จาก โกลเด้นแลนด์ สู่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ส่องกลยุทธ์สำคัญ ในการก้าวสู่ Top 3 อสังหาฯ ไทย
การผนึก 3 กลุ่มธุรกิจครอบคลุมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม เข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ภายใต้กลยุทธ์เด็ด One Platform ที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจศักยภาพสูงของกลุ่มด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Synergy) เพื่อสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” หรือ FPT ด้วยเป้าหมายสำคัญ กับการขึ้นแท่นบริษัทชั้นนำระดับ Top 3 ในทุกกลุ่มธุรกิจ ภายในปี 2566 นั้น เริ่มเห็นภาพเดินเครื่องแรงขึ้น เมื่อ 1 ในกลุ่มธุรกิจหลักอย่าง “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ซึ่งเดิมที คือ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GOLD” หรือ “Goldenland” นับเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดแนวราบ โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงรวมทั้งสิ้น 60 โครงการ ครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่ 2 ล้านบาท จนถึง 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ ภายใต้แบรนด์ ‘โกลเด้น’ ‘แกรนด์ดิโอ’ และ ‘เดอะ แกรนด์’ ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยโครงการทาวน์โฮม นีโอโอม บ้านเดี่ยว เน้นชูเอกลักษณ์ที่แตกต่าง มีจุดเด่นด้านทำเล พื้นที่ส่วนกลาง แบบบ้านสวยงามทันสมัย พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างเฉพาะตัว สินค้านวัตกรรมที่โดดเด่น อาทิ ทาวน์โฮม พร้อมห้องพระและพื้นที่ครัวเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างปรากฏการณ์ด้านการขาย จากภาพข่าวที่มีลูกค้าจำนวนมากต่อแถวเข้าคิวซื้อบ้านยาวเหยียดในทุกโครงการ นับตั้งแต่ช่วงปี 2558 เป็นต้นมา
ไม่นับรวมการเข้าไปเทคโอเวอร์ต่อในกิจการ กรุงเทพบ้านและที่ดิน หรือ เคแลนด์ ปรับโฉมโครงการคฤหาสน์หรู แบรนด์ “เดอะ แกรนด์” ในหลายทำเล ทำให้บริษัทมีโปรดักส์ที่หลากหลาย ครอบคลุมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และ ทาวน์โฮม ทั้งนี้ ยังนับเป็นผู้บุกเบิกตลาดบ้านแฝดให้แก่วงการอสังหาฯไทย ภายใต้ชื่อโครงการ “นีโอโฮม” ปัจจุบันมีโปรดักส์แบรนด์หลัก อาทิ โกลเด้นทาวน์, โกลเด้น วิลเลจ, โกลเด้น ซิตี้, แกรนดิโอ้ และ เดอะ แกรนด์ ซึ่งนับเป็นกลุ่มธุรกิจที่ปัจจุบัน มีมูลค่าสินทรัพย์รวมมากกว่า 70,000 ล้านบาท ขณะยอดรับรู้รายได้ 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม – กันยายน) รวมอยู่ที่ 10,894 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขไม่น้อย สำหรับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในสถานการณ์ โควิด-19 เช่นนี้ ส่วนยอดรับรู้รายได้ในปี 2563 ถูกวางเป้าหมายไว้ที่ 15,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2563) บริษัทได้เปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,050 ล้านบาท โดยทุกโครงการได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า
ล่าสุด เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) นับเป็นบริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรายแรกๆ ซึ่งประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงปี 2564 ด้วยการเตรียมบุกตลาดแนวราบแบบเต็มสูบ เพื่อรอรับโอกาสจากเทรนด์ความต้องการด้านพื้นที่ใหม่ๆ ของตลาด ซึ่งคาดว่ายังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
โดยหัวเรือใหญ่ นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) ระบุแผนธุรกิจในปี 2564 ว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้จากทาวน์โฮม 42%, นีโอ โฮม บ้านแฝด 23%, บ้านเดี่ยว 21% และโครงการต่างจังหวัด 14%
ทั้งนี้ ได้วางแผนจัดซื้อที่ดินประมาณ 20 แปลง งบประมาณ 10,720 ล้านบาท สำหรับแผนเปิดโครงการใหม่ 24 โครงการ มูลค่า 29,800 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 9,700 ล้านบาท โครงการนีโอ โฮม บ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 3 โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท
พันธกิจสำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม
1. ก้าวขึ้นเป็น Top 3 ในตลาดอสังหาฯไทย ในด้านรายได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2566
กลยุทธ์ : ขยายนีโอโฮม (บ้านแฝด) และโครงการต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น พร้อมมุ่งเน้นโปรดักส์เซกเม้นท์ที่สูงขึ้น เพื่อแก้ปัญหาลูกค้าถูกปฎิเสธสินเชื่อ (รีเจ็กต์) ในตลาดทาวน์โฮม รวมถึงพัฒนาออกแบบโปรดักส์ใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทุกระดับความต้องการของลูกค้า
2. สานต่อความนิยมผ่านการเป็นทางเลือกอันดับที่ 1 ในใจลูกค้า สำหรับคนที่มองหาทาวน์โฮม ทําเลในเมือง
กลยุทธ์ : ขยายไปในทำเลใหม่ เติมโครงการในทําเลเดิม เน้นทําเลที่ดีกว่าคู่แข่งทั้งตลาด และรักษาคุณภาพการก่อสร้าง ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังคงเน้นด้านฟังก์ชั่นเด่น ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป
3. เป็นอันดับที่ 1 ในการทำบ้านแฝด (นีโอ โฮม) ผ่านการขยายสัดส่วนยอดขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้มากขึ้น
กลยุทธ์ : เน้นทำเลใกล้เมือง ฟังก์ชั่นระดับบ้านเดี่ยว และราคาไม่แพง เจาะกลุ่มราคา 5 ล้านบาท
4. ขยายตลาดต่างจังหวัด ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดต่างจังหวัดด้านยอดขายสูงสุด
กลยุทธ์ : เน้นทําเลที่ดีกว่าคู่แข่งทั้งเซ็กเม้นต์ ตั้งอยู่ในเมือง ใกล้ศูนย์ราชการ ห้าง ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล และช้อปปิ้งมอลล์ ขณะกลุ่มบ้านเดี่ยว จะเน้นคุณภาพโครงการ ฟังก์ชั่น และความหรูหรา ระดับราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ เตรียมเจาะจังหวัด ขอนแก่น ระยอง และ ภูเก็ต เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายแสนผิน กล่าวว่า ปี 2564 นั้น ยังคงมีปัจจัยลบและสถานการณ์ท้าทายตลาดที่อยู่อาศัยไทยอยู่มาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและกับดักเรื่องหนี้ครัวเรือนสูงของผู้บริโภค ในแง่ของการแข่งขันของผู้ประกอบการนั้น เปรียบเป็นปีที่พิสูจน์ความเป็นมากกว่ามืออาชีพ ผ่านความละเอียด แม่นยำ และความรอบคอบในแนวคิดการพัฒนาโครงการ รวมถึงเครื่องมือในการขาย หรือช่องทางทางการตลาดอีกด้วย
“เวทีการแข่งขันในช่วงปีหน้า เป็นเวทีสำหรับรายใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งอาจไม่ได้อาศัยแค่ความเป็นมืออาชีพเท่านั้น เพราะปัจจัยท้าทายมีมากกว่าเก่า สภาวะแบบนี้ มองผู้พัฒนาฯ ต้องมีความรอบคอบและแม่นยำในการพัฒนาโปรดักส์ แบบเจาะลึกและละเอียดมาก โดยจะต้องปรับตัวและตอบรับให้ทันกับทุกสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเน้นในเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ ราคา ฟังก์ชั่น และรูปแบบบ้านที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการแข่งขัน “ นายแสนผิน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่าง ศึกษาความเป็นไปได้ของโปรดักส์ใหม่ เช่น ซิตี้โฮม (City Home) ซึ่งจะเป็นโปรดักส์ที่เน้นทำเลในเมือง เน้นการเข้าถึงสะดวก ให้เป็นอีกทางเลือกของ Condo Penthouse หรือ Luxury Condo รวมถึงการมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการ Condo ร่วมด้วยในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า โดยจะเน้นเจาะกลุ่มคนทํางานในเมือง (Real Demand) บนทําเลที่ไม่สามารถทําทาวน์โฮมได้ โดยมีฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์สวยงาม ในราคาคุ้มค่า เป็นแนวคิดสำคัญเช่นกัน หลังจากรัฐบาลเตรียมเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาซื้อ-ลงทุนในอสังหาฯมากขึ้น ผ่านวิธีการให้วีซ่า (หนังสือเดินทาง) นานขึ้น ซึ่งที่ดินที่เหมาะสมกับโปรดักส์ ซิตี้โฮม ประเมินเบื้องต้นว่า ต้องมีขนาด และราคาที่เหมาะสม ราว 20 ไร่ต่อแปลง เช่น ในทำเล วิภาวดี, พระราม 9 และสาธุประดิษฐ์ เป็นต้น ส่วน Condo โลว์ไรส์ จะวางราคาขาย ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งสอดคล้องกับภาวะกลุ่มลูกค้า คนทำงาน คนโสด เพิ่งเริ่มต้นทำงาน รายได้ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน โดยเชื่อว่าตลาดคอนโดฯ ยังมีโอกาส และมีอัตราการเติบโตขึ้นลงตามวัฎจักร ตั้งเป้าเป็นพอร์ตเสริมสัดส่วนประมาณ 20% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
“อสังหาฯ ถ้าจะยั่งยืน คือ สัดส่วนแนวราบต้อง 80% ส่วนการเตรียมเพิ่มพอร์ตโปรดักส์คอนโดฯเข้ามาในระยะยาว คือการสร้างสมดุลทางรายได้ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์สำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเน้นความหลากหลายของธุรกิจ สร้างเกราะกำบังในยามวิกฤติ และเกื้อหนุนประโยชน์ต่อกันได้ ” นายแสนผิน กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ บริษัท ยังวางแผนพัฒนาโปรแกรมและแอปพลิเคชันต่างๆ กว่า 30 แอพ สำหรับพนักงานให้ครอบคลุมในทุกเรื่องทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดิน การบริหารงานก่อสร้าง การขายและการตลาด สินเชื่อ และการดูแลลูกค้าหลังโอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งความรวดเร็ว แม่นยำและทันสมัย นอกจากนี้ ยังได้เริ่มจัดทำโปรแกรม Home+ (โฮมพลัส) เพื่อลูกค้า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม และบุคคลทั่วไป เป็นแอปพลิเคชันสำหรับดูแลลูกค้าตั้งแต่ ก่อนซื้อ ส่งมอบ หลังเข้าอยู่ พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์สุดพิเศษต่างๆ อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
2564 ปีโหด พิสูจน์มากกว่า ‘มืออาชีพ’
ผ่ามุมคิด-ผลกระทบจากวิกฤติโควิดยังคงลากยาว เศรษฐกิจฟื้นตัวแต่ยังไม่ดีนัก ถูกมองจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง โดยเฉพาะรูปแบบการแข่งขันในตลาดแนวราบที่สมบูรณ์แบบ เข้มข้นขึ้น
หากปี 2563 เปรียบเป็นสถานการณ์ท้าทายสูงสุดสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเต็มไปด้วยปัจจัยลบรุมเร้า โดยตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ทุกบริษัทพยายามปรับตัว เพื่อเข็นกำลังซื้อผู้บริโภค และผลักดันให้แผนงานเป็นไปตามเป้าหมาย สร้างการเติบโตให้ได้มากที่สุด ภายใต้เงื่อนไขจำกัดนั้น ปี 2564 ซึ่งต่างคาดกันว่า ผลกระทบจากวิกฤติโควิดยังคงลากยาว เศรษฐกิจฟื้นตัวแต่ยังไม่ดีนัก ถูกมองจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง โดยเฉพาะรูปแบบการแข่งขันในตลาดแนวราบที่สมบูรณ์แบบ เข้มข้นขึ้น ทั้งนี้ เจ้าตลาดโปรดักส์ทาวน์โฮมอย่าง “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” (เดิม : บมจ.แผ่นดินทอง ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ โกลเด้นแลนด์) ซึ่งท้าทายด้วยเป้าหมายใหม่ Top 3 อสังหาฯไทย ยังคงประกาศเดินหน้าบุกทุกเซ็กเมนต์ 24 โครงการ มองโอกาสด้วยกลยุทธ์เหนือชั้น โดยผู้บริหาร นายแสนผิน สุขี ระบุ ปีหน้าแข่งโหด พิสูจน์ความละเอียด แม่นยำ และความรอบคอบของมืออาชีพอย่างแท้จริง ท่ามกลางกับดักเรื่องหนี้ครัวเรือนของผู้บริโภคที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
ตลาดแข่งโหด
ประเมินว่าในปี 2564 นั้น แนวโน้มจีดีพีคงเติบโตขึ้น ตามคาดประมาณ 5% แต่เป็นการโตจากฐานที่ต่ำติดลบ 6-7% ในปีนี้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการทำธุรกิจอสังหาฯอยู่ไม่นาน เพราะ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่มีทิศทางสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ยังมีโอกาสระบาดซ้ำ ย่อมทําให้กำลังซื้อหดตัว และบางส่วนชะลอการตัดสินใจ ส่วนในภาคสินเชื่อนั้น พบอัตราการกู้ไม่ผ่าน (รีเจ็กต์) พุ่งสูงขึ้น แม้มีโอกาสจากดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม ไม่นับรวมปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง หลังเกิดการชุมนุมยืดเยื้อรายวัน มีเพียงปัจจัยบวก จากการที่รัฐบาลเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง และรอลุ้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ แผนฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับมา ฉะนั้น ภาพการแข่งขันในธุรกิจอสังหาฯ คงดุเดือด โดยเฉพาะในตลาดแนวราบ หลังจากผู้ประกอบการรายใหญ่คอนโดฯ เคลียร์สต็อกเริ่มหมด และจะหันมาบุกแนวราบกันอย่างเต็มที่ ยิ่งส่งผลให้ราคาที่ดินซึ่งเป็นข้อจำกัดเดิมปรับตัวสูงขึ้น จากดีมานด์คับคั่ง
“รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ถอยไม่ได้ เพราะบีบให้ต้องพยายามเติบโต ปีนี้จึงเร่งขายคอนโดฯ หวังเอากระแสเงินสด มาทำแนวราบปีหน้า ขณะนี้ทุกรายกำลังมองหาซื้อที่ดิน เราไม่เคยเห็นภาพ 1 ทำเล เกิดการแข่งขันนับ 10 แบรนด์ 10 โครงการแบบนี้มาก่อน และปีหน้าคงเข้มข้นขึ้นอีก”
ส่ง 24 โครงการนำร่อง TOP3
ทั้งนี้ ยอมรับว่า จากแนวโน้มดังกล่าวกระทบกับส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทไม่น้อยแต่ไม่ได้กังวลยังคงวางเป้าหมายใหม่ หลังจากควบรวมอยู่ภายใต้อสังหาริมทรัพย์ใหม่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ในการก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของผู้นำตลาดอสังหาฯด้านรายได้ระดับ 20,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าเนื่องจากเชื่อมั่น แบรนด์โกลเด้นท์ในทุกโปร ดักต์มีจุดแข็งซึ่งหลังจากภาวะหนี้ครัวเรือน ทำให้อัตรารีเจ็กต์ของบริษัทปรับสูงขึ้นอยู่ระดับ32% นั้น บริษัทจึงขยับเซ็กเมนต์ให้สูงขึ้น เช่น ทาวน์โฮมราคามากกว่า 2.5 ล้านบาทเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าจากเดิมจับกลุ่มเอสเอ็มอีพ่อค้า-แม่ค้าสู่กลุ่มลูกค้าทำงานประจำที่มีความมั่นคงทางรายได้เป็นหลักส่วนบ้านแฝด (นีโอโฮม) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดจะเจาะกลุ่มราคา 5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 8 ล้าน บาท ทั้งในทำเลกทม.-ปริมณฑล และการขยายตลาดต่างจังหวัดควบคู่ ผ่านการเปิดโครงการใหม่ในปี 2564 จำนวน 24 โครงการ มูลค่า 29,800 ล้านบาท เป้ารายได้ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% (ปี 2563 : 15,000 ล้านบาท) โดยมีแผนจัดซื้อที่ดินประมาณ 20 แปลง งบประมาณ 10,720 ล้านบาท
เล็งโอกาสตลาดคอนโดฯ
นายแสนผิน ยังระบุว่า ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสในตลาดคอนโดมิเนียม อย่างต่ำ 1-3 โครงการ แต่รูปแบบจะต่างออกไป ภายใต้ชื่อ “ซิตี้โฮม” หรือทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคา 15-40 ล้านบาท ทำเลในเมือง หลังรัฐบาลจ่อเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาซื้อ-ลงทุนในตลาดดังกล่าวมากขึ้น ผ่านวิธีการให้วีซ่า (หนังสือเดินทาง) นานขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดน้อยลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ การได้มาของที่ดิน ซึ่งต้องมีขนาดและราคาที่เหมาะสม ราว 20 ไร่ต่อแปลง เช่น ในทำเล วิภาวดี, พระราม 9 และสาธุประดิษฐ์ เป็นต้น รวมถึงโปรดักต์คอนโดฯ โลว์ไรส์ ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ราคาขาย ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งสอดคล้องกับภาวะกลุ่มลูกค้า คนทำงาน คนโสด เพิ่งเริ่มต้นทำงาน รายได้ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน หลังเชื่อตลาดคอนโดฯยังมีโอกาส หดต่ำ และขึ้นลงตามวัฎจักร ตั้งเป้าเป็นพอร์ตเสริมสัดส่วนประมาณ 20% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
“บริษัทกำลังมองหาที่ดินราคาไม่แพงมากเก็บ หลังจากมอนิเตอร์ตลาด พบช่วงโควิดรายที่ขายได้ดี มักเกิดจากความได้เปรียบในเชิงต้นทุนที่ดินซึ่งต่ำ ทำให้เคาะราคาขายได้ถูก อย่างไรก็ตาม มองตึกสูงยังมีความเสี่ยง รูปแบบโลว์ไรส์ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า อีกทั้งปัจจัยสำคัญของคอนโดฯ ไม่ใช่แบรนด์ แต่คือทำเล โดยราคาไม่เกิน 1 แสนต่อตารางเมตร มีโอกาสไปต่อ”
เวทีพิสูจน์มืออาชีพ
ทั้งนี้ หลังจากปัจจัยกดต่างๆทำให้ตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลงรายเล็กบางส่วนล้มหายตายจาก สะท้อนจากบางส่วนหาทางออก เข้ามาเสนอขายโครงการทั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และขายไม่หมด ให้รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น อีกทั้งธนาคารเข้มงวดในการปล่อยพรีไฟแนนซ์ (สินเชื่อสำหรับผู้พัฒนา) เวทีการแข่งขันในช่วงปีหน้า จึงเป็นเวทีสำหรับรายใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งอาจไม่ได้อาศัยแค่ความเป็นมืออาชีพเท่านั้น เพราะปัจจัยท้าทายมีมากกว่าเก่า สภาวะแบบนี้ มองผู้พัฒนาฯ ต้องมีความรอบคอบและแม่นยำในการพัฒนาโปรดักต์ แบบเจาะลึกและละเอียดมาก ผ่านปรับตัวและตอบรับให้ทันกับทุกสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ขณะบริษัทเอง ยังคงเน้นเรื่องของทำเลที่ตั้ง ราคา ฟังก์ชั่น และรูปแบบบ้านที่แตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการแข่งขัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดบวก/น้ำมันลบ/ทองร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,483.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.81 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,581.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด หรือ +0.39% ส่วนดัชนีแนสแดค ปิดที่ 11,904.71 จุด เพิ่มขึ้น 103.11 จุด หรือ +0.87%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ขานรับรายงานข่าวที่ว่า แกนนำพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้ตกลงที่จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 41.74 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 44.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 12.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,861.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ปะทุเดือด เปิดฉากยูโดชิงแชมป์ประเทศไทย เล็งต่อยอดชิงแชมป์เอเชีย
เปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึก “ยูโดชิงแชมป์ประเทศไทย” ซึ่งจะทำการแข่งขันถึงวันที่ 22 พ.ย. นี้ เล็งต่อยอดชิงแชมป์เอเชีย
วันที่ 19 พ.ย. 63 ที่ศูนย์กีฬาเทศบาลนครปฐม จ.นครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในงานแถลงข่าว และพิธีเปิดการแข่งขันยูโดยุวชน เยาวชน ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 24 ประจำปี 2563 และการแข่งขันยูโดประชาชน ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2563 โดยมี นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, นายวุฒิพร สุวรรณกูล ผู้อำนวยการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.นครปฐม และนายหัสบดินทร์ โรจนชีวะ นายกสมาคมกีฬายูโดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งคณะกรรมการจัดแข่งขัน, นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมด้วยอย่างพร้อมเพรียง
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ กล่าวว่า “จังหวัดนครปฐม ในฐานะเจ้าภาพร่วม รู้สึกยินดี และขอบคุณสมาคมกีฬายูโดฯ ที่เลือกจังหวัดเราเป็นสนามแข่งขันกีฬายูโดรายการใหญ่ระดับประเทศในครั้งนี้ ซึ่งจะจัดการแข่งขันที่ศูนย์กีฬาเทศบาล นครปฐม ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน โดยจังหวัดได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลนครนครปฐม, โรงเรียนเทศบาล 5 วัดพระปฐมเจดีย์ และสำนักงาน กกท. จ.นครปฐม เพื่อให้เกิดเวทีการแข่งขันครั้งนี้ และมีความพร้อมมากที่สุด โดยนอกเหนือจากการพัฒนาด้านกีฬาแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดไปในตัวด้วย”
“สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดการแข่งขันคือ ต้องบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่สมาคมกีฬายูโดฯ ได้วางไว้ คือ 1. การให้ยุวชน และเยาวชน มีประสบการณ์ในการแข่งขัน 2. พัฒนานักกีฬาเพื่อก้าวสู่ระดับทีมชาติ และ 3. เผยแพร่กีฬายูโดไปสู่ภูมิภาค ผมมั่นใจว่า จังหวัดนครปฐมพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพร่วมอย่างเต็มความภาคภูมิ และสร้างความประทับใจให้กับนักกีฬา และเจ้าหน้าที่รวมกว่าพันคน ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จังหวัดนครปฐมจะได้รับเกียรติจากทางสมาคมกีฬายูโดฯ เป็นสนามแข่งขันในโอกาสต่อๆ ไปจากความพร้อมในระดับมาตรฐาน ซึ่งผมอยากให้คิดว่า จังหวัดนครปฐมคือบ้านอีกหลังของสมาคมกีฬายูโดฯ” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมกล่าว
นายกสมาคมกีฬายูโดฯ กล่าวอีกว่า “การแข่งขันครั้งนี้ถือว่ามีจำนวนนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยมากที่สุดนับตั้งแต่ที่สมาคมได้จัดการแข่งขันมา โดยมีจำนวนนักกีฬาจากทั่วประเทศเข้าร่วม 1,080 คน จาก 85 สังกัด 120 ทีม รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ของแต่ละทีมด้วย ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจจากทีมต่างๆ ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัย ขณะเดียวกันสมาคมก็ได้มอบชุดแข่งขันยูโดให้กับทีมต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยพัฒนาส่งเสริมเพิ่มพูนประสิทธิภาพของนักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศต่อไป”
“สมาคมกีฬายูโดฯ ขอบคุณจังหวัดนครปฐมที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการประสานงานระยะเวลากระชั้นชิด จนทำให้เห็นภาพแห่งความสำเร็จครั้งนี้ นอกจากนี้ ผมเองยังได้ส่งข้อมูลการแข่งขันครั้งนี้ไปให้กับประธานสหพันธ์ยูโดแห่งเอเชีย ซึ่งเขารู้สึกประทับใจมากที่สามารถจัดการแข่งขันได้ดีเหมือนกับระดับนานาชาติ ดังนั้น จากความพร้อมครั้งนี้ ทำให้ในอนาคตก็มีแผนที่จะผลักดันให้จังหวัดนครปฐมรับหน้าที่ในการจัดการแข่งขันยูโดชิงแชมป์เอเชียต่อไปด้วย” นายหัสบดินทร์ กล่าว
ด้าน นายวุฒิพร สุวรรณกูล กล่าวว่า “ต้องขอบคุณสมาคมกีฬายูโดฯ ที่เลือกจังหวัดนครปฐมเป็นเวทีในการประลองฝีมือของนักกีฬายูโด ทั้งระดับยุวชน เยาวชน และประชาชนจากทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเฟ้นหานักกีฬาหน้าใหม่ก้าวขึ้นมาสู่ในระดับทีมชาติต่อไปด้วย อีกทั้งยังเป็นการกระจายความนิยมของกีฬายูโดไปสู่ระดับภูมิภาคอีกด้วย นอกจากนี้ ในอนาคตหากสมาคมกีฬายูโดฯ ได้รับเกียรติให้จัดรายการระดับนานาชาติ ทางจังหวัดนครปฐมก็พร้อมที่จะรับหน้าที่จัดการแข่งขัน และมั่นใจว่าจะเตรียมความพร้อมได้เป็นอย่างดี”
สำหรับผลการแข่งขันที่น่าสนใจอยู่ที่ในประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน Nage No Jata รุ่นอายุมากกว่า 18 ปี ทีมชาย ทีมชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น เอ ประกอบด้วย กษมา กันต์พิทยา, วิชยะชนม์ เอกอัคคอิทธิกุล, ขณะที่ทีมรองชนะเลิศ ม.กีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตมหาสารคาม ที่มี ปิตุรงค์ แอเขี่ยม, เกียรติศักดิ์ วรรณตรง ส่วนประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน Ju No Kata รุ่นประชาชนอายุมากกว่า 18 ปี ทีมหญิง ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ม.เชียงใหม่ เอ ประกอบด้วย พชรพร ยาวิชัย, มทินา ปัญญาคำ ขณะที่ทีมรองชนะเลิศ จังหวัดขอนแก่น เอ ที่มี อัมรา อุทัยสาง, นวรัตน์ พิชาแดง
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
รู้จัก ‘เซโรโทนิน’ สารที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก
เมื่อคืนที่ผ่านมาใครนอนไม่ค่อยหลับ เช้านี้รู้สึกไม่สดชื่นเต็มร้อย คืนนี้หากอยากนอนให้ดีขึ้น ลองมาทำความเข้าใจกับ เซโรโทนิน (Serotonin) สารชีวเคมีชนิดหนึ่งทีร่างกายสร้างขึ้นมีคุณสมบัติเป็นทั้งสารสื่อประสาทและเป็นฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานในหลายๆ ส่วนของร่างกาย ทั้งด้านการควบคุมอารมณ์ การย่อยอาหาร ความรู้สึกอยากหรือเบื่ออาหาร รวมไปถึงกานนอนหลับ และยังมีความเกี่ยวข้องกับโรคทางจิตเวชหลายโรค
หน้าที่ของเซโรโทนินต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย มีดังนี้
- เซโรโทนินในสมองและระบบประสาท มีหน้าที่ควบคุมความรู้สึกเจ็บปวด ความหิว ความอิ่ม ความอยากอาหาร การนอนหลับ อารมณ์ทางเพศ และความรู้สึกสุขสงบ ช่วยระงับความโกรธและความก้าวร้าว
- เซโรโทนินในระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้เกิดความอยากอาหาร หรือบางครั้งก็ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้เช่นกัน
- เซโรโทนินในระบบไหลเวียนเลือด ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว หลอดเลือดหดตัว ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
นอกจากนี้ เซโรโทนินจะกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตผ่านการรับรู้ปริมาณสารอาหาร เมื่อร่างกายหลั่งเซโรโทนินออกมา เราจะรู้สึกอยากอาหาร หลังจากรับประทานอาหารเข้าไปอย่างเพียงพอ สารชนิดนี้ก็จะส่งสัญญาณแสดงความอิ่ม ทำให้กระเพาะและลำไส้บีบตัวเพื่อย่อยอาหาร เกิดการดูดซึมและเผาผลาญสารอาหารอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อตับและเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างหรือสลายมวลกระดูกด้วย หากร่างกายมีปริมาณเซโรโทนินไม่เพียงพอ ระบบการทำงานเหล่านี้ก็จะได้รับผลกระทบและแปรปรวนไป
จะเกิดอะไรขึ้น หากร่างกายขาดเซโรโทนิน?
หากร่างกายหลั่งเซโรโทนินออกมาน้อยลง ทำให้มีระดับเซโรโทนินลดต่ำ หรือมีความผิดปกติที่ตัวรับเซโรโทนิน จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่างๆ ดังต่อไปนี้
- มีความผิดปกติด้านอารมณ์และพฤติกรรม มีอาการซึมเศร้า การขาดเซโรโทนินมักทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล อยู่ไม่สุข โกรธง่าย หงุดหงิด และบางครั้งก็แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงได้ นอกจากนี้ ความบกพร่องในการรับเซโรโทนินยังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตอื่นๆ โดยมีสภาวะแวดล้อมและสิ่งกระตุ้นภายนอกเป็นปัจจัยร่วม การให้เซโรโทนินจึงเป็นวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า
- กระตุ้นอาการก่อนมีประจำเดือน กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน เช่น รู้สึกซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล อยากอาหารมากกว่าปกติ ไปจนถึงคลื่นไส้อาเจียน เป็นผลมาจากระดับเซโรโทนินในร่างกายที่ลดต่ำลงนั่นเอง
- ขาดสมาธิ เซโรโทนินเป็นสารที่ช่วยทำให้จิตใจสงบ เกิดสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ หากร่างกายขาดเซโรโทนิน คุณจะรู้สึกกระวนกระวายจนไม่สามารถตั้งสมาธิจดจ่อกับอะไรได้ มักส่งผลต่อการเรียนและการทำงานด้วย
- นอนไม่หลับ หน้าที่อีกอย่างของเซโรโทนินคือควบคุมการนอนหลับ เมื่อร่างกายมีระดับเซโรโทนินลดลงจึงส่งผลให้คุณรู้สึกกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ มีอาการอ่อนเพลีย และรู้สึกไม่สดชื่น
- รู้สึกเจ็บปวด เซโรโทนินมีส่วนช่วยบรรเทาความเจ็บปวดต่างๆ ที่เกิดขึ้น และกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัวเพื่อให้เลือดหยุดไหลเมื่อเกิดแผล ดังนั้น หากร่างกายได้รับความเจ็บปวด เช่น ถูกมีดบาด หรือบาดเจ็บ การขาดเซโรโทนินก็จะทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงขึ้น และทำให้เลือดหยุดไหลช้าลงด้วย
- พฤติกรรมการรับประทานอาหารผิดปกติ เซโรโทนินเป็นสารที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม การขาดสารนี้จึงอาจทำให้รู้สึกหิวตลอดเวลาและกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง หรืออาจรู้สึกเบื่ออาหารก็ได้ และมักทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ คุณจึงมีอาการปวดท้อง จุกเสียด หรือแน่นท้องได้
- เกิดโรคลำไส้แปรปรวน เซโรโทนินเกือบ 95% ถูกผลิตและเก็บไว้ที่ลำไส้เล็ก หากขาดสารสื่อประสาทชนิดนี้ การทำงานของลำไส้เล็กก็จะเปลี่ยนไป โดยสามารถทำให้เกิดปัญหาท้องผูก ท้องเสีย หรือทำให้เกิดอาการท้องผูกท้องเสียสลับกัน ที่เรียกว่าโรคลำไส้แปรปรวน หากคุณสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับระดับเซโรโทนินที่ลดต่ำลง คุณควรไปพบแพทย์
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หากคุณสังเกตว่าตัวเองมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง รู้สึกเหนื่อยมาก อารมณ์ไม่ดี เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อหรือเป็นหวัดบ่อยกว่าปกติ อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ เพราะการมีระดับเซโรโทนินต่ำสามารถส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าที่เคย
- นาฬิกาชีวิตเปลี่ยนไป การมีระดับเซโรโทนินต่ำสามารถทำให้เกิดความแปรปรวนของนาฬิกาชีวิตของร่างกาย (Circadian rhythm)ซึ่งอาการทั่วไปที่พบได้คือ รู้สึกง่วงนอนในระหว่างวันมากกว่าตอนกลางคืน อาการดังกล่าวยังเป็นอาการพื้นฐานของโรคซึมเศร้าอีกด้วย เพราะผู้ป่วยโรคนี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับการนอน ได้แก่ นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้ามาไม่สดชื่น เป็นต้น
- วิตกกังวลมากขึ้น ร่างกายของคนเรามีตัวรับเซโรโทนินที่แตกต่างกันอย่างน้อย 14 ชนิด และ 5-HT1A คือตัวที่สำคัญที่สุดในทั้งหมด ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต หากตัวรับชนิดนี้บกพร่อง คุณก็จะกลายเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย ประหม่า และขี้กังวลมากขึ้น
- มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ การขาดความสนใจต่อสิ่งต่างๆ อ่อนเพลีย และไม่สามารถจดจ่อต่อบางสิ่งบางอย่าง ล้วนแต่มีความสัมพันธ์กับการขาดเซโรโทนินได้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าอาการเหล่านี้พบได้ทั่วไปในคนที่เป็นโรคซึมเศร้าด้วย
วิธีเพิ่มระดับเซโรโทนินในร่างกาย
นอกจากการใช้ยา คุณสามารถใช้วิธีทางธรรมชาติในการช่วยเพิ่มระดับสาร Serotonin ในร่างกาย ดังนี้
- กินของมีประโยชน์ ได้แก่ อาหารที่มีทริปโตเฟนสูง เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเหลือง อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งกระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาท เช่น ปลาแซลมอนและปลาทูน่า อาหารที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน เช่น ดาร์กช็อกโกแลต และควรหันมารับประทานทานแป้งไม่ขัดสีอย่างข้าวกล้องและขนมปังโฮลวีทแทนแป้งขัดสี นอกจากนี้ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบเป็น 5-Hydroxytryptophan ก็ช่วยเพิ่มเซโรโทนินได้เช่นกัน แต่เพื่อความปลอดภัย ก่อนเลือกรับประทานอาหารเสริมใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เสมอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายในระดับคงที่เป็นประจำ วันละ 30-40 นาที จะช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินและทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเซโรโทนินได้ ทั้งยังช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ
- ออกไปรับแสงแดดเป็นประจำ มีงานวิจัยที่เผยว่าแสงแดดช่วยในการสังเคราะห์เซโรโทนิน และยังช่วยให้มีอารมณ์สดใสเบิกบานยิ่งขึ้น การเปิดบ้านรับแสงธรรมชาติ หรือออกไปเผชิญแสงแดดอ่อนๆ บ้าง จึงเป็นการช่วยบำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน
- หมั่นบำบัดความเครียด ความเครียดเป็นตัวขัดขวางการหลั่งเซโรโทนิน การทำกิจกรรรมเพื่อผ่อนคลายจากความเครียด เช่น การฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินได้
- เติมวิตามินซี บี มีงานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่า วิตามินซีเป็นยากล่อมประสาทตามธรรมชาติ ที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ ส่วนวิตามินบี ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินบี 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ควบคู่กันไปด้วย เพื่อความปลอดภัย
- ลดปริมาณน้ำตาล การทานน้ำตาลมากเกินไป อาจส่งผลต่ออารมณ์ของเราจนขาดความสมดุล และอาจแสดงออกทางอารมณ์ที่ผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เข้าใจไหม นึกออกไหม ภาษาอังกฤษ พูดว่าอะไร พร้อมคำอ่าน คำแปล
เมื่อต้องการถามว่า เข้าใจไหม นึกออกไหม ภาษาอังกฤษ พูดว่าอย่างไร ฝึกพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน จากคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย พร้อมคำอ่าน คำแปล สารบัญ […]
เมื่อต้องการถามว่า เข้าใจไหม นึกออกไหม ภาษาอังกฤษ พูดว่าอย่างไร ฝึกพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน จากคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย พร้อมคำอ่าน คำแปล
เข้าใจไหม ภาษาอังกฤษ ถามว่า
Get it? (เกท อิ้ท) เข้าใจมั้ย, เข้าใจรึเปล่า
Do you know what this means? (ดู ยู โน วอท ดิส มีนสฺ) คุณรู้ไหมว่านี่หมายความว่าอย่างไร
ฟังอยู่รึเปล่า ภาษาอังกฤษ ถามว่า
Are you with me? (อา ยู วิธ มี)
คุณหมายความว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ ถามว่า
What do you mean? (วอท ดู ยู มีน)
ฉันเข้าใจ ภาษาอังกฤษ พูดว่า
I get it. (ไอ เก็ท อิท)
I understand. (ไอ อันเดอสแตนดฺ)
ฉันไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ พูดว่า
I don’t get it. (ไอ โดนทฺ เกท อิท)
I don’t understand. (ไอ โดนทฺ อันเดอสแตนดฺ)
นึกออกมั้ย จำได้มั้ย ภาษาอังกฤษ ถามว่า
Does it ring a bell? (ดาส อิท ริง อะ เบล)
การตอบเป็นภาษาอังกฤษ
I remember. (ไอ รีเมมเบอ) ฉันจำได้
I know. (ไอ โน) ฉันรู้
It doesn’t ring a bell. (อิท ดัซเซินทฺ ริง อะ เบล) นึกไม่ออกเลย
Your guess is as good as mine. (ยัว เกส อีส แอส กูด แอส ไมนฺ) ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน [คุณกับฉันก็รู้พอๆ กันนั่นแหละ]
ประโยคตัวอย่าง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในชีวิตประจำวัน
What’s he doing?
อ่านว่า วอทซฺ ฮี ดูอิง
แปลว่า เขาทำอะไรอยู่น่ะ
Your guess is as good as mine.
อ่านว่า ยัว เกส อีส แอส กูด แอส ไมนฺ
แปลว่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
ลาซาด้าโชว์โลจิสติกส์รับออเดอร์พุ่ง35%เทศกาล11.11
ลาซาด้า ประเทศไทยแสดงศักยภาพด้านโลจิสติกส์ในมหกรรมช้อปปิ้งแห่งปี 11.11 Biggest One-Day Sale สามารถจัดการออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 35% ส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึงคลังสินค้าในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คลังสินค้าเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบกึ่งอัตโนมัติ
นายแจ็ค จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เมื่ออีคอมเมิร์ซกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและเป็นความคุ้นเคยในการจับจ่ายของผู้บริโภค เหล่านักช้อปจึงคาดหวังว่าจะได้พบกับบริการและประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีมากยิ่งขึ้น การจัดการด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการชนะใจผู้บริโภค โดยศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าของเราเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร สร้างขึ้นจากความตั้งใจในการให้บริการและเสริมศักยภาพให้กับคู่ค้าที่เป็นแบรนด์ต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในประเทศ เพื่อให้พวกเขามีความสามารถในการแข่งขันและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
ศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์โลจิสติกส์ TPARK บางพลี 3 ในจังหวัดสมุทรปราการ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 24,000 ตารางเมตร และเป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ ถึง 700 แบรนด์ที่มีจำหน่ายบน LazMall รวมถึงสินค้าอีก 50,000 รายการสินค้าจากหลากหลายหมวดหมู่ ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ถ่ายภาพ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงโทรศัพท์สมาร์ตโฟน และเครื่องประดับ โดยนำเอาเทคโนโลยีจากอาลีบาบามาประยุกต์ใช้ เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้า Dabao (Dabao Warehouse Management System) สำหรับควบคุมสินค้าคงคลัง ระบุตำแหน่งสินค้าเมื่อได้รับคำสั่งซื้อ ช่วยเสริมศักยภาพการจัดการคลังสินค้า โดยผสมผสานเข้ากับระบบการจัดการแรงงาน (Workforce Management System) ซึ่งประกอบด้วยพนักงานที่มีความสามารถและผ่านการอบรมทักษะมาแล้ว โดยพนักงานเหล่านี้สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาและยกระดับบริการการจัดการพัสดุของลาซาด้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ศูนย์บริการจัดการคลังสินค้ายังมีบริการเสริมอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขายแต่ละราย เช่น การให้บริการเช่าพื้นที่เก็บสินค้า บริการบรรจุสินค้า บริการรับและบรรจุสินค้า การคืนสินค้า การร้องเรียนสำหรับสินค้าที่เสียหายหรือสูญหาย และบริการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าให้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่มีบริการในส่วนนี้ ซึ่งบริการเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถจัดการกับสินค้าในคลังและการจัดส่งจากร้านค้าไปยังลูกค้าที่อยู่ปลายทางได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถทุ่มเทให้กับการยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งให้กับผู้ซื้อและเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มที่
“โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในแผนระยะยาวสำหรับการสร้างความสำเร็จในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา” นายแจ็คกล่าว “ด้วยการลงทุนและสร้างระบบที่ครบวงจรของเราเอง รวมถึงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้เราสามารถดำเนินงานสอดคล้องกับความตั้งใจของประเทศไทยในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และช่วยบ่มเพาะผู้ประกอบการไทยให้ประสบความสำเร็จในอีคอมเมิร์ซอีโคซิสเต็มอีกด้วย”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
15 อาหารว่างลดน้ำหนัก…กินจุบจิบได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน
“รู้สึกหิวในระหว่างมื้ออาหาร” เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ไม่ว่าจะในคนปกติหรือผู้ที่ลดน้ำหนักก็ตาม บางครั้งก็อยากจะหยิบอะไรเข้าปากเคี้ยวเพลินๆ ในช่วงบ่ายๆ แต่ด้วยความที่กำลังควบคุมน้ำหนักอ หากจะหยิบชาไข่มุกหรือโดนัทมากินมันก็ไม่ได้ใช่ไหมละคะ แหมจะลดความอ้วนทั้งทีก็ต้องหาอาหารว่างที่มีประโยชน์และไม่ทำให้อ้วนมากินกันสักหน่อย ว่าแต่มีอะไรที่พอจะกินได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแคลอรี่จะเกินกันบ้างน้า
อาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อควบคุมน้ำหนัก กินได้ไม่มีอ้วน
1. แอปเปิ้ลเขียว แอปเปิ้ลเขียวนับเป็นราชาผลไม้แห่งการลดน้ำหนัก เพราะให้พลังงานต่ำ และมีน้ำตาลน้อย ซึ่งน้ำตาลในแอปเปิ้ลยังเป็นน้ำตาลที่ให้ประโยชน์มากกว่า เพราะจะสลายไปเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ไม่รู้สึกโหยหาขนมหวาน นอกจากน้ำตาลแล้วเนื้อและเปลือกของแอปเปิ้ลยังมีเส้นใยที่ชื่อ “เพคติน” อยู่สูง เป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำและพองตัวได้ดีมาก จึงทำให้ทานแล้วรู้สึกอิ่มนาน อีกทั้งยังเพิ่มกากใยในทางเดินอาหาร กระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเหมาะเป็นอาหารว่างสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักแล้วยังเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย
2. ฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานน้อย โดยเฉลี่ยแล้วฝรั่ง 1 ผลให้พลังงานแค่ 45 กิโลแคลอรี่เท่านั้น อีกทั้งยังมีใยอาหารสูง โดยมีมากกว่าส้มถึง 70 เท่า ดังนั้นการกินฝรั่งในปริมาณที่พอเหมาะจึงทำให้รู้สึกอิ่มสบายท้อง ไม่อยากกินอะไรจุบจิบอีก การกินฝรั่งให้ได้ประโยชน์สูงสุดต้องกินทั้งเนื้อและเปลือก(ยกเว้นเมล็ด) กินแบบสดโดยไม่ผ่านการแปรรูป และต้องกินแบบไม่จิ้มพวกเครื่องปรุงรสด้วยนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะได้รับน้ำตาลมาก กินแล้วก็ยังอ้วนเหมือนเดิมได้
3. สาหร่ายอบกรอบ เป็นของว่างกรุบกรอบที่ให้พลังงานต่ำ พอให้เคี้ยวได้เพลินๆ จะได้ไม่เผลอไปหยิบของหวานอื่นๆ เข้าปากแทน แต่อย่ากินมากเกินไปเพราะบางยี่ห้อมีโซเดียมค่อนข้างสูง
4. ถั่วแระญี่ปุ่น ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นอาหารว่างที่เริ่มเข้ามาแพร่หลายในไทยแล้ว ด้วยความที่ฝักใหญ่ เมล็ดอ่อนนุ่ม รสชาติหวานมัน จึงทำให้หลายคนนิยมทานกัน ส่วนประโยชน์ในด้านการลดน้ำหนักของถั่วแระคือมีสารอาหารที่หลากหลาย ทั้งวิตามิน เกลือแร่ ไขมันดี คาร์โบไฮเดรตรวมไปถึงใยอาหารที่ช่วยให้ทานแล้วรู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ลดความอยากอาหารได้ แต่เวลากินต้องตั้งสติกันนิดหน่อย เนื่องจากถั่วแระมีคาร์โบไฮเดรตมากถึง 13 กรัมต่อปริมาณสักครึ่งถ้วย ด้วยรสชาติที่อร่อยหวานมัน อาจจะทำให้เคี้ยวเพลินจนลืมได้ว่ากำลังลดความอ้วนอยู่
5. คุ้กกี้ธัญพืช เป็นคุ้กกี้ที่มีส่วนผสมจากธัญพืชล้วนๆ ไร้แป้ง อาจจะมีการปรุงรสเล็กน้อยจากน้ำตาลและเกลือ แต่โดยรวมแล้วให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า เพราะมักมีส่วนประกอบเป็นธัญพืชหลากหลายชนิด ทานเป็นของว่างระหว่างวันได้โดยไม่ต้องกลัวรู้สึกผิดแน่นอนค่ะ
6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติผสมผลไม้สด เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแบบไร้น้ำตาล ซึ่งรสชาติจะออกเปรี้ยว ทำให้กินยากเล็กน้อยหากไม่เคยกินมาก่อน ดังนั้นแนะนำให้ผสมผลไม้สดลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้น่ารับประทาน นอกจากจะได้โปรตีนจากโยเกิร์ตแล้วยังได้วิตามินและเกลือแร่เพิ่มจากผลไม้อีกด้วยนะ
7. ดาร์คช็อคโกแลต เป็นช็อคโกแลตที่มีรสขมเพราะมีน้ำตาลผสมอยู่น้อย บางรุ่นแทบไม่มีผสมอยู่เลย ทำให้ได้ช็อคโลแลตที่เข้มข้นมาก ซึ่งรสขมของมันอาจจะช่วยลดอาการอยากอาหารหรือขนมหวานอื่นๆ ได้ อีกทั้งช็อคโลแลตยังมีคาเฟอีนอยู่ปริมาณหนึ่ง คาเฟอีนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้อีก นับว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารว่างที่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก
8. ข้าวโอ๊ต ข้าวโอ๊ตอาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง แต่แคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับต้มทานอุ่นๆ ใส่ผลไม้เพิ่มเข้าไปอีกหน่อย เรียกว่าเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่ได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วนเลยทีเดียว
9. เมล็ดเจีย เมล็ดเจียเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่หน้าตาคล้ายเมล็ดแมงลัก แต่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่ามาก เวลาจะทานก็แค่นำไปแช่น้ำหรือผสมให้สมูทตี้ต่างๆ แล้วดื่มเมื่อรู้สึกหิวนั่นเอง
10. เม็ดแมงลักลดน้ำหนัก ถึงแม้เมล็ดแมงลักจะมีคุณค่าทางสารอาหารไม่สูงมากนัก แต่ด้วยคุณสมบัติที่พองตัวได้ดีมาก จึงเหมาะสำหรับนำมาแช่น้ำแล้วดื่มเพื่อลดอาการอยากกินจุบจิบได้
11. กีวี มีเส้นใยตามธรรมชาติสูงมาก สูงกว่ากล้วยถึง 15 เท่า อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ช่วยลดน้ำหนักที่ไม่ควรมองข้าม
12. แก้วมังกร ที่จริงแล้วแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องช่วยในการขับถ่ายมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ กระตุ้นการทำงานของลำไย ไฟเบอร์จากแก้วมังก็มีส่วนช่วยให้การกำจัดคอลเลสเตอรอลออกจากร่างกายได้ด้วย ถ้ากินในมื้อเย็น รับรองตื่นมาพุงหาย หน้าท้องแบนเรียบแน่นอน เป็นอีกหนึ่งอาหารว่างเพื่อสุขภาพสำหรับคนลดน้ำหนัก
13. อัลมอนด์ อัลมอนด์เป็นธัญพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่ง ถึงแม้ไม่ใช่อาหารพลังงานต่ำแต่ประกอบไปด้วยกรดไขมันดีจำนวนมาก มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเร่งเผาผลาญคอเลสเตอรอล ดังนั้นกินได้ค่ะ แต่กินแค่วันละ 5-10 เม็ดพอ ควรเลือกแบบอบชนิดไม่โรยเกลือ จะได้ไม่ต้องรับโซเดียมเพิ่ม นอกจากช่วยกำจัดไขมันแล้วยังช่วยบำรุงผม ผิวและเล็บให้สวยงามด้วย
14. ขนมปังโฮลวีท ขนมปังโฮลวีทเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ทานแล้วอยู่ท้องอิ่มนาน อีกทั้งยังมีส่วนผสมจากธัญพืช จึงมีใยอาหารอยู่ด้วย ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ ดังนั้นหากใครรู้สึกโหยหาของหวาน ลองมาทานขนมปังโฮลวีทดูสักแผ่น ก็ทดแทนกันได้ค่ะ
15. หมากฝรั่ง ข้อนี้อาจจะไม่นับว่าเป็นของว่างโดยตรง เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นของไม่ทำให้รู้สึกอิ่มเป็นแน่ แต่จากงานวิจัยหลากหลายชิ้นพบว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยลดอาการอยากกินจุบจิบได้ โดยเฉพาะพวกขนมหวานต่างๆ แต่ก็ต้องเลือกฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาลด้วยนะ ไม่อย่างนั้นนอกจากจะได้น้ำตาลเพิ่มโดยไม่จำเป็นแล้ว อาจจะทำให้ฟันผุได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าอาหารว่างสำหรับคนลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนักทั้งหมดที่กล่าวมาจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายสูง แต่บางอย่างก็ให้พลังงานสูงหากกินในปริมาณมากเกินไป ดังนั้นอย่ากินกันจนเพลินนะคะ เพราะก็อาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้เช่นกัน ถ้ารู้สึกหิวมากจริงๆ ในระหว่างมื้ออาหารแนะนำให้ทานผลไม้หวานน้อยจะดีที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,750.00 | 26,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,733.00 | 26,272.28 | 27,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,559.70 | 23,645.05 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,386.40 | 21,017.82 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 780.00 | 11,824.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 607.00 | 9,202.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,796.00 | 27,227.36 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20/11/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 | 21.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 | 21.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.94 | 19.94 | 19.94 | 19.94 | 19.94 | – | 19.94 | 19.94 | 19.94 | 19.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.79 | 17.79 | – | – | – | – | – | – | – | 17.79 |
เบนซิน 95 | 28.86 | – | – | – | 29.31 | – | 29.36 | 28.86 | – | 28.86 |
ดีเซล B7 | 22.89 | 22.89 | 23.19 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 | 22.89 |
ดีเซล | 19.89 | 19.89 | 20.19 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 | 19.89 |
ดีเซล B20 | 19.64 | 19.64 | 19.94 | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 27.34 | 27.36 | 29.64 | 28.74 | – | – | – | – | – | 27.34 |
แก๊ส NGV | 13.10 | 13.10 | – | – | – | – | – | – | – | 13.10 |