กรมที่ดินหนุนขยายเพดาน ต่างชาติซื้ออสังหาฯไทย
กรมที่ดินหนุนศบศ. ขยายเพดานต่างชาติซื้ออสังหาไทย ห้องชุด-บ้านหรู ย้ำต้องมีเงื่อนไขเข้ม คอนโดต้องตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่น้อยกว่า 5 ไร่พัฒนา โครงการใหม่เท่านั้น
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เตรียมออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยขยายเพดานให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ ห้องชุดในไทยได้เกิน 49% ตลอดจนให้สิทธิ์เพิ่มที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว เพื่อให้สิทธิ์นักลงทุนต่างชาติ เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยและนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวภาคเอกชนให้ความสนใจ เพราะอย่างน้อยนอกจากจะระบายสะต๊อกคอนโดมิเนียมได้มากขึ้นแล้วยังขยายในเรื่องของการขายบ้านหรูให้ต่างชาติ
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากกว่าคนไทยจากเดิมกฎหมายไทยไม่เปิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินพร้อมที่อยู่อาศัยได้ ขณะความคืบหน้าอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย นำเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อยกร่างเป็นพระราชกำหนดต่อไป
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรมที่ดินสนับสนุนมาตรการขยายเพดานการถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดที่เพิ่มขึ้นรวมถึงบ้านแนวราบ ของ ศบศ. ที่เตรียมเสนอเข้าครม.พิจารณาโดยมองว่า สามารถช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯได้ แต่ทั้งนี้กรมได้มีเงื่อนไขเพิ่มเติมกลับไป ในบางประเด็น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมจะต้องเป็นโครงการใหม่มีขนาดพื้นที่ภายในโครงการไม่น้อยกว่า 5 ไร่ เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อต้องการขายให้กับกลุ่มต่างชาติดังนั้นสินค้าต้องมีคุณภาพที่ดี รวมทั้งระดับราคาที่ต้องกำหนดให้สอดคล้อง ความคืบหน้าอธิบดีอธิบายว่ากลุ่มของศบศ.เป็นผู้ดำเนินการ กรมที่ดินในฐานผู้สนับสนุนและแนะนำเท่านั้น
สำหรับการถือครองอาคารชุดของชาวต่างชาติกฎหมายเดิมชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดในคอนโดฯ และอีก 51% เป็นสิทธิของคนไทยในการถือครองกรรมสิทธิ์ มาตรา 19 ทวิ พระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551)
ขณะร่างแก้ไขกฎหมายใหม่ แก้ไขอัตราการถือกรรมสิทธิ์ โดยจะขยายเพดานให้ชาวต่างชาติเข้าถือครองได้มากขึ้น อาจถึง 70-80% โดยเพิ่มเงื่อนไขสำหรับต่างชาติที่ถือครองเกิน 49% ไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมนิติบุคคลอาคารชุด
ขณะการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ ตามกฎหมายเดิมห้ามมิให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านหรือที่ดินในประเทศไทย เว้นแต่จะเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย มาตรา 96 ทวิ ประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับร่างแก้ไขกฎหมายใหม่ กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านเดี่ยวสำหรับอยู่อาศัยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรราคาประมาณ 10-15 ล้านบาทขึ้นไป โดยซื้อได้ไม่เกิน 49% ของโครงการ ส่วนระยะเวลาการเช่าอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติตามกฎหมายเดิม อนุญาตให้ชาวต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์ นานสูงสุดไม่เกิน 30 ปี (มาตรา 540 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) ขณะร่างแก้ไขกฎหมายใหม่ ได้ขยายให้ชาวต่างชาติสามารถทำสัญญาเช่าได้สูงสุด 50 ปี +40 ปี
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เคยระบุว่า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยถูกมองเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่ผู้สูงอายุที่เกษียณ เนื่องจากมีความปลอดภัยกว่าในหลายประเทศ มีการสาธารณสุขที่ดี มีอาหารที่สมบูรณ์
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ซึ่งไทยต้องทำตัวให้เป็นประเทศที่น่าลงทุน น่าอยู่อาศัย ทำให้ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สอง”
นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ยังมีมีเงินบำนาญ เงินเก็บ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังมีประกันสุขภาพที่เป็นรัฐสวัสดิการ โดยรัฐบาลต้องดำเนินการแก้กฎ กติกาต่างๆ ให้สะดวกขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้การลงทุน เพิ่มการจ้างงานภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศบศ. ได้ออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจไทยดูดเงินเศรษฐีต่างชาติผ่าน 4 กลุ่มเป้าหมายได้แก่
1. กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) ซึ่งรวมถึงนักลงทุนที่มีกำลังซื้อสูง ภายใต้โปรแกรม Flexible Plus Program
2.ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner)
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional)
4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ออริจิ้น จับมือ KIN เปิด รพ.กายภาพบำบัดแห่งแรก “Kin Origin Healthcare Center”
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” รุกธุรกิจบริการสุขภาพเต็มสูบ ประกาศจับมือ KIN ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ-ฟื้นฟูครบวงจร ผุดโรงพยาบาลกายภาพบำบัดแห่งแรก นาม“Kin Origin Healthcare Center” ย่านสุขุมวิท 107 เจาะกลุ่มผู้อายุ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปี 2565
โดยเริ่มต้นจากการจัดตั้งบริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทหลักในการดำเนินกลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ และเริ่มต้นความร่วมมือธุรกิจแรกด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ KIN Rehabilitation & Homecare ผู้พัฒนาธุรกิจบริการด้านสุขภาพเพื่อการดูแลด้านเวชศาสตร์การฟื้นฟูเฉพาะทาง และผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การฟื้นฟูอีก 2 ท่าน ในสัดส่วน 40 ต่อ 40 ต่อ 20 ภายใต้ชื่อ บริษัท คิน ออริจิ้น เฮลแคร์ จำกัด เพื่อร่วมกันพัฒนาและดำเนินโครงการ คิน ออริจิ้น เฮลท์แคร์ เซ็นเตอร์ (Kin Origin Healthcare Center) โรงพยาบาลกายภาพบำบัดและสหคลินิกเวชกรรม ที่จะให้บริการดูแลด้านสุขภาพเวชศาสตร์การฟื้นฟูและกายภาพบำบัดแห่งแรกในเครือออริจิ้น
“ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society อย่างเต็มรูปแบบ เป็นประเทศแรกๆ ของภูมิภาค ด้วยสัดส่วนประชากรผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปสูงถึงเกือบ 15% แต่ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีพื้นที่ที่เป็นคอมมูนิตี้ และมีอีโคซิสเท็มในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรกลุ่มนี้อย่างเพียงพอ เราในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงมองเห็นทั้งโอกาสและความจำเป็นที่เราต้องเข้ามาพัฒนาทั้งที่อยู่อาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนบริการสุขภาพ ที่จะมาช่วยเติมเต็มสิ่งที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการ รองรับยุค Aging Society” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ Kin Origin Healthcare Center เป็นอาคารสูง 8 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมอยู่ที่ประมาณ 2,800 ตร.ม.จำนวน 58 เตียง ประกอบด้วยโรงพยาบาลกายภาพบำบัดและสหคลินิกเวชกรรม ที่ให้บริการดูแลด้านสุขภาพเวชศาสตร์การฟื้นฟูและกายภาพบำบัด พร้อมเป็นศูนย์ให้บริการสุขภาพแบบครบวงจร รองรับความต้องการด้าน Medical service ของลูกบ้านออริจิ้น อาทิ การบำบัดโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานอย่างโรคออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 1/2565
ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการออริจิ้น เวลเนส คอมเพล็กซ์ สุขุมวิท 107 (Origin Wellness Complex Sukhumvit 107) โครงการมิกซ์ยูส บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ผสมผสานระหว่าง KIN Origin Healthcare Center และโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัยแบรนด์ใหม่ ออริจินัล (Original) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ (Silver Age) รวมถึงการบริการจาก KIN โดยพื้นที่ส่วนที่พักอาศัยนั้น คาดว่าจะเปิดตัวโครงการพร้อมทั้งเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 นี้
ด้าน นายธงชัย โชคถนอมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KIN Rehabilitation & Homecare ผู้พัฒนาธุรกิจบริการด้านสุขภาพเพื่อการดูแลด้านเวชศาสตร์การฟื้นฟูเฉพาะทาง กล่าวว่า ความร่วมมือกับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ประกอบการจะยก Healthcare Center มาไว้ในโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน อีกทั้งโครงการคอนโดมิเนียมที่จะถูกพัฒนาในอนาคต ยังออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้สูงอายุอีกด้วย
“ผู้ที่เข้ามารับบริการ Kin Origin Healthcare Center จะมี พญ.หทัยรัตน์ ผดุงกิจ หรือ คุณหมอปุ้ม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านอายุรกรรมระบบประสาทวิทยา เวชศาสตร์ผิวพรรณ และความงาม ที่จะคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือด้านการแพทย์ต่างๆ ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย รวมถึงการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke หลังการรักษา การดูแลผู้สูงอายุ ทั้งระยะยาว และชั่วคราว Nursing Home มาให้บริการใน Kin Origin Healthcare Center ด้วย” นายธงชัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 32.86 บาทต่อดอลลาร์ จับตาสถานการณ์โควิด
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวันพุธที่ระดับ 32.96 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทปรับแข็งค่า หลังจากดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ จากผลของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับใกล้ 0% อีกทั้งเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน
อย่างไรก็ดี เงินบาทวันนี้ยังมีแนวโน้มทรงตัว โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตายังคงเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งวันนี้ยอดการรายงานทำสถิติสูงสุดทั้งผู้ป่วยรายใหม่ และผู้เสียชีวิต
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.80 – 32.90 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ไม่ได้ไปต่อ! “บุศนันทน์” พ่าย “อัน เซ-ยอง” ตกรอบ ขนไก่โอลิมปิก 2020
การแข่งขัน แบดมินตัน โอลิมปิกเกมส์ 2020 ประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 16 คนสุดท้าย ที่สนาม มุซาชิโนะ ฟอเรสต์ สปอร์ต พลาซ่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
“ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ นักตบลูกขนไก่ขวัญใจชาวไทยวัย 25 ปี มืออันดับ 13 ของโลก พบกับ อัน เซ-ยอง นักแบดมินตันสาวชาวเกาหลีใต้ มืออันดับ 8 ของโลก
เกมแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้สูสีเสมอกัน 7-7 จากนั้น อัน เซ-ยอง ฉีกหนีไปเป็น 11-8 บุศนันทน์ ไม่ยอมง่ายๆ ตีเสมอ 14-14 อย่างไรก็ตามช่วงท้าย นักตบสาวชาวเกาหลีใต้ มาทำแต้มต่อเนื่องเอาชนะไป 21-15
เกมสอง อัน เซ-ยอง วันนี้ท็อปฟอร์มทีเดียวออกนำ 7-5 จากนั้นโกยแต้มหนีไปเป็น 11-6 แม้ “น้องครีม” พยายามไล่แต่ก็ไม่ทันแพ้ไปอีก 15-21 ทำให้แพ้ไป 2 เกมรวด ยุติเส้นทางเพียงแค่รอบ 16 คนสุดท้ายเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
6 วิธีปรับร่างกายช่วง Work From Home ป้องกันออฟฟิศซินโดรม
ทำงานที่บ้าน หรือ Work from home นั่งนาน นั่งไม่ถูกวิธี ปวดหลัง ปวดศีรษะได้ เสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรม แนะ 6 วิธี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมขณะทำงาน
Work From Home อาจเสี่ยงออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากนโยบายทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เพื่อขอความร่วมมือให้คนไทยอยู่บ้าน งดการเดินทาง หวังแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ซึ่งวัยทำงานจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบและสถานที่ในการทำงาน อีกทั้งอุปกรณ์สำนักงานในบ้านอาจไม่เพียงพอ ไม่เหมาะกับสรีระ หรือลักษณะการนั่งไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ตามมาได้
สัญญาณอันตราย เสี่ยงออฟฟิศซินโดรม
อาการที่เป็นสัญญาณเตือนและพบบ่อย คือ
- ปวดหลังเรื้อรังจากการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก เมื่อย เกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้กะบังลมขยายได้ไม่เต็มที่
- สมองได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ ส่งผลต่อศักยภาพในการทำงาน ไม่เต็มร้อย
- ปวดศีรษะเรื้อรัง (Tension Headache) ที่สะสมจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความร้อน และการขาดฮอร์โมนบางชนิด
- มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อก การอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็นและนิ้วมือ ซึ่งเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การจับเมาส์ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อก หรือข้อมือล็อกได้
6 วิธีปรับร่างกายช่วง Work From Home ป้องกันออฟฟิศซินโดรม
วัยทำงานสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสมขณะทำงานได้ด้วย 6 วิธี ดังนี้
- ปรับความสูงของเก้าอี้และโต๊ะให้เหมาะสม นั่งสบาย
- หากใช้คอมพิวเตอร์ กึ่งกลางของจอควรอยู่ในระดับสายตา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ด ควรอยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ ใช้เมาส์โดยพักข้อศอกบนที่รองแขน และสามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่
- ขณะนั่งทำงาน ควรนั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ กะพริบตาบ่อยๆ พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10 นาที เปลี่ยนท่าการทำงานทุก 20 นาที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขนทุก 1 ชั่วโมง
- ปลูกต้นไม้ในร่ม ช่วยดูดซับสารพิษและเป็นที่พักสายตาจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์
- กินอาหารให้ตรงเวลาและครบ 5 หมู่
- ควรเปิดหน้าต่างที่บ้านเพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทบ้าง อย่างน้อยในตอนเช้าและพักกลางวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาการทักทายภาษาอังกฤษ
คําทักทายภาษาอังกฤษ
การทักทายภาษาอังกฤษ (Greetings) คำทักทายที่ควรทราบมีดังนี้
ทักทายตอนเช้า
Good morning กุด-มอร์-นิ่ง แปลว่า อรุณสวัสดิ์, สวัสดีตอนเช้า (ใช้ในเวลาเช้าถึงเที่ยงวัน)
Example sentence / ตัวอย่าง :
- Good morning, Mark. อรุณสวัสดิ์มาร์ค
- Good morning, everybody./ Good morning, everyone. อรุณสวัสดิ์ทุกคน
Good afternoon กุด-อาฟ-เทอะ-นูน แปลว่า สวัสดีตอนบ่าย (ใช้ในเวลาหลังเที่ยงวันถึงช่วงเย็น)Example sentence / ตัวอย่าง :
- Good afternoon, Bam. สวัสดีแบม
- Good afternoon, ladies and gentlemen. สวัสดีค่ะ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
ทักทายตอนเย็น
Good eveningกุด-อีฟ-นิ่ง แปลว่า สวัสดีตอนเย็น (ใช้ในช่วงเย็นถึงกลางคืน)
Example sentence / ตัวอย่าง :
- Good evening, Lisa. สวัสดีตอนเย็นลิซ่า
- Good evening. May I have your attention, please? สวัสดีตอนเย็นค่ะ ฉันขอเวลาสักครู่ จะได้ไหมคะ ?
คำทักทายระหว่างวัน
Good dayกุด-เด แปลว่า สวัสดี
Example sentence / ตัวอย่าง :
- Good day, Sunny. สวัสดีตอนเย็นซันนี่
- Did you have a good day? วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณไหม?
Helloเฮล’โล / Hi ไฮ แปลว่า สวัสดี
Example sentence / ตัวอย่าง :
- Hello, everybody. สวัสดีค่ะทุกคน
ถามถึงทุกข์-สุข สบายดีไหม?
รวมประโยคทักทายภาษาอังกฤษ แปลคล้ายๆ กันคือ เป็นยังไงบ้าง? ทุกอย่างเป็นยังไง? ชีวิตเป็นยัง?
- How are you?ฮาว-อา-ยู คุณเป็นไงบ้าง? (เน้นเรื่องสุขภาพ)
- How are you going?ฮาว-อา-ยู -โก๊ -อิ้ง / How are you doing?ฮาว-อา-ยู-ดู๊-อิ้ง คุณเป็นอย่างไรบ้าง?
- How’s it going?ฮาว-อิท-โก๊ อิ้ง เป็นอย่างไรบ้าง? (เน้นความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน)
- How have you been? ฮาว-แฮฟ-ยู-บีน คุณเป็นอย่างไรบ้าง? (ในกรณีนาน ๆ เจอกันที)
- How’s your life?ฮาว-ยัว-ไลฟ์ ชีวิตคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
- How’s everything?ฮาว-เอ็ฟ-ฟรี-ติง ตอนนี้ทุกอย่างดีไหม?
- How are things (with you)?ฮาว-อา-ธิง-วิท-ยู คุณเป็นอย่างไรบ้าง?
- (I’m) fine, thanks. And you?แอม-ไฟนฺ-แธงคซฺ สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ
- Good. กูด สบายดี
- Very well.เว’รี-เวล สบายดีมาก
- I’m O.K. แอม-โอ-เค ก็ดี
- So so.โซ-โซ ก็งั้น ๆ
- Not (too) bad.นอท-ทู-แบด ก็ไม่เลว
- Great!เกรท เยี่ยม, วิเศษ
การอำลา
ประโยคพูดอำลา ลาก่อนภาษาอังกฤษ ที่ควรรู้
- See you again…..ซี-ยู-อะเกน’
แปลว่า พบกันใหม่ ….. (ใช้เป็นทางการ) เช่น
¤ See you again tomorrow. ซี-ยู-อะเกน’-ทูมอ’โร
¤ See you again next time. ซี-ยู-อะเกน’-เนคซฺทฺ-ไทมฺ
¤ See you again next week. ซี-ยู-อะเกน’-เนคซฺทฺ-วีค
¤ See you again next month. ซี-ยู-อะเกน’-เนคซฺทฺ-มันธฺ
¤ See you again next year. ซี-ยู-อะเกน’-เนคซฺทฺ-เยียร์
¤ See you again on Monday. ซี-ยู-อะเกน’-ออน-มัน’เด
- Have a nice day. แฮฟว-อะ-ไนสฺ-เด
Have a nice time.แฮฟว-อะ-ไนสฺ-ไทมฺ
แปลว่า โชคดีนะ / วันนี้ขอให้มีความสุขนะ - Have a nice holiday.แฮฟว-อะ-ไนสฺ-ฮอล’ลิเดย์
แปลว่า ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะ - Have a nice weekend.แฮฟว-อะ-ไนสฺ-วีค’เอนดฺ
แปลว่า ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์นะ - Have a good time.แฮฟว-อะ-กูด-ไทมฺ
ขอให้มีความสุขนะ/ขอให้เที่ยวให้สนุกนะ - Have a good trip.แฮฟว-อะ-กูด-ทริพ
Have a nice trip.แฮฟว-อะ-ไนสฺ-ทริพ
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ - Take care (of yourself).เทค-แคร์-ออฟ-ยัวร์เซลฟฺ
ดูแลตัวเองด้วย, รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย - Sweet dreamsสวีท-ดรีม
Sleep wellสลีพ-เวล
ฝันดีนะ / นอนหลับให้สบายนะ - Good luck.กูด-ลัค
Be successful.บี-ซัคเซส’ฟูล
โชคดี / ขอให้ประสบความสำเร็จ - Good night.กูด-ไนทฺ
ราตรีสวัสดิ์ / ไปแล้วนะ (ใช้ลาตอนกลางคืน) - Goodbye.กูด-บาย
Bye.บาย
ไปแล้วนะ / ไปล่ะ
ถึงเวลา สปอร์ตคาร์ไร้เครื่องยนต์ เบนซ์ ซื้อเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า EV ใส่ AMG
นับถอยหลัง เข้าสู่ยุค สปอร์ตคาร์ ไร้เครื่องยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มุ่ง EV ฮุบสตาร์ทอัพอังกฤษ YASA ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงออกมารองรับ Mercedes AMG ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ขณะที่ปอร์เช่ ตั้งบริษัทใหม่ร่วมกับ Rimacโครเอเชีย ผลิตไฮเปอร์คาร์ EV
จากข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ประกาศยุทธศาสตร์รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV ใหม่ โดยยืนยันว่าภายในสิ้นทศวรรษนี้(ปี ค.ศ. 2030 หรือ พ.ศ. 2573) เบนซ์จะเลิกผลิตรถใช้น้ำมัน หรือเบนซ์จะเลิกผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE นั่นหมายถึง เบนซ์ขยับแผน EV 100% มาเร็วขึ้น 9 ปี ภายใต้เงินลงทุนรวมในการพัฒนาโครงการกว่า 1.56 ล้านล้านบาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยว่า ภายในปี 2565 จะมี EV แทรกอยู่ในทุกโมเดลหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เอสยูวี และรถตู้ และปี 2568 พร้อมเลิกพัฒนารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับ EV แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ MB.EA สำหรับรถขนาดกลางและใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มรถบ้านทั่วไป VAN.EA สำหรับรถตู้ แต่ที่น่าสนใจคือการมีแพลตฟอร์ม EV โดยเฉพาะสำหรับตัวแรง Mercedes AMG ที่เรียกว่า AMG.EA
ปัจจุบัน Mercedes AMG ในรุ่นท็อปๆ อย่าง GT C ,GT R และกลุ่มรหัส 63 ใช้เครื่องยนต์วี8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ (ส่งให้ แอสตัน-มาร์ติน ด้วย) แต่จากยุทธศาสตร์ใหม่ที่บริษัทแม่ประกาศออกมา นั่นเท่ากับว่าเครื่องยนต์บล็อกมหาเทพนี้ก็เตรียมตัวนับถอยหลังออกจากตลาดเช่นกัน
อนาคตของ Mercedes AMG จะเป็นรุ่นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EV แน่นอน เพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ วางแผนด้านเทคโนโลยีเอาไว้เรียบร้อย ด้วยการที่ เบนซ์เข้าไปซื้อกิจการของสตาร์ทอัพ YASA บริษัทผู้พัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงในสหราชอาณาจักร
โดยมอเตอร์ไฟฟ้าของ YASA ใช้นวัตกรรมใหม่ “มอเตอร์ฟลักซ์แนวแกน” (axial-flux) ที่ให้พละกำลังสูง มีประสิทธิผลต่อนํ้าหนักดีกว่ามอเตอร์เดิมๆ ซึ่งการเข้าไปถือหุ้น 100% ใน YASA จะช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเจเนอเรชันต่อไป
นายโอลา คัลเลเนียส ประธานบริหาร เดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงในเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเซกเมนต์รถยนต์ระดับลักชัวรี ที่มีเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้นำ จุดเปลี่ยนกำลังใกล้เข้ามาและเรามีความพร้อมที่จะตอบรับความเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยการมุ่งสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้นภายในสิ้นทศวรรษนี้
“สถานการณ์สำหรับการขายรถยนต์ใหม่จะปรับเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ภายในสิ้นทศวรรษนี้ สิ่งที่สำคัญคือการเพิ่มรายได้สุทธิต่อหน่วยโดยการเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เช่น Mercedes-Maybach และ Mercedes-AMG ในขณะเดียวกันกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถควบคุมราคาและการขายได้โดยตรงมากขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มแบตเตอรี่ทั่วไปและโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับขนาดได้ รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ จะช่วยให้เกิดมาตรฐานที่สูงขึ้นในต้นทุนที่ตํ่าลง” นายคัลเลเนียส กล่าว
นั่นเป็นความชัดเจนตามโครงสร้างธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้า 100% EV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในซับแบรนด์อย่าง Mercedes-AMG หากยึดตามแผนนี้ ภายในระยะเวลาอันใกล้จะไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ ICE ทำตลาด
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ที่แสดงความชัดเจนถึงกำหนดการมาของ EV เร็วขึ้นแต่ยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่า รถที่ใช้เครื่องยนต์คันสุดท้ายจะหยุดการผลิตเมื่อไหร่ โดยเงื่อนไขการทำตลาดรถ ICE จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในประเทศนั้นๆ
นายโอลิเวอร์ บลูม ประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่เอจี เปิดเผยว่า เราได้นำประสบการณ์อันแข็งแกร่งของ Bugatti ในธุรกิจไฮเปอร์คาร์กับนวัตกรรมของ Rimac รวมไว้ด้วยกัน เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้า
ล่าสุด ปอร์เช่ เอจี เปิดเผยยอดขายครึ่งปีแรก 2564 รวมทั่วโลกทำได้ 153,656 คัน เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ในจำนวนนี้แบ่งเป็น ปอร์เช่ คาเยนน์ 44,050 คัน ปอร์เช่ มาคันน์ 43,618 คัน ปอร์เช่ 911 จำนวน 20,611 คัน
ที่น่าสนใจคือ EV ปอร์เช่ไทคานน์ ทำยอดขายมาเป็นอันดับ 4 ด้วยจำนวน 19,822 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับยอดขายในปี 2563 ทั้งปี ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ผู้ซื้อไทคานน์ 70% เป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมีปอร์เช่มาก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เจาะลึก “เฮมพ์คอนกรีต” คอนกรีตธรรมชาติจากใบกัญชง ทางเลือกของคนใส่ใจสิ่งแวดล้อม
หากพูดถึงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านหลายคนคงนึกไปถึง “อิฐ” หรือ “คอนกรีต” เป็นอย่างแรก เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมของเมืองไทยได้ดี แต่ในกระบวนการผลิตนั้นกลับสร้างก๊าซเรือนกระจกให้กับโลกไม่น้อย
วันนี้ BuilderNews จึงพาไปรู้จัก “เฮมพ์คอนกรีต” วัสดุก่อสร้างชีวภาพทำมาจากใบกัญชง มีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทาน สามารถนำไปสร้างบ้านและอาคารได้ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเฮมพ์ Hemp หรือกัญชง Kanchong
เฮมพ์ Hem หรือกัญชง Kanchong เดิมมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์เดียวกันคือ Cannabis sativa L เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุเพียงปีเดียว นิยมปลูกต้นกัญชงในทางภาคเหนือของประเทศไทย เนื่องจากเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ง่าย
ต้นกัญชงมีความสูงประมาณ 2 – 4 เมตร เส้นใยของต้นกัญชง มีความเหนียวนุ่ม น้ำหนักเบามีสีออกขาวแกมน้ำตาล จัดว่าเป็นเส้นใยที่มีคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่น แข็งแรงทนทาน
หากลอกเส้นใยออกจากลำต้นกัญชงหมดแล้ว จะเหลือในส่วนของแกนลำตัน หรือเปลือกแกนลำต้น นิยมเรียกตามภาษาต่างประเทศว่า “แกนเฮมพ์ ” มีลักษณะน้ำหนักเบา รูตรงกลางด้านในเป็นโพรง มีสีขาวอมน้ำตาล และไม่มีฝุ่น ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น น้ำ หรือน้ำมันได้ดี
ในปัจจุบันประเทศไทยนิยมนำเศษแกนเฮมพ์ไปใช้ประโยชน์หรือทำผลิตภัณฑ์ยังมีน้อย แต่ในต่างประเทศนิยมนำแกนเฮมพ์ไปใช้ในงานผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างอาคารและบ้าน
จากใบกัญชงสู่ “เฮมพ์คอนกรีต” วัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ
เฮมพ์คอนกรีต ทำจากแกน กัญชง หรือ แกนเฮมพ์ ผสมกับเถ้าถ่านหิน ผ่านกระบวนการย่อยแกนให้ละเอียดปนหยาบ และปรับปรุงคุณภาพแกนเฮมพ์ด้วยสารอลูมิเนียมซัลเฟต ผสมร่วมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนไลม์ เถ้าถ่านหินบางส่วน และน้ำ นำมาขึ้นรูปโดยการอัดหรือหล่อก้อนตามขนาดที่ใช้งานทั่วไป ให้มีความแข็งแรงมากเมื่อสัมผัสกับอากาศเป็นระยะเวลานาน ส่วนมากใช้ทำเป็นวัสดุก่อสร้าง ประเภทวัสดุก่อผนัง วัสดุเทพื้น วัสดุโครงสร้าง
คุณสมบัติอันโดดเด่นของ “เฮมพ์คอนกรีต”
- น้ำหนักเบา ความหนาแน่นต่ำ คลายความร้อนได้เร็ว ดูดซับเสียง ดูดซับกลิ่น ไม่ลามไฟ และดูดซับก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ได้ดี เหมาะสำหรับเป็นวัสดุโครงสร้างประเภทไม่รับน้ำหนัก
- มีคุณสมบัติด้านกำลัง และความหนาแน่นปานกลางช่วยลดน้ำหนักของโครงสร้างหลัก เป็นฉนวนในตัว คลายความร้อนได้ดี
- ด้วยลักษณะของวัสดุที่หล่อและอัดขึ้นรูปเป็นบล็อก จึงสามารถก่อ ฉาบ ตกแต่งผิว ด้วยปูนที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปได้
- มีต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างประเภทอื่น และยังเป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่
“เฮมพ์คอนกรีต” แม้ว่าจะมีน้ำหนักเบา มีรูพรุน แต่เส้นใยของต้นกัญชง สามารถระบายความร้อนได้ดี ยังสามารถนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างทั่วไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานก่อผนังกันความร้อน งานผนังดูดซับเสียง งานโครงสร้าง หรือแม้แต่งานก่อผนังได้อีกด้วย
ในปัจจุบัน “เฮมพ์คอนกรีต” ถือได้ว่าเป็นกระแสการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ ที่สามารถนำมาใช้ก่อสร้างบ้านแทนคอนกรีตได้ ซึ่งเป็นไอเดียอีกทางเลือกของการสร้างบ้านแบบประหยัด และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,150.00 | 28,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,823.00 | 27,636.68 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,640.70 | 24,873.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,458.40 | 22,109.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 820.00 | 12,431.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 638.00 | 9,672.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,889.00 | 28,637.24 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29/07/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 | 29.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 | 29.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.04 | 28.04 | 28.04 | 28.04 | 28.04 | – | 28.04 | 28.04 | 28.04 | 28.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.74 | 22.74 | – | – | – | – | – | – | – | 22.74 |
เบนซิน 95 | 36.96 | – | – | – | 37.41 | – | 37.46 | 36.96 | – | 36.96 |
ดีเซล B7 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 |
ดีเซล | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 |
ดีเซล B20 | 25.84 | 25.84 | 26.04 | – | 25.84 | – | 25.84 | 25.84 | – | 25.84 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 33.86 | 33.86 | 35.54 | 35.26 | – | – | – | – | – | 33.86 |
แก๊ส NGV | 13.99 | 13.99 | – | – | – | – | – | – | – | 13.99 |