สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2563

“เอพี”บุกหนักเจาะดีมานด์ทำเลสุขุมวิท

เอพี  เจ้าของปรากฏการณ์บ้านเดี่ยวสร้างไม่ทันขาย เดินหน้าบุกหนักส่งท้ายปี รุกดีมานด์ครอบครัวเมืองเซ็กเมนต์ไฮเอนด์ เจาะบ้านทำเลสุขุมวิท ส่ง “THE CITY สุขุมวิท-อ่อนนุช” มูลค่ากว่า 1,280 ล้านบาท เพียง 88 ครอบครัว เริ่ม 12 – 20 ล้านบาท 

มีการประเมินว่าภาพรวมตลาดแนวราบโค้งสุดท้ายของปีลูกค้าระดับกลางบนที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ มีดีมานด์และแนวโน้มที่ดี สะท้อนจากสัญญาณลูกค้าเข้าชมโครงการและยอดขายแนวราบในเครือเอพีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทสามารถสร้างยอดขายแนวราบ 11 เดือนได้ถึง 26,390 ล้านบาท ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท โดยเฉพาะการรุกเปิดบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ในทำเลที่ศูนย์กลางหรือเป็นฮับของกรุงเทพ อย่างทำเลสุขุมวิท  

เนื่องจากซัพพลายบ้านเดี่ยวโลเคชั่นในเมืองยังมีไม่มาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ลูกค้าครอบครัวรุ่นใหม่มองหาบ้านเดี่ยวเป็นบ้านหลักแรกเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากเราสามารถเจาะอินไซต์ความต้องการในการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปของลูกค้า เพื่อที่จะส่งมอบบ้านที่เหนือกว่าสินค้าเดิมในตลาด ทั้งมิติการออกแบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย การเพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง การผสานนวัตกรรมบ้านที่เข้าใจการใช้ชีวิตแบบไฮบริด ที่เป็นจุดแข็งของบ้านเดี่ยวเอพี ในแพ็คเกจราคาที่ตรงกับที่ลูกค้าในทำเลนั้นๆ มองหา

“มั่นใจว่าการเปิดพรีเซล THE CITY สุขุมวิท – อ่อนนุช ที่จะเป็นครั้งแรกของการเผยโฉมบ้านซีรีย์ใหม่ไฮไลท์ส่งท้ายของปีนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน”

สำหรับจุดเด่นของโครงการ THE CITY สุขุมวิท – อ่อนนุช เรารุกตลาดบ้านเดี่ยวทำเลสุขุมวิท ผ่านการนำเสนอแบบบ้านซีรีย์ใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘LIVE TO EXPRESS YOUR SUCCESS – บ้านที่สะท้อนทุกเรื่องราวความสำเร็จในชีวิต’ ผลลัพธ์จากการตกผลึกความเข้าใจถึงอินไซต์การใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของสมาชิกในครอบครัวขนาดใหญ่ในทำเลสุขุมวิท สู่การพลิกโฉมสถาปัตยกรรมตัวบ้าน โดดเด่นด้วยลุคที่เรียบหรู พร้อมเอกลักษณ์จากเส้นสายและฟอร์มที่ถูกออกแบบไว้อย่างสมมาตร ในขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ได้นำเสนอในมิติและประสบการณ์ใหม่ (New Journey)

ด้วยความตั้งใจในการดีไซน์พื้นที่เปิดโล่งแบบ Double Volume เชื่อมต่อระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความสง่างามให้กับมุมมอง และช่องแสงภายในตัวบ้านแล้ว ยังเป็นการสร้างความต่อเนื่องเชื่อมโยงพื้นที่ชีวิตและความสัมพันธ์ในการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอีกด้วย” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวเสริมหน้า19 ฉบับ3636

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


‘ฮาบิแทท’ เคาะทางรอด เจาะอสังหาฯเช่าเมืองท่องเที่ยว

คอลัมน์ ผ่ามุมคิด ‘ฮาบิแทท’ เคาะทางรอด สู้ฟัด อสังหาฯ ลงทุนเมืองท่องเที่ยวมาแรง

การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์  ที่คาดว่าคงเกิดขึ้นได้อย่างช้าๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 และจะชัดเจนในปีถัดไป ตามสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจโลก ทำให้ผู้ประกอบการรายหลักในโปรดักต์ต่างๆ อยู่ระหว่างการศึกษากลยุทธ์ และโอกาสทางตลาด เพื่อเข็นธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลาง “ภาวะหน่วง” ของผู้ซื้อ จนกว่าจะพ้นวิกฤติ ไม่ต่างจาก “ฮาบิแทท กรุ๊ป” ผู้เล่นในกลุ่มโครงการอสังหาฯระดับพรีเมี่ยมเพื่อการลงทุน หรือ Lifestyle Investment กำลังผลักดันโปรดักต์ใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างน่าจับตา โดย นายชนินทร์ วานิชวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เผย ว่า หลังจากตัดสินใจขายทิ้งที่ดินใจกลางเมือง หนีตลาดคอนโดมิเนียมแพง พัฒนาขายยาก ขณะเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศมาแรงนั้น  กลยุทธ์การเติบโต จึงจะเจาะไปยังเป้าหมาย “Vacation Home” และอสังหาฯลงทุนปล่อยเช่า ผนึกเชนจ์โรงแรม เมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก จับตาตลาดโตแรง รายเก่า-ใหม่ แห่ชิงเค้ก ปั้นแผนรอง ชิมราง แนวราบ หาช่องว่างใหม่ๆ เชื่อ! อสังหาฯยุคหน้า ไม่ใช่สร้างขายแล้วจบ ขณะทุนพัฒนาสูงขึ้น เดินคนเดียวไม่ได้ รุกจับพันธมิตรหลายด้าน นำร่องกลุ่มสุขภาพเสริมทัพสู้

พยากรณ์อสังหา 64
    มองว่า อสังหาฯ ปี 2564 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนตลาด เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด แต่การซื้อ-ขาย คงเกิดขึ้นช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 ตามทิศทางการเปิดประเทศ ซึ่งแม้ตลาดอยู่ในภาวะหน่วง แต่เชื่อว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ยังจำเป็นต้องเข็นโครงการใหม่ ออกมาขาย ไม่สามารถเลื่อนหรืออั้นโครงการได้อีกแล้ว เพราะส่งผลต่อตัวเลขรายได้ ขณะรายกลาง-เล็ก ยังมีโอกาสเฝ้าดูสถานการณ์ตลาด ทั้งนี้ ตลาดคอนโดฯ ระดับราคา 2.5 แสนบาทต่อตร.ม. การซื้อ-ขาย น่าจะนิ่ง ไม่หวือหวาเหมือนในอดีต โดยเฉพาะตลาดลงทุนโซนทองหล่อ สุขุมวิท ที่มีซัพพลายเหลือค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทเอง มีการขายที่ดินออกไปรวม 2 แปลง สุขุมวิท 8 และสุขุมวิท 31 จากเดิมที่เตรียมไว้รองรับการพัฒนา อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์คลี่คลาย ทั้งดีมานด์ และการลงทุนจากต่างชาติ น่าจะกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะโครงการรูปแบบการร่วมทุนกับต่างชาติ หลังทุนใหญ่ให้ความสนใจประเทศไทย ถึงดีมานด์หลังโควิด เพราะขณะนี้ไม่สามารถเข้ามาในประเทศเพื่อเจรจา หรือดูที่ดินได้ เป็นต้น 

โปรดักต์ลงทุนโต 20-30%
    โดยตลาดต่างชาติ เป็นความหวังในระยะ 2-3 ปี ของอสังหาฯไทย หลังปลดล็อกโควิดทั่วโลกได้ เชื่อดีมานด์จะกลับมาเติบโตกว่าเก่า จากมาตรการกระตุ้นของรัฐ เช่น ไทยแลนด์ อิลีท การ์ด หนุนซื้ออสังหาฯ ส่วนแนวโน้มตลาดในกลุ่มอสังหาฯเพื่อการลงทุน รูปแบบ Lifestyle Invesment จะเติบโตขึ้นราว 20-30% รวมถึงกลุ่มที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯด้วย ท่ามกลางตลาดลงทุนอื่นๆมีความเสี่ยง เช่น หุ้น พันธบัตร สอดคล้องกับยอดขายรวมของบริษัทเติบโตที่ 1,800 ล้านบาท และรับรู้รายได้โตเท่าตัว รวม 2ม000 ล้านบาท สวนภาวะตลาด หลังจากปิดการขายโครงการรูปแบบลงทุน การันตรีผลตอบแทน 6-7% ต่อปี ได้รวม 6 โครงการ 
    “ภาวะอย่างโควิด กระทบตลาดหุ้น ผันผวน กองทุนก็ขึ้น-ลง แต่อสังหาฯ เป็นช่วงที่ซื้อของถูก ได้ของดี โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในเชิงโรงแรม มูลค่าไม่ได้ลดลง ลูกค้าใหม่มองเป็นโอกาส มีการซื้อสด 70% โอนฯเต็มขณะ 30% ขอกู้ ต่อโครงการหลุดโอนฯไม่เกิน 10 ห้อง และสามารถขายใหม่ได้ทันที”

ลงทุนเมืองท่องเที่ยวมาแรง
    นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เทรนด์การลงทุนในอสังหาฯ เริ่มเปลี่ยนไปจากการปล่อยเช่าเดิมๆ ที่มีการแข่งขันตัดราคากันมาก มาสู่การลงทุนที่ผู้ลงทุนเป็นเสมือนเจ้าของโรงแรม โดยมีบริษัท หรือเชนจ์โรงแรมรับดูแลบริหารจัดการต่อให้ ตอกย้ำโมเดลของบริษัท ซึ่งใช้แบรนด์โรงแรมต่างประเทศ เช่น  
วินด์ดัม, เบสท์ เวสเทิร์น, ครอสทู มาเป็นจุดแข็งในการขายการันตี อัตราการเข้าพัก อย่างไรก็ตาม พบการแข่งขันในรูปแบบนี้ มีเพิ่มมากขึ้น แต่หลายทำเล กำลังไปไม่รอด จากการหายไปของต่างชาติ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เจ้าของโครงการ ไม่มีเงินจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนซื้อได้ ขณะเดียวกันรายใหม่ๆเริ่มเข้ามาในตลาด ไม่มีประสบการณ์บริหารเชิงโรงแรม ให้ผลตอบแทนผู้ซื้อสูง ถือเป็นความเสี่ยงจากต้นทุนที่จะต้องจ่ายเช่นกัน  แต่ตลาดที่มาแรง กลับเป็นเมืองใกล้กรุงเทพฯ ทำเลหลักของนักท่องเที่ยวไทย ในกลุ่มกลาง-บน โครงการไม่ใหญ่มาก พบอัตราเข้าพักมากกว่า 70% ทำให้ผู้ซื้อลงทุนมั่นใจ 
    “เทรนด์พักผ่อนและท่องเที่ยงใกล้กรุงเทพฯ หลังรัฐบาลกระตุ้น ทำให้โรงแรมขนาด 100-150 ห้อง ได้รับความนิยมสูง เช่น กาญจนบุรี ตราด และพัทยา อัตราเข้าพักเกิน 70% และเต็ม 100% ในช่วงหยุดยาว ขณะโรงแรมใหญ่เกิน 300 ห้อง เน้นกลุ่มทัวร์ ราคาห้องพักราว 1 พันบาทต่อคืน มีอัตราการเข้าพักเพียง 10-20% เท่านั้น”

แผนลงทุน 2564 
    สำหรับแผนงานในปีหน้า บริษัทยังผลักดันโปรดักต์ Lifestyle Invesment ต่อ โดยใช้ ฮาบิแทท ฮอสพิทัลลิตี้ เป็นหลักในการดูแลลูกค้า และดึงเชนจ์โรงแรมต่างๆเข้าเสริม ให้น้ำหนักไปยัง แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์ โดยเบื้องต้นเตรียมเปิดใหม่ 2 โครงการ ในทำเลพัทยา โซนนาจอมเทียน และวงค์อมาตย์ อาจเป็นได้ทั้งรูปแบบเรสซิเดนซ์ หรือ กึ่งวิลล่า ซึ่งสอดคล้องกับ แผนที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโปรดักส์แนวราบ แต่จะเข้าไปแข่งขันด้วยความแตกต่าง เพื่อจับลูกค้านิชมาร์เก็ต ซึ่งโปรดักต์นี้พัฒนาได้ทั้งในพัทยา ราคาขายราว 5-10 ล้านบาท และกรุงเทพโซนตะวันออก ราว 5-15 ล้าน ซึ่งจะรอจังหวะตลาด และค้นจุดเด่นที่จะใส่เข้าไป ให้น่าสนใจกว่าหมู่บ้านอื่นๆ หลังจากตลาดเรียลดีมานด์ แข่งขันกันเยอะมาก มีความเสี่ยงต่อภาวะเรดโอเชี่ยนเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการ จะเป็นการร่วมลงทุน เพราะมองว่า ธุรกิจอสังหาฯปัจจุบัน ต้องใช้ทุนพัฒนาและยกระดับมากขึ้น  ไม่ใช่การซื้อ-ขาย แห้งๆ แบบเดิมอีกต่อไป 
    จึงจำเป็นต้องจับมือกับกองทุนด้านอสังหาฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศ, กลุ่มธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เป็นต้น 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,636 วันที่ 17 -19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทแข็งค่าทะลุ 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ มาสุดรอบ 7 ปีครึ่ง จับตา กนง. สัปดาห์นี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ ในช่วงแรก ก่อนจะพลิกแข็งค่าขึ้นในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 ปีครึ่งที่ 29.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยมีแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง หลังรายงานการประเมินนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ จัดให้ไทยอยู่ในกลุ่มจับตาใกล้ชิด ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีแรงกดดันเพิ่มเติมจากผลการประชุมเฟดยังคงดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ตามเดิม ซึ่งสะท้อนสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหน้า

ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (18 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.80 เทียบกับระดับ 30.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพุธก่อนหน้า (9 ธ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 29.60-30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (23 ธ.ค.) และท่าทีต่อสถานการณ์ค่าเงินบาท ทิศทางกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ข้อมูลการส่งออกเดือนพ.ย.ของไทย รวมไปถึงบทสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


กรมควบคุมโรค ยันเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจโควิด-19 หากป้องกันดี ไม่ต้องกักตัว

“อธิบดีกรมควบคุมโรค” ยืนยัน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจ “โควิด-19” หากป้องกันอย่างดี ไม่ต้องกักตัว เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัว และถ้าไม่สบายก็ต้องไปพบแพทย์ทันที

วันที่ 20 ธ.ค. 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า เนื่องจากมีสื่อมวลชนถามถึงคนที่ลงพื้นที่ไปทำข่าวที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งคนที่ไปรายงานข่าวที่ตลาดกลางกุ้ง ว่าต้องถูกกักตัวหรือไม่ ทั้งนี้ขอนำเรียนว่าไม่ต้องถูกกักตัว แต่สิ่งที่เค้าต้องดำเนินการคือ 1. ต้องมาพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2. ประเมินความเสี่ยง

ทั้งนี้ เมื่อเราสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จะต้องถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงสูง กลาง หรือ ต่ำ โดยความเสี่ยงสูงคือ 1. การถูกผู้ติดเชื้อไอจามใส่ 2. พูดคุยกับผู้ติดเชื้อระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร นาน 5 นาทีขึ้นไป 3. ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ทั้งหน้ากากอนามัย หรือ ถุงมือ โดยต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ประเมิน

จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินเสร็จแล้ว ก็จะได้รับคำแนะนำต่อไป ถ้าประเมินแล้วว่าสัมผัสเสี่ยงสูง ต้องถูกกักตัวและส่งตรวจแล็บ แต่ถ้าไม่ถูกผู้ติดเชื้อไอจามใส่ หรือไม่ได้พูดคุยกับผู้ติดเชื้อนาน 5 นาที ถือว่าเสี่ยงต่ำ ก็จะได้รับคำแนะนำให้สังเกตอาการว่ามี ไข้ ไอ เจ็บคอ หรือไม่ได้กลิ่น หากมีอาการดังกล่าว สามารถไปขอตรวจได้

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าผู้สื่อข่าวหรือเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ไปสอบสวนควบคุมโรค แล้วมีอุปกรณ์ป้องกันเพียงพอ และป้องกันตัวเองอย่างดี ถือว่าไม่มีความเสี่ยงไม่ต้องกักตัว เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัว และถ้าไม่สบายก็ต้องไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการต่อไป.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th

“ไทย ยูเนียน สมุทรสาคร” ขอเลื่อนเกมไทยลีก2 หลังโควิดระบาดในจังหวัด

“ไทย ยูเนียน สมุทรสาคร” ทีมดังในศึกไทยลีก2 ทำหนังสือขอเลื่อนเกมที่จะเปิดบ้านพบ เกษตรศาสตร์ เอฟซี วันที่ 27 ธันวาคมนี้ หลังโควิด-19 ระบาดในจังหวัด

จากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัส “โควิด-19” ในจังหวัดสมุทรสาคร และพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 548 คน จากการแถลงของทางจังหวัดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนมีมาตรการล็อกดาวน์ภายในจังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.63 – 3 ม.ค.64

ล่าสุด ทาง “เสี่ยแบงค์” กิระวิศว์ พิทยภูวนันท์ ประธานสโมสรไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึง บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อขอเลื่อนโปรแกรมแข่งขันไทยลีก2 ในช่วงดังกล่าว ระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.63 – 3 ม.ค.64 โดยในระหว่างนั้น ทางสโมสรจะมีเกมแข่งขัน 1 นัด ระหว่าง ไทยยูเนียน สมุทรสาคร ที่จะเปิดบ้านพบ เกษตรศาสตร์ เอฟซี วันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.63 ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสาคร เวลา 19.00 น.

ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์ในจังหวัด ได้มีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามกีฬาและสนามมวย เพื่อหยุดการแพร่ระบาดดังกล่าว 

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


50 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีคำว่า “รัก” อยู่ในความหมาย

เนื่องจากในเดือนนี้ยังคงเป็นเดือนแห่งความรักอยู่ บทความนี้ผมก็เลยอยากจะนำเสนอคำศัพท์ภาษาอังกฤษทั้งหมด 50 คำด้วยกัน ซึ่งมีคำว่า “รัก” อยู่ในความหมายภาษาไทยนั่นเอง เราไปเรียนรู้พร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ

-LOVE-love-36983825-1680-1050

love = ความรัก, รัก
affection = ความรักใคร่, ซึ่งรักใคร่, อย่างรักใคร่
adore = รักอย่างลึกซึ่ง, ที่น่ารัก, ที่รักและบูชา
homosexual = รักร่วมเพศ
gay = คนที่รักเพศเดียวกัน
romance = เรื่องรักใคร่
cuddle = กอดด้วยความรักใคร่
darling = บุคคลอันเป็นที่รัก
patriot = ผู้รักชาติ
endear = ทำให้เป็นที่รักใคร่
homophobia = การเกลียดชังหรือกลัวพวกรักร่วมเพศ
bereaved = ซึ่งสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
dear = ซึ่งเป็นที่รักยิ่ง
fond = ด้วยความรักใคร่
beloved = เป็นที่รัก
honey = ผู้เป็นที่รัก
bisexual = รักร่วมสองเพศ
cute = น่ารัก
fondle = ลูบไล้ด้วยความรัก
enamoured = รัก; ลุ่มลง
tender = ที่แสดงถึงความรักใคร่
pacific = รักสันติ
sweet = ที่รัก
valentine = การ์ดแสดงความรัก
amorous = ที่เต็มไปด้วยความรักใคร่
caress = สัมผัสด้วยความรัก
cherish = รักและใส่ใจ
screw = (คำหยาบ,ศัพท์สแลง)ร่วมรัก
lesbian=หญิงรักร่วมเพศ
babe = คำที่ใช้เรียกคนที่คุณรัก
dote = ให้ความรักมากเกินไป
ex = อดีตภรรยาหรือสามี หรือคนรักเก่า
ballad = เพลงช้าที่มีใจความบรรยายถึงความรัก
pet = เป็นคำใช้เรียกเด็กที่เรารัก
pansy = (คำหยาบ,ศัพท์สแลง)ผู้ชายรักร่วมเพศ
pretty = น่ารัก
chauvinistic = ที่แสดงความรักชาติ
serenade = เพลงหรือดนตรีที่ร้องตอนกลางคืนนอกบ้านของคนที่เรารัก
sweetheart = คู่รัก
queer = (คำสแลง)ชายรักร่วมเพศ
nationalist = ผู้รักชาติ
pacifism = ความรักสันติภาพ
courtship = การขอความรัก
girlfriend = หญิงคนรัก
devotion = ความรักที่มากชนิดอุทิศตัว
feeling = ความรู้สึกรัก
care = การดูแลรักษา
keep = รักษา, เก็บรักษา

ขอบคุณข้อมูลจาก wegointer.com


เปิด Obodroid หุ่นยนต์สัญชาติไทยเจาะกลุ่มอสังหา

โอโบดรอยด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Obodroid) จัดงานเสวนา “Living with Robots เมื่อหุ่นยนต์มาอยู่ในชีวิตเรา” เพื่อเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการและแนะนำหุ่นยนต์ภายใต้การพัฒนาของ Obodroid ซึ่งจะมีการนำไปใช้จริงภายในพื้นที่อยู่อาศัยและใช้ชีวิต รวมถึงโครงการของ MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด) โดยมีจุดมุ่งหมายในการยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของผู้คนอย่างยั่งยืน

นายพลณัฏฐ์ เฉลิมวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทโอโบดรอยด์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Obodroid) เปิดเผยว่า Obodroid บริษัทวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์บริการและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน จับมือกับพันธมิตร MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พัฒนาหุ่นยนต์เพื่อตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์และด้านอื่นๆ จนครอบคลุมถึงภาคการบริการทั่วไป หุ่นยนต์ดังกล่าวจะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยและประชาชนทั่วไป หุ่นยนต์สัญชาติไทยที่นำมาจัดแสดงในงาน ได้แก่ ‘ไข่ต้ม (KAITOMM)’ หุ่นยนต์เพื่อน/ผู้ช่วยส่วนตัว (Companion/Personal Assistant Robot) ‘เอสอาร์วัน (SR1)’ หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์และเทคโนโลยีที่ทางบริษัทฯ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนามาจัดแสดงด้วยอาทิเช่น ‘ปิ่นโต (PINTO)’ หุ่นยนต์ส่งของเพื่อช่วยการส่งของระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในโรงพยาบาล รวมทั้ง ‘กระจก (MIRROR)’ แท็บเล็ตพร้อมแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการสื่อสารทางไกล ที่สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงานดูแลรักษาผู้ป่วย และลดความเสี่ยงจากการรับเชื่อไวรัส COVID – 19 สู่การนำไปใช้จริงในโรงพยายาลต่างๆ ในเกือบทุกภาคส่วนของประเทศไทย

“Obodroid ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหุ่นยนต์บริการและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคำนึงถึงการนำไปใช้งานและก่อให้เกิดประโยชน์ สร้างคุณค่าในการยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยได้จริงอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้หุ่นยนต์สามารถทำงานและอยู่ร่วมกันกับการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของมนุษย์ได้อย่างกลมกลืน เช่น สามารถทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับโครงการที่พักอาศัยและสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Obodroid เป็นบริษัทที่รวบรวมวิศวกรชั้นนำของประเทศไทยที่มีความรู้ความชำนาญในด้านหุ่นยนต์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Robotics & AI) มารวมไว้ด้วยกัน บริษัทมุ่งเน้นในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์บริการ (Service Robots) เพื่อนำไปใช้งานจริงในการบริการด้านต่างๆ อาทิเช่นหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย, หุ่นยนต์ต้อนรับ, หุ่นยนต์โฆษณา, หุ่นยนต์ส่งของ, หุ่นยนต์เพื่อน/ผู้ช่วยส่วนตัว เป็นต้น” นายพลณัฏฐ์ กล่าว

ดร. มหิศร ว่องผาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) บริษัทโอโบดรอยด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Obodroid) กล่าวว่า สำหรับ ‘ไข่ต้ม (KAITOMM)’ เป็นหุ่นยนต์เพื่อน/ผู้ช่วยส่วนตัว (Companion/Personal Assistant Robot) ที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคนทุกวัย ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทำให้การเชื่อมต่อกับทุกสิ่งบนโลกใบนี้เป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยสามารถรับคำสั่งและพูดคุยกับผู้ใช้งานในภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะ(Home Automation) เพื่อสั่งการเปิด/ปิดไฟ รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในที่พักอาศัยได้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับวัดค่าสัญญาณชีพต่างๆเพื่อช่วยดูแลสุขภาพของเจ้าของผู้ใช้งาน และหุ่นยนต์มีกล้องภายในตัว สามารถใช้เป็นกล้องวงจรปิด หรือโทรวีดีโอคอลได้ และมีฟังก์ชั่นอื่นๆของหุ่นยนต์สามารถตั้งเตือน ตั้งปลุก เล่นเพลง สวดมนต์ เช็คสภาพอากาศ และอื่นๆอีกมากมายเหมาะสำหรับใช้ในที่พักอาศัยเพื่อเป็นผู้ช่วยผู้ดูแลให้กับผู้ใช้งานได้ในทุกเพศทุกวัย

‘เอสอาร์วัน (SR1)’ หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย มีระบบเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ได้อัตโนมัติ (Auto-Navigation System) ประกอบด้วยกล้องรอบตัว 360 องศา เพื่อเก็บข้อมูลภาพและเสียงที่เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence หรือ AI) ในหุ่นยนต์ตัวนี้คือ เทคโนโลยีการตรวจจับวัตถุในซอร์ฟแวร์ของตัวหุ่นยนต์ ทำให้สามารถตั้งค่าโปรแกรมในการตรวจจับวัตถุต่างๆตามที่ต้องการ เช่น ใบหน้า สิ่งของ สิ่งมีชีวิต หรืออาวุธ พร้อมทั้งส่งข้อมูลแจ้งเตือนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยรับทราบได้ทันที นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการโทรฉุกเฉินที่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้คนรอบๆสามารถกดปุ่มเพื่อโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากตัวหุ่นยนต์ได้ในทันที เหมาะสำหรับการใช้งานในโครงการที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ต้องดูแลรักษาด้านความปลอดภัย

นอกจากนี้ทีมงาน Obodroid ยังรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมทำงานกับทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MI Workspace) ในการผลิตหุ่นยนต์ต้นแบบ ‘ปิ่นโต (PINTO)’ หุ่นยนต์รถเข็นส่งอาหารผู้ป่วย (Quarantine Delivery Robot) ที่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่จากระยะไกลได้ และ หุ่นยนต์ ‘กระจก(MIRROR)’ เป็นแท็บเลตใช้สำหรับสื่อสารทางไกล สามารถใช้พูดคุยระหว่างคนไข้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้ทันที โดยไม่ต้องกดรับสาย และคนไข้สามารถกดเรียกหาพยาบาลได้เมื่อต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งช่วยลดทั้งความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสCOVID – 19 จากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง รวมทั้งดูแลทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคได้ง่าย ไม่สะสมให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่อไปได้อีก ซึ่งสามารถตอบโจทย์คณะแพทย์และพยาบาลในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตนี้ได้เป็นอย่างดี โดยหุ่นยนต์ปิ่นโตและแท็บเล็ตกระจกนี้ เป็นการใช้งานแบบอิสระและเบ็ดเสร็จ ไม่จำเป็นต้องทำการติดตั้งเครื่องมือหรือโครงสร้างอื่นใดเพิ่มเติม จึงทำให้แพทย์และพยาบาลสามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งในปัจจุบันหุ่นยนต์และอุปกรณ์แท็บเล็ตชุดนี้ได้ถูกกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ บริษัทแมกโนเลียควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (FutureTales Lab by MQDC) กล่าวว่าFutureTales Lab by MQDC จับสัญญาณสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของหุ่นยนต์ (future of robotics) พบว่า การเติบโตของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ซึ่ง International Federation of Robotics (IFR) พบว่า ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ จะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น31% หรือ 48 ล้านตัว ภายในปี 2564 โดยกลุ่มหุ่นยนต์ที่โตที่สุด คือ กลุ่มหุ่นยนต์ใช้สำหรับงานบริการตามที่อยู่อาศัย (Service Robot) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นส่วนของกระบวนการดิสรัป (Disruption) ของหลากหลายวงการหากก้าวตามไม่ทัน ทั้งนี้ไทยจะเป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์ในอาเซียน เพื่อต้อนรับ Robotic Economy ข้อมูลจากทาง IFR สะท้อนว่า ภูมิภาคเอเชียถือเป็นตลาดสำคัญอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของโลก โดยมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของตลาดโลก คาดการณ์ว่าในปี 2564 ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมของประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 19% ซึ่งจะมีการขยายตัวเร็วที่สุดสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ในระดับโลก รองจากบราซิล 33% อินเดีย 26% และจีน 22% 

“สังคมจะเปิดใจยอมรับการใช้งานหุ่นยนต์มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน มากกว่าจะเป็นเพียงสัญลักษณ์ของความทันสมัย ถูกเร่งด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนเปิดใจกับการใช้หุ่นยนต์มากขึ้น เพราะความจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาด (Hygiene) และการรักษาระยะห่างทางสังคม กรณีศึกษาจากประเทศจีนที่ทางเครือโรงแรม Huazhu Hotels Group ที่มีสาขาโรงแรมกว่า 5,700 แห่งทั่วประเทศจัดเตรียมบริการแบบไร้การสัมผัส (non-contact) โดยการติตตั้งหุ่นยนต์เสริมบริการด้านต่างๆ เช่น ให้ข้อมูล นำทาง เสิร์ฟอาหาร เป็นต้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในระหว่างภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้น สะท้อนภาพบวกของการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในชีวิตประจำวันในอนาคตที่ว่า หุ่นยนต์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก หรือกลายเป็นเรื่องปกติใหม่สำหรับภาพอนาคตของมนุษย์ อย่างไรก็ตามความกังวลว่าหุ่นยนต์จะมาแย่งงาน แต่ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมหุ่นยนต์นี้จะสร้างงานแทนที่จะแย่งงาน รวมทั้งในระยะยาว ซึ่งหุ่นยนต์มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้นจะสามารถมาทดแทนหุ่นยนต์ภาคบริการมากขึ้น เช่น หุ่นยนต์ดูแลรักษาสุขภาพ และ ผู้สูงอายุ เป็นต้น ผลที่ตามมา การบริการของมนุษย์จริง จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตาม”ดร.การดี กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


6 สรรพคุณและประโยชน์ของต้นเฟื่องฟ้า ดอกเฟื่องฟ้า !

เฟื่องฟ้า

เฟื่องฟ้า

เฟื่องฟ้า ชื่อสามัญ Paper flower[2], Bougainvillea[3]

เฟื่องฟ้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Bougainvillea glabra Choisy จัดอยู่ในวงศ์บานเย็น (NYCTAGINACEAE)[1]

เฟื่องฟ้า มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ดอกต่างใบ (กรุงเทพฯ), ดอกกระดาษ ดอกโคม (ภาคเหนือ), ตรุษจีน (ภาคกลาง), เย่จื่อฮวา จื่อซานฮวา (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[3]

ประวัติเฟื่องฟ้า

ต้นเฟื่องฟ้าถูกพบครั้งแรกในประเทศบราซิลโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1766-1769 และได้ถูกนำไปปลูกยังส่วนต่าง ๆ ของโลก เริ่มจากทางยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย สำหรับในประเทศไทยได้มีการนำพันธุ์ของต้นเฟื่องฟ้าเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2423 (รัชกาลที่ 5) และมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศอีกมากมายจนถึงปัจจุบัน โดยสายพันธุ์ของต้นเฟื่องฟ้าในประเทศก็มีจำนวนไม่น้อยไปกว่าต่างประเทศ เนื่องมาจากต้นเฟื่องฟ้าเป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทยแล้วยังเกิดการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอีกมากมาย[2]

ลักษณะของเฟื่องฟ้า

  • ต้นเฟื่องฟ้า จัดเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อย มีอายุยืนหลายสิบปี สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 10 เมตร ลักษณะของทรงพุ่มสามารถตัดแต่งและบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ ลำต้นมีลักษณะกลมใหญ่ เนื้อแข็ง ผิวเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล ลำต้นเปราะและหักได้ง่าย มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่เหนือใบ หนามมีความยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง การปักชำกิ่ง เสียบยอด เจริญเติบโตได้ดีในดินปนทรายระบายน้ำดี ชอบความชื้นต่ำและแสงแดดแบบเต็มวัน[1],[2],[3]

ต้นเฟื่องฟ้า

  • ใบเฟื่องฟ้า ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปรี หรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียว ผิวใบเรียบ ใบบาง มีหนามอยู่ตามง่ามใบ มีก้านใบยาวประมาณ 1 เซนติเมตร[1],[2],[3]

ใบเฟื่องฟ้า

  • ดอกเฟื่องฟ้า ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบและปลายกิ่ง มี 3 ดอก ดอกมีหลายสี ทางจีนนิยมนำมาใช้เป็นยา คือ ดอกสีม่วง หรือสีแดง ดอกที่เป็นสี ๆ ก็คือใบที่เปลี่ยนสี เรียกว่า ใบดอก มีลักษณะบางคล้ายกับกระดาษ ลักษณะเป็นรูปไข่ปลายแหลม ในหนึ่งดอกจะมีใบดอก 3 ใบเชื่อมติดกัน ใบดอกจะกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตรและยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร มีเกสรเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียว[1]

ดอกเฟื่องฟ้า

  • ผลเฟื่องฟ้า ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นสัน 5 เหลี่ยม เปลือกแข็งและมีเมล็ดติดกับเปลือก[1],[3]

สรรพคุณของเฟื่องฟ้า

  • ดอกเฟื่องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจและระบบขับถ่าย (บางข้อมูลระบุว่าดอกเฟื่องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิตและใช้แทนเครื่องหอมได้ด้วย) (ดอก)[5]
  • ดอกเฟื่องฟ้า (สายพันธุ์ Bougainvillea glabra Choisy.) มีรสขมฝาด เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อตับ ใช้เป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี รักษาสตรีที่ประจำเดือนไม่มาหรือมุตกิดตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ดอกที่เป็นยาแห้งครั้งละ 10-15 กรัมนำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้ร่วมกับตัวยาอื่น ๆ ในตำรับยาตามที่ต้องการ (ดอก)[1]
  • เฟื่องฟ้าดอกขาว (Bougainvillea spectabilis Willd.) ในประเทศจีนจะไม่นิยมนำมาใช้ทำยา แต่ในประเทศไทยจะมีการนำรากมาใช้เป็นยาแก้พิษต่าง ๆ (ราก)[1]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเฟื่องฟ้า

  • สารที่พบ ได้แก่ สารจำพวก Bougainvillein เช่น Betanidinm Bougainvillea, 6-o-B-Sophoroside, Verbascose Isobetanidin เป็นต้น[1]

ประโยชน์ของเฟื่องฟ้า

  • ดอกเฟื่องฟ้าสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ เช่น การทำดอกเฟื่องฟ้าชุบแป้งทอด ด้วยการนำดอกเฟื่องฟ้ามาชุบในแป้งชุบทอด รอให้น้ำมันร้อนจัด แล้วใส่ดอกเฟื่องฟ้าที่ชุบแป้งลงไปทอดจนเหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นมารอจนน้ำมันสะเด็ด ใช้รับประทานกับน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
  • ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยมีหลายสีจากหลากหลายสายพันธุ์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เป็นซุ้มไม้เลื้อย เป็นซุ้มนั่งเล่น ปลูกในที่สาธารณะ สวนข้างทางเดิน ปลูกเป็นแนวรั้ว ปลูกเป็นไม้กระถาง หรือทำเป็นไม้บอนไซหรือไม้แคระ สามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ ดูแลรักษาได้ง่ายและทนความแล้งได้ดี เมื่อมีอากาศเย็นจะมีดอกออกเต็มต้น แต่ไม่ควรนำไปปลูกไว้ใกล้กับสนามเด็กเล่นเพราะมีหนามแหลม[2]
  • ในด้านความเป็นมงคล คนไทยโบราณมีความเชื่อว่า หากบ้านใดปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะสามารถช่วยสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น เนื่องจากต้นเฟื่องฟ้าเป็นพรรณไม้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งไม้ประดับ” นอกจากนี้คนไทยโบราณยังมีความเชื่ออีกว่า ต้นเฟื่องฟ้าเป็นไม้มงคลสำคัญของเทศกาลตรุษจีน เพราะต้นเฟื่องฟ้าสามารถออกดอกได้บานสะพรั่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน (จึงเป็นที่มาของการเรียกต้นเฟื่องฟ้าว่า “ต้นตรุษจีน”) ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่า เมื่อช่วงดอกเฟื่องฟ้าบานจะแสดงถึงความเบิกบาน สว่างไสว และความรุ่งเรืองที่ก้าวไกลแห่งชีวิต และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อยู่อาศัย ควรปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ทางทิศตะวันออก และผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธเพื่อเอาคุณ ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นสตรี เพราะเฟื่องฟ้าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับสุภาพสตรี[4]

ดอกเฟื่องฟ้า

ดอกเฟื่องฟ้าสีแดง

ดอกเฟื่องฟ้าสีชมพู

รูปดอกเฟื่องฟ้า

เฟื้องฟ้าดอกขาว

ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,800.00 26,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,736.00 26,317.76 27,400.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,562.40 23,685.98 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,388.80 21,054.21 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 781.00 11,839.96 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 608.00 9,217.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,799.00 27,272.84 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/12/2563 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15 23.15
แก๊สโซฮอล์ 91 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88 22.88
แก๊สโซฮอล์ E20 21.64 21.64 21.64 21.64 21.64 21.64 21.64 21.64 21.64
แก๊สโซฮอล์ E85 18.74 18.74 18.74
เบนซิน 95 30.56 31.01 31.06 30.56 30.56
ดีเซล B7 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59
ดีเซล 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59
ดีเซล B20 21.34 21.34 21.34 21.34 21.34 21.34 21.34 21.34
ดีเซลพรีเมี่ยม 29.04 29.06 31.04 30.44 29.04
แก๊ส NGV 13.12 13.12 13.12
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า