พื้นที่สำนักงาน ไทย เนื้อยังหอม จับตา Hybrid Working มาแรง
ซีบีอาร์อี เปิดผลสำรวจความคิดเห็น บริษัทระดับภูมิภาค เกี่ยวกับแผนการขยายพื้นที่สำนักงาน พบความต้องการอาคารในประเทศไทยยังมี แนะจับตา ทำงานแบบไฮบริด และสถานที่ออกแบบใหม่ เอื้อการทำงานร่วมกัน
22 กรกฎาคม 2564 – จากรายงานการสำรวจตลาดพื้นที่สำนักงานในอนาคตในเอเชียแปซิฟิก ปี 2564 ของซีบีอาร์อี ที่เผยแพร่ในวันนี้ พบว่า บริษัทที่เป็นผู้เช่าพื้นที่สำนักงาน วางแผนที่จะขยายพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นในระยะยาว และนำกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและการทำงานแบบผสมผสานในรูปแบบใหม่ ๆ หรือ Hybrid Working มาใช้
การสำรวจความคิดเห็นของผู้เช่าพื้นที่สำนักงานในทุกธุรกิจและในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแปซิฟิก พบว่า ประมาณ 50% ของผู้ตอบแบบสำรวจส่งสัญญาณถึงเจตนารมณ์ที่จะเพิ่มพื้นที่สำนักงานในพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งนับว่าเจตนารมณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 23% ในเดือนตุลาคม ปี 2563
บริษัทในเอเชียเป็นกลุ่มหลักที่ต้องการขยายพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี และบริษัทด้านการลงทุนและประกันภัยบางแห่ง สำหรับบริษัทข้ามชาติ การควบรวมสาขาต่างๆ และมองหาพื้นที่ที่มีคุณภาพดีที่สุดยังคงเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญ แต่บริษัทข้ามชาติบางแห่งยังคงต้องการขยายพื้นที่ในระยะยาว อย่างเช่นบริษัทด้านเทคโนโลยี
แผนภูมิ 1: คาดหวังว่าพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอีกสามปีข้างหน้า?
สิ่งที่ช่วยสนับสนุนแผนการขยายพื้นที่ของผู้เช่าคือความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทั่วทั้งภูมิภาค ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ หรือ 71% เชื่อว่าสภาวะตลาดในปัจจุบันกำลังดีขึ้น ซึ่งความเชื่อมั่นนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 22% และ 48% ของผู้ตอบแบบสำรวจเมื่อเดือนเมษายน 2563 และตุลาคม 2563 ตามลำดับ ผู้ตอบแบบสำรวจในจีนและแปซิฟิกมีระดับความเชื่อมั่นสูงสุด ขณะที่อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย มีความเชื่อมั่นน้อยสุด
ในขณะที่อัตราการติดเชื้อที่ไม่สามารถคาดเดาได้จะยังคงส่งผลต่อการฟื้นตัวของภูมิภาคโดยรวมในอนาคตอันใกล้ แต่ด้วยโครงการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคทำให้ความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ แข็งแกร่งมากขึ้น
แผนภูมิ 2: สภาวะธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันเป็นอย่างไร?
ในขณะที่การฟื้นตัวอยู่ในระดับที่เร็วขึ้นและอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เช่า บริษัทต่าง ๆ จึงตั้งใจที่จะให้พนักงานกลับเข้ามาที่สำนักงาน พร้อมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นและทางเลือกในการทำงานที่มากขึ้น
เมื่อมีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้เป็นอย่างดี ผู้ตอบแบบสำรวจคาดหวังให้พนักงานทำงานในสำนักงานบ่อยกว่าทำงานจากที่บ้าน ทำให้การทำงานแบบไฮบริดจะกลายเป็นเรื่องปกติ ในขณะเดียวกัน บริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มกำหนดนโยบายการทำงานนอกสำนักงานซึ่งจะขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติหรือการอนุมัติของแต่ละบริษัท ทำให้หัวหน้างานสามารถกำหนดตารางการทำงานของทีมงานและความเหมาะสมในการทำงานนอกสำนักงานได้ ซีบีอาร์อีเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงด้านรูปแบบการทำงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าการทำงานแบบไฮบริดจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพื้นที่สำนักงานในอนาคตในวงจำกัด
นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย การทดลองทำงานนอกสำนักงานในช่วงล็อกดาวน์ได้ก่อให้เกิดผลที่น่าพึงพอใจ ทำให้หลายบริษัทตั้งใจที่จะอนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสำนักงานได้ ในทางกลับกัน ก็เป็นการกระตุ้นให้มีการหันกลับมาประเมินกลยุทธ์ด้านกำลังคนใหม่ และให้ความสำคัญกับเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่สำนักงาน
แต่แทนที่จะลดทอนความต้องการพื้นที่สำนักงานอันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าจะมีการทำงานนอกสำนักงานมากขึ้น ซีบีอาร์อีเชื่อว่าผู้เช่าจะยังคงต้องการสำนักงาน โดยที่สำนักงานได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้มีการจัดพื้นที่ทำงานมีความหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรูปแบบการทำงานของพนักงานที่แตกต่างกัน และทำให้สถานที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสนับสนุนการทำงานร่วมกัน การทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วมของพนักงาน และนวัตกรรมที่นำมาใช้
แผนภูมิ 3: การให้คะแนนด้านต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ทำงานในสำนักงานกับการทำงานนอกสำนักงาน
“สำนักงานต่าง ๆ จะได้รับการจัดรูปแบบเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและสร้างการเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าที่ผ่านมา และการออกแบบสถานที่ทำงานจะต้องได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ตามความเหมาะสม ซีบีอาร์อีคาดว่าจะมีความต้องการพื้นที่สำหรับการประชุมที่ไม่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้าและพื้นที่ส่วนกลางในสำนักงานเพิ่มมากขึ้น และจากการทำงานแบบไฮบริด บริษัทต่าง ๆ จะพิจารณาลดจำนวนห้องประชุมขนาดใหญ่ เพราะพนักงานทำงานเป็นรายบุคคลและจัดการประชุมทีมขนาดเล็กบ่อยครั้งขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้เช่ามีแนวโน้มที่จะคาดหวังมากขึ้นจากเจ้าของอาคารในการจัดหาโซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ที่ต้องการสำหรับการจัดประชุมและจัดงานขนาดใหญ่” นางสาวเอดา ชอย หัวหน้าแผนกวิจัย การวิเคราะห์และการบริหารจัดการข้อมูล ของซีบีอาร์อี กล่าว
ผลการสำรวจครั้งนี้ยังมีนัยยะหลายประการสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหลายรายกำลังจับตาดูการฟื้นตัวของความต้องการพื้นที่สำนักงานอย่างใกล้ชิดและพยายามปรับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มของผู้เช่าที่ปรากฎในการสำรวจครั้งนี้
“ในปัจจุบัน โครงการอาคารสำนักงานที่มีคุณภาพในเอเชียแปซิฟิกเป็นโอกาสน่าสนใจสำหรับนักลงทุนซึ่งสวนทางกับวัฎจักรเศรษฐกิจ นักลงทุนควรทราบถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของผู้เช่าในการขยายพื้นที่ในระยะกลาง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจในเอเชีย สินทรัพย์ที่มีประวัติผู้เช่าดีและรองรับกลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโต เช่น ธุรกิจเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม (TMT) และบริษัทที่มีฐานที่ตั้งในเอเชีย สินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในสถานะที่ดีที่จะทำผลงานได้ดีกว่า ซึ่งควรได้รับการจัดลำดับความสำคัญ เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการมองหาโครงการมีคุณภาพดีที่สุด ” ดร.เฮนรี่ ชิน หัวหน้าฝ่าย Investor Thought Leadership และหัวหน้าแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี เอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้ ซีบีอาร์อียังแนะนำให้นักลงทุนติดตามความต้องการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในโครงการที่ตอบโจทย์ในด้านสุขภาพ เทคโนโลยี และความยืดหยุ่น รวมถึงพิจารณาการให้บริการพื้นที่สำนักงานแบบยืดหยุ่นและพื้นที่สำหรับจัดประชุมแบบตามความต้องการของผู้เช่า
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตกแต่ง 3 สไตล์ “เดอะเชดด์สาทร 1” คอนโดฯพร้อมอยู่ซีบีดีเมืองกรุง
“สถาพร เอสเตท” จับมือ “ชิค รีพับบลิค” รังสรรค์ห้อง 3 สไตล์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบคุณกับคอนโดฯพร้อมอยู่ใจกลางเมือง โครงการ เดอะ เชดด์ สาทร 1
สถาพร เอสเตทจับมือแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชิค รีพับบลิค จัดแคมเปญสุดพิเศษ “Be Your Own You” ตกแต่งห้องชุด 3 สไตล์ไม่เหมือนใคร คอนโดฯพร้อมอยู่ “เดอะ เชดด์ สาทร 1”
นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้าน และทาวน์โฮม เปิดเผยว่า สถาพรฯจับมือกับพันธมิตรบริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศ จัดแคมเปญพิเศษ “Be Your Own You” กระตุ้นยอดขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ใจกลางสาทร “เดอะ เชดด์ สาทร 1”
โดยเดอะ เชดด์ สาทร 1 นำเฟอร์ฯจากชิค รีพับบลิค มาตกแต่งห้อง 3 สไตล์ไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบคุณ เริ่มที่ห้องแบบที่ 1 พื้นที่ใช้สอย 46.50 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งในสไตล์สาวแฟชั่นนิสต้าที่ชื่นชอบความทันสมัยบวกกับสีสันที่โดดเด่น รักการท่องเที่ยว และมองหาสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
ห้องแบบที่ 2 พื้นที่ใช้สอย 52 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตกแต่งในสไตล์หนุ่มออฟฟิศที่กำลังมองหาสมดุลการใช้ชีวิต และการทำงานที่สมบูรณ์แบบใจกลางย่าน CBD
และห้องแบบที่ 3 พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ตกแต่งในสไตล์นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อใช้ความคิดและตั้งเป้าหมายในชีวิตอยู่ตลอดเวลา มีไลฟ์สไตล์ทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เน้นการตกแต่งที่ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย
รายละเอียด “เดอะ เชดด์ สาทร 1” คอนโดฯพร้อมอยู่ใกล้ MRT สถานีลุมพินี มาพร้อม smart automation พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโซนสาทร 1,400 ตร.ม. อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, coworking space, พื้นที่สีเขียว ที่จอดรถ 63% ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านและผู้สนใจเยี่ยมชมโครงการ บริษัทเตรียมมาตรการป้องกันโควิด-19 ตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองก่อนเข้าพื้นที่โครงการทั้งพนักงานและลูกค้า จัดพื้นที่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล จัดสรรการเข้าชมโครงการเพื่อลดความแออัด จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือและหน้ากากอนามัยไว้ให้บริการอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
น้ำมันปิดพุ่งแรง/ดาวโจนส์,ทองบวกเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,823.35 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด หรือ +0.07% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,367.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.79 จุด หรือ +0.20% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ 14,684.60 จุด เพิ่มขึ้น 52.64 จุด หรือ +0.36%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.56 ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวเนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,805.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
5 ชนิดกีฬาไทยแห่งความหวังโอลิมปิก 2020
ในทุกๆครั้งที่มีการแข่งขัน ก็ต้องมีการตั้งเป้าหมาย และโอลิมปิกเกมส์ 2020 ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 41 คน จาก 14 ชนิดกีฬา แต่ครั้งนี้แฟนกีฬาชาวไทยอาจจะต้องเสียดายที่จะไม่ได้ดูการแข่งขันยกน้ำหนักที่เพิ่งพ้นโทษแบนทำให้ควอลิฟายไม่ทัน ซึ่งเท่ากับว่าการลุ้นเหรียญโอลิมปิกในปีนี้ก็ลดลงไปด้วย เพราะนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมายกน้ำหนักสามารถคว้าเหรียญติดมือกลับบ้านได้ตลอด
อย่างไรก็ตาม ทัพนักกีฬาไทยก็ยังมีนักกีฬาที่ฝีมือไม่ธรรมดา ให้คนไทยได้ลุ้นและส่งกำลังใจเชียร์เพื่อคว้าเหรียญโอลิมปิกมาให้ได้ เราจะพาไปส่องนักกีฬาไทยว่าใครที่มีโอกาสคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับบ้านกันบ้าง
ยิงปืน&ยิงเป้าบิน
เริ่มกันที่ ยิงปืนและยิงเป้าบิน 2 ชนิดกีฬานี้ในโอลิมปิกเกมส์ถูกจัดให้อยู่ในหมวดเดียวกัน และยิงเป้าบินที่มีชื่อนักแม่นปืนเบอร์หนึ่งของไทยอย่าง “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ที่เข้าร่วมโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 4 และถูกวางให้เป็นคนที่ได้ลุ้นเหรียญแทบทุกครั้ง ผลงานดีที่สุดคือการจบอันดับที่ 5 ในโอลิมปิก 2008 ความแม่นยำไม่ต้องพูดถึงเคยไต่ขึ้นถึงอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว อยู่ที่ว่าครั้งนี้ใครจะมีสมาธิและนิ่งกว่ากัน ซึ่ง “สุธิยา” มีนักจิตวิทยาประจำตัวคอยช่วยเรื่องสมาธิและความกดดัน ทำให้ครั้งนี้น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
ส่วนยิงปืน นภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ 4 ปีก่อนพลาดโอลิมปิกที่บราซิลไปอย่างน่าเสียดาย แต่ในโอลิมปิกหนนี้เธอกลับมาพร้อมการสั่งสมประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม จากการเป็นแชมป์โลก 2017 และแชมป์เอเชีย 2019 หากโตเกียวเกมส์ครั้งนี้ท็อปฟอร์มได้ขนาดนี้ คงมีลุ้นคว้าเหรียญกลับบ้านได้
มวยสากล
น่าเสียดายสำหรับ ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด ดาวรุ่งฟอร์มแรงที่มามีอาการบาดเจ็บก่อนแข่งไม่กี่วันทำให้ต้องถอนตัวออกไป อย่างไรก็ตามโอลิมปิกในครั้งนี้ยังนำทีมโดย ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ในวัย 36 ปี แต่ยังฟิตเต็มร้อยทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมแข่งและตั้งเป้าไว้ที่เหรียญใดเหรียญหนึ่งในโอลิมปิกครั้งที่ 3 ในชีวิตบนสังเวียน ขณะที่ สุดาพร สีสอนดี มวยหญิงรุ่น 60 กก. อดีตรองแชมป์โลก ปี 2018 ก็พร้อมเป็นความหวัง เธอบอกว่าต่อยกับใครก็ได้หมด แม้จะกดดันแต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาน่าจะช่วยให้กำปั้นหญิงรายนี้มีโอกาสคว้าเหรียญกลับบ้าน ส่วนในรายของ ใบสน มณีก้อน กับ จุฑามาศ จิตรพงศ์ ก็ถือเป็นม้ามืดที่น่าจับตามอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลจับสลากประกบคู่ด้วยว่าจะเป็นใจมากน้อยแค่ไหน
เทควันโด
นักกีฬาไทยที่จะประเดิมลุ้นเหรียญในวันแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย คือ 2 จอมเตะจากกีฬาเทควันโด “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดสาวไทย อันดับ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก.หญิง และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะหนุ่มรุ่น 58 กก.ชาย ที่จะลงแข่งขันในวันที่ 24 ก.ค.นี้
จอมเตะเบอร์ 1 ของโลกอย่างพาณิภัค เรียกได้ว่าเป็นตัวเต็งลุ้นเหรียญทองให้ไทย ถึงแม้ว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วจะพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งครั้งนี้จะบอกว่าเจอใครก็ได้ก็ไม่ผิดนะ ในเมื่อความพร้อมและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นเต็มร้อยของจริง ลุ้นแค่เพียงว่าไม่ให้มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่รอบแรกๆ ก็เป็นอันเพียงพอที่จะทำให้ พาณิภัค เข้าไปลุ้นเหรียญทอง
ส่วน “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารีนับว่าไม่ใช่งานง่ายที่จะได้ลุ้นเข้ารอบลึก หากวัดกันที่ แรงกิ้งอาจเป็นรองหลายๆคน แต่หากอยากดูลีลาการเตะสุดมันส์ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้กับจอมเตะสายแทงค์คนนี้ เผลอๆอาจจะทะลุเข้ารอบลึกๆลุ้นติดเหรียญกลับบ้านเลยก็ได้
กอล์ฟ
โปรเม เอรียา จุฑานุกาล อดีตโปรกอล์ฟมือ 1 ของโลก และเจ้าของรางวัลนักกอล์ฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี 2 สมัยนำทีม โดยโอลิมปิก 4 ปีก่อน เธอต้องถอนตัวจากการแข่งขันเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ กลับมาในโอลิมปิกครั้งนี้หวังจะได้แก้มืออีกครั้ง และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด โปรเม ก็เป็นตัวเต็งลุ้นเหรียญได้อย่างแน่นอน เพราะฟอร์มยังคงร้อนแรง ในปีนี้กวาดแชมป์แอลพีจีเอไปแล้ว 2 รายการ แถมครั้งนี้ยังพ่วงเอานักกล์อฟดาวรุ่ง “โปรเหมียว” แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ มือ 10 ของโลก มือ 1 ของไทยคนปัจจุบันที่จัดการสอยแชมป์เมเจอร์มาครองได้ 1 รายการในปีนี้ เชื่อถ้าทั้งคู่ท็อปฟอร์มโอกาสไปถึงเหรียญรางวัลก็มีสูง
แบดมินตัน
อีกหนึ่งกีฬาขวัญใจชาวไทย ที่ตามล่าเหรียญในโอลิมปิกมาหลายต่อหลายครั้ง และในโตเกียวเกมส์ถือว่าเป็นอีกครั้งที่แบดมินตันมีโอกาสสูงที่จะคว้าเหรียญมาครอง กางรายชื่อออกดูโอลิมปิกครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ รัชนก อินทนนท์ แค่คนเดียวที่เป็นความหวังการที่ บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 2 ของโลกในประเภทคู่ผสม ที่กำลังจัดว่าท็อปฟอร์ม ได้รองแชมป์โลก 2019 รองแชมป์ออลอิงแลนด์ และล่าสุดเมื่อต้นปี 2021 ก็จัดการคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ที่บ้านเราได้ถึง 3 รายการใน 3 สัปดาห์ติด ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่จะประสบความสำเร็จ หากทั้ง รัชนก และ บาส-ปอป้อ เล่นได้ตามฟอร์มของตัวเอง มีลุ้นเหรียญใดเหรียญหนึ่งได้แน่
สรุปเหรียญรางวัลโอลิมปิก 2020 ได้ที่นี่ : https://www.sanook.com/sport/olympics/medal/
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ปัจจัยเสี่ยง “หลอดลมอักเสบ” ที่คุณอาจทำโดยไม่รู้ตัว
การสูบบุหรี่ หรือสูดดมควัน กลิ่นฉุน สารเคมี ฝุ่น และสารระคายเคืองต่างๆ อาจก่อให้เกิดผลร้ายนำไปสู่โรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบ คืออะไร?
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคหลอดลมอักเสบ คือ โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เกิดจากการติดเชื้อที่หลอดลมทำให้เยื่อบุผิวภายในหลอดลมมีการอักเสบและบวม มีเสมหะในหลอดลมอุดกั้น ทำให้ช่องทางเดินหลอดลมแคบลง
อาการของโรคหลอดลมอักเสบ
- ไอ
- หายใจลำบาก
- หายใจมีเสียงหวีด
- อาจมีอาการเป็นไข้หวัด
- เจ็บคอ แสบคอ
- ในบางรายอาจมีไข้ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวได้
- แน่นหน้าอก
- หายใจหอบเหนื่อย
สาเหตุของโรคหลอดลมอักเสบ
สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคหลอดลมอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัส ได้แก่ ไวรัสไข้หวัดและไวรัสไข้หวัดใหญ่ บางรายอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ไมโคพลาสมา (Mycoplasma) หรือคลาไมเดีย (Chlamydia)
ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดลมอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคที่พบได้บ่อย และคุณอาจทำโดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดลมอักเสบมากขึ้น คือ
- สูบบุหรี่ หรือต้องอยู่ร่วมกับผู้สูบบุหรี่บ่อยๆ
- พบเจอมลภาวะทางอากาศ เช่น ฝุ่น ก๊าซพิษ สารเคมีต่างๆ ในชีวิตประจำวันเป็นเวลานาน
การติดต่อของโรคหลอดลมอักเสบ
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคหลอดลมอักเสบติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ โดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในละอองฝอยกระจายอยู่ในอากาศ จากการไอหรือหายใจรดกัน ซึ่งระยะการแพร่กระจายเชื้อสามารถแพร่ได้ก่อนเกิดอาการหรือหลังเกิดอาการแล้ว
ชนิดของโรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
- โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยหลอดลมอักเสบเฉียบพลันเกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนไข้หวัด มักเกิดเมื่อมีการติดเชื้อในทางเดินหายใจไล่ลงไปจนถึงหลอดลม เกิดการอักเสบอาการบวมของเยื่อ เมือก ที่บุทางเดินหายใจระคายเคือง
อาการของโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันส่วนใหญ่จะมีอาการไม่เกิน 3 สัปดาห์ มักมีอาการไอ มีเสมหะเป็นระยะเวลามากกว่า 1 สัปดาห์ อาจเป็นหลอดลมอักเสบเฉียบพลันเมื่อผู้ป่วยมีการอักเสบของโพรงจมูกหรือเป็นหวัด ดังนั้นผู้ป่วยควรรับการรักษาหรือ ปฏิบัติตนให้ถูกต้องเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เป็นหลอดลมอักเสบ - โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากทางเดินหายใจที่ได้รับสารระคายเคืองอย่างเรื้อรัง เช่น การสูบบุหรี่ต่อเนื่อง นับเป็นส่วนหนึ่งของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทำให้ร่างกายสร้างสารออกมาเพื่อตอบสนองต่อการอักเสบ ส่งผลให้มีเสลดเสมหะที่เหนียวข้นและกำจัดออกยาก หลอดลมเกิดการอุดตันหรือการบวมซึ่งช่องทางเดินอากาศในหลอดลมที่ตีบแคบลงทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรังได้ด้วย
อาการของโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังผู้ป่วยมักไอเรื้อรังต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 1 ปี หรือ 2 ปี มีภาวะหายใจลำบาก เมื่อตรวจร่างกายอาจมีเสียงวี้ด มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ซึ่งอาจมีอาการหลอดลมอักเสบแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
วิธีป้องกันการเกิดโรคหลอดลมอักเสบ
วิธีป้องกันการเกิดโรคหลอดลมอักเสบทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอากาศเย็นและแห้ง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง
- ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการสูดดมควัน กลิ่นฉุน สารเคมี ฝุ่น และสารระคายเคืองต่างๆ
- ดูแลร่างกายให้มีความแข็งแรง ด้วยการหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เช่น วิ่ง เดินเร็ว หรือว่ายน้ำ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ
- รักษาอนามัยพื้นฐานด้วยการสวมหน้ากากอนามัย
- ล้างมือให้สะอาด
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ หากพบว่าตนเองมีอาการรุนแรงมาก ไอเรื้อรังไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ หรือไอเป็นเลือดร่วมด้วย มีไข้ ไอมาก หอบเหนื่อย จนรบกวนการรับประทานอาหาร หรือการนอนหลับ ให้มาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยรักษาโรคได้อย่างถูกต้อง ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจนก่อให้เกิดปอดอักเสบ นำไปสู่การพัฒนาให้เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เครื่องดื่ม ภาษาอังกฤษ รวมคำศัพท์เครื่องดื่มต่างๆ พร้อมคำอ่าน คำแปล…
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เป็นเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มต่อไปนี้ เป็นคำง่ายๆที่ต้องจดจำให้ได้เลยนะครับ เอามาฝากกัน 10 คำ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เครื่องดื่ม ภาษาอังกฤษ
ที่ |
คำศัพท์ | คำอ่าน | คำแปล |
1 | beer | เบีย | เบียร์ |
2 | coffee | ค๊อฟฟิ | กาแฟ |
3 | drinks | ดริงค | เครื่องดื่ม |
4 | juice | จูส | น้ำผลไม้ |
5 | lemonade | เล็มเมินเนด | น้ำมะนาว |
6 | milk | มิลค | นม |
7 | soda | โซ๊ดะ | น้ำอัดลม |
8 | tea | ที | ชา |
9 | water | ว๊อเทอะ | น้ำ |
10 | wine | ไวน |
ไวน์ |
ขอบคุณข้อมูลจาก ภาษาอังกฤษออนไลน์.com