สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2563

“กรมที่ดิน” ประกาศความสำเร็จ ออกโฉนดทั่วไทย

“กรมที่ดิน” ประกาศความสำเร็จ ” ออกโฉนด ” ปี63 “โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563”  ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อประชาชน

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน   รายงานผลการดำเนินงาน  “โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563” โดยในปี 2563 กรมที่ดินได้รับการจัดสรรงบประมาณให้มาดำเนินงานเกี่ยวกับการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จำนวน 2 โครงการ ดังนี้

#โครงการแรก คือ โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) จากมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560 ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 และครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 มติที่ประชุมเห็นชอบให้กรมที่ดินดำเนินการตามแผนปฏิบัติการโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561-2564 เพื่อออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ตำบลท่าน้ำ อำเภอปะนาเระ อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และอำเภอบาเจาะ ยี่งอ สุไหงปาดี รือเสาะ ระแงะ เจาะไอร้อง สุคิริน จังหวัดนราธิวาส

เพื่อให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และนโยบายรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยและความสงบสุขของประเทศ กรมที่ดิน จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง ระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561-2564 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเดินสำรวจฯ จำนวน 3 ศูนย์ 30 สายสำรวจ เป้าหมาย 15,000 แปลง

#โครงการที่สอง คือ โครงการเดินสำรวจรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินและเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินด้วยระบบ RTK GNSS Network ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จากนโยบายคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้อย่างจริงจัง โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกบุกรุก

กระทรวงมหาดไทยโดยกรมที่ดิน ได้ตอบสนองนโยบายดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเดินสำรวจรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินและเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ด้วยระบบ RTK GNSS Network ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพื่อดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดิน ตามมาตรา 58, 58 ทวิ และมาตรา 69 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และลดข้อโต้แย้งพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน กำหนดดำเนินการสำรวจรังวัดในพื้นที่ 25 จังหวัด จำนวน 12 ศูนย์ 125 สายสำรวจ เป้าหมาย 70,000 แปลง ได้แก่

#ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก

#ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา นครพนม มุกดาหาร

#ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ พังงา ตรัง สงขลา นครศรีธรรมราช

#ผลดำเนินการ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 พบว่า

โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) เป้าหมาย 15,000 แปลง ดำเนินการแล้ว 15,227 แปลง คิดเป็นร้อยละ 101.31

โครงการเดินสำรวจรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินและเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินด้วยระบบ RTK GNSS Network ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เป้าหมาย 70,000 แปลง ดำเนินการแล้ว 73,029 แปลง คิดเป็นร้อยละ 104.33

กรมที่ดิน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนได้รับการยอมรับสิทธิการถือครอง สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดิน สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เกิดแรงจูงใจที่จะพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตสร้างรายได้ เป็นปัจจัยให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญโฉนดที่ดินมีรูปแปลงที่มีมาตรฐานสากล ลดปัญหาความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดิน ช่วยป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐ เช่น การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ที่สาธารณประโยชน์ ฯลฯ สร้างความเท่าเทียมและช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้ประชาชนมีความรักหวงแหนแผ่นดิน เกิดกำลังใจและแรงจูงใจในการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาและความมั่นคงของประเทศโดยรวมต่อไป นี่คือโครงการดี ๆ ของกรมที่ดินเพื่อประชาชน ทั้งนี้ กรมที่ดินยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับการให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


‘การเคหะ ฯ’ ดัน ลดก๊าซเรือนกระจก ในที่พัก

” การเคหะฯ ”  ระดมสมอง หาแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกในภาคที่อยู่อาศัย โดยเชิญ ผู้เชี่ยวชาญบรรยายให้ความรู้

นายนพดล ว่องเวียงจันทร์ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง จึงให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนแนวคิดและแนวทางการดำเนินงานการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคที่อยู่อาศัยเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้ดำเนินงานสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับทุกภาคส่วน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้พัฒนาการออกแบบที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ชุมชนเข้มแข็ง และยกระดับชุมชนให้ได้มาตรฐาน โดยนำแนวคิดเรื่องชุมชนน่าอยู่น่าสบายอย่างยั่งยืนมาใช้ตลอดจนขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้การปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นเรื่อง สำคัญ และจากปัญหาของการใช้พลังงานฟอสซิลผสมกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคของการพัฒนาที่อยู่อาศัย จากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างที่มีหลากหลายชนิด ซึ่งกระบวนการผลิตของวัสดุตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจะมีกระบวนการปล่อยความร้อนและฝุ่นละอองก๊าซเรือนกระจก การเคหะแห่งชาติจึงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดทำโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 ตั้งแต่ปี 2560 โดยได้ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงการออกแบบ รวมถึงเลือกใช้วัสดุการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง และอุปกรณ์เบอร์ 5 ในโครงการบ้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งในปี 2561 การเคหะแห่งชาติได้จัดทำโครงการนำร่องบ้านประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จำนวน 8 โครงการ และปี 2562 จำนวน 6 โครงการ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด31.40/45บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า

บาทเปิด31.40/45บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า

เงินบาทเปิดตลาด 31.40/45บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า หลังกลับมากังวลโควิด-19 ระบาดในประเทศ ให้กรอบวันนี้ 31.30-31.50บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.40/45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค. 2563 ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.22 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 2 ราย ทำให้ตลาดเริ่มกลับมากังวลการระบาดในประเทศอีกรอบ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมที่ระบุว่าสหรัฐจะยังคงใช้เครื่องมือที่มีอยู่ เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีโอกาสจะอ่อนค่าได้ต่อ ให้กรอบไว้ที่ 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


สื่อญี่ปุ่นตัดเกรด “ชนาธิป” หลังเกม “ซัปโปโร” เปิดรังเจ๊า “โออิตะ”

สื่อชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ออกมาทำการวิเคราะห์ฟอร์มการเล่นและตัดเกรด “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ในเกมที่ “ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร” เปิดรังแบ่งแต้ม “โออิตะ ทรินิตะ” 1-1

วันที่ 20 ส.ค. 63 Soccerdigestweb เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ออกมาทำการวิเคราะห์ฟอร์มการเล่นและตัดเกรด “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเกมที่ทีมต้นสังกัดอย่าง ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ โออิตะ ทรินิตะ ไปแบบหวุดหวิด 1-1 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา

ทีมเยือน โออิตะ ทรินิตะ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก โคเฮอิ อิซะ ที่ได้จังหวะซ้ำจากลูกเตะมุมเข้าไป นาทีที่ 45+1 ขณะที่เจ้าบ้าน ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ไม่ยอมแพ้ฮึดไล่ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 88 จากผลงานของ ลูคัส แฟร์นานเดส ที่ได้ซัดด้วยขวาบอลประตูไปอย่างเฉียบขาด

วิเคราะฟอร์มการเล่น : มีโอกาสลุ้นสกอร์จากการยิงให้เห็นหลายครั้งในเกมนี้แต่น่าเสียที่ไม่เป็นประตูอย่างเช่นในนาทีที่ 58 ที่ได้ซัดบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น การพาบอลเลี้ยงบอลอาจไม่ได้หวือหวามากนัดแต่หลายๆ ครั้งเปลี่ยนจังหวะของเกมด้วยการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


แจ้งเตือนข่าวปลอม หญ้าลิ้นงูยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

แจ้งเตือนข่าวปลอม หญ้าลิ้นงูยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง thaihealth

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง หญ้าลิ้นงูยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าหญ้าลิ้นงูสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์   กล่าวว่า หญ้าลิ้นงู (Oldenlandia corymbosa L.) เป็นพืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ ในตำหรับยาแผนไทยต่าง ๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟีนอลิกส์เป็นส่วนประกอบ โดยมีการอ้างสรรพคุณทางการแพทย์หลายด้าน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งจากการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ พบว่า มีงานวิจัยที่รายงานว่าสารสกัดหญ้าลิ้นงูมีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง แต่การศึกษาเรื่องนี้มีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นเพียงการศึกษาระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานหญ้าลิ้นงูเพื่อการรักษาโรคมะเร็งเนื่องจากจำเป็นต้องรอผลการวิจัยทางคลินิกที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับในอนาคต

นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ   กล่าวเสริมว่า ควรศึกษารายละเอียดของสมุนไพร นำมาใช้ในประมาณที่เหมาะสม และนำมาใช้อย่างถูกวิธี หมั่นสังเกตอาการข้างเคียง หรือฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้สมุนไพร การรับประทานเพื่อหวังผลในด้านการรักษาโรคควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


หมวดคำศัพท์ร่างกายมนุษย์ (Parts of the body)

Skull (สคัล) – กะโหลกศีรษะ Head – ศีรษะ
Neck – คอ Throat (โธรท) – คอ, ลำคอ
Chin – คาง Cheek – แก้ม
Arm – แขน Hand – มือ
Nose – จมูก Nostril (นอส-ทริล) – รูจมูก, โพรงจมูก
Cerebrum (เซ้อ-รี-บรัม) – สมองส่วนหน้า Ankle – ข้อเท้า
Wrist (ริสท์) – ข้อมือ Elbow – ศอก
Ear – หู Eardrum (เอี๊ยะ-ดรัม) – เยื่อแก้วหู
Mouth – ปาก Cheek bone – กระดูกแก้ม
Armpit – รักแร้ Face – หน้า
Eye – ตา Eyebrow (อ๊าย-เบรา) – คิ้ว
Eyelash (อ๊าย-แลช) – ขนตา Eyeball – ลูกตา
Nape (เนพ) – ต้นคอ Hip – ตะโพก
Bottom (บ๊อท-เทิม) – ก้น Buttock (บั๊ท-ทอก) – ก้นหรือตะโพกข้างหนึ่ง
Gum (กัม) – เหงือก Talus (เท้-ลัส) – ตาตุ่ม
Hair – ผม, ขน Shin – แข้ง, หน้าแข้ง
Forehead (ฟ้อร์-เฮด) – หน้าผาก Beard (เบียร์ด) – หนวด, เครา
Eyesight – สายตา Eyelid (อ๊าย-ลิด) – หนังตา
Flesh – เนื้อ Skin – ผิวหนัง
Skeleton (สเค้ล-ลิ-เทิน) – โครงกระดูก Thigh (ไธ๊) – ขาอ่อน, ต้นขา, โคนขา
Shoulder (โช้ว-เดอะ) – หัวไหล่ Chest (เชสท์) – หน้าอก, ทรวงอก
Ankle bone – กระดูกข้อเท้า, ตาตุ่ม Tooth – ฟัน (teeth – ฟันหลายซี่)
Tongue (ทั้ง) – ลิ้น Larynx (ล้าร์-ริงคซ) – กล่องเสียง
Stomach (สทั้ม-มัค) – ท้อง Nail (fingernail)  – เล็บมือ
Thumb (ธัม) – นิ้วหัวแม่มือ Forefinger (ฟ้อร์-ฟิง-เกอะ) – นิ้วชี้
Index finger – นิ้วชี้ middle finger – นิ้วกลาง
Ring finger – นิ้วนาง Little (small) finger – นิ้วก้อย
Hand – มือ Back hand – หลังมือ
Temple (เท้ม-เพิล) – ขมับ Palm (พาม) – ฝ่ามือ
Toe (โท) – นิ้วเท้า, หัวแม่เท้า Heel (ฮีล) – ส้นเท้า
Instep – หลังเท้า Jaw (จอ) – กราม, ขากรรไกร
Adam’s (แอ๊ด-ดัม) apple – ลูกกระเดือก Tendon (เท้น-เดิน) – เอ็น, เส้นเอ็น(ใหญ่)
Leg – ขา Foot – เท้า (feet – เท้าหลายเท้า)
Knee – หัวเข่า Calf (คาล์ฟ) – น่อง
Finger tip – ปลายนิ้ว Bosom (บู้ซ-เซิม) – หน้าอก, เต้านมสตรี
Breast (เบรสท์) – หน้าอก, ทรวงอก, เต้านม Nipple – เต้านม
Belly – พุง, ท้อง Fist – กำปั้น
Toe nail – เล็บเท้า Limb (ลิมบ์) – แขนขา
Cell – เซลล์ Shank (แช้งค์) – หน้าแข้ง, ขา (รวมทั้งขาอ่อน)
Back – หลัง Bone (โบน) – กระดูก
Muscle (มัส-เซิล) – กล้ามเนื้อ Groove (กรูฟว์) – ร่องเหนือริมฝีปากบน
Navel (เน้-เวิล) – สะดือ (foot) sole (โซล) – ส้นเท้า
Palate (แพ้ล-ลิท) – เพดานปาก Pupil (พิ้ว-เพิล) – รูม่านตา, ช่องตาดำ
Dimple – ลักยิ้ม Nose bridge – ดั้งจมูก
Lip – ริมฝีปาก Upper lip – ริมฝีปากบน
(lower) under lip ริมฝีปากล่าง Tonsil (ท้อน-เซิล) – ต่อมทอนซิล
Gland – ต่อม Ridge – สันหลัง
Trunk (ทรั้งค์) – ลำตัว Rib – กระดูกซี่โครง
Flank – สีข้าง Abdomen (แอบ-โด๊-เมน) – ช่องท้อง, ส่วนท้อง
Brain – สมอง, มันสมอง Nerve – เส้นประสาท
Spine (สไพน์) – กระดูกสันหลัง Windpipe – หลอดลม
Vocal cord – เส้นเสียง Artery (อ๊าร์-เทอะ-รี่) – เส้นเลือดแดง
Vein (เวน) – เส้นเลือดดำ Capillaries – เส้นเลือดฝอย
Blood (บลัด) – เลือด Blood vessel – เส้นเลือด
Corpuscle (ค้อร์-พัส-เซิล) – เม็ดเลือด Red corpuscle – เม็ดเลือดแดง
White corpuscle – เม็ดเลือดขาว Moustache (มัส-แทช) – หนวด
Whisker (วิส-เคอะ) – หนวดเครา Marrow – ไขกระดูก
Pore (พอร์) – รูขุมขน Sinew (ซิ้น-นิว) – เอ็น, เส้นเอ็น(เล็ก)
Valve (วาล์ฟ) – ลิ้นปี่ Plasma – น้ำเลือด
Heart (ฮาร์ท) – หัวใจ Liver (ลิฟ-เว่อร์) – ตับ
Lung (ลั้ง) – ปอด Spleen (สพลีน) – ม้าม
Kidney (คิด-นี่) – ไต Gall (กอล) – น้ำดี
Bile (ไบล์) – น้ำดี Bowels (เบ๊า-เอิล) – ลำไส้, ตับไตไส้พุง
Small intestine – ลำไส้เล็ก Large intestine – ลำไส้ใหญ่
  Diaphragm (ได๊-อะ-แฟรม) – กะบังลม
Testicles – ลูกอัณฑะ Penis (พี้-นิส) – อวัยวะสืบพันธ์ชาย
Vagina (วะ-ไจ๊-น่ะ) – ช่องคลอด Knee cap – กระดูกสะบ้าหัวเข่า
Backbone (spine, vertebra) – กระดูกสันหลัง Collar (ค้อล-เล่อะ) bone – กระดูกไหปลาร้า
Clavicle (แคลฟ-วิ-เคิล) – กระดูกไหปลาร้า Thorax (ธ้อ-แร็กซ์) – ช่องอก
Pancreas (แพ้น-เครียส) – ตับอ่อน Gall bladder – ถุงน้ำดี
Lymph (ลิ้มฟ์) – น้ำเหลือง Aorta (เอ-โอ๊-ท่ะ) – เส้นเลือดใหญ่
Pulse (พัลส์) – ชีพจร Epidermis (เอพ-พิ-เด๊อร์-มิส) – หนังกำพร้า
Appendix – ไส้ติ่ง Perspiration (เพิส-พิ-เร๊-เชิ่น) – เหงื่อ
Sweat (สเว็ท) – เหงื่อ Urine (ยั๊ว-ริน) – ปัสสาวะ

ขอบคุณข้อมูลจาก everydayenglish.pwa.co.th


ดึง13 เมืองร่วมต้นแบบเมืองอัจฉริยะ

UTE ผนึกกำลัง กฎบัตรแห่งชาติ เปิดผังดัน 13 เมืองเข้าแผนพัฒนาโครงสร้าง “สมาร์ทซิตี้ชาร์เตอร์” ชูระบบเมืองอัจฉริยะต้นแบบนำประเทศไทยสู่เมืองนานาชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานกฎบัตรแห่งชาติ (National Charter) ซึ่งก่อตั้งโดย“โครงการพัฒนากลไกเชิงพื้นที่ในการพัฒนาเมือง โดยการออกแบบเมืองอย่างชาญฉลาดเพื่อยกระดับทางเศรษฐกิจและสังคม ระยะที่ 2” สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้ร่วมลงนามข้อตกลงการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานด้านกายภาพดิจิทัลและแพลตฟอร์มการบริหารจัดการย่านอัจฉริยะ ตามกรอบกฎบัตรเมืองอัจฉริยะ (Smart City Charter) อันเป็นความร่วมมือของ สมาคมการผังเมืองไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UTE) พร้อมด้วยเทศบาล 13 เมือง  ซึ่งปัจจุบันเป็นเครือข่ายของกฎบัตรแห่งชาติ ประกอบด้วย เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลเมืองแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครนครสวรรค์ เทศบาลนครอุดรธานี เทศบาลนครขอนแก่นเทศบาลนครระยอง เทศบาลนครรังสิต เทศบาลเมืองป่าตอง เทศบาลเมืองกระบี่เทศบาลเมืองหัวหิน เทศบาลเมืองทุ่งสง เทศบาลเมืองชุมแพ และเทศบาลแก่งคอยโดยมีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และมหาวิทยาลัยแม่โจ้

การลงนามข้อตกลงครั้งนี้ ถือเป็นประโยชน์และมิติใหม่ในการสร้างแนวทางการพัฒนาร่วมกัน รวมถึงการวางแผนปฏิบัติการวิจัยพัฒนาเมืองและการปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของเทศบาล ชุมชน และพื้นที่ศึกษาอื่นๆ ที่ได้วางแผนไว้ภายใต้เจตนารมณ์กฎบัตรแห่งชาติ (National Charter) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ (New Urban and Economic Development Platform) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเป็นกลไกในการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันโดยรวมให้กับประเทศ ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งนี้มีเป้าหมาย 4 ข้อ ได้แก่ 1. สนับสนุนการตกลงร่วมกันของทุกภาคส่วนของสังคมในการพัฒนาเทศบาลเป็นพื้นที่นำร่องพัฒนาเป็นย่านอัจฉริยะ 2. ร่วมกันวางแผนและออกแบบแนวคิดด้านการพัฒนาด้านกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค 3. ส่งเสริมย่านอัจฉริยะเพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และ 4. สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาฐานข้อมูล เพื่อการวิจัยและนำไปปฏิบัติใช้ให้สำเร็จลุล่วง

ทางด้าน นายพิรชัย เบญจรงคกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยีเอ็นเตอร์ไพรส์ จํากัด (UTE) ภายใต้กลุ่มบริษัทเบญจจินดา กล่าวว่า UTE มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลและมีความพร้อมสนับสนุนความร่วมมือการพัฒนาประเทศร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา เพื่อประโยชน์สูงสุดในการยกระดับทางเศรษฐกิจและการนำไทยสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้ UTE ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสื่อสารโทรคมนาคม เสาอัจฉริยะ (Smart Pole) พร้อมแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมเมืองน่าอยู่ ปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเสาอัจฉริยะจะช่วยยกระดับการจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งการบริหารจัดการในระดับเมือง ซี่งเสาอัจฉริยะจะทำหน้าที่รับส่งข้อมูลอุปกรณ์ระหว่างตัวเสาไปยังแพลตฟอร์มส่วนกลางของเทศบาล สามารถแสดงผล ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงความสามารถอัจฉริยะในการป้องกันภัยและเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถาณการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่  

นายฐาปนา บุณยประวิตร กรรมการและเลขานุการกฎบัตรแห่งชาติ กล่าวถึงการพัฒนาย่านอัจฉริยะให้เป็นพื้นที่ต้นแบบว่า กฎบัตรเมืองอัจฉริยะคาดหวังในการใช้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการปรับปรุงระบบกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และสาธารณูปโภคของเทศบาล เพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางกาย(Physical Activity) อันเป็นต้นทางของการสร้างเมืองสุขภาพ (Healthy City) และเมืองเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน (Sustainable City) โดยข้อตกลงร่วมกันของภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรประชาชน จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการลงทุนทางเศรษฐกิจ การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมทั้ง การฟื้นฟูชุมชนให้มีศักยภาพในการรองรับความเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การเป็นเมืองที่ยั่งยืน

ส่วนขั้นตอนการลงทุนปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ย่านอัจฉริยะนั้น แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่

• ขั้นตอนแรก กฎบัตรแห่งชาติจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการวางแผนและการออกแบบทางกายภาพและโครงสร้างพื้นฐาน

• ขั้นตอนที่สอง เทศบาล สถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ

• ขั้นตอนที่สาม บริษัทเอกชนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐด้านดิจิทัล ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล

• ขั้นตอนที่สี่ เทศบาลและชุมชน รับผิดชอบในการลงทุนปรับปรุงฟื้นฟูชุมชน การออกข้อกำหนดหรือเทศบัญญัติในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ย่านอัจฉริยะ

“กฎบัตรแห่งชาติ คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ย่านอัจฉริยะและพื้นที่โดยรอบจะปรับเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าเท่าตัว ภายหลังจากการลงทุนทั้งสี่ขั้นตอน หรือคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้นในย่านอัจฉริยะและพื้นที่โดยรอบไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี นับจากการลงทุนตามขั้นตอนเสร็จสิ้น” นายฐาปนา กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


9 สมุนไพรแก้ “โรคอัลไซเมอร์” แบบยกขบวนเสริมความจำ

สมุนไพรแก้โรคอัลไซเมอร์

ผู้สูงอายุเหมือนเป็นวัยที่รวมหลายๆ โรคเอามาไว้ในที่เดียว และแต่ละโรคก็ล้วนน่ากลัวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย อย่างเช่น โรคอัลไซเมอร์ หรืออาการสมองเสื่อมเนี่ย ทราบกันไหมว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะมีโอกาสเป็นได้สูงนะ รวมถึงทุกคนก็สามารถเป็นโรคนี้กันได้มากขึ้นจากหลายปัจจัยรอบตัวด้วย ทว่าบางคนอาจยังมีอาการแค่ช่วงเริ่มต้นอยู่ ลองมาใช้สมุนไพรแก้โรคอัลไซเมอร์ แบบไทยๆ ของเราเพื่อช่วยรักษาอาการสมองเสื่อมกันสักหน่อยดีไหม

รวมพล 9 สมุนไพรแก้โรคอัลไซเมอร์

1. กลีบบัวแดง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังส่งผลต่อการช่วยป้องกันการเกิดความจำเสื่อมได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวด้วย ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้มาก

2. เกสรบัวหลวง ส่วนใหญ่จะใช้แบบแห้งแล้วนำมาปรุงเป็นยา (มีสูตรต้มรวมกับตะไคร้ มะตูม และใบเตย) มีฤทธิ์ในการต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขยายเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื้น บำรุงปอด บำรุงกำลัง ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น และยังมีสรรพคุณป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมได้อย่างดี จึงจัดเป็นหนึ่งในสมุนไพรแก้โรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี

3. มะตูม เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเหมาะกับผู้สูงอายุมาก นอกจากจะสามารถช่วยป้องกันอาการของโรคอัลไซเมอร์เมื่อปรุงเป็นยาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นแล้ว ยังมีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลภายในได้ดี บำรุงกำลัง และช่วยคลายความวิตกกังวล ทำให้มีสมาธิมากขึ้นด้วย

4. ตะไคร้ เมื่อนำมาตากแห้งแล้วใช้ต้มน้ำดื่มจะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ระบบประสาทได้เป็นอย่างดี ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายดีขึ้น คนที่ชอบเป็นตะคริวบ่อยๆ อย่างวัยผู้สูงอายุก็จะเกิดอาการน้อยลง

น้ำตะไคร้

5. ใบเตย เป็นสมุนไพรแก้อัลไซเมอร์ที่หลายคนคาดไม่ถึง แต่ไม่ต้องแปลกใจเพราะใบเตยมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า บำรุงหัวใจและหลอดเลือด และช่วยบำรุงระบบประสาท จึงช่วยรักษาและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้นั่นเอง

6. ใบแปะก๊วย เป็นสมุนไพรของจีนที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการความจำเสื่อมและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสรรพคุณในเรื่องของการบำรุงสมองมาก ช่วยเพิ่มความจำ และมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดซึ่งจะป้องกันไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลาย ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ลดโอกาสจะเกิดการอุดตันของหลอดเลือดสมองและโรคอัลไซเมอร์ได้สูง

7. ใบบัวบก เราต้องยอมรับในเรื่องสรรพคุณช่วยแก้อาการช้ำใน แต่ใบบัวบกยังมีฤทธิ์ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้า บำรุงหัวใจ รวมทั้งบำรุงสมอง ซึ่งในหลายประเทศก็มีตำรายาระบุว่าช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกายทำให้ความจำดีขึ้น และป้องกันอาการสมองเสื่อมหรืออาการหลงๆ ลืมๆ ในผู้สูงอายุ เรียกว่าเป็นทั้งสมุนไพรแก้ช้ำในและแก้โรคอัลไซเมอร์ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

8. ขมิ้นชัน จากการวิจัยในต่างประเทศพบว่า หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมขมิ้นชันจะมีประโยชน์ช่วยบำรุงสมองและป้องกันโรคความจำเสื่อมได้ โดยช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาทให้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ

9. พริกไทยดำ มีนักวิจัยในประเทศไทยค้นพบสารชื่อว่า “พิเพอรีน (Piperine)” ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ แต่ควรใช้ในปริมาณที่เพียงพอและพอดีคือประมาณ 300 มิลลิกรัม จะช่วยรักษาอาการโรคความจำเสื่อมได้

ได้รู้จักกับสมุนไพรแก้อัลไซเมอร์ทั้ง 9 ชนิดกันไปแล้ว…ทุกวันนี้อาการสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์อาจไม่ใช่โรคของผู้สูงอายุเพียงเท่านั้น เมื่อพบว่าตัวเองและคนในครอบครัวเริ่มจะมีอาการหลงลืมมากขึ้นจนผิดปกติละก็ หันมาพึ่งการใช้สมุนไพรแบบไทยๆ ที่เรานำมาฝากกันได้นะ ซึ่งไม่มีอันตรายต่อร่างกายด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 28,850.00 28,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,869.00 28,334.04 29,450.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,682.10 25,500.64 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,495.20 22,667.23 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 841.00 12,749.56 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 654.00 9,914.64 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,937.00 29,364.92 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20/08/2563

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95 21.95
แก๊สโซฮอล์ 91 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68 21.68
แก๊สโซฮอล์ E20 20.44 20.44 20.44 20.44 20.44 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล์ E85 18.19 18.19
เบนซิน 95 29.36 29.81 29.86 29.36 29.36
ดีเซล 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99 21.99
ดีเซล B10 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99 18.99
ดีเซล B20 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74
ดีเซลพรีเมี่ยม 26.44 26.46 28.44 28.44
แก๊ส NGV 14.41 14.41
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า