ดีมานด์ ‘ที่อยู่อาศัย’ ตจว.พุ่ง เอพีคว้ายอด อภิทาวน์ทะลุ 900 ล.
เอพี เผยแบรนด์บ้าน “อภิทาวน์”ได้รับการตอบรับดี กวาดยอดขายทะลุ 900 ล้านบาท สะท้อนหัวเมืองต่างจังหวัดดีมานด์ที่อยู่อาศัยยังสูง
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพีไทยแลนด์ กล่าวว่า “จากแผนดำเนินธุรกิจขยายสินค้าแนวราบเครือเอพีสู่ตลาดจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ภายใต้แบรนด์ ‘อภิทาวน์’ พอร์ตสินค้าใหม่โครงการแนวราบแบบมิกซ์ โปรดักส์ ที่จะตอบทุกความต้องการ ที่อยู่อาศัย เป็นหัวหอกในการรุกตลาด
ภายใต้โรดแมพสำคัญ MASTERPLAN FOR TOMORROW ขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยคุณภาพ เน้นเจาะลูกค้าเรียลดีมานด์ครอบครัวรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 30-45 ปี ที่มองหาบ้านหลังใหม่ ที่ถูกคิด พัฒนา ตลอดจนดูแลบริหารจัดการโดยนักพัฒนาอสังหาฯ ที่มีชื่อเสียงอันดันต้นของประเทศ ล่าสุด ‘อภิทาวน์’ ได้สร้างท็อปฟอร์มยอดขายที่ดีมากเหนือความคาดหมาย รวมแล้วกว่า 900 ล้านบาท ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีในทุกจังหวัดที่เราบุกพัฒนา”
เริ่มจากการเปิดตัว ‘อภิทาวน์’ ขอนแก่น ระยอง และนครศรีธรรมราช ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สร้างปรากฏการณ์ยอดจองทะลุเฟสสร้างไม่ทันขาย ซึ่งนับเป็นการรุกตลาดแนวราบในต่างจังหวัดครั้งแรกของเอพี และล่าสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ลุยขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง นำโครงการ ‘อภิทาวน์’ เปิดเพิ่มเติมอีก 2 จังหวัดใหม่
ได้แก่ อภิทาวน์ อยุธยา ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ (ถนนอโยธยา) เพียง 900 เมตร ถึงเซ็นทรัล อยุธยา ใกล้ศูนย์ราชการและนิคมโรจนะ เพียง 10 นาที จำนวน 441 ยูนิต บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ราคาเริ่ม 1.99 – 4.39 ล้านบาท และ อภิทาวน์ เชียงราย ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ (ถนนเชียงราย-เชียงของ) ติด โฮมโปรแม่กรณ์ เพียง 15 นาทีถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จำนวน 155 ยูนิต บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ราคาเริ่ม 4.49 – 10 ล้านบาท
โดยสามารถปิดการขายไปได้กว่า 300 ล้านบาท ในช่วงพรีเซล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สะท้อนความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของลูกค้าในตลาดหัวเมืองใหญ่ ที่มีต่อแบรนด์ ทีมงานคุณภาพ และโครงการภายใต้การพัฒนาของเอพีได้เป็นอย่างดี” นายวิทการ กล่าวเสริม
“ทั้งนี้ 2 กลยุทธ์สำคัญที่เอพีนำพอร์ตสินค้าใหม่แบรนด์ ‘อภิทาวน์” บุกดีมานด์แนวราบในต่างจังหวัด เพื่อขยายให้ครอบคลุมกับความต้องการของคนไทยทุกภูมิภาค ผ่านกลยุทธ์แรกคือเจาะหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพน่าสนใจครอบคลุมทั้ง 4 มิติหลัก ได้แก่
1. ความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจคจากภาครัฐ
2. แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบหลายมิติ
3. ความเป็นเมืองที่ส่งเสริมการเติบโตของดีมานด์ตลาดสินค้าที่อยู่อาศัย และ
4. เมืองเซนเตอร์ทางการศึกษาหรือการแพทย์ของภูมิภาค และกลยุทธ์ที่สองการพัฒนาสินค้าเพื่อเป็นสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น
นายวิทการ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวเมืองมายาวนานของเอพี โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ในการดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งภายใต้พันธกิจใหญ่ EMPOWER LIVING เรามั่นใจว่าทุกผลลัพธ์ความตั้งใจ และการใส่ใจในรายละเอียดการพัฒนาโครงการ ‘อภิทาวน์’ สู่การเป็นมาสเตอร์แพลนแห่งการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดในวันนี้ ที่เอพีสามารถกวาดยอดขายรวมได้แล้วกว่า 900 ล้านบาท
นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเหนือความคาดหมาย และยังเป็นผลงานที่สะท้อนดีมานด์ลูกค้าในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และความมั่นใจของลูกค้าต่อโครงการภายใต้การพัฒนาโดยเอพีได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าทั้ง 2 กลยุทธ์ที่เราจะนำมาใช้ จะสะท้อนไปยังสินค้าและบริการที่พร้อมเอ็มพาวเวอร์ทุกมิติของชีวิต และทำให้ ‘อภิทาวน์’ พอร์ตสินค้าใหม่เครือเอพี สามารถรักษาการเติบโตและเป็นตัวเลือกแรกที่ดีที่สุดในทุกตลาดหัวเมืองใหญ่ที่เราทำการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สรุปบริษัท เปิดตัวโครงการ “อภิทาวน์” ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,730 ล้านบาท ประกอบด้วย “อภิทาวน์ ขอนแก่น” “อภิทาวน์ ระยอง” “อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช” “อภิทาวน์ อยุธยา” และ “อภิทาวน์ เชียงราย”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘ออริจิ้น’ ผนึก ‘กลุ่มดุสิต’ ลุยอีอีซี ปั้นเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์หรูเจาะนักลงทุน
“ออริจิ้น” เชื่อมั่นศักยภาพอีอีซี จับมือ “กลุ่มดุสิตธานี” ติดปีก บุกตลาดอสังหาฯเพื่อนักลงทุน ปั้น Hampton ศรีราชา รูปแบบเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ให้บริการระดับโรงแรม มูลค่า1,400 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินธุรกิจปี 2564 ภายใต้แนวคิด “ORIGIN NEXT LEVEL” ที่ต้องการสร้าง Next Level of Business Expansion ควบคู่ไปกับ Next Level of Living Solutions บริษัทจะนำแบรนด์ แฮมป์ตัน (Hampton) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 แบรนด์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ของบริษัท มาเปิดตัวและเปิดขายอย่างเป็นทางการ มุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มนักลงทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้เทรนด์การลงทุนของประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงไป อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ทำให้ผู้บริโภคมองหาโอกาสการนำเงินฝากออกมาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงขึ้น แต่ Pain Point ของผู้สนใจลงทุนคือ การต้องแบกรับความเสี่ยงต่างๆ เอง เช่น ถ้าลงทุนคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า ก็ต้องรับความเสี่ยงในการหาผู้เช่าเอง ไปจนถึงการมีผลตอบแทนที่ไม่สม่ำเสมอ เราจึงส่งแบรนด์แฮมป์ตัน มาแก้ Pain Point ของผู้สนใจลงทุนตอบโจทย์เทรนด์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หรือ Investment Property ยุคใหม่” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมทุนกับ กลุ่มดุสิตธานี พัฒนา แฮมป์ตัน ศรีราชา (Hampton Sriracha) เป็นเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์หรู 5 ดาว มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวถือเป็น Investment Property เต็มรูปแบบแห่งแรกของทั้ง 2 บริษัท ผสมผสานจุดแข็งของทั้งคู่ ทั้งศิลปะการดีไซน์ และศาสตร์แห่งการบริการ ต่อยอดสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีการบริการมาตรฐานโรงแรมควบคู่การบริหารจัดการค่าเช่ารายเดือนแบบคอนโดมิเนียม การันตีผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนสูงสุด 5-9% ต่อปี* จ่ายเงินปันผล Pool Dividend ทุกไตรมาส (ปีละ 4 ครั้ง) ยาวต่อเนื่อง 10 ปี* อีกทั้งยังสามารถซื้อ-ขายเปลี่ยนมือได้ตลอดเวลา
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เลือกเปิดตัว Investment Property แห่งแรกใจกลางเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการเติบโตแห่งอนาคต มีปัจจัยบวกจากการสนับสนุนการเติบโตของภาครัฐผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเภา) รถไฟรางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือเชื่อมต่อเขตอุตสาหกรรมทั่วประเทศไปยังท่าเรือหลัก 3 แห่ง ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานฯ โครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)
โดยในปี 2563 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุน มูลค่าการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 43% ของการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ และมีแนวโน้มของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เป็น New S Curve เข้ามาลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เมื่อการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง จะส่งผลให้ความต้องการการพักอาศัยระยะยาว (Long Stay) ในพื้นที่นี้สูงขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ โครงการแฮมป์ตัน ศรีราชา ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 1 งาน บนแปลงที่ดินใจกลางเมืองแปลงสุดท้ายของศรีราชา เป็นอาคารชุด 1 อาคาร 26 ชั้น 468 ยูนิตพักอาศัย และ 3 ยูนิตเชิงพาณิชย์ มีขนาดห้องพักตั้งแต่ 25.30-57.20 ตร.ม. ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตทั้งด้านการทำงาน การใช้ชีวิต และสุขภาพ
อาทิ Business Lounge, Business Centre, Concierge Service, Meeting Room, Conference Room, Sky Fitness, Sky Lounge, Private Onsen, Wine & Cigar Bar, Private Fine Dining, Infinity Edge Pool สำหรับยูนิตพักอาศัยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนสำหรับผู้ซื้อพักอาศัยเองภายใต้ชื่อแฮมป์ตัน ศรีราชา และส่วนสำหรับผู้ซื้อลงทุนที่ทางบริษัทการันตีผลตอบแทนและมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ภายใต้ชื่อ เดอะ แฮมป์ตัน สวีท ศรีราชา (The Hampton Suite Sriracha)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 64 นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้เล็กน้อย เล็งหุ้นขนาดใหญ่หนุนหลังเสร็จสิ้นการปรับลดน้ำหนักลงทุนของฟุตซี่ไปแล้ว และราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังวลข่าวที่ออกมาว่าโรงงานน้ำมันแห่งหนึ่งในซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีโดยโดรน
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) ได้ขึ้นมาทะลุ 1.7% แล้ว ก็กดดันตลาดบ้างแต่ก็มองว่าตลาดฯได้รับรู้ไปบ้างแล้ว ส่วนบ้านเราก็ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปะทะกัน
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และจับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 24 มี.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
ด้านสมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำวันนี้ ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยทองแท่งรับซื้อ 25,300 บาท ขายออก 25,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 24,847.24 บาท ขายออก 25,900 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เงื่อนไขสำคัญ! “เมอร์ฟี่ย์” ชี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมปลด “โซลชา” หลังจบซีซั่น
แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ อดีตกองกลางชื่อดังของ ลิเวอร์พูล เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตัดสินใจปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกจากตำแหน่งหากว่าเจ้าตัวไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้หลังจบฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก ทอล์คสปอร์ต
เร้ดเดวิลส์ ต้องอกหักตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก เอฟเอคัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์หลังพ่ายให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-1 ในขณะเดียวกันพวกเขายังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ถึง 14 คะแนน
แม้ก่อนหน้านี้ โซลชา จะออกมากล่าวถึงการค้วาแชมป์ฟุตบอลถ้วยว่า “ไม่ใช่สิ่งที่แสดงออกถึงพัฒนาการที่แท้จริงของทีม” ก็ตาม แต่ เมอร์ฟีย์ ก็เชื่อว่าหากในซีซันนี้เจ้าตัวยังไร้ความสำเร็จใด ๆ แม้ว่าจะพาทีมคว้าท็อปโฟร์ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน เขาก็อาจจะโดนไล่ออกหลังจบฤดูกาลได้
“พวกเขาไม่สามารถอ้างได้ว่านักเตะมีอาการล้า เพราะตัวผุ้เล่นที่ลงเล่นในเกมที่แพ้ เลสเตอร์ นั้นก็แข็งแกร่งพอตัว และการที่ ยูไนเต็ด ต้องลงเล่นในฟุตบอล ยูโรปา นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ เรื่องนี้แฟนบอลก้รู้ดี ส่วนตัว โซลชา เองเขาก็รู้ดีเช่นกัน”
“การที่ไม่ได้ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นเป็นอะไรที่เสียหายหนักมาก ใช่ ปีนี้พวกเขาจะได้ไปเล่นถ้วยนี้อีกครั้ง พวกเขาน่าจะทำได้ แต่ตอนนี้สำหรับผมแล้ว ยูโรปาลีก คือสิ่งที่สำคัญสำหรับเขาและสโมสร”
“ผมชอบเขานะ และผมก็ไม่ใช่คนที่อยากจะเห็นผู้จัดการทีมโดนไล่ออก และผมก็คิดว่าตอนนี้พวกเขากำลังก้าวไปข้างหน้า แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำได้ดีกว่านี้ ถ้าคุณไม่สามารถเป็นแชมป์ ยูโรปาลีก ได้และถึงแม้ว่าจะจบด้วยท็อปโฟร์ก็ตาม ผมคิดว่าสโมสรคงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง” เมอร์ฟี่ย์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เตือนภาวะหยุดหายใจขณะหลับเสี่ยงโรค ควรรีบไปพบแพทย์
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น จะทำให้เกิดภาวะพร่องออกซิเจนและเกิดคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในเลือดจนถึงระดับที่สมองต้องมีการสั่งการให้หายใจ ทำให้สมองถูกกระตุ้นให้ตื่นอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกว่านอนหลับไม่สนิท โดยภาวะนี้พบมากในผู้ชายประมาณร้อยละ 15 ส่วนผู้หญิงพบได้ประมาณร้อยละ 6 ของประชากรวัยกลางคน ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการนอนกรน ตื่นเช้าไม่สดชื่น ปากแห้งคอแห้ง อ่อนเพลียตอนกลางวัน หรือรู้สึกตัวตื่นมาสำลักตอนกลางคืน ถือว่ามีภาวะเสี่ยงต่อโรคและควรเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์
ด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า หากพบว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควรรีบไปพบแพทย์รับการตรวจและรักษาเพื่อลดปัญหาหรือความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
Can, Could, Must, Should
ในบทความนี้ เรามารู้จักวิธีการใช้คำศัพท์ที่เป็น ‘V. ช่วย’ ซึ่งมักถูกมองข้ามกันสัก 4 คำ ได้แก่
Can, Could, Must, Should
ครูจะยกตัวอย่างวิธีการใช้แต่ละคำแบบง่ายๆ รวบรัด แถมด้วย ‘ทิป’ เล็กๆน้อยๆมาฝากกันในช่วงท้าย
.
เริ่มที่ can, could ซึ่งแปลตรงตัวเลยว่า ‘สามารถ‘ โดยจะนำมาทำเป็นประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถามก็ได้
เช่น
- I can play football.
- She cannot go with me.
- Could I have your book?
ในประโยคสุดท้าย ซึ่งเป็นประโยคคำถาม เราจะพูดหรือเขียนโดยใช้คำว่า Can ก็ได้ แต่สาเหตุที่ใช้คำว่า Could เพราะมันจะช่วยให้ฟังดูเป็นการถามแบบสุภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเติมคำว่า ‘please’ ไว้ท้ายประโยคเลย
นอกจากนี้ Could ยังต่างกับ Can ตรงที่ว่า….
Could เป็นรูปอดีตและอนาคตของคำว่า Can
ดังนั้น Could I have your book? จึงอาจหมายความได้ว่า ‘ผม/ดิฉันขอยืมหนังสือของคุณ (ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต) ได้ไหม’
ทั้งนี้ การถามด้วย Could จะมีความหมายในแบบแรก (สุภาพ) หรือแบบหลัง (ถามเผื่อในอนาคต) ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริบทของการสนทนาดังกล่าว
.
ส่วนคำว่า must (และ must not) แปลว่า ‘ต้อง (และ ต้องไม่)
เช่น
- I must go now. ฉันต้องรีบไปตอนนี้
- You must not beat those kids. คุณต้องไม่ตีเด็กพวกนั้นนะ
หากจะทำเป็นประโยคคำถาม ก็ตามสูตรเดิมครับ คือ เอา V. ช่วยมาขึ้นต้นประโยค เช่น
Must you not follow the rules? (คุณไม่ต้องทำตามกฏเหรอ)
.
ส่วนคำว่า should/ should not นั้น แปลว่า ‘ควรจะ/ไม่ควรจะ’
ตัวอย่างเช่น
- You should not treat her bad. คุณไม่ควรปฏิบัติต่อเธอแย่ๆนะ
- You should be kind to her. คุณควรจะใจดี (มีเมตตา)กับเธอ
Tips1
must และ should ต้องตามด้วย V. เท่านั้น ห้ามตามด้วย to
Tips2
รูปปฏิเสธของ can จะเขียน cannot หรือ can not ก็ได้
Tips3
ทั้ง cannot, could not, must not, และ should not ต่างก็สามารถเขียนแบบย่อได้เหมือน V. to be เช่นกัน
คือ can’t, couldn’t, mustn’t, และ shouldn’t ตามลำดับ
a. You can obey the teacher.
b. You could obey the teacher.
c. You should obey the teacher.
d. You must obey the teacher.
2) ประโยคคำถามใดเขียนได้ถูกต้อง
a. Should you not walk slower?
b. Shouldn’t you walk slower?
c. Should you walk slower?
d. ถูกทุกข้อ
3) คำในข้อใดเขียนได้ถูกต้อง
a. can’t
b. cannot
c. can not
d. ถูกทุกข้อ
1. ( ข้อ d. ) เพราะคำว่า ‘must’ แปลว่า ‘ต้อง’
2. ( ข้อ d. ) เพราะถึงแม้ความหมายจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเขียนได้ถูกหลักแกรมม่าร์ทุกข้อ
3. ( ข้อ d. ) เพราะคำว่า can ในรูปปฏิเสธ จะเขียนว่า cannot หรือ can not ก็ถือว่าถูกต้องทั้งคู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเขียนติดกันหรือใช้คำว่า cannot มากกว่า
อาวดี้ ชูไฮไลท์”มอเตอร์โชว์”เปิด New Audi Q5 – RS e-tron GT
อาวดี้ จัดหนักรับ”มอเตอร์โชว์” เปิดตัว New Audi Q5 เคาะราคา 3.990 ล้านบาท และรถไฟฟ้า RS e-tron GT พร้อมอัดแคมเปญ 0% นาน7 ปี ไม่มีบอลลูน
สำหรับ The New Audi Q5 45 TFSI quattro S line Black Edition จุดเด่น อาทิ ช่วงล่างมาพร้อมระบบควบคุมโช๊คอัพแบบไฟฟ้า (damper control) ระบบกันสะเทือนมาตรฐาน พร้อมสปริงเหล็กที่คอยควบคุมระบบแดมเปอร์ที่ทำให้เกิดการกระจายแรงที่กว้างขึ้น
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid (MHEV) 4 สูบ แบบ direct injection เทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 249 แรงม้า แรงบิดที่ 370 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.3 วินาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรูปแบบ quattro with ultra technology ด้วยความเร็วสูงสุด 237 กิโลเมตร/ชั่วโมง ล้อขนาด 20 นิ้ว ลายสปอร์ตทูโทน พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง
ขณะที่ไฟหน้า LED daytime running lights ถูกดีไซน์ใหม่ เพิ่มความลงตัวให้กับด้านหน้ารถมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ด้วย Driving Assistance System ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลังหากรถด้านหลังเสี่ยงจะวิ่งมาชนจะรั้งเข็มขัดนิรภัย แจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (lane change assist หรือ Blind spot) รวมถึงการแจ้งเตือนด้านข้างด้านท้ายเมื่อจะลงรถ (exit warning) หากมีวัตถุจะวิ่งมาชน เช่น จักรยาน มอเตอร์ไซค์ จะมีสัญญาณไฟเตือน
ภายในห้องโดยสารใหม่ ถูกออกแบบให้มีความเอ็กซ์คลูซีฟ ระดับเฟิร์สคลาส ขณะที่ระบบการเชื่อมต่อและระบบอินโฟเทนเมนต์ถูกปรับใหม่ ให้ล้ำสมัยมากขึ้น จากการอัปเดต Modular Infotainment Platform (MIB3) รุ่นที่สาม ทำให้การประมวลผลสูงกว่ารุ่นก่อนถึงสิบเท่า
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Matte Brushed Aluminum เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports หุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งด้วยลาย diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line เสริมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น สปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line และ Paddle shift มาพร้อม Cruise control ระบบ MMI Radio plus ขนาด 10.1 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ Audi smartphone interface จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว
เครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen 3 มิติ Ambient Lighting 30 สี เพิ่มความสะดวกสบายควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน และช่องเชื่อมต่อ USB ในห้องโดยสารด้านหน้า-หลัง พื้นที่เก็บสัมภาระ 580 – 1580 ลิตร
สำหรับ The New Audi Q5 45 TFSI quattro S line Black Edition มีให้เลือก 5 สี คือ Glacier White, Mythos Black, Quantum grey สีเขียวสุดฮิตอย่าง District green และสีใหม่ Ultra Blue
นอกจากรถรุ่นใหม่แล้ว ภายในบูทอาวดี้ ในงาน Bangkok Motor Show 2021 ยังมีไฮไลท์อีกหนึ่งรุ่น The New Audi e-tron GT สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุด ซึ่งคันที่นำมาจัดแสดง เป็นเพียง 1 ใน 8 คัน ที่ประเทศไทยได้รับสิทธิ์นำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชีย
โดยถือเป็นการเปิดตัวกับสื่อมวลชนไทยและเปิดตัวกับสาธารณชน ในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก และเปิดรับจองในงานนี้ด้วย มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย 9 สี คือ e-tron GT quattro ราคา 6,390,000 บาท, รุ่น e-tron GT quattro Performance ราคา 6,790,000 บาท และตัวท็อป RS e-tron GT quattro ราคา 9,490,000 บาท
รวมถึงมีรถไฟฟ้า e-tron SUV อีก 2 รุ่น ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ คือ “Audi e-tron Sportback 55 quattro S line” และ Audi e-tron 55 quattro มาจัดแสดงอีกด้วย
นอกจากรถรุ่นใหม่และรุ่นอื่นๆรวมกว่า 20 รุ่นที่นำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์โชว์ 2021 อีกหนึ่งความพิเศษคือข้อเสนอทางการเงิน อาทิ
- Q8 55 TFSI quattro S line ดอกเบี้ย 0% 7 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 56,900 บาท
- TT Coupé 45 TFSI quattro S line ดอกเบี้ย 0% 7 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 26,500 บาท
- A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition ดอกเบี้ย 0% 5 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 50,500 บาท
- Q7 45 TDI quattro ดอกเบี้ย 0% 5 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 56,900 บาท
- Q3 35 TFSI S line ดอกเบี้ย 0% 5 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 24,990 บาท
- A5 Coupé 40 TFSI S line ดอกเบี้ย 0% 3 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 44,990 บาท
- e-tron Sportback 55 quattro S line ดอกเบี้ย 0% 3 ปี ไม่มีบอลลูน ผ่อนเดือนละ 88,500 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
โสน ดอกโสน สรรพคุณ และการปลูกโสน
โสน (Sesbania) เป็นพืชต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาปลูกเพื่อใช้เป็นพืชบำรุงดิน เนื่องจาก โสนเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีรากปมของเชื้อไรโซเบียมช่วยในการตรึงไนโตรเจนได้ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากดอกในการประกอบอาหาร โดยเฉพาะโสนหินหรือโสนรับประทานดอก ทั้งนี้ โสนที่พบในประเทศไทย ได้แก่ โสนหิน โสนอินเดีย และโสนแอฟริกัน เป็นต้น
• วงศ์ : Fabaceae
• วิทยาศาสตร์ :
– โสนอินเดีย Sesbania spiciosa.
– โสนแอฟริกัน Sesbania rostrata.
– โสนหิน/โสนกินดอก Sesbania javanica.
– ฯลฯ
• ชื่อสามัญ :
– Sesbania
– Sesbania pea
• ชื่อท้องถิ่น :
ภาคกลาง (ตามชนิดพันธุ์)
– โสนอินเดีย
– โสนแอฟริกัน
– โสนหิน/โสนกินดอก
ภาคเหนือ
– ผักฮองแฮง
– สีปรีหลา(กะเหลี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
• ถิ่นกำเนิด : ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชีย จากอินเดียจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทยด้วย
การแพร่กระจาย
โสน เป็นพืชชายน้ำที่ชอบเติบโตบริเวณพื้นที่ชุ่ม ในประเทศไทยสามารถพบได้ทุกภาค โดยมักพบริมแม่น้ำลำคลอง ริมอ่างเก็บน้ำ บ่อน้ำ หรือพื้นที่ชื้นที่มีน้ำขังบางครั้งคราว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
โสน เป็นพืชปีเดียว สามารถขึ้นเองตามธรรมชาติ ลำต้นมีลักษณะทรงกลมหรือเป็นเหลี่ยม ตั้งตรง และสูงชะลูด มีความสูงได้ถึง 4 เมตร ลำต้นแตกกิ่งค่อนข้างน้อย ทำให้เป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นมีสีเขียวเข้ม และมีปุ่มปมทั่ว (เฉพาะโสนแอฟริกัน) เปลือกลำต้นสามารถลอกออกเป็นเส้นได้ และใช้รัดของแทนเชือก ส่วนเนื้อไม้เป็นไม้เนื้ออ่อน มีลักษณะเปราะหักง่าย สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษได้ ทั้งนี้ หลังจากติดผลจนแก่แล้ว ใบโสน และต้นโสนจะค่อยๆเหี่ยวเหลือง และตายในเวลาไม่นาน
ใบ
ใบโสน เป็นประกอบแบบขนนก ประกอบด้วยก้านใบหลักที่แตกออกเยื้องสลับตามลำต้น ก้านใบหลักแต่ละใบประกอบด้วยใบย่อยจำนวนมาก ใบย่อยเรียงกันเป็นคู่ๆซ้าย-ขวา จำนวนใบย่อยประมาณ 20-40 คู่/ก้านใบหลัก ใบย่อยมีลักษณะมนรี คล้ายใบมะขาม แต่ยาว และใหญ่กว่าเล็กน้อย มี แผ่นใบ และขอบใบเรียบ สีเขียวสด โคนใบ และปลายใบมน ขนาดใบกว้างประมาณ 0.3-0.5 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 5-7 มิลลิเมตร
ดอก
ดอกโสน ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุก ประกอบด้วยก้านช่อดอกหลักที่แทงออกตามซอกใบหรือซอกกิ่งบริเวณปลายกิ่ง ช่อดอกมีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอกย่อย 5-12 ดอก/ช่อ ดอกย่อยมีความยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ประกอบด้วยกลีบดอกสีเหลือง จำนวน 5 กลีบ แบ่งเป็นกลีบนอก และกลีบใน โดยกลีบนอกจะมีขนาดใหญ่กว่ากลีบใน และอาจพบโคนกลีบของกลีบนอกมีจุดประสีน้ำตาลหรือสีม่วงแดง ตรงกลางมีเกสรตัวผู้ 10 อัน ทั้งนี้ โสนจะเริ่มออกดอกได้ประมาณ 40-60 วัน หลังปลูก
ผล
ผลโสน เรียกเป็น ฝัก ที่มีลักษณะเรียวยาว คล้ายฝักถั่วยาว กว้างประมาณ 4 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่มีสีม่วงอมน้ำตาล และจะปริแตกเมื่อแห้งจัด ด้านในฝักมีเมล็ดขนาดเล็ก 10-20 เมล็ด ขนาดเมล็ดประมาณ 0.5 เซนติเมตร แต่ละช่อดอกจะติดฝักประมาณ 3-8 ฝัก
พันธุ์โสนที่พบในไทย
1. โสนแอฟริกัน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania rostrata มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา กรมพัฒนาที่ดินนำเมล็ดเข้ามากปลูกครั้งแรก โดย ดร. สมศรี อรุณินท์ เมื่อปี พ.ศ. 2526 มีลักษณะเด่น คือ รากมีปม มีลำต้นสูงใกล้เคียงกับโสนอินเดีย ความสูงประมาณ 2-3.5 เมตร ลำต้นสูงชะลูด และแตกกิ่งมาก ผิวลำต้นมีสีเขียว และมีปุ่มปมทั่วต้น ซึ่งโสนชนิดอื่นจะไม่มี ดอกมีสีเหลือง ออกดอกเมื่ออายุประมาณ 50-60 วัน ฝักมีลักษณะกลม ปลายฝักแหลม เมล็ดในฝักประมาณ 11-17 เมล็ด เปลือกเมล็ดมีสีเขียวอมน้ำตาลถึงดำ น้ำหนักเมล็ด 1 กิโลกรัม มีเมล็ดประมาณ 100,000 เมล็ด
2. โสนอินเดีย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania spiciosa มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย รากมีปม มีลำต้นสูงปานกลางประมาณ 2-3.5 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย ดอกมีสีเหลือง ออกดอกเมื่ออายุประมาณ 80-90 วัน เมล็ดมีรูปทรงค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยม
3. โสนหิน หรือ โสนกินดอก มีชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania javanica รากมีปม มีลำต้นค่อนข้างสูงกว่าโสนทุกชนิดที่ 2-4. เมตร เนื้อไม้มีสีเหลืองอ่อน ใบยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร ช่อดอกมีดอกย่อย 5-12 ดอก นิยมใช้ยอดอ่อน และดอกมาประกอบอาหารมากกว่าโสนทุกชนิด
4. โสนคางคก มีชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania bispinosa
ประโยชน์โสน
1. ยอดอ่อน และดอก ใช้รับประทานสดคู่กับส้มตำหรือน้ำพริก หรือนำมาประกอบอาหารจำพวกแกง ต้ม และผัดต่างๆ
2. ดอกโสนนำมาขยำ และคั้นเอาน้ำสำหรับดื่ม
3. นิยมใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ป้องกันวัชพืชอื่นขึ้น และช่วยป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน
4. นิยมใช้ปลูกเป็นพืชบำรุงดิน ก่อนไถกลบให้ย่อยสลายในดิน ได้แก่ โสนอินเดีย และโสนแอฟริกัน
5. ใช้ปลูกเป็นพืชเพื่อการบำบัดน้ำเสีย โดยปลูกในกลุ่มพืชชายน้ำหรือริมน้ำ
6. โสน/โสนแอฟริกัน เป็นพืชตระกูลถั่วที่รากสามารถตรึงไนโตรเจนไว้ได้ และลำต้น ใบ ดอก ยังมีธาตุอาหารหลายชนิด จึงนิยมปลูกสำหรับไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินให้แก่พืช
7. ยอดอ่อน ดอกอ่อน และผลอ่อน ใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ อาทิ นำมาต้มรวมกับข้าวสำหรับเลี้ยงหมู
8. เปลือกโสนลอกเป็นเส้นสำหรับใช้ผลิตเชือก หรือใช้รัดของแทนเชือก
9. ลำต้นใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ
10. เนื้อลำต้นใช้สำหรับประดิษฐ์ดอกไม้ประดับ
11. ลำต้นนำมาตากแห้ง และบดด้วยเครื่อง ก่อนอัดเป็นแท่งสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงหาอาหาร
คุณค่าทางอาหารของดอกโสน (100 กรัม)
– โปรตีน: 3.6 กรัม
– ไขมัน : 0.4 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต : 5.6 กรัม
– แคลเซียม : 51มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส : 56 มิลลิกรัม
– เหล็ก : 8.2 มิลลิกรัม
– วิตามิน B 1 : 10.2 มิลลิกรัม
– วิตามิน B 2 : 0.33 มิลลิกรัม
– ไนอาซิน : 2.8 มิลลิกรัม
– วิตามิน C : 24 มิลลิกรัม
– เบต้าแคโรทีน : 34.3 ไมโครกรัม
– เส้นใย : 3.9 กรัม
ที่มา : 1)
เมนูอาหารดอกโสน
– ไข่เจียวดอกโสน
– แกงส้มดอกโสน
– แกงเลียงดอกโสน
– ผัดกระเพราดอกโสน
– ดอกโสนผัดไข่
– ดอกโสนน้ำมันหอย
– ฯลฯ
สรรพคุณโสน
ดอก
– ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
– ช่วยเจริญอาหาร
– ช่วยบำรุงสายตา
– ช่วยให้ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่ง
– ช่วยบำรุงผิวให้สดชื่น ไม่หยาบกร้าน
– ลดอาการลำคออักเสบ
– ช่วยขับเสมหะ
– แก้พิษร้อนใน
– แก้อาการปวดท้อง
– ดอกนำมาบด ก่อนใช้พอกทารักษาแผลจากแมลงกัดต่อย
– ดอกนำมาบด ใช้ทารักษาแผลสด
ลำต้น
– ลำต้นโสนใช้เผาไฟให้เหลืองเกรียม นำมาสับเป็นชิ้นๆ ก่อนใช้ต้มน้ำดื่ม มีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ
– ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการปัสสาวะเล็ด
เมล็ด
– ช่วยขับพยาธิ
– ช่วยทำให้อาเจียน
– ช่วยขับปัสสาวะ
เพิ่มเติมจาก : 2), 3)
การปลูกโสน
การปลูกโสน นิยมทำด้วยการปลูกเมล็ด เพราะโสนเป็นพืชปีเดียว และมีลำต้น และกิ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนจึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นยาก ทั้งนี้ การปลูกที่ได้ผล ควรเริ่มปลูกตั้งแต่ต้นฤดูฝน
การเตรียมพื้นที่ปลูก
พื้นที่ปลูกโสนจะต้องเป็นพื้นที่ลุ่ม ดินมีความชื้นสูง อาทิ แปลงนาลุ่ม ขอบบ่อ ขอบแม่น้ำ และพื้นที่รกร้างที่น้ำท่วมขังบางครั้งคราว เป็นต้น แต่ก็ปลูกได้ในพื้นที่ที่มีความชื้นน้อยได้เช่นกัน อาทิ แปลงนาในที่ดอน คันนา คันบ่อ เป็นต้น ทั้งนี้ จะต้องเตรียมแปลงด้วยการไถกลบ และกำจัดวัชพืชออกก่อน และตากดินนาน 10-20 วัน เพื่อให้วัชพืชเน่า หลังจากนั้น จึงหว่านเมล็ดลงแปลง ทั้งนี้ ควรเตรียมพื้นที่ปลูกให้เสร็จก่อนต้นฤดูฝน
วิธีการปลูก
การปลูกจะใช้วิธีการหว่านหรือโรยเมล็ด หากโรยเมล็ดเป็นหลุมจะใช้ระยะปลูก 25×50 เซนติเมตร ส่วนโรยเป็นแถวๆ ระยะห่างแถวที่ 100 เซนติเมตร ส่วนการหว่านลงแปลงจะใช้การกะระห่างให้เหมาะสม ทั้งนี้ ปริมาณเมล็ดที่ใช้อยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม/ไร่ นอกจากนั้น อาจใช้วิธีปลูกด้วยการปักดำกล้า คล้ายการปักดำข้าวก็ได้ ซึ่งจะต้องหว่านกล้าโสนให้ได้ต้นพอเหมาะก่อน ทั้งนี้ ก่อนปลูกให้นำเมล็ดมาแช่น้ำร้อนก่อน ประมาณ 1 นาที
การให้น้ำ
การปลูกโสน หากปลูกในพื้นที่สูง ดินมีความชื้นน้อย ซึ่งหากไม่มีฝนตกหรือฝนทิ้งช่วงนานจะต้องมีการให้น้ำร่วมด้วย ส่วนการปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำ มักปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ ด้วยการอาศัยน้ำฝน และน้ำซึมจากชายน้ำ
การเก็บเกี่ยว
– หลังจากปลูกโสนแล้ว 40-50 วัน ดอกจะเริ่มบาน สามารถเก็บดอกใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง
– การปลูกเพื่อเห็บเมล็ด หากปลูกในระยะปลูก 25×50 เซนติเมตร จะให้ผลผลิตเมล็ดได้ประมาณ 370 กิโลกรัม/ไร่
– การปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวลำต้นสำหรับเป็นอาหารสัตว์หรือใช้เป็นพืชคลุมดินจะให้ผลผลิตน้ำหนักสดประมาณ 1200-1800 กิโลกรัม/ไร่
ขอบคุณข้อมูลจาก puechkaset.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,350.00 | 25,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,642.00 | 24,892.72 | 25,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,477.80 | 22,403.45 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,313.60 | 19,914.18 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 739.00 | 11,203.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 575.00 | 8,717.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,702.00 | 25,802.32 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23/03/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 | 26.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 | 26.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | – | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.14 | 21.14 | – | – | – | – | – | – | – | 21.14 |
เบนซิน 95 | 34.26 | – | – | – | 34.71 | – | 34.76 | 34.26 | – | 34.26 |
ดีเซล B7 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 |
ดีเซล | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 | 23.89 |
ดีเซล B20 | 23.64 | 23.64 | 23.84 | – | 23.64 | – | 23.64 | 23.64 | – | 23.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 31.46 | 31.56 | 33.34 | 32.86 | – | – | – | – | – | 31.46 |
แก๊ส NGV | 13.43 | 13.43 | – | – | – | – | – | – | – | 13.43 |