“ อาร์ติซาน รัชดา” รับรถไฟฟ้า สายสีส้ม
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนุบรี มีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุด ริสแลนด์ (ประเทศไทย) สะท้อน ทำเล ย่าน รัชดา ห้วยขวาง พระราม9 มีอัตราการเปิดโครงการ ลดลง
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนุบรี มีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุด บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เปิดเผยว่าสถานการณ์ปัจจุบันของอสังหาริมทรัพย์ย่าน รัชดา ห้วยขวาง พระราม9 มีอัตราการเปิดโครงการ High Rise น้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และโครงการที่ต้องการสร้างติดกับรถไฟฟ้า MRT เป็นไปได้ยาก เพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างค่อนข้างหนาแน่น อีกทั้งราคาที่ดินปรับสูงต่อเนื่องส่งผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมต้องปรับราคาสูงขึ้นตามแต่หากดีมานด์ของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยยังคงเป็นไปได้ด้วยดีโดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานและคนยุคใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้ใกล้กับสถานที่ทำงานและไลฟ์สไตล์ของตนเองมากขึ้น
สำหรับโครงการ อาร์ติซาน รัชดา (Artisan Ratchada) สมาร์ทไลฟ์คอนโดแบบครบวงจรที่อัดเน้นด้วยคุณภาพและเทียบระดับโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแรกของบริษัทฯที่สร้างเสร็จพร้อมให้ลูกค้ารวมถึงนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชมห้องจริงและเข้าอยู่แล้ว ด้วยโครงการ High Rise ความสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร บนพื้นที่ 8.2 ไร่ มูลค่าโครงการมากกว่า 6,000 ล้านบาท ย่าน New CBD รัชดา ห้วยขวาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างครบครัน ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และสถานีห้วยขวาง อีกทั้งโลเคชั่นของโครงการที่มีศักยภาพสูงด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม (มีนบุรี, บางกะปิ, รามคำแหง) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายได้ใช้ชีวิตที่ลงตัวไม่แออัด
ภายใต้คอนเซปต์ MIXED-USE ที่ผสมผสานระหว่างห้องพักเพื่อการอยู่อาศัย และ Community Mall พื้นที่ ที่รวมร้านค้าเอาไว้มากกว่า 20 ร้าน ซึ่งมีเพียงไม่กี่โครงการในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มเดียวกันของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โซน ARTISAN LIFE พื้นที่เชิงพาณิชย์ (Retail Plaza) ที่ให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าที่พักอาศัยและผู้มาใช้บริการ โดยมีร้านค้าและพื้นที่บริการต่างๆ อาทิ ร้านกาแฟอเมซอน, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านซักผ้า Otteri Wash & Dry, ร้านชานม Nobicha, M&T Smoothie, E-Express IT, Barbie’s Lab Nails &Salon เป็นต้น ส่วนโซน ARTISAN CONNEX จัดเป็นพื้นที่สำนักงานแบบ Freehold ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของอสังหาริมทรัพย์
โครงการอาร์ติซาน รัชดา เป็นโครงการมิกซ์ยูส รวม 1,337 ยูนิต โดยแบบห้องภายในโครงการจะมีให้เลือก 2 แบบ 5 Type ขนาด 28 – 77 ตารางเมตร ในราคา 2.8 – 6.3 ล้านบาท ตอบโจทย์ให้กับผู้ที่มองหาที่พักอาศัยในเมืองราคาไม่สูง แต่ได้ใช้ชีวิตมากขึ้น พร้อมได้รับความสะดวกในการเดินทางใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียมที่ติดกับรถไฟฟ้า ที่นี่มีทางเข้า – ออกโครงการ 2 ด้าน ติดกับถนนประชาอุทิศ และถนนเทียนร่วมมิตร ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนพิเศษศรีรัช และทางด่วนพิเศษฉลองรัช รวมถึงใกล้ห้างสรรพสินค้าร้านดัง สำหรับลูกค้าและผู้เข้าใช้บริการภายในโครงการ เรามีพื้นที่จอดรถรองรับได้มากกว่าที่ไหนๆ ถึง 823 คัน หรือประมาณ 62% ของพื้นที่ โดยไม่รวมจอดรถซ้อนคัน และทางโครงการมี Shuttle Van คอยให้บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการเดินทางไป – กลับยังรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ และเซ็นทรัลพระราม9
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คอลลิเออร์สฯ เผยสัญญาณตลาดคอนโดฯ พ้นจุดต่ำสุดรอบ10ปี
คอลลิเออร์สฯ ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ เผยภาพรวมตลาดคอนโดฯ ปรับตัวดีขึ้น หลังโครงการ กทม.เปิดขายใหม่ คึกคัก ขณะอุปสงค์ใหม่มีสัญญาณฟื้น ก้าวข้ามจุดต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อ ณ ไตรมาส 2
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวย การ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานครในช่วงไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทั้งหมด 18 โครงการ 8,344 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 28,401 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 7,138 ยูนิต แต่พบว่าลดลงจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 2,715 ยูนิต หรือ 24.6%
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปีนี้อุปทานเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจปรับตัวลดลงเหลือเพียงแค่ประมาณไม่เกิน 20,000 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้และต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และพบว่าผู้ประกอบการหลายรายยังคงเลือกที่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงนี้ออกไป และบางรายเลือกที่จะทดลองตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาด้วยการเปิดจองให้กับผู้ที่สนใจล่วงหน้าก่อนการเปิดขายอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการเก็บยอดขายบางส่วนไว้เพื่อความมั่นใจว่าหากเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการยอดขายจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น คาดการณ์ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะยังคงปรับลดจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมลง เน้นพัฒนาโครงการแนวราบในพื้นที่หัวเมืองรอง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากนี่ยังพบว่าผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะเลื่อนการเปิดการขายโครงการใหม่ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้ออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากต้องการเน้นระบายสต็อกที่ยังคงค้างอยู่ในตลาดโดยเฉพาะสต็อกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่ยังคงเหลือขายอยู่ในตลาดและมองว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงไม่ใช่ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่
อุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำแนกตามพื้นที่ (หน่วย)
สำหรับคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2563 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอกมากที่สุด 4,033 หน่วย หรือประมาณ 48% รองลงมาคือพื้นที่รอบเมืองทางทิศตะวันออก ( สุขุมวิท ) 2,518 ยูนิต หรือประมาณ 30% ตามมาด้วยคือพื้นที่รอบเมืองทางทิศเหนือ (รัชดาฯ, พหลโยธิน) ประมาณ 770 หน่วย หรือประมาณ 9 % และพบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯเพียงแค่ 1 โครงการเท่านั้น ซึ่งพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดเป็นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถปิดการขายได้ 100% ในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็ว
คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปีพ.ศ. 2563 จำแนกตามราคาเฉลี่ย
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 กว่า 57% หรือประมาณ 4,758 ยูนิตอยู่ในช่วงระดับราคา 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยในช่วงราคา 100,001 – 150,000 บาทต่อตารางเมตร ที่ประมาณ 23% หรือประมาณ 2,797 ยูนิตและช่วงระดับราคา 150,001-200,000 บาทต่อตารางเมตร ที่ประมาณ 7% หรือ 565 ยูนิต โดยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าบางคอนโดมิเนียมบางโครงการที่เปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีบางโครงการอยู่ในช่วงราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรประมาณ 3% ซึ่งทั้ง 3 โครงการเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมธนารักษ์ สำนักงาน ก.พ. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ในการพัฒนาที่พักอาศัยเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการพลเรือนสามัญได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในลักษณะอาคารพักอาศัยรวม (คอนโด) 7 ชั้น โดยแต่ละโครงการมี 76 ห้อง พื้นที่ใช้สอย ห้องละประมาณ 40 ตารางเมตร ราคาห้องละ 999,999 บาท ซึ่งเปิดขายอย่างเป็นทางการเดือนกันยายนที่ผ่านมา และพบว่า ทั้ง 3 โครงการที่เปิดขายในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้สนใจจองมากกว่าจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้ง 3 โครงการในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ซึ่งคาดการณ์ว่า จากแผนของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์บางรายยังคงมีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในพื้นที่ปริมณฑล เพื่อดึงดูดกำลังซื้อในกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ และกลุ่มนักลงทุนที่เน้นการซื้อเพื่อการปล่อยเช่าในช่วงระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ในภาวะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งปัจจัยลบต่างๆที่ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของกลุ่มผู้ซื้อและผู้ประกอบการ ทำให้เห็นการปรับตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการกลับมาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ในระดับราคาขายเฉลี่ยประมาณ 5 หมื่นบาทต่อตารางเมตรอีกครั้ง หลังจากในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าเป็นเซ็กเมนต์ที่หายไปจากตลาด และพบว่าในช่วงระดับราคาดังกล่าวถึงแม้ว่าจะยังคงเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุนแต่ก็เป็นช่วงระดับราคาที่มีอัตราการปฏิเสธปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งบางโครงการสูงมากกว่า 30% ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ประกอบการและเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมแผนป้องกันเพื่อให้อัตราการปฏิเสธปล่อยสินเชื่ออยู่ในระดับที่น้อยที่สุด
อุปสงค์อัตราขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมเปิดใหม่จำแนกรายไตรมาส
อัตราขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมเปิดใหม่จำแนกตามระดับราคา
สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 กว่า 57% หรือประมาณ 2,501 ยูนิตอยู่ในช่วงระดับราคา <100,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยในช่วงราคา 100,001 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร ที่ประมาณ 43% หรือสามารถขายได้ประมาณ 1,535 ยูนิตในช่วงไรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา จากอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่หลายโครงการในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา สามารถปิดการขายได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่ส่วนใหญ่พบว่า ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ในช่วงไม่เกิน100,000 บาทต่อตารางเมตร
นอกจากนี่พบว่ากำลังซื้อส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจกับโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่นำมาลดราคา ซึ่งเนื่องจากราคาที่น่าสนใจและเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่ลูกค้าสามารถเห็นห้องจริงที่จะซื้อ รวมถึงมีโปรโมชั่นอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการนำมาดึงดูดความสนใจ ซึ่งถือว่าโปรโมชั่นเหล่านี้สามารถดึงดูดใจให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หลายโครงการที่ก่อสร้างเสร็จสามารถปิดการขายลงได้ 100% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา
ราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำแนกรายไตรมาส ช่วงไตรมาสที่ พ.ศ.2559 – ไตรมาสที่ 3 ปีพ.ศ.2563
ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 95,027 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 9.6% เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาเป็นการพัฒนาของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีระดับราคาขายที่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรและตั้งอยู่ในพื้นที่นอกใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการเริ่มกังวลใจกับการกำหนดราคาขายของโครงการใหม่มากขึ้น ในภาวะที่ตลาดยังคงชะลอตัว ไม่กล้าที่จะปรับราคาขายมากเกินไปเนื่องจากกังวลใจว่าอาจจะไมได้รับการตอบรับตามที่คาดการณ์ไว้ จึงส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยของตลาดมากนัก และพบว่า แทบจะทุกโครงการที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการขายในช่วงที่ผ่าน มีราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งส่งผลให้โครงการเหล่านั้นสามารถทำยอดขายได้ค่อนข้างสูงและบางโครงการสร้างปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 31.64/65 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.64/65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.67 บาท/ดอลลาร์ วันนี้คาดว่าภาพรวมตลาดจะค่อนข้างเงียบ เพราะยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่มากนักที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท แต่วันนี้ตลาดอาจรอดูการรายงานภาวะเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในส่วนของมูลค่าการส่งออก ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีก็อาจทำให้เงินบาทมีโอกาสปรับแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นเรื่องเดิม คือความกังวลต่อการแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50-31.80 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“หม่ำ จ๊กมก” เปิดตัวนักเตะ “ยโสธร เอฟซี” ย้ำ แฟนชมฟรีทุกนัด
“หม่ำ จ๊กมก” นำทีมเปิดตัวแข้งใหม่ของสโมสรยโสธร เอฟซี ก่อนลงฟาดแข้งในศึกไทยลีก 3 ฤดูกาล 2020 นอกจากนี้ยังใจดี เปิดให้แฟนบอลเข้าชมฟรีทุกนัดด้วย
นายขวัญพัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้สโมสรฟุตบอลยโสธร เอฟซี ได้ทำการคัดเลือกนักฟุตบอลได้เต็มจำนวน 35 คน นักเตะส่วนใหญ่เป็นคนยโสธรผสมกับต่างจังหวัด 8 คน และมีนักเตะต่างชาติชาวไนจีเรีย 1 คน ส่วนใหญ่อายุประมาณ 20-24 ปี โดยสโมสรฯ เน้นนักเตะพลังหนุ่ม คาดว่าเด็กชุดนี้จะทำผลงานได้ดี ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอลยโสธร เอฟซี เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้าน หม่ำ จ๊กมก กล่าวว่า หลายๆ ครั้งไม่มีโอกาสมาเชียร์ หรือมาดูแบบติดขอบสนาม แต่ก็ยังส่งคลิปวิดีโอมาอวยพรให้ทีมเก็บชัยชนะได้ทุกนัด อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีวันทิ้งจังหวัดยโสธรอยู่แล้ว แต่พวกเราต้องต่อสู้ไปด้วยกัน หลังจากที่พวกเราพักผ่อนกันมาหลายเดือน ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 โดยในปีนี้สโมสรยโสธร เอฟซี เปิดสนามให้แฟนบอลเข้าชมฟรีทุกนัด หากท่านใดเป็นแฟนบอลยโสธร เอฟซี ก็ให้เข้ามาเชียร์ที่สนามเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเตะ พวกเราจะสู้และฟันฝ่าทุกๆ อย่างไปด้วยกัน
และเมื่อถามว่าฤดูกาลนี้ ยโสธร เอฟซี จะทำผลงานติด 1-3 ของไทยลีก 3 หรือไม่ ประธาน หม่ำ จ๊กมก กล่าวว่า ทุกๆ ครั้งตนก็มั่นใจว่ายโสธร เอฟซี จะติดท็อปทรี และตนก็อวยพรให้นำชัยชนะกลับมาทุกนัด และขอให้เลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ไทยลีก 2 ให้ได้ และหากนักเตะชุดนี้ทำผลงานได้ดี ติดอันดับที่ 1-3 สโมสรยโสธร เอฟซี มีเงินอัดฉีดก้อนโต ส่วนกองเชียร์แฟนคลับของยโสธร เอฟซี เข้ามาเชียร์นักฟุตบอลทุกนัด หรือให้กำลังใจ ก็จะมีการมอบรางวัลให้อีกด้วย
ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบพบแพทย์
กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนหากคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยมือถือ อาจเกิดอาการอ่อนแรง บริเวณใบหน้าครึ่งซีก ใบหน้าเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ปากเบี้ยว มีน้ำไหลที่มุมปาก และอาจพูดไม่ชัด การรับรสที่ลิ้นผิดปกติ ปวดศีรษะ หูอื้อข้างเดียวหรือ 2 ข้าง ดื่มน้ำลำบากพูดไม่ชัด เป็นผลมาจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ผิดปกติ
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คุณพ่อรายหนึ่งออกมาเตือน เนื่องจากเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือ และปล่อยให้เล่นตลอดเวลา ติดโทรศัพท์ จึงทำให้ลูกเกิดอาการปากเบี้ยว โดยอาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ( Bell’s palsy ) คือภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ โดยมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้หน้าเบี้ยวครึ่งซีก เป็นผลมาจากเส้นประสาทใบหน้าหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งอยู่ตรงใบหน้าแต่ละข้างทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้ม ทำหน้าบึ้ง หรือหลับตา รวมทั้งรับรสจากลิ้นและส่งต่อไปยังสมองเกิดการอักเสบส่งผลต่อการรับรส การผลิตน้ำตา และต่อมน้ำลาย ปากเบี้ยวถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง บริเวณใบหน้าครึ่งซีก ทำให้หน้าเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ปากเบี้ยว มีน้ำไหลที่มุมปาก และอาจพูดไม่ชัด การรับรสที่ลิ้นผิดปกติ ปวดศีรษะ หูได้ยินเสียงดังขึ้นข้างเดียว ดื่มน้ำลำบาก ทั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดการอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าว แต่อาจมีแนวโน้มมาจากการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะปากเบี้ยว เช่น โรคงูสวัด ดังนั้น การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ จึงไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก
เด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ผู้ป่วยควรพบแพทย์เมื่อมีอาการเพื่อรีบรักษา ซึ่งการรักษาอาการปากเบี้ยว ประกอบด้วยการรักษาด้วยยา ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น กระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจน เนื่องจากสาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าที่มักจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
สาระน่ารู้ 110 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธุรกิจ รู้ไว้ได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ มีคำว่าอะไรบ้าง
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์บล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอแนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธุรกิจ มาให้ได้อ่านเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆกันจ้า |
สวัสดีคุณผู้อ่าน และเหล่านักทัศนาจร ที่กำลังพร่างพรายอยู่บนโลกออนไลน์ทุกคนค่ะ ก็กลับประสบพบเจอกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกน่ารู้ ที่จะมาบอกเล่า เก้าสิบ นั้นนี้โน้นให้ได้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความก่อนหน้านี้ ได้จรลีพาไปเที่ยวชมโบราณสถานในเมืองชากังราวกันไปแล้ว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพักเบรคสักแป๊บ มานั่งแอ๊บ เขียนเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้สื่อสารในด้านธุรกิจ ที่หลายคนต้องได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสนทนา หรือว่าเปิดอ่านในเว็ปไซต์ ก็มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษจำเพาะด้านธุรกิจ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้เลยขอจัดคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธุรกิจแบบง่ายๆ มาให้อ่านกันดังนี้จ้า
1.Investment (อินเวสเม้น) หมายถึง การลงทุน
2.Demand (ดีมาน) หมายถึง อุปสงค์-ปริมาณความต้องการของลูกค้าที่ต้องการซื้อ
3.Supply (ซัปพลาย) หมายถึง อุปทาน-ปริมาณความต้องการผลิตสินค้า4.Market share หมายถึง ส่วนแบ่งทางการตลาด
5.Segmentation หมายถึง การแบ่งส่วนตลาด
6.Targeting หมายถึง การเลือกตลาดเป้าหมาย
7.Positioning หมายถึง การวางตำแหน่งทางการตลาด
8.Chief Executive Officer หมายถึง ผู้บริหารสูงสุด
9.Attendee หมายถึง ผู้เข้าร่วม
10.Competitor หมายถึง ผู้แข่งขัน คู่แข่ง
11.Market leader หมายถึง ผู้นำทางตลาด
12.Profit หมายถึง กำไร
13.Purchase หมายถึง ซื้อ
14.Showcase หมายถึง การจัดแสดง
15.Collateral หมายถึง หลักทรัพย์ที่ใช้รับประกัน
16.Agreements หมายถึง ข้อตกลง
17.Fees หมายถึง ค่าธรรมเนียม
18.Tax หมายถึง ภาษี
19.Goods หมายถึง สินค้า
20.Products หมายถึง ผลิตภันฑ์
21.Minuites หมายถึง บันทึกการประชุม
22.Agenda หมายถึง วาระการประชุม
23.Implement หมายถึง ดำเนินการ
24.Workshop หมายถึง การฝึกและการอบรม
25.Expand หมายถึง ขยาย
26.Outsourcingหมายถึง หมายถึง การจัดจ้างคนภายนอก
27.Campaign หมายถึง การรณรงค์
28.Demonstration หมายถึง การแสดง
29.Trademark หมายถึง เครื่องหมายการค้า
30.Efficient หมายถึง มีประสิทธิภาพ
31.Flexible หมายถึง ที่ยืดหยุ่นได้
32.Eliminate หมายถึง กำจัด
33.Domestic system หมายถึง ระบบภายใน
34.Factory system หมายถึง ระบบโรงงาน
35.Goal หมายถึง เป้าหมาย
36.Quarter หมายถึง ไตรมาส (รอบ 3 เดือน)
37.Interest หมายถึง ดอกเบี้ย
38.Economic หมายถึง เศรษฐกิจ
39.Appraisal หมายถึง การประเมินค่า
40.Output หมายถึง ผลผลิต
41.Export หมายถึง ส่งออก
42.Import หมายถึง นำเข้า
43.Supply หมายถึง จัดหา, จัดส่ง
44.Accounting หมายถึง บัญชี
45.Advantage หมายถึง ข้อได้เปรียบ
46.Market price หมายถึง ราคาตลาด
47.Empower หมายถึง พนักงานที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท
48.Take over หมายถึง เข้าเป็นเจ้าของ
49.Merger หมายถึง การร่วมกันเป็นเจ้าของระหว่าง 2 บริษัท
50.Entrepreneur หมายถึง ผู้บริหารธุรกิจ
51.Achieve หมายถึง ทำสำเร็จ
52.Manage หมายถึง จัดการ
53.Subsidiary หมายถึง บริษัทย่อย
54.Warehouse หมายถึง คลังเก็บสินค้า
55.Training หมายถึง การฝึกอบรม
56.career หมายถึง หน้าที่การงาน
57.Equity หมายถึง สินทรัพย์
58.Commodity หมายถึง สินค้า
59.Effective หมายถึง มีประสิทธิภาพ
60.Productivity หมายถึง ความสามารถในการผลิต
61.Financial หมายถึง ที่เกี่ยวกับการเงิน
61.Franchisor หมายถึง ขายเอกสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนจำหน่าย, บริษัทผู้ผลิตที่เป็นผู้ให้
62.Loss หมายถึง ขาดทุน
63.Contracts หมายถึง หนังสือสัญญา
64.Confidential หมายถึง เป็นความลับ
65.Income tax หมายถึง ภาษีรายได้
66.Growth หมายถึง การเจริญเติบโต
67.Commercial หมายถึง เกี่ยวกับการค้า
68.Cooperative หมายถึง การร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ
69.enquiry หมายถึง การสอบถามข้อมูล
70.Seminar หมายถึง สัมมนา
71.Annual หมายถึง รายปี
72.Advertising หมายถึง การโฆษณา
73. Collateral หมายถึง หลักทรัพย์ค้ำประกัน
74.Commercial หมายถึง เกี่ยวกับการค้า
75.Competitor หมายถึง คู่แข่ง
76.Shortage หมายถึง การขาดแคลน
77.Intern หมายถึง ผู้ฝึกงาน
78.Magnate หมายถึง ผู้มั่งคั่ง
79.Vision หมายถึง วิสัยทัศน์
80.Recruitment หมายถึง การสรรหาคน
81.Attendee หมายถึง ผู้เข้าร่วม ผู้เข้าร่วมประชุม
82.Auction หมายถึง การประมูล
83.Board of Director หมายถึง คณะกรรมการบริษัท
84.Facility หมายถึง สิ่งอำนวยความสะดวก
85.Fair trade หมายถึง การค้าประเภทส่งออกและสั่งเข้า
86.Goal หมายถึง เป้าหมาย
87.Goods หมายถึง สินค้า
88.Seminar หมายถึง สัมมนา
89.Annual หมายถึง รายปี
90.General manager หมายถึง ผู้จัดการทั่วไป
91.Client หมายถึง ลูกค้า
92.Confidential หมายถึง เป็นความลับ
93.Shortage หมายถึง ขาดแคลน
94.Advertising หมายถึง การโฆษณา
95.Specific หมายถึง ที่เฉพาะเจาะจง
96.Amount หมายถึง จำนวน
97.Appraisal หมายถึง การประเมิน
98.Approach หมายถึง แนวทาง
99.Contract หมายถึง สัญญา
100.Credit หมายถึง สินเชื่อ
101.Logistic หมายถึง ระบบขนส่ง
102.Demonstration หมายถึง การสาธิต
103.Downsizing หมายถึง การลดขนาดองค์การ
104.Campaign หมายถึง การรณรงค์
105.Cooperative หมายถึง ความร่วมมือ
106.Deadline หมายถึง กำหนดส่ง
107.Capital หมายถึง เงินทุน
108.Trademark หมายถึง เครื่องหมายการค้า
109.Training หมายถึง การฝึกอบรม
110.Vision หมายถึง วิสัยทัศน์
111.Takeover หมายถึง เข้าครอบครองกิจการ
112.Stakeholde หมายถึง ผู้ถือผลประโยชน์ร่วมกัน
113.Industry หมายถึง อุตสาหกรรม
114.Interests หมายถึง ดอกเบี้ย
115.Efficient หมายถึง มีประสิทธิภาพ
116.Business Growth หมายถึง การเจริญเติบโตของธุรกิจ
ขอบคุณข้อมูลจาก khunnaiver.blogspot.com
ตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็ง
ผู้สูงวัย กับความเสื่อมถอยของร่างกาย เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอ แต่หากจะให้ผู้สูงวัย สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยดี ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านความรู้ ข้อมูล รวมถึงการให้ความใส่ใจเรื่องการตรวจสุขภาพและการดูแลร่างกายให้แข็งแรง
“พญ.ธิศรา วีรสมัย” สูตินรีแพทย์ เวชศาสตร์ครอบครัวและหัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยโรงพยาบาลพญาไท 1 กล่าวว่า ผู้สูงอายุควรเตรียมความพร้อมด้วยการดูแลและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่ตามมากับอายุที่เพิ่มขึ้น ที่มีสารพัดโรคจากสภาวะอวัยวะที่เสื่อมถอย
อีกหนึ่งโรคมองข้ามไม่ได้ ซึ่งเกิดจากเพิ่มขึ้นตามอายุเช่นกัน คือ “โรคมะเร็ง” มะเร็งที่พบมากในผู้หญิง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งที่เพิ่มขึ้นจากการมีอายุมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ เช่นเดียวกันกับความเสี่ยงทางพันธุกรรมที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก
อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้
เริ่มจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ในการหลีกเลี่ยงสิ่งปนเปื้อนสารเคมี หรือสารก่อมะเร็ง เช่น การทานอาหารปิ้งย่างติดเขม่าดำ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสมลพิษทางอากาศ เช่น ควันบุหรี่ ควันธูป ควันรถยนต์ร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ และตรวจเพิ่มเติมตามข้อแนะนำทางการแพทย์เมื่ออายุถึงเกณฑ์ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเต้านมด้วย digital mammogram ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งเต้านม อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง และตั้งแต่อายุ 55 ปี อาจรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วย low-dose CT โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำหรือใกล้ชิดผู้สูบบุหรี่ตามวินิจฉัยของแพทย์
ที่สำคัญ…หากพบประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง อาจบ่งบอกได้ว่าเกิดการกลายพันธุ์ของยีนที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง ที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้
การตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งด้วยการตรวจยีน จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และปลอดภัย สามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีอาการผิดปกติ หรือไม่พบความผิดปกติจากการตรวจเอ็กซเรย์หรือเลือด เพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพเชิงลึก เช่น หากผลตรวจเป็นบวก นั่นคือ ยังไม่ได้เป็นมะเร็งตอนนี้ แต่พบความเสี่ยงเป็นมะเร็งทางพันธุกรรมซึ่งจะเกิดในอนาคต ตอนนี้ก็ต้องปรับรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้งอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อปัจจัยเสี่ยงให้เกิดมะเร็งชนิดนั้นๆ
หากผลตรวจเป็นลบ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีทางเป็นมะเร็งเลย แต่หมายถึง ไม่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมในการเกิดมะเร็ง การดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงก็ยังมีความสำคัญ เพราะการเกิดมะเร็ง
นอกจากพันธุกรรมแล้ว รูปแบบการใช้ชีวิต และการปนเปื้อนสารเคมี หรือสารก่อมะเร็ง ก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น เลี่ยงการทานอาหารปิ้งย่างติดเขม่าดำ เลี่ยงการสูบบุหรี่ดื่มเหล้าเป็นประจำ เลี่ยงการสัมผัสมลพิษทั้งทางอากาศ อาหารเป็นต้น
การตรวจยีนทำได้ง่ายและสะดวก ด้วยการเจาะเลือด 6 มล. ส่งตรวจห้องปฏิบัติการทางพันธุกรรม วิเคราะห์ผลด้วยเทคโนโลยี Next Generation Sequencing ( NGS) ที่นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการตรวจยีน มีความแม่นยำถูกต้อง ปลอดภัย มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา โดยผลการตรวจเฉพาะรายบุคคลรับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ศาสตร์โรคมะเร็ง ปัจจุบัน การตรวจยีนจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ประโยชน์ของการตรวจ สามารถช่วยวางแผนการตรวจสุขภาพได้ตรงจุดเสี่ยงมากขึ้น และหากพบก้อนเนื้อที่ผิดปกติและสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้ทำการวินิจฉัยเพิ่มเติม และหากพบว่าเป็นมะเร็งระยะต้น ๆ จะเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เสลดพังพอน สรรพคุณเด่นเรื่องถอนพิษ สมุนไพรในคราบไม้ประดับที่ควรมีติดบ้าน
เสลดพังพอน สมุนไพรไทยชื่อเสียงคุ้นหูที่เด่นในเรื่องถอนพิษ สรรพคุณดี ๆ ที่หาได้ไม่ยากจากไม้ประดับใกล้ตัว
ต้นเสลดพังพอน เป็นพืชในวง ACANTHACEAE มีชื่อทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกันออกไปตามชนิด โดยเสลดพังพอนถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เสลดพังพอนตัวเมีย (Clinacanthus nutans (Burm.f) Lindau.) และเสลดพังพอนตัวผู้ (Barleria lupulina Lindl.) ทั้งนี้ เสลดพังพอนก็ยังมีชื่ออื่น ๆ ที่เรียกแตกต่างกันออกไป โดยเสลดพังพอนตัวผู้บ้างก็ถูกเรียกว่า พิมเสนต้น, ทองระอา, ช้องระอา, ลิ้นงูเห่า, คันชั่ง, อังกาบ, อังกาบเมืองหรือก้านชั่ง ส่วนเสลดพังพอนตัวเมียมักจะถูกเรียกว่ าพญายอ นอกจากนี้ยังอาจเรียกว่า ผักมันไก่, ผักลิ้นเขียด, พญาปล้องดำ, พญาปล้องทอง, ลิ้นมังกร, โพะโซ่จาง เป็นต้น
เสลดพังพอนทั้ง 2 ชนิดมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์คล้ายกันคือ เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว มีช่อดอกที่ปลายกิ่งเหมือนกัน ส่วนความแตกต่างนั้นจะอยู่ที่ลำต้น ซึ่งเสลดพังพอนจะมีหนามแหลมยาวที่ลำต้น แต่ตัวเมียไม่มี สีสันของใบก็เช่นกัน เสลดพังพอนตัวผู้จะมีก้านใบสีน้ำตาลแดง ใบสีเขียวเข้ม แต่ใบของเสลดพังพอนตัวเมียจะเป็นสีเขียว นอกจากนี้ดอกของเสลดพังพอนทั้ง 2 ชนิดยังมีสีที่ต่างกันอีกด้วย โดยตัวผู้จะมีสีส้ม ส่วนดอกของตัวเมียจะมีสีแดงอมส้ม ทั้งนี้ คนมักนิยมนำเสลดพังพอนมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านเพื่อป้องกันสัตว์และแมลงต่าง ๆ อาทิ งู ตะขาบ และแมงป่อง เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นเสลดพังพอนตัวผู้หรือตัวเมีย ทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ล้วนแต่มีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องถอนพิษ ซึ่งสรรพคุณของเสลดพังพอนตัวผู้จะอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย และเสลดพังพอนตัวผู้จะมีรสขมกว่าตัวเมีย แต่สามารถใช้ทดแทนกันได้ค่ะ โดยสรรพคุณของเสลดพังพอน มีดังนี้
เสลดพังพอนตัวเมีย
* ราก – มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยขับประจำเดือน แก้ปวดเมื่อย
* ใบ – ช่วยรักษาแผลโรคผิวหนัง อาทิ เริม แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และบรรเทาอาการแผลร้อนในภายในปาก
* ทั้งต้น – ใช้ในการถอนพิษ โดยเฉพาะพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ตะขาบ แมงป่อง ช่วยรักษาอาการอักเสบ แก้งูสวัด บรรเทาอาการลมพิษ และรักษาแผลน้ำร้อนลวกได้
เสลดพังพอนตัวผู้
* ราก – ช่วยลดอาการตัวเหลือง แก้อาการตาเหลือง แก้อาการกินข้าวไม่ได้ ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ถอนพิษงู แก้ปวดฟัน
* ใบ – ช่วยแก้อาการปวดที่บาดแผล แก้โรคฝี โรคคางทูม โรคงูสวัด เริม แก้ฟกช้ำ และช่วยรักษาแผลที่เกิดจากของมีคมได้
* ทั้งต้น – ใช้เหมือนเสลดพังพอนตัวเมีย และใช้แทนเสลดพังพอนตัวเมียได้ แต่ใบเสลดพังพอนตัวเมียมีรสจืด ใบเสลดพังพอนตัวผู้มีรสขมมาก และเสลดพังพอนตัวผู้มีฤทธิ์อ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย
ข้อควรระวังในการใช้เสลดพังพอน
แม้ว่าเสลดพังพอนจะช่วยรักษาบาดแผลและถอนพิษได้ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการนำเสลดพังพอนมาพอกที่บริเวณแผลโดยตรง เพราะอาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ค่ะ
ได้รู้จักกับเสลดพังพอนกันไปแล้ว จากนี้ไปก็คงจะพอแยกเสลดพังพอนทั้ง 2 ชนิดนี้ออกแล้วล่ะเนอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ล้วนแต่มีสรรพคุณดี ๆ ทั้งนั้น ถ้าหากบ้านของคุณมีพื้นที่ละก็ แนะนำให้เอามาปลูกดีกว่านะคะ ได้ทั้งอาหารตา แถมยังได้ยาพื้นบ้านดี ๆ อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก health.kapook.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,250.00 | 28,350.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,830.00 | 27,742.80 | 28,850.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,647.00 | 24,968.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,464.00 | 22,194.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 824.00 | 12,491.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 641.00 | 9,717.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,896.00 | 28,743.36 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/09/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 22.25 | 22.25 | 22.35 | 22.25 | 22.25 | 22.25 | 22.25 | 22.25 | 22.25 | 22.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.98 | 21.98 | 22.08 | 21.98 | 21.98 | 21.98 | 21.98 | 21.98 | 21.98 | 21.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.74 | 20.74 | 20.84 | 20.74 | 20.74 | – | 20.74 | 20.74 | 20.74 | 20.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.34 | 18.34 | – | – | – | – | – | – | – | 18.34 |
เบนซิน 95 | 29.66 | – | – | – | 30.11 | – | 30.16 | 29.66 | – | 29.66 |
ดีเซล | 21.59 | 21.59 | 21.69 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 |
ดีเซล B10 | 18.59 | 18.59 | 18.69 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 |
ดีเซล B20 | 18.34 | 18.34 | 18.44 | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.04 | 26.06 | 28.14 | 28.04 | – | – | – | – | – | 26.04 |
แก๊ส NGV | 14.17 | 14.17 | – | – | – | – | – | – | – | 14.17 |