“คมนาคม” สั่งเบรกสร้างรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต
“คมนาคม” พับแผนก่อสร้าง รถไฟฟ้ารางเบา หรือ “แทรม” ภูเก็ต วงเงิน 3.5 หมื่นล้าน สั่งรฟม.ปรับแบบการเดินรถเป็นรถเมล์ไฟฟ้า BRT หวังประหยัดงบก่อสร้างกว่าหมื่นล้านบาท จ่อชงครม.ไฟเขียวภายในปีนี้ คาดเปิดให้บริการปี 2569
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติ-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.)สัญจร ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบ โดยขณะนี้ได้มอบให้ รฟม. ไปพิจารณาปรับรูปแบบระบบการเดินรถ เพื่อลดต้นทุนค่าก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ในต่างประเทศ ก็ปรับมาใช้เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV) ล้อยางกันแล้ว ช่วยประหยัดค่าก่อสร้างได้หมื่นกว่าล้านบาท เพราะไม่ต้องทำระบบราง และระบบอาณัติสัญญาณ อีกทั้งยังเกิดประโยชน์กับประชาชน เพราะค่าโดยสารจะถูกลงด้วย
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่ รฟม. กำลังออกแบบรายละเอียดโครงการยังสามารถปรับปรุงได้ และในร่างเงื่อนไขเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก็ไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องเป็นแทรมเท่านั้น ดังนั้นเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ก็ควรเปลี่ยนการเดินรถในรูปแบบเดิมๆ ที่มีราคาแพง และความคุ้มค่าน้อย เพราะจากการดูผลการศึกษาล่าสุด ก็พบว่ามีผู้ใช้บริการเพียงแค่ประมาณ 3.9 หมื่นคนต่อวัน อย่างไรก็ตามการปรับรูปแบบระบบการเดินรถดังกล่าว น่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นานว่าจะเลือกใช้รูปแบบใดแทนแทรม เบื้องต้นน่าจะเป็นรูปแบบรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) แต่เป็นแบบไฟฟ้า วิ่งตามแนวเกาะกลางถนน โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบได้ภายในปี 2563 และมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2569
“การใช้พื้นที่เกาะกลางถนน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่ง รฟม. ได้หารือกับกรมทางหลวง (ทล.) แล้ว ซึ่งการดำเนินการจะรื้อเกาะกลางออก ทำผิวจราจรใหม่ และใช้แบริเออร์กั้นระหว่างเลนของรถเมล์บีอาร์ที และรถยนต์ทั่วไป แต่สิ่งที่ รฟม. ต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ การสร้างสถานีที่จะให้ผู้โดยสารเข้าไปใช้บริการ ต้องมีการปรับแบบเพิ่มเติมหรือไม่ และบางแห่งยังสามารถนำพื้นที่ใช้เป็นเชิงพาณิชย์ได้ด้วย นอกจากนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าเมื่อรถถึงทางแยก จะต้องปรับเป็นแบบใด เช่น ทำเป็นอุโมงค์ลอด หรือหากจะให้ประหยัดเงินมากขึ้น ก็ควรใช้เพียงแค่การบริหารสัญญาณไฟจราจร ซึ่งต้องให้รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) ไปก่อน”
ทั้งนี้เรื่องเส้นทางเดินรถ และจำนวนสถานีนั้น ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีระยะทางประมาณ 42 กม. และมี 21 สถานี อย่างไรก็ตามในอนาคตยังมีแผนจะให้โครงการนี้เชื่อมกับรถไฟที่จะไปพังงาที่บริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไป จังหวัดพังงา มีระยะทางประมาณ 4 กม.
สำหรับแนวเส้นทางโครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติ-ห้าแยกฉลอง เริ่มจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปตามทางหลวงหมายเลข 4031 (แยกศาลาแดง-แยกหมากปรก) เชื่อมทางหลวงหมายเลข 4036 (แยกเหนือคลอง-แหลมกรวด) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 402 (โคกกลอย-เมืองภูเก็ต) เพื่อเข้าเมืองภูเก็ต จากนั้นผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี และท้าวศรีสุนทร ข้ามสะพานสารสิน มุ่งหน้าสถานีปลายทางท่าเรือฉลอง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เค็มน้อย อร่อยได้ สไตล์ LOW-SO(DIUM)
“ส้มตำ ปูเค็ม อย่างเต็มครกเลย ปูนึ่งเอย ถ้ามีน้ำจิ้ม แซบหลาย ฉีกไก่นา น้ำปลาจิ้มหน่อยดีไหม แล้วตามด้วยไข่ ลูกเขย อร่อยนักเลย ก็เลยต้องกิน” หลายคนคงเคยได้ยินเพลงกินจุ๊บจิ๊บ ซึ่งเนื้อเพลงส่วนหนึ่งบ่งบอกถึงวัฒนธรรมการกินของคนไทยได้เป็นอย่างดี คนไทยมักจะมีพฤติกรรมติดการกินอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็ม ไม่ว่าจะกินอะไรก็ต้องปรุง ต้องมีน้ำจิ้มด้วยเสมอ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยถูกปาก
เป็นที่ทราบกันดีว่า อาหารที่มีรสจัดนั้นเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มโรคที่เกิดจากพฤติกรรมหรือโรค NCDs เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ หลายคนเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญกับการใส่ใจเลือกรับประทานอาหารที่มีรสหวานน้อยลง สั่งเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ หรือเครื่องดื่มหวานน้อยกันมากขึ้น จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เกิดเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ เครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานชนิดอื่นมาทดแทนน้ำตาล เช่น สารสกัดจากหญ้าหวาน แต่ส่วนประกอบสำคัญที่มีอยู่ในอาหารและอันตรายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าน้ำตาล ก็คือ โซเดียม ซึ่งไม่ได้หมายความถึงเฉพาะเกลือ หรือเครื่องปรุงที่มีรสเค็มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว ธัญพืชต่าง ๆ อาหารแปรรูป หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มอย่างชา หรือน้ำผลไม้ด้วย
นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลสำรวจการบริโภคเกลือแกงในประเทศไทยปี 2552 พบว่า คนไทยได้รับโซเดียมจากการรับประทานอาหารต่อวันมากถึง 4,000 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่ามากกว่าปริมาณความต้องการของร่างกายในแต่ละวันถึงสองเท่า สถานการณ์การบริโภคโซเดียมที่ล้นเกินของคนไทย ทำให้เกิดการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย เพื่อลดโอกาสที่จะนำไปสู่การป่วย การเสียชีวิต และผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการเพิ่มขึ้นของโรค NCDs โดยมีเป้าหมายที่จะให้ประชาชนบริโภคเกลือและโซเดียมลดลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568 เพื่อสนับสนุนแผนบริการของกระทรวงสาธารณสุข ในการลดโรค NCDs รวมถึงโรคไตวายระยะสุดท้ายของคนไทย
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สสส. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม เครือข่ายลดการบริโภคไขมัน เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่าย NCDs และภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ โดยผลักดันนโยบายสาธารณะเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน จากปัจจัยเสี่ยงด้านการบริโภคอาหาร เสริมพลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติป้องกันและควบคุมโรค NCDs รวมทั้งสื่อสารให้ความรู้ประชาชนถึงโทษของการบริโภค “หวาน มัน เค็ม” เกินพอดี
รสเค็มเป็นรสที่ส่งผลต่อการกินมากที่สุด รสชาติเค็มเปรียบเหมือนยาเสพติด โดยเร่งการผลิตโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองส่งผลต่ออารมณ์ความพึงพอใจ ความสุข ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร เมื่อติดรสชาติเค็มแล้ว หากไม่ได้รสชาติเค็มก็จะรู้สึกว่าอาหารไม่อร่อย หงุดหงิด อารมณ์เสีย หากติดเค็มแล้ว เพียงแค่นึกถึงอาหารที่มีรสชาติเค็มก็สามารถทำให้เกิดความรู้สึกหิวและอยากอาหารได้ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ง่ายกว่าผู้ที่ไม่ชอบกินเค็ม เนื่องมาจากความรู้สึกอยากอาหารที่เพิ่มมากขึ้น
วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเค็มให้ลดลง
1.เลือกรับประทานอาหารสดจากธรรมชาติให้มากขึ้น เน้นผัก ผลไม้ สด และลดการกินอาหารแปรรูป
2.อ่านฉลากโภชนาการเป็นประจำ เลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมือนกันแต่มีปริมาณของโซเดียมให้น้อยที่สุด หรือเลือกดูบรรจุภัณฑ์ที่มีคำว่า ลดการใช้เกลือ หรือ Low sodium
3.เลือกน้ำเปล่าแทนที่น้ำหวานหรือน้ำผลไม้ เนื่องจากน้ำผลไม้ในปัจจุบันบางครั้งมีการเติมเกลือลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่จะยิ่งทำให้เราติดรสเค็มมากยิ่งขึ้น
4.ชิมรสชาติอาหารก่อนปรุง เครื่องปรุงรสเค็ม
5.ตั้งเป้าหมายในการกินเพื่อลดความเค็มลง โดยลดการเติมเครื่องปรุงในอาหาร
6.เมื่อรับประทานอาหารนอกบ้าน อาจขอแยกซอสปรุงรสต่าง ๆ หรือขอเค็มน้อยแทน
รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า คนไทยป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังสูงถึง 7,600,000 คน เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 40,000 คนต่อปี หรือ 108 คนต่อวัน เป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาตกว่า 500,000 คน การจัดกิจกรรมครั้งนี้เครือข่ายฯ ร่วมกับ สสส. และบริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร จำกัด จัดทำภาพยนตร์สั้น เพื่อรณรงค์ลดเค็ม ในเรื่อง “คำรักลิขิตสาป” นำแสดงโดยหนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์ และจอย-ชลธิชา นวมสุคนธ์ และ “คอร์สเปลี่ยนลิ้น 21 วัน (21 Days Sodium Lesstaurant) โดยร่วมกับร้านอาหาร 21 ร้าน ปรับเมนูลดเค็ม แต่ยังคงรสชาติความอร่อยไว้ โดยเปิดให้สั่งผ่านแอปพลิเคชัน Line Man รวมทั้งให้สูตรเมนูลดเค็ม สำหรับผู้ที่ต้องการทำอาหารรับประทานเองด้วย ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sodiumlesstaurant.com/
sodiumlesstaurant เป็นเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมช่องทางการติดต่อกับเหล่าร้านอาหารที่ปรับสูตรเมนูเด็ดให้ลดเค็มลง พร้อมส่งตรงถึงบ้านได้ตั้งแต่หนึ่งมื้อจนถึงการผูกปิ่นโตไปตลอดสามสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิสูจน์แล้วว่าลิ้นจะปรับกลับมาอร่อยกับรสชาติที่ลดเค็มลงพร้อมสุขภาพที่ดีขึ้นแบบวัดผลได้
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้สถานการณ์การบริโภคโซเดียมดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น คือ พฤติกรรมการเลือกบริโภคของตัวเราเอง มาตรการต่าง ๆ เป็นเพียงตัวช่วยให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
คอร์สเปลี่ยนลิ้น 21 วัน เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จัดทำขึ้นโดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยได้กลับมาใส่ใจเรื่องอาหาร ตั้งแต่วันที่โรคภัยยังไม่ส่งมาถึงทุกคน สสส. มุ่งหวังให้คนไทยมีความตระหนักถึงพิษภัยอันตรายจากการบริโภคโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค NCDs
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
รวม คำศัพท์ภาษาอังกฤษ Gat-Pat 100 คำ ท่องจำให้ขึ้นใจ
เตรียมตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง การเตรียมสอบก็เช่น สำหรับน้องๆ คนไหนที่กำลังเตรียมตัวเรื่องการสอบ Gat-Pat โดยเฉพาะพาร์ทภาษาอังกฤษ นอกเหนือจากเรื่องรูปประโยคที่เราควรทำความเข้าใจแล้ว การจดจำคำศัพท์เองก็จะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ง่ายดายมากขึ้น!
ว่าแต่จะมีคำศัพท์อะไรบ้างที่น่าจดจำไว้ใช้ในการสอบ ตาม วอลล์สตรีทอิงลิช มาเลย
emotional = เจ้าอารมณ์ ชอบใช้อารมณ์
selfish = เห็นแก่ตัว
insecure = ไม่ปลอดภัย
chronic worrier = คนอมทุกข์ คนขี้กังวล
crabby = ขี้หงุดหงิด อารมณ์ฉุนเฉียว
lazy = ขี้เกียจ เฉื่อยชา
mean = ใจร้าย ใจดำ
volatile = อารมณ์แปรปรวนง่าย จิตใจรวนเร
moody = หงุดหงิดง่าย
drone = ทำเสียงพึมพำ
secretive = ชอบทำตัวลับๆล่อๆ ปกปิด
annoying = น่ารำคาญ
rampageous = หัวรุนแรง
narrow-minded = ใจแคบ
indiscipline = ไม่มีระเบียบวินัย
slanderous = ชอบใส่ร่ายป้ายสี ชอบหมิ่นประมาท
needy = ยากจนมาก
vexatious = จิตใจหม่นหมอง
churchly = เคร่งศาสนา
goalles = ไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต
backward = เชื่องช้า สติปัญญาไม่ดี
nettlesome = ชอบทำให้คนอื่นไม่สบายใจ
irksome = น่ารำคาญ น่าเบื่อ
dull = โง่
thrifty = ประหยัด มัธยัสถ์
depressed = ห่อเหี่ยว
revengeful = เจ้าคิดเจ้าแค้น อาฆาตพยาบาท
grouchy = อารมณ์บูดบึ้ง
hardheaded = ดื้นรั้น หัวแข็ง
dour = เข้มงวด
impulsive = ใจเร็ว
bossy = ชอบสั่ง
rapacious = ตะกละ ละโมภ
pompous = ขี้โม้ ขี้อวด
disgusting = น่ารังเกียจ น่าสะอิดสะเอียน
unwilling = ไม่เต็มใจ
fusty = หัวโบราณ
infuriate = รุนแรง เกรี้ยวกราด
clueless = โง่เหง้า
uncooperative = ไม่ร่วมมือ
dodgy = เจ้าเล่ห์
infantile = ทำตัวเหมือนเด็ก
sullen = บึ้ง ไม่พูดจา
vindictive = อาฆาต
capricious = รวนเร เปลี่ยนใจง่าย ไม่รักษาคำพูด
illiberal = ขี้เหนียว ขี้งก
feeble-minded = ปัญญาอ่อน
downhearted = ท้อแท้ สิ้นหวัง
laggard = ชักช้า
slick = ฉลาดแกมโกง
acrimonious = ปากจัด ปากดี ทำตัวแรง
exasperate = ทำให้โมโห ทำให้รำคาญ
discouraging = ชอบขัด
minatory = ซึ่งคุกคาม ซึ่งเป็นพิษเป็นภัย
stingy = ขี้เหนียว ตระหนี่
smelly = ซึ่งมีกลิ่นเหม็น
narcissistic = ซึ่งหลงตัวเอง
untrustworthy = ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้ใจ
pushy = ก้าวร้าว
self-indulgent = เอาแต่ใจตัวเอง
jealous แปลว่า ขี้หวง ขี้หึง ขี้หวาดระแวง ขี้อิจฉา
possessive = ชอบครอบครอง
conservative = ระมัดระวังตัว
tricky = เจ้าเล่ห์ ชอบหลอกลวง
malicious = ชอบปองร้าย อาฆาต พยาบาท
stubborn = ดื้อ สอนยาก บอกยาก
greedy = โลภมาก
gossipy = ชอบซุบซิบ ชอบนินทา
proud = หยิ่ง ทะนงตัว
boring = น่าเบื่อ
stunning = น่าประหลาดใจ, น่าทึ่ง
stupid = โง่, เบาปัญญา
sturdiness = ทนทาน, มั่นคง, แน่นหนา
sty = โรคกุ้งยิง, คอกหมู, ที่สกปรก
submarine = เรือดำน้ำ
subway = รถไฟใต้ดิน, อุโมงค์ใต้ดิน
succeed = ประสบความสำเร็จ
successful = ประสบความสำเร็จ, เป็นผลสำเร็จ
suck = ดูด, จิบ, ดูดซึม
suffer = ประสบทุกข์, ได้รับ, ทน,อดทน, ยอม
put off = ถอดออก, ยอมให้ออกจากพาหนะ
put on = วางบน, สวม, สวมใส่, ทำให้ติด, เริ่มทำงาน, เพิ่ม
puzzle = ปัญหา, ปริศนา
quadruple = 4 เท่า , ประกอบด้วย 4 ส่วน , 4 จังหวะ
qualification = คุณสมบัติ , ความเหมาะสม
quality = คุณภาพ, คุณลักษณะ, ความดี
quarrel = การทะเลาะเบาะแว้ง
questionnaire = แบบสอบถาม
quotation = การยกคำพูดผู้อื่นมาอ้าง
quote = ยก (คำพูด, ข้อความ), ยกคำพูดของ
assertive = ซึ่งยืนยันอย่างมั่นใจ
assess = ประเมิน, กําหนด
assistance = การช่วยเหลือ, การสงเคราะห์, การอนุเคราะห์
assistant = ผู้ช่วยเหลือ, ผู้ช่วย
doubt = ความสงสัย, ความไม่แน่ใจ
doubtful = ความไม่ไว้ใจ
dough = แป้งผสมน้ํา, ขนมเค้ก, เงิน (คําแสลง)
down = ( เดิน ) ไปตาม, ทางใต้, ต่ำลง
downside = ด้านล่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
สาวกเฮ! วางขาย iPhone12ไทย4รุ่นรวด27พ.ย.นี้
Apple ประกาศวางจำหน่าย iPhone12 ในไทย พร้อมกัน 4 รุ่นรวด ทั้ง iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ในวันศุกรที่ 27 พฤศจิกายน 2563 เคาะราคาเริ่มต้น 25,900 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง Apple ประกาศว่าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน เวลา 5:00 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini จะเปิดให้ลูกค้าใน 50 ประเทศ สั่งซื้อล่วงหน้าผ่านapple.com แอพ Apple Store รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์หลายราย โดย iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini จะวางจำหน่ายในร้านค้าและเริ่มส่งไปถึงลูกค้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563 นี้
Apple ยังได้กำหนดวางจำหน่าย iPhone 12 พร้อมกัน 4 รุ่น ประกอบด้วย iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ในวันศุกรที่ 27 พฤศจิกายน 2563
ทั้งนี้คาดว่าบรรดาโอเปอเรเตอร์จะเปิดให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.เป็นต้นไป
สำหรับราคานั้น iPhone 12 Mini ความจุ 64 GB ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท
iPhone 12 ความจุ 64 GB ราคา เริ่มต้น 29,900 บาท
iPhone 12 Pro ความจุ 64 GB ราคาเริ่มต้น 36,900 บาท
iPhone 12 Pro Max ความจุ 64 GB ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สมุนไพรแร่ธาตุ ดินสอพอง สารพัด ประโยชน์ ของ สุดยอดต้นตำรับยาไทย
เมื่อกล่าวถึง สมุนไพรแร่ธาตุ ดินสอพอง วัยรุ่นหรือเด็กในยุคปัจจุบันอาจไม่รู้จัก แต่ดินสอพองนั้นมีการใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ในยุคก่อนจนถึงปัจจุบัน สมุนไพรแร่ธาตุ แป้งดินสอพอง คำนี้ที่ไม่คุ้นหู ผู้ใหญ่บางท่านยังไม่เคยได้ยิน สมุนไพรแร่ธาตุ คือแร่ธาตุที่ธรรมชาติสร้างขึ้นหรือเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ดินสอพองถือเป็นแร่ธาตุสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
มนุษย์สมัยโบราณ นำมาใช้ประโยชน์จนถึงยุคปัจจุบัน เมื่อพูดถึงดินสอพอง บางคนจึงนึกถึงเทศกาลสงกรานต์ที่มีคนส่วนใหญ่นำมาใช้ในการประแก้มกันตอนเล่นน้ำสงกรานต์ มีลักษณะเป็นผงสีขาว มีสรรพคุณทำให้รู้สึกเย็นจึงนิยมใช้ประแก้มกันในตอนเล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการดับร้อน
ประโยชน์ที่นึกถึงก็คงจะเป็นแค่เรื่องของการใช้ประแก้มกันในตอนสงกรานต์เท่านั้นที่เห็นได้ชัดเจน แต่จริงๆแล้วดินสอพองสามารถให้ประโยชน์มากมาย เรามาทำความรู้จักดินสอพองให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่า สมุนไพรแร่ธาตุดินสอพองนั้นคืออะไรมี ประโยชน์มากมายจริงหรือ
สมุนไพรแร่ธาตุชนิดนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดินมาร์ล เป็นลักษณะผงหรือเป็นก้อนสีขาว ที่ได้มาจากธรรมชาติ ดินสอพองจะพบในชั้นใต้ดินที่มีหินปูน ลักษณะของหินปูนที่พบในชั้นดินจะเป็นกลุ่มดินที่มีสีขาวแทรกในชั้นดิน ในดินสอพองมี แคลเซียมคาร์บอเนต แร่ดินเหนียว เป็นส่วนประกอบหลัก แถมยังมีแร่ธาตุอื่นๆประกอบไปด้วย เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิกา อีกด้วย ดินสอพองสามารถขุดพบได้ทั่วประเทศไทยทุกภาค เช่น สระบุรี ราชบุรี เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ กระบี่
วิธีการทำ แป้งดินสอพอง มาใช้ประโยชน์ ตามขั้นตอนดังนี้
- เริ่มแรกขุดดินสีขาวมากองรวมกันไว้ แล้วแยกส่วนประกอบอื่นๆออกไป เช่น เศษไม้ เศษหิน แล้วนำดินสอพองใส่บ่อ
- ถัดมาดูดน้ำใส่บ่อดินสอพอง ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ดินสอพองตกตะกอน ต่อไปตักน้ำออกให้เหลือแต่ตะกอนของดินสอพอง
- ขั้นตอนสุดท้ายตักโคลนดินสอพองปั้นเป็นก้อนรูปสวยงามตามต้องการหรือตักใส่ในแม่พิมพ์ แล้วนำไปตากบนลานที่มีผ้าสำหรับซับน้ำอยู่ ทิ้งไว้ 2-5 ชั่วโมง เมื่อดินสอพองสามารถหยิบได้ นำมาตากบนตะแกรงที่เตรียมไว้ 2-3วัน ก็จะแห้งสนิทนำไปใช้ประโยชน์ได้
ดินสอพอง มีประโยชน์ในด้าน ความสวย ความงาม
- รักษาสิว โดยการนำดินสอพองมาพอกหน้า โดยผสมกับสิ่งบำรุงผิวหน้าอื่นๆเช่น ผสมโยเกิร์ต ผสมน้ำผึ้ง นำมาพอกหน้าแล้วล้างออก จะช่วยรักษาสิวและสิวเสี้ยนได้ดีทีเดียว
- สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ช่วยบำรุงผิวกายให้สดใสเปล่งปลั่ง นำดินสอพองมาผสมกับมะขามเปียก น้ำผึ้ง ขมิ้น แล้วนำมาพอกตัวแล้วล้างออก ทำเป็นประจำเพียงเท่านี้ผิวพรรณก็จะสดใสเปล่งปลั่ง
- ช่วยลดความมันบนใบหน้า นำดินสอพองมาผสมกับน้ำผึ้งและมะนาว นำมาพอกหน้าแล้วล้างออกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นประจำ เพียงเท่านี้ความมันบนใบหน้าที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
4.ป้องกันแสงUVได้ดี ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ การนำดินสอพองมาประแก้มกันในช่วงสงกรานต์นอกจากยังช่วยบรรเทาความร้อนแล้ว ยังสามารถป้องกันแสงUVได้ดีไม่แพ้กันค่ะ
ประโยชน์ ของ ดินสอพองสมุนไพรแร่ธาตุธรรมชาติในด้านอื่นๆ
- ดินสอพองมีฤทธิ์เย็น สามารถใช้ลดความร้อนในร่างกาย ลดอาการอักเสบ รักษาผดผื่นคันตามร่างกายได้ดี
- ดินสอพองใช้สำหรับงานไม้ ใช้ดินสอพองนำมาอุดรูไม้ ให้ไม้เรียบเนียนเพื่อความสวยงามในการทาสี
- บรรเทาอาการฟกซ้ำ นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวทาตรงบริเวณรอยซ้ำทุกวัน เพียงเท่านี้รอยซ้ำก็จะจางลง จนหายไปเป็นปกติ
- ปรับความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำได้ ดินสอพองสามารถช่วยปรับความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำตามสถานที่ ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตร หรือบ่อบำบัดน้ำเสีย
สมุนไพร แร่ธาตุดินสอพอง มีประโยชน์ในด้านต่างๆมากมาย ซึ่งเห็นได้ชัดในเรื่องการบำรุงดูแลในเรื่องความสวยความงามของสาวๆ ดินสอพองในปัจจุบันหากไม่ถึงเทศกาลสงกรานต์ก็จะไม่ค่อยมีคนพูดถึง เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้วสาวๆทั้งหลายคงต้องนำมาเป็นตัวเลือกในการดูแลตัวเองบ้างแล้วนะคะ ซึ่งปัจจุบันดินสอพองก็มีขายตามร้านค้าทั่วไปหาซื้อได้ง่าย ราคาก็ไม่แพงด้วย แน่นอนว่าดินสอพองสามารถนำไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆได้โดยหาข้อมูลได้จากที่นี่ atherbth.com
ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,150.00 | 28,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,823.00 | 27,636.68 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,640.70 | 24,873.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,458.40 | 22,109.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 820.00 | 12,431.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 638.00 | 9,672.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,889.00 | 28,637.24 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/11/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.05 | 21.05 | 21.45 | 21.05 | 21.05 | 21.05 | 21.05 | 21.05 | 21.05 | 21.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 20.78 | 20.78 | 21.18 | 20.78 | 20.78 | 20.78 | 20.78 | 20.78 | 20.78 | 20.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.54 | 19.54 | 19.94 | 19.54 | 19.54 | – | 19.54 | 19.54 | 19.54 | 19.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.54 | 17.54 | – | – | – | – | – | – | – | 17.54 |
เบนซิน 95 | 28.46 | – | – | – | 28.91 | – | 28.96 | 28.46 | – | 28.46 |
ดีเซล B7 | 21.59 | 21.59 | 21.99 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 | 21.59 |
ดีเซล | 18.59 | 18.59 | 18.99 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 | 18.59 |
ดีเซล B20 | 18.34 | 18.34 | 18.74 | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 | 18.34 | – | 18.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.04 | 26.06 | 28.44 | 27.44 | – | – | – | – | – | 26.04 |
แก๊ส NGV | 13.83 | 13.83 | – | – | – | – | – | – | – | 13.83 |