RT คว้างานทางหลวง หนุนปี 63 รายได้ทะลุ 2.8 พันล้าน
บมจ. ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง คว้างานทางหลวง -ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินใหม่ 8 โครงการ คาดหนุนผลงานปี 63 ทำนิวไฮ โต 20% รายได้ทะลุ 2,800 ล้านบาท
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่า บริษัทได้รับงานใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 280 ล้านบาท ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 4,644.33 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนพ.ย. 63 มี Backlog อยู่ที่ 4,364.33 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 64-66
ทั้งนี้ การรับงานดังกล่าว ประกอบด้วย 1.โครงการงานจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2216 ตอน โคกมน-กกกะทอน ตอน 1 มูลค่า 11.69 ล้านบาท 2.โครงการงานจ้างเหมาทำการงานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2013 ตอน บ่อโพธิ์ – โคกงาม มูลค่า 19.51 ล้านบาท 3. งานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน และงานก่อสร้างวางท่อประปาและงานที่เกี่ยวข้อง (โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน ช่วงที่ 2 จากสะพานข้ามคลองลาดพร้าวถึงถนนเทพรักษ์) มูลค่า 101.13 ล้านบาท 4.โครงการจ้างก่อสร้างตามแผนรายประมาณการ กิจกรรมบำรุงรักษาทางหลวง ประจำปี 64 รหัสงาน 27200 งานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 106 ตอน ดอนไชย-ห้วยหญ้าไทร ตอน 1 มูลค่า 19.53 ล้านบาท
5. โครงการจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวงเพื่อคืนสู่สภาพอย่างยั่งยืน ในทางหลวงหมายเลข 4 ตอนควบคุม 1204 ตอน ตรัง-เขาพับผ้า มูลค่า 43.15 ล้านบาท 6.โครงการจ้างก่อสร้างงานบำรุงถนนสาย ภก.4018 แยกทางหลวงหมายเลข 4031 – บ้านโคกโตนด อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มูลค่า 14.58 ล้านบาท 7.โครงการจ้างเหมางานทำการฟื้นฟูทางหลวงเพื่อคืนสู่สภาพอย่างยั่งยืน ทางหลวงหมายเลข 4238 ตอนไม้หลา-ลานสกา มูลค่า 22.39 ล้านบาท และ 8.โครงการจ้างก่อสร้างตามแผนรายประมาณการ กิจกรรมบำรุงรักษาทางหลวง ประจำปี 64 รหัสงาน 27200 งานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 1349 ตอนควบคุม 0100 ตอนสะเมิง – วัดจันทร์ ตอน 1- 3 มูลค่า 47.50 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานที่รอผลประมูลงานเพิ่มอีกกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 1/64 นี้ โดยบริษัทมีความพร้อมในการรับงานทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องจักร – เครื่องมือ ที่สามารถรองรับงานได้ทันที
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน ขนาดกำลังผลิต 2.5 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 189.77 ล้านบาท บริษัทได้ทำการส่งมอบงานให้กับเจ้าของโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรับรู้รายได้ที่เหลือจากโครงการดังกล่าว มูลค่า 4.71 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กฟผ. เตรียมทำพิธีเปิดในช่วงเดือน ก.พ. 64
“RT มีแผนเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานสร้างอุโมงค์ งานท่อร้อยสายไฟใต้ดินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า งาน Slope Protection และงานอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสรับงานใหม่อีก เพื่อเพิ่ม Backlog ให้สูงขึ้น โดยบริษัทมีนโยบายรักษา Backlog ต่อปีไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท” นายชวลิตกล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 63 บริษัทคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 2,800 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10 -15% สาเหตุที่รายได้รวมเติบโตเกินเป้าหมาย เนื่องจากมีปริมาณงานมากขึ้น และส่งมอบงานได้เร็วกว่าแผน จากความชำนาญและเชี่ยวชาญงานด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิคโดยเฉพาะ พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 22-24% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 9 %
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหาฯดัง กระหน่ำโปรโมชั่น อัดแคมเปญ ลดราคาโครงการที่อยู่อาศัย
อสังหาฯเจ้าดัง เดินเกมอัดแคมเปญ โปรโมชั่น ระบายสต็อกโครงการที่อยู่อาศัย แสนสิริ สานต่อ “ผ่อนให้ 24 เดือน” ขณะมั่นคงฯ ผุด “ALL FREE” ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ด้านเมเจอร์ ขนทัพ 8 โครงการคอนโดฯ ลดแรงสูงสุด 1 แสนบาท
ผลกระทบของ Covid-19 ที่ลุกลามไปทุกภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลอดปี 2563 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการเปิดโครงการใหม่ออกไป และหันไปอัดโปรโมชั่นเพื่อระบาย Stock แทน ขณะปี 2564 เปิดศักราชใหม่ มาพร้อมกับการระบาดระลอกใหม่นั้น กลยุทธ์เพื่อหวังเพิ่มยอดขาย และการโอนกรรมสิทธิ์ ผ่านการออกแคมเปญ โปรโมชั่น ลดราคา โครงการที่อยู่อาศัย จึงถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
เริ่มตั้งแต่ค่ายใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ขยายแคมเปญ “แสนสิริ ผ่อนให้ 24 เดือน*”อีกครั้ง หลังจากได้ผลตอบรับดีจากลูกค้าตลอดช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา จากการที่เมื่อจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องมีภาระใดๆ ไปถึง 24 เดือน นำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ตัดกังวลใจจากทั้งภาวะเศรษฐกิจหรือการงาน มีเวลาเตรียมตัวสบายๆ ยาวไปถึง 2 ปี ครอบคลุม 59 โครงการพร้อมอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ วันนี้ – 31 มี.ค. 2564 ได้แก่ คอนโดมิเนียม 9 โครงการ อาทิ XT Ekkamai เริ่ม 4.59 ล้าน ไลฟ์สไตล์คอนโดพร้อมอยู่ ใจกลางเอกมัย มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลุดจากคำว่าธรรมดา, oka HAUS เริ่ม 3.9 ล้าน รีสอร์ทคอนโดพร้อมอยู่ใกล้ทองหล่อ, เดอะ เบส สะพานใหม่ เริ่ม 2.39 ล้าน คอนโดใหม่ ก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าให้ครบ พร้อมเข้าอยู่*, ดีคอนโด ธาร เริ่ม 1.79 ล้าน คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใจกลางจรัญฯ ห้องแต่งครบ* พร้อมอยู่ และ บ้าน คอนโดฯ และทาวน์โฮมพร้อมอยู่รวม 50 โครงการ อาทิ อณาสิริ บางนา เริ่ม 2.29 ล้าน* บ้านและทาวน์โฮมวิวทะเลสาบ เปิดเฟสใหม่โซนคลับเฮาส์, อณาสิริ ชัยพฤกษ์ – วงแหวน เริ่ม 3.99 ล้าน* เปิดเฟสใหม่ บ้าน 4 ห้องนอน ติดถ.ใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า และเซ็นทรัล เวสต์เกต, บุราสิริ บางนา เริ่ม 4.69 ล้าน*เปิดโซนใหม่ใกล้คลับเฮาส์ รับแพ็คเกจช่วยโอน พร้อมแอร์ห้องนอนใหญ่* และเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา เริ่ม 15 ล้าน เฟสใหม่ บ้าน 100 ตร.วา ใกล้สวนส่วนกลางติดตั้งนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น PM2.5 และไวรัส เป็นต้น
ขณะที่บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ (MK) ออกโปรโมชั่น “ALL FREE” ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน เมื่อจองบ้าน และ ทาวน์โฮม พร้อมโอน ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 – 8 ล้านบาท อาทิ ฟรี! ค่าธรรมเนียมการโอน* ฟรี! ค่าบริการสาธารณะสูงสุด 3ปีแรก* ฟรี! ค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟ* ฟรี! ค่าจดจำนอง* ฟรี! ประกันสุขภาพ จากวิริยะประกันภัย 1 ปี*
สำหรับโครงการที่ร่วมรายการ ได้แก่ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี, ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา, ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา, ชวนชื่น ทาวน์ ราชพฤกษ์-345, ชวนชื่น ทาวน์ แก้วอินทร์-บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1, ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ, ชวนชื่น ทาวน์ บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ วิลเลจ บางนา, ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง3 พร้อมส่วนลดเพิ่มอีก 300,000 บาท* สำหรับโครงการ ชวนชื่น พาร์ค ปิ่นเกล้า-กาญจนา ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2564 นี้ เท่านั้น
อีกค่าย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ขนทัพ 8 คอนโดพร้อมอยู่ ฉลองเปิดศักราชใหม่ ส่งแคมเปญ MOOORE LUCKY โชคดี 2 ต่อ ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน พร้อมส่วนลดสูงสุด 1 แสนบาท” เริ่ม 2.99 ล้านบาท ถึง 31 ม.ค. นี้ เพื่อชดเชยแก่ผู้ที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไม่ทันนโยบายลดค่าโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลืออย่างละ 0.01% ของรัฐบาลที่สิ้นสุดลงเมื่อสิ้นปี 2563 เนื่องจากเราเห็นว่าการลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมส่วนลดเพิ่มเติมในแต่ละโครงการ เพื่อหวังทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่เข้าร่วมแคมเปญ ทั้งหมด 8 โครงการ ได้แก่
1.มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ (Maestro 01 Sathorn-Yenakat) 2 ห้องนอน เริ่มต้น 8.2 ล้านบาท
2.มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 (Maestro Ratchada-Rama 9) 1 ห้องนอน เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
3.มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี (Maestro 14 Siam-Ratchatewi) 2 ห้องนอน ราคาเดียว 7.2 ล้านบาท
4.มาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา (Maestro 19 Ratchada 19-Vipha) 1 ห้องนอน เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
5.เอ็ม จตุจักร (M Jatujak) 2 ห้องนอน เริ่มต้น 6.6 ล้านบาท
6.เมทริส พระราม 9-รามคำแหง (Metris Rama 9-Ramkumhang) 1 ห้องนอน เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
7.เมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao) 1 ห้องนอน เริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
8.รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา (Reflection Jomtien Beach Pattaya) 2 ห้องนอน เริ่มต้น 8.5 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เว้นรีดภาษีเงินได้4มาตรการรัฐสู้โควิด
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินสนับสนุนหรือประโยชน์ ที่ประชาชนได้รับจากมาตรการหรือโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล อันเนื่องมาจากการเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบจาก โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) รวม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” “โครงการคนละครึ่ง” และ “โครงการกำลังใจ”
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนและประโยชน์อื่นใดที่ประชาชนได้รับในปีภาษี 2563 จากมาตรการหรือโครงการที่ประชาชนได้รับจากรัฐบาลรวม 4 มาตรการ ประกอบด้วย โครงการ“เราไม่ทิ้งกัน” ชดเชยรายได้ให้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” “โครงการกำลังใจ” และ “โครงการคนละครึ่ง”
สำหรับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังเห็นชอบมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้การบริโภคภายในประเทศขยายตัว เป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวมถึงช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และภาคธุรกิจอื่น ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“สมาพันธ์แบดโลก” เผยผลตรวจ “เนห์วาล” แข่งต่อได้ ส่วนทีม “อียิปต์” เสี่ยงสูง
สหพันธ์แบดมินตันโลกและสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงยืนยันว่า นักกีฬา 3 ใน 4 คนที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ตามรายงานเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นในวันแรกของการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ของ สามารถกลับเข้าสู่การแข่งขันได้ หลังการตรวจเชื้อซ้ำมีผลออกมาเป็นลบ
นักกีฬา 4 รายดังกล่าวประกอบด้วย ไซนา เนห์วาล จากอินเดีย, เอชเอส ปรันนอย จากอินเดีย และโจนส์ รัลฟี แจนเซน จากเยอรมนี และอัดฮัม ฮาเต็ม เอลกามัล จากอียิปต์ โดยเอลกามัล ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขัน
ในรายของ เนห์วาล และปรันนอย ถูกนำตัวไปยังโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 ขณะที่แจนเซน และเอลกามัล กักตัวอยู่ในโรงแรม ด้านคาสยัป ปารุปัลลี สามีของเนวัลห์ ได้รับแจ้งให้ทำการกักตัวเช่นกัน เนื่องจากทั้งคู่พักอยู่ห้องเดียวกันในโรงแรมที่พัก
หลังการตรวจเชื้อซ้ำของนักกีฬาทั้ง 4 คน ผลปรากฏว่า ผลการตรวจของทั้ง ปรันนอย, แจนเซน และเอลกามัล มีผลออกมาเป็นลบ ขณะที่เนห์วาล มีผลเป็นบวกอีกครั้ง
จากนั้นผู้เล่นทั้งสี่คนเข้ารับการตรวจ PCR ครั้งที่สองและการตรวจเลือดเพื่อยืนยันเพิ่มเติม และในช่วงเย็นของวันที่ 12 มกราคม 2564 สหพันธ์แบดมินตันโลกได้รับแจ้งผลการตรวจ พร้อมการวินิจฉัยและตรวจสอบโรคจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทีมแพทย์ 6 คน ร่วมกันทำงานมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของการแข่งขันแบดมินตัน 3 ศึกใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 12-31 มกราคมนี้
บทสรุปที่ได้มีดังนี้ :
-ผู้เข้าแข่งขันคือ เนห์วาล ปรานนอย และแจนเซน ได้ผลตรวจ PCR ออกมาเป็นบวก และมีค่า Antibody lgG เป็นบวกเช่นกัน ซึ่งแปลว่านักกีฬาทั้งสามคนได้รับการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้แปลว่าปัจจุบันพวกเขายังคงมีเชื้ออยู่ ยังได้มีการสรุปว่านักกีฬาทั้ง 3 คนได้ติดเชื้อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว และทางผู้จัดการแข่งขันจึงรู้สึกพึงพอใจกับผลที่ได้และมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นๆ
-ในขณะที่ เอลกามัล ได้รับผลตรวจ PCR เป็นบวก แต่ค่า Antibody IgG เป็นลบ ซึ่งแปลว่าเขา ไม่เคยมีการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้และเพราะเหตุนั้นทำให้เค้าไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัส คณะกรรมการจึงแนะนำให้เขาถอนตัวจากการแข่งขันในทันที
ส่วนโดฮา ฮานี เพื่อนร่วมทีมคู่ผสมของเอลกามัล จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ และทำการตรวจหาเชื้อโควิด และจะถูกแยกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 10 วัน ขณะที่แมตช์การแข่งขันคู่ผสมของเขากับฮานี ที่กำหนดแข่งขันในช่วงเย็นวันอังคารที่ 12 มกราคม 2564 ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไป
สหพันธ์แบดมินตันโลกและสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยจะปฏิบัติทำตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในบับเบิลของการแข่งขัน ด้วยมาตรการติดตามอย่างเข้มงวด
จากการยืนยันผลการตรวจเชื้อซ้ำทำให้ทีมชาติอียิปต์ได้รับการจัดอันดับเป็นทีมที่มีความเสี่ยงสูงจากสาธารณสุขไทย และได้ขอให้นักกีฬาอียิปต์ทั้งหมดอยู่ในการแยกกักตัวในห้องพัก เพื่อเตรียมทำการตรวจ PRC เพิ่มอีกครั้งต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
4 สัญญาณอันตราย “ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย” ผิดปกติ
ในยุคที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บและมลภาวะที่อาจก่อให้เกิดความเจ็บป่วย ระบบภูมิคุ้มกันโรค (Immune System) เป็นกลไกการทำงานของร่างกายเสมือนปราการด่านแรกในการต้านโรคภัยไข้เจ็บและป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรือเมื่อหลุดเข้ามาแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันก็จะพยายามทำลายกำจัดสิ่งแปลกปลอม โดยเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อร่างกายเกิดติดเชื้อหรือได้รับเชื้อโรคโดยตรง ระบบภูมิคุ้มกันจะผลิตโปรตีนที่ชื่อ แอนติบอดี (Antibodies) มีฤทธิ์ในการต้านพิษ ทำให้ผู้ป่วยแม้จะเกิดอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ประเภทของภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- ภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด (Innate หรือ natural immunity) หรือเป็นการป้องกันที่ผิวหนังหรือเยื่อบุต่างๆ ได้แก่ กลไกทาง กายภาพ กลไกทางเคมี และกลไกทางพันธุกรรม เช่น ผิวหนัง เยื่อบุผิว กระเพาะอาหาร น้ำตา น้ำลาย ระบบขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ และเหงื่อ
หากสิ่งแปลกปลอมหลุดรอดผ่านไปได้ ระบบภูมิคุ้มกันจะทำปฏิกิริยาทางเคมีระดับเซลล์ เช่น เม็ดเลือดขาว จะเกิดกระบวนการจับกินเชื้อโรค (Phagocytosis) หรือ เคลื่อนย้ายเม็ดเลือดขาว Neutrophilic granulocyte (phagocyte) ทำให้เกิดอาการอักเสบ (Phagocytosis) หรือ ปวด บวม แดง ร้อน
- ภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ (Adaptive or Acquired Immunity) ภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับสิ่งแปลกปลอม ในกรณีการป้องกันทั้งสองชั้นไม่สามารถกีดกันเชื้อโรคได้ ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อโรคอย่างจำเพาะเจาะจงผ่านเม็ดเลือดขาว โดยเซลล์ B lymphocyte จะสร้าง Antibody และ T lymphocyte สร้าง T cells ที่สามารถสร้างการตอบสนองที่หลากหลายทั้งต่อเชื้อในเซลล์และนอกเซลล์
ภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะสามารถจดจำเชื้อโรคได้ ทำให้การตอบสนองต่อครั้งหลังรวดเร็ว มีประสิทธิภาพดีและมีปริมาณมากกว่าการตอบสนองในครั้งแรก
บางคนแข็งแรงนานๆ จะป่วยสักครั้ง ขณะที่บางคนป่วยง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันของคนมีความแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามไลฟสไตล์ที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำลายภูมิคุ้มกันได้ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย ความเครียดสะสม และรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นน้ำตาล และรับประทานผักและผลไม้น้อยทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
จับสังเกต 4 อาการโรคที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง อาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย จากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
- อาการอักเสบรุนแรงของข้อโดยเฉพาะข้อนิ้วมือและข้อนิ้วเท้า ข้อฝืดตึงตอนเช้านานกว่า 1 ชั่วโมง อาจเป็นสัญญาณโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของการควบคุมภูมิคุ้มกันของร่างกาย(autoimmune disease) หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลให้ข้อถูกทําลายและเกิดความพิการ หรือระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ หนึ่งในโรคนั้นคือโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าโรคพุ่มพวง
- ผิวหนังมีลักษณะแดง ตกสะเก็ดเป็นขุยสีขาว เป็นผื่นแดงนูน เกิดการอักเสบของผิว ผิวแห้งมากจนแตกและมีเลือดออก หนังศีรษะลอกเป็นขุย เล็บมือและเท้าหนาขึ้น มีรอยบุ๋ม ผิดรูปทรง ปวดข้อต่อและมีอาการบวมตามข้อต่อ และยังทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บ คัน หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง ซึ่งรู้จักกันในชื่อ โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) จัดเป็นโรคไม่ติดต่อ
- ปวดหลังช่วงล่างและสะโพกร่วมกับอาการหลังตึงหรือรู้สึกยึดติดในบริเวณดังกล่าว เรื้อรังนานร่วมเดือนหรือเป็นปี อาจรู้สึกปวดหรือมีอาการข้อติดบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น หลัง ก้น ข้อต่อไหล่ ข้อต่อระหว่างฐานกระดูกสันหลังกับกระดูกเชิงกราน บางรายมีอาการตาอักเสบเป็นๆ หายๆ อยู่บ่อยครั้ง
สัญญาณเบื้องต้นของโรคข้อสันหลังอักเสบยึดติด (AS: Ankylosing Spondylitis) เกิดจากการระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความผิดปกติในการแยกแยะเนื้อเยื่อของร่างกายกับสิ่งแปลกปลอมอื่น เป็นโรคที่พบในคุณผู้ชายมากกว่าคุณผู้หญิงประมาณ 3 เท่า และเกิดในช่วงอายุระหว่าง 15-30 ปี โรคนี้มีอุบัติการณ์ต่ำ คนรู้จักโรคนี้ไม่มากนัก ทำให้ได้รับการรักษาล่าช้า
- อาการปวดท้อง ท้องร่วง ถ่ายมีเลือดและมูกปน ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง สัญญาณโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ (Inflammatory Bowel Disease: IBD) เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันเห็นว่าอาหาร แบคทีเรียและไวรัสที่ไม่เป็นอันตรายที่อยู่ภายในลําไส้เป็นสิ่งแปลกปลอมและพยายามจำกัดออก เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง
จะเห็นได้ว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันนั้นมีความหลากหลายของอาการมากกว่าที่เราคิด ไหนจะส่งผลต่อการอักเสบตามข้อต่อ ความผิดปกติที่ผิวหนัง การอักเสบของกระดูกสันหลังที่นำมาซึ่งความพิการ รวมไปถึงอาการปวดท้องเรื้อรัง โรคต่างๆเหล่านี้น้อยคนนักจะรู้ถึงต้นตอโรคว่ามาจากระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้บ่อยครั้งมีการวินิจฉัยที่คาดเคลื่อนและได้รับการรักษาล่าช้า เพราะฉะนั้นหากถูกวินิจฉัยได้เร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาหายเป็นปกติก็มีเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ลดความทรมานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สมัยนี้เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการรักษามีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ประกอบกับมีคุณหมอเก่งๆ หลายท่าน ที่พร้อมให้การรักษา ดังที่เราได้รวบรวมรายชื่อมาให้ ดังต่อไปนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สรุปกระชับ! Especially VS Specially ใช้ต่างกันอย่างไร
Especially VS Specially ใช่อย่างไรไม่ให้งง
Especially VS Specially เชื่อว่าสองคำนี้เราได้ยินกันบ่อยๆแน่นอน แต่ถ้าจะเอาไม่ค่อยได้นำมาใช้เพราะว่าไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันตรงไหน และไม่รู้ว่าควรใช้ในบริบทใดบ้าง แต่จะบอกว่าสองคำนี้ฝรั่งนิยมใช้กันบ่อยมาก ดังนั้นเราต้องมาดูกันซักหน่อยแล้วละว่ามันต่างกันตรงไหน และใช้ยังไงให้ถูกต้องปังๆ
มาเริ่มกันเลย
Especially และ Specially เป็น Adverb โดยปกติจะทำหน้าขยายคำกริยา(Verb)และคำคุณศัพท์(Adjective)
Especially และ Specially มีความหมายว่า โดยเฉพาะ และ พิเศษกว่าสิ่งอื่น สามารถใช้แทนกันได้ในกรณีที่บริบทนั้นให้ความหมายเหมือนกัน
Especially
Especially หมายถึง โดยเฉพาะ มากกว่าปกติ มากกว่าสิ่งอื่น
Especially means particularly or above all
ยกตัวอย่างเช่น
I love animals, especially the cat. ฉันรักสัตว์ โดยเฉพาะแมว
She loves flowers, especially jasmine. หล่อนชอบดอกไม้โดยเฉพาะดอกมะลิ
We came to win the game and I thought we played especially well in the first half.
เราชนะในเกมส์นี้และคิดว่าเราเล่นได้ดีอย่างยิ่งในครึ่งแรกของเกมส์
I am especially grateful to all my family and friends who supported me.
ฉันขอบคุณมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวและเพื่อนๆที่สนับสนุนฉัน
โดยส่วนใหญ่จะใช้ especially ก่อน preposition เสมอ
ยกตัวอย่างเช่น
This year is too hot, especially in May. ปีนี้อากาศร้อนมากโดยเฉพาะเดือนเมษา
หมายเหตุ Especially จะไม่ใช้นำหน้าประโยคหรือขึ้นต้นประโยค
ยกตัวอย่าง
Science is interesting. Biology, especially, is the most intriguing.
หากใช้เป็น Science is interesting. Especially, Biology is the most intriguing. ไม่ถูกต้อง
Specially
Specially มีความหมายว่า เป็นพิเศษ ใช้สำหรับการเน้นวัตถุประสงค์
Specially = extremely or in particular
ยกตัวอย่าง
She’s not specially keen on cheese. หล่อนไม่ชอบชีสเป็นพิเศษ
I wasn’t specially interested in his book. ฉันไม่ได้สนใจหนังสือของเขาเป็นพิเศษ
I’m specially interested in watching this movie. ฉันสนใจที่จะดูหนังสือเรื่องนี้เป็นพิเศษ (สนใจแบบที่อยากดูให้ได้ )
Are you specially interested in choosing which ring? คุณสนใจอยากเลือกแหวนไหนเป็นเป็พิเศษไหม
The trip last week was especially well relaxed. การไปเที่ยวเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วเป็นการพักผ่อนที่มีดีเป็นพิเศษ
She has her wedding dress made specially for her by a tailor in French.
หล่อนสั่งตัดชุดแต่งงานพิเศษสุดสำหรับหล่อนโดยช่างในฝรั่งเศส (ตัดชุดแบบพิเศษใส่ไข่)
โดยปกติ Specially จะให้ความหมายทางรู้สึกที่พิเศษกว่า Especially
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
ซัมซุง อวดวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ในงาน CES 2021
กรุงโซล, เกาหลีใต้ ซัมซุง เผยวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์โชว์ ประจำปี 2564 (CES 2021) โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ่านการถ่ายทดสดงานแถลงข่าว กล่าวถึงการต่อยอดนวัตกรรมให้เป็นโซลูชันที่ครอบคลุม อัจฉริยะ เชื่อมต่อ และใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โลกและการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป หลายคนต้องเผชิญกับวิถีชีวิตแบบใหม่ ที่การใช้ชีวิตภายในบ้านทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น” เซบาสเตียน ซางประธานฝ่ายวิจัยของซัมซุง ซึ่งเป็นศูนย์ค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคกล่าวถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตภายในบ้านว่า “นวัตกรรมของซัมซุงถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานอันเป็นเอกลักษณ์ และสะดวกสบาย โดยผู้ใช้สามารถแสดงออกซึ่งตัวตนผ่านการใช้งานได้ เราตั้งใจทำงานอย่างหนักในการรังสรรค์นวัตกรรมเพื่ออนาคต ที่มีปัญญาประดิษฐ์เป็นหัวใจหลัก ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม”
ในปีที่ผ่านมา ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวก กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมี ผู้คนต่างมองหาโซลูชันที่จะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช่นนี้ ทีวีคือเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความบันเทิง และในบางครั้งก็เป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายด้วย
ส่วน Chromebooks ก็กำลังกลายเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเรียน รวมถึงตู้เย็นอัจฉริยะที่สามารถช่วยจัดการรายการซื้อของหรือตระเตรียมเมนูอาหาร และที่สำคัญที่สุดคือสมาร์ทโฟนที่ทุกคนขาดไม่ได้
ซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยนวัตกรรมที่เราเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ได้แก่:
- ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex: ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex: ตู้เย็น Bespoke รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับฟีเจอร์การเปลี่ยนหน้าบานตู้เย็น ให้เข้ากับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ โดยมีสีสันและวัสดุมากมายให้เลือก ซึ่งช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ตู้เย็นแบบ 4 ประตูจะเริ่มวางขายในอเมริกาเหนือ พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Beverage Center ที่ทำให้เข้าถึงที่กดน้ำได้รวดเร็วขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น Bespoke 4-Door Flex ยังมีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติแบบคู่ ซึ่งทำน้ำแข็งได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบก้อน และแบบเกร็ด ให้เหมาะกับเครื่องดื่มทุกรูปแบบ
- Lifestyle TV: สุดยอดนวัตกรรมจากซัมซุง ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle TV ได้แก่The Serif (เดอะ เซรีฟ), The Frame (เดอะ เฟรม), The Sero (เดอะ เซโร) และทีวีภายนอกอาคารที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง The Terrace (เดอะ เทอร์เรซ) รวมถึง The Premiere (เดอะ พรีเมียร์) โปรเจคเตอร์ความละเอียดระดับ 4K เพื่อยกระดับประสบการณ์การดูภาพยนตร์ภายในบ้าน
- ฟีเจอร์ SmartThings Cooking: บริการใหม่จากแอพ Samsung SmartThings ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การทำอาหาร ด้วยฟีเจอร์Meal Planner จาก Whisk’s Food AI ที่สามารถแนะนำเมนูอาหารของทั้งอาทิตย์จัดทำรายการซื้อเครื่องปรุงอาหารตามความต้องการ และสามารถเชื่อมต่อร้านค้าเพื่อซื้อสินค้าได้โดยตรงผ่านตู้เย็น Family Hub หรือผ่านสมาร์ทโฟน
- ฟีเจอร์ Samsung Health Smart Trainer บน Samsung 2021 TVs: Samsung Health สามารถแปลงโฉมให้บ้านกลายเป็นยิมออกกำลังกาย พร้อมกับ Smart Trainer เทรนเนอร์ส่วนตัวที่สามารถติดตามและวิเคราะห์การวางท่าระหว่างออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงส่งผลลัพธ์ และประมาณการเผาผลาญแคลอรี่ให้หลังการออกกำลัง นอกจากนี้ Samsung Health Smart Trainer ยังยกระดับการออกกำลังกายที่บ้านด้วยวิดีโอ และการสั่งการด้วยเสียงผ่าน Bixby อีกด้วย
ซัมซุงคือผู้นำด้านนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ โดยมีศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาด้าน AI อยู่ถึง 7 แห่งทั่วโลก ซัมซุงกำลังสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตในบ้านแบบใหม่ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มี AI ตั้งแต่เครื่องซักผ้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ น้ำยาซัก และรอบการซัก ไปจนถึงทีวีที่มาพร้อมกับ Quantum AI Processor สามารถยกระดับสัญญาณภาพ HD ให้เป็นภาพระดับ 8K ได้
เทคโนโลยีที่โดดเด่นในงานแถลงข่าวของซัมซุง ได้แก่
- เครื่องดูดฝุ่น JetBot 90 AI+: ในปี 2564 เครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบจดจำสิ่งของ (object recognition technology) เพื่อค้นหา และแยกแยะสิ่งของต่างๆ เพื่อวางแผนเส้นทางการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด JetBot 90 AI+ มี LiDAR และเซนเซอร์ 3 มิติ ที่ทำให้สามารถหลบหลีกสายเคเบิล และสิ่งของขนาดเล็กได้ขณะทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของบ้านนอกจากนี้ยังมีกล้องในตัวที่เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน SmartThings ให้สามารถสอดส่องทุกพื้นที่ภายในบ้านได้ง่ายขึ้น
- Samsung Bot Care นวัตกรรมหุ่นยนต์ล่าสุดจากซัมซุง ถูกดีไซน์ให้ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อจดจำ และตอบสนองต่อพฤติกรรมของมนุษย์ สามารถเป็นทั้งผู้ช่วยและเพื่อนได้ในเวลาเดียวกัน โดยสามารถดูแลเรื่องต่างๆ ในชีวิตของผู้ใช้ เรียนรู้ตารางกิจกรรม และพฤติกรรมของผู้ใช้ พร้อมส่งการแจ้งเตือนในวันยุ่งๆ
- Samsung Bot Handy: หุ่นยนต์ที่อยู่ในขั้นพัฒนา จะมีการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้เพื่อจดจำ สามารถยกของที่มีขนาด รูปทรง และน้ำหนักต่างๆ ภายในบ้านได้เพื่อช่วยงานบ้านSamsung Bot Handy จะสามารถจำแนกวัสดุของสิ่งของเพื่อกำหนดแรงบีบที่ใช้ในการจับ และเครื่องย้ายสิ่งของได้ ทำงานประหนึ่งผู้ช่วยที่ไว้ได้คนหนึ่ง ทั้งเก็บห้องให้สะอาดเรียบร้อย ไปจนถึงเก็บจานชามหลังมื้ออาหาร
เพื่อก้าวสู่อนาคต ซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี AI ในรูปแบบที่จับต้องได้ เพื่อมาช่วยการใช้ชีวิตประจำวัน ซัมซุงได้ต่อยอด Samsung Bot Retail ช่องทางหน้าร้านแบบใหม่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำแก่ผู้บริโภค และ GEMS นวัตกรรมเพื่อสุขภาพแบบ exoskeleton ที่ช่วยการเคลื่อนไหว นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้เทคโนโลยีสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ โดยยกระดับการชีวิตและการบริโภค ในไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ซัมซุงยังได้เผยวิสัยทัศน์ที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนา และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคนในแนวคิด “Better tomorrow for all” บริษัทเชื่อว่าการก้าวไปยังอนาคตไม่ได้มีเพียงหนึ่งหนทาง แต่อนาคตที่มีความยั่งยืนจำเป็นต้องก้าวเดินไปอย่างรอบคอบด้วยการลงทุนในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้ซัมซุงจึงตั้งใจพัฒนา 3 เรื่องสำคัญ ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการรุดหน้าทางเทคโนโลยี ได้แก่ เรื่องของความยั่งยืน การศึกษา และการเข้าถึงเทคโนโลยี
“ที่ซัมซุง เราค้นหาวิธีที่จะสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน และดีกว่าเดิมอยู่เสมอ” ซานดีฟรานา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซัมซุง กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของซัมซุงว่า “เราใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้คนและสังคม เราจึงมอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่จะเปลี่ยนแปลงวันนี้เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่าให้แก่ผู้บริโภค”
ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ซัมซุงได้พัฒนาโซลูชัน ด้านโปรแกรม และบรรจุภัณฑ์ ที่ช่วยทำให้วงจรผลิตภัณฑ์ มีความยั่งยืนตั้งแต่ต้นจนจบ
- Galaxy Upcycling at Home: ซัมซุงประกาศการอัพเดตโปรแกรม Galaxy Upcycling ในชื่อ Galaxy Upcycling at Home ซึ่งเป็นโปรแกรมใหม่ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถประยุกต์ใช้มือถือ Galaxy เครื่องเก่า ให้เป็นอุปกรณ์ IoT รูปแบบต่างๆ ทำให้อายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ยาวนานขึ้น
- TV Eco Packaging: ซัมซุงยังได้ประกาศขยายการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในทีวี QLED ทีวี UHD ผลิตภัณฑ์กลุ่มหน้าจอ และเครื่องเสียงรุ่นปี 2021 นี้ ด้วยจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมทำให้บริษัททุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันเพื่อความยั่งยืน อาทิ รีโมทควบคุมโซลาเซลล์ (Solar Cell Remote Control) สร้างจากพลาสติกรีไซเคิลบางส่วน และสามารถชาร์จพลังงานได้จากแสงภายใน และภายนอกอาคารได้ เพื่อลดปริมาณขยะจากถ่าน
บริษัทมีความเชื่อที่ว่าคนรุ่นต่อไปจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน จึงได้มุ่งเน้นเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาผ่านโครงการ Samsung Solve for Tomorrow ที่ผลักดันให้เด็กรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาของชุมชน และSamsung Innovation Campus ที่เน้นสร้างเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีเพื่อโอกาสทางอาชีพ
ซัมซุงยังได้เน้นย้ำถึงการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ แอพ SeeColors ถูกดีไซน์มาเพื่อผู้ที่มีอาการตาบอดสี (color vision deficiency หรือ CVD) ให้สามารถรับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด และแอพ Sign Language Zoom ที่ช่วยให้ทุกคนแม้กระทั่งผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดได้ง่ายขึ้น
ด้วยความเข้าใจถึงความยากลำบากในการบริหารเวลาระหว่างโลกดิจิทัลและโลกแห่งความจริง ซัมซุงนำเสนอฟีเจอร์ Digital Wellbeing สำหรับช่วยควบคุมและจัดการเวลาที่ใช้ในโลกดิจิทัล เพื่อทำให้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นและกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้แก่ตนเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“สะเดา” หวานเป็นลมขมเป็นยา
“สะเดา” หวานเป็นลมขมเป็นยา
ถ้าพูดถึง”สะเดา” เราคงนึกถึงสมุนไพรรสขมที่มีประโยชน์ และคิดถึงเมนูสูตรเด็ด ”สะเดาน้ำปลาหวาน” ที่กินคู่กับปลาดุกย่างที่แสนอร่อย
ข้อมูลของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า สะเดาเป็นผักสมุนไพรพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โปรตีน แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
สรรพคุณทางยาของสะเดา
1. ดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย ใบสะเดาเมื่อนำมาต้มในน้ำร้อน ใช้จิบอย่างน้อยวันละครั้ง ล้างพิษในกระแสเลือด กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
2. รักษาโรคผิวหนัง สารเกดูนิน (Gedunin) และ นิมโบลิดี (Nimbolide) ในใบและเมล็ดมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียและเชื้อไวรัสสูง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อราตามเท้า เล็บมือ เล็บเท้า กลาก-เกลื้อน หิด เริม แผลจากโรคสะเก็ดเงิน (เชื้อแบคทีเรีย) หัด ลมพิษ ผดผื่นคัน หูด และอีสุกอีใส
3. แก้ไข้มาเลเรีย สารเคมีกลุ่มลิโมนอยด์ (Limonoids) ได้แก่ สารเกดูนิน และ นิมโบลิดี ในใบและเมล็ดสะเดา สามารถยับยั้งเชื้อฟัลซิปารัม (P.Falciparum) ซึ่งเป็นเชื้อไข้มาลาเรียดื้อยาชนิดหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. รักษาโรคไขข้อ ขอบใบสะเดา เมล็ดสะเดา และเปลือกต้น เป็นส่วนที่นำมาใช้เป็นยารักษาโรคไขข้อได้ โดยช่วยลดอาการปวด บวมในข้อ ซึ่งอาจนำมาสกัดเป็นน้ำมันใช้ทาในบริเวณที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และอาการปวดหลังช่วงล่าง หรือนำใบมาต้มเป็นน้ำดื่มเพื่อรักษาอาการของโรครูมาตอยด์ โรคเกาต์ โรคกระดูกพรุน
5. ช่วยย่อยอาหาร ใบสะเดา สามารถนำมาทำเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำดี ช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น อีกทั้งน้ำดีที่ถูกกระตุ้นสร้างออกมานั้นจะช่วยย่อยอาหารประเภทไขมันได้ดีขึ้นด้วย
6. บำรุงสุขภาพช่องปาก บำรุงเหงือกและฟัน นิยมนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในยาสีฟันทั่วไป ช่วยรักษาโรครำมะนาด โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก และลดอาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
7. ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก และมะเร็งมีผลวิจัยบางชิ้นเผยว่า สารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) และสารลิโมนอยด์ (Limonoids) ที่พบในเปลือก ใบ และผลสะเดา มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก และมะเร็ง
8. คุมกำเนิด ใช้น้ำมันสะเดาเพื่อคุมกำเนิดในผู้หญิงและผู้ชาย โดยใช้วิธีต่างกัน ผู้หญิงนั้นจะใช้น้ำมันสะเดาชุบสำลีทาบริเวณปากในช่องคลอด ส่วนผู้ชายจะใช้ฉีดน้ำมันสะเดาบริเวณท่อนำอสุจิ
9. บำรุงข้อต่อ สะเดาช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย
10. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน โดยจะยับยั้งการผลิตอินซูลินได้กว่าร้อยละ 50 และยังช่วยปรับสมดุลความอยากอาหาร
11. ดีท็อกซ์สารพิษในกระแสเลือด ทำให้มีปริมาณเลือดดีหมุนเวียนในร่างกายมากขึ้น
12. ต้านมะเร็งสารพอลิแซ็กคาไรด์ และสารลิโมนอยด์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย
13. ลดการติดเชื้อราในช่องคลอด
14. บำรุงหัวใจ ผลของต้นสะเดา หากนำมาต้ม ใช้จิบอย่างน้อยวันละครั้ง มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมดุลและแข็งแรง
ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า และ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณข้อมูลจาก med.mahidol.ac.th
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,350.00 | 26,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,707.00 | 25,878.12 | 26,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,536.30 | 23,290.31 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,365.60 | 20,702.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 768.00 | 11,642.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 597.00 | 9,050.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,769.00 | 26,818.04 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/01/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 | 24.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 | 23.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 22.54 | 22.54 | 22.54 | 22.54 | 22.54 | – | 22.54 | 22.54 | 22.54 | 22.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.29 | 19.29 | – | – | – | – | – | – | – | 19.29 |
เบนซิน 95 | 31.46 | – | – | – | 31.91 | – | 31.96 | 31.46 | – | 31.46 |
ดีเซล B7 | 24.49 | 24.49 | 24.89 | 24.49 | 24.49 | 24.49 | 24.49 | 24.49 | 24.49 | 24.49 |
ดีเซล | 21.49 | 21.49 | 21.89 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 | 21.49 |
ดีเซล B20 | 21.24 | 21.24 | 21.64 | 21.24 | 21.24 | – | 21.24 | 21.24 | – | 21.24 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 28.94 | 28.96 | 31.34 | 30.34 | – | – | – | – | – | 28.94 |
แก๊ส NGV | 13.12 | 13.12 | – | – | – | – | – | – | – | 13.12 |