บ้านไม่เกิน 1.2 ล้าน กทม.ยังมี 800 หน่วย
ตะลึง !ที่อยู่อาศัย ราคา 1.2ล้าน อยู่ในข่ายโครงการบ้านล้านหลัง ในกทม.ยังมี800 ห่วยศูนย์ข้อมูลธอส. สำรวจ ในกทม.-ปริมณฑล มีแค่ 5,650 หน่วย ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ มติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ปรับหลักเกณฑ์โครงการบ้านล้านหลัง ของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เพื่อให้สะท้อนราคาซื้อขายตามต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเพิ่ม ราคาจาก ไม่เกิน1ล้านบาทเป็น 1.2ล้านบาท อย่างไรก็ตามมองว่า ค่อนข้างหายาก
ขณะศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำรวจพบ ที่อยู่อาศัยราคา 1-1.2 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 บ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ใน 26 จังหวัด จำนวน 8,479 หน่วย โดย 7,013 หน่วย เป็นคอนโดมิเนียม ขณะอีก 1,466 หน่วยเป็นบ้านแนวราบ ส่วนในพื้นที่เฉพาะ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล มีบ้านและคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จำนวน 5,650 หน่วย เป็นคอนโดมิเนียม 5,546 หน่วย ที่เหลือ 104 หน่วย เป็นบ้านแนวราบ และหากแยกเป็นเฉพาะ กทม. มีที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จำนวน 806 หน่วย ส่วนใหญ่เป็นคอนโดทั้งหมด ส่วนจังหวัดปริมณฑล อย่าง ปทุมธานีมีที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท มากที่สุด 3,177 หน่วยคอนโดมิเนียมทั้งหมด รองลงมาเป็นสมุทรปราการ 1,360 หน่วย ส่วนนนทบุรีมี 303 หน่วย และสมุทรสาครมีเหลือขายแค่ 4 หน่วย
ด้วยเหตุนี้ธอส.จึงชงเรื่องให้คณะรัฐมนตรี อนุมัติปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยขอปรับเพิ่มราคาซื้อขายและวงเงินกู้ที่อยู่อาศัยเป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยวงเงินกู้ 1.2 ล้านบาท จะผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงแค่ 4,500 บาท/เดือน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า การปรับเพิ่มราคาซื้อขายและวงเงินกู้ที่อยู่อาศัยเป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อขายของอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน และช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนมีทางเลือกในการหาซื้อที่อยู่อาศัยตามโครงการดังกล่าวได้มากขึ้น และยังกระตุ้นให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีความต้องการที่จะลงทุนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท อย่างเป็นรูปธรรม โดยที่ผู้ประกอบการสามารถขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการอัตราดอกเบี้ยต่ำ(MLR -ไม่เกิน 1.25% ต่อปี) กับธอส.ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีออปชั่นให้กับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน กำหนดให้กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริมตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ต้องจำหน่ายราคาต่อหน่วยไม่เกิน 1.2 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) และกรณีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นต้องจำหน่ายราคาหน่วยละไม่เกิน 1 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ขอนแก่น ตลาดโอกาส แก้วิกฤติเมืองท่องเที่ยวฟุบ
ผ่ามุมคิด
ภาพการชะลอตัวอย่างชัดเจนของตลาดที่อยู่อาศัยพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล นับตั้งแต่เศรษฐกิจชะลอตัวช่วงปี 2562 จนสถานการณ์โควิด-19 ได้ตอกย้ำความไม่แน่นอนของดีมานด์ที่มีในตลาดดังกล่าว ลามถึงเมืองท่องเที่ยว ทำให้บริษัทแทบทุกรายหวนไปโฟกัสจับกลุ่มเรียลดีมานด์ (ซื้อเพื่ออยู่จริง ) เป็นหลัก ซึ่งนอกโครงการรอบเมืองในระดับราคาเข้าถึงได้จะได้รับความสนใจมากขึ้นแล้ว ผู้พัฒนาบางส่วนยังหันหัวเรือไปสู่ตลาดหัวเมืองหลัก ขณะจังหวัดขอนแก่น กลายเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ ด้วยศักยภาพรองรับหลายด้าน โดดเด่นผ่านการเป็น “เมดิคัลฮับอาเซียน” พร้อมหนุนการเติบโตผ่านโครงการระบบขนส่งทางรางใหม่ ซึ่งนายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ ซีอีโอ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ (บริษัทในเครือไทยสมุทรฯ) ซึ่งเดิมทีเน้นการพัฒนาในกลุ่มเมืองท่องเที่ยว ก็การันตีความน่าสนใจของดีมานด์ ผ่านแผนเปิดตัวคอนโดฯใหม่แห่งที่ 2 ยกกำลังซื้อกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ – นักศึกษา อุ้มตลาด คาดอนาคตราคาที่ดินพุ่งไม่ต่ำ20-30%
ทิศทางธุรกิจ
ปัจจุบันบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจใน 2 ส่วนสำคัญ คือ อสังหาฯเพื่อเช่าในกลุ่มอาคารสำนักงาน, โรงแรม และท่าจอดเรือยอร์ช ในทำเล กทม. และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อย่างพัทยา ภูเก็ต กับอีกส่วน คือ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย คาดตลอดทั้งปี 2563 จะมีรายได้รวมที่ 1 พันล้านบาท ในสัดส่วน 50:50 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบต่อกิจการในกลุ่มโรงแรม ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มโปรดักส์ระดับบน ยังมียอดขายเกิดขึ้นใน เช่น ในโครงการ โอเชี่ยน มาริน่า พัทยา แต่อย่างไรก็ตาม มองอสังหาฯในเมืองท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงอยู่ เช่น ในจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบจากภาคการท่องเที่ยวชะงักหยุดลง บริษัทจึงชะลอแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งเดิมทีจะเปิดโครงการแนวราบบนที่ดินประมาณ 20 ไร่ เช่นเดียวกับในพื้นที่พัทยา ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกนับ 100 ไร่ แต่ขณะนี้ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์
โอกาสตลาดขอนแก่น
อย่างไรก็ตาม พบบางพื้นที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจในภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในตลาดภูมิภาค เช่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความน่าสนใจในแง่ศักยภาพและเรียลดีมานด์ในตลาด สะท้อนจากตัวเลขหน่วยเหลือขาย ในกลุ่มคอนโดฯ ณ ครึ่งปีแรก 2563 มีเพียง 200-300 หน่วยเท่านั้น บริษัทจึงปักหมุดเตรียมเปิดโครงการใหม่
“โอเชี่ยน แกรนด์ เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ-ขอนแก่น” โครงการแห่งที่ 2 ในขอนแก่น ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการก่อนหน้า ที่สามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็ว และมียอดโอนฯมากกว่า 90% ในปัจจุบัน คาดมาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในจังหวัด จากการเป็นหัวเมืองหลักของภาคอีสาน และเปรียบเป็นแหล่งงานสำคัญของคนในจังหวัดต่างๆโดยรอบ ขายดีสุดในกลุ่ม 1 – 2.5 ล้านบาท และตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการกำลังจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของ MICE City ในอาเซียน และแผนพัฒนาเทอร์มินอลหลังใหม่ ของสนามบินขอนแก่น ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภูมิภาค และดึงดูดกลุ่มชาวต่างชาติให้เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น
“แม้มีโควิด ยอดขาย-ยอดโอน ในขอนแก่นยังอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ เพราะเศรษฐกิจในจังหวัด ค่อนข้างแข็งแกร่ง ไม่ได้ผูกกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ทำให้ธุรกิจโดยรวมไม่ชะงัก กำลังซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้กระทบ”
ดีมานด์บุคลากรการแพทย์
นายณพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากขอนแก่นจะเติบโตจากการเป็นหัวเมืองหลัก และเป็นจังหวัดแรกที่ริเริ่ม Smart City แล้ว ปัจจัยส่งเสริมน่าจับตาสูงในแง่กำลังซื้อ คือ การเป็น “เมดิคัล ฮับ” สำหรับกลุ่มคนไทยและคนประเทศในกลุ่ม CLMV ซึ่งใหญ่สุดในประเทศไทย และอาเซียน เงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท โดยมีโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่นเป็นหลัก รองรับประชากรได้ถึง 20 ล้านคน โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์หลายสาขาเข้ามาอยู่อาศัย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 4 พันคน ไม่นับรวมในโรงพยาบาลอื่นๆ โดยรอบอีก 2-3 แห่ง บริษัทมองเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญ ที่จะเข้ามาสร้างความคึกคักให้กับตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงกลุ่มคนประเทศเพื่อนบ้าน ที่เข้ามารักษาตัวชั่วคราว และดีมานด์จากนักศึกษาของมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งจะเข้ามารองรับทั้งการซื้ออยู่เอง และเช่าระยะยาวจากกลุ่มนักลงทุน
จับตาราคาที่ดินพุ่ง
สำหรับราคาขายคอนโดฯในปัจจุบันของตลาดขอนแก่นนั้น เฉลี่ยตั้งแต่ 5.4 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาทต่อตารางเมตร สูงสุดในโซนเมือง ส่วนความต้องการห้องขนาดเล็กเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ จาก 5% เป็น 14.3% เนื่องมีราคาที่ดินเป็นตัวกดดัน อ้างอิงจากเดิม 2 ปีก่อนหน้า บริษัทซื้อ-ขายที่ดินมาในราคา 6-7หมื่นบาทต่อตร.ม. พบปัจจุบันราคาปรับขึ้นมาถึง 10% และคาดในอนาคตจะเติบโตขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 20-30% โดยมีปัจจัยเร่งจากโปรเจ็กต์โครงการรถไฟฟ้ารางเบาในเมือง ทำให้ที่ดินบริเวณโดยรอบแนวรถไฟฟ้าแพงขึ้น ภาพคล้ายปรากฎการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในทำเล กทม.-ปริมณฑล เมื่อความเจริญเข้าถึง
“ที่ดินในเมืองขอนแก่น เริ่มปรับสูงขึ้นจากโปรเจ็กต์น้อยใหญ่ และเชื่อว่าเมื่อรถไฟฟ้าเริ่มก่อสร้าง ราคาจะสูงขึ้นอีก ไม่ต่างจากกทม.ฯ ขณะความต้องการที่อยู่อาศัย กลุ่มคอนโดฯ ห้องขนาดเล็กมีสัดส่วนสูงขึ้น เพราะราคาขายต่อห้องแพงขึ้นจากที่ดินนั่นเอง”
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น รวม 21 สถานี ระยะแรก สายสีแดง เหนือ-ใต้ คาดจะเริ่มก่อสร้างในช่วงสิ้นปีนี้ ก่อนเปิดให้บริการในช่วงปี 2565 ขณะเดียวกัน ไทยสมุทรฯยังมีที่ดินโดยรอบโครงการในขอนแก่นอีกประมาณ 30 ไร่ เพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กฎเหล็กแบงก์ชาติ สะเทือนแบงก์พาณิชย์อาการสาหัส
การออกคำสั่งของ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผล และห้ามซื้อหุ้นคืน ถูกวิจารณ์จากสังคมอย่างหนักว่า เป็นความประสงค์ดีที่อาจจะกลายเป็นผลร้ายกับการดำเนินกิจการของธนาคารพาณิชย์อยู่ในวิกฤตครั้งใหม่ นับตั้งแต่วิกฤตการเงินและเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540
ในหนังสือคำสั่งที่ธปท. นำออกมาแถลงเป็นข่าวเมื่อวันศุกร์ 19 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าอ่านแล้วตีความเป็นไปอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากฐานะกิจการของธนาคารพาณิชย์ อยู่ในฐานะที่กำลังมีปัญหาหนี้เสียในอนาคตเพิ่มขึ้นทวีคุณ จนต้องตั้งสำรองจนเงินกองทุนลดต่ำลงจะฐานะของธนาคารมีปัญหา
การที่ ธปท. จงใจปล่อยข่าวแถลงดังกล่าวในเย็นวันศุกร์หลังตลาดหุ้นปิดไปแล้ว เพราะรู้ดีว่าการดำเนินการเช่นนี้ จะกระทบกับราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์อย่างหนัก จึงต้องการให้ข่าวนี้ทอดเวลาออกไปเสาร์อาทิตย์ เพื่อให้นักลงทุนไตร่ตรองว่า มาตรการที่ออกมาดีกับธนาคารพาณิชย์ในระยาว เพื่อที่จะไม่เทขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ในวันจันทร์ (22 มิ.ย.) ซึ่งอีกไม่นานก็จะรู้ว่า ธปท. ประเมินเรื่องนี้ได้ถูกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจาก ธปท. ออกข่าวคุมแบงก์พาณิชย์ไม่ให้จ่ายปันผล ไม่ให้ซื้อหุ้นคืน และให้ทำแผนการบริหารเงินกองทุนในระยะ 1-3 ปี ส่งให้ ทั้งฝ่ายการเมือง ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ เจ้าของผู้ถือหุ้นธนาคารพาณิชย์ เกิดความปั่นปวนอย่างหนัก และไม่เข้าใจว่าทำไม่ ธปท. จึงแก้ปัญหาที่แสนอ่อนไหวอย่างนี้ผ่านสื่อได้อย่างไร
ในวันที่ 20 มิ.ย. นายวิไท ได้ออกแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ยาว 3 หน้าดาษอีกครั้ง ว่าสาเหตุที่ ธปท.ห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายปันผลและซื้อหุ้นคืน เพราะธนาคารพาณิชย์การ์ดตก เงินกองทุนทรุด เพราะผลกระทบโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจโลกและไทยรุนแรง ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และจะจบอย่างไร แม้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงหรือ BIS ratio ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยอยู่ที่ 18.7%
เมื่อพิจารณาจาก การชี้แจงของ ผู้ว่า ธปท. แสดงให้เห็นว่า นับตั้งแต่วันนี้ไปธนาคารพาณิชย์จะเจอมรสุมหนี้เสียครั้งใหญ่ ซึ่งอาจจะตั้งรับไม่ไหวหากไม่ดำเนินการเตรียมตัวไว้ก่อน
ธปท. แถลงฐานะของ ธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 4.96 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.05% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 2.98% เห็นได้ว่าไตรมาสแรกไทยยังเพิ่งเริ่มเจอพิษโควิดหนี้เสียก็เริ่มงอกแล้ว ไม่ต้องคิดถึงงไตรมาส 2 3 และ 4 ที่เศรษฐกิจไทยเจอพิษโควิดเต็มแรง กิจกรรมการทางเศรษฐกิจหยุดนิ่งสนิท คนตกงานหลายล้านคน หนี้เสียของธนาคารพาริชย์จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณขนาดไหน
ยังไม่รวมกับโครงการพักชำระหนี้ที่ ธปท. ให้ ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการ โดยมีการโชว์ผลงานว่าพักหนี้ได้ 13.08 ล้านราย วงเงิน 4.6 ล้านล้านบาท เป็นรายย่อย 13.01 ล้านราย จำนวนเงิน 3.4 ล้านล้านบาท และธุรกิจรายใหญ่-เอสเอ็มอี 6.8 หมื่นราย วงเงิน 1.2 ล้านล้านบาท หนี้จำนวนนี้เมื่อครบพักชำระหนี้แลต้องกลับผ่อนชำระปกติ จะมีจำนวนหนึ่งชำระต่อไม่ได้กลายเป็นหนี้เเสีย แค่คิดว่าใน 4.6 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย 10% ก็ 4.6 แสน้านบาท รวมกับหนี้เสียเดิมไตรมาส 1 ที่ผ่านมา หนี้เสียของระบบธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือ ประมาณ 1 ล้านล้านบาททันที
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ ที่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระยะที่ 2 เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ เข้าไปพักชำระหนี้ลดดอกเบี้ย ขยายเวลาการชำระหนี้ ซึ่งทางหนึ่งเป็นการช่วยลูกหนี้ แต่อีกทางหนึ่งก็เป็นการช่วยต่อลมหายใจธนาคารพาณิชย์กลบลูกหนี้เสียไม่ให้โผล่ขึ้นมาหลอนเผาเงินกองทุนของแบงก์จนทรุดเอาไม่อยู่ อย่างที่ ธปท. กลัวจนออกประกาศคุมธนาคารพาณิชย์ไม่ให้จ่ายเงินปันผลและไม่ให้ซื้อหุ้นคืน เพื่อให้แน่ใจว่ามีเงินกองทุนมาพอจะไปสำรองหนี้เสียที่เกิดขึ้นจำนวนมากในอนาคต
ดังนั้นกฎเหล็กสะท้านแบงก์พาณิชย์ ที่ ธปท. ออกมาจะช่วยพยุงฐานะธนาคารพาณิชย์ให้ดีขึ้น หรือ ทำให้ฐานะการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์เกิดความปั่นป่วน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ ธปท. ต้องรับผิดรับชอบ ในการตัดสินใจครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ลิเวอร์พูล ยืดวันแชมป์ หลังบุกเจ๊า เอฟเวอร์ตัน 0-0
ลิเวอร์พูล ยังไม่การันตีการเป็นแชมป์ในเกมหน้า หลังบุกแบ่งแต้มกับเอฟเวอร์ตัน แบบไร้สกอร์
เริ่มคิกออฟมาได้เพียง 3 นาที เอฟเวอร์ตัน ได้ทักทายก่อนจากจังหวะผิดพลาดของฟาบินโญ บอลมาถึง ริชาร์ลิซอน พาเข้าเขตโทษ และซัดด้วยซ้าย แต่ไปติดปลายนิ้วของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จากนั้นนาทีที่ 9 ลิเวอร์พูลได้ตอบโต้บ้าง เมื่อ ฟาบินโญ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม นาบี เกอิตา รับช่วงต่อและจ่ายบอลให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ได้แต่งบอล และจัดการยิงด้วยขวา บอลเหินข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น
ครึ่งช่วงโมงผ่าน ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกด้านขวาของสนาม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ และเป็น โจเอล มาติป เทคขึ้นโขกกดบอลลงพื้นกระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียได้ ถัดมา 3 นาที มินามิโนะ อาศัยลูกขยันไปแย่งบอลมาจาก อันเดร โกเมส ให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ควบก่อนไปที่ ซาดิโอ มาเน แตะต่อไปยัง โรแบร์โต เฟอร์มิโน ยิงบดๆ ด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบ
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เทรนท์ ได้ลองส่องจากฟรีคิกระยะ 28 หลา แต่ยังติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด และจบครึ่งแรกแบบไม่มีสกอร์เกิดขึ้น
กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล ได้ทดสอบกองหลังเอฟเวอร์ตันอีกครั้ง จากจังหวะเติมขึ้นมาของ มาติป ก่อนผ่านบอลยัดเข้ากลางให้ เกอิตา ทำชิ่งกับ เฟอร์มิโน แต่จังหวะสุดท้ายตั้งหลักไม่ดี โดนบอลไม่เต็มเท้าทำให้หลุดออกหลังไป จากนั้นนาทีที่ 60 เอฟเวอร์ตัน ใช้ลูกโต้กลับ ริชาร์ลิซอน หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ซัดบอลเหินข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น
ก่อนหมดเวลา 10 นาที ริชาร์ลิซอน หลุดมาดวลกับ เดยัน ลอฟเรน และได้เปิดเข้าเขตโทษ โดมินิก คัลเวิร์ต เลวิน โชว์ลูกไขว้บอลเปลี่ยนทางชนเสา เอฟเวอร์ตัน พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 ส่งผลให้ทัพหงส์แดงเจ๊าเป็นเกมที่สองของฤดูกาลนี้ พร้อมกับยืดวันเป็นแชมป์ออกไปจากกำหนดเดิมที่คาดการณ์กันว่าคือเกมนัดหน้า ที่จะเปิดรังพบกับ คริสตัล พาเลซ ในคืนวันพุธที่ 24 มิ.ย. นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
เนื้องอกในมดลูก โรคฮิตของผู้หญิงวัยทำงาน
แพทย์ เผยคนไข้ส่วนใหญ่ที่มาหาหมอด้วยอาการปวดท้องประจำเดือน หรือปวดท้องน้อยแบบเรื้อรัง พอตรวจอย่างละเอียดกลับพบเป็น “เนื้องอกในมดลูก” โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทำงาน
ขึ้นชื่อว่าวัยทำงาน ส่วนใหญ่เราก็ต่างใช้ชีวิตแบบลืมคิดคำนึงถึงสุภาพ อาจทำงานยุ่งวุ่นวายจนลืมตรวจร่างกายประจำปี โดยเฉพาะการตรวจภายใน ซึ่งผู้หญิงส่วนมากเลือกที่จะเลี่ยงการตรวจไปจนกว่าจะมีอาการผิดปกติบางอย่างเสียก่อน
ก่อนจะมาทำความรู้จักว่าเนื้องอกในมดลูกคืออะไร ลองพิจารณาดูว่าเราเคยมีอาการต่อไปนี้บ้างหรือไม่
ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ
มีเลือดออกมากระหว่างรอบเดือน
ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ออกไม่มาก
มีอาการท้องผูกผิดปกติ
อยู่เฉยๆ ก็มีอาการปวดท้อง
หากมีอาการเหล่านี้ นี่อาจเป็นสัญญาณผิดปกติที่บ่งว่าเราเสี่ยงมีเนื้องอกในมดลูก
ข้อมูลจาก พญ.จิติมา ติยายน นายแพทย์ชำนาญการงานมะเร็งนรีเวช กลุ่มงานสูตินรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี เผยว่า โรคเนื้องอกในมดลูกมีอาการเด่นๆ คือ ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ มีเลือดออกมากระหว่างรอบเดือน ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ออกไม่มาก หรือมีอาการท้องผูก ผิดปกติ คนไข้ส่วนใหญ่ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องประจำเดือนหรือปวดท้องน้อยแบบเรื้อรัง แต่พอตรวจอย่างละเอียดส่วนใหญ่เป็นเนื้องอกในมดลูก ซึ่งโรคนรีเวชจะพบมากในผู้หญิงวัยทำงานอายุ 30-40 ปี หรือประมาณ 20-25% ของผู้หญิงวัยทำงาน คิดเป็น 1 ใน 4
ปัจจัยเสี่ยงของโรคเนื้องอกในมดลูก ได้แก่
กรรมพันธุ์ซึ่งถ้าคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกในมดลูกทำให้คนอื่นมีโอกาสเป็นมากขึ้น
การรับประทานอาหารซึ่งอาหารจำพวกเนื้อ หรือเนื้อแดง เพิ่มความเสี่ยงในการทำให้เกิดเนื้องอกในมดลูกได้สูง
โดยความรุนแรงของอาการเนื้องอกในมดลูกนั้นไม่ส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็จะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิด เช่น เลือดออกมากจนผิดปกติตอนมี ประจำเดือนหรือถ้ามีการกดเบียดของก้อนเนื้อก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือรบกวนการทำงานได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของผู้ป่วยโรคเนื้องอกในมดลูกนั้นคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ใส่ใจไปตรวจ เพราะคิดว่าเป็นแค่อาการปวดประจำเดือนธรรมดา และบางส่วนมีความเขินอายที่จะมาพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน ถึงแม้ว่าอาการโรคเนื้องอก ในมดลูก ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่จากสถิติแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นโรคเนื้องอกในมดลูก 1,000 คน จะพบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งได้ 1 คน ซึ่งส่วนมากมักพบในผู้หญิงอายุ 50-60 ปีขึ้นไป ดังนั้นสาวๆ ควรสังเกตอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง ควรตรวจสุขภาพ และตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อพบว่ามีความผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที
ทางด้าน อ.พญ.อรวิน วัลลิภากร สาขาวิชาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า เนื้องอกในมดลูกถือว่าเป็นเนื้องอกที่พบได้เยอะที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์คือเริ่มมีประจำเดือน โดยขนาดของเนื้องอกก็มีหลากหลายในแต่ละราย ตั้งแต่เล็กๆ ระดับมิลลิเมตรคือไม่ถึงเซนติเมตร ไปจนถึงเป็นสิบๆ เซนติเมตร เท่ากับลูกมะพร้าว หรือลูกแตงโมก็แล้วแต่สรีระของแต่ละบุคคล
ส่วนใหญ่ประมาณ 99% ไม่ใช่เนื้อมะเร็ง ก็คือเป็นเนื้องอกที่เป็นเนื้อดี จะไม่ใช่โรคมะเร็ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนใหญ่เราจะอัลตราซาวนด์ตรวจเจอว่าเป็นเนื้องอกมดลูก แต่ว่ามันก็มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นมะเร็ง แต่ว่าไม่เยอะ ประมาณสัก 1 ใน 10,000 หรือ 1 ใน 100,000
สาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกในมดลูก
ปัจจัยส่วนหนึ่งเป็นเรื่องกรรมพันธุ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโรคใดๆ และเกี่ยวกับเรื่องการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิง อย่างที่ทราบกันคือ ตัวเนื้องอกนี้มักจะเจอในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์คือ มีประจำเดือนไปสัก 3 ปี 5 ปี 10 ปี แล้วเริ่มตรวจเจอว่ามีเนื้องอกมดลูก จริงๆ มันก็คือเหมือนเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกของเรา เซลล์มดลูกเราปกติที่มีการตอบสนองต่อฮอร์โมน แล้วก็เจริญเติบโตผิดปกติกลายเป็นเนื้องอก
อาการเนื้องอกมดลูกส่วนใหญ่จะมาด้วย 3 อาการหลักๆ
อาการแรกที่เจอเยอะที่สุดคือ คนไข้จะคลำได้ก้อนที่ท้องน้อย ซึ่งถ้าเกิดผู้หญิงเราคลำก้อนที่ท้องน้อยได้ ส่วนมากจะเป็นเนื้องอกมดลูก สังเกตดูจากคนท้อง กว่าจะเห็นว่าตั้งครรภ์ก็ประมาณ 4-5 เดือนไปแล้ว เช่นเดียวกัน เนื้องอกมดลูกนี้ก็ต้องทำให้มดลูกมีขนาดโตเท่ากับคนท้อง 4-5 เดือนแล้ว ซึ่งประมาณสัก 15 เซนติเมตรขึ้นไปถึงจะคลำเองได้จากหน้าท้อง
อาการที่พบบ่อยที่ทำให้คนไข้ต้องมาพบคุณหมอสูตินรีเวช คือมีประจำเดือนออกเยอะ เพราะตัวเนื้องอกไปเบียดโพรงมดลูก ทำให้ประจำเดือนออกเยอะ แล้วบางทีออกเยอะมากเป็นลิ่มเลือดเป็นก้อนเลือด บางคนให้ประวัติว่า เป็นประจำเดือนแล้วเป็นลม แล้วก็ต้องไปรับเลือดที่โรงพยาบาลทุกครั้งที่เป็นประจำเดือน อันนี้จะมีบ้างประปราย
อาการที่สามมักจะเกี่ยวข้องกับการมีบุตรยาก จะตรวจพบเมื่อคนไข้ไปตรวจกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านมีบุตรยาก พออัลตราซาวนด์ถึงจะเจอ อันนี้มักจะเป็นลักษณะก้อนเล็กๆ ไม่บ่งอาการอะไร บางทีอาจจะมีก้อนแค่ 1-2 เซนติเมตรอยู่ในโพรงมดลูก ไปขวางการฝังตัวของทารกทำให้มีบุตรยาก
อาการที่รุนแรงบางคนมีเลือกออกเยอะ ก็มีอาการโลหิตจางได้ หรือบางคนที่ลักษณะก้อนมันยื่นออกไปข้างนอก หมายถึงไม่ได้ยื่นเข้าไปในโพรงมดลูก ก็จะทำให้ไม่มีประจำเดือนออกเยอะ แต่มันจะยื่นเข้าไปในอุ้งเชิงกรานหรือว่าในท้องน้อยของเรา อันนี้ก็จะไปกดเบียดลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ ที่เจอบ่อยก็คือ มันเบียดมาข้างหน้า ก็จะกดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คนไข้ปัสสาวะบ่อย คนไข้อาจจะเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมง นอนหลับไปแล้วก็ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำทุก 2-3 ชั่วโมง นอนไม่เต็มอิ่ม อันนี้ก็จะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตคนไข้
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเนื้องอกในมดลูก
ถ้าตรวจเจอแต่เนิ่นๆ ก็จะรักษาง่ายกว่า อาจจะรักษาด้วยยาหรือสังเกตอาการ วิธีป้องกันยังไม่มีวิธีที่ชัดเจน แต่มีรายงานว่าคนไข้ที่มีลูกแล้วจะทำให้พบอุบัติการณ์การเกิดเนื้องอกในมดลูกน้อยกว่าผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีลูก ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่าการรับประทานเนื้อแดงสัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกในมดลูก แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ให้งดขนาดนั้น คือรายงานมาจากการไปสอบถามคนที่เป็น แล้วเจอว่าคนที่เป็นเนื้องอกมดลูกจะมีการรับประทานเนื้อแดงมากกว่า แต่ถามว่ามันเป็นสาเหตุหรือเปล่า ก็อาจจะยังไม่ใช่
คำแนะนำจากหมอ
แนะนำให้หญิงไทยเข้ามาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หมอสูตินรีเวชจะมีการตรวจภายใน ก็คือ การคลำมดลูกรังไข่ด้วย ถ้ามดลูกโตเท่ากับคนท้องสัก 2 เดือน ก็จะเจอแล้ว สักประมาณ 4-5 เซนติเมตร เราก็จะคลำได้ เพราะฉะนั้น แนะนำให้เข้ามาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจภายใน ถ้าคุณหมอสงสัยจริงๆ ก็จะมีการอัลตราซาวนด์ร่วมด้วย
สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เราก็หลีกเลี่ยงไม่ตรวจภายในได้ การตรวจอัลตราซาวนด์ทางหน้าท้องก็เห็นเนื้องอก 2-3 เซนติเมตรได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นง่าย ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว
1. どこ? (doko) ที่ไหน
2. 危ない (abunai) อันตราย
3. 駅 (eki) สถานีรถไฟ
4. ホテル (hoteru) โรงแรม
5. トイレ (toire) ห้องน้ำ
6. タクシー (takushii) แท็กซี่
7. まっすぐ (massugu) ตรงไป
8. 左 (hidari) ซ้าย
9. 右 (migi) ขวา
10. わかりません (wakarimasen) ไม่เข้าใจครับ/ค่ะ
11. 助けて (tasukete) ช่วยด้วย
12. ありがとうございます (arigatou gozaimasu) ขอบคุณมาก
เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้เรียนรู้คำศัพท์แล้ว ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น อย่าลืมเอาไปทดลองใช้ดูกันนะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลจาก ilovejapan.co.th
“Xiaomi” มีทุกอย่าง เปิดตัว “สุขาแมวอัจฉริยะ”
ทาสแมว เตรียมเสียเงิน Xiaomi เปิดตัว สุขาแมวอัจฉริยะ ราคาสบายกระเป๋า แลกความสบายจมูกเรื่องกลิ่นสิ่งปฏิกูล
นวัตกรรม Xiaomi เสียวหมี่ ค่ายยักษ์แดนมังกร ประเทศจีน ที่ใครหลายคนบอกว่า เสียวหมี่ คิดทุกอย่างเป็นนวัตกรรมในชีวิตแทนมนุษย์อย่างเราๆ ล่าสุด มีการเปิดตัว สุขาแมวอัจฉริยะ
ที่ทำเอาทาสแมว หรือ ผู้ที่เลี้ยงแมวแล้วพบปัญหาใหญ่ เรื่อง กลิ่นเหม็นของสิ่งปฏิกูล แต่เจ้าสุขาแมวอัจฉริยะนี้ จะช่วยให้ปัญหานี้หมดไป แถมยังลดภาระการซื้อ “ทรายแมว” มาเทใส่กระบะได้อีกด้วย
นวัตกรรมสินค้า ล่าสุด Xiaomi Youpin ได้เปิดตัวสุขาแมวอัจฉริยะ CATLINK Automatic Litter Box Lite ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ๋ 60 x 71 x 58 เซนติเมตร น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ดีไซน์กล่องในรูปแบบสามเหลี่ยมพีรามิด เพื่อความมั่นคงไม่พลิกคว่ำง่าย
คุณสมบัติต่างๆของ CATLINK Automatic Litter Box Lite ก็คือ มีกล่องเก็บสิ่งปฏิกูลจากแมวเหมียวที่ปล่อยออกมา ขนาด 13 ลิตร และมีห้องกำจัดกลิ่นแบบปิดผนึก 2 ชั้น ที่สำคัญคือ ระบบความปลอดภัย 3 ชั้น
โดยจะทำความสะอาดของเสีย ที่แมวปล่อยออกมาโดยอัตโนมัติ หลังจากแมวทิ้งไว้ 3 นาที ซึ่งจะปล่อยของเสียลงในถังเก็บด้านล่าง และถ้าหากแมวกลับเข้ามา ในระหว่างทำความสะอาด ระบบก็จะหยุดทำงานทันที จนกว่าจะตรวจพบว่า แมวได้ออกไปแล้ว
สุขาแมวอัจฉริยะของ Xiaomi Youpin ราคาเพียง 999 หยวน หรือราว 4,390 บาท ซึ่งกำลังเปิดรับจอง ในรูปแบบระดมทุน ผ่านแพลตฟอร์มของ Xiaomi Youpin
แต่หลังจากหมดแคมเปญระดมทุน จะวางจำหน่ายในราคาปกติ 1,699 หยวน หรือราว 7,490 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ฉัตรพระอินทร์ สรรพคุณและประโยชน์ของต้นฉัตรพระอินทร์ 19 ข้อ !
ฉัตรพระอินทร์
ฉัตรพระอินทร์ ชื่อสามัญ Lion ‘s ear, Hallow stalk[2]
ฉัตรพระอินทร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Leonotis nepetifolia (L.) R.Br. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Leonotis nepetifolia var. nepetifolia, Leonurus nepetifolius (L.) Mill., Phlomis nepetifolia L.) จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรือ LABIATAE)[1]
สมุนไพรฉัตรพระอินทร์ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เสกกษัตริย์ (ชัยภูมิ), นางอั้วโคก (นครราชสีมา), จ่อฟ้า (ตาก), เทียนป่า (ปราจีนบุรี), หญ้าเหลี่ยม (สุราษฎร์ธานี) เป็นต้น[1]
ลักษณะของฉัตรพระอินทร์
- ต้นฉัตรพระอินทร์ จัดเป็นพรรณไม้พุ่มล้มลุก ลำต้นสูงชะลูด มีอายุเพียงฤดูเดียว ไม่ค่อยแตกกิ่งก้าน แต่จะแตกกิ่งแขนงมากบริเวณใกล้ปลายยอด ลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 1-2.5 เมตร ลักษณะของลำต้นและกิ่งก้านเป็นเหลี่ยม ระหว่างเหลี่ยมเป็นร่อง มีสีเขียวและเป็นร่องลึก ตามลำต้นมีขนละเอียดสั้น ๆ ขึ้นปกคลุม ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ชอบดินร่วน ความชื้นและแสงแดดปานกลาง เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปแอฟริกา ในประเทศไทยมักพบขึ้นบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ดินร่วนซุย ตามป่าละเมาะ และที่ว่างทิ้งร้างริมทางทั่วไป[1],[2]
- ใบฉัตรพระอินทร์ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมนเว้า ส่วนขอบใบหยักมนแกมฟันเลื่อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4.5-6 เซนติเมตร แผ่นใบทั้งสองด้านแข็งและหนาม และมีขนละเอียด เส้นใบด้านล่างเห็นชัดกว่าด้านบน ก้านใบมีลักษณะเรียวเล็ก ยาวได้ประมาณ 3-5 เซนติเมตร ใบที่ออกตามข้อส่วนยอดของลำต้นและข้อที่ออกดอกมักมีขนาดเล็ก แคบ และสั้นกว่า และมักหลุดร่วงได้ง่าย[1],[2]
- ดอกฉัตรพระอินทร์ ออกดอกเป็นช่อแบบช่อผสม เรียงตัวอัดกันแน่นเป็นช่อรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ออกเป็นกระจุกตามข้อ 2-8 ข้อ เป็นวงรอบลำต้นเป็นชั้นคล้ายฉัตร ดอกย่อยจะมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีส้มสดหรือสีแดงอมส้ม โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายกลีบมีขนยาว ปลายแยกออกเป็น 2 ปาก แบ่งเป็นปากล่างและปากบน ซึ่งปากล่างจะแห้งเหี่ยวก่อนที่ดอกจะบาน โดยปากบนจะมีลักษณะตั้งตรงมี 2 หยัก ยาวได้ประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร เป็นกระพุ้งมีขนยาว ส่วนปากด้านล่างมีหยักเล็ก ๆ 3 หยัก แฉกตรงกลางจะมีขนาดใหญ่กว่าแฉกด้านข้าง ส่วนใบประดับย่อยนั้นมีจำนวนมาก ลักษณะเป็นรูปแถบ ปลายแหลมคล้ายหนาม ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีขน ดอกย่อยไม่มีก้าน กลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็นแฉกแหลม 8 แฉก โคนหลอดด้านนอกมีขนสั้น ตอนปลายมีขนเรียว ส่วนด้านในเกลี้ยง มีเส้นตามยาว 10 เส้น เห็นได้ชัดเจน ดอกมีเกสรเพศผู้ 4 อัน อยู่กึ่งกลางหลอดกลีบดอก ก้านเกสรเกลี้ยง อับเรณูติดกัน ส่วนก้านเกสรเพศเมียจะสั้น ปลายแยกออกเป็น 2 แฉก จะเริ่มออกดอกเมื่อต้นเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว[1],[2]
- ผลฉัตรพระอินทร์ ผลเป็นผลแห้ง ประกอบด้วย 4 ผลย่อย ลักษณะของผลเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ มีสีดำหม่น[1]
สรรพคุณของฉัตรพระอินทร์
- ต้นใช้ต้มกับน้ำเป็นยาลดไข้ ขับเหงื่อ ขับระดู และเป็นยาระบาย (ต้น)[1],[2]
- รากใช้ตำพอกทรวงอก เป็นยาแก้อาการเต้านมคัด (ราก)[1]
- ใบมีรสขม ใช้เป็นยาบำรุง ยาแก้ไข้ แก้โรคปวดบวมตามข้อ และใช้ตำพอกแก้แผลอักเสบ (ใบ)[1],[2]
- ดอกมีรสขมเย็น นำมาเผาแล้วใช้ขี้เถ้าทาแก้คัน แก้กลากเกลื้อน ผิวหนังอักเสบ รวมถึงแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก และแผลพุพองเนื่องจากถูกของร้อน (ดอก)[1],[2]
- เมล็ดมีรสขม มีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการบำบัดไข้จับสั่นหรือโรคมาลาเรีย (Malaria) (เมล็ด)[1],[2]
- ทั้งต้นมีรสขม ใช้เป็นยาแก้ไข้ป่า เป็นยาระบาย ยาขับประจำเดือนของสตรี แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และใช้ผสมกับต้นสบู่ดำ ต้มกับน้ำ แช่เท้า แก้ปวดขา (ทั้งต้น)[1],[2]
ประโยชน์ของฉัตรพระอินทร์
- ช่อผลนิยมนำมาใช้ปักแจกันประดับเพื่อความสวยงาม[2]
- ในสมัยก่อนคนต่างจังหวัดนิยมปลูกต้นฉัตรพระอินทร์ไว้เป็นไม้ประดับ เพราะมีดอกเรียงเป็นชั้นดูสวยงามและแปลกตา
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,600.00 | 25,700.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,658.00 | 25,135.28 | 26,200.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,492.20 | 22,621.75 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,326.40 | 20,108.22 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 746.00 | 11,309.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 580.00 | 8,792.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,718.00 | 26,044.88 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/06/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.55 | 21.55 | 21.95 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.28 | 21.28 | 21.68 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.04 | 20.04 | 20.44 | 20.04 | 20.04 | – | 20.04 | 20.04 | 20.04 | 20.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.99 | 17.99 | – | – | – | – | – | 17.99 | – | – |
เบนซิน 95 | 28.96 | – | – | – | 29.41 | – | 29.46 | 28.96 | – | 28.96 |
ดีเซล | 21.99 | 21.99 | 22.39 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 |
ดีเซล B10 | 18.99 | 18.99 | 19.39 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 |
ดีเซล B20 | 18.74 | 18.74 | 19.14 | 18.74 | 18.74 | – | 18.74 | 18.74 | – | 18.74 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.14 | 26.16 | 28.54 | 28.14 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |