เอสซี แอสเสท เสนอหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 3.75%
SC จ่อเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี เสริมแกร่งการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย มั่นใจรายได้ปี 2563 เป็นไปตามเป้าหมาย
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า SC ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ อายุ 2 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท คาดว่าจะเสนอขายภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้บริษัทจะนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยทางบริษัทฯได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ แนวโน้มคงที่ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562
โดยนายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตทั้งรายได้ กำไรและยอดขาย โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 7,861 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 757 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ 6,678 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 597 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 456 ล้านบาท เติบโต 52% เมื่อเทียบไตรมาส 1/2563 ส่วนยอด Presales ในช่วง 6 เดือนแรกบริษัททำสถิติยอดขายสูงสุดได้ถึง 8,202 ล้านบาทโดยมาจากโครงการแนวราบเป็นสัดส่วนหลัก ในปีนี้บริษัทมีโครงการเปิดใหม่เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด รวม 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,200 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายในช่วง 6 เดือนแรก 5 โครงการ และ เปิดอีก 3 โครงการในไตรมาส 3 ได้แก่ โครงการแกรนด์ บางกอกบูเลอวาร์ด บางนา-อ่อนนุช โครงการเวนิว โฟลว์ ติวานนท์-รังสิต และ โครงการเวิร์ฟ สายไหม-พหลโยธิน ซึ่งทั้งโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่องทุกระดับราคาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาด รวมถึงการปรับกลยุทธทำการตลาดออนไลน์ ทำให้ยอดขายและรายได้จากโครงการแนวราบเติบโตได้ดี และช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ไม่มากนัก และ มีผลการดำเนินงานเติบโต โดยบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ปี 2563 ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ความแข็งแกร่งของบริษัท ยังสะท้อนได้จากอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ BBB+ แนวโน้มคงที่ ซึ่งตอกย้ำสถานะของบริษัท ในการเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวที่บริษัทเป็นผู้นำในตลาดนี้มาโดยตลอด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘แสนสิริ’ ลุยบ้าน-ทาวน์โฮม 4 โครงการ หนุนยอดขายแนวราบ 1.9 หมื่นล้าน
แสนสิริ เผยยอดขายแนวราบพุ่ง 17,600 ล้านบาท โต 98% จากปีก่อน รุกไตรมาส 4 เปิด “อณาสิริ” 4 โครงการรวด มูลค่ารวม 4,300 ล้านบาท หนุนยอดขายตามเป้า 19,000 ล้านบาท
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยความสำเร็จโครงการแนวราบในรอบ 9 เดือน นับว่า ประสบความสำเร็จอย่างดี ด้วยกลยุทธ์การตลาดแนวราบที่แข็งแกร่งภายใต้ Sansiri Housing Evolution ทำให้สามารถตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากโครงการแนวราบสูงถึง 17,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเฉียด 100% และคิดเป็นเกือบ 92% จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบที่วางไว้ในปีนี้ 19,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมียอดโอนโครงการแนวราบในรอบ 9 เดือน สูงถึง 14,300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 57% จากรอบ 9 ของปีก่อน ซึ่งมียอดโอน 9,100 ล้านบาท และคิดเป็น 81% จากเป้ายอดโอนแนวราบที่ตั้งไว้ในปีนี้ 17,500 ล้านบาท
นอกจากกลยุทธ์การตลาดภายใต้ Sansiri Housing Evolution ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในโครงการแนวราบในช่วงที่ผ่านมา แสนสิริยังวางแนวทางการรุกแบรนด์ “อณาสิริ” เพิ่มเสริมความแข็งแกร่งและรองรับความต้องการของฐานลูกค้าบ้านและทาวน์โฮมสำหรับรองรับความต้องการของตลาดลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มสร้างครอบครัว ที่นับเป็นกลุ่มใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยโครงการ“อณาสิริ”ภายใต้แนวคิด “Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัว” เป็นโครงการคุณภาพที่รวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมไว้ด้วยกันในราคาเริ่มต้นเพียง 2 – 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวแนวคิด “ความพอดีที่ลงตัว” ของอณาสิริ และเปิดให้เข้าชม 2 โครงการแรก คือ อณาสิริ ชัยพฤกษ์ – วงแหวน และอณาสิริ กรุงเทพ – ปทุมธานี ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอด Register ออนไลน์ จากลูกค้าที่ให้ความสนใจกว่า 3,650 ราย ยอดเข้าชมโครงการพุ่งกว่า 700 ราย และมียอดบุคจองโครงการทันที 140 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท สามารถปิดการขายในเฟสแรกได้ทันทีแม้จะยังไม่เปิดขายพรีเซลล์อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ จากกระแสการตอบรับที่ดี แสนสิริจึงเตรียมเปิดให้เข้าชมอีก 2 โครงการใหม่ ได้แก่ อณาสิริ รังสิต – คลอง 2 และ อณาสิริ บางนา โดยเตรียมเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการพร้อมกันใน 4 โครงการในวันที่ 28- 29 พฤศจิกายนนี้
“อณาสิริ จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์โครงการแนวราบที่ประสบความสำเร็จและเติมเต็มความต้องการที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกความต้องการ จะสร้างไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในรูปแบบความพอดีที่ลงตัว และเป็นหมากสำคัญในการรุกตลาดแนวราบ ซึ่งหากดูจากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบของปีที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปีนี้ 19,000 ล้านบาท จะเหลือยอดพรีเซลล์ที่ต้องทำให้ได้ตามเป้าอีกเพียง 1,400 ล้านบาท และเหลือยอดโอนแนวราบเพียง 3,200 ล้านบาท จะถึงเป้าหมายยอดโอนซึ่งตั้งไว้ที่ 17,500 ล้านบาท ที่จะต้องทำในไตรมาสสุดท้ายนี้จากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ผนวกกับปัจจัยที่สนับสนุนต่างๆ ทั้งการผนึกกำลังกับพันธมิตรและกลยุทธ์ที่แสนสิริตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ มั่นใจว่าเราสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนโครงการแนวราบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายอาณัติกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ธอส.ชงรมว.คลังลดดอกเบี้ยบ้านครึ่งหนึ่ง
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง คนใหม่ พิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่กู้เงินกับ ธอส. จำนวน 2 มาตรการ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้ผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 เสนอให้คลังพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยครึ่งหนึ่ง ให้กับลูกค้าของธนาคารทั้งผู้กู้รายใหม่ และลูกค้าเดิม โดยขอให้คลังชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่ลดให้ลูกค้า เช่น ปัจจุบันผู้กู้รายใหม่ จะคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.99% ก็จะเสนอให้คลังช่วยชดเชย 1.50% ขณะที่ลูกค้าเดิม ก็ต้องพิจารณาเกณฑ์ว่าจะช่วยกลุ่มไหนบ้างโดยจะขอลดดอกเบี้ยลง 1.50% เช่นกัน
“มาตรการลดดอกเบี้ยบ้าน ต้องให้ รมว.คลัง คนใหม่ เห็นชอบ เพราะธนาคารทำเองไม่ได้ ต้องให้รัฐบาลช่วย เพราะงบดุลของธนาคารรับไม่ไหว หลังจากที่ผ่านมาธนาคารออกมาตรการดูแลลูกค้า ทั้งการพักหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยออกไป กว่า 4.5 แสนล้านบาท จากสินเชื่อคงค้าง 1.3 ล้านล้านบาท” นายฉัตรชัย กล่าว
มาตรการที่ 2 จะเสนอคลังเห็นชอบการปล่อยสินเชื่อ Two-GEN หรือผลิตภัณฑ์ที่เปิดโอกาสให้เลือกผ่อนชำระได้ 2 generation หรือยาวนานสูงสุดถึง 70 ปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ได้ภายในเดือน พ.ย. 2563 เป็นการกู้ร่วม กับทายาทที่ยังไม่มีรายได้เพื่อลดผ่อนชำระเหลือเดือนละ 2,000 บาท ทำให้คนไทย มีบ้านเป็นของตัวเองได้เร็วขึ้น
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ปี 2564 ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 215,641 ล้านบาท ขณะที่ ผลประกอบการปี 2563 ที่สิ้นเดือน ส.ค. 2563 มีสินเชื่อคงค้าง 1,273,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 51,559 ล้านบาท คิดเป็น 4.05% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 2,044 ล้านบาท โดยในปีนี้ ธนาคารจะกันสำรองเพิ่มขึ้น 5,300 ล้านบาท จากปัจจุบันกันสำรองแล้ว 3,500 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
[BEST XI] จัดทีม 11 ผู้เล่นค่าตัวแพงสุดของแต่ละตำแหน่ง ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2020
จัดอันดับ 11 ดาวเตะที่มีมูลค่าแพงสุดของแต่ละตำแหน่งหลังผ่านเส้นตาย ตลาดซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์ 2020 ไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
ผู้รักษาประตู และ กองหลัง
ผู้รักษาประตู : เอดูอาร์ เมนดี้
จาก แรนน์ส สู่ เชลซี
มูลค่า 21.6 ล้านปอนด์
นายทวารวัย 28 ปีทีมชาติ เซเนกัล ที่เพิ่งเทิร์นโปรในเส้นทางค้าแข้งอาชีพเมื่อ 4 ปีก่อนกลายมาเป็นตัวเลือกที่ สิงห์บลู เฟ้นเข้าสู่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อกดดัน เคปา อาร์ริซาบาก้า มือกาวดีกรีค่าตัวแพงที่สุดในโลกซึ่งฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอยนักในช่วงหลัง
แบ็คขวา : เนลสัน เซเมโด้
จาก บาร์เซโลนา สู่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
มูลค่า 27 ล้านปอนด์
อดีตดาวเตะจาก เบนฟิก้า กลายเป็นส่วนเกินของพลพรรค อาซูลกรานา ภายใต้การคุมทีมของนายใหญ่คนใหม่อย่าง โรนัลด์ คูมัน ก่อนจะถูกปล่อยตัวสู่ทัพ หมาป่า แห่งศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในตลาดซัมเมอร์นี้
เซ็นเตอร์แบ็ค : รูเบน ดิอาส
จาก เบนฟิก้า สู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มูลค่า 61.2 ล้านปอนด์
ปราการหลังผลผลิตจากสถาบันลูกหนังของ เบนฟิก้า ทีมชาติ โปรตุเกส เข้าป้ายเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในซัมเมอร์เมื่อบรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทัพ เรือใบสีฟ้า ด้วยมูลค่ามหาศาล สลับขั้วกับ นิโกลาส์ โอตาเมนดี้ ที่ย้ายออกจากรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ซบตักทีมดังแห่ง พริเมรา ลีกา โปรตุกีส
เซ็นเตอร์แบ็ค : นาธาน อาเก้
จาก บอร์นมัธ สู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มูลค่า 40.7 ล้านปอนด์
ก่อนหน้าทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอลา จะซิวตัว ดิอาส พลพรรค ซิตีเซนส์ ได้เปิดตัวปราการหลังทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ วัย 25 ผลผลิตจากอคาเดมีลูกหนังของ สิงห์บลู ร่วมถิ่น เอติฮัด อย่างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ช่วงต้นของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
แบ็คซ้าย : เบน ชิลเวลล์
จาก เลสเตอร์ ซิตี้ สู่ เชลซี
มูลค่า 45.18 ล้านปอนด์
ฟูลแบ็คทีมชาติ อังกฤษผลผลิตจากทีมชุดเยาวชนของ จิ้งจอกสีน้ำเงิน วัย 23 ปีกลายเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์สร้างทีมใหม่ของ สิงห์บลู ภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ทุ่มทุนมหาศาลกว่า 200 ล้านปอนด์ซิว 5 แข้งบิ๊กเนมเสริมทัพ
กองกลาง
กองกลาง : มิราเล็ม เปียนิช
จาก ยูเวนตุส สู่ บาร์เซโลนา
มูลค่า 54 ล้านปอนด์
หนึ่งในดีลสุดเซอร์ไพรส์ของทัพ อาซูลกรานา ที่ถูกวิจารณ์หนาหูประเด็นอายุเฉลี่ยของแข้งในทีมทว่าพวกเขากลับเดินหน้าซิวมิดฟิลด์วัย 30 ปีจาก เบียงโคเนรี เสริมทัพแลกกับการปล่อย อาร์ตูร์ กองกลางวัย 24 สวนทางสู่ทัพ ม้าลาย
กองกลาง : อาร์ตูร์ เมโล
จาก บาร์เซโลนา สู่ ยูเวนตุส
มูลค่า 64.8 ล้านปอนด์
ให้หลังการย้ายจาก เกรมิโอ ในบ้านเกิดสู่ถิ่น คัมป์นู เพียง 2 ปี เวลาของ อาร์ตูร์ กับ บาร์ซา ก็สิ้นสุดลงพร้อมกับความล้มเหลวของพวกเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาโดยถูกปล่อยตัวเป็นส่วนหนึ่งของดีลสลับขั้วคว้า เปียนิช สู่ บาร์เซโลนา
กองกลาง : ไค ฮาแวร์ตซ์
จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน สู่ เชลซี
มูลค่า 72 ล้านปอนด์
มิดฟิลด์วันเดอร์คิดทีมชาติ เยอรมนี กลายเป็นแข้งที่มีมูลค่าในการย้ายสังกัดสูงที่สุดในตลาดซัมเมอร์นี้เมื่อบอกลา ห้างขายยา สโมสรที่ปลุกปั้นเจ้าตัวขึ้นมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะเยาวชนสู่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์
กองหน้า
กองหน้า : วิคเตอร์ โอซิมเฮน
จาก ลีลล์ สู่ นาโปลี
มูลค่า 63 ล้านปอนด์
ดาวยิงวันเดอร์คิดวัย 21 ปีทีมชาติ ไนจีเรีย ดีกรีรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอดีตต้นสังกัดเมื่อสังหารประตูไปทั้งิสิ้น 18 ลูกจากการลงเล่นทั้งหมด 38 นัดเมื่อรวมทุกรายการ โดยกลายเป็นดีลที่ ลีลล์ สามารถทำกำไรจากการขายเขาสู่ นาโปลี ด้วยมูลค่ามากกว่าต้นทุนถึงกว่า 3 เท่าตัว
กองหน้า : ติโม แวร์เนอร์
จาก แอร์เบ ไลป์ซิก สู่ เชลซี
มูลค่า 47 ล้านปอนด์
ดาวยิงตัวความหวังคนใหม่ของพลพรรค สิงห์บลู กับสถิติการซัลโว 95 ประตูจากการลงสนามให้กับอดีตต้นสังกัดทั้งสิ้น 159 นัดเมื่อรวมทุกรายการตลอด 4 ฤดูกาลที่อยู่กับ ไลป์ซิก
กองหน้า : อัลบาโร โมราต้า
จาก เชลซี สู่ แอตเลติโก มาดริด
มูลค่า 50.4 ล้านปอนด์
ด้วยเงื่อนไขที่ทัพ ตราหมี ทำไว้กับ สิงห์บลู ในการยืมตัวดาวยิงทีมชาติ สเปน รายนี้มาร่วมทัพภายใต้สัญญายืมตัวตั้งแต่ตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2018 โดยมีเงื่อนไขซื้อขาดที่ซัมเมอร์นี้ทำให้ โมราต้า กลายเป็นหนึ่งในกองหน้าค่าตัวสูงที่สุดในตลาดรอบนี้แม้ว่า แอต. มาดริด จะส่งเจ้าตัวไปให้ ยูเวนตุส ยืมตัวไปใช้งานเรียบร้อยแล้วก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ถ่ายเป็นเลือดสัญญาณเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง “ถ่ายเป็นเลือดสัญญาณเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่” กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า การถ่ายเป็นเลือดถือเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 12,000 คน สาเหตุมาจากวิถีชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะพฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานเนื้อแดงเนื้อแปรรูปเป็นประจำ อาหารกากใยน้อย อาหารปิ้งย่าง รมควัน ตลอดจนขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น สัญญาณเตือนหรืออาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่ การถ่ายอุจจาระมีมูกปนเลือดหรืออาจถ่ายเป็นเลือดสด ๆ มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง/ถ่ายไม่สุด ขนาดของลำอุจจาระเล็กลง และมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงส่วนหนึ่งสามารถป้องกันได้จากการปรับพฤติกรรมการดำรงชีวิตและหมั่นสังเกตตัวเองว่าการขับถ่ายเป็นปกติดีหรือไม่ หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงยังสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกด้วยวิธีการตรวจหาเม็ดเลือดแดงแฝงในอุจจาระ
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
คำกริยา กิจวัตรประจำวัน คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
คําศัพท์ในชีวิตประจําวัน ที่สำคัญอย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้นคำกริยา ซึ่งเป็นหมวดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ทุกวัน ตลอดทั้งวัน สำหรับการดำเนินชีวิต บอกการกระทำต่างๆ โดยบทเรียนภาษาอังกฤษนี้ได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คำกริยาภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมต่างๆ […]
คําศัพท์ในชีวิตประจําวัน ที่สำคัญอย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้นคำกริยา ซึ่งเป็นหมวดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ทุกวัน ตลอดทั้งวัน สำหรับการดำเนินชีวิต บอกการกระทำต่างๆ โดยบทเรียนภาษาอังกฤษนี้ได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คำกริยาภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมต่างๆ ที่ทำในแต่ละวันไว้อย่างมากมาย ครอบคลุมการใช้งาน พร้อมคำอ่าน และคำแปล
get up (เกท อัพ) = ตื่นนอน
wake up (เวค อัพ)= ตื่นนอน [ถูกปลุกให้ตื่น]
brush [my] teeth (บรัช มาย ทีธ) = แปรงฟัน[ของฉัน]
wash [my] face (วอช มาย เฟส) = ล้างหน้า
wash [my] hair (วอช มาย แฮร์) = สระผม
take a bath (เทค อะ บาธ) = อาบน้ำอ่าง
take a shower (เทค อะ เชา’เออะ) = อาบน้ำฝักบัว
dry [my] hair (ไดร มาย แฮร์) = เป่าผมให้แห้ง
shave (เชฟว) = โกนหนวด
put on make-up (พูท ออน เมค’คัพ) = แต่งหน้า
dress (เดรส) = แต่งตัว
wear the socks (แวร์ เฑอะ ซอคส์) = ใส่ถุงเท้า
have breakfast (แฮฟว เบรค’ฟาสทฺ) = ทานอาหารเช้า
drink some milk (ดริ้งคฺ ซัม มิลคฺ) = ดื่มนม
drink some coffee (ดริ้งคฺ ซัม คอฟ’ฟี่) = ดื่มกาแฟ
drink some tea (ดริ้งคฺ ซัม ที) = ดื่มชา
drink some water (ดริ้งคฺ ซัม วอ’เทอะ) = ดื่มน้ำ
eat fried eggs (อีท ไฟรดฺ เอกฺส) = กินไข่ดาว
eat cereals (อีท เซีย’เรียลฺส) = กินซีเรียล
wear the shoes (แวร์ เฑอะ ชูส์) = ใส่รองเท้า
leave home (ลีฟว โฮม) = ออกจากบ้าน
go to school (โก ทู สคูล) = ไปโรงเรียน
go to work (โก ทู เวิร์ค) = ไปทำงาน
go to the market (โก ทู เฑอะ มาร์ค’คิท) = ไปตลาด
drive a car (ไดรฟว อะ คาร์) = ขับรถ
ride a bicycle (ไรดฺ อะ ไบ’ซิคเคิล) = ขี่จักรยาน
walk (วอล์ค) = เดิน
run (รัน) = วิ่ง
have lunch (แฮฟว ลันชฺ) = ทานอาหารกลางวัน
go to the toilet (โก ทู เฑอะ ทอย’ลิท) = ไปห้องน้ำ
study English (สทัด’ดี อิง’ลิช) = เรียนภาษาอังกฤษ
study Japanese (สทัด’ดี แจพ’พะนีซ) = เรียนภาษาญี่ปุ่น
read a book (รีด อะ บุค) = อ่านหนังสือ
play with [my] friends (เพล วิธ มาย เฟรนดฺส) = เล่นกับเพื่อน
go back home (โก แบค โฮม) = กลับบ้าน
arrive home (อะไรว’ โฮม) = ถึงบ้าน
have dinner (แฮฟว ดิน’เนอะ) = ทานอาหารเย็น
talk (ทอล์ค) = พูดคุย
laugh (ลาฟ) = หัวเราะ
cry (ไคร) = ร้องไห้
watch television (วอทชฺ เทล’ละวิชเชิน) = ดูโทรทัศน์
listen to the radio (ลิส’เซิน ทู เฑอะ เร’ดิโอ) = ฟังวิทยุ
do homework (ดู โฮม’เวิร์ค) = ทำการบ้าน
clean [my] bedroom (คลีน มาย เบด’รูม) = ทำความสะอาดห้องนอน
yawn (ยอน) = หาว
go to bed (โก ทู เบด) = เข้านอน
sleep (สลีพ) = นอน
dream (ดรีม) = ฝัน
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
เปิดแบรนด์ใหม่ Google Workspace รวมทุกสิ่งการทำงาน
Google Cloud เปิดตัว Google Workspace แบรนด์ใหม่ที่บ่งบอกถึงประสบการณ์การใช้งานใหม่แบบครบวงจร พร้อมด้วยเวอร์ชั่นเสริมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ ของลูกค้า Google Workspace รวมรวบแพลตฟอร์มรับส่งข้อความ การประชุม งานเอกสาร และระบบการบริหารการทำงานเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบคลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปกป้องด้วยระบบความปลอดภัยของ Google
ฮาเวียร์ โซลเทโร รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Google Workspace กล่าวว่า “นี่คือการสิ้นสุดของ ‘ออฟฟิศ’ ในแบบฉบับเก่าๆ ที่เราคุ้นเคย จากนี้เป็นต้นไปทีมงานจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่เดียวกัน พวกเขาสามารถจัดเวลาไว้ทำงานที่สำคัญที่สุดได้ และสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานในรูปแบบใหม่ๆ Google Workspace ให้ประสบการณ์การทำงานแบบครบวงจรที่ผู้ใช้คุ้นเคย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในโลกใหม่นี้ ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ จากบ้าน จากภาคสนาม หรือกับลูกค้า”
Google ใช้เวลานับสิบปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการเรียนรู้การใช้งาน และสามารถคาดการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างมีประโยชน์ ในแต่ละเดือนมีผู้ใช้งานทั่วไป ลูกค้าองค์กร และผู้ใช้งานในภาคการศึกษา ที่ใช้เครื่องมือสำหรับการทำงานและการทำงานร่วมกันของ Google รวมกันแล้วกว่า 2.6 พันล้านคน
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นก้าวแรกของวิสัยทัศน์ในการรวบรวมการทำงาน การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันไว้อย่างครบวงจร วันนี้แพลตฟอร์มใหม่นี้ได้เปิดให้ลูกค้าองค์กรของ Google Workspace ใช้งานแล้วและจะเปิดให้ลูกค้าทั่วไปใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
อเล็กซ์ กรีกอเรียน ผู้อำนวยการอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานสารสนเทศ ฝ่ายบริการลูกค้าองค์กรของ Equifax กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์สำหรับการสื่อสารและการทำงานร่วมกันของ Google ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมโยงทีมของเราในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการนี้ด้วย Google Workspace และก้าวสู่บทต่อไปของการสร้างวัฒนธรรมที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ”
สร้างประสบการณ์ใหม่ผู้ใช้
ประสบการณ์ในการใช้งาน Google Workspace ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรวบรวมเครื่องมือในการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน เช่น แชท อีเมล การโทรผ่านเสียงและสนทนาผ่านวิดีโอ และการจัดการเนื้อหา เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อประสบการณ์การใช้งานแบบครบวงจร โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ดังนี้
• การแสดงตัวอย่างเนื้อหาของลิงก์: ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การแสดงตัวอย่างเนื้อหาของลิงก์ใน Google Docs, Google Sheets และ Google Slides จะทำให้ผู้ใช้สามารถดูตัวอย่างเนื้อหาของลิงก์โดยไม่ต้องออกจากเอกสารต้นฉบับ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการสลับไปมาระหว่างแอปและแท็บต่างๆ และทำให้ผู้ใช้มีเวลาในการทำงานมากขึ้น
• คำแนะนำอัจฉริยะใน Google Docs, Google Sheets และ Google Slides: ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อผู้ใช้เอ่ยถึงผู้ใช้คนอื่นในเอกสาร (@) จะมีหน้าต่างป๊อปอัปที่ให้ข้อมูลเสริมปรากฏขึ้นมา พร้อมทั้งแนะนำการดำเนินการอื่นๆ เช่น การแชร์เอกสารให้กับผู้ใช้คนนั้น เป็นต้น การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้โดยตรงใน Google Docs, Google Sheets และ Google Slides ของ Google Workspace ทำให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• การสร้างเอกสารในห้องแชท: ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ Google Workspace จะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอกสารและทำงานร่วมกันได้ (ไม่ว่าจะเป็น Google Docs, Google Sheets, หรือ Google Slides) ภายในห้องแชทใน Google Chat โดยไม่จำเป็นต้องสลับไปมาระหว่างแท็บหรือเครื่องมือต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการทำงานและช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนมองเห็นเอกสารที่เกี่ยวข้องในการทำงานนั้นๆ
• การประชุมแบบ picture-in-picture ใน Google Docs, Google Sheets และ Google Slides: ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Google ประกาศว่าจะนำฟีเจอร์การประชุมผ่าน Google Meet แบบ picture-in-picture หรือการแสดงภาพซ้อนภาพ ผนวกเข้าไปใน Gmail และ Google Chat เพื่อให้ผู้ใช้ที่ทำงานร่วมกันได้ยินและเห็นหน้ากันในขณะที่ทำงาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Google จะขยายฟีเจอร์นี้ไปยัง Google Docs, Google Sheets และ Google Slides ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากการสื่อสารทางสีหน้าในขณะที่ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
แองเจลา แอชเชนเดน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ด้าน Workplace Transformation ของ CCS Insight กล่าวว่า “ไม่ใช่แค่ตัวธุรกิจที่ต้องปรับตัว แต่พนักงานเองก็กำลังปรับตัวให้เข้ากับการทำงานที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกัน และเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ผลิตภัณฑ์ของ Google ซึ่งมีผู้ใช้เป็นหัวใจหลักและออกแบบมาสำหรับการทำงานบนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ มีความได้เปรียบในการนำพาผู้ใช้ผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงานนี้ ผู้ใช้หลายคนต้องรับมือกับการใช้งานเครื่องมือและช่องทางการสื่อสารจำนวนมาก และ Google ได้เข้ามาช่วยให้พวกเขาเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานได้ทั้งหมดในที่เดียว”
อัตลักษณ์ใหม่ของแบรนด์
แบรนด์ Google Workspace ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่นี้ สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Google ที่ต้องการทำให้ผลิตภัณฑ์มีความเรียบง่าย มีประโยชน์ และเหมาะสำหรับการใช้งานของคนทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงการผสานรวมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการทำงานร่วมกันของผู้ใช้เป็นหลัก ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ผู้ใช้จะได้พบกับไอคอนสี่สีใหม่ของ Gmail, Google Drive, Google Calendar, Google Meet และเครื่องมือสร้างเนื้อหาสำหรับการทำงานร่วมกัน เช่น Google Docs, Google Sheets, และ Google Slides ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกัน และแสดงถึงความมุ่งมั่นของ Google Workspace ที่จะสร้างประสบการณ์ในการสื่อสารและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ด้วยความช่วยเหลือจาก Google
นอกจากนี้ Google ยังจะให้บริการ Google Workspace แก่สถาบันการศึกษาและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ด้วย โดยลูกค้ากลุ่มสถาบันการศึกษาสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ใน Google Workspace ผ่านทาง G Suite for Education ซึ่งประกอบไปด้วย Google Classrooms, Google Assignments, Gmail, Google Calendar, Google Drive, Google Docs, Google Sheets, Google Slides และ Google Meet ด้าน G Suite for Nonprofits จะยังเปิดให้ใช้สำหรับองค์กรที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการ Google for Nonprofits
ธุรกิจมีทางเลือกมากขึ้น
ลูกค้าแบบจ่ายเงินของ Google Workspace กว่า 6 ล้านราย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB) หรือองค์กรธุรกิจระดับนานาชาติ ล้วนแล้วแต่มีความต้องการเครื่องมือที่จะช่วยให้ระบบการทำงานของพวกเขาทันสมัย มีความมั่นคง และสร้างความแตกต่างที่ดีให้กับพวกเขาได้ แต่ความต้องการด้านการจัดเก็บ การบริหารจัดการ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของลูกค้าแต่รายนั้นแตกต่างกันมาก เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นและได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Workspace โดย Google จะเปิดตัวข้อเสนอใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยอิงจากคำแนะนำของผู้ใช้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ว่านไพลดำ
ว่านไพลดำ
ว่านไพลดำ ตามตำรามีอยู่ 2 แบบ คือ
1. ว่านไพลดำหัวเนื้อในมีสีม่วงอมน้ำตาล ซึ่งจะเด่นเรื่องอยู่ยงคงกะพันกล่าวกันถ้าใช้คู่กับเหล็กไหลจะทำให้คนผู้นั่นฟันแทงไม่เข้า
2.ว่านไพลดำหัวเนื้อในมีสีดำ ว่ากันว่าจะช่วยในด้านชักนำเงินทองมาให้ผู้ครอบครองได้โดยง่าย ด้วยศาสตร์มนต์ดำเน้นการพนันขันต่อ เล่นแร่แปรธาตุ เช่น นำเอาว่านไพลดำไปทาตา แล้วไปเล่นพนันจะทำให้มองเห็นทะลุภาชนะได้ หรือ นำเอาว่านไพลดำไปทำพิธีทำให้เงินที่เราใช้ไปแล้วกลับมาหาเราเ่่ช่นเดิม เป็นต้น บางอาจารย์บางท่านบอกว่าสามารถทำได้ทั้งสองชนิดขอให้เนื้อในดำเข้าว่า บางอาจารย์หาว่านไพลดำไม่ได้ก็บอกว่าใช้ขมิ้นดำแทนได้ สรุปว่าถ้าใครถามหาว่านไพลดำเนื้อสีดำ ถึงไม่ใช่หมอดู ดูก็รู้ว่าคุณจะเอาว่านไปทำอะไร ครูบาอาจารย์ท่านจึงปิดบังไม่ปล่อยง่ายๆครับ
โบราณกล่าวว่า “ว่านไพลดำ “เนื้อในสีม่วงอมน้ำตาลนั้นสมัยก่อนหายากมากกว่าว่านเนื้อในหัวสีดำ เพราะสมัยก่อน คนอยู่กับป่ากับเขาอยู่กับการรบราฆ่าฟันจึงเน้นเรื่องความอยู่ยงคงกระพัน เน้นใช้ว่านในการป้องกันตัวเอง จึงไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองเท่าใดนัก แต่ปัจจุบัน ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปกลับพบว่า คนสมัยนี้แสวงหาว่านไพลดำเนื้อสีดำมากกว่า ผมคิดว่านั่นอาจเป็นเพราะความเสี่ยงในการดำรงชีวิตทุกวันนี้มีน้อยลง ถ้าจะอยู่ให้รอดต้องมีเงินมากๆเข้าว่า จึงทำให้คนสมัยนี้ไม่สนใจเรื่องความอยู่ยงคงกระพันแต่ให้ความสำคัญกับเงินแทน ตรงกันข้ามกับคนสมัยก่อนถ้าจะอยู่ให้รอดได้ต้องเก่งหมัดเก่งมวยต้องยิงแทงไม่เข้า ต้องแคล้วคลาดปลอดภัย จากอริและศัตรู หรือแม้กระทั่ง โจร
“ว่านไพลดำ” ไม่ได้มีแค่ในตำนานนะครับ ผมฟันธง ว่าว่านไพลดำนั่นมีอยู่จริง เจอกับตัวมาแล้ว แต่ที่มันหายากแสนเข็ญนั่นเป็นเพราะว่านชนิดนี้มันมีคุณอนันต์มันก็มีโทษมหันต์ เช่นกัน อันตรายทั้งต่อตัวผู้ใช้และผู้อื่นครับ
ผมเองมีโอกาสได้รู้จักผู้ที่มีว่านไพลดำเนื้อสีดำเหมือนกันครับ แวะเวียนไปหลายเที่ยว ท่านก็ไม่ยอมให้ซักที่ ล่าสุดผมเกือบได้มา แต่สุดท้ายท่านก็ไม่ให้ ยื้อเวลาออกไปอีก โดยสำนึกแล้วผมทราบครับว่าทำไมท่านจึงไม่ให้ นั่นเพราะกิจปฏิบัติและจิตผมไม่ผ่านครับ
ปกติแล้ว ว่านไพลดำเนื้อสีดำ ส่วนใหญ่จะตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จากอาจารย์ถึงศิษย์ (พระเกจิ) จากพ่อถึงลูก เป็นต้น บุคคลที่มีมักหวงแหนปิดบังยิ่งนัก บางท่านเมื่อจะให้ว่านแก่ศิษย์จำต้องให้เราสัญญา บางท่านให้สาบานว่า”จะไม่เอาว่านไพลดำไปจำหน่ายและจ่ายแจกเด็ดขาด” เพราะข้าให้เจ้าเพราะเจ้า คือ คนดีไม่มีพิษภัยต่อผู้อื่น ไม่คดโกงใคร ไม่ใช้ว่านไปในทางเสื่อม แต่ถ้าเมื่อถึงคราวจำเป็นเจ้าก็ใช้ว่านช่วยเหลือตัวเองได้รับรองไม่อดตาย ขออย่างเดียวอย่าให้ใครถ้าเขาไม่บริสุทธิ์พอ อย่าขายเพราะถ้าเจ้าไม่รู้จักเขาดีแล้ว เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะนำว่านไปใช้ในลู่ทางเช่นใด ถ้าเขาใช้ในทางไม่ดีบาปกรรมที่เกิดเจ้าก็มีส่วนด้วยโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ ว่านไพลดำ จึงเหมือนเป็นตำนานมากกว่าความเป็นจริง จนบางครั้งคนที่ไม่รู้ก็เอามากล่าวมาเล่าต่อจนเกินจริงก็มี แต่ยังไงคำว่า ว่านไพลดำไม่มีจริงผมขอเถียงครับว่า “ว่านไพลดำเนื้อสีดำมีอยู่จริงแน่นอน” 1000 %
ถ้าถามว่าผมมีไหมไพลดำ : ผมขอบอกวันนี้เลยว่า “ไม่มี” แค่เกือบได้มา แต่พอท่านรู้ว่าเราจะเอาไปให้คนอื่นต่อผมก็หมดสิทธิ์ครับ
ถ้าถามว่าบอกได้ไหมว่าใครมีว่านไพลดำ : ขอตอบด้วยความสัตย์จริงว่าบอกไม่ได้ครับ ผมบอกได้แค่ว่า ขอให้ไปตามหาในสายของลูกศิษย์ลูกหา หรือ ญาติของพระอาจารย์เปิ่น และท่านอาจารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำนะครับ (ตอนผมเขียนเรื่องว่านไพลดำอยู่ตอนนี้ หลวงพ่อปาน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็มาโปรดโดยอัศจรรย์ครับท่านมาบอกว่าถ้าใครอยากรวยอยากมีโชคลาภเงินทองให้สวดคาถาเงินล้านอย่างเคารพและจริงจัง สวดให้ได้ทุกวันอย่างน้อยวันละ 9 จบ อย่างดี วันละ 300 ถ้าจะให้ดีที่สุดให้ได้วันละ 1,200 จบ และห้ามบ่นว่าเหนื่อยเด็ดขาดแล้วทุกท่านจะประจักษ์ผลได้ด้วยตัวเองครับ)
ส่วนใครที่ยังสนใจว่า ว่านไพลดำอยู่ไหน มีจริงรึเปล่า มีแน่นอนครับไม่คนใดก็คนหนึ่งจากสายที่ผมบอกมา ว่านไพลดำว่านแท้ๆนั่นเลี้ยงยากครับ ต้องมีศีล ต้องมีข้อปฏิบัติ ปกติแล้วถ้าเขาจะให้เราเขาถึงจะบอกวิธีปฏิบัติครับ ยังไงก็ขอให้รวยกันทุกคนทุกท่านนะครับ รวยศีล รวยความดี จะชักนำให้เรารวยทรัพย์ครับ
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,850.00 | 27,950.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,804.00 | 27,348.64 | 28,450.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,623.60 | 24,613.78 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,443.20 | 21,878.91 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 812.00 | 12,309.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 631.00 | 9,565.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,869.00 | 28,334.04 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/10/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.85 | 21.85 | 22.05 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 | 21.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.58 | 21.58 | 21.78 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 | 21.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.34 | 20.34 | 20.54 | 20.34 | 20.34 | – | 20.34 | 20.34 | 20.34 | 20.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.14 | 18.14 | – | – | – | – | – | – | – | 18.14 |
เบนซิน 95 | 29.26 | – | – | – | 29.71 | – | 29.76 | 29.26 | – | 29.26 |
ดีเซล | 21.59 | 21.59 | 21.89 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 |
ดีเซล B10 | 18.59 | 18.59 | 18.89 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 |
ดีเซล B20 | 18.34 | 18.34 | 18.64 | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.04 | 26.06 | 28.34 | 28.04 | – | – | – | – | – | 26.04 |
แก๊ส NGV | 14.17 | 14.17 | – | – | – | – | – | – | – | 14.17 |