รถไฟฟ้าสายสีส้ม ยักษ์รับเหมาสู้หมัดต่อหมัด ตัดเชือกเกณฑ์ใหม่
นับเป็นรถไฟฟ้าอีก 1 สายทางที่มีประเด็นร้อนกลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ต่อเนื่อง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์ ) วงเงินรวม 235,320 ล้านบาท เค้กประมูลส่งท้ายปี 2563 มี “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” เป็นเจ้าของโครงการ
สีส้มตะวันออกสร้างคืบ 70%
ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีส้มเดินหน้าก่อสร้างช่วงตะวันออก “ศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี” ระยะทาง 22.57 กม. ไปแล้ว ล่าสุดมีความคืบหน้า 69.82% สร้างเร็วกว่าแผน 2.77% ตามสัญญางานก่อสร้างจะเสร็จปลายปี 2565 และจะเปิดให้บริการในปี 2567 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า
แต่การเปิดให้บริการในปี 2567 จะเป็นไปได้หรือไม่ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของโครงการ “ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ” ที่ รฟม.ประมูล PPP net cost เป็นแพ็กเก็จให้เอกชนลงทุน 1.28 แสนล้านบาท ก่อสร้างงานโยธาช่วงตะวันตกและเหมาเดินรถตลอดสาย เป็นระยะเวลา 30 ปี จากบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทางรวม 35.9 กม. รัฐจ่ายค่าเวนคืนให้ 1.4 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบัน “รฟม.” อยู่ระหว่างเปิดประมูล มีเอกชนสนใจซื้อเอกสารประมูล 10 บริษัท ได้แก่
- บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)
- บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC)
- บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)
- บมจ.ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
- บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
- บมจ.ราช กรุ๊ป จำกัด
- บมจ.ช.การช่าง จำกัด
- บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
- บจ.ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด
- บจ.วรนิทัศน์ ดีเวลอปเม้นท์
ดูเหมือนกระบวนประมูลจะเดินหน้าฉลุย แต่แล้วกลับปรากฎความเคลื่อนไหวสำคัญขึ้น ที่ว่ากันว่าทำให้กลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ของสนามแข่งขันของรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ITD – BTS สู้เกมหลักเกณฑ์ใหม่
หลังเปลี่ยนประธานคณะกรรมการมาตรา 36 และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ พี่ใหญ่วงการรับเหมา สวมบทหัวใจสิงห์ ร่อนหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ รฟม. ให้พิจารณาปรับปรุงการประเมินข้อเสนอใหม่ ให้นำข้อเสนอ “ด้านเทคนิค” เข้ามาเป็นอีกหนึ่งเกณฑ์หลัก นอกเหนือจากการตัดเชือกที่ “ราคาต่ำสุด” เพียงอย่างเดียว
ขณะที่ “รฟม.” และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 เห็นพ้องและปรับหลักเกณฑ์คัดเลือกใหม่ เปิดซอง “เทคนิค-ราคา” พร้อมกัน โดยนำคะแนนเทคนิค 30% มาพิจารณาร่วมกับราคา 70%
พร้อมกับขยับวันยื่นซองออกไปอีก 45 วัน จากเดิมจะต้องยื่นซองในวันที่ 23 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 9 พ.ย. 2563 แทน เพื่อให้ผู้ซื้อซองสามารถเตรียมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว
พลันที่ “รฟม.” ประกาศเกณฑ์ใหม่ ทาง “บีทีเอสซี-บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” เดินสายยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ รฟม. และยื่นหนังสือองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ให้จับตาการประมูลโครงการดังกล่าว
และยื่นต่อศาลปกครองกลางให้มีคำสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการมาตรา 36 และเอกสารตาม RFP ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินข้อเสนอโครงการ และยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้ระงับการดำนินการใด ๆ เกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนลงทุนโครงการไว้ก่อน ซึ่งศาลฯนัดทั้งสองฝ่ายมาไต่สวนนัดแรกวันที่ 14 ต.ค. 2563
บีทีเอสกังขา 3 ประเด็น
“สุรพงษ์ เลาหะอัญญา” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอสซี ได้ตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งในประเทศไทยไม่เคยมีการใช้เกณฑ์ดังกล่าวประมูลมาก่อน โดยมีข้อกังขา 3 ข้อ ประกอบด้วย
1. การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การพิจารณาแบ่งเป็นด้านการเงิน 70% และเทคนิค 30% มีความไม่ชอบมาพากล เพราะเมื่อดูไส้ในทีโออาร์แล้ว เป็นการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการมาตรา 36 มากเกินไป แถมการเปลี่ยนหลักเกณฑ์เกิดขึ้นภายหลังจากการซื้อซองทีโออาร์ ทำให้เห็นคู่ชกก่อนจะขึ้นเวที เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้น
2. ในสัดส่วนการตัดสินด้านการเงิน 70% มีการแบ่งการให้คะแนนเป็นราคาที่ดีที่สุด 60% และราคาที่สมเหตุสมผลอีก 10% ซึ่งการใช้คำว่า “สมเหตุสมผล” ทางคณะกรรมการตามมาตรา 36 จะใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่าราคาใดสมเหตุสมผล
3. มีการกำหนดเรื่องของการมีประสบการณ์เพิ่มว่า ต้องเคยก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้า ซึ่งมี 3 บริษัทที่มีประสบการณ์โดยหนึ่งในนั้นมี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น ที่มีประสบการณ์ แต่ภายหลังทราบมาว่ามีการพูดกันว่า ต้องเคยทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
ทำให้เหลือเพียง 2 บริษัทเท่านั้น ที่เคยมีประสบการณ์ทางอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การหาพันธมิตรที่มีประสบการณ์เป็นไปได้ยาก เพราะตามทีโออาร์ให้หาพันธมิตรเฉพาะผู้ที่ยื่นซองทีโออาร์เท่านั้น
“ได้เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงในนัดไต่สวนนัดแรกวันที่ 14 ต.ค.แล้ว ยืนยันว่ากระบวนการเปลี่ยนรูปแบบการคัดเลือกโดยใช้คะแนนด้านเทคนิคพ่วงเข้ามาด้วย เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แถมใน RFP มีการระบุว่า หากเป็นผู้ประกอบการชาวไทยที่มีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างอุโมงค์จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ จึงเห็นว่าการระบุเงื่อนไขและการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การประมูลเป็นเรื่องไม่ชอบธรรม” นายสุรพงษ์กล่าวและย้ำว่า
ทั้งนี้ หากศาลไม่คุ้มครองและให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเดิม กลุ่มบีทีเอสก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการตามเดิม เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ของบริษัท โดยจะร่วมกับพันธมิตรเดิม คือ ซิโนไทยฯ และราชกรุ๊ป
รฟม.เปิดโต๊ะแถลง 2 ครั้ง
ด้าน “ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” ผู้ว่าการ รฟม. ออกมาตอบโต้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา โดยยืนยันการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ดังกล่าวว่า สามารถทำได้ตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 มาตรา 35 และมาตรา 38 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) เล่มที่ 1 ข้อแนะนำผู้ยื่นข้อเสนอ ข้อ 17.1 สอดคล้องตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง รายละเอียดของร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และสาระสำคัญของร่างสัญญาร่วมลงทุน 2563 ข้อ 4 (8) และ 4 (9) และเป็นการดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 อีกด้วย
เปิดทางพ่วงประสบการณ์ผู้รับจ้าง
สำหรับข้อกังวลว่าจะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ นั้น คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 มีข้อสรุปร่วมกันให้จัดทำเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติม (RFP Addendum) และขยายเวลายื่นซองประมูลออกไปอีก 45 วันให้แล้ว รวมถึงในทีโออาร์เปิดช่องให้ใช้ประสบการณ์ของผู้รับจ้างมาเพิ่มเติมลงไปในการยื่นซองประมูลได้ ไม่ได้บังคับเฉพาะผู้ซื้อซอง และมีเกณฑ์การตัดสินเท่าเทียมกัน
ไม่ระบุสเปกอุโมงค์ลอดเจ้าพระยา
ส่วนที่ระบุว่า ต้องเคยทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาก็ไม่เป็นความจริง ในทีโออาร์กำหนดเพียงว่า จะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินแบบหัวเจาะ (Underground Tunnel by Tunnel Boring Machine) ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในไม่น้อยกว่า 5 เมตร ซึ่ในไทยมีบริษัทที่เคยทำประมาณ 4-5 ราย และยังไม่รับเหมาต่างชาติที่มีประสบการณ์อีกหลายบริษัทด้วย
“ยืนยันว่าทุกอย่างทำตามกฎหมายหลักและกฎหมายลูกอย่างถูกต้อง ทั้ง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562, ประกาศทีโออาร์ และกฎหมายประกาศคณะกรรมการ PPP ส่วนประสบการณ์การก่อสร้างก็ไม่ได้เขียนเน้นว่าต้องเคยก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา และกำหนดให้คะแนนผู้ประกอบการไทยมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นแต่อย่างใด” นายภคพงศ์กล่าว
“ประยุทธ์” ห่วงสร้างเสร็จช้า
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอให้เป็นเรื่องของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องไปชี้แจง ถ้ามีปัญหาก็เอาหลักฐานและข้อมูลที่มีไปชี้แจงแล้วกัน เพราะสั่งอะไรไม่ได้
“ผมห่วงเรื่องก่อสร้างล่าช้า แต่ต้องทำให้ถูกต้อง ส่วนจะกระทบความเชื่อมั่นในการลงทุนโครงการใหญ่หรือไม่ ก็อยู่ที่คำชี้แจง ถ้าชี้แจงได้ก็จบ ก็ช่วยกัน ถ้ามีการรับผลประโยชน์ก็แจ้งมา และต้องดูผลประโยชน์ประชาชนด้วย”
“ศักดิ์สยาม” ย้ำความโปร่งใส
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาระบุว่า จากการรายงานของ รฟม.ก็ยืนยันดำเนินการอย่างโปร่งใสและถุกต้องตามกฎหมายให้สามารถดำเนินการได้ โดยมีเอกสารยืนยันจาก สคร.ว่าปรับรายละเอียดได้และที่ผ่านมา รฟม.ประมูลรถไฟฟ้ามาหลายสายทั้งสีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีน้ำเงิน ไม่ใช่โครงการสายสีส้มตะวันตกเป็นโครงการแรก แต่ก็อย่างไปปิดกั้นสิทธิในการตั้งข้อสังเกตต่างๆ รฟม.ต้องแสดงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงทั้งหมด
“รฟม.ยืนยันพร้อมจะรายงานข้อมูลทั้งหมดต่อศาลปกครองว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ใช่โครงการแรกที่มีการร้องเรียน ขอยืนยันว่าทุกโครงการที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการนั้นโปร่งใสตรวจสอบได้”
รับเหมาแบ่งเค้กสร้าง
ด้านแหล่งข่าวจากรับเหมาก่อสร้างกล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้เป็นการช่วงชิงสัมปทานเดินรถ 30 ปี มากกว่างานก่อสร้าง เพราะงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และรถไฟฟ้าในเมืองไทย มีรับเหมา 4-5 ราย ที่เป็นผู้ก่อสร้าง และไม่ว่าใคระจะชนะ ก็หนีไม่พ้นจะเป็นรับเหมาขาใหญ่ในวงการที่ได้สร้าง
“การทำธุรกิจไม่มีมิตรแท้และศักตรูที่ถาวร ดูได้จากสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรม งานก่อสร้างอุโมงค์จาก ศูนย์วัฒนธรรม-หัวหมาก ที่มี 2 บิ๊กรับเหมาจับมือกันก่อสร้างมาแล้ว”
ดูท่าจะไม่จบง่ายๆ เพราะงานนี้คงจะมีข้อโต้เถียงกันอีกยาว ถึงเกณฑ์การพิจารณาที่ใช้ “ดุลพินิจ” มากกว่าตัดเชือกกันที่ “ราคา” และอาจจะกระทบต่อไทม์ไลน์การก่อสร้างและการเปิดบริการ ล่าช้าออกไปได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
กทพ. เดินหน้าลงทุน 2 แสนล้าน สร้างด่วนใหม่ 9 สาย
กทพ. ทุ่มกว่า 2 แสนล้าน ผุดทางด่วน 9 สายใหม่ ทะลวงคอขวดในเมือง เชื่อมโยงการเดินทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ซินเนอร์จี้กรมทางหลวง จ่อดึง 2 โครงการมาพัฒนาเอง ทั้งมอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ และทางยกระดับรังสิต-องครักษ์ เชื่อมทางด่วนศรีรัชและอุดรรัถยา
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กทพ.ยังเดินหน้าพัฒนาทางด่วนสายใหม่ ในแผนมี 9 โครงการ แยกเป็นโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างมีทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก 18.7 กม. วงเงิน 31,244 ล้านบาท
โครงการเป็นแผนงานเร่งด่วน มีทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2-วงแหวนรอบนอกตะวันออก 10.5 กม. วงเงิน 17,551 ล้านบาท และส่วนทดแทน N1 แยกเกษตรฯเชื่อมทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ อยู่ระหว่างเจรจาแบบก่อสร้างทางยกระดับช่วงหน้า ม.เกษตรศาสตร์, ทางเชื่อมโทลล์เวย์กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ 2.6 กม. วงเงิน 4,640 ล้านบาท, ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต 3.98 กม. วงเงิน 13,917 ล้านบาท
โครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม มีทางด่วนฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี 104.7 กม. วงเงิน 80,594 ล้านบาท, ทางเชื่อมต่อทางด่วนบูรพาวิถี และถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี 4.4 กม. วงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท, ทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพ และทางด่วนบางนา-อาจณรงค์ (S1) 1.8 กม. วงเงินประมาณ 1,600 ล้านบาท
และโครงการจะสร้างในระยะถัดไปมีแนวคิดจะซินเนอร์จี้ร่วมกับกรมทางหลวง เพื่อเดินหน้าโครงการ โดยกรมทางหลวงมีผลศึกษาเดิมอยู่แล้ว มี 2 แนวทาง คือ กทพ.จะนำมาก่อสร้างและบริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง หรือกรมทางหลวงก่อสร้าง แล้ว กทพ.บริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง
มี 2 โครงการ ได้แก่ ทางด่วนศรีรัช-สุวรรณภูมิ 18.5 กม. เป็นโครงการมอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายทางยกระดับช่วงศรีนครินทร์-สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 35,685 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ต่อเชื่อมกับทางด่วนศรีรัชส่วน D ของ กทพ. มี บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) รับสัมปทานอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะให้ กทพ.เป็นผู้ดำเนินการ
อีกสายทางด่วนสายอุดรรัถยา-ปทุมธานี 20.5 กม. ซึ่งกรมทางหลวงได้ศึกษาไว้แล้ว โดย กทพ.มองว่าน่าจะทำเส้นทางเชื่อมต่อกับทางด่วนอุดรรัถยา มี BEM เป็นผู้รับสัมปทานจะทำให้โครงข่ายทางด่วนเชื่อมโยงกันได้ทุกเส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการทางยกระดับช่วงปทุมธานี-รังสิต-องครักษ์ จะสร้างเป็นทางยกระดับตลอดสาย โดยแนวเส้นทางโครงการเริ่มต้นบริเวณจุดบรรจบทางหลวงหมายเลข 3100 บริเวณโค้งเมืองเอก
จากนั้นแนวเส้นทางโครงการจะมีทิศทางไปทางทิศตะวันออกขนานกับแนวคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ไปบรรจบกับถนน 305 รังสิต-องครักษ์ โดยแนวจะเลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ฝั่งเหนือโดยตลอด มีจุดสิ้นสุดโครงการอยู่บริเวณ กม.16+700 ช่วงคลอง 7 เป็นแนวตัดใหม่ขนาด 4-6 ช่องจราจร มีค่าก่อสร้าง 10,740 ล้านบาท และเวนคืน 320 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
หนี้ครัวเรือนเกินครึ่งผ่อนหนี้ต่อไม่ไหว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือนก.ย. 2563 อยู่ที่ 38.1 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนส.ค. 2563 ที่ 36.4 ขณะที่ดัชนี ECI ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.7 ในการสำรวจช่วงเดือนก.ย. 2563 เมื่อเทียบกับที่ระดับ 38.4 ในการสำรวจช่วงเดือนส.ค. 2563 โดยครัวเรือนมีมุมมองที่ดีขึ้นเกือบในทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าครัวเรือนยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้จ่าย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระดับจำกัด เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติยังคงหดตัว 100% ติดต่อกัน 5 เดือน
อีกทั้งสถานการณ์ด้านตลาดแรงงานยังคงน่ากังวล โดยล่าสุดในเดือนก.ค. 2563 จำนวนข้อมูลผู้ประกันตนที่รับประโยชน์ทดแทนกรณีการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 410,061 คน (ในปี 2562 อยู่ที่ 170,445) ภาวะการว่างงานที่ยังคงเปราะบางจะเป็นปัจจัยกดดันต่อระดับกำลังซื้อของครัวเรือนไทยในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ครัวเรือนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาระในการชำระหนี้ หลังมาตรการพักชำระหนี้เป็นการทั่วไปที่จะสิ้นสุดในเดือนต.ค. 2563 นี้ โดยระดับหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง ล่าสุดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 18 ปีครั้งใหม่ที่ 83.8% ต่อจีดีพี ซึ่งระดับหนี้ที่ยังสูงจะยังคงกระทบกระแสเงินสดใช้จ่ายในการดำรงชีพต่อเนื่อง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับภาระการชำระหนี้ของครัวเรือนพบว่า หลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้แล้วครัวเรือนไทยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ หรือเพิ่มรายได้จนทำให้ความสามารถในการชำระหนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยครัวเรือนไทยจำนวนมากกว่า 50% ยังต้องการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในระยะที่ 2 เพิ่มเติม (เน้นเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ลดอัตราการผ่อนขั้นต่ำ)
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“กระแต” อารียา ประกาศเลิกเฝ้าเสา หันเอาดีด้านผู้ตัดสินฟุตบอล
“กระแต” อารียา กฤษวงศ์ ผู้รักษาประตูสาว ฟุตซอลทีมชาติไทย ชุดเหรียญทองประวัติศาสตร์ เอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ และซีเกมส์ 2017 ตัดสินใจขอเลิกเฝ้าเสา และผันตัวเองสู่เส้นทางผู้ตัดสินอย่างเต็มตัว โดยเจ้าตัวฝันไกลต้องก้าวไปถึงจุดสูงสุดเป็นผู้ตัดสินระดับฟีฟ่าให้ได้
ผู้รักษาประตูสาวหน้าหวานโต๊ะเล็กไทย กล่าวอีกว่าเมื่อตนก้าวมาสู่เส้นทางของการเป็นผู้ตัดสินแล้วก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่และจะต้องก้าวไปสู่เป้าหมายสูงสุดให้ได้ โดยตั้งเป้าก้าวเป็นผู้ตัดสินระดับฟีฟ่าให้ได้ ซึ่งต้องใช้เวลาอบรมและสอบทั้งหมด 4 ปี ตอนนี้ผ่านไป 1 ปีแล้ว
โดยอารียา กฤษวงศ์ เริ่มทำหน้าที่ครั้งแรกในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ เมื่อปี 2019 ที่ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นต้นปี 2020 ที่ผ่านมา มาทำหน้าที่ในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่ ม.รังสิต เป็นเจ้าภาพ และล่าสุดลงทำหน้าที่ผู้ตัดสินในศึก “ไทยวีเมนส์ลีก”.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
แนะเลี่ยงการบริโภคอาหารสุกๆ ดิบๆ เสี่ยงอาหารเป็นพิษ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะเลี่ยงการบริโภคอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เนื่องจากไม่ผ่านการปรุงสุกด้วยความร้อนเสี่ยงปนเปื้อนพยาธิ และหากไม่มีการปรุงประกอบอาหารที่ถูกหลักสุขาภิบาลอาจทำให้เสี่ยงอาหารเป็นพิษตามมาได้
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวซึ่งเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปที่ตัวเองโพสต์ลงในแอปพลิเคชั่น TikTok ซึ่งเป็นคลิปขณะเทส้มตำลงจาน เป็นส้มตำปูที่สดมาก เพราะเป็นปูนาตัวเป็น ๆ 3 ตัว ที่เดินพล่านอยู่ในจานนั้น การบริโภคอาหารลักษณะนี้ถือว่าไม่ถูกสุขลักษณะ เนื่องจากอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ไม่ผ่านการปรุงสุกหรือไม่ผ่านความร้อนเลย หรือใช้ความร้อนในระเวลาสั้น ๆ เช่น ส้มตำหลากหลายรูปแบบ ลาบหมู ก้อยเนื้อ รวมถึงอาหารประเภทยำต่าง ๆ ที่มักจะรวนเนื้อสัตว์พอสุกเท่านั้นแล้วใส่เครื่องปรุง และเน้นรสชาติที่เผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัด อาจทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคที่เป็นอันตรายในอาหาร ที่นำมาเป็นวัตถุดิบได้ ดังนั้น จากข่าวที่นำเสนอเป็นส้มตำปูนา จึงทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงพยาธิใบไม้ในปอด เพราะเวลากินปูดิบ ๆ เข้าไปก็มีโอกาสกินไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิตัวนี้เข้าไป ซึ่งนํ้าย่อยในกระเพาะไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ แม้พยาธิตัวนี้จะไม่สามารถแพร่พันธุ์ในตัวคนเราได้ แต่จะชอนไชเข้าไปในปอดฟักตัวอยู่ประมาณ 1 เดือน จนทำให้มีอาการไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด และทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อความปลอดภัยหากเป็นเมนูส้มตำปู ควรนำปูมากลวกสุกด้วยความร้อนก่อนนำมาปรุงอาหาร
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การปรุงประกอบอาหารไม่ว่าจะเป็นเมนูใด ก่อนนำวัตถุดิบมาปรุง ต้องล้างน้ำให้สะอาดเพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรค พยาธิ สารเคมีตกค้าง และต้องปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต้องสุกถึงข้างในไม่ควรปรุงรสชาติเผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัดจนเกินไป ที่สำคัญคือให้เลือกซื้อจากร้านที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย หรือ Clean Food Good Taste ของกรมอนามัยรับรอง ที่สร้างความมั่นใจในเรื่องความสะอาดปลอดภัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ร้านอาหารหรือแผงลอยจำหน่ายอาหารต้องมีการปกปิดอาหาร ผู้ปรุงไม่ใช้มือหยิบจับอาหารปรุงสำเร็จโดยตรง สวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม
“ทั้งนี้ กรมอนามัยได้ออกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2561 เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร พ.ศ. 2561 และคุ้มครองสุขภาพผู้บริโภคและพิทักษ์สิทธิของประชาชนในการรับบริการด้านอาหาร ไม่ให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมี หรือโลหะหนักในอาหาร รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ เช่น โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ เป็นต้น” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
บทสนทนาภาษาอังกฤษ ร้านแว่นตา วัดสายตา คำศัพท์ เกี่ยวกับสายตา
เมื่อไปที่ที่ร้านขายแว่นตา เราจะพูดเกี่ยวกับสายตา หรือแว่นตา แว่นสายตา แว่นกันแดด เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไรบ้าง มาเรียนรู้ศึกษาจากบทความสอนภาษาอังกฤษหน้านี้กันครับ
optic (ออพ’ทิค) /ˈɑːp.tɪk/
เกี่ยวกับตา, การมองเห็น
relating to light or the eyes
optical (ออพ’ทิค-เคิล) /ˈɑːp.tɪ.kəl/
เกี่ยวกับสายตา, การมองเห็น
relating to light or the ability to see
optician (ออพทิช’เชิน) /ɑːpˈtɪʃ.ən/
ผู้เชี่ยวชาญทำแว่นสายตาหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับตา, ช่างทำหรือพ่อค้าแว่นตา
ประโยคภาษาอังกฤษที่ควรรู้ เมื่อใช้บริการที่ร้านแว่นตา
Do you offer free eye tests?
= คุณวัดสายตาให้ฟรีหรือเปล่า
I’d like to have an eye test, please.
= ฉันอยากจะวัดสายตาสักหน่อย
I need a new … = ฉันต้องการ…ใหม่
pair of glasses = แว่นตา
pair of reading glasses = แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือ
glasses’ case = กล่องใส่แว่นตา
Could I order some more contact lenses?
= ขอสั่งคอนแทคเลนส์เพิ่มค่ะ/ครับ
The frame on these glasses is broken
= กรอบแว่นตาอันนี้หัก
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
frame (เฟรม) กรอบ,โครง
glasses (กลาซ-ซิส) แว่นตา
Can you repair it?
= คุณซ่อมมันได้ไหม
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
repair (รีแพรฺ’) ซ่อมแซม
Do you sell sunglasses?
= คุณขายแว่นกันแดดไหม
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
sunglasses (ซัน’กลาสซิส) แว่นตากันแดด
How much are these designer frames?
= กรอบนี่ราคาเท่าไหร่
My eyesight’s getting worse.
= สายตาของฉันแย่ลง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษต้องรู้
eyesight /ˈaɪ.saɪt/ สายตา
Do you wear contact lenses?
= คุณใส่คอนแทคเลนส์หรือเปล่า
Are you short-sighted or long-sighted?
= คุณสายตาสั้นหรือสายตายาว
Could you read out the letters on the chart, starting at the top?
= โปรดอ่านตัวอักษรบนกระดานเริ่มจากด้านบน
Could you close your left eye, and read this with your right?
= โปรดปิดตาข้างซ้ายและอ่านข้อความนี้ด้วยตาข้างขวา
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
Apple เปิด HomePod mini จิ๋วแต่แจ๋ว
Apple เปิดตัวผู้ช่วยส่วนตัว HomePod mini จิ๋วแต่แจ๋ว ที่ช่วยเปลี่ยนบ้านเป็นสมาร์ทโฮม ราคาประมาณ 3,000 บาท
เริ่มแล้วสำหรับงาน AppleEvent โดย Apple อวดโฉมของเล่นใหม่ผู้ช่วยส่วนตัว ที่ช่วยเปลี่ยนบ้านเป็นสมาร์ทโฮม “ HomePod mini” ที่มีขนาดเล็ก เพียง3.3 นิ้ว แต่มีพลังเสียงดีขึ้น สั่งการด้วย Siri รองรับการใช้งาน Podcast Apple Music และการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น มีฟีเจอร์เป็นอินเตอร์คอม สื่อสารภายในบ้าน ราคา 99 ดอลล่าร์สหรัฐ. หรือ ประมาณ 3,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เพชรสังฆาต สมุนไพรชื่อแปลก แต่สรรพคุณกลับไม่ธรรมดาเลยสักนิด
เนื่องจากสรรพคุณของสมุนไพรตัวนี้ไม่ได้รักษาโรคที่เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง โรคหวัด โรคไขมัน โรคเบาหวาน ฯลฯ แต่เพชรสังฆาตเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ที่โดดเด่นของ สมุนไพรชนิดนี้ สรรพคุณของสมุนไพรชื่อแปลกชนิดนี้ไม่ได้มีแค่รักษาริดสีดวงเท่านั้น สรรพคุณอันหลากหลาย เช่น โรคที่เกี่ยวกับกระดูกได้ โรคท้องผูก และที่กำลังเป็นที่น่าสนใจก็คือ เพชรสังฆาตช่วยลดน้ำหนัก สารสกัดจากเพชรสังฆาตนำมาจากส่วนของใบ เถา และน้ำคั้นจากต้น สามารถคั้นเอาน้ำมาดื่มแก้ท้องอืด จากส่วนของเถาอ่อน โรคเลือดออกตามไรฟัน แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
เพชรสังฆาต สมุนไพรชื่อแปลกไม่คุ้นหู
เพชรสังฆาตมีสรรพคุณเด่นๆในการใช้เป็นยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก. จากงานวิจัยของ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ พบว่าความสามารถของสมุนไพรเพชรสังฆาต กับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงมานานลองรับประทานเพชรสังฆาตและวัดผลกับยาแผนปัจจุบันที่ชื่อFlavonoidic+Diosmin (Daformin)ซึ่งเป็นยารักษาโรคริดสีดวง จากผลการศึกษาจะพบว่าค่าเฉลี่ยของการวัดผลของ
สมุนไพรเพชรสังฆาตเปรียบเทียบผลกับยาFlavonoidic+Diosmin (Daformin)ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ. ข้อดีนอกเหนือจากผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน ยังพบว่าราคายาแคปซูลเพชรสังฆาตมีราคาถูกกว่ายาFlavonoidic+Diosmin (Daformin) มากกว่า20เท่าอีกด้วย จากผลการวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่าแคปซูลเพชรสังฆาตสามารถใช้ทดแทนยาFlavonoidic+Diosmin (Daformin)ในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี.
ปัจจุบันเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ยืนยันถึงสรรพคุณของ เพชรสังฆาตแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูง สามารถรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ผลดีเทียบเท่ายาแผนปัจจุบันยา Flavonoidic+Diosmin (Daformin) และได้รับการบรรจุขึ้นบัญชียาหลักแห่งชาติอีกด้วย โดยมีการใช้แทนยาแผนปัจจุบันในโรงพยาบาลรัฐบางแห่งสำหรับแพทย์แผนโบราณ
รับประทานเพชรสังฆาตเพื่อรักษาริดสีดวงอย่างไร?
รับประทานเพชรสังฆาตแบบแคปซูล 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 3 แคปซูล เช้า กลางวัน เย็นหลังอาหาร เพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก ยาเพชรสังฆาต จะมีฤทธิ์เพิ่มการขับถ่าย สามารถลดขนาดยาลงได้ ตามความเหมาะสม
เพชรสังฆาตช่วยเรื่องข้อต่อกระดูก
เพชรสังฆาตช่วยเรื่องกระดูกได้นั้นเนื่องจากในเพชรสังฆาตอุดมไปด้วยสารกลุ่มไฟโตเอสโตเจน ซึ่งสารกลุ่มนี้ไปเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนtype b ที่เกี่ยวกับกระดูกโดยตรงมีผลให้กระดูกมีมวลมากขึ้น หนาขึ้น ไม่แตกเปราะบางหักง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงวัยทองที่มีการผลิตฮอร์โมนเอสโตเจนลดลง มีนักวิชาการได้ทำการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบในสัตว์ทดลองโดยตัดรังไข่ของสัตว์ชนิดนั้นไม่ให้ผลิตฮอร์โมน เปรียบเสมือนหญิงวัยทอง และให้รับประทาน
เพชรสังฆาต พบว่าสัตว์ดังกล่าวมีปริมาณของวิตามินดี ที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์การสร้างกระดูกและฮอร์โมนเอสโตเจนในกระแสเลือดก็เพิ่มขึ้นสูงด้วย การทดลองดังกล่าวได้ทำการศึกษาโดยการเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันชื่อว่า Raloxifene (ราโลซิฟีน) เป็นยาในกลุ่มเซิร์ม (Selective Estrogen Receptor Modulators: SERMs ซึ่งใช้รักษาภาวะกระดูกพรุนให้เพศหญิงวัยหมดประจำเดือน เป็นยาที่ช่วยการทำงานของกระดูก ผลการทดลองบอกว่าเพชรสังฆาตสามารถช่วยในเรื่องการเพิ่มของมวลกระดูก ทำให้ไม่แตกหักง่าย แต่ยาRaloxifene ไม่ได้ทำให้มวลกระดูกมีความหนาแน่นมากขึ้น ในขณะที่เพชรสังฆาตนอกจากจะเพิ่มมวลกระดูแล้วยังลดอาการอักเสบของกระดูกอีกด้วย
รับประทานเพชรสังฆาตเพื่อรักษาโรคกระดูกอย่างไร?
รับประทานเพชรสังฆาตแบบแคปซูล 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 แคปซูล เช้า กลางวัน เย็นเพื่อเพิ่มมวลกระดูกหรือ ป้องกันข้อเข่าเสื่อม อาจปรับลดการรับประทานยาแคปซูลเพชรสังฆาตได้เป็น สองเวลาหลังอาหารเช้า เย็น ได้ตามความเหมาะสม
รับประทานนานมั้ยถึงจะเห็นผลลัพธ์และรับประทานต่อเนื่องได้หรือไม่
การรักษาโรคริดสีดวงทวารจะรับประทานยาเม็ดแคปซูลเพชรสังฆาต 500 มิลลิกรัม อย่างต่อเนื่อง 1 เดือน หรือรับประทานได้จนกว่าอาการดีขึ้น
ส่วนโรคกระดูก บำรุงกระดูก รับประทานยาเม็ดแคปซูลเพชรสังฆาต 500 มิลลิกรัมต่อเนื่อง 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ และหยุดพัก 1 เดือน จึงสามารถรับประทานต่อ จนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ
ลดความอ้วนด้วยเพชรสังฆาต
มีการศึกษาในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน สำหรับคนไทยหรือคนเอเชีย คือ มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 27 กิโลกรัม/ตารางเมตร รับประทานแคปซูลเพชรสังฆาตขนาด 150 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร เช้า และเย็น ประมาณ30 นาที นานเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน โดยรับประทานอาหารเหมือนเดิมที่เคยทานและไม่มีการออกกำลังกาย ปรากฎว่าน้ำหนักลดลง 8.8% เทียบจากน้ำหนักเดิม น้ำหนักเฉลี่ยของผู้ทดลองก่อนรับประทานเพชรสังฆาตแคปซูล 98.92 กิโลกรัม ลดเหลือ 90.19 กิโลกรัม. วัดความยาวรอบเอวลดลงเหลือ36นิ้วจาก40 นิ้ว ผลระดับไขมันในเลือดคอเลสเตอรอลรวม LDL และระดับน้ำตาลในเลือด มีการลดลงโดยประมาณ 20% เนื่องจากเพชรสังฆาตมีสารเซโรโทนิน ช่วยทำให้สมองเกิดความรู้สึกอิ่ม ไม่อยากอาหาร จึงทำให้น้ำหนักลด และเพชรสังฆาตยังมีไฟเบอร์อยู่มากจึงทำให้ผู้ที่รับประทานอิ่มเร็วขึ้นมีผลทำให้น้ำหนักลด
ทำความรู้จักกับเพชรสังฆาต
เพชรสังฆาตเป็นไม้เถาเลื้อยมีลักษณะเป็นข้อๆ สั้นๆ คล้ายสายโซ่ต่อกันขนาดยาวราว8-9เซนติเมตรสีเขียวสด ปลูกได้กับดินทุกชนิด โตไว มีดอกสวยงาม ใช้ประดับสวนในบ้านอีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ คนท้องถิ่นเรียกไม้เถาเพชรสังฆาตว่า “ขันข้อ” (ราชบุรี) เนื่องจากช่วยเรื่องข้อต่อของกระดูก
“เพชรสังฆาต” (ชื่อวิทยาศาสตร์ Cissus guadrangularis L.)
ส่วนที่เป็นยา
เถา ใบ ราก
ผลข้างเคียง ข้อห้ามใช้
เนื่องจากเพชรสังฆาตมีสารชื่อ Calcium Oxalate เป็นผลึก รูปเข็ม อาจเกิดการระคายเคืองในเยื่อบุช่องปาก คันปาก แสบในลำคอ จากการรับประทานสด ๆ ได้
เพชรสังฆาตมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ การรับประทานอย่างต่อเนื่อง จึงอาจทำให้เกิดท้องเสียได้ ต้องระมัดระวังในการสูญเสียแร่ธาตุในร่างกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,900.00 | 28,000.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,807.00 | 27,394.12 | 28,500.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,626.30 | 24,654.71 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,445.60 | 21,915.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 813.00 | 12,325.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 632.00 | 9,581.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,873.00 | 28,394.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/10/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 | 22.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 | 21.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | 20.54 | – | 20.54 | 20.54 | 20.54 | 20.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.14 | 18.14 | – | – | – | – | – | – | – | 18.14 |
เบนซิน 95 | 29.46 | – | – | – | 29.91 | – | 29.96 | 29.46 | – | 29.46 |
ดีเซล B7 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 | 21.89 |
ดีเซล | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 | 18.89 |
ดีเซล B20 | 18.64 | 18.64 | 18.64 | 18.64 | 18.64 | – | 18.64 | 18.64 | – | 18.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.34 | 26.36 | 28.34 | 28.04 | – | – | – | – | – | 26.34 |
แก๊ส NGV | 14.17 | 14.17 | – | – | – | – | – | – | – | 14.17 |