ขุมทรัพย์แสนล้าน “วชิราวุธฯ” ไม่ต่อสัญญาเดิม ทยอยเปิดประมูล 67 ไร่กลางกรุงวาละ3ล้าน พลิกโฉมพื้นที่ธุรกิจ
ผ่าขุมทรัพย์ที่ดินวชิราวุธ วิทยาลัย แสนล้าน 67ไร่ 28 แปลงกลางใจเมือง ทำเลราชดำริ เวิ้งมหาดเล็กหลวง1-3 ทยอยพลิกโฉม “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ทุบทิ้งเพนนินซูล่า พลาซ่า ผุดคอมมูนิตี้มอลล์โรงแรมหรู ขณะที่ดิน 2 แปลง ติดสถานีบีทีเอส ราชดำริ กลาง ก.ค.รู้ผล
ที่ดินลีสโฮลด์ หรือ สิทธิการเช่ากลางเมือง ตั้งแต่ ถนนวิทยุ-หลังสวน-ราชดำริ เริ่มมีความเคลื่อนไหวขยับประมูลอีกรอบหลังทยอยหมดสัญญาอย่าง ที่ดินทำเลทองใจกลางเมือง บนเนื้อที่ 67ไร่ 28 แปลงยกเวิ้งในซอยมหาดเล็กหลวง1-3 ย่านราชดำริ ของ สำนักจัดการทรัพย์สินวชิราวุธวิทยาลัย ขุมทรัพย์ใหญ่เริ่มทยอยหมดสัญญา ทั้งนี้ ประเมินว่าสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่ากับตึกสูงระฟ้า ไม่ตํ่ากว่าแสนล้านบาทกำลังถูกพลิกโฉมอีกครั้งในไม่ช้าขณะ ราคาที่ดินขั้นตํ่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา สูงสุดตารางวาละ 3 ล้านบาท สะท้อนว่าทำเลนี้เป็นย่านเซเลบคนดังอย่างเหนียวแน่นยังมีความต้องการที่ดินแม้จะเป็นการเช่าระยะยาวที่สามารถขยับมูลค่าที่ดินทำเลนี้ให้สูงขึ้นได้อีกจากการพัฒนาใหม่
รับโอนปี62
ย้อนรอยที่ดินวชิราวุธ วิทยาลัย เริ่มเปิดประมูลตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ภายหลังสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้กับโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยดูแลหารายได้นำไปใช้เพื่อการศึกษา ขณะที่ดินทุกแปลงที่สำรวจหากครบอายุสัญญาจะใช้วิธีประมูล หาผู้เช่ารายใหม่โดยไม่ใช้วิธีต่อสัญญาให้กับผู้เช่ารายเดิม ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากสำนักจัดการทรัพย์สินวชิราวุธวิทยาลัยระบุว่าต้องการเน้นความโปร่งใส ทำให้เกิดความเป็นธรรมจากการแข่งขัน หากเอกชนรายใหม่ โดยสามารถทุบทิ้งอาคารเดิมพัฒนาใหม่ให้มีความทันสมัยได้
ทุบทิ้งเพนนินซูลา
เช่นเดียวกับเพนนินซูลา พลาซาและส่วนโรงแรม ตั้งอยู่ติดถนนราชดำริปากซอยมหาดเล็ก 1 พลาซาโรงแรมหรู ระดับ 5ดาว กำลังหมดสัญญาปลายปีนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า LHMH หรือ บริษัท LH Mall & Hotel บริษัทลูกของบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ประมูลเมื่อปี63 มีแผนพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ ระดับไฮเอ็นด์และโรงแรม “GRANDE CENTRE POINT RATCHADAMRI” จำนวน 2 โรงแรม 533 ห้องพัก ขณะนี้ อยู่ระหว่างยื่นอีไอเอคาดว่า กว่าจะเปิดให้บริการน่าจะอีก 4-5 ปีข้างหน้า มองว่าอยู่ในจังหวะเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติสถานการณ์โควิด-19น่าจะคลี่คลาย เช่นเดียวกับ โรงแรมอันตราสยาม กรุงเทพ ที่มาแทนที่โรงแรมโฟร์ซีชั่นส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายเฟสเพิ่มเติมในส่วนที่อยู่อาศัยเนื้อที่ 10 ไร่เศษ รวมถึง ความอลังการของโรงแรมดุสิต สวีท ราชดำริ กรุงเทพ ปรับปรุงอาคาร เดิมของคอนโดมิเนียม อนันตราบ้านสมประสงค์ของเจ้าของโรงแรมอนันตราหลังเช่าที่ดิน 19ปี ตั้งแต่ปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดโควิดไม่นาน เพราะโรงแรมดุสิตเดิมทุบพัฒนาใหม่ที่บริเวณหัวมุมถนนสีลม
2 ตึกดัง ก.ค.รู้ใครได้
ที่เป็นไฮไลต์ สำนักจัดการทรัพย์สินวชิราวุธ ยังเปิดประมูล ที่ดินอีก 2 แปลง ที่กำลังจะหมดสัญญา ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน นันทวันสูง 18 ชั้น มีขนาด 3 ไร่ 70 ตารางวาพื้นที่รวม 29,700 ตารางเมตร อายุ 30 ปี เตรียมส่งมอบปี 2564 แปลงที่ 2 อาคารพักอาศัย บ้านสมถวิล สูง 20 ชั้น มีขนาด 2 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา พื้นที่รวม 24,600 ตารางเมตรอายุ 26 ปี เตรียมส่งมอบปี 2568โดยมอบบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) หรือ JLL บริษัทบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก เป็นตัวกลางจัดประมูล ซึ่งมีเอกชนให้ความสนใจคาดว่ากลางเดือนกรกฎาคมนี้ ทราบว่าใครชนะประมูล ขณะตึกนันทวันของบริษัท นันทวัน จำกัด หรือ ไทยโอบายาชิ จำกัด ไม่สนใจประมูลต่อเพราะซื้อที่ดินตั้งบริษัทแห่งใหม่สุขุมวิทซอย6 หรือ ซอยนานา
แสนสิริสน-ลูกบ้านไม่ออก
“ฐานเศรษฐกิจ” สอบถามนิติบุคคลบ้านสมถวิลระบุว่า ผู้อาศัยเป็นทั้งชาวต่างชาติ นักธุรกิจชาวไทย ทั้งซื้อเฉพาะห้อง และแบบเช่าระยะยาว โดยแต่ละเดือน ราคาเช่าเดือนละ 1-1.3 แสนบาท หลายห้องมีเสียงสะท้อนไม่ต้องการย้ายออกจากพื้นที่ แต่เจ้าของเดิมไม่ขอประมูลต่อโดยมีกระแสข่าวว่าตึกนี้จะทุบทิ้งพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่าให้ความสนใจ ที่ดิน2แปลง แต่ทั้งนี้ ไม่สามารถระบุได้ในรายละเอียด
ที่กลางเมืองยังไปได้
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด ยอมรับว่า ที่ดินกลางใจเมือง ไล่ตั้งแต่ราชดำริหลังสวน วิทยุ พระราม4 กำลังทยอยหมดสัญญา โดยเฉพาะที่ดินวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งเป็นทรัพย์ขนาดใหญ่กลางใจเมืองที่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ให้ความสนใจ เพราะ ถึงอย่างไรต่างชาติต้องกลับมาลงทุน เมื่อได้ที่ดินแล้ว กว่าจะพัฒนาแล้วเสร็จใช้เวลาไม่ตํ่า4-5 ปี ช่วงนั้นเศรษฐกิจอาจกลับมาพลิกฟื้น
หลายแปลงหมดสัญญา
“ฐานเศรษฐกิจ”ลงพื้นที่ ย่านราชดำริ พบว่ามีตึกหลายอาคาร เช่น อาคารโกลเด้นแลนด์ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า อาคารสูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ที่ซอยมหาดเล็กหลวง 1 อาคารรีเจ้นท์ รอยัล เพลส 1, รีเจ้นท์ รอยัล เพลส 2 , บ้านแสนสิริ โรงแรมแรมคอร์ทยาร์ด บายแมริออทแบ็งคอก, โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พอยต์ราชดำริมหาดเล็ก1 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เป็นทำเลที่น่าจับตาและเชื่อมทะลุไปยังหลังสวน เพลินจิต ชิดลมได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชิงเดือด! ที่ดินถนนวิทยุร้อนฉ่า ปั่นราคาขายวาละ 4 ล้าน
ชิงเดือด ที่ดินถนนวิทยุร้อนฉ่า เจ้าของที่ดินแห่ขายที่ดินย่านธุรกิจกลางใจเมือง กระหึ่ม ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ตั้งราคาขายตารางวาละ 4 ล้าน ซอยนายเลิศ 1 ไร่เศษขาย 928 ล้าน ทำนายไม่เกิน 10 ปีคอนโดฯ ขายตร.ม.ละ 1 ล้านบาท
ที่ดินกลางเมืองกรุงเทพมหานครย่านธุรกิจสำคัญ สลับกันทำนิวไฮราคาสูงสุด เพราะที่ดินหายาก ไม่เหลือที่ว่างให้แทรกตัว ที่สำคัญมีนักลงทุนถือครองไว้ในมือทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะขายขาดหรือเช่าระยะยาว มองว่า ศักยภาพยังมีอยู่เปี่ยมล้น แม้ดีเวลอปเปอร์จะมีทางเลือกในหลายทำเลแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเปิดใหม่ แต่ความขลังของย่านซีบีดี (ศูนย์กลางธุรกิจ) แม่เหล็กอานุภาพชั้นดี ย่อมมีพลังสูง หากมีที่ดินแปลงใดว่าง ที่นั่นย่อมคราคร่ำไปด้วยนักลงทุน เพราะย่านธุรกิจ มีกำลังซื้อสูง ล้วนมาจากต่างชาติที่ทำงานในไทยทั้งสถานทูต องค์กรต่างๆ บริษัทเอกชนชั้นนำ รวมถึงนักธุรกิจไทยในขณะนี้และจะพบความยากลำบาก แต่หาก ผ่านวิกฤติโควิด-19 ทุกอย่างจะทยอยกลับมา ฟันธงว่าไม่เกินปี 2565-2566
ขณะการประกาศขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในกลางเมืองบนถนนสายสำคัญ อาจจะมีไม่มากแต่ สามารถสร้างสีสันเรียกเสียงฮือฮาจากขายที่เสนอขาย หรือใครที่ปิดดีลได้ ล่าสุด แหล่งข่าวจากดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ ขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีเจ้าของที่ดินฝากขายที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน ขนาดเนื้อที่ 552 ตารางเมตรทำเลติดถนนวิทยุ ใกล้กับอาคารไชโก้ (ประเทศไทย) ราคาตารางวาละ 4 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์แต่ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นราคาเสนอขายอาจต่อรองได้ ส่วนที่ดินยอมรับมีขนาดเล็ก หากมองถึงความคุ้มค่าต้องซื้ออาคารด้านหลังขยายเพิ่มซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
อีกแปลงเนื้อที่ 138 ตารางวา มูลค่า 700 ล้านบาทใกล้สถานี BTS เพลินจิต อาคารออลซีซั่น เพลส สวนลุมพินี และสถานฑูต อเมริกาเหมาะสำหรับสร้างคอนโดเนียม โรงแรม ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน ในทำเลเดียวกันยังมีการประกาศขายที่ดินติดถนนวิทยุ-ร่วมฤดี 1 เนื้อที่ 83 ตารางวาหน้ากว้าง 16 เมตรลึก 20.5 เมตร ถนนกว้าง 6 เมตร เข้าซอย 500 ใกล้สถานี BTS เพลินจิต ทางด่วน อาคาร ออลซีซั่น เพลสและบ้านกลมกิ๊ก ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินพื้นที่สีน้ำตาล ย.10 ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมา สร้างได้ 10 เท่าของแปลงที่ดินเช่นเดียวกับที่ดินในซอยนายเลิศถนนวิทยุ-ลุมพินี เนื้อที่1ไร่เศษราคา 928 ล้านบาท
สำหรับการบอกขายที่ดินบนถนนเศรษฐกิจสำคัญ วิทยุ หลังสวน เพลินจิต สุขุมวิท หาก เป็นระดับเศรษฐีมักไม่ปล่อยขายง่ายนักในทางกลับกันจะตั้งราคาขายไว้สูงๆและต่อรองยาก แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าในระยะยาว ไม่เกิน 10 ปี ทำเลวิทยุคอนโดมิเนียมแตะ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร เพราะอย่างคอนโดมิเนียม 98 Wireless ของค่ายแสนสิริ ราคาวิ่งไป 8-9 แสนบาทต่อตารางเมตรแล้วในขณะนี้เพราะเชื่อว่า นักลงทุนที่ซื้อที่ดินไปยังไม่ลงมือทันทีจะรอจังหวะเศรษฐกิจพลิกฟื้นต่างชาติเดินทางเข้าไทย
ย้อนไปปีที่ผ่านมาเดือนเมษายนท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงในรอบแรก บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ทำสถิติซื้อ ที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยราคา 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา ทำเลหัวมุมถนนสารสินใกล้สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นอาคาร MBK Life เนื้อที่ 1 ไร่เศษ ที่สำคัญยังได้เปรียบ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ “ลุมพินี” ทำให้เพิ่มมูลค่าในโครงการคอนโดมิเนียมหรูมากขึ้นในอนาคต โดยมูลค่าที่ดินของแสนสิริ ล้มแชมป์เก่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ได้ซื้อบ้านพร้อมอาคารในซอยหลังสวน ใกล้สถานี BTS ชิดลม พัฒนาเป็นโครงการสโคปหลังสวนคอนโดมิเนียมหรูในปัจจุบัน โดยทำเลนี้เป็นราคาแตะเลข 3 ครั้งแรกสร้างประวัติศาสตร์ที่ดินแพงที่สุดในประเทศ ที่ 3.1 ล้านบาทต่อตารางวาเมื่อปี 2561
นอกจากนี้ยังมี โครงการสุดอลังการอยู่ระหว่างเปิดขาย” Life One Wireless” ของ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ทำเล ติดถนนวิทยุเชื่อมระหว่างถนนเพชรบุรี-สุขุมวิท-เพลินจิต-พระราม 4-สาทรหรือทำเลตอนบนสุดของถนนวิทยุ เชื่อมกับถนนเพชรบุรีและถนนเพลินจิต
สำหรับวิทยุ ถนนสายทองคำฝังเพชร สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับผู้ถือครอง โดยแนวเส้นทาง จะตัดกับถนนพระราม 4 หรือแยกวิทยุ เชื่อมอาณาจักรเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี โครงการวันแบงค็อก 1.2 แสนล้านบาท ท้องที่ แขวงลุมพินีเขตปทุมวัน หากมุ่งหน้าตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะตัดกับถนนสารสิน (แยกสารสิน) ตัดกับที่ดินของ แสนสิริ และถนนเพลินจิต (แยกเพลินจิต) อาณาจักรเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่ดินสถานทูตอังกฤษและห้างหรูเอ็มบาสซี จากนั้นข้ามคลองแสนแสบเข้าสู่ท้องที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี และไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรบุรี (แยกวิทยุ- เพชรบุรี) ที่ย่านนี้เป็นอีกย่านธุรกิจการค้าสำคัญมีคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ประชุมนโยบายการเงินของยุโรป อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
คอลัมน์ มันนี่วีก (Money… week) โดย…พีรพรรณ สุวรรณรัตน์,มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย
สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.50 ในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้อยู่ที่จีน ก่อนหน้านี้ตัวเลขภาคการผลิตของจีนในเดือนพฤษภาคมเริ่มส่งสัญญาณว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยตลาดยังคงประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อและดัชนีราคาผู้ผลิตจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกจะยังคงขยายตัวในระดับสูงแบบเลขสองหลัก อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของจีนส่งสัญญาณชัดเจนที่จะชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน ด้านสหรัฐฯ จะมีประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเช่นกันซึ่งมีแนวโน้มจะทรงตัวในระดับสูง ด้านนโยบายการเงิน ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางของแคนาดาจะเปิดเผยแผนการชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ตลาดรอติดตามแถลงข่าวของคริสติน ลาการ์ด หลังผลการประชุมนโยบายการเงินของยุโรป
ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงวันที่ 31 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2564 เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.30 เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางของค่าเงินสกุลอื่นๆ ในเอเชีย ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ อีกทั้งยังได้ปัจจัยสนับสนุนจาก ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 มาตรการสำหรับในช่วงครึ่งหลังของปีมูลค่รวม 1.4 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ด้านตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายนขาดดุล 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับที่ตลาดประเมินไว้ โดยดุลการค้าที่เกินดุลน้อยลง ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ยังขาดดุลสูงที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์เป็นเหตุให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลสูงขึ้น ส่วนอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอลงในเดือนเมษายน ทั้งภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะก่อนวิกฤตโควิด-19 ใน Q1/2023 เนื่องจากความไม่แน่นอนของการระบาดของไวรัสระลอกที่ 3 และการกระจายวัคซีน จึงทำให้ต้องช่วยเลหือสภาพคล่องโดยเฉพาะแก่ธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งนี้ ธปท. มองเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินไว้ในเดือนมีนาคมว่า เศรษฐกิจจะกลับสู่ระดับก่อนวิกฤตกลางปี 2022 สัญญาณจาก ธปท. ดังกล่าวมีแนวโน้มกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าได้ในระยะต่อไป
ด้านราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ตุลาคม 2018 ในช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากเจ้าชายซัลมานรัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบียมองว่า อุปสงค์ในตลาดโลกดีขึ้นชัดเจน จึงเหมาะสมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคม อีกทั้งการเจรจาด้านนิวเคลียร์ในอิหร่านถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อยถึงสิงหาคมนี้ด้วย
ด้านปัจจัยต่างประเทศ เงินหยวนนำการอ่อนค่าของเงินสกุลในเอเชีย เนื่องจากธนาคารกลางของจีนพยายามชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน ทั้งการปรับขึ้นสัดส่วนเงินสำรองเงินตราต่างประเทศขึ้น 200 bps มาที่ 7% เริ่ม 15 มิถุนายนนี้ ถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 เพื่อช่วยการจัดการสภาพคล่องและลดปริมาณเงินดอลลาร์และเงินตราต่างประเทศในระบบ อีกทั้งยังเพิ่มโควต้าการลงทุนของจีนในต่างประเทศอีก 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์มาอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ 1.47 แสนล้านดอลลาร์ และธนาคารพัฒนาแห่งจีนขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี 2 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการโดย Caixin เดือนพฤษภาคมอ่อนแอกว่าตลาดคาด โดยดัชนีลดลงมาที่ 55.1 จาก 56.3 จากตลาดคาดที่ 56.2 ทำให้ดัชนีฯ โดยรวมลดลง 0.9 จุดมาที่ 53.8 ปัจจัยเหล่านี้จึงกดดันเงินหยวนให้อ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์
นอกจากนี้ ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อตลาดกังวลว่าเฟดอาจลดขนาดคิวอีเร็ว เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี และการดำเนินการของเฟด ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดแรงงานสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคม ทั้งการจ้างงานภาคเอกชน ADP เพิ่มขึ้นถึง 978,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมสูงสุดตั้งแต่มิถุนายน 2020 และมากกว่าตลาดคาดที่ 650,000 ตำแหน่งไปมาก และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นลดลง 20,000 คนมาที่ 385,000 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม อีกทั้งดัชนี ISM ภาคบริการสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 64.0 ประกอบกับเฟดส่งสัญญาณขายตราสารหนี้เอกชนและ ETF ซึ่งได้ซื้อสะสมในปีที่แล้วออกมาตั้งแต่ 7 มิถุนายนนี้ ณ 30 เมษายน เฟดถือครองตราสารหนี้เอกชนในโครงการ Secondary Market Corporate Credit Facility 5.21 พันล้านดอลลาร์ และ ETF 8.56 พันล้านดอลลาร์
เงินบาทปิดตลาดที่ 31.2ค ในวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 เวลา 17.00 น.
ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสหรัฐฯ อายุ 10ปี ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบแถวบริเวณ 1.60% โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คือตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาดี ทั้งการประกาศตัวเลขดัชนี ISM ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 0.5 จุด มาอยู่ที่ 61.2 และสูงกว่าตลาดคาดในเดือนพฤษภาคม ดัชนี ISM ภาคบริการสหรฐัฯ เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 64.0 สูงกว่าตลาดคาดที่ 63.2 รวมไปถึงตัวเลขในภาคแรงงานอย่างตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ที่เพิ่มขึ้นถึง 978,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่มิถุนายน 2020 และมากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 650,000 ตำแหน่ง และตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นที่ลดลง 20,000 คน มาอยู่ที่ 385,000 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอย่างแข็งแกร่ง นำมาซึ่งความกังวลว่าเฟดอาจจะเริ่มส่งสัญญาณของการลดลดขนาดคิวอีในเร็ววันนี้ กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในท้ายสัปดาห์
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบใกล้เคียงกับระดับปิดในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยในประเทศมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค. 2021 อยู่ที่ 2.24%YoY ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 3.41%YoY ขณะที่ตลาดคาดว่า เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.3%YoY ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.49%YoY จาก 0.3%YoY ในเดือนก่อน นอกจากนี้ยังมีความเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะก่อนวิกฤตโควิด-19 ใน Q1/2023 ซึ่งถือว่าช้ากว่าที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เรายังคงมุมมองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้ากว่าประเทศอื่นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นไปอย่างจำกัด โดย ณ วันที่ 04 มิถุนายน 2564 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 0.47% 0.53% 0.64% 1.06% 1.46% และ 1.87% ตามลำดับ
กระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมมูลค่าสุทธิประมาณ 9,223 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 197 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 9,420 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ได้ลุ้นต้นเกม! “นักตบสาวไทย” นำก่อนพ่าย ตุรกี 1-3 ศึกเนชั่นส์ ลีก 2021
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2021 ทีมชาติไทย ลงสนามเกมแรกในช่วงสัปดาห์ที่สามพบกับ ทีมชาติตุรกี ที่เมืองริมินี่ ประเทศอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ “โค้ชแขก” กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ ส่งผู้เล่นชุดแรกประกอบไปด้วย ปลื้มจิตร ถินขาว, สิริมา มานะกิจ, อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา, สุทัดตา เชื้อวู้หลิม, และ วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์
เซตแรก รูปเกมมาสูสีทีเดียวเสมอกันที่ 10-10 จากนั้นเป็น สาวไทย ที่เปิดเกมทำแต้มได้อย่างต่อเนื่องหนีเป็น 16-12 ช่วงท้ายเกมสนุกตื่นเต้น สาวไทย ออกนำ 24-22 ก่อนที่จะปิดเกมเอาชนะไปได้ 25-23
เซตสอง ทั้งสองทีมยังสู้กันได้แบบไม่มีใครยอมใครเสมอ 5-5 แต่ สาวตุรกี มาฉีกหนีเป็น 8-5 ทำให้ได้ใจเร่งทำแต้มหนีไปเป็น 18-10 ก่อนปิดเกมเอาชนะไปได้ 25-12 ตามตีเสมอ 1-1 เซต
เซตสาม นักตบสาวไทย ออกนำก่อน 6-3 แต่ นักตบสาวแดนไก่งวง มาตบทำแต้มรวดเดียวแซงหนีไปเป็น 10-6 จากนั้นคุมเกมโกยแต้มหนีเป็น 20-13 ก่อนปิดเกมไปได้อีก 25-20
เซตสี่ สาวตุรกี มาเปิดฉากไล่ตบทำแต้มออกนำ 11-6 ก่อนคุมจังหวะได้หมดทั้งเกมรับ และเกมรุก ออกนำไปเป็น 16-6 ก่อนปิดเกมไปได้ง่ายๆ 25-9 แซงเอาชนะไปได้ 3-1 เซต
สำหรับนัดต่อไป ทีมชาติไทย มีโปรแกรมจะลงสนามพบกับ ทีมชาติรัสเซีย ในวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 15.00 น. แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ช่อง 3 HD
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“วิตามินซี” ประโยชน์ที่แท้จริง และเรื่องควรรู้ก่อนกิน
ประโยชน์ของวิตามินซี ต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ค้นพบกันมาแล้วเป็นเวลานาน ในเมืองไทยเอง ย้อนไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ก็มีวิจัยในสมัยนั้นที่พบว่า กรดผลไม้ชนิดนี้ช่วยลดความรุนแรงของโรคปอดอักเสบได้ และตั้งแต่บัดนั้น ก็มีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยมา
วิตามินซีมีประโยชน์อย่างไร
โดยการศึกษาทางห้องปฏิบัติการก็พยายามหาว่า วิตามินซีออกฤทธิ์หรือทำปฎิกิริยาอย่างไร จนในปัจจุบัน วิทยาศาสตร์สุขภาพก็พอจะรู้ว่า วิตามินซีเป็นองค์ประกอบในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ที่จะนำไปสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ เป็นองค์ประกอบหนึ่งในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทที่ชื่อ ไทโรซีน คาร์นิทีน และวิตามินซียังช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้อีกด้วย
ในทางการแพทย์ก็พยายามหาคำตอบเช่นกันว่า วิตามินซีพอจะช่วยป้องกันและรักษาโรคอะไรได้บ้างในทางคลินิก จนเป็นรูปเป็นร่างก็เมื่อพุทธศักราช 2520 ทางการแพทย์เราก็พอรู้แล้วว่า วิตามินซีช่วย “ป้องกัน”(ไม่ใช่รักษา) โรค เช่น ไข้หวัด โดยคิดว่าป้องกันการอักเสบ หลักการนี้ได้มีการนำไปต่อยอดในการ “ป้องกัน” (ไม่ใช่รักษา) โรคที่เซลล์อักเสบ รวมถึงเซลล์แบ่งตัวผิดปกติที่เรียกกันว่าเซลล์มะเร็งด้วย โดยเมื่อดูจากงานวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือสูง สามารถสรุปได้เป็นหลัก 3 กลุ่มด้วยกัน คือ
- ไข้หวัดจากไวรัสระดับไม่รุนแรงเท่านั้น ไม่สามารถช่วยรักษาโรคปอดอักเสบ (Pneumonia) หรือภาวะหายใจล้มเหลว (ARDS) ใดๆ ได้เลย
- โรคหลอดเลือดหัวใจรวมถึงความดันโลหิตสูง
- โรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร (หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับอ่อน – งานวิจัยอื่นๆ ยังไม่ใช่ RCT)
มีเท่านี้ และเป็นเพียง “องค์ประกอบ” การ “ป้องกัน” เท่านั้น ไม่มีผลชัดเจนเรื่องรักษาหรือเป็นยาหลักในการรักษาแต่อย่างใด (มีงานวิจัยที่ ช่วยรักษาหรือป้องกันการลุกลามมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจรวมถึงความดันโลหิตสูงได้ แต่ใช้โดส (Dose) สูงมากๆ รวมถึงผลการรักษาก็ไม่ได้เป็นที่ประจักษ์ จึงไม่นิยมใช้
วิตามินซีแบบฉีดจะลดประสิทธิภาพยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ อิริโทรมัยซิน คานามัยซิน สเตร็ปโตมัยซิน ด็อกซีซัยคลิน และลินโคมัยซิน รวมถึงยาต้านการแข็งตัวของเลือดชื่อ วาร์ฟาริน
วิตามินซีอยู่ในรูปแบบใดบ้าง
- ผักผลไม้ พริกหวานแดงบร็อคโคลี่ ฟักใดๆ มีวิตามินซี ไม่ได้มีแต่ผักผลไม้รสเปรี้ยว
- เม็ด เม็ดอม เม็ดฟู่ เคี้ยวก่อนกลืน ระวังการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- น้ำกรด ก็สายละลายแบบฉีด ยกตัวอย่าง องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้รับรองวิตามินซีในรูปแบบฉีดล่าสุดเมื่อปี 2559 วางจำหน่ายในปี 2560 ในขนาด 25,000 มก.ในขนาดบรรจุ 50 มลหรือ500 มก.ใน 1 มล. โดยมีข้อบ่งชี้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด โดยขนาดของวิตามินซีที่ฉีดต้องคำนวณตามอายุ และแนะนำให้ละลายกับน้ำเกลือใดๆ ก่อนฉีดลดโอกาสอาการปวด บวมที่เส้นเลือดขณะฉีด ทั้งปวงไม่ควรฉีดเกิน 1 สัปดาห์ “เท่านั้น”
ใครไม่ควรได้รับวิตามินซีฉีดเสริม
- คนปกติ (จะเจ็บตัวทำไม)
- G6PD Deficiency (ภาวะขาดเอ็นไซม์จีซิกพีดี) ควรตรวจก่อนฉีดขนาดสูงทุกคน
- นิ่วระบบทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากวิตามินซีขนาดสูงๆ หากได้รับติดต่อกันนานๆ โอกาสนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะจะสูงขึ้นได้ ในทางเวชปฏิบัตินั้นไม่ได้พบบ่อย และราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ก็ไม่ได้ขึ้นวิตามินซีเป็นอาหารหรืออาหารเสริมพึงระวัง ในคนไข้นิ่วแต่อย่างใด (เป็นอาหารกลุ่มพิวรีนเช่นเดิม)
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำอย่างน้อยที่สุดต่อวัน
- แรกเกิดถึงขวบแรก ไม่เกิน 50 มก.
- เด็กหญิง-เด็กชาย 25-75 มก.
- วัยรุ่น 75 มก.
- ตั้งครรภ์ 80 มก.
- ให้นมบุตร 120 มก.
- ผู้ใหญ่ 500 มก.
วิตามินซีในขนาดสูง 2 กรัมต่อวัน ควรปรึกษาแพทย์ (ที่มีประสบการณ์จ่ายวิตามินซี “เพื่อการรักษา”) ก่อน โดยวิตามินซีขนาดสูงมากที่สุดไม่ควรเกิน 1.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม
ด้วยตัววิตามินซีกระตุ้นระบบการสร้างน้ำตาลในเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ ควรระวังในผู้ป่วยเบาหวาน
ล่าสุดมีงานวิจัยที่กำลังดำเนินอยู่ นำวิตามินซี+สเตอรอยด์แบบฉีด+วิตามินบี 1 เทียบกับกลุ่มที่รักษาแบบใช้สเตอรอยด์ฉีดอย่างเดียวในผู้ป่วยวิกฤตจากติดเชื้อในกระแสเลือดว่า ผลจะเป็นอย่างไร ขณะนี้งานวิจัยที่กล่าวถึงยังไม่เสร็จสิ้น ตอนนี้ต้องรอกันต่อไป
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ถ่ายเหลว
- แสบเส้นเลือดที่โดนฉีด
- แพ้ ที่พบบ่อยคือผื่นลมพิษ (Urticaria) รองลงมาก็คือการแพ้รุนแรงถึงขั้นวิกฤติ Anaphylactic Shock ไม่เคยมีรายงาน TEN หรือ Steven Johnson Syndrome
วิตามินทุกอย่างอยู่ในอาหารหมดแล้ว อาหารเสริมควรรับประทานหรือเข้าร่างกายแต่พอดี
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
คำศัพท์ภาษาอังกฤษและเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนและภูมิคุ้มกัน
หลังจากที่รอคอยกันมานาน ในที่สุดวัคซีนก็ได้ผลิตขึ้นและนำมาฉีดให้กับมนุษย์เรา เพื่อต่อสู้กับไวรัสตัวร้ายอย่าง Covid-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก นอกจากวัคซีนจะเป็นข่าวดีแล้ว ยังมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษดี ๆ ให้น่ารู้กันหลายคำเลยค่ะ
ระดม 15 สตาร์ทอัพมือดี ยกระดับเกษตรกรรมไทย
NIA จับมือหน่วยงานพันธมิตร ส่ง 15 สตาร์ทอัพเกษตรฝีมือดีลอตแรก จับคู่เกษตรกรใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับการเกษตร สร้างสะพานเชื่อมเกษตรกรกับสตาร์ทอัพ สู่การทำการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูง เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน สร้างช่องทางตลาดใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า จากการสำรวจระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านการเกษตรในประเทศไทย (AgTech white paper) หนึ่งในข้อที่เป็นอุปสรรคที่สำคัญและยังเป็นช่องว่างสำหรับสตาร์ทอัพด้านการเกษตร (AgTech Startup) คือ เกษตรกรไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ทั้งจากการรับรู้และความไม่เข้าใจถึงเทคโนโลยีหรือบริการ รวมทั้งยังขาดการเชื่อมโยงให้รู้จักผลิตภัณฑ์หรือบริการของสตาร์ทอัพ เนื่องจากเกษตรบางส่วนยังมีความกังวลถึงความคุ้มค่าในการใช้เทคโนโลยี ความรู้ และทักษะในการใช้งาน ประกอบกับแรงงานในภาคการเกษตรมีอายุเฉลี่ยที่สูงขึ้น จึงต้องมีการเร่งสร้างเพื่อให้เกิดสังคมที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และเข้าสู่สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในภาพการเกษตรของไทยและเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
แพลตฟอร์ม AgTech Connext ถือเป็นสะพานเชื่อมให้กับสตาร์ทอัพด้านการเกษตรให้มีโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเป็นช่องทางให้กับกลุ่มเกษตรกรได้รับรู้ รวมทั้งโอกาสนำไปประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดจากสตาร์ทอัพการเกษตรของไทยเพิ่มกระจายในวงกว้างขึ้น
15 สตาร์ทอัพด้านการเกษตรลอตแรก ที่ผ่านการคัดเลือก และมีเทคโนโลยีพร้อมใช้งาน มีสินค้าหรือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่การบริหารจัดการฟาร์มด้วยอุปกรณ์เซนเซอร์ และการควบคุมด้ายเทคโนโลยีที่แม่นยำ การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ที่จะช่วยยืดอายุสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น และระบบตลาดที่จะส่งสินค้าเกษตรให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างตรงความต้องการ
สตาร์ทอัพรายแรก “น้ำเชื้อว่องไว” นำเทคโนโลยีชีวภาพมาสร้างความแม่นยำในการติดสัตว์สำหรับวัวเนื้อและวัวนม ร่วมกับระบบผสมเทียมโคแบบกำหนดเวลา และน้ำเชื้อโคกระบือคัดเพศได้ตามความต้องการและแม่นยำสูง
ในอีกกลุ่มของกลุ่มประมง สตาร์ทอัพ “อัลจีบา” พัฒนาเครื่องนับลูกสัตว์น้ำ ช่วยให้การนับลูกสัตว์น้ำ อาทิ ลูกปลา ไข่ปลา ลูกกุ้งพี ลูกกุ้งก้ามกราม ลูกปู เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีหลักฐานการนับ
อีกรายคือ “อควาบิซ” เข้าร่วมพัฒนาตั้งแต่การผลิตสัตว์น้ำจากฟาร์มของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประมงที่เหลือจากการขายสดแล้ว มาเข้ากระบวนการแปรรูป แล้วนำออกไปจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์
อีกสัตว์เศรษฐกิจใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม คือการเลี้ยงจิ้งหรีด เพื่อนำมาผลิตเป็นโปรตีนทางเลือกจากแมลง ที่เป็นอาหารทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจ “เดอะบริคเก็ต” นำเสนอการระบบการฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดแนวตั้ง ด้วยการควบคุมอย่างแม่นยำด้วยไอโอที จะได้ผลผลิตที่ชัดเจนและตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน ตอบโจทย์การผลิตภายใต้ห่วงโซ่ของอาหารในอนาคต
สำหรับในกลุ่มการปลูกผัก พืชไร่ พืชสวน มีหลากหลายสตาร์ทอัพ ที่จะนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ปัญหาที่ท้าทายสำหรับด้านการเกษตร สตาร์ทอัพฝีมือดีอย่าง “รีคัลท์” ที่นำข้อมูลขนาดใหญ่ของภาพถ่ายดาวเทียมที่จะมาพยากรณ์อากาศได้อย่างแม่นยำ ทำให้การวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ พร้อมต่อยอดรับกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกผัก ผลไม้ ที่ได้รับรอง GAP เพื่อนำมาส่งต่อให้กับร้านอาหารและโมเดิร์นเทรด
อีกรายคือ “โกรว์เด่ ฟาร์มมิ่ง” มีโรงเรือนปลูกพืชคุณภาพสูง รวมทั้งเกษตรอินทรีย์ด้วยราคาเข้าถึงได้ พร้อมรับซื้อผลผลิต ที่มีขยายผลการนำไปใช้ปลูกกัญชงกัญชาที่กำลังได้รับความสนใจสูงในช่วงนี้ด้วย
และ “เอเวอร์โกล” อีกหนึ่งสตาร์ทอัพ ที่เหมาะกับเกษตรกรที่ทำกลุ่มปลูกพืชในโรงเรือนที่ต้องการเครื่องจ่ายสารละลายแบบ Inline injection ที่คุณภาพเทียบเท่าระดับนานาชาติ พร้อมด้วยระบบโรงเรือน ที่มีการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำ
“ฟาร์มไทยแลนด์” สตาร์ทอัพที่ใช้พื้นฐานความรู้ของไอโอที มาต่อยอดระบบสมาร์ทฟาร์ม เพื่อให้เกษตรกรสามาถจัดการควบคุม ดูเเลผลผลิตทางการเกษตร ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
พาไปอีกรายที่ขอนำร่องเฉพาะกับกลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลังในเขตแปดริ้ว ได้แก่ “ไบโอ แมทลิ้งค์” ที่มีระบบบริหารการดูแลการปลูกมันสำปะหลังของเกษตรกรสมาชิกและจับคู่ตลาดกับเกษตกรมันสำปะหลังแบบมีประกันราคาไม่ต่ำกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัม
“โนวี่ โดรน” เป็นตัวช่วยเกษตรกรรุ่นใหม่ ลดเวลา เพิ่มผลผลิต คืนทุนไว เพิ่มรายได้ ลดการสัมผัสสารเคมี รวมถึงมีบริการอีกอย่างหลากหลายด้วยการบินสำรวจ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านต่างๆ ที่จะทำงานร่วมกับ เก้าไร่ เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการฉีดพ่นสารอารักขาพืช โดยการจองบริการโดรนผ่านแอพพลิเคชั่น มีระบบบันทึกข้อมูลการใช้บริการของลูกค้า
เมื่อผลิตสินค้าเกษตรที่ได้ผลผลิตมาอย่างดี แต่การเพิ่มอายุในการเก็บรักษาก่อนส่งมือผู้บริโภค เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างสูงสำหรับประเทศไทยที่มีสินค้าเกษตรเมืองร้อนเปลือกบาง มีการเน่าเสียได้ง่าย และเปลี่ยนสีเมื่อปอกเปลือกแล้ว ดังนั้น “อีเด็น อะกริเทค” สารเคลือบยืดอายุผัก ผลไม้ และผลไม้ตกแต่ง จึงมาตอบโจทย์ได้อย่างดี ดังนั้นโรงรวบรวมและตัดแต่งบรรจุ จะมีโจทย์พัฒนาร่วมกันที่จะยืดอายุการเก็บรักษาได้อย่างเหมาะสมห้ามพลาด
อีกหนึ่งกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่เป็นแพลตฟอร์มตลาด ส่งสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค ร้านค้า โรงงานผลิต เริ่มจาก “เฮิร์ป สตาร์ทเตอร์” พัฒนาธุรกิจและสร้างนวัตกรรมตลาดสินค้าเพื่อชุมชน กับภาระกิจช่วยสร้างยอดขาย สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมีระบบ “ฟาร์มโตะ” มีระบบเจ้าของร่วมผลิตที่เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคเข้าหากัน ผ่านการขายผลผลิตเกษตรรูปแบบใหม่ตลาดออนไลน์ และ “แคสปี้” เป็นแหล่งซื้อขายสินค้าเกษตรออนไลน์ที่มีสินค้ามากมายให้เลือก มุ่งเน้นการคัดสรรเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่นสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยมุ่งสู่เกษตรอินทรีย์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
10 สรรพคุณ…ประโยชน์ของ “พริกไทยดำ” สมุนไพรเร่งเผลาผลาญ
“พริกไทยดำ” เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการช่วยลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน จะเห็นได้ว่ายาลดน้ำหนัก หรือครีมสลายไขมันหน้าท้องหลายยี่ห้อมักมีส่วนผสมของพริกไทยดำ เพื่อที่จะช่วยให้หุ่นกระชับได้สัดส่วน ไร้ไขมันส่วนเกินนั่นเอง
ที่มาของพริกไทยดำ
พริกไทย เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ PIPERACEAE มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น พริกไทยดำ พริกน้อย พริกไทยล่อน เป็นต้น เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดที่บริเวณเทือกเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศอินเดียรวมทั้งเป็นผู้ผลิตหลักและเป็นพืชเศรษฐกิจในประเทศเขตร้อน เช่น เวียดนาม บราซิล อินโดนีเชีย ซึ่งในไทยเองก็จัดเป็นพืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง นิยมปลูกกันมากที่จังหวัดจันทบุรี ตราดและระยอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพริกไทยดำ
ลำต้น มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย เป็นเถาเนื้อแข็งเป็นข้อๆ อายุยืน เจริญในแนวดิ่ง สูงได้ประมาณ 5-10 เมตร มีรากฝอยสั้นๆ ตามข้อเพื่อยึดเกาะและช่วยพยุงลำต้น
ใบ เป็นใบเดี่ยวคล้ายใบโพธิ์ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมัน หลังใบเขียวเข้ม ท้องใบสีอ่อนกว่า
ดอก ออกเป็นช่อ ประกอบด้วยดอกย่อยเล็กๆ จำนวนมาก
ผล ทรงกลม แข็ง ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดง อยู่ติดกันเป็นพวง หนึ่งผลมีหนึ่งเมล็ด ผลแห้งสีดำ ผิวหยาบและมีรอยย่น เปลือกนอกสีดำหรือน้ำตาลเข้ม ลอกได้ แต่ทางยานิยมใช้พริกไทยดำมากกว่าพริกไทยล่อน
สารสำคัญในพริกไทยดำ
ไพเพอร์รีน (Piperine) เป็นสารที่ทำให้มีกลิ่นฉุนและเผ็ดร้อน ช่วยลดไข้ อาการอักเสบ อการเจ็บปวดและฆ่าแมลงได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับไพเพอร์รีนพบว่ามีคุณสมบัติในการลดความอ้วน ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน
สารอาหารอื่น เช่น โปรตีน ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น
“พริกไทยดำ” สรรพคุณเด่น เร่งเผาผลาญ รักษาอาการปวดเมื่อย
เครื่องเทศรสเผ็ดร้อนอย่างพริกไทยดำนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันแล้ว ก็ยังช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยได้ เพราะมีสาร piperine ที่ทำให้พริกไทยมีความเผ็ด มีกลิ่นฉุน และยังช่วยขับปัสสาวะ ล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ บอกลาอาการขี้ลืม และโรคอัลไซเมอร์ไปได้เลย
ประโยชน์และสรรพคุณของ “พริกไทยดำ” 10 ประการ
1. พริกไทยดำมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
2. พริกไทยดำมีสรรพคุณช่วยควบคุมโรคความดันโลหิตสูง
3. ประโยชน์ของพริกไทยดำช่วยขับเสมหะ และแก้เจ็บคอ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น
4. พริกไทยดำช่วยเยียวยากระเพาะและลำไส้
5. ประโยชน์ของพริกไทยดำช่วยการขับถ่ายให้สะดวก ไม่ท้องผูก
6. สรรพคุณพริกไทยดำช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย
7. พริกไทยดำเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยให้เลือดลมดี ร่างกายได้ปรับสมดุล
8. ประโยชน์ของพริกไทยดำลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก และช่วยลดไข้หวัดได้
9. พริกไทยดำช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยขับเหงื่อ ลดไขมัน
10. พริกไทยดำมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท
ระวัง! เชื้อราจากพริกไทยดำ
ประโยชน์ของพริกไทยดำนั้นดีต่อร่างกายมากๆ แต่จะเกิดโทษต่อร่างกายหากเก็บรักษาพริกไทยไม่เหมาะสม เพราะพริกไทยนั้นชื้นและขึ้นราได้ง่าย คงไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแน่ๆ หากคุณรับประทานของที่มีเชื้อราเข้าไป การเก็บพริกไทยควรใส่ในภาชนะที่แห้งสะอาด และเก็บให้พ้นความชื้น อย่าให้มีน้ำเข้าไปปนในภาชนะที่บรรจุพริกไทย เพราะอาจทำให้มีเชื้อราที่มีสารพิษต่อร่างกาย อาจทำให้ท้องเสีย ท้องร่วง และหากสารพิษจากเชื้อราเข้าสู่ร่างกาย อาจส่งผลให้ต่อมหมวกไตมีปัญหา เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งร้าย
“พริกไทยดำ” ตัวช่วยเมื่อเป็นหวัด
อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก สภาพอากาศแบบนี้คนเป็นหวัดกันเยอะมาก สำหรับผู้ที่เป็นหวัดแล้วมักจะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกและเสมหะ รู้สึกหายใจไม่สะดวกอยู่ล่ะก็ พริกไทยดำเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเด่นในการช่วยขับเสมหะ ขับน้ำมูกได้ดี อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในร่างกายออกทางเหงื่อได้ ทำให้อุณหภูมิร้อนๆ ในตัวคนไข้ลดลง นอกจากนี้กลิ่นของพริกไทยยังทำให้จมูกโล่ง หายคัดจมูกเป็นปลิดทิ้ง แม้พริกไทยจะไม่ได้ช่วยให้หายหวัดได้เต็มร้อย แต่ก็ช่วยให้รู้สึกสบายตัวขึ้นเมื่อเป็นไข้หวัด เรียกได้ว่าใครรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว มีเสมหะ ไอ เจ็บคอ อาการเหล่านี้พริกไทยดำช่วยได้แน่ๆสำหรับเมนูแนะนำของคนเป็นหวัด ก็ต้องเป็นข้าวต้มเครื่องร้อนๆ เอาไว้ซดน้ำซุปให้คล่องคอ แล้วอย่าลืมเพิ่มความหอมด้วยพริกไทยดำ ที่จะช่วยให้จมูกโล่ง ขับเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอได้ดีมากๆ “พริกไทยดำ” จึงเป็นยาจากธรรมชาติที่ช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นแบบไร้สารสังเคราะห์ใดๆ
เพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยได้ง่ายๆ ด้วย “พริกไทยดำ”
พริกไทยดำนอกจากจะมีประโยชน์ช่วยแก้หวัด และช่วยเผาผลาญไขมันได้แล้ว ยังช่วยในการปรุงอาหารให้ออกมามีกลิ่นหอมน่ารับประทานขึ้นอีกด้วย พริกไทยดำจึงถือเป็นเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้การทำอาหารดูมีสีสันมากขึ้น จากสเต็กหมูจานธรรมดาๆ ก็จะกลายเป็นสเต็กหมูพริกไทยดำหอมๆ น่ารับประทานขึ้นมาก หรือถ้าเบื่อกับข้าวที่จืดชืดก็แค่เพิ่มความต่างด้วยการปรุงซอสพริกไทยดำเพิ่ม ทำให้กับข้าวดูแปลกไปกว่าเดิม ได้ความเผ็ดร้อนที่เป็นสีสันให้อาหารจานเก่า น่ารับประทานมากขึ้น เมนูแนะนำที่มีพริกไทยเป็นพระเอกตัวเด่น ได้แก่ กุ้งผัดพริกไทยดำ สปาเก็ตตี้อกไก่พริกไทยดำ หมูทอดพริกไทยดำ เป็นต้น เมนูเหล่านี้จะมีรสเผ็ดร้อนของพริกไทยดำที่จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้สาวๆ ที่กำลังควบคุมอาหารอยู่ได้ลดพุง ลดไขมัน อีกทั้งยังช่วยขับเหงื่อได้เหมือนกับการอบซาวน่าหนึ่งหนเลยทีเดียว
โทษของพริกไทยดำ
1. พริกไทยเป็นพืชที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน การรับประทานมากไปส่งผลต่อปอดและระบบย่อยอาหาร ทำผิวหนังเป็นฝีและอักเสบง่าย คอบวมอักเสบบ่อย ร้อนในเป็นแผลในปากและฟันอักเสบ
2. ผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงหากรับประทานมากไปอาจจะทำให้โรคริดสีดวงกำเริบได้
3. สารไพเพอร์รินหากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากและได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้
แต่ปกติแล้วเรารับประทานพริกไทยเพราะนำมาปรุงอาหาร ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากและไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย
ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากพริกไทยดำ
1. พริกไทยดำอัดเม็ดหรือพริกไทยดำบรรจุแคปซูล ช่วยลดความอ้วน ลดอัตราการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการท้องอืดท้อง ลดไข้และการอักเสบ เป็นต้น
2. ชาพริกไทยดำ บรรเทาอาการไอ มีเสมหะ
3. พริกไทยป่น ประกอบอาหาร ดับกลิ่นหอม เพิ่มรสเผ็ด หอมอร่อยให้กับอาหาร
4. น้ำมันหอมระเหย ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยย่อยอาหารและเจริญอาหาร เป็นยาระบาย แก้ท้องอืด บรรเทาปวด ขับเหงื่อ ลดไข้ เป็นต้น
รู้จักกับสรรพคุณดีๆ ของพริกไทยดำมาพอสมควรแล้ว ก็อย่าลืมไปหาเมนูพริกไทยดำมาเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ดีๆ มากมาย แต่อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการกินสมุนไพรเผ็ดร้อนอย่าง “พริกไทยดำ” ด้วยล่ะ แล้วชีวิตจะมีสมดุลครบทั้งธาตุร้อนและธาตุเย็นเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,750.00 | 27,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,798.00 | 27,257.68 | 28,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,618.20 | 24,531.91 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,438.40 | 21,806.14 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 809.00 | 12,264.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 629.00 | 9,535.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,863.00 | 28,243.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/06/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.95 | 27.95 | 28.25 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.68 | 27.68 | 27.98 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 26.44 | 26.44 | 26.74 | 26.44 | 26.44 | – | 26.44 | 26.44 | 26.44 | 26.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.99 | 21.99 | – | – | – | – | – | – | – | 21.99 |
เบนซิน 95 | 35.36 | – | – | – | 35.81 | – | 35.86 | 35.36 | – | 35.36 |
ดีเซล B7 | 28.09 | 28.09 | 28.39 | 28.09 | 28.09 | 28.09 | 28.09 | 28.09 | 28.09 | 28.09 |
ดีเซล | 25.09 | 25.09 | 25.39 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 |
ดีเซล B20 | 24.84 | 24.84 | 25.34 | – | 24.84 | – | 24.84 | 24.84 | – | 24.84 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.86 | 32.86 | 34.84 | 34.26 | – | – | – | – | – | 32.86 |
แก๊ส NGV | 13.99 | 13.99 | – | – | – | – | – | – | – | 13.99 |