10 อสังหาฯ ผนึก ไทยแลนด์ อีลิท ฟื้นตลาดต่างชาติ
พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ไทยแลนด์ อีลิท ประเดิมเปิดปี 2564 ประกาศจับมือ 10 พันธมิตรกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ผลักดันตลาด Elite Flexible One
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญ กับพันธมิตรทั้ง 10 ราย ของกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยครั้งนี้ ว่าเป็นการร่วมมือที่ทุกบริษัทต่างมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกันในการเชื่อมต่อตลาดต่างชาติด้วยโครงการบัตร Elite Flexible One เพื่อหวังกระตุ้นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ผ่านกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง
โดยหวังว่า 2 ปีที่ทำโครงการนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว สำหรับโครงการความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการช่วยทำให้กลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรที่มีศักยภาพในการซื้อสูง (Strong purchasing power) ได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ในการอยู่อาศัยในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น หรือสำหรับลูกค้าที่เตรียมตัวเกษียณมาใช้ชีวิตในประเทศไทย ตามเป้าหมาย High value tourism ด้วยการเชื่อมต่อลูกค้าที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย พร้อมกับเป็นการเพิ่มศักยภาพเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจกับพันธมิตรที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 10 รายได้แก่
บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด , บริษัท แสนสิริ จำกัด , บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) , บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) , บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) , บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) , บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด, บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
โดยแต่ละรายได้มีการนำโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่เข้าร่วมหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการมีหลากหลายรูปแบบให้ผู้สนใจได้เลือก โดยนักลงทุนชาวต่างชาติที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ในแต่ละโครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์พิจารณาเป็นสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิท ประเภท Elite Flexible One รับสิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าในการอยู่อาศัยระยะยาวในประเทศไทย ร่วมกับการบริการอำนวยความสะดวกในการเข้าออก และการอยู่อาศัยในประเทศไทย ยังไม่รวมถึงเอกสิทธิ์และเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กำหนด รวมทั้งด้านสิทธิประโยชน์ภาคธุรกิจและบริการต่าง ๆ จากเครือพันธมิตร เพื่อมุ่งเน้นให้สมาชิกได้รับบริการที่ดีที่สุด
ปัจจุบันโครงการบัตร Elite Flexible One มีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่เข้าร่วมหลายโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้ง 10 แห่ง รวม 46 โครงการ โดยรายชื่อโครงการที่ร่วมมือในการขายบัตร Elite Flexible One (EFO) สามารถตรวจสอบได้ที่ www.thailandelite.com การร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ผนวกพลังระหว่างพันธมิตรในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืน นายสมชัยกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ระเบียงเศรษฐกิจ‘อันดามัน’ หลังโควิด
ฐาปนา บุณยประวิตร
นายกสมาคมการผังเมืองไทย
และเลขานุการกฎบัตรไทย
Thapana.asia@gmail.com
การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอันดามันเกือบล่มสลาย เฉพาะจังหวัดภูเก็ต มูลค่าเศรษฐกิจเกือบร้อยละ 90 ที่ได้จากภาคการท่องเที่ยวและการบริการหดหายไป ส่วนจังหวัดกระบี่ พังงาและระนอง แม้มีภาคการเกษตรคอยหนุ่นเสริม แต่ภาคการท่องเที่ยวก็ยังเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อน ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอันดามันหลังโควิด-19 จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือครั้งใหญ่เพื่อทบทวนรูปแบบการพัฒนา ประสานจุดแข็งด้านตำแหน่งที่ตั้งและทรัพยากรธรรมชาติ สร้างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจวิถีใหม่ ในรูปของ “ระเบียงเศรษฐกิจอันดามัน” ทุกภาคส่วนต้องพิจารณาโครงสร้างการผลิตที่เหลือใช้ ศึกษาแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคัดเลือกสาขาเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพในการกระจายโอกาสไปยังทุกภาคส่วน พร้อมดำเนินการทันทีโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกจังหวัดของอันดามัน
วิกฤติโควิดในครั้งนี้ หน่วยวิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รายงานเรื่องธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมหลังโควิด-19 ว่า 11 เดือนแรกของปี 2563 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหดตัวลงร้อยละ 81.4 ไทยสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.5 ล้านล้านบาท จากที่เคยได้รับ 1.9 ล้านล้านบาทในปี 2562 เฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกอยู่ที่ร้อยละ 29.3 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ร้อยละ 69.7 ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั่วประเทศหดตัวลงร้อยละ 73.6 ที่กล่าวมานั้นเป็นภาพรวมของทั้งประเทศ ซึ่งหากประมาณการเฉพาะกลุ่มจังหวัดอันดามัน คาดกันว่า ทั้งจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะหดตัวลงไม่ต่ำร้อยละ 50 เทียบจากของประเทศ
ภายใต้ความยากลำบากของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และกฎบัตรไทย มีความเห็นสอดคล้องกันว่า เป็นเวลาที่เหมาะสมในการทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาอันดามันครั้งใหญ่ เป็นการทบทวนเพื่อวางแผนเผชิญเหตุและสร้างความยืดหยุ่นในการรองรับความเปลี่ยนแปลง ทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเดี่ยวทั้งด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานนั้น จริงๆ แล้วนับเป็นอนาคตที่ยั่งยืนของอันดามันหรือไม่ อันดามันมีความแข็งแกร่งด้านใดบ้างที่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หรือมีวิธีอย่างไรในการเผชิญปัญหาอย่างฉับพลันดังกรณีที่กำลังเกิดในขณะนี้
ประเด็นแรก โครงสร้างภาคการผลิต เฉพาะจังหวัดภูเก็ต มีห้องพักประมาณ 98,000 ห้อง ก่อนโควิดอัตราการเข้าพักเฉลี่ยร้อยละ 55 หลังโควิดค่าเฉลี่ยลดเหลือไม่ถึงร้อยละ 15 บางบริเวณแทบเหลือเป็นศูนย์ จากสภาวะการณ์ที่เป็นอยู่ จำเป็นต้องทบทวนขนาดกำลังการผลิตที่เหลือของโรงแรม พร้อมสร้างแบบจำลองการแก้ไข แน่นอนที่สุด การคาดการณ์ของหน่วยวิจัยแทบทุกสำนักเห็นตรงกันว่า หลังโควิด-19 จำนวนการไหลทะลักของนักท่องเที่ยวระยะไกลซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมกลุ่มจังหวัดอันดามันคงยากที่จะเห็นในโอกาสต่อจากนี้
ประเด็นที่สอง โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วและที่อยู่ในแผนการลงทุนใหม่ของภาครัฐและภาคเอกชน มีทิศทางให้บริการเพื่อกลุ่มเศรษฐกิจสาขาใด โครงสร้างพื้นฐานประเภทใดที่มีความยืดหยุ่นสามารถตอบสนองต่อความต้องการได้หลากหลายสาขาหรือตอบสนองได้กับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ประเด็นที่สาม สาขาเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง ประกอบด้วยสาขาอะไรบ้างที่เหมาะสมกับบริบทของอันดามัน และปัจจุบันได้รับการส่งเสริมหรือได้รับการวางแผนขยายฐานให้เติบโต ตอบสนองต่อการยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประชาชนในหลายระดับได้
ประเด็นสุดท้าย ภาคส่วนสำคัญๆ ที่เป็นองค์ประกอบของเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอันดามัน ได้มีโอกาสในการวางแผนหรือร่วมกันกำหนดอนาคตของพื้นที่มากน้อยเพียงใด มีการคาดการณ์อนาคตในรูปแบบ Strategic Foresight หรือการจำลองอนาคตร่วมบ้างหรือไม่
เริ่มจากประเด็นสุดท้าย ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และกฎบัตรไทย ได้ศึกษาภาพรวมการพัฒนาในอนาคตพบว่า รูปแบบโครงสร้างพื้นฐาน สาขาเศรษฐกิจ และโครงสร้างภาคการผลิต ไม่ได้พัฒนาไปในทิศทางที่จะสามารถนำอันดามันไปสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน ภาคการโรงแรมยังหวังพึ่งพาผู้เยี่ยมเยือนที่นับวันจะมีจำนวนที่ลดลง โครงสร้างพื้นฐานอยู่ในฐานะตอบสนองแค่ความต้องการขั้นพื้นฐาน ไม่ก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตและสร้างเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดเมือง
ดังบางตัวอย่างเช่น ความพยายามลงทุนโครงข่ายถนนเชื่อมต่อระหว่างศูนย์เศรษฐกิจและการส่งเสริมการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งนับว่าสวนทางกับรูปแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งในอนาคตที่พยายามลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและการส่งเสริมการลงทุนระบบขนส่งมวลชน สำหรับการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ท่าเรือและท่าอากาศยานของจังหวัดต่างๆ ยังขาดการวางแผนการเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบการขนส่งทางรางที่มีมาตรฐาน หรือแม้แต่ความพยายามของบางหน่วยงานในการลงทุนหน่วยบริการการแพทย์ขนาดใหญ่ในพื้นที่ภายนอกตัวเมือง ซึ่งเป็นมูลเหตุให้เกิดการสร้างความจำเป็นในการเดินทางและเป็นปัจจัยการเพิ่ม
การกระจัดกระจายของเมือง
กล่าวโดยสรุป มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และกฎบัตรไทย ได้เสนอให้กลุ่มจังหวัดอันดามันร่วมกันทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยให้พิจารณารูปแบบการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตในรูปของ “ระเบียงเศรษฐกิจอันดามัน” เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติเร่งด่วนของกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งอาจปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาคการผลิตจากโรงแรมมาเป็นโรงแรมส่งเสริมสุขภาพหรือ Wellness Hotel ดังที่มหาวิทยาลัยดำเนินการอยู่ก็ได้ พร้อมศึกษารูปแบบโครงสร้างพื้นฐานที่จะลงทุนในอนาคตให้สอดคล้องกับสาขาเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง ซึ่งมีศักยภาพในการกระจายโอกาสไปยังประชาชนทุกระดับ ที่สำคัญคือ การสร้างความร่วมมือกันให้ได้ระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชนในการกำหนดอนาคตของพื้นที่
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้นสหรัฐฯ ปิดผสม “ดาวโจนส์”ลด น้ำมัน,ทองคำบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,375.83 จุด ลดลง 9.93 จุด หรือ -0.03% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,911.23 จุด ลดลง 4.36 จุด หรือ -0.11% และดัชนี แนสแดค ปิดที่ 14,007.70 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.14%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันที่ 9 ก.พ. นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ ปิดที่ 61.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ ซึ่งเป็นถิติที่ยาวนานสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.2562 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 8 วันทำการ ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,837.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ผลงานเข้าตา! สื่อปูด แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมคุยสัญญาใหม่ “โซลชา” หลังจบซีซั่น
เดอะ ซัน สื่อจอมแฉของอังกฤษ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเจรจาต่อสัญญาใหม่ให้กุนซือของทีมอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชา หลังจบฤดูกาลนี้
เฮดโค้ชชาวนอร์เวย์พาปีศาจแดงทำผลงานยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก ด้วยการรั้งอันดับ 2 ของตาราง มี 54 คะแนน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง 5 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 เกม แถมยังมีลุ้นแชมป์อีก 2 รายการในฤดูกาลนี้ นั่นก็คือ เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก
สำหรับสัญญาฉบับปัจจุบันของโซลชานั้นจะสิ้นสุดลงในปี 2022 หลังเข้ามารับงานคุมทีมถาวรต่อจาก โชเซ มูรินโญ เมื่อปี 2019
ล่าสุด เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานบริหารของสโมสรต้องการมอบสัญญาฉบับใหม่เป็นการตอบแทน แต่บอร์ดบริหารอาวุโสภายในทีมต้องการดูผลงานไปจนจบฤดูกาลเสียก่อนค่อยพิจารณาอีกครั้งว่าการมอบสัญญาฉบับใหม่ให้โซลชานั้นควรมีรายละเอียดอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ซิโนแวคขอ อย. ทันฉีดสิ้น ก.พ. ติดใหม่อีก 189 แม่สอด-จุฬาฯ ระดมคัดกรอง
ข่าวดีไทยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 แน่นอน หลัง ครม.รับทราบวัคซีนซิโนแวคจากจีน ลอต แรก 2 แสนโดส จะถึงไทยปลาย ก.พ.นี้ และ มี.ค. ตามมาอีก 8 แสนโดส ต่อด้วยเมษาฯมาอีก 1 ล้านโดส ด้าน อย.ยันซิโนแวคยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนฯครบแล้ว คาดขึ้นทะเบียนได้ทันใช้ ขณะที่ ศบค.กลับลำแถลงปัดเคสแม่ค้าขายหมูไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่ แต่เชื่อมโยง มาจากสมุทรสาคร ส่วนภาพรวมไทยยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 189 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 179 คน รอลุ้นรายวัน “แม่สอด-จุฬาฯ” หลังตรวจเชิงรุกไปนับ ร้อยคน ขณะที่สะพัดไปทั่วโลก “ใบตรวจโควิด-19 ปลอมระบาด” ในอังกฤษ
แม้ขณะนี้ไทยยังพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) รายใหม่กระจายในหลายพื้นที่ แต่ก็ลดจำนวนลงต่อเนื่อง และคนในประเทศน่าจะได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในไตรมาสแรกของปีนี้แน่นอน โดยลอตแรกเป็นวัคซีนจากประเทศจีน จะมาถึงไทยปลายเดือน ก.พ.นี้ 2 แสนโดส
ไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 189 คน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ก.พ. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่าไทยยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ 189 คน แยกเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 179 คน จำแนกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 123 คน พบที่ กทม. 9 คน สมุทรสงคราม 2 คน เพชรบุรี 3 คน และสมุทรสาคร 109 คน และมาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 56 คน ในจำนวนนี้พบที่ นนทบุรี 2 คน สมุทรสาคร 50 คน สมุทรสงคราม 4 คน และเป็นผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 คน จากสถานกักกันของรัฐ กลับมาจากโรมาเนีย สวีเดน และญี่ปุ่น ประเทศละ 2 คน อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส และเม็กซิโก ประเทศละ 1 คน ทำให้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสมรวม 23,746 คน รักษาหายป่วย 18,366 คน ยังอยู่ระหว่างการรักษาตัว 5,301 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมคงที่ 79 คน สำหรับสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 107,004,444 คน เสียชีวิตสะสม 2,336,242 คน มีแนวโน้มเริ่มชะลอตัวลง
ยันแม่ค้าขายหมูไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงกรณีแม่ค้าขายหมูมีภูมิลำเนาอยู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ต้นทางการติดเชื้อไม่ได้มาจาก อ.อัมพวา แต่ติดจากตลาดรถไฟ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ยืนยันไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่ แต่เป็นการเชื่อมโยงจาก จ.สมุทรสาคร เป็นการค้นหาเชิงรุกในตลาดรถไฟ ทั้งนี้ แม่ค้าขายหมูรายนี้เริ่มป่วย 22 ม.ค. จากนั้นลูกสะใภ้ตรวจพบเชื้อ ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อ 87 ราย ตามที่สื่อพาดหัวข่าวนั้น เกิดจากกลุ่มก้อนตลาดรถไฟ ต.มหาชัย แบ่งเป็นสัญชาติไทย 33 ราย เมียนมา 52 ราย และลาว 2 ราย ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.จะพบเชื้อในโรงงาน ชุมชน และเชื่อมโยงกับวงปาร์ตี้ ต้องเน้นการสอบสวนในเชิงรุกและเชิงลึกต่อไป ส่วน อ.แม่สอด จ.ตาก พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากผู้สัมผัสใกล้ชิดจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ต้องเน้นมาตรการค้นหาเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลตรุษจีน มีวันหยุดต่อเนื่อง 3 วัน อยากให้ทุกคนปฏิบัติตัวในภาวะปกติแบบวิถีใหม่ การจับจ่ายใช้สอยอยากให้ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ขอให้ใส่หน้ากากตลอดเวลาอยู่ในพื้นที่ชุมชน ส่วนผู้ประกอบการหรือแหล่งท่องเที่ยวอยากให้อยู่ในระบบไทยชนะให้ได้มากที่สุด จะได้ปลอดภัย
วัคซีนจีนมาแน่ปลาย ก.พ.นี้
ส่วนความคืบหน้าการจัดหาและกำหนดเวลาในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนว่าได้รับรายงานมาประมาณปลายเดือน ก.พ.วัคซีนจะส่งมาถึงไทยลอตแรก 2 แสนโดส เดือน มี.ค. 8 แสนโดส และเดือน เม.ย.อีก 1 ล้านโดส ซึ่งองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทย กำลังดำเนินการด้วยความรอบคอบ การฉีดมีแผนไว้แล้วว่าจะฉีดใครก่อน เช่น ฉีดให้ผู้ปฏิบัติงาน กลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง
จอง 2 รายรวม 63 ล้านโดส
จากนั้น นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงย้ำว่า มีการแจ้งในที่ประชุม ครม.เพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของวัคซีนว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ สรุปว่าไทยจะได้วัคซีนจากบริษัทซิโนแวคจำนวน 2 ล้านโดส และบริษัท แอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส ที่จองไปแล้ว และจองเพิ่มอีก 35 ล้านโดส รวมทั้งสิ้น 63 ล้านโดส จะทยอยฉีดให้คนไทยร้อยละ 50 ให้ครอบคลุม โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก ฉีดให้กับ 5 กลุ่ม ส่วนระยะที่ 2 จะฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่ม
เปิด 5 กลุ่มได้ฉีดวัคซีนก่อน
สำหรับกลุ่มในระยะที่ 1 ประกอบด้วย 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน 2.ประชาชนที่มีโรคประจำตัว 3.ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 4.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย และ 5.ประชาชนทั่วไปและแรงงานในพื้นที่ที่มีการระบาด ส่วน 7 กลุ่มในระยะที่ 2 ได้แก่ 1.ประชาชนทั่วไป แรงงานในภาคอุตสาหกรรม 2.ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว 3.ผู้เดินทางระหว่างประเทศ 4.นักธุรกิจระหว่างประเทศ 5.นักการทูตและเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ 6.กลุ่มเป้าหมายในระยะที่ 1 ในจังหวัดที่เหลือ และ 7.บุคลากรทางการแพทย์ที่เหลือด้วย โดย 1 คนจะได้รับการฉีด 2 โดส ทั้งนี้ วัคซีนบางส่วนขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ส่วนที่เหลือก็จะดำเนินการและแจ้งให้ทราบต่อไป
“อนุทิน” ย้ำท้องถิ่นซื้อเองไม่ได้
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าในระยะแรกวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภาครัฐเท่านั้นที่จะจัดซื้อได้เป็นเรื่องความชัดเจนเพราะจะเกิดความไม่เข้าใจในวงกว้าง วัคซีนโควิด-19 ทุกยี่ห้อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินและทุกวัคซีนยังมีการรวบรวมข้อมูลศึกษาวิจัยในระยะที่ 3 คือการใช้ในมนุษย์ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว มีคนติดเชื้อจำนวนมากเขายอมให้ใช้ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินคืออย่างน้อยไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์จนเกินที่เขาจะรับได้ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะซื้อวัคซีนของบริษัทอื่น ซื้อไม่ได้ เขาไม่ขาย วัคซีนที่ขึ้นทะเบียนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องขายให้กับรัฐบาลเท่านั้น รัฐบาลต้องออกใบรับรอง ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีเงื่อนไข
โวออสซีจัดไทยคุมโควิด–19 ดี
นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สถาบันโลวี (Lowy Institute) ของออสเตรเลียจัดอันดับให้ไทยเป็นอันดับ 4 ที่รับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีที่สุดในโลก จากทั้งหมด 98 ประเทศ โดยอันดับ 1 คือ นิวซีแลนด์ 94.4 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 รองลงมาคือ เวียดนาม 90.8 คะแนน ไต้หวัน 86.4 คะแนน ไทย 84.2 คะแนน และไซปรัส 83.3 คะแนน การประเมินครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาการประเมิน 36 สัปดาห์ ตัดข้อมูล ณ วันที่ 9 ม.ค.2564 โดยประเมิน 6 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้เสียชีวิต จำนวนผู้ติดเชื้อต่อประชากร 1 ล้านคน จำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากร 1 ล้านคน จำนวนผู้ติดเชื้อต่อสัดส่วนการตรวจหาเชื้อ และการตรวจหาเชื้อต่อประชากร 1,000 คน ผลการจัดอันดับครั้งนี้ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และยืนยันความสำเร็จของการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ทุกภาคส่วนร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่างๆของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข และปี 2564 ไทยติดอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 8 ของโลกที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุด จากการสำรวจของ Numbeo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีฐานข้อมูลค่าครองชีพและระบบสาธารณสุขใหญ่ที่สุดในโลก
“ซิโนแวค” ยื่นเอกสารครบแล้ว
ต่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้บริษัทซิโนแวค ประเทศจีน ส่งเอกสารประกอบการยื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนมาครบแล้ว คาดว่าจะขึ้นทะเบียนได้เร็วๆนี้ และทันต่อการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยในเดือน ก.พ.นี้ เพราะก่อนหน้านี้ทางซิโนแวคทยอยส่งเอกสารมาตลอด และกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ อย.ทยอยพิจารณาไปแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทยอยส่งเอกสารเข้ามาให้พิจารณาเช่นเดียวกัน โดยสรุปวันนี้ไทยมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนแล้วคือวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 2 ตัว คือ จากบริษัทซิโนแวค และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ส่วนบริษัทอื่นยังไม่มีมายื่นขอขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ปิดสองตลาดใหญ่ในแม่สอด
ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อก่อโรคโควิด-19 ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครแม่สอด พร้อมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาปิดตลาดสดนครแม่สอดและตลาดสดพาเจริญ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่กลางเมืองแม่สอดและเป็นสองตลาดค้าส่งที่กระจายสินค้าไปทั่ว 5 อำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก โดยปิดตลาดทั้งสองแห่ง 2 วัน ทำให้ตลาดที่เคยคึกคักจนได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่ไม่เคยหลับใหล กลายเป็นตลาดที่ร้างผู้คนมาโดยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงไปฉีดทำความสะอาดทั้งสองแห่ง พร้อมเก็บกวาดเศษขยะที่ตกค้างในพื้นที่ชั้นในของตลาดสด จากนั้นพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแบบเข้มข้น ทั้งที่แผงร้านค้า ห้องน้ำสาธารณะ และตามท้องถนนรอบตลาด ตามมาตรการสกัดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เชิงรุก หลังผลการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มผู้ค้าและลูกจ้างที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวในตลาดทั้งสองแห่ง จากกรณีพบลุงวัย 75 ปี ติดเชื้อโควิด-19 นำไปสู่การพบผู้ติดเชื้อรวม 35 คน ในจำนวนนี้มีเด็กเก็บเงินค่าห้องน้ำในตลาดด้วย
สั่งปิดคลังจักรยานมือสอง
อีกด้านหนึ่ง นายเฉลิม กล่อมเกลี้ยง สาธารณสุขอำเภอแม่สอด นำเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโรคลงพื้นที่ “คลัง 9 ไบค์” ตลาดค้าส่งรถจักรยานมือสองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริเวณบ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากครั้งแรกเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจพนักงานและเจ้าของร้านขายจักรยานชาวเมียนมา รวมทั้งหมด 100 คน พบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 คน ถูกนำตัวเข้ารักษาที่ รพ.แม่สอดแล้ว และจะปูพรมตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่มัสยิดอัลซอร์ เขตเทศบาลนครแม่สอด ที่มีชาวเมียนมาและชาวมุสลิมอาศัยจำนวนมากต่อไป
คลัสเตอร์โต๊ะแชร์โผล่อีก 1
วันเดียวกัน นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 คน เป็นหญิงไทย อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย ในเขตเทศบาล อำเภอเมืองมหาสารคาม เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายที่ 2 (ระลอกใหม่) เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ผู้ป่วยหญิงรายใหม่นี้ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.เป็นลบกระทั่งวันที่ 6 ก.พ. มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 ในวันที่ 7 ก.พ.ผลออกมาวันที่ 8 ก.พ. ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ทำให้จังหวัดปลอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มาได้แค่ 5 วัน และมีผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ 14 คน
ตรวจเชิงรุกพื้นที่มหาชัย
ขณะที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ รพ.รามาธิบดี และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรสาคร เข้ามาเก็บตัวอย่างเลือดแรงงานข้ามชาติที่พักอาศัยหรือทำงานอยู่ในตลาดกลางกุ้งฯ ทั้งที่เคยรับเชื้อและไม่พบเชื้อโควิด-19 เพื่อนำไปตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นวันที่สอง ทั้งนี้ ดร.วริษฐา แสวงดี นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จะทราบผลตรวจเลือดที่เจาะไปครั้งแรกนี้ภายในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า และหลังจากนี้อีกสักระยะหนึ่งประมาณ 3-6 เดือน อาจต้องมาเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจซ้ำ เพื่อดูว่าในส่วนของผู้ที่พบภูมิคุ้มกันนั้น จะยังคงมีภูมิคุ้มกันอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งกรณีศึกษานี้ จะช่วยในเรื่องของงานวิจัยโควิด-19 ตลอดจนการดูแล รักษา และป้องกันในอนาคตต่อไป ส่วนที่โรงเรียนเทศบาลวัดตึกมหาชยาราม (สมุทรคุณากร) ต.มหาชัย อ.เมือง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรสาคร และบุคลากรทางการแพทย์ นำรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 3 คัน เข้ามาตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 โดยมีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมหาชัย ทยอยเข้ามารับการตรวจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดนี้มีเป้าหมายการตรวจ 500 คน
ยังพบผู้ติดเชื้อเกินร้อย
ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แจ้งว่า ณ เวลา 24.00 น.วันที่ 8 ก.พ.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ 159 คน จำแนกเป็นจากการค้นหาเชิงรุก 50 คน จำนวนนี้เป็นคนไทย 24 คน แรงงานต่างด้าว 26 คน ที่เหลือเป็นผู้ป่วยจากการตรวจในโรงพยาบาล 109 คน จำนวนนี้เป็นคนไทย 32 คน แรงงานต่างด้าว 77 คน ส่งให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดจากการระบาดระลอกใหม่มีจำนวน 15,215 คน นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศทยอยเข้ามาเสริมเพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร อาทิ จังหวัดสตูล ส่งบุคลากรทางการแพทย์ 2 ทีม โดยทีมแรกจะปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังเชิงรุก ระหว่างวันที่ 15-22 ก.พ.2564 และทีม 2 ปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลสนาม ระหว่างวันที่ 22-28 ก.พ. และ รพ.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ส่งบุคลากรมา 7 คน มีทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าพนักงานสาธารณสุข
ผู้ว่าฯสมุทรสาครเริ่มหายใจเอง
วันเดียวกัน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงอาการนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มหายใจด้วยตัวเองเป็น
ครั้งคราว โดยเครื่องไม่ได้ยิงออกซิเจนเข้าไป อยู่ระหว่างทดสอบให้หายใจเอง ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี การเอกซเรย์ปอดดีขึ้นใกล้เคียงปกติ ฝ้าขาวหายเกือบหมด ระดับการแลกเปลี่ยนแก๊สกระแสเลือดอยู่ในเกณฑ์ดี ระดับออกซิเจนในเลือดสูงกว่าปกติ การรู้ตัวดีขึ้น สามารถสื่อสารกับทีมแพทย์ผู้รักษาได้ดี โดยปฏิบัติตามคำสั่งนักกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่เข้าไปดูแลดีมาก สามารถยกขา ขยับข้อเท้า ตามแพทย์บอกได้ ซึ่งต้องค่อยๆ ฟื้นฟู เนื่องจากนอนรักษามานานกว่า 1 เดือน ขณะนี้ได้หยุดให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบแล้ว เหลือเพียงยาที่จำเป็น แต่ให้ทางสายยางแทนฉีด การให้อาหารได้เพิ่มโปรตีนเข้าไปฟื้นฟูกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ การขับถ่ายปกติ
เพชรบุรีติดเชื้อโยงพื้นที่เสี่ยง
ส่วนที่ จ.เพชรบุรี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.เพชรบุรี แถลงเตรียมหามาตรการรองรับและช่วยเหลือกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องไปทำมาหากินในพื้นที่เสี่ยง เช่น ช่วยหาสถานที่จัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 คน ทั้งหมดเป็นชาว ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด และเป็นผู้ค้าขายในพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสาคร โดยรายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 55 ปี รายที่สอง หญิงไทย อายุ 50 ปี ทั้งสองรายนี้ค้าขายที่ตลาดรถไฟ จ.สมุทรสาคร และอีกรายเป็นชายไทย อายุ 30 ปี ค้าขายอยู่ที่ตลาดแม่เน้ย จ.สมุทรสาคร
เคสจุฬาฯ ตรวจเชิงรุก 619 คน
ส่วนความคืบหน้าการค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 ภายในอาคารจุฬานิวาส ซึ่งเป็นหอพักของบุคลากรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการโควิด-19 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกประกาศฉบับที่ 4/2564 ลงวันที่ 8 ก.พ.2564 ระบุว่า ตามที่ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในอาคารที่พักบุคลากร และได้ส่งผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลจุฬาฯ แล้วจำนวนหนึ่ง จากนั้นมีการระดมตรวจกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยจำนวน 230 คน พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 6 คน รวมเป็น 13 คน ดังนั้นจึงตรวจเชิงรุกเพิ่มขึ้นอีก 389 คน รวมตรวจหาเชื้อ 619 คน ซึ่งขณะนี้ กำลังรอผลการตรวจ ซึ่งจากกรณีนี้ทำให้เว็บไซต์ของโรงเรียนสายปัญญาฯ โพสต์ประกาศปิดสถานศึกษาเนื่องจากเหตุพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 9-19 ก.พ.2564 พร้อมปรับการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ หลังโรงเรียนได้รับรายงานว่ามีนักเรียนของโรงเรียน 6 คน พักในหอพักย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งยังพบว่ามีนักเรียน 1 คน มีญาติที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน ติดเชื้อโควิด-19
กทม.เร่งสอบสวนที่มาของเชื้อ
ด้านศาลาว่าการ กทม. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม.ครั้งที่ 18/2564 โดยที่ประชุมหารือถึงกรณีพบเจ้าหน้าที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 13 คน จากการสอบสวนโรค พบว่ามี 1 คน เป็นบุคคลภายนอกมาเยี่ยมบิดาที่พักในหอพักของจุฬาฯ ทุกเสาร์-อาทิตย์ ส่วนอีก 12 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของจุฬาฯ ประกอบด้วย พนักงานรักษาความปลอดภัย 8 คน ซึ่งมีการรับประทานอาหารร่วมกัน และพนักงานทำความสะอาด 2 คน โดยเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ 10 คน พักอยู่ที่หอพักจุฬานิวาส ที่มีผู้พักอาศัยทั้งหมด 560 คน ส่วนอีก 2 คน อยู่ระหว่างสอบสวนโรค นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคและสำนักอนามัย ได้ไปสำรวจที่บริเวณตลาดสวนหลวง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ และร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณใกล้เคียง เพื่อค้นหาผู้มีความเสี่ยงเนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยหลายคนไปใช้บริการในสถานที่ดังกล่าว ส่วนภาพรวมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน กทม. มีแนวโน้มลดลง หลังตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยงของโรงงานในพื้นที่ 6 เขต ได้แก่ ภาษีเจริญ บางแค หนองแขม บางบอน จอมทอง และบางขุนเทียน 127 โรงงาน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.พ.64) มีแรงงานที่ผ่านการตรวจฯ รวม 13,590 คน พบผู้ติดเชื้อ 54 คน ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม
WHO หนุนวัคซีนแอสตราฯ
วันเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด พร้อมขอเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกอย่าปิดใจ ไม่ยอมรับวัคซีนดังกล่าว แม้จะมีผลการทดสอบออกมาว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเผชิญกับเชื้อกลายพันธุ์ B1351 จากแอฟริกาใต้ กระนั้นก็เป็นหน้าที่ของผู้ผลิตวัคซีนในการปรับปรุงวัคซีนเพื่อให้รับมือกับไวรัสที่มีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา
ใบตรวจโควิดปลอมสะพัด
ขณะที่สำนักข่าวบีบีซี อังกฤษ รายงานว่า การติดต่อซื้อขายใบตรวจหาเชื้อโควิด-19 ปลอม ได้แพร่สะพัดมากขึ้นในโซเชียลมีเดีย หลังจากรัฐบาลประเทศต่างๆทยอยออกมาตรการบังคับใช้ ให้ผู้เดินทางยื่นผลตรวจก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ โดยในรายงานยังอ้างคำสัมภาษณ์ของผู้ที่ซื้อใบตรวจโรคปลอม ระบุว่ายินยอมที่จะเสียเงิน 50 ปอนด์ หรือประมาณ 2,060 บาท ดีกว่าไปตรวจที่โรงพยาบาลที่ราคาอาจสูงถึง 150 ปอนด์ หรือราว 6,180 บาท ขณะที่เจสซิกา (นามสมมติ) วัย 24 ปี ผู้ขายใบตรวจโรคปลอม ระบุว่าตอนนี้หาเงินได้ง่ายมาก เนื่องจากมีแต่คนยอมจ่ายเงินซื้อใบตรวจโรคปลอม อีกทั้งจากการสอบถามคนที่ซื้อไป บอกว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบางประเทศ หยิบใบตรวจโรคมาดูแบบผ่านๆเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
8 ประโยคภาษาอังกฤษน่าใช้ ไว้ขอบคุณคนที่ทำงานให้คุณ
เชื่อว่าชีวิตของใครหลายคนต้องมีโอกาสได้ร่วมงานหรือทำงานเป็นทีมกับเพื่อนมากมายหลายงานอย่างแน่นอน เพราะงานแต่ละอย่างที่จะนำพาความสำเร็จมาให้ชีวิตคุณไม่มีทางที่คุณเพียงคนเดียวจะทำมันเองได้ อย่างน้อยๆก็มีคนสนับสนุน ผู้ช่วย เพื่อนร่วมงาน ผู้แนะนำ ให้คุณทำงานต่างๆได้อย่างราบรื่น และเมื่อเสร็จงานต่างๆ เราก็ควรที่จะขอบคุณบุคคลเหล่านั้น ที่ค่อยให้การช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือแม้แต่เป็นกำลังใจให้คุณไปสู่จุดหมาย ดังนั้นถ้าจะขอบคุณบุคคลที่ร่วมงานกับคุณในภาษาอังกฤษก็สามารถพูดได้หลายแบบ แต่วันนี้ เรามี 8 ประโยคที่น่าสนใจมาฝาก ลองนำไปใช้กันดังนี้
- Thank you so much for helping me accomplish this. I owe you one!
- You always know when to lend a hand.
- I couldn’t have done that without you.
- You are so great to work with!
- I couldn’t imagine working without you.
- I appreciate you taking responsibility.
- Having you on the team makes a huge difference.
- You always find always to get it done.
ขอบคุณข้อมูลจาก shorteng.com
ทวิตเตอร์ส่งเสริม#วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น
ทวิตเตอร์ส่งเสริม #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น แนะนำ 5 ทิปส์เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยบนทวิตเตอร์
วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น หรือ Safer Internet Day ก่อตั้งในยุโรปเมื่อปี 2004 และได้ฉลองการเป็นวันระดับโลกเป็นปีที่ 17 ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับ ทวิตเตอร์ที่ได้กลายเป็นบริการระดับโลก และวันนี้เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านความปลอดภัยหลายแห่งในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของ #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น และช่วยสร้างความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ตให้กับทุกคน
คอนเซ็ปต์วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้นปี 2021 นี้ ของ @safeinternetday คือ ‘การร่วมมือกันเพื่อการใช้อินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น (Together for a better internet)’ ซึ่งเช่นเดียวกับหัวใจการให้บริการของทวิตเตอร์ที่เชื่อว่า การใช้อินเทอร์เน็ตจะต้องดีขึ้น โดยต้องผลักดันเพื่อสิ่งที่ดี และนั่นคืองานของทวิตเตอร์ในการสร้างความปลอดภัยและคุณภาพของการสนทนา
ความปลอดภัยของทวิตเตอร์และคุณภาพของบทสนทนาสาธารณะนับเป็นสิ่งที่ทวิตเตอร์ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ในปีที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้รุกหน้าแก้ปัญหาควบคุมเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น แม้ยังมีหลายสิ่งที่ยังคงต้องดำเนินอย่างต่อเนื่องแต่เราได้มีความคืบหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยไฮไลท์ต่างๆ ของปี 2020 มีดังนี้
เรื่องสำคัญ (ระดับโลก)
• ทวิตเตอร์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการกับข้อความละเมิดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถจัดการข้อความมากกว่า 1 ใน 2 ข้อความ เมื่อเทียบกับปี 2018 ที่จัดการได้ 1 ใน 5 ข้อความเท่านั้น
• ทวิตเตอร์ได้ดำเนินการกับบัญชีที่มีการละเมิดเพิ่มขึ้นกว่า 105% (โดยการล็อคหรือระงับบัญชีเนื่องจากทำผิดกฎของทวิตเตอร์)
ฟีเจอร์โควิด-19 และ #ThereIsHelp ช่วยสร้างความปลอดภัยและให้ข่าวสารที่น่าเชื่อถือบนทวิตเตอร์
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกทำให้ผู้คนหันมาใช้ทวิตเตอร์ในการพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและค้นหาข้อมูลล่าสุดด้านสาธารณสุขที่น่าเชื่อถือ
• เดือนมีนาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้ออกนโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อสร้างคุณภาพของบทสนทนาสาธารณะ หลังจากนั้นทีมงานของทวิตเตอร์ได้ดำเนินการบังคับใช้นโยบายนี้กับผู้ใช้งานจำนวน 4,658 บัญชีที่ละเมิดนโยบาย นอกจากนี้ ระบบอัตโนมัติของทวิตเตอร์ยังพบว่ามีผู้ใช้งานราว 4.5 ล้านบัญชี ที่มีพฤติกรรมการบิดเบือนข้อมูลและเป็นข้อความสแปม
• อีกหนึ่งผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวิตเตอร์อยากจะสร้างการตระหนักรู้ในสังคมก็คือความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพและความรุนแรงในครอบครัว (shadow pandemic) ที่พุ่งสูงขึ้นมาก ทวิตเตอร์จึงให้การสนับสนุนพันธมิตรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกให้สามารถลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ได้ฟรี และยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 24 องค์กรเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
• ในช่วงของวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทวิตเตอร์ได้ทำงานร่วมกับสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ (International Association for Suicide Prevention) ด้วยการขยายความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกกว่า 20 องค์กร และยังร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพจิตในพื้นที่และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอีก 30 หน่วยงานเพื่อกระจายการป้องกันการฆ่าตัวตาย #SuicidePrevention ออกไปในวงกว้างและเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ที่ช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตัวเอง
• เมื่อมีการค้นหาคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพหรือ การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายตัวเองบนทวิตเตอร์ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อความแจ้งเตือนที่เป็นข้อมูลในการติดต่อและสายด่วนของหน่วยงานในพื้นที่และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้พวกเขากล้าขอความช่วยเหลือ
• เดือนธันวาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้เพิ่มเติม นโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งหมายรวมถึงทวีตที่เผยแพร่ข้อความซึ่งมีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
• ตลอดปี 2020 ทวิตเตอร์ได้มีการอัปเดตกฎระเบียบเกี่ยวกับพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเกลียดชัง อาทิ ห้ามใช้ภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ ความทุพพลภาพ อาการของโรค เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ สัญชาติเดิม รวมถึงการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการบำบัดเพศวิถี (conversion therapy) กับบุคคลหรือในชุมชน LGBTQ+
• เราได้ขยายนโยบายให้มีความครอบคลุมเพื่อปกป้องบทสนทนาของพลเมืองบนทวิตเตอร์ เพราะเป้าหมายของทวิตเตอร์คือการปกป้องเนื้อหาที่อาจทำให้การลงคะแนนเสียงถูกระงับและเพื่อหยุดการแพร่กระจายข้อมูลเท็จที่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งหรือกระบวนการของพลเมืองอื่นๆ
เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ถึงวัน #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น ในประเทศไทย ทวิตเตอร์ ไทยแลนด์ @TwitterThailand ได้มีการจัดเสวนาแบบ virtual ด้วยความร่วมมือกับ โครงการ HUG (The Hug Project) , มูลนิธิเพื่อยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก (ECPAT Foundation), และมูลนิธิสายเด็ก (Childline Thailand) เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องของการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและการรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยการเสวนาครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 18:00-19:00 น. โดย โครงการ HUG จะเป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถถามคำถามโดยติดแฮชเท็ก #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น โดยผู้เข้าร่วมเสวนาจะมีการคัดเลือกมาตอบในช่วงท้ายของการเสวนา
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเซียน หรือมือใหม่บนทวิตเตอร์ ก็ไม่ควรพลาดทิปส์เกี่ยวกับการใช้งานทวิตเตอร์เพิ่มเติม นี่คือ 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานบนทวิตเตอร์ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
1. ปลอดภัยยิ่งขึ้น! ด้วยการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน
เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบและ ตั้งค่าพาสเวิร์ดสำหรับการยืนยันตัวตน หลังจากที่คุณเปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนนี้แล้ว คุณจำเป็นต้องใช้พาสเวิร์ด พร้อมกับวิธีในการเข้าสู่ระบบขั้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็น โค้ด การยืนยันการล็อกอินผ่านแอปฯ หรือคีย์ความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ โดยคุณสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้โดยไปที่ความปลอดภัย ในหน้าการตั้งค่าบัญชีของคุณ
2. ป้องกันทวีตของคุณ
ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้เต็มที่บนโลกทวิตเตอร์ แต่ก็มีบางทวีตข้อความที่เราไม่ต้องการให้ใครบางคนเห็น โดยค่าเริ่มต้นทวีตทั้งหมดของคุณจะเป็นแบบสาธารณะ แต่คุณสามารถเลือกปกป้องทวีตของคุณได้ในการตั้งค่า และอย่าลืมระมัดระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวทุกครั้งบนทวิตเตอร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่บ้าน ข้อมูลภายในครอบครัว หรือถ้าคุณทวีตรูปภาพที่มีเด็กๆ อย่าลืมเอาอีโมจิน่ารักๆ มาแปะบนหน้าของเด็กๆ เพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะ
3. ตั้งค่าตัวกรองขั้นสูง
คุณสามารถควบคุมสิ่งที่คุณเห็น และผู้คนที่คุณโต้ตอบบนทวิตเตอร์ด้วยการใช้การตั้งค่าตัวกรองขั้นสูง ที่จะช่วยให้คุณปิดการใช้งานการแจ้งเตือนบัญชีผู้ใช้งานบางประเภทที่คุณต้องการหลีกเลี่ยง นอกจากนั้นแล้ว ถ้าบัญชีหรือทวีตของคุณได้รับความสนใจอย่างมากแบบไม่ทันตั้งตัว เราอาจแทรกการแจ้งเตือนในแท็บการแจ้งเตือน เพื่อให้คุณได้ปรับแต่งตัวกรองการแจ้งเตือนที่จะช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่คุณเห็นได้ดียิ่งขึ้น
4. ตำแหน่งที่ตั้ง
ทวิตเตอร์ให้คุณเลือกได้ว่าอยากจะระบุโลเคชั่นลงในแต่ละทวีต หรือแม้กระทั้งโลเคชั่นบนโปรไฟล์ของคุณเองหรือไม่ เพื่อให้คุณไตร่ตรองก่อนทวีตข้อมูลที่อาจเปิดเผยโลเคชั่นของคุณได้ ควรหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่สามารถระบุบ้าน ที่อยู่ที่ทำงานหรือ สถานที่ที่บุตรหลานของคุณไปโรงเรียน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
5. รายงานเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
คงไม่ดีแน่ หากได้รับทวีตที่ไม่เหมาะสมและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพียงแค่ รายงานมายังทวิตเตอร์ ไม่เฉพาะทวีตเท่านั้น คุณยังสามารถรายงานแอคเคาท์ ลิสต์ รวมไปถึง Direct Message ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่คุณสามารถช่วยเหลือทุกคนที่อยู่บนทวิตเตอร์ได้
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์อยากชวนให้ทุกคนร่วมกันติดแฮชแท็ก #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น และ #SID2021 บนทวิตเตอร์ซึ่งสามารถใช้งานได้ใน 18 ภาษาทั่วโลกและยังมีอีโมจิที่ออกแบบพิเศษสำหรับโอกาสนี้อีกด้วย เพื่อส่งเสริมให้มีการสนทนาบนโลกอินเทอร์เน็ตด้วยความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ถั่วพู ผักริมรั้วคู่ครัวไทย มีประโยชน์มากกว่าพืชตระกูลถั่วด้วยกัน พร้อม เคล็ดลับ…ที่น่าสนใจ
ถั่วพู เป็นพืชผักสวนครัวที่คนไทยรับประทานมายาวนาน มักปลูกไว้บริเวณบ้านเรือน มักลวกจิ้มกับน้ำพริก นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณและประโยชน์ดีๆอีกมากมายมาดูกันเลย
ทำไมคนคนไทยถึงเรียก…ถั่วพู
ที่มาของคำว่า “พู” นั้นถูกเรียกมาแต่โบราณ เป็นชื่อเรียกของสิ่งที่มีลักษณะนูนออกมา เช่น พูทุเรียน” จากความหมายดังกล่าวแสดงว่าคนไทยมองฝักถั่วพูว่ามีพู จึงนำมาตั้งเป็นชื่อของถั่วชนิดนี้ แต่สำหรับชาวต่างชาติจะมองว่ามันมีลักษณะเป็นปีก จึงเป็นที่มาของชื่อ “Winged bean” นั่นเอง
ประโยชน์ของถั่วพู
- การกินถั่วพู มีกากใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ทำให้ท้องไม่ผูก ขับถ่ายคร่อง
- ช่วยบำรุงกำลัง สำหรับคนที่มีอาการอ่อนเพลียหรืออ่อนล้า การรับประทานฝักอ่อนหรือจะนำเมล็ดแก่ไปตากแห้งมาบดแล้วชงกับน้ำร้อนเพื่อดื่มก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยให้สดชื่นขึ้น เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้
- มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้น และดีต่อการบำรุงกระดูก
- มีวิตามินซี ซึ่งช่วยลดไข้ แก้ร้อนใน อีกทั้งยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น จะช่วยคลายอาการครั่นเนื้อครั่นตัว และยังสามารถแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ดี
- เป็นยอดอาหาร ที่มีความเหนือกว่าพี่น้องตระกูลถั่วทั้งหลาย มีประโยชน์มาก และยังเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมารับประทานได้แทบทุกส่วนของต้น
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง มีคุณสมบัติช่วยลดการแบ่งเซลล์ของมะเร็ง และป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง
- มีใยอาหารสูง หากนำมารับประทานไม่ว่าจะเป็นแบบดิบ ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก
- ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม หากรับประทานถั่วพูเป็นประจำจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมเพื่อนำไปใช้ได้มากถึง 40-50% เพราะในถั่วพูมีสารขัดขวางกระบวนการดูดซึมที่ต่ำนั่นเอง ซึ่งนอกจากการดูดซึมแคลเซียมที่ทำได้ดีแล้ว ย่อมส่งผลทำให้กระบวนการดูดซึมสารอาหารชนิดอื่นๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรรพคุณทางยาโบราณ
- ตำรายาโบราณ ว่าให้นำเมล็ดถั่วพลูมาต้มโดยคัดเอาเฉพาะเมล็ดแก่สีน้ำตาลเข้มจะรับประทานเมล็ดที่ต้มสุกเลยก็ได้ หรือนำเมล็ดที่ต้มสุกมาบดให้ละเอียดผสมน้ำสุกดื่มก่อนอาหาร 3 เวลา จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงเพิ่มกำลังวังชา
- ราก แก้โรคลมพิษกำเริบ ดีฟุ่ง ทำให้คลั่งเพ้อ ปวดท้อง ถั่วพูใช้รักษาสิวและโรคผิวหนังบางชนิด
- หัว นำไปเผา หรือนึ่งกิน ช่วยบำรุงกำลังสำหรับคนป่วยหนัก หรือผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนเพลีย และยังแก้ร้อนใน กระหายน้ำได้อีกด้วย
- เมล็ดแก่ นำไปตากแห้ง บดเป็นผงละเอียดละลายน้ำรับประทาน ดื่มก่อนอาหาร วันละ 3 เวลา ช่วยในการบำรุงร่างกาย
- ใบ ช่วยแก้อาการอาเจียน
- ฝัก ลดอาการตัวร้อน เป็นไข้ในเด็ก ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
คุณค่าทางโภชนาการของฝักอ่อน ต่อ 100 กรัม
ประกอบไปด้วย พลังงาน 19 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 2.4 กรัม, ไขมัน 0.1 กรัม, เส้นใย 1.2 กรัม, โปรตีน 2.1 กรัม, น้ำ 93.8 กรัม, วิตามินบี 1 0.35 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 0.14 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 0.8 มิลลิกรัม, วิตามินซี 32 มิลลิกรัม, ธาตุแคลเซียม 5 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 0.5 มิลลิกรัม, และธาตุฟอสฟอรัส 43 มิลลิกรัม
ข้อควรระวังในการรับประทาน
ในถั่วพูมีสารชนิดหนึ่งมีมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์ทริปซิน ทำให้โปรตีนไม่ย่อยหรือย่อยได้น้อยลง จึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายนั่นเอง ดังนั้นหากจะรับประทานถั่วพูให้ได้โปรตีนมาก ดังนั้น…ควรทำถั่วพูให้สุกก่อนรับประทาน จะได้ประโยชน์ที่ครบถ้วน
ช่วยบำรุงกำลัง สำหรับคนที่มีอาการอ่อนเพลียหรืออ่อนล้า การรับประทานฝักอ่อนหรือจะนำเมล็ดแก่ไปตากแห้งมาบดแล้วชงกับน้ำร้อนเพื่อดื่มก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยให้สดชื่นขึ้น เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้
วิธีเลือกซื้อและการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง…
วิธีเลือก
- เลือกฝักที่มีสีเขียวสด
- ไม่ช้ำ ไม่มีตำหนิ หรือเชื้อราเกาะอยู่
- อาจมีรอยดำเล็กน้อย
- ไม่เหี่ยวหรือส่งกลิ่นเหม็น
เก็บรักษา
- ไม่ควรเก็บถั่วพลูไว้นอกตู้เย็น เพราะจะเปลี่ยนสีเป็นเหลือง เหี่ยว ได้ง่ายมาก
- ก่อนนำแช่ตู้เย็น ควรเลือกฝีกที่เน่าหรือเสียทิ้งไปก่อน เพราะอาจทำให้มีเชื้อรามไปฝักอื่นๆได้ง่าย จากนั้นห่อด้วยกระดาษ แล้วถึงนำไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่ผัก
- แนะนำว่าก่อนรับประทานควรนำถั่วพูไปแช่น้ำแข็งก่อน จะทำให้ถ่วพูกรอบอร่อยน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,000.00 | 26,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,684.00 | 25,529.44 | 26,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,515.60 | 22,976.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,347.20 | 20,423.55 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 758.00 | 11,491.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 589.00 | 8,929.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,745.00 | 26,454.20 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/02/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 | 25.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 | 25.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.94 | 23.94 | 23.94 | 23.94 | 23.94 | – | 23.94 | 23.94 | 23.94 | 23.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.14 | 20.14 | – | – | – | – | – | – | – | 20.14 |
เบนซิน 95 | 32.86 | – | – | – | 33.31 | – | 33.36 | 32.86 | – | 32.86 |
ดีเซล B7 | 26.29 | 26.29 | 26.59 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 |
ดีเซล | 23.29 | 23.29 | 23.59 | 23.29 | 23.29 | 23.29 | 23.29 | 23.29 | 23.29 | 23.29 |
ดีเซล B20 | 23.04 | 23.04 | 23.54 | 23.04 | 23.04 | – | 23.04 | 23.04 | – | 23.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 30.74 | 30.76 | 33.04 | 32.14 | – | – | – | – | – | 30.74 |
แก๊ส NGV | 13.35 | 13.35 | – | – | – | – | – | – | – | 13.35 |