สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 05 มกราคม 2564

อสังหาฯ 3 จังหวัดปริมณฑล ราคาพุ่งรับรถไฟฟ้า-ห้างฯ-แหล่งงาน

อสังหาฯ 3 จังหวัดปริมณฑล  ราคาพุ่งรับรถไฟฟ้า-ห้างฯ-แหล่งงาน

“ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” ระบุรถไฟฟ้าดันราคาอสังหาฯ นนทบุรี – สมุทรปราการ- ปทุมธานี เพิ่ม ผนวกปัจจัยเอื้อต่อการอยู่อาศัยจากห้างสรรพสินค้า แหล่งงาน สถานการศึกษา

ผลการสำรวจของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ บริษัทนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 พื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล แนวรถไฟฟ้า พบว่าราคาเพิ่มขึ้น เริ่มจากจังหวัด นนทบุรี ซึ่งมีรถไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า และแหล่งงาน

เมื่อพิจารณาการเติบโตของทำเลแนวรถไฟฟ้าจะพบว่า บริเวณตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง ราคาที่อยู่อาศัยปรับขึ้นในรอบปี 13% จากการหนุนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกหนึ่งทำเลที่มีแนวโน้มเติบโตคือบริเวณตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย เพิ่มขึ้น 16% จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-ตลิ่งชัน และแยกเป็นประเภทที่อยู่อาศัยพบว่าทำเลที่มีราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ บริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มขึ้น 6% บริเวณ MRT ตลาดบางใหญ่ และ MRT สามแยกบางใหญ่ เพิ่มขึ้น 4% และบริเวณสถานีแยกปากเกร็ด รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 3%

ทางด้านจำนวนอุปทาน พบว่า ทำเลที่มีจำนวนอุปทานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง เพิ่มขึ้น 87% ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง เพิ่มขึ้น 41% จำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ในตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ (บริเวณ MRT ตลาดบางใหญ่ และ MRT สามแยกบางใหญ่) เพิ่มขึ้น 52% บ้านเดี่ยวอยู่ในตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด เพิ่มขึ้นถึง 107% และทาวน์เฮ้าส์อยู่ในตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง เพิ่มขึ้น 103%

สมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่ได้รับผลดีจากโครงการรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียว รวมถึงรถไฟฟ้าสายใหม่อย่างสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะเปิดในปี 2564 ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น อาทิ ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ (บริเวณสถานี BTS แพรกษา, BTS สายลวด, BTS เคหะฯ) ราคาเพิ่มขึ้น 21% เมื่อพิจารณาตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า ทำเลที่มีราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มมากที่สุดในรอบปี ล้วนอยู่ในอำเภอเมืองสมุทรปราการที่แนวรถไฟฟ้าทั้งสิ้น ได้แก่ตำบลปากน้ำ (บริเวณ BTS ปากน้ำ) เพิ่มขึ้น 11% ตำบลท้ายบ้านใหม่ เพิ่มขึ้น 8% และตำบลเทพารักษ์ (บริเวณ BTS สำโรง, BTS ทิพวัล, BTS ศรีเทพา) เพิ่มขึ้น 6% ส่วนบ้านเดี่ยว ได้แก่ ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง เพิ่มขึ้น 43% และทาวน์เฮ้าส์อยู่ในตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เพิ่มขึ้น 27%

ทางด้านจำนวนอุปทาน พบว่า ทำเลที่มีจำนวนอุปทานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ เพิ่มขึ้น 58% ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 57% ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี เพิ่มขึ้น 44% ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี เพิ่มขึ้น 30% และตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 23%

ขณะที่ ปทุมธานี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีปัจจัยเอื้อต่อการอยู่อาศัยหลายด้าน ไม่ว่าจะโครงการพัฒนาของภาคเอกชน อาทิ โครงการของภาคเอกชนอย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ต่าง ๆ และโครงการพัฒนาของภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และส่วนต่อขยาย คูคต-วงแหวนรอบนอก ทำเลที่มีราคาที่อยู่อาศัยเติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบปี อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย คูคต-วงแหวนรอบนอก ได้แก่ ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง เพิ่มขึ้น 18% และตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง เพิ่มขึ้น 16%

เมื่อโฟกัสที่ประเภทของที่อยู่อาศัย พบว่า ทำเลที่มีราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มมากที่สุดในรอบปี อยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้า ทำเลใกล้สถานศึกษา ได้แก่ ตำบลบางยี่โถ อำเภอธัญบุรี (ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี-ดรีมเวิลด์) เพิ่มขึ้น 17% ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี (ใกล้มหาวิทยาลัยรังสิต) เพิ่มขึ้น 13% รวมถึงทำเลใกล้รถไฟฟ้า ได้แก่ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา เพิ่มขึ้น 14% และตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง เพิ่มขึ้น 3%

ด้านจำนวนอุปทานพบว่าทำเลที่มีจำนวนอุปทานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา เพิ่มขึ้น 42% ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา เพิ่มขึ้น 26% และตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง เพิ่มขึ้น 25% โดยคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่อยู่ในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา มีจำนวนเพิ่มขึ้นในรอบปีถึง 49% บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่อยู่ในตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา เพิ่มขึ้น 38% ส่วนทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่อยู่ในตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง เพิ่มขึ้น 21%

ราคาที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 1-3 ล้านบาท โดยคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ ส่วนใหญ่มีระดับราคาใกล้เคียงกันคือ 1-3 ล้านบาทและบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 5-10 ล้านบาท ทำให้คอนโดมิเนียมอาจขายได้ยากขึ้น เนื่องจากราคาใกล้เคียงกับทาวน์เฮ้าส์

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ออริจิ้น มองบวกอสังหาโต20% เล็งเปิด20โครงการมูลค่า2หมื่นล้าน

ออริจิ้น มองบวกอสังหาโต20% เล็งเปิด20โครงการมูลค่า2หมื่นล้าน

พร็อพเพอร์ตี้ ประเมินตลาดอสังหาฯโต20% จากดีมานด์ในประเทศเล็งเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบ แนวสูง20 โครงการมูลค่า 2หมื่นล้านบาท

“พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี2564 ตลาดอสังหาฯ น่าจะโต20% มาจากดีมานด์คนไทย15% ต่างชาติ 5% จากภาพรวมปี2563 ตลาดหดตัวลง 15-18%  โดยในปีนี้คอนโดน่าจะเติบโต 25-30% เพราะปี2563เปิดตัวน้อย ส่วนแนวราบ หรือบ้านจัดสรรลดลง หรือ ติดลบ 5% จากปี2563 เติบโตสูง ทำให้ตลาดสวิงกลับมาที่คอนโดในปี2564  บนสมมติฐานว่า “ไม่มี” โควิดกลายพันธุ์ วัคซีนเอาอยู่ ไม่มีการระบาดระลอก 3 รุนแรง

โดยในปี 2564 ออริจิ้นจะเปิดตัวบ้านจัดสรรและคอนโดอย่างละ 10 โครงการ รวม 20 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท แต่หากความรู้สึก (sentiment)ของลูกค้าในการจับจ่ายใช้สอยดี ก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อีก เพราะมีแลนด์แบงก์เตรียมพร้อมไว้แล้ว ขณะเดียวกันยังคงแสวงหา “น่านน้ำใหม่” ที่เข้ามาสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าและความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ หนึ่งในนั้นคือการเกาะกระแสสุขภาพที่เข้ามาให้บริการแก่ลูกบ้านของออริจิ้นทั้งที่เป็นคอนโดและบ้านจัดสรร ทำให้ลูกบ้านมีสุขภาพดีไม่ต้องไปโรงพยาบาลหาแพทย์ 

พร้อมทั้ง “ลดความเสี่ยง” ด้วยการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศเดิมและพันธมิตรใหม่ ที่มีเงินทุนและฐานลูกค้าเข้ามาร่วมลงทุน คาดว่า จะเปิดตัวในในไตรมาสแรก นอกจากนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการอสังหาฯ ที่มีการนำมาเสนอขายหากราคาได้ดีก็พร้อมซื้อ 

พีระพงศ์ ประเมินว่าใน ปี 2564 ตลาดที่ชะลอตัวคือกลุ่มลักชัวรี เซกเมนต์ที่เหลือน่าจะไปได้หมด เริ่มจากกลางไปจนถึงไฮเอนด์ คอนโดระดับกลางงราคา 3-5 ล้านบาท ไฮเอนด์ ราคา 5-10 ล้านบาท บ้านเซกเมนต์มาตรฐานเริ่มจากทาวน์เฮ้าส์ 3 ล้านบาท บ้านแฝด 5 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 7 ล้านบาท บ้าน 10-20 ล้านบาท ยังดีอยู่ แต่บ้านราคา 30ล้านบาทขึ้นไป “ไม่ดี” เพราะอัตราการการดูดซับช้า เนื่องจากเจ้าของกิจการยังกังวลเรื่องเศรษฐกิจทำให้ต้องสำรองเงินไว้เพื่อรองรับความผันผวน ขณะที่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนเริ่มรีสตาร์ทแล้ว  พร้อมกันนี้สัดส่วนคอนโดจะกลับมามากกว่าแนวราบจากปีนี้สัดส่วนตลาดแนวราบมากกว่าคอนโด

ขอบคุรข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิด 29.90บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่า”

ค่าเงินบาทเปิด 29.90บาท/ดอลลาร์

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดตลาด “อ่อนค่า”ที่ระดับ 29.90บาท/ดอลลาร์

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 29.90 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่า”จาก 29.88บาทต่อดอลลาร์ช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 29.90-30.00 บาทต่อดอลลาร์

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์หัวหน้าทีมกลยุทธ์ตลาดการเงินและวางแผนการลงทุน EASY INVEST บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS)ระบุว่า  อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เปิดปีใหม่อย่างแข็งแกร่งด้วยแรงซื้อหุ้นและบอนด์ของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินหยวนก็แข็งค่าแรงถึง 1.0% ในวันเดียวเมื่อเทียบกับดอลลาร์โดยต่ำกว่าระดับ 6.50 หยวนต่อดอลลาร์แล้ว ระยะสั้นแนะนำจับตาทิศทางของตลาดทุนต่อ แม้นักลงทุนบางส่วนจะขายทำกำไรการลงทุนที่ฟื้นตัวในช่วงปีก่อนเช่นในหุ้นสหรัฐ แต่ก็ทยอยเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวมากเช่น Emerging Market ไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดกลับทิศแรง ก็เชื่อว่าจะเห็นเงินทุนไหลเข้าหนุนให้เงินบาทอ่อนค่ายาก 

ในช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลเรื่องการระบาดของไวรัส และความเสี่ยงเรื่องการเลือกตั้งสว.ในสหรัฐ กดให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 1.4% และดัชนีวัดความกลัวของตลาด VIX Index ปรับตัวขึ้นมาที่ 26.9จุด สูงที่สุดในรอบสองสัปดาห์ แตกต่างกับดัชนี STOXX 600 ของยุโรปที่ปรับตัวขึ้นต่อได้ 0.4%

ด้านตลาดเงิน กลับเป็นดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้นได้โดยมีสกุลเงินความเสี่ยงสูงอย่างดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ที่อ่อนค่าลง และปอนด์อังกฤษ (GBP) ที่ย่อตัวจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจหลังจากที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อมาไปที่ระดับ 1945 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดมองว่าเงินเฟ้อมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก สะท้อนจากส่วนต่างของบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีและสองปีที่ห่างกันถึง 80bps สูงที่สุดนับตั้งแต่ตุลาคมปี 2017

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


แปลกจัง? เจอร์เกน คล็อปป์ พาดพิงผีแดง ชี้อัตราได้จุดโทษเยอะกว่าหงส์ชัดเจน

แปลกจัง? เจอร์เกน คล็อปป์ พาดพิงผีแดง ชี้อัตราได้จุดโทษเยอะกว่าหงส์ชัดเจน

เจอร์เกน คล็อปป์ สุดเซ็งผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษให้หงส์แดงในเกมบุกพ่ายนักบุญ ถึงกับกล่าวพาดพิงคู่แข่งชิงจ่าฝูงอย่างปีศาจแดง ว่าได้รับประโยชน์มากกว่าชัดเจน

เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล กล่าวหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกแพ้ “นักบุญ”เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 เมื่อวันที่ 4 มกราคม โดยพาดพิงถึง “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังขับเคี่ยวชิงจ่าฝูงกันในขณะนี้

เกมนี้เซาธ์แฮมป์ตันได้ประตูชัยจาก แดนนี อิงส์ นาที 2 ซึ่งคล็อปป์มองว่าพวกตนควรได้จุดโทษถึง 2 หน ทั้งตอนที่ ซาดิโอ มาเน โดนสกัดล้มลง กับตอนที่ แจ๊ก สตีเฟนส์ บล็อกลูกยิงในเขตโทษ แล้วดูเหมือนบอลจะโดนแขน

คล็อปป์กล่าวว่า “หากใครบอกว่า ซาดิโอ มาเน เป็นจอมพุ่งล้ม ก็คงกำลังเล่าเรื่องตลกอย่างที่สุด แถมยังมีจังหวะแฮนด์บอลเข้ามาอีก 2 สถานการณ์นี้ เป็นทีมอื่นคงได้จุดโทษไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าใครจะอธิบายเรื่องนี้ได้

เราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ ผมได้ยินมาว่าแมนฯยูไนเต็ดได้จุดโทษในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มากกว่าตลอดช่วงที่ผมทำงานที่นี่ 5 ปีครึ่งเสียอีก ผมไม่รู้ว่าเป็นความผิดของตัวเองมั้ย หรือมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งเราต้องเคารพการตัดสินใจเหล่านั้น”

ขณะที่ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล นายใหญ่เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมากเมื่อคุณได้เห็นลูกทีมสู้อย่างเต็มที่ คุณจำเป็นต้องเล่นอย่างสมบูรณ์แบบในการเจอกับลิเวอร์พูล และผมคิดว่าเราทำได้เช่นนั้น”

โดยผ่านไป 17 นัดเท่ากัน เซาธ์แฮมป์ตันเก็บเพิ่มเป็น 29 แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ส่วนลิเวอร์พูลไม่ชนะมา 3 เกมติดกัน นิ่งอยู่ที่ 33 แต้ม นำจ่าฝูงตามเดิม โดยคะแนนเท่าแมนฯยูไนเต็ด แต่แข่งมากกว่า 1 แมตช์ไปแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก khaosod.co.th


เวียนศีรษะบ้านหมุน อาจนำไปสู่โรคร้าย

เวียนศีรษะบ้านหมุน อาจนำไปสู่โรคร้าย thaihealth

กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย หากเกิดอาการไม่ควรซื้อยากินเอง เพราะบางครั้งอาการเวียนศีรษะ อาจเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของโรคอื่น ๆ ได้

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการบ้านหมุนเป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความรำคาญและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะระหว่างทำงานหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรอาจเกิดอันตรายได้ อาการที่พบได้บ่อย คือ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ทรงตัวลำบาก บ้านหมุนคล้ายกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน หรือ รู้สึกว่าตัวเองหมุนทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหว อาจมีอาการทางหูร่วมด้วย เช่น หูอื้อ มีเสียงในหู เป็นต้น ดังนั้น การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง จึงมีความสำคัญกับผู้ป่วย เพราะถ้าได้รับการรักษาในระยะแรก จะได้ผลดี หากสงสัยว่าตนเองมีความผิดปกติ รู้สึกเวียนศีรษะ บ้านหมุนโดยที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือมีประวัติโรคหู ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของอาการบ้านหมุนมักเกิดจากสาเหตุของหูชั้นใน ถ้ามีอาการเวียนศีรษะรุนแรงผู้ป่วยมักจะไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้หรืออาการ ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ หรือมีเสียงดังใน เช่นน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือหินปูนในหูหลุด คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า อาการบ้านหมุนเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน สำหรับรายที่มีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนมากๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ความดันในเลือดต่ำและอาจเกิดภาวะช็อก ทำให้เกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ เมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขณะทำกิจกรรมต่างๆ ควรหยุดนั่งพัก เพื่อป้องกันการหกล้ม กรณีที่มีอาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนมากๆ ควรนอนพักสักครู่ จนอาการดีขึ้นหรือนั่งพัก หลับตา และรีบไปพบแพทย์

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการเลวลง เช่น การหันศีรษะไวๆ การเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว การก้ม เงยคอนานๆ ความเครียด วิตกกังวล อดนอน เป็นต้น ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


ห้ามพลาด! รวม Idioms น่าใช้

สำนวนน่าใช้ในภาษาอังกฤษที่ฝรั่งนิยมใช้ที่คนไทยไม่รู้ความหมาย  เคยเป็นเวลาที่เรานึกสำนวนขึ้นมาได้เพราะตรงกับสถานการณ์ที่กำลังเจออยู่แต่ไม่รู้ต้องพูดยังไงถ้าเป็นภาษาอังกฤษ พอเป็นแบบนี้แล้วเซ็งมากหมดอารมณ์ที่จะพูดต่อเลย วันนี้สำนวนที่เราได้รวบรวมมาจะทำให้เราคุยภาษาอังกฤษที่สนุกมากขึ้น

       สำนวนที่รวบรวมมาหากทุกคนอ่านความหมายของมันจะต้องร้อง อ้อ กันทันทีเพราะในภาษาไทยเราพูดกันอยู่บ่อย

       ว่าแล้วก็รีบมาอ่านกันเลย

Bite off more than you can chew

Bite off more than you can chew = to try to do something that is too difficult for you.

Bite off more than you can chew สำนวนนี้แปลว่า รับงานที่ใหญ่กว่ากำลังของตนเอง ตกลงทำงานที่เกินความสามารถของตนเอง Bite off more than you can chew สำนวนนี้แปลว่าการพยายามกัดหรือเคี้ยวอาหารที่ชิ้นใหญ่เกินไป 

ยกตัวอย่างเช่น

He bit off more than he could chew in reading the text full of thesis for 1 night.

การที่เขาอ่านวิทยานิพนธ์ฉบับเต็มภายในคืนเดียวเป็นการกระทำที่เกินกำลังของตนเอง

Let the cat out of the bag

Let the cat out of the bag = to allow a secret to be known, usually without intending to.

Let the cat out of the bag สำนวนนี้แปลว่า การเล่าเรื่องที่เป็นความลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ (ความลับที่ไม่ควรเปิดเผยให้กับใคร) เช่นเดียวกับการหลุดปากพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดไปโดยไม่ตั้งใจ

ปกติแล้วหากเป็นเรื่องความลับก็เป็นสิ่งที่ต้องซ่อนแอบเอาไว้ ในเมื่อมันเป็นความลับที่เล่าให้คนอื่นฟัง ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป 

หากแปลตามตัวจะแปลว่า ปล่อยแมวออกจากกระเป๋า ฝรั่งเค้าเปรียบเทียบ ความลับที่เก็บเงียบไว้ เช่นเดียวกับ แมวที่ถูกขังเอาไว้ในกระเป๋าแต่เผลอทำมันหลุดออกมา

ยกตัวอย่าง

I knew it! Vivien had let the cat out of the bag about a birthday gift.

ฉันว่าแล้วเชียว วิเวียนต้องหลุดปากพูดเรื่องของขวัญวันเกิดเป็นแน่

Spill the beans 

Spill the beans = to tell people secret information.

สำนวนนี้หากแปลตามตัวจะแปลว่า ทำถั่วหก  สำนวนนี้เปรียบเทียบถั่วกับความลับที่รั่วไหลไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ยกตัวอย่างเช่น

She always tells me don’t spill the beans because she doesn’t want people to know her private information. 

หล่อนบอกฉันเสมอว่าอย่าให้ความลับรั่วเพราะหล่อนไม่อยากให้คนอื่นรู้ข้อมูลส่วนตัวของหล่อน

String along

String a long = to deceive someone for a long time about what you are really intending to do.

String a long สำนวนแซ่บๆที่แปลว่า การแสร้งแสดงเป็นจริงใจหรือการแกล้งให้ความหวัง

ยกตัวอย่าง

Don’t string me along if you aren’t sincere.

อย่าให้ความหวังฉันเลยหากคุณไม่จริงใจ

In my opinion, she’s just stringing us along because she’s been promising to pay back the money for four months.

ในความคิดฉันนะหล่อนแค่แกล้งให้เรามีความหวังไปงั้นแหละ เพราะเธอเคยสัญญาว่าคืนเงินให้ตั้ง 4 เดือนแล้ว

ยืมแล้วไม่คืนไม่น่ารักหรือเปล่า

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


ดิจิเทควันชูแพลตฟอร์มความปลอดภัยรุกองค์กร

ดิจิเทควันชูแพลตฟอร์มความปลอดภัยรุกองค์กร

ดิจิเทค วัน เป็นบริษัทในเครือ บริษัท SVOA Group ซึ่งแยกออกมาเพื่อให้บริการโซลูชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ เผยกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ในรูปแบบบริการโซลูชั่นเฉพาะกลุ่ม SaaS Business Model (Software as a Service) การให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสถาบันการเงิน การธนาคาร ประกันภัย สถาบันสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อช่วยพลิกโฉมองค์กรธุรกิจในยุค Digital Disruption 

นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของบริษัทฯ เกิดจากการที่ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) ต้องการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้มีความแข็งแกร่งในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อที่บริษัทฯ จะยืนหยัดในธุรกิจไอทีได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะ Digital Transformation ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการนำ Digital Technology มาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ ทาง SVOA Group จึงได้มีการลงทุน 100 % ใน “ดิจิเทค วัน” ดังกล่าวเพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าไปตอบโจทย์ให้กับองค์กรธุรกิจที่จะต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานในยุค Digital Disruption ด้วยการนำแพลตฟอร์มด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับองค์กรธุรกิจเข้าไปให้บริการในกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสถาบันการเงิน การธนาคาร ประกันภัย สถาบันสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐ เป็นปัจจัยทำให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2021จะมียอดขายประมาณ 150 ล้านบาท

ดิจิเทควันชูแพลตฟอร์มความปลอดภัยรุกองค์กร

กลุ่มธุรกิจที่หนึ่งคือ การให้บริการแพลตฟอร์มของบริษัทโดยใช้กลยุทธ์ SaaS Business Model (Software as a Service) เพื่อให้การทำงานของผู้ประกอบการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบเซ็นและอนุมัติเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงระบบจัดการเอกสารทางภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยระบบเทคโนโลยีที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างองค์กรมีความปลอดภัย ผู้ประกอบการสามารถใช้เทคโนโลยีปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นในลักษณะของการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาวิเคราะห์จะช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับ SaaS Business Model บริษัทฯ พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมกับทุกองค์กรธุรกิจทั้งรายใหญ่ และรายย่อย และด้วยระบบที่แข็งแกร่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก จึงเหมาะกับองค์กรธุรกิจที่กำลังเจริญเติบโต

กลุ่มธุรกิจที่สองคือ การให้บริการทางไซเบอร์ซิเคียวริตี้แบบครบวงจร ปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจนี้ ได้แก่ การที่เกิด Digital Disruption ในองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ทำให้มีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในองค์กรมากขึ้น รวมถึงเทรนด์การใช้ระบบคลาวด์ที่แพร่หลาย ทำให้องค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญต่อการปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญภายในองค์กรจากการถูกเจาะและรั่วไหลโดยผู้ไม่ประสงค์ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) ที่องค์กรต้องคุ้มครองภายใต้กฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในการเข้าไปให้บริการและให้คำปรึกษา รวมถึงออกแบบโซลูชั่นที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ Personal Data Protection Act (PDPA) นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีขีดความสามารถในการให้บริการและให้คำปรึกษา รวมถึงออกแบบโซลูชั่นที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ที่มีการกำหนดให้หน่วยงานเอกชนและภาครัฐที่ถูกกำหนดให้เป็นหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (Critical Information Infrastructure : CII) ซึ่งมีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ จะต้องยกระดับในการเฝ้าระวัง ป้องกัน รับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ องค์กรที่ถูกกำหนดให้เป็น CII ตาม พรบ. ได้แก่ กลุ่มความมั่นคงและบริการภาครัฐที่สำคัญ กลุ่มการเงินการธนาคาร กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม กลุ่มการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มสาธารณสุข

กลุ่มธุรกิจที่สาม   คือการให้บริการเช่าใช้แพลตฟอร์มโซลูชั่นเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่ม non-banks กลุ่มฟินเทค กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งบริษัทฯ จัดทำแพลตฟอร์มสำเร็จรูปไม่ว่าจะเป็น E-KYC, digital ID และ การขอสินเชื่อออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นสำเร็จรูปที่พร้อมให้บริการ โดยมุ่งหวังว่าจะเป็นเพื่อนที่คอยช่วยให้เส้นทางธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ ราบรื่นและเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนเพื่อให้องค์กรสามารถตอบสนองโจทย์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 “จุดแข็งของดิจิเทค วัน คือ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า และทำให้ดีที่สุด เน้นความปลอดภัย เนื่องจากเรามีพื้นฐานภาคธุรกิจธนาคาร ทำให้การออกแบบโซลูชั่นได้ดีมีความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ ซึ่งมีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี” นางสาวพิรดา กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


10 ประโยชน์ดีๆ ของ “ผักชี” ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบกันนัก

10 ประโยชน์ดีๆ ของ “ผักชี” ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบกันนัก

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น social media ทางไหน ก็เห็นแต่คนพูดถึงกระแส “ผักชีฟีเวอร์” หรือความบ้าผักชีของชาวญี่ปุ่น ผักที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสำคัญ ไม่มีเมนูหลักของตัวเอง ทำได้แต่เพียงเป็นตัวประกอบในหลายๆ จาน และถูกนำไปเปรียบในสุภาษิตของไทยที่ว่า “ผักชีโรยหน้า” คือการทำอะไรลวกๆ ส่งๆ แปะๆ ให้เห็นแค่เบื้องหน้า นั่นสื่อถึงว่าบ้านเรา ผักชี เป็นเพียงผักที่ไม่ได้สำคัญต่ออาหารจานหลักเท่าใดนัก

แต่ที่ญี่ปุ่น “ผักชี” กลายเป็นผักที่หลายนิยมชมชอบกันมาก ทานกันเป็นกำๆ (ทั้งๆ ที่ผักชีที่บ้านเขาราคาก็ไม่ได้ถูกเท่าบ้านเรา) ขนาดมีนักร้องบอยแบนด์ของญี่ปุ่นร้องเพลง “ผักชีเฮเว่น” (เฮเว่น = สวรรค์) โดยสื่อถึงความคลั่งผักชีของคนญี่ปุ่นนั่นเอง

จากกระแสผักชีฟีเวอร์ขนาดหนัก จึงทำให้ที่ประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูที่มีผักชีเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ได้เป็นเพียงผักโรยหน้าแบบบ้านเรา เป็นผักชีกองๆ ทานกันเป็นกำๆ เลยทีเดียว แถมยังมีร้านอาหารที่ทั้งร้านจำหน่ายแต่เมนูที่มีผักชีเป็นส่วนประกอบเท่านั้นอีกด้วย นอกจากนี้เมนูผักชี ยังกลายเป็นเมนูแห่งปีของญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย (ปี 2016) ตอกย้ำกระแสชื่นชอบผักชีของคนญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน

ถ้าจะพูดถึงรสชาติ คงจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบ เหมือนกับ “ทุเรียน” ในบ้านเรา ที่คนชอบก็ชอบมาก แต่ใครที่ไม่ชอบก็เกลียดไปเลย เพราะรสชาติและกลิ่นมันเข้มข้น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ แต่หากพูดถึงประโยชน์ของ “ผักชี” กันแล้ว ขอบอกว่ามีเพียบจนคุณอาจจะต้องหันมาคลั่งผักชีเหมือนกับชาวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

สารอาหารในผักชี

– วิตามินเอ

– วิตามินบี

– วิตามินซี

– ธาตุเหล็ก

– เบต้าแคโรทีน

– แคลเซียม

และอื่นๆ

ประโยชน์ดีๆ ของ “ผักชี”

1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก

2. ป้องกันโรคหวัด

3. แก้อาการกระหายน้ำ

4. ต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ในลำไส้

5. ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร

6. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

7. เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายคล่องมากยิ่งขึ้น

8. แก้อาการวิงเวียนศีรษะ

9. บำรุงสายตา

10. ช่วยกระตุ้นการทำงานของเลือด และกล้ามเนื้อ

ถึงแม้ผักชีจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ค่อนข้างฉุน แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ กลิ่นผักชีที่ว่าจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ หากไม่ทานในปริมาณที่มากเกินไป จะไม่ทำให้ตัวเหม็นอย่างที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันแน่นอน แต่ถึงกระนั้น การจะหันมาทานผักชีกันอย่างจริงจังเป็นกำๆ ก็ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะไม่ว่าอาหารชนิดใดที่ว่าดี หากทานมากเกินไปก็เป็นโทษได้ทั้งนั้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 27,300.00 27,400.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,768.00 26,802.88 27,900.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,591.20 24,122.59 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,414.40 21,442.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 796.00 12,067.36 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 619.00 9,384.04 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,832.00 27,773.12 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/01/2564

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 22.75 22.75 23.25 22.75 22.75 22.75 22.75 22.75 22.75 22.75
แก๊สโซฮอล์ 91 22.48 22.48 22.98 22.48 22.48 22.48 22.48 22.48 22.48 22.48
แก๊สโซฮอล์ E20 21.24 21.24 21.74 21.24 21.24 21.24 21.24 21.24 21.24
แก๊สโซฮอล์ E85 18.54 18.54 18.54
เบนซิน 95 30.16 30.61 30.66 30.16 30.16
ดีเซล B7 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19 24.19
ดีเซล 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19 21.19
ดีเซล B20 20.94 20.94 20.94 20.94 20.94 20.94 20.94 20.94
ดีเซลพรีเมี่ยม 28.64 28.66 30.64 30.04 28.64
แก๊ส NGV 13.12 13.12 13.12
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า