ค่าแรงขั้นต่ำทุบต้นทุนอสังหา-วัสดุ “รับเหมาคอนโด-รับสร้างบ้าน-สี”ขึ้นแล้ว 2-5%
ดีเดย์ 1 เมษายน 2561 บังคับใช้ค่าแรงใหม่เฉลี่ย 315 บาท/วันทั่วประเทศ รับเหมาคอนโดฯ เผยสัญญาก่อสร้างโครงการใหม่ขอบวกเพิ่ม 2-3% ตามต้นทุนแรงงานก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น อสังหาฯประสานเสียงตรึงราคาบ้าน-ปรับตัวใช้ระบบสำเร็จรูปพรีแคสต์ รับสร้างบ้านอั้นไม่อยู่ปรับขึ้น 3-5% TOA ทยอยเพิ่มค่าสีทาอาคารทุกเกรด 5% ตั้งแต่ต้นปี
นับถอยหลังนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2561 มีผลให้เขตกรุงเทพมหานครเดิมค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เพิ่มเป็นวันละ 325 บาท ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยทั่วประเทศปรับเพิ่มเป็นวันละ 315 บาท จากการสำรวจความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องพบว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนเพิ่มขึ้นแม้จะไม่มากนัก การปรับตัวรองรับจึงมีทั้งตรึงราคาและปรับราคาสินค้าเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
คอนโดฯ พหลโยธินตอนต้นบูม ขายหมดใน 6 เดือน
จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใจกลางเมืองย่านพหลโยธินช่วงต้น ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถึงประดิพัทธ์ โครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมขายดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้า พบอุปทานเกือบ 9,000 หน่วย ขายได้เฉลี่ยเดือนละ 19.2%
คอนโดฯ เปิดขายมากที่สุด เกือบ 9 พันหน่วย
ประเภทที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากที่สุดในทำเลพหลโยธินช่วงต้นคือ ห้องชุดพักอาศัย ที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 10 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 19.5 ล้านบาท และบ้านแฝด จำนวน 6 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 18.6 ล้านบาท ทั้งนี้ ในจำนวนอุปทานทั้งหมด 8,862 หน่วย เป็นห้องชุดถึง 8,846 หน่วย ห้องชุดเหล่านี้มีมูลค่ารวม 45,977 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 9.2 ล้านบาท เฉพาะห้องชุดในทำเลนี้ที่มีขนาดราว 4 ตารางกิโลเมตร มีมูลค่ารวมกันถึง 2.01 เท่าของมูลค่าที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดที่กินพื้นที่ไปถึงราว 8,000 ตารางกิโลเมตร
ห้องชุด 3-5 ล้าน เปิดขายมากที่สุด
ห้องชุดกลุ่มใหญ่ที่สุดในทำเลนี้ขายในราคา 3-5 ล้านบาท มีมูลค่ารวม 17,136 ล้านบาท แต่ก็ยังมีมูลค่าต่ำกว่ากลุ่มห้องชุดราคา 5.01-10 ล้านบาท ที่มีมูลค่าสูงถึง 17,921 ล้านบาท ที่มีจำนวนน้อยกว่าคือ มีเพียง 2,873 หน่วย (ราคาเฉลี่ย หน่วยละ 6.238 ล้านบาท)
ห้องชุด 3-5 ล้าน ขายได้ดีที่สุด
ภาพรวมที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ขายได้เดือนละประมาณ 19.2% หรืออาจกล่าวได้ว่าสินค้าจะขายหมดได้ในเวลาไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้น แสดงว่าสินค้าในทำเลนี้ขายได้ดีมาก โดยเฉพาะห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท ขายได้เดือนละประมาณ 23.8% ถือว่าขายได้เร็วที่สุด รองลงมาเป็นห้องชุดราคา 10-20 ล้านบาท ขายได้เดือนละถึง 23.2% ส่วนห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาท ขายได้เดือนละ 15.8% มีเพียงห้องชุดราคาเกิน 20 ล้านบาทที่ขายได้ช้าเช่นเดียวกับกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยบ้านเดี่ยวขายได้เดือนละ 6.7% และบ้านแฝดขายได้เดือนละ 2.8%
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้ขายดีจนจำนวนหน่วยเหลือขายน้อยกว่าภาพรวมของทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมือง และใกล้รถไฟฟ้า แต่แม้ว่าจะมีแนวโน้มอนาคตสดใสต่อเนื่อง แต่ผู้ที่ต้องการซื้อห้องชุดเพื่อลงทุนปล่อยเช่า หรือระยะยาว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนด้วยเช่นกัน
https://www.ddproperty.com
ดัชนีRSIเดือนมี.ค.61 แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจดีขึ้นทุกภูมิภาค
สศค.เผยดัชนี “อาร์เอสไอ” เดือนมี.ค.61 ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจดีขึ้นทุกภูมิภาค เผยภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 97.4 สูงกว่าภาคอื่นๆ
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thai Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนมีนาคม 2561 ว่า การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหลายภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ เป็นสำคัญ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 97.4 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุนภายในภูมิภาค เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งมีนักลงทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโรงงานเพิ่มขึ้นในจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว นอกจากนี้ พบว่า มีการลงทุนใหม่ในจังหวัดนครนายก โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ทในพื้นที่ ตามปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ปรับตัวอยู่ที่ 91.5 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของการส่งออก อีกทั้งผู้ประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการปรับแผนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น ประกอบกับภาคบริการ โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีจัดกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมตลอดปี อีกทั้งพบว่าในขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในพื้นที่ หลังจากกระแสตามรอยละครเรื่องบุพเพสันนิวาสกำลังมาแรง ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มภาคบริการของภูมิภาค ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 97.7
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 80.1 เนื่องจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงงานในหลายจังหวัด เช่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ เป็นต้น ประกอบกับยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ นอกจากนี้ ดัชนีแนวโน้มของภาคบริการปรับตัวดีขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง อีกทั้ง สาขาค้าปลีกค้าส่ง ยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 78.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยว ที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรี อีกทั้งค้าส่งค้าปลีกที่มีแนวโน้มสดใส จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตลอดจนมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการ ประกอบกับแนวโน้มที่ดีในภาคการลงทุน เนื่องจากมีการลงทุนใหม่ในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรี รวมถึงเริ่มเปิดประมูลสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดกาญจนบุรี
เช่นเดียวกับภาคการผลิตของภาคเหนือ ที่มีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม พบว่า มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นหลายจังหวัด เช่น อุตสาหกรรมดินขาวในจังหวัดลำปาง อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้ง นโยบายภาครัฐเริ่มส่งผลชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดตาก รวมถึงแนวโน้มภาคเกษตร ยังคงส่งสัญญาณที่ดี ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 82.6 ตามสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูก และนโยบายการส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตของภาครัฐ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจเหนือ ปรับตัวมาอยู่ที่ 75.7
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ 72.0 จากดัชนีแนวโน้มในภาคบริการ ส่งสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง อยู่ที่ 82.9 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยว เป็นสำคัญ เนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายในจังหวัด เช่น พังงา ระนอง เป็นต้น ประกอบกับแนวโน้มการจ้างงานภายในภูมิภาค ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ตามการขยายตัวของภาคบริการเป็นหลัก นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม.และปริมณฑล อยู่ที่ 69.3 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน ตามดัชนีแนวโน้มในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 82.8 อีกทั้งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการลงทุน
http://www.bangkokbiznews.com
ค่าบาท ‘อ่อนค่า’ ตลาดยังกังวลการเมืองสหรัฐ
บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า “31.27 บาทต่อดอลลาร์” ย้ำภาพตลาดปิดรับความเสี่ยงและไม่รีบซื้อ จากความกังวลปัญหาการเมืองสหรัฐ ออกนโยบายใหม่ต่อเนื่อง แม้กนง. มีมุมองบวกขึ้นดอกเบี้ยก็ไม่มีผลต่อค่าเงิน
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.27บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังคงผันผวน ส่งผลให้บอนด์ยิลด์ก็ปรับตัวลงด้วยภาวะปิดรับความเสี่ยง โดยปัจจัยหลักอย่างมาจากความกังวลกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ที่มีความเสี่ยงที่จะถูกควบคุมและตรวจสอบมากขึ้นจากรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง ส่งผลให้บอนยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาที่ระดับ 2.75% ส่งผลให้ความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (สองปี) กับอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (10 ปี) ลดลงไปที่ 0.48% ต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ย้ำภาพตลาดที่ปิดรับความเสี่ยง (risk-off)
ภาพรวมตลาดยังถือว่าไม่เป็นบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง โดยรวมเราเชื่อว่าปัญหาการเมืองในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะสงบลงยาก ซับซ้อน และคาดเดายากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีนโยบายใหม่ออกมาไม่หยุด จึงมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะพยายามลดความเสี่ยงและไม่รีบซื้อ แต่รอประเมินสถานการณ์
เชื่อว่าปัจจัยหลักที่คอยกดดันค่าเงินบาทอยู่ คือตลาดทุนที่ปิดรับความเสี่ยง ล่าสุดค่อนข้างชัดเจนว่าแนวโน้มดอกเบี้ยก็ไม่ได้ส่งผลกับค่าเงิน แม้ กนง.จะมีมุมมองที่เป็นบวกกับการขึ้นดอกเบี้ย แต่ค่าเงินบาทก็ยังมีทิศทางอ่อนค่า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านักลงทุนพยายามลดความเสี่ยงลงต่อเนื่องในช่วงนี้
มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.25- 31.35 บาทต่อดอลลาร์
http://www.bangkokbiznews.com
ผักผลไม้ 5 สี กับประโยชน์ที่หลากหลายเพื่อสุขภาพ
อาหารที่มีสีสัน เย้ายวนชวนน้ำลายสอ ใครๆก็อยากจะรับประทานกันทั้งนั้น และยิ่งกว่าความสวย น่าทาน เหล่านั้น สารต้านโรคที่อัดแน่นในบรรดา ผักผลไม้ หลากสี ซึ่งถือเป็นของแถมตบท้ายความอร่อยที่คุ้มค่ากับสุขภาพอย่างมากที่สุด
อย่าง ที่เรารู้ ๆ กันว่าประโยชน์ของ ผักผลไม้ นั้นมีมากมายมหาศาล ทั้งวิตามิน แร่ธาตุหลากชนิดที่เป็นประโยชน์กับกลไกต่าง ๆ ในร่างกาย และคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรรอลและไขมัน ช่วยให้ระบบย่อย ระบบการขับถ่ายทำงานปกติ
นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว ใน ผักผลไม้ ยังมีสารพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายยาช่วยป้องกันโรคบางชนิด เช่นมะเร็ง โรคหัวใจหลอดเลือด เป็นต้น แต่จะกินอย่างไรเพื่อให้ร่างกายได้รับการปกป้องจากโรคภัยได้นั้น เขาแนะนำให้กินหลากหลาย ถ้าให้ชัดขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ กินให้ครบ 5 สี ใน 5 สีสันนั้นมีอะไรบ้างมาดูกัน
สีเขียว
สีเขียวเป็นสีแรกที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงผัก สารที่ให้สีเขียวในผักก็คือคลอโรฟีลล์ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ เช่น ลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา เป็นต้น..ว้าว..กินผักเขียวๆทำให้ดวงตาเราแข็งแรง
ผักผลไม้ สีเขียว : ผักใบเขียวทุกชนิด เช่น บล็อกโคลี คะน้า ผักโขม กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ชะอม
สีขาว
สีขาวสารประกอบใน ผักผลไม้ กลุ่มนี้มีหลายชนิดและเป็นที่สนใจของนักวิจัย เพราะมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสียหายของเซลล์และอวัยวะในร่างกาย ขิงและข่า มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยดูแลความดันเลือด และป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น
ผักผลไม้ สีขาว : แอปเปิ้ล ฝรั่ง เงาะ ลิ้นจี่ แห้ว งา ลูกเดือย ข่า ขิง กระเทียม หอมหัวใหญ่
สีแดง
สีแดงสารตัวเลื่องชื่อในกลุ่มนี้ก็คือไลโคปีน เพราะมีการค้นพบว่าช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากของคุณผู้ชายได้ และลดปริมาณไขมันแอลดีแอลในเลือด นอกจากนี้อาหารสีแดงยังช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ หลอดเลือดและระบบทางเดินปัสสาวะ ลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง
ผักผลไม้ สีแดง : แตงโม มะเขือเทศ สตรอว์เบอรี่ เชอร์รี่ ชมพู่แดง ดอกกระเจี๊ยบ
สีม่วงแดง
สีม่วงแดงใน ผักผลไม้ กลุ่มสีนี้มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยปกป้อง ผักผลไม้ จากการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต เลยทำให้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด ช่วยชะลอการเกิดการอุดตันในเส้นเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว
ผักผลไม้ สีม่วงแดง : กะหล่ำ ปลีม่วง มะเขือม่วง หอมแดง ถั่วดำ/แดง ข้าวเหนียวดำ ข้าวแดง มันสีม่วง เผือก ดอกอัญชัน ลูก พรุน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น องุ่นแดง บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ เป็นต้น
สีเหลือง สีส้ม
สีเหลือง สีส้มในกลุ่มสี นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัวด้วยกัน ตัวสำคัญ ๆ ก็ เช่น เบต้า-แคโรทีน ฟลาโวนอย วิตามินซี ซึ่งช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเรา และลดโอกาสการเกิดมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,550.00 | 19,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,266.00 | 19,192.56 | 20,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,139.40 | 17,273.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 570.00 | 8,641.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 443.00 | 6,715.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,312.00 | 19,889.92 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 30/03/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 |
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
28.35
|
แก๊สโซฮอล E-20 | 25.84 | 25.84 | 25.94 | 25.54 | 25.84 | – | 25.84 | 25.84 | 25.84 | 25.84 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.34 | 20.34 | – | – | – | – | – | 20.34 | 20.34 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 28.08 | 28.08 | 28.28 | 27.78 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 |
เบนซิน 95 | 35.46 | – | – | – | 35.91 | – | 35.96 | 35.46 | 35.46 | 35.46 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 27.59 | 27.59 | 27.69 | 27.29 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 30.59 | 31.46 | 31.56 | 31.16 | 31.46 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 | 29 Mar 05:00 |