผลการดำเนินงานของแสนสิริ คาดว่ายอดโอนครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 16,500 – 17,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 50% ของเป้าหมาย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำได้ตามเป้าหรือดีกว่าเป้าที่วางไว้ หากมีการเปิดประเทศจริงและนักท่องเที่ยวกลับมาได้ จากความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ ที่มองว่าเมืองไทยปลอดภัย มีระบบสาธารณสุขที่ดี และมีแนวโน้มความต้องการซื้อคอนโดเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือเป็น Safe Heaven เพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 3 บริษัทวางแผนเปิด 9 โครงการใหม่ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 7 โครงการ นอกจากนี้ไตรมาส 4 บริษัทวางแผนเปิดตัวอีก 11 โครงการใหม่ เป็นโครงการแนวราบ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ กระจายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ รวมถึงการโอนคอนโดมิเนียม EDGE เซ็นทรัล – พัทยา เป็นต้น
ทั้งนี้ แสนสิริได้เตรียมพร้อมรับดีมานด์ที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นจากการเปิดประเทศ โดยนำร่องเปิดตัว THE MUVE ราม22 และบางนา พร้อมการขายในตลาดต่างชาติเมื่อเปิดประเทศในไตรมาส 4 โดยเชื่อว่าการเปิดตัว 5 คอนดิเนียมใหม่ในไตรมาส 4 ที่วางแผนเปิดตัว รวมทั้ง EDGE เซ็นทรัล-พัทยาที่กำลังจะโอน จะได้รับความสนใจจากต่างชาติอย่างมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตลาดสำนักงาน-โรงแรม กรุงเทพฯ ผวา หลังอัตราเช่า เข้าพัก 3 เดือนแรกตกต่ำ
ซีบีอาร์อี สรุปภาพรวมตลาดอาคารสำนักงาน -โรงแรมในกรุงเทพฯ ไตรมาส 1 ปี 2564 พบยังท้าทายสุด Work From Home บีบลดพื้นที่เช่า เขย่าซัพพลายรวม 9 ล้านตร.ม. ขณะนักท่องเที่ยววูบ โรงแรมเหลืออัตราเข้าพักไม่ถึง 20%
17 มิถุนายน 2564 – หลังจากผ่านไปหนึ่งปีเต็มภายใต้แรงกดดันทางการเงินที่เกิดจากโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก พบว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครต้องเผชิญกับภาวะซัพพลายที่กลับเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากการลดพื้นที่ของผู้เช่า ส่วนตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก
ตลาดอาคารสำนักงาน
ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากผู้เช่าพิจารณาใช้พื้นที่ลดลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีการใช้นโยบายให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน
แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ปริมาณพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ในไตรมาสแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 25,000 ตารางเมตร เป็น 9.26 ล้านตารางเมตร จากอาคารดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ (WHA Tower) ในย่านบางนา – ตราด โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งในอาคารเป็นการใช้พื้นที่ของเจ้าของอาคารเอง ซึ่งทำให้ซัพพลายในย่านนี้คิดเป็นเพิ่ม 13% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา และในย่านดังกล่าวมีอัตราการใช้พื้นที่สำนักงานโดยรวมอยู่ที่ 80.4% ณ ไตรมาส 1 ปี 2564
ในด้านการใช้พื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้นใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2564 นั้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ถึงแม้ว่าจะมีความต้องการใหม่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจที่มีการขยายตัว แต่ตัวเลขโดยรวมนั้นติดลบ 23,521 ตารางเมตร ซึ่งป็นผลมาจากการที่ผู้เช่าบางรายในอาคารสำนักงานเกรดบีในย่านใจกลางธุรกิจย้ายสำนักงานไปยังทำเลนอกใจกลางย่านธุรกิจ ที่มีค่าเช่าต่ำกว่าและลดขนาดพื้นที่ไปในตัว
อย่างไรก็ตาม ตลาดอาคารสำนักงานเกรดเอที่อยู่นอกใจกลางย่านธุรกิจยังคงแข็งแกร่งโดยเป็นตลาดย่อยเพียงตลาดเดียวที่มีการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่โดยเฉลี่ยทั้งตลาดลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 90.1% จาก 90.6% ในไตรมาสก่อนหน้า
“ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่สำนักงานใหม่ กว่า 1.3 ล้านตารางเมตรที่จะแล้วเสร็จในกรุงเทพฯ ขณะที่ย้อนดูอดีตที่ผ่านมา ต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปีตั้งแต่ช่วงปี 2553 ถึง 2563 ที่พื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้น 1 ล้านตารางเมตร ซึ่งซัพพลายใหม่ดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันทั้งในด้านอัตราการใช้พื้นที่และอัตราค่าเช่าในตลาดสำนักงานของกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ซีบีอาร์อียังคาดการณ์ว่าอัตราค่าเช่าในตลาดอาคารสำนักงานโดยรวมอาจจะไม่มีการเติบโต ยกเว้นอาคารสำนักงานเกรดเอรุ่นใหม่ที่มีอัตราการใช้พื้นที่มากกว่า 90% ที่ค่าเช่ายังคงเติบโตได้อยู่” นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าว
ตลาดโรงแรม
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในไตรมาสแรก ปี 2564 มีเพียง 20,172 คน ต่ำกว่าในไตรมาส 1 ปี 2563 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 6.7 ล้านคนอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากปี 2563 ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ก่อนเกิดโควิด ต่างจากในปี 2564 นี้ ปีนี้จึงถือเป็นอีกปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับตลาดโรงแรมทั่วประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้ลดการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 3 ล้านคน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 5.5 ล้านคน
“ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีน้อยมาก อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยของโรงแรมในกรุงเทพฯ ลดลงเหลือ 19.9% ในไตรมาส 1 ปี 2564 จาก 54.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 22.1% ในเดือนมีนาคม 2564 นอกจากนี้ รายได้เฉลี่ยต่อวันจากห้องพักที่ขายได้ (ADR) ในกรุงเทพฯ ก็ลดลงจาก 3,209 บาทในไตรมาส 1 ปี 2563 เป็น 2,106 บาท เนื่องจากโรงแรมมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าในประเทศและมีการเสนอโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงอัตราการเข้าพักให้กลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่เริ่มในเดือนเมษายน 2564 นั้นจะส่งผลให้ผลประกอบการของโรงแรมในกรุงเทพฯ ในไตรมาสที่ 2 อยู่ในระดับต่ำ” นายอรรถกวี ชูแสง หัวหน้าแผนกธุรกิจโรงแรม ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าว
ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงมีอยู่ โรงแรมใหม่หลายแห่งจึงตัดสินใจที่จะชะลอแผนการเปิดตัวออกไป โดยในไตรมาส 1 ปี 2564 มีโรงแรมใหม่เพียงแห่งเดียวที่เปิดให้บริการ ซึ่งทำให้จำนวนห้องพักของโรงแรมในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 141 ห้อง มาเป็น 51,239 ห้องโดยรวม
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ลงทะเบียนกว่า 26 ล้านคน
คนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ลงทะเบียนกว่า 26 ล้านคน เหลืออีก 4 ล้านสิทธิเท่านั้น
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการลงทะเบียนรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ของประชาชนว่า จากการเปิดลงทะเบียน 3 วันแรก มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 26.6 ล้านคน ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้อย่างต่อเนื่องทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. จนกว่าจะครบ 31 ล้านคน โดยผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com และสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการของรัฐเลยสามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com
การลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ประกอบการร้านค้าใหม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 57,944 ราย และร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และ 2 ที่คาดว่าจะยืนยันเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน 1.2 ล้านราย จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ เวลา 06.00 น. – 22.00 น. โดยผู้ที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว สามารถกดปุ่มเข้าร่วมโครงการได้ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ข้อมูลการลงทะเบียนของประชาชนล่าสุด ณ เวลา 14.00 น. ของวันนี้ มีประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า 26.8 ล้านคน เหลือให้จองอีกประมาณ 4 ล้านสิทธิ ก็จะเต็มสิทธิที่กำหนดไว้ไม่เกิน 31 ล้านสิทธิ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เปิดโปรแกรม 3 นัดสุดท้าย วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ศึกเนชันส์ลีก 2021
ห้ามพลาด เปิดโปรแกรม 3 นัดสุดท้ายของ วอลเลย์บอลหญิงไทย ในศึกลูกยางเนชันส์ ลีก 2021
ไทย พบ เบลเยียม เวลา 18.00 น.
ไทย พบ แคนาดา เวลา 20.00 น.
วันที่ 20 มิถุนายน 2564
ไทย พบ อิตาลี เวลา 18.00 น.
ปลื้มจิตร์ ถินขาว กล่าวถึงเป้าหมายในสัปดาห์สุดท้ายว่า “สัปดาห์สุดท้ายเนี่ย เรามีเท่าไหร่เราไม่ต้องเก็บแรงแล้ว เราใส่เต็มที่ไปเลยเพราะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของพวกเรา จะพยายามเก็บเซตเก็บแต้มให้ได้เยอะๆ จะพยายามสู้เต็มที่ค่ะ”
แฟนๆ วอลเลย์บอลชาวไทยสามารถติดตามถ่ายทอดสดการแข่งขันของ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้ทาง ช่อง 33 HD.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
โรคกินไม่หยุด คืออะไร? อาการ สาเหตุ การรักษา เมื่อไหร่ที่ควรหาหมอ
ทำความรู้จัก โรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder สังเกตอาการ ทำความเข้าใจสาเหตุ และแนวทางการรักษา
วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักร้องชื่อดัง “ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช” เผยว่าตัวเองกำลังมีอาการป่วยจากภาวะไม่สามารถหยุดการกินได้ (Binge Eating Disorder) ซึ่งทำให้ไม่สามารถควบคุมการกินของตัวเองได้ กลายเป็นคนที่ต้องกินตลอดเวลา กระทั่งถูกทักเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ต้องทำทีบอกคนอื่นว่ากำลังลดน้ำหนัก แต่พอไม่มีใครเห็นจะกลับไปกินเยอะมาก สุดท้ายสะสมความรู้สึกผิดจนเกิดภาวะความเศร้า และตรวจพบไขมันชนิดไม่ดีในเส้นเลือด รวมถึงมีไขมักพอกตับ
สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าตัวเองกำลังมีอาการเช่นเดียวกับ “ไอซ์ ศรัณยู” หรือไม่ “ประชาชาติธุรกิจ” รวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาวะการกินผิดปกติดังกล่าวมาฝากกัน
โรคกินไม่หยุดคืออะไร?
ข้อมูลจากเว็บไซต์ พบแพทย์ ระบุว่า Binge Eating Disorder (BED) หรือโรคกินไม่หยุด เป็นชื่อที่ใช้เรียกโรคที่มีอาการรับประทานอาหารมากผิดปกติ โดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะรับประทานอาหารในปริมาณมากแม้ไม่รู้สึกหิว โดยจะรับประทานจนอิ่มแน่นท้อง จนไม่สามารถรับประทานอาหารต่อได้ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วจะรู้สึกรังเกียจหรือโกรธตัวเอง
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ แต่คาดว่าเกิดจากหลายปัจจัย และโรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกช่วงวัย ที่พบบ่อยสุด คือ วัยรุ่นตอนปลายหรือช่วงอายุ 20 ตอนต้น ซึ่งการรักษาและการบำบัดจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคขึ้น ทั้งนี้ การรับประทานอาหารปริมาณมากเกินความพอดีอยู่บ่อยครั้งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้ป่วยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
อาการของโรคกินไม่หยุด
รับประทานอาหารมากกว่าปกติ โดยไม่สามารถควบคุมตนเองให้หยุดรับประทานได้ แม้จะอิ่มหรือไม่รู้สึกหิวแล้ว
สามารถรับประทานอาหารปริมาณมาก ๆ อย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่นาน
ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมที่จะลดความอ้วนอย่างแท้จริง
อาจออกกำลังกายอย่างหนัก ใช้ยาระบาย หรือล้วงคออ้วก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักเป็นอาการของโรคคลั่งผอม (Anorexia) และโรคล้วงคอ (Bulimia)
อาจจะมีพฤติกรรมที่กักตุนอาหารไว้ในที่ต่าง ๆ ใกล้ตัว
สาเหตุ
ในปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ แต่คาดว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคกินไม่หยุด เช่น
เป็นโรคอ้วน โดยผู้ที่มีอาการของโรคกินไม่หยุดกว่าครึ่งหนึ่งมักมีโรคอ้วนเป็นโรคประจำตัว
จากการศึกษาพบว่าโรคนี้พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย แต่เพศชายก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดได้เช่นกัน
มีพฤติกรรมการใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกฮอล์เป็นประจำ
ขาดความมั่นใจในรูปร่าง และมีความพึ่งพอใจในรูปร่างของตนเองต่ำ
เคยมีประวัติเสพติดการลดน้ำหนัก เครียดกับการลดน้ำหนัก หรือเคยล้มเหลวในการลดน้ำหนัก
เคยผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจ อย่างการสูญเสียครอบครัว เคยประสบอุบัติเหตุ หรือถูกทำร้าย
คนในครอบครัวมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับโรคการกินผิดปกติ
มีภาวะทางจิต อย่างภาวะซึมเศร้า โรคเครียด โรคไบโพลาร์ โรคกลัว (Phobias) และภาวะป่วยทางจิตหลังเหตุการณ์รุนแรง (Post-traumatic Stress Disorder)
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการรับประทานอาหารมากผิดปกติ เชื่อกันว่าเกิดจากภาวะไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง อย่างเลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความหิวที่หลั่งออกมามากผิดปกติ จนส่งผลให้ร่างกายมีความอยากอาหาร นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่าความรู้สึกเครียด โกรธ เศร้า เบื่อหน่าย หรือความรู้สึกด้านลบก็สามารถกระตุ้นการหลั่งของสารเหล่านี้ได้
เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Club of Thai Health ระบุว่า โรคกินไม่หยุดส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายของผู้ป่วย ผู้ที่รู้สึกว่ามีปัญหากินมากเกินไปควรพบแพทย์ถึงแม้ว่าน้ำหนักจะอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ตาม
แพทย์อาจทำการเช็คโรคอื่น ๆ ให้ด้วย เช่น โรคหัวใจ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เพราะโรคเหล่านี้สามารถทำให้เกิดโรคกินไม่หยุดได้
ผู้ป่วยมักจะรู้สึกลำบากใจที่จะบอกคนอื่นว่าพวกเขาเป็นโรคกินไม่หยุด รวมไปถึงหมอด้วย อย่างไรก็ตาม การรักษาจะช่วยทั้งการควบคุมการกินไม่ได้และปัญหาทางอารมณ์ที่ซ่อนอยู่
ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกอับอายและแยกตัวออกจากคนอื่น การหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่ เช่น โรควิตกกังวล และซึมเศร้า สามรถช่วยแก้ปัญหาได้
การรักษา
โรคกินไม่หยุดจัดว่าเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งแพทย์อาจสั่งจ่ายยาต้านเศร้าหรือยากันชัก ที่มักใช้รักษาโรคทางจิตชนิดอื่น ๆ เพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองและป้องกันอาการของโรค การใช้ยาเพื่อรักษาโรค BED นั้นค่อนข้างให้ผลรวดเร็วและได้ผลที่ชัดเจนกว่าการรักษาแบบอื่น แต่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
จิตบำบัดเป็นการสร้างการรับรู้และเข้าใจในอาการของโรค จุดประสงค์หลักเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ด้านลบที่ส่งผลให้เกิดอาการของโรคได้ โดยจิตบำบัดที่ใช้รักษาโรคกินไม่หยุดแบ่งได้ 3 แบบ ดังนี้
Cognitive Behavioral Therapy (CBT) เป็นการบำบัดที่จะสอนให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุของอารมณ์และพฤติกรรมด้านลบที่ทำให้เกิดอาการ รวมทั้งเรียนรู้วิธีควบคุมที่จะช่วยลดความรุนแรงของความรู้สึกและพฤติกรรม
Interpersonal Psychotherapy (IPT) เป็นการบำบัดที่ช่วยรักษาอาการที่มีสาเหตุมาจากปัญหาความสัมพันธ์ของผู้ป่วยกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว อย่างความรุนแรง การหย่าร้าง หรือการเสียชีวิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้ป่วยและทำให้เกิดโรคกินไม่หยุด โดยจิตบำบัดแบบ IPT จะช่วยให้คนไข้สามารถแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนมุมมองต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ได้
Dialectical Behavior Therapy (DBT) เป็นการบำบัดที่สร้าง 4 ทักษะ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคนี้ คือ การตระหนักรู้ในสาเหตุและอาการ ความอดทนต่อความรู้สึกด้านลบ การจัดการอารมณ์ และการพัฒนามนุษยสัมพันธ์
แพทย์และนักโภชนาการจะให้ความรู้เกี่ยวกับการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง ทั้งปริมาณ สารอาหาร และการออกกำลังกาย ซึ่งการลดน้ำหนักไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันกลับไปมีอาการของโรคซ้ำแล้ว ยังอาจช่วยให้คนไข้มีรูปร่างที่ดีขึ้นและมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองมากขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น อย่างการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังอย่างเหมาะสม และระบายความเครียดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างถูกวิธี
ปัญหาสุขภาพกาย เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคกรดไหลย้อน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง เป็นต้น
ปัญหาสุขภาพจิต อาการของโรคอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก ไม่อยากเข้าสังคม ซึ่งเมื่ออารมณ์เหล่านี้รุนแรงขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงในการใช้สารเสพติดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงภาวะทางจิตชนิดอื่น ๆ อย่างภาวะซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคไบโพลาร์
ปัญหาในชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหารทีละมาก ๆ อาจส่งผลต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจในตนเอง รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์กันคนรอบข้าง
การป้องกัน
แพทย์ยังไม่มีวิธีป้องกันที่แน่นอน แต่สามารถลดความเสี่ยงของโรคด้วยการรักษาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของ BED และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดหรือความรู้สึกด้านลบอื่น ๆ
เข้ารับการบำบัดเพื่อเรียนรู้การจัดกับอารมณ์
ปรึกษาแพทย์เมื่อเกิดสัญญาณของโรค
แม้จะเป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็ยังมีวิธีป้องกันและการรักษาที่เหมาะสม
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
ทิป 5 ข้อ สำหรับผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
คุณกำลังสนใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อยู่หรือเปล่า และนี่คือ…
เคล็ดลับ 5 ข้อ ของผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ได้สำเร็จ
ทำตามแบบแผน
ฝึกฝน
ขอคำแนะนำ
เลือกคอร์สเรียนที่ผ่านการพิสูจน์ผลลัพธ์มาแล้ว
มีแรงผลักดันอยู่เสมอ
1.ทำตามแบบแผน
การมีแบบแผนที่สามารแสดงให้เห็นว่าเรากำลังเรียนอะไร และเรียนเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการที่จะเรียนให้ประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะทำให้เรารู้ว่าเรากำลังเรียนอย่างถูกต้องหรือไม่ ยังทำให้เรารู้ด้วยว่าต้องโฟกัสกับอะไรในการเรียนภาษาอังกฤษ
ฝึกฝน
การฝึกฝนให้คล่องแคล่วนั้นเป็นส่วนที่สำคัญมากในการเรียนภาษาอังกฤษ
การฝึกอย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น นั่นหมายความว่าเราต้องตามทำแบบแผนที่ตั้งไว้ และหมั่นฝึกฝนในสิ่งที่เรามีความมั่นใจอยู่แล้ว รวมถึงสิ่งที่เราอยากจะพัฒนา
นอกเหนือจากการเรียนในหนังสือแล้ว เราควรใช้เวลาฝึกฝนให้เพียงพอเช่นกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ถามความเห็น และขอคำแนะนำจากผู้อื่น
เราควรหมั่นถามความคิดเห็นที่จะทำให้เราพัฒนาขึ้นอยู่เสมอ และไม่อายที่จะขอคำแนะนำเมื่อต้องการ
การได้รับความเห็นที่มีประสิทธิภาพนั้นจะช่วยให้เราทราบว่ามีสิ่งไหนที่เราทำได้ดี และสิ่งไหนที่เราควรพัฒนาเพิ่มอีก
การที่เราเห็นภาพตัวเองชัดเจนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เรารู้ว่าต้องเน้นพัฒนาในจุดไหน เพื่อที่จะเรียนให้ประสบความสำเร็จ
เลือกคอร์สเรียนที่ผ่านการพิสูจน์ผลลัพธ์มาแล้ว
การเรียนภาษาอังกฤษนั้นมีมากมายหลายวิธี และบางครั้งอาจจะทำให้เราสับสนว่าเราควรเลือกแบบไหน
สิ่งที่เราทำได้คือการเลือกคอร์สเรียนที่มีการผสมผสานหลากหลายวิธี ในขณะที่มีการเรียนแบบเป็นระบบ
ที่สำคัญคือเนื้อหาที่เรียนควรมีลำดับที่เหมาะสม และมีแบบแผนที่ดี เพื่อให้เราได้เรียนในสิ่งที่เราควรจะเรียนในเวลาที่เหมาะสม สามารถฝึกฝนเพื่อนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถบันทึกความก้าวหน้าของการเรียนได้
มีแรงผลักดันอยู่เสมอ
การมีแรงจูงใจในการเรียน และการพยายามบรรลุเป้าหมายนั้น เป็นส่วนหลักๆในการเรียนภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จ
เวลาที่เรามีแรงผลักดัน เราจะมีความกระตือรือร้นในการเรียน
เราจะหมั่นหาเวลาในการฝึกฝน และมีความพยายามมากกว่าปกติ
สิ่งที่จะช่วยให้เรามีแรงผลักดันอยู่เสมอๆ คือการจินตนาการตนเองในวันที่ประสบความสำเร็จแล้ว และเรารู้สึกอย่างไรที่ทำสำเร็จ
เมื่อเราสร้างความรู้สึกในเชิงบวกได้แล้วนั้น เราก็จะมีแรงผลักดันในการเรียนอย่างที่เราต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ฮอนด้า – เวสป้า เอาใจสายคลาสสิกส่งรุ่นใหม่ – สีใหม่ เขย่าตลาด 2 ล้อ
สายคลาสสิกต้องมี!CUB House by Honda เปิดตัว Monkey 70’s Ride Edition รถ Custom รุ่นใหม่ล่าสุด ด้านค่าย “เวสป้า” ก็ฉลอง 75 ปีส่งสกู๊ตเตอร์ตระกูลจีทีเอส (GTS) 3 เฉดสีใหม่ลุยตลาด
สำรวจตลาด 2 ล้อในครึ่งปีหลัง เริ่มกันที่ค่ายฮอนด้า โดย CUB House ก็เปิดตัว Monkey 70’s Ride Edition ที่ถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “ย้อนวัย… ไปให้ซน” ถ่ายทอดความคลาสสิกจากรุ่นพี่ที่เป็นตำนานอย่างSuper Four ด้วยลวดลายสุดเก๋าของ Boomerang Stripe 3 สีใหม่ ดำ แดง น้ำเงิน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากยุค 70’s
สำหรับ Monkey 70’s Ride Edition มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 125 ซีซี เกียร์ 5 สปีด วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยราคาแนะนำ 99,700 บาท โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัสรถได้ที่โชว์รูม CUB House ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ฮอนด้า – เวสป้า เอาใจสายคลาสสิกส่งรุ่นใหม่ – สีใหม่ เขย่าตลาด 2 ล้อ
ด้านขาใหญ่รถสกู๊ตเตอร์คลาสสิก อย่างเวสป้า ยังคงเฉลิมฉลอง 75 ปี ล่าสุดส่ง 3 เฉดสีใหม่จากสกู๊ตเตอร์เฟรมใหญ่ตระกูลจีทีเอส (GTS) หนึ่งในรุ่นยอดนิยมตลอดกาล ด้วย 3 รุ่น 3 สไตล์ กับ
VESPA GTS SUPER 150 i-Get ABS สีเขียวมิ้นท์ Green Relax,
VESPA GTS SUPER SPORT 300 HPE สีเทาเข้ม Grey Materia
VESPA GTS SUPER TECH 300 HPE สีเทา Grey Delicato
เวสป้า ฉลอง 75 ปี ส่ง 3 เฉดสีใหม่ตระกูลจีทีเอส (GTS)
สำหรับไฮไลท์ของทั้ง 3 รุ่น มีดังนี้
VESPA GTS SUPER 150 i-Get ABS สีเขียวมิ้นท์ Green Relax ถือเป็นครั้งแรกกับการนำเอาเฉดสีสันสดใส มาไว้บนเวสป้าตระกูลจีทีเอส โดยสีเขียวมิ้นท์ Green Relax นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของมิ้นท์ไซรัปและนม หรือรู้จักกันในอิตาลีว่า “latte e menta” สำหรับสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ราคา 157,900 บาท
VESPA GTS SUPER 150 i-Get ABS สีเขียวมิ้นท์ Green Relax
VESPA GTS SUPER SPORT 300 HPE สีเทาเข้ม Grey Materia มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ HPE (High Performance Engine) สีเทาเข้ม Grey Materia ยังสะท้อนถึงสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณแห่งความมั่นคงและแข็งแกร่ง สปอร์ตอีกขั้นด้วยดีไซน์ลายกราฟิกสีแดงด้านข้างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 2021 สอดรับกับบังแตรในเฉดสีเดียวกัน สำหรับสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ราคา 215,900 บาท
VESPA GTS SUPER SPORT 300 HPE สีเทาเข้ม Grey Materia
VESPA GTS SUPER TECH 300 HPE ดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิก โดดเด่นด้วยสีเทา Grey Delicato เฉดสีที่จะตอกย้ำถึงความสง่างามและความทันสมัย มาพร้อมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ HPE (High Performance Engine) ขนาด 300 ซีซี อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีจากทางเวสป้าที่รวมฟีเจอร์เด็ดมาไว้บนสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ อาทิ
จอแสดงผลแบบ TFT (Full-Colour TFT Display) ขนาด 4.3 นิ้ว
เรือนไมล์ดิจิตอล มาตรวัดและการแสดงผลความเร็ว ระยะทางขับขี่รวมและระยะทางขับขี่ที่ตั้งไว้ อุณหภูมิแวดล้อม และระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
ระบบอัจฉริยะ VESPA MIA เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถเวสป้าคันนี้ได้ผ่านบลูทูธ
ระบบนำทางเนวิเกชั่นในตัว
สำหรับสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ราคา 234,900 บาท
VESPA GTS SUPER TECH 300 HPE
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ผักกาดเขียว
ชื่อไทย: ผักกาดเขียว
ชื่ออังกฤษ: Mustard Greens
ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica juncea
ผักกาดเขียวหรือผักกาดเขียวปลีที่นิยมปลูกในไทยมีหลายแบบ ทั้งแบบที่มีปลีขนาดใหญ่ มีกลิ่นฉุนน้อย สามารถนำมากินสดได้ และแบบที่มีขนาดเล็ก สีเข้มกว่า มีกลิ่นฉุนและเผ็ดซ่า เหมาะสำหรับการนำมาทำผักกาดดอง ผักกาดเขียวทั้งสองแบบปลูกในไทยมาตั้งแต่อดีตจนคุ้นตา แต่แท้จริงแล้วเป็นพืชพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากแถบเอเชียกลาง จนแพร่หลายมายังจีนและมีการปลูกทั่วโลกในปัจจุบัน
ผักกาดเขียวมีเบต้าแคโรทีนอยู่มาก เมื่อกินแล้วจะได้วิตามินเอซึ่งช่วยบำรุงให้ดวงตามีสุขภาพดี ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน โรคตาฟาง และต้อตาในผู้สูงอายุ มีวิตามินซีที่ช่วยให้เหงือกแข็งแรง ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ผักกาดเขียวที่แก่แล้วจะมีกลิ่นฉุนและมีรสเผ็ดร้อน ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารและบำรุงธาตุลมในร่างกาย รวมถึงมีเส้นใยที่มีประโยชน์ต่อการขับถ่ายอีกด้วย
การเลือกซื้อ
เลือกผักกาดเขียวที่มีลำต้นอวบ ใบสีเขียวสด ไม่เหี่ยวและไม่เป็นสีเหลือง ก้านติดแน่นกับต้น สังเกตบริเวณรอยตัดที่โคนต้นให้มีผิวบาง ไม่มีจุดสีขาวรอบรอยตัดที่เห็นชัดเจน จะได้ผักกาดเขียวที่อายุเหมาะสมกับการกินสดหรือนำมาปรุงอาหาร ผักกาดเขียวที่แก่เกินไปจะมีรสฉุน กลิ่นฉุน ไม่เหมาะกับการนำมาประกอบอาหาร
วิธีล้าง
หากนำมาปรุงอาหารหรือทานสดให้เด็ดผักกาดเขียวเป็นใบๆ ก่อนล้างด้วยน้ำสะอาด แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาราว 20 นาที แล้วจึงล้างให้สะอาดอีกครั้งด้วยการเปิดน้ำไหลผ่าน 1-2 นาที ใช้มือลูบเบาๆ เพื่อกำจัดคราบดินและสิ่งสกปรก ส่วนหากจะนำไปทำผักกาดดองให้ล้างแบบเดียวกันแต่ไม่ต้องเด็ดเป็นใบ
วิธีกิน-วิธีปรุง
กลิ่นฉุนแรงของผักกาดเขียวทำให้ไม่ค่อยนิยมนำมากินสดหรือปรุงอาหารมากนัก ยกเว้นกับผักกาดเขียวพันธุ์ท้องถิ่นบางชนิดที่นิยมนำมากินเป็นผักแนมลาบเพราะให้รสเผ็ดร้อนเข้ากันได้ดี ส่วนใหญ่ผักกาดเขียวปลีมักถูกนำไปแปรรูปเป็นผักกาดดอง ทั้งแบบดองเปรี้ยวและดองเค็ม แล้วค่อยนำมาปรุงอาหารเป็นเมนูต้มผักกาดดองกระดูกหมู ผัดผักกาดดองใส่ไข่ หรือกินเป็นผักแนมคู่กับขนมจีนก็ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีอย่างโปรไบโอติกส์ที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง
ขอบคุณข้อมูลจาก veggiepedia.greenery.org
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/06/2564
ชนิดทอง
ราคารับซื้อ กรัมละ
ราคารับซื้อ บาทละ
ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%
n/a
26,450.00
26,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%
1,713.00
25,969.08
27,050.00
ทองรูปพรรณ 90%
1,541.70
23,372.17
n/a
ทองรูปพรรณ 80%
1,370.40
20,775.26
n/a
ทองรูปพรรณ 50%
771.00
11,688.36
n/a
ทองรูปพรรณ 40%
600.00
9,096.00
n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%
1,775.00
26,909.00
n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/06/2564
ปตท.
บางจาก
เชลล์
เอสโซ่
คาลเท็กซ์
ไออาร์พีซี
พีที
ซัสโก้
เพียว
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95
28.25
28.25
28.55
28.25
28.25
28.25
28.25
28.25
28.25
28.25
แก๊สโซฮอล์ 91
27.98
27.98
28.28
27.98
27.98
27.98
27.98
27.98
27.98
27.98
แก๊สโซฮอล์ E20
26.74
26.74
27.04
26.74
26.74
–
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล์ E85
22.14
22.14
–
–
–
–
–
–
–
22.14
เบนซิน 95
35.66
–
–
–
36.11
–
36.16
35.66
–
35.66
ดีเซล B7
28.59
28.59
28.89
28.59
28.59
28.59
28.59
28.59
28.59
28.59
ดีเซล
25.59
25.59
25.89
25.59
25.59
25.59
25.59
25.59
25.59
25.59
ดีเซล B20
25.34
25.34
25.84
–
25.34
–
25.34
25.34
–
25.34
ดีเซลพรีเมี่ยม
33.36
33.36
35.34
34.76
–
–
–
–
–
33.36
แก๊ส NGV
13.99
13.99
–
–
–
–
–
–
–
13.99