Blog Post

DDproperty เผยทำเลฮอต อสังหาฯ ‘บูม’ กลุ่มตลาดบน

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการคมนาคมของภาครัฐ แม้ว่าจะส่งผลดีที่ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยไม่ได้กระจุกตัวอยู่เฉพาะใจกลางเมืองอีกต่อไป แต่ก็มีส่วนผลักดันให้ราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยสูงขึ้น เมื่อประกอบกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และกำลังซื้อยังไม่ฟื้นแบบกระจายตัว ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ยังคงเน้นพัฒนาสินค้าในกลุ่มตลาดบน

จากบทวิเคราะห์ในรายงาน DDproperty Property Market Outlook 2019 พบว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการระดับบนราคาขายยูนิตละ 10 ล้านบาทขึ้นไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) เจาะกลุ่มผู้ซื้อในประเทศที่มีรายได้สูงและกลุ่มชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนสินค้าระดับไม่เกิน 5 ล้านบาท แม้จะยังมีอยู่ในตลาด แต่กระจายตัวออกไปอยู่ในเขตพื้นที่รอบนอกเขต CBD มากขึ้น

3 ทำเล ‘ฮอต’ คอนโดฯ 10 ล้านบาทขึ้นไป

ทำเลที่มีซัพพลายที่อยู่อาศัยหรูระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในเขต CBD และเริ่มมีการกระจายตัวออกสู่พื้นที่รอบนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่เปิดให้บริการ และสายที่การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยพบว่า ที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป (รวมทุกประเภทที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์-คอนโดมิเนียม) ทำเลที่มีซัพพลายมากที่สุด 3 เขตอยู่ในเขต CBD ทั้งหมด ได้แก่

1. เขตวัฒนา มีจำนวนมากที่สุด มีซัพพลายถึง 32.26% ของซัพพลายระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่ถึง 65% อยู่ในแขวงคลองตันเหนือ ครอบคลุมทำเลเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์
2. เขตคลองเตย มีจำนวนซัพพลายมากถึง 19.14% ของซัพพลายระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่ 57.90% อยู่ในแขวงคลองตัน เนื่องจากเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อถึงพร้อมพงษ์ ครอบคลุม ถ.สุขุมวิท ฝั่งเลขคู่ เชื่อมต่อกับ ถ.พระราม 4
3. เขตปทุมวัน มีจำนวนซัพพลายอยู่ที่ 8.79% ของซัพพลายระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่อยู่ในแขวงลุมพินีถึง 94.13% แนวรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต ชิดลม และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลุมพินี สีลม รายล้อมด้วยถนนสายสำคัญ อาทิ วิทยุ ราชประสงค์ สุขุมวิท พระราม 4 สวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินี ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เซ็นทรัลเวิลด์ เกษรพลาซ่า

ตอบรับกับดีมานด์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากอัตราดูดซับที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน 3 เขตที่มีอัตราดูดซับมากที่สุด ได้แก่

1. เขตจตุจักร ซัพพลายมีปริมาณลดลงมากถึง 10.24% โดยแขวงที่มีอัตราดูดซับสูงสุดคือ แขวงจตุจักร เนื่องจากเป็นทำเลอนาคตที่ครอบคลุมพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และรถไฟฟ้าหลายสาย รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
2. เขตคลองเตย ซัพพลายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าราว 8.93% โดยแขวงที่มีอัตราดูดซับสูงสุดคือ แขวงคลองตัน เนื่องจากเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อถึงพร้อมพงษ์ ครอบคลุม ถ.สุขุมวิท ฝั่งเลขคู่ เชื่อมต่อกับ ถ.พระราม 4
3. เขตบางคอแหลม มีซัพพลายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 8.41% โดยเฉพาะในแขวงพระยาไกร เนื่องจากเป็นทำเลแนว ถ.เจริญกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้แหล่งงานทั้งย่านสาทร สีลม และพระราม 3 นอกจากนี้ยังใกล้เอเชียทีค

คอนโดฯ ไม่เกิน 5 ล้าน รอบนอก CBD ตอบรับดี

ส่วนโครงการระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ยังคงมีอยู่ในตลาด โดยทำเลที่ได้รับการตอบรับดีอยู่ในพื้นที่รอบนอก CBD ที่มีศักยภาพจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมของภาครัฐ ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท (รวมทุกประเภทที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์-คอนโดมิเนียม) ทำเลที่มีซัพพลายมากที่สุด 3 เขต ได้แก่

1. เขตห้วยขวาง มีจำนวนซัพพลายมากที่สุดถึง 11.54% ของซัพพลายระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาททั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่ถึง 58.62% อยู่ในแขวงห้วยขวาง ซึ่งเป็นทำเล New CBD แนวรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ตั้งแต่สถานีสุทธิสารถึงสถานีพระราม 9 ที่มีทั้งแหล่งงาน ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
2. เขตวัฒนา มีซัพพลายอยู่ที่ 10.14% ของซัพพลายระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาททั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่อยู่ในแขวงคลองตันเหนือถึง 54.51% เนื่องจากทำเลนี้ครอบคลุมทำเลเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่มีทั้งดีมานด์และซัพพลายสูงขึ้นต่อเนื่อง
3. เขตจตุจักร มีซัพพลายอยู่ที่ 6.77% ของซัพพลายระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาททั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยซัพพลายส่วนใหญ่อยู่ในแขวงจอมพลถึง 48.17% เนื่องจากเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พาดผ่าน รองรับโครงการในอนาคตอย่างสถานีกลางบางซื่อ และรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ครอบคลุมสถานีอินเตอร์เชนจ์หลายแห่ง

โดยทำเลที่มีอัตราดูดซับมากที่สุด 3 เขต ได้แก่

1. เขตราชเทวี มีปริมาณซัพพลายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าสูงสุดถึง 21.05% โดยเฉพาะแขวงถนนพญาไท เนื่องจากเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้า BTS สถานีพญาไท และอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประกอบกับในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มพาดผ่าน
2. เขตธนบุรี มีปริมาณซัพพลายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 11.91% โดยเฉพาะในแขวงบุคคโล เนื่องจากเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้า BTS สายสีลมพาดผ่าน ไม่ไกลจากวงเวียนใหญ่ และตลาดพลู เชื่อมต่อกับใจกลางเมืองอย่างสาทร สีลมได้สะดวก
3. เขตจตุจักร ปริมาณซัพพลายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 7.41% โดยแขวงที่ปริมาณซัพพลายลดลงมากที่สุดได้แก่ แขวงเสนานิคม เนื่องจากเป็นทำเลแนวรถไฟฟ้าสายใหม่อย่างสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ครอบคลุมสถานีเสนานิคม สถานี ม.เกษตร และสถานีบางบัว ใกล้มหาวิทยาลัยถึง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ของปี 2561 จนถึงไตรมาส 1 ของปี 2562 ก่อนจะมีการชะลอตัวลงเพื่อปรับตัวรับมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562 โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับผู้ที่ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 ยูนิตขึ้นไป และที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-30% ซึ่งการชะลอตัวคาดว่าจะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ เนื่องจากเชื่อว่าผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัวในการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อรับมือกับมาตรการดังกล่าวได้ระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย รวมไปถึงภาคสินเชื่อและการเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะเปรียบเสมือนการช่วยกรองความสามารถของผู้ซื้อว่าต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่งในการที่จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการในปี 2562 ยังคงอยู่ที่กลุ่มเซ็กเมนต์ระดับบน เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังและความสามารถในการซื้อแม้จะต้องวางเงินดาวน์มากขึ้นก็ตาม

ขอบคุณข้อมูลจาก  ddproperty.com

---

อสังหาฯ ชิงตลาดบ้านสูงอายุ! เค้กก้อนโตเจาะไทย-ต่างชาติไฮเอนด์

กูรูแนะดีเวลอปเปอร์ปรับแผนรับกำลังซื้อในประเทศแผ่ว เจาะตลาดผู้สูงอายุ-ต่างชาติกระเป๋าหนักทะลัก หลังคนไทย 20% เข้าสู่สังคมชราภาพ

ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในแต่ละปี นอกจากจะผูกพันกับองค์ประกอบของทิศทางเศรษฐกิจประเทศ หรือ จีดีพี และนโยบายส่งเสริมจากรัฐเป็นหลักแล้ว และปีนี้เช่นกัน แนวโน้มความต้องการของตลาดเป็นเทรนด์ที่ผู้พัฒนาอสังหาฯเล็ก-ใหญ่ต้องจับทิศมองดีมานด์ให้ชัดเจน และที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นตลาดบ้านผู้สูงอายุ

 

 

โดยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตัวแทนบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2562 ว่า ผู้ประกอบการมีแนวโน้มขยายลงทุนมาตลาดผู้สูงอายุมากขึ้น และผู้ประกอบการส่วนใหญ่น่าจะมีการปรับใช้กลยุทธ์ให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากจะเน้นผลิตโปรดักต์ในกลุ่มกลาง-บนมากขึ้น โดยการพัฒนาที่อยู่อาศัยในระดับลักชัวรีและยังเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอยู่อาศัยของคนไทยก็จะเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับแผนพัฒนาโครงการในอนาคตให้สอดคล้องกับดีมานด์ด้วย เช่น การที่ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หลังจากพบจำนวนผู้สูงอายุในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสัดส่วนประชากรสูงอายุต่อประชากรรวมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเข้าใกล้ 20% สะท้อนชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไปสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยสิ่งที่ตามมา คือ ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ต้องเอื้อต่อการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้นด้วย ดังนั้น คาดในปีนี้จะเกิดโครงการที่เป็นบ้านสำหรับผู้สูงอายุเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่ นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า นับจากนี้อาจได้เห็นโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ย่อยลึกลงไปมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดฯ สำหรับผู้สูงอายุ ที่มีดีมานด์เพิ่มชัดเจน สำหรับคาดการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมปีนี้นั้น ในส่วนของอุปทานใหม่ที่จะเกิดขึ้น น่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกับตัวเลขเฉลี่ย 5-6 ปีที่ผ่านมา คือ ประมาณ 5.3 หมื่นหน่วย แต่สำหรับรูปแบบของการพัฒนาโครงการ จะถูกปรับให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายย่อยมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา แม้แต่ละบริษัทแข่งขันดุเดือดช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์ของตลาดผ่านโปรดักต์ที่จับกลุ่มเป้าหมายชัดเจน แต่ก็ยังถือว่าบางตลาดกว้างเกินไป

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ น.พ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ ผู้ปลุกตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับคนวัยเกษียณ โครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” ทำเลรังสิตคลอง 1 จ.ปทุมธานี รองรับทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายอื่นต่างตบเท้าเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น เนื่องจากมองเห็นโอกาส

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

---

9 แนะนำเก็บรักษาโฉนดที่ดิน

คำแนะนำที่พึงปฏิบัติ

1. ควรเก็บรักษา โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) ไว้ในที่ปลอดภัย ถ้ามีคนแปลกหน้ามาขอดูโฉนดที่ดินหรื น.ส. 3 โดยอ้างว่ามีคนต้องการจะซื้อให้ระมัดระวัง เพราะผู้ทุจริตอาจนำฉบับของปลอมมาเปลี่ยนได้

2. อย่าให้ผู้อื่นยืม โฉนดที่ดิน หรือ น.ส. 3 ไปไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น

3. ในกรณีที่ โฉนดที่ดิน หรือ น.ส. 3 สูญหาย หรือถูกลักขโมย ให้รีบแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) โดยเร็ว แล้วนำใบแจ้งความไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดิน เพื่อให้ออกใบแทนให้ใหม่

4. อย่าเซ็นชื่อในหนังสือมอบอำนาจ โดยไม่ได้กรอกข้อความเป็นอันเด็ดขาด ก่อนเซ็นชื่อให้กรอกข้อความในใบมอบอำนาจให้ครบถ้วน และจะมอบให้ไปทำนิติกรรมเรื่องใดก็เขียนลงไปให้ชัดเจน เช่น จะขายก็ว่าขาย จะให้ก็ว่าให้

5. ควรพิจารณาถึงบุคคลที่รับมอบอำนาจจากท่าน ควรเป็นบุคคลที่ท่านเชื่อถือหรือรู้จัก เช่น ญาติพี่น้อง อย่ามอบอำนาจให้กับผู้ที่ท่านไม่รู้จักมักคุ้นมาก่อน ถ้าไม่จำเป็นควรไปทำธุระกิจเกี่ยวข้องกับที่ดินด้วยตนเองจะเป็นการปลอดภัย และสะดวกกว่าแม้จะเสียเวลาไปบ้าง ก็ยังดีกว่าสูญทรัพย์

6. ถ้ามีเวลาว่าง ควรนำ โฉนดที่ดิน น.ส. 3 ไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินว่า ที่ดินของท่านยังอยู่ปกติและมีหลักฐานถูกต้องตรงกับฉบับสำนักงานที่ดินหรือไม่ 

7. ก่อนจะรับซื้อ หรือขายฝาก หรือรับจำนองที่ดิน ควรไปตรวจสอบที่ดินให้แน่นอน ถูกต้องตรงกับหลักฐานตาม โฉนดที่ดินหรือ น.ส. 3 ถ้าสงสัยให้ไปตรวจสอบหลักฐานที่สำนักงานที่ดินก่อน

8. เพื่อความแน่นอนในการรับซื้อ รับขายฝาก หรือรับจำนองที่ดิน ควรติดต่อเจ้าของที่ดินโดยตรง

9. อย่าทำสัญญาให้กู้ยืมเงินกันเองโดยรับมอบ โฉนดที่ดิน น.ส. 3 ไว้ประกันเป็นอันขาด เพราะขายเป็นฉบับของปลอม ทางที่ดีควรไปจดทะเบียน รับซื้อ รับขายฝาก รับจำนอง ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจึงจะถูกต้องและปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก  terrabkk.com

---

Ratio ชี้วัดว่าคุณเป็น คนทั่วไป หรือ คนรวย ?

มนุษย์ทุกคนต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ เชื่อว่าเหนื่อยกายเหนื่อยใจไม่แพ้กัน แต่น่าแปลกว่า ทำไมบางคนยิ่งทำยิ่งรวยขึ้นไปเรื่อย บางคนทำแล้วกลับย่ำอยู่กับที่ บางคนหยุดทำไม่ได้แม้แต่วันเดียว TerraBKK Research เสนอทัศนคติแนวคิดเปลี่ยนชีวิต Ratio ชี้วัดว่าคุณจะเป็น คนทั่วไป หรือ คนรวย ลองมาศึกษาถึงความแตกต่างแนวคิดในการทำงาน เพื่อชีวิตจะได้มั่งคั่งกับเขาเสียที

Ratio รายรับจ่ายคนทั่วไป ทำงานเพื่อความอยู่รอด           

เป็นลักษณะการทำงานของคนชนชั้นกลางไปจนระดับล่าง คือ ชีวิตต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถหยุดได้ เมื่อไหร่ที่หยุดอย่างการลาออก จะทำให้ไม่มีเงินมาเลี้ยงชีพ อาจจะเห็นได้อย่างชัดเจนสำหรับลูกจ้างรายวัน หรือแม้กระทำพนังงานเงินเดือนสูง มีรายได้จากการลงทุนทรัพย์สินก็ตาม หากสัดส่วนหลักของรายได้ ยังคงมาจากการทำงานประจำ ก็แสดงว่ายังต้องทำงานเป็นวงจรต่อไป เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนการเงินระหว่างรายได้และรายจ่ายในชีวิตประจำวันเป็นรายเดือนแล้ว จะเป็นลักษณะ ดังนี้

 

              ทั้งนี้ เมื่อไรก็ตามที่ Ratio ทำงานเพื่อความอยู่รอด มีค่าน้อยกว่า 1 นั้นแสดงว่า ชีวิตของคุณกำลังจะเป็นหนี้ก่อเกิดหายนะต่อไปในอนาคต เพราะมีระดับรายจ่ายมากกว่าระดับรายได้

Ratio รายรับจ่ายคนรวย ทำงานเพื่อความมั่งคั่ง

              เป็นลักษณะการทำงานของคนรวย คือ การทำงานเพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง เป็นการทำงานที่เหนื่อยยาก เพื่อสร้างทรัพย์สินที่เป็นแหล่งผลิตเงิน แหล่งที่มาของรายได้ พัฒนาวิธีการหรือช่องทางแหล่งรายได้จากทรัพย์สินให้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนสามารถนำพาตนเองออกมาจากวงจรการทำงานประจำได้ เพราะรายได้จากทรัพย์สิน มีมากพอที่จะใช้จ่ายในชีวิตประจำ โดยไม่ต้องทำงานประจำ ตัวอย่างรายได้จากทรัพย์สิน เช่น เงินปันผลจากหุ้นสามัญ , ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์ , เงินปันผลจากธุรกิจส่วนตัว , ผลตอบแทนจากตราสารหนี้หรือกองทุนรวม เป็นต้น

 

ทั้งนี้ หากคุณไม่ได้เกิดมามีพื้นฐานการเงินร่ำรวย คุณก็สามารถสร้าง Ratio ทำงานเพื่อความมั่งคั่งได้เช่นกัน เช่น

• เพิ่มช่องทางรายได้มากกว่า 1 ทาง เป็นแนวคิดที่ดี แต่ไม่ได้แปลว่าทุกการกระทำจะช่วยกลายเป็น passive income ไปเสียหมด การทำอาชีพเสริมช่วยเพิ่มรายได้จริง แต่อย่าลืมว่า คุณก็ต้องลงแรงและเสียเวลาเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน แน่นอน เมื่อไหร่ที่คุณหยุดทำ รายได้คุณก็หยุดตามไปด้วย แบบนี้ ไอเดียอาชีพเสริมของคุณตอบโจทย์ได้จริงหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น ทุกอาชีพเสริม อาจไม่ใช่เส้นทางจะพาคุณไปสู่เป้าหมายได้ หากอยากเป็นคนรวยต้องคิดรอบคอบและมองระยะยาวแบบมุมมองคนรวยเสียก่อน

• ออมเงิน เป็นพื้นฐานการเงินเริ่มต้น แต่ไม่ใช่เส้นทางที่จะทำให้คุณรวยได้จริง อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25-1.8%ต่อปี ไม่ช่วยต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อได้เลย ดังนั้น การออมเงินแต่ไม่รู้วิธีนำเงินไปบริหารลงทุน คุณมีไอเดียอย่างไรที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ อ่านหนังสือ อบรมสัมมนา พูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จ ฯลฯ

• ลงทุนทรัพย์สิน ใครรวยหุ้นก็ว่าหุ้นดี ใครชอบอสังหาริมทรัพย์ก็ว่าอสังหาริมทรัพย์ดี บางคนไม่ชอบความเสี่ยงก็เลือกลงทุนกองทุนรวม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการลงทุนสร้างทรัพย์สินที่ดีได้ทั้งนั้น แต่เดี๋ยวก่อน แน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ คุณต้องเจอปัญหาความล้มเหลวอย่างแน่นอน ดังนั้น อย่าไปคล้อยตามใครจนลืมความเป็นตัวเอง เริ่มต้นจากการลงทุนทรัพย์สินที่คุณสนใจมากที่สุด อยากเรียนรู้มากที่สุด น่าจะดีกว่า

              ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงไอเดียเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเปลี่ยนตนเองจาก “คนทั่วไป” ไปสู่การเป็น “คนรวย”   เริ่มต้นจากการรู้จักการใช้จ่าย รู้จักเก็บออม รู้จักการลงทุนต่อยอดจากเงินออมที่มี รู้จักเรียนรู้จากบุคคล หรือ สิ่งแวดล้อม หรือ อะไรก็ตามแต่ ที่สามารถนำพาไปสู่เป้าหมายนั้น อาจใช้เวลามากน้อยต่างกัน แต่เชื่อคุณจะประสบความสำเร็จได้ หากไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน

ขอบคุณข้อมูลจาก  terrabkk.com

---

อุทยานฯพุเตย แหล่งรวมธรรมชาติแห่งเดียวในสุพรรณฯ

จริงๆแล้วการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชมธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา ไม่จำเป็นจะต้องไกลจากกรุงเทพฯ เสมอไปนะคะ วันนี้ TerraBKK จะพาคุณไปเปิดประสบการณ์ใหม่ กับการชื่นชมธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบกันที่ จังหวัดสุพรรณบุรี

โดยเราจะไปกันที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอด่านช้าง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 85 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานฯแห่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี สำหรับการเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง กับระยะทาง 245 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติพุเตย ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสลับซับซ้อนมีความลาดชันมาก ประกอบด้วยเขาผาแดง เขาพุเตย เขาพุระกำ เขาปลักหมู เขาขโมย เขาม่วงเฒ่า เขาปะโลง และเขาห้วยพลู โดยมี “ยอดเขาเทวดา” เป็น ส่วนที่สูงที่สุด ระดับความสูง 1,123 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย ได้แก่ ลำตะเพิน ห้วยเหล็กไหล ห้วยองคต ห้วยองค์พระ ห้วยท่าเดื่อ ห้วยขมิ้น ซึ่งไหลลงเขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 

 

      ส่วนสัตว์ป่าถือว่าอุทยานแห่งนี้ ยังมีอยู่ชุกชุมมาก เนื่องจากมีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารสมบูรณ์ สัตว์ป่าทั่วไปได้แก่ เสือ เก้ง ชะนี หมี นางอาย หรือลิงลม เม่น งูจงอาง งูเห่า หมูป่า อีเห็น ลิง ฯลฯ มีป่าสนสองใบธรรมชาติที่สวยงามเหมาะที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีเนื้อที่ประมาณ 198,422 ไร่ หรือ 317.48 ตารางกิโลเมตร

สภาพอากาศโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติพุเตย อากาศค่อนข้างร้อนในช่วงต้นปี และมีฝนตกชุกตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม จะมีปริมาณน้ำบริเวณน้ำตกไหลมากกว่าปกติ แต่ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิประมาณ 10 – 15 องศาเซลเซียส  และที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงตะเพินคี่นั้นมีอุณหภูมิประมาณ 5-6 องศาเซลเซียส

ส่วนสถานที่กางเต็นท์มี 3 จุดใหญ่ๆ ได้แก่
– หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1 (ด้านวังคัน-ป่าขี)
– ที่ทำการอุทยานฯ พุเตย (ด้านปลักประดู่-ห้วยหินดำ)
– หน่วยพิทักอุทยานฯ พุเตยที่ 3 ตะเพินคี่ (ด้านปลักประดู่-ตะเพินคี่)

สถานที่ท่องเที่ยวทีน่าสนใจด้านธรรมชาติที่สวยงาม

ป่าสนสองใบ

อยู่บนเทือกเขาพุเตย ห่างจากบ้านป่าขีด และที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย ประมาณ 7 กิโลเมตร มีต้นสนสองใบขนาด 2-3 คนโอบ อายุประมาณ 200-300 ปี ขึ้นอยู่ทั้งหมด 1,376 ต้น เมื่อขึ้นไปถึงบนป่าสนสองใบจะสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล มองเห็นเหมือนทะเลภูเขาซึ่งมีลมเย็นพัดผ่านตลอดเวลา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่าชมความงามของพฤกษชาติ

น้ำตกตะเพินคลี่

อยู่เลยไปจากน้ำตกพุกระทิง โดยใช้เส้นทางจากทุ่งมะกอกไปบ้านป่าผาก แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปบ้านตะเพินคลี่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงเก่าแก่ อยู่ติดเขตแนวกันชนมรดกโลก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นหมู่บ้านปลอดอาวุธทุกประเภท น้ำตกตะเพินคลี่ ห่างจากหมู่บ้านเล็กน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดมีน้ำตกไหลตลอดปี มองจากน้ำตกจะเห็นยอดเขาเทวดาสูง 1,123 เมตร น้ำตกแห่งนี้เคยมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่สำคัญของทางจังหวัดสุพรรณบุรี

ถ้ำนาคี หมีน้อย ห้อยระย้า และผาใหญ่

อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย (บ้านป่าขี้) ห่างจากอำเภอด่านช้างประมาณ 30 กิโลเมตร มีหินงอก หินย้อย ที่สวยงามตามธรรมชาติ เป็นที่ชุมนุมของสัตว์ป่าอาทิเช่น หมี งูจงอาง เม่น อ้น สุนัขจิ้งจอก หมูป่า และค้างคาวมากมาย ถ้ำแห่งนี้อยู่ในเขาตู่ตี่ซึ่งมีต้นจันทร์ผา บัวสวรรค์ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น

 

น้ำตกตาดใหญ่

จากทางแยกศาลเลาด้าห์ไปป่าสนสองใบธรรมชาติอีกด้านหนึ่งเดินทางเข้าไปตามป่าสมบูรณ์ ธรรมชาติเต็มไปด้วย ต้นไม้ สัตว์ป่าชุกชุม เดินตามร่องห้วย ไปทางเท้าเข้าหมู่บ้านกกเชียง ตำบลห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี อีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็พบน้ำตกตาดใหญ่ เป็นน้ำตกที่มีบรรยากาศร่มรื่นเย็นมาก มีพืชชั้นล่างพันธุ์ไม้ เฟิร์น มอส เกาะตาม รากไม้กิ่งไม้ดูเขียวขจี น้ำตกมีหลายชั้นใกล้กันแต่ละชั้นมีแอ่งหรืออ่างธรรมชาติไม่ลึก นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำตกหรือตั้งแคมป์ พักผ่อน ได้อย่างสบายใจและปลอดภัย

ผาใหญ่

เป็นหน้าผาสูงบริเวณเขาตู่ตี่ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร บนเขายังมีถ้ำย้อยระย้า ซึ่งมีหินงอกหินย้อยงดงาม ยามกระทบแสงจะส่องประกายแวววาว การเดินทางขึ้นสู่ถ้ำลำบากพอสมควร บางช่วงต้องปีนไต่ไปตามไหล่เขา

น้ำตกพุกระทิง

อยู่ที่บ้านคลองเหล็กไหลใกล้บ้านวังโหรา จะมีทางลูกรังเข้าไปถึงน้ำตกพุกระทิง จากอำเภอด่านช้างถึงน้ำตกพุกระทิง มีอ่างเก็บน้ำลำตะเพินตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พต. 2 (พุกระทิง) ประจำอยู่พร้อมที่จะบริการให้ความสะดวก และรักษาความปลอดภัยแก่ผู้มาใช้บริการ น้ำตกพุกระทิงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็สวยงามด้วยสายน้ำ ที่ไหลลดหลั่นลงมาถึง 9 ชั้น มีน้ำเฉพาะในหน้าฝน

สำหรับผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยว ที่อุทยานแห่งชาติพุเตยมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว และสถานที่กางเต็นท์สะอาด ซึ่งนักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์ในการพักแรมไปด้วย เช่น เต็นท์ ถุงนอน เปลสนามฯลฯ แต่หากไม่ได้เตรียมอุปกรณ์พักแรมไปด้วย ทางอุทยานฯ ได้ปรับปรุงบ้านพักราชการไว้เป็นห้องพักรับรองนักท่องเที่ยวชั่วคราว และมีเต็นท์ให้บริการ อาหารควรเตรียมไปเอง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปกางเต็นท์บนเข้าสนได้ ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ข้างบนจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย

---

 ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 7/1/2562

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง	ราคาขาย/บาท	ราคารับซื้อ/บาท	ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5%	19,550.00	19,450.00	n/a
ทองรูปพรรณ 96.5%	20,050.00	19,101.60	1,260.00
ทองรูปพรรณ 99.99%	n/a	19,798.96	1,306.00
ทองรูปพรรณ 90%	n/a	17,191.44	1,134.00
ทองรูปพรรณ 80%	n/a	15,281.28	1,008.00
ทองรูปพรรณ 50%	n/a	8,595.72	567.00
ทองรูปพรรณ 40%	n/a	6,685.56	441.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 7/1/2562