สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564

เอพี ตัวจริงอสังหาฯ กวาดรายได้ 4.6 หมื่นล. ลุยต่อ 34 โครงการใหม่

เอพี ตัวจริงอสังหาฯ  กวาดรายได้ 4.6 หมื่นล. ลุยต่อ 34 โครงการใหม่

เอพี โตสวนกระแสวิกฤติ ปี 2563 คว้ารายได้รวม 46,130 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,225 ล้านบาท ขณะปี 2564 ตั้งเป้าเปิดใหม่ 34 โครงการ ปูพรม 147 โครงการทั่วประเทศ เป้ารับรู้รายได้ 43,100 ล้านบาท และยอดขาย 35,500 ล้านบาท

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า วันนี้ เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 30 โดยมี EMPOWER LIVING เป็นเจตจำนงสำคัญในการดำรงอยู่ ขณะปี 2563 ที่ผ่านมานั้น นับเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ความเป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ โดยเอพีมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงสุดเกินจากคาดการณ์ ทั้งในมิติรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 46,130 ล้านบาท เติบโตกว่า 42% จากปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 4,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 38% 

ด้านสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.71 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถใน   การบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม วิกฤตโควิด-19 เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของวิกฤตที่เกิดขึ้นและยังคงวนเวียนอยู่ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด หรือจะมีวิกฤตใหม่เกิดขึ้นอีกเมื่อใดและความเสียหายจะรุนแรงแค่ไหน โจทย์การดำเนินธุรกิจจึงท้าทายยิ่งขึ้น และนำไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ในการแข่งขัน โมเดลการทำธุรกิจแบบเดิม จึงไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดในอนาคต  ซึ่งแนวทางขับเคลื่อน องค์กรสู่การเป็นเบอร์ 1    ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จะประกอบไปด้วย 3 กลยุทธ์หลัก 

1. สร้างผู้นำอิสระ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่มากกว่า (CREATE INDEPENDENT RESPONSIBLE LEADERS)

2. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม (INNOVATIVE CULTURE)

3. พลิกเกมส์ธุรกิจเดินหน้าเต็มลูป ทรานฟอร์มทุกมิติด้วยดิจิทัล (EVERYTHING DIGITAL) 

ทั้งนี้ 3 ยุทธศาสตร์ข้างต้น จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความพร้อมให้กับองค์กร โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการขยายตัวเชิงรุกอย่างมาก 
 

โดยในปี 2564 นี้ บริษัท จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาอยู่ทั่วประเทศมากถึง 147 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 121,890 ล้านบาท โดยเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้จำนวน 34 โครงการ มูลค่าประมาณ 43,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 30 โครงการ มูลค่าประมาณ 28,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,200 ล้านบาท

ขณะโครงการที่อยู่ระหว่างการขายที่กระจายไปในทุกทำเลทั้งในกทม.และต่างจังหวัดมากถึง 113 โครงการ มูลค่าสินค้าพร้อมขายประมาณ 78,890 ล้านบาท โดยในปี 2564 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ (รวม 100% JV)  43,100 ล้านบาท และเป้ายอดขายที่ 35,500 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก  thansettakij.com


‘เจ้าสัวเจริญ’ ผุดกองทุนฯ ช้อนทรัพย์ถูก

‘เจ้าสัวเจริญ’  ผุดกองทุนฯ  ช้อนทรัพย์ถูก

“เจ้าสัวเจริญ” ขยับกองทรัสต์ 1 หมื่นล้านบาท ช็อบโรงแรม ไปต่อไม่ไหว คาดปลายปีนี้หากทัวร์ต่างชาติเข้าไทยไม่ได้การเสนอขายพุ่งแน่  พบโรงแรมซิกม่า ขายดัมพ์ราคาลง 45% เฉพาะที่ดิน ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง ติดทะเลราคา ไร่ละ 80 ล้าน ขายเพียงไร่ละ 55 ล้านบาท

การตั้งทรัสต์ ฯ ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC หนึ่งใน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี กว่า10,000 ล้านบาท เพื่อลุยซื้อกิจการโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่ม มีความชัดเจน หลังใช้เวลา ศึกษาเจรจา พันธมิตร ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนใน AWCและสถาบันการเงิน คาดว่าการเจรจาน่าจะเรียบร้อยหลังใช้เวลา2เดือนนับตั้งแต่ประกาศตั้งกองทุน เมื่อปลายเดือนตุลาคม2563ที่ผ่านมา ประจวบเหมาะเมื่อโควิด-19ระบาดอีกระลอก ส่งผลให้ บริษัทยิ่งมั่นใจ ว่าการซื้อ ธุรกิจโรงแรมในราคา ถูกและ มีศักยภาพ น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น สะท้อนความได้เปรียบของกลุ่มทุน

แหล่งข่าวจาก ในเครือ บริษัททีซีซี แลนด์จำกัด ระบุ บริษัทมีเป้าหมาย ซื้อโรงแรมขาดสภาพคล่อง แต่ มีศักยภาพสูงในการต่อยอดธุรกิจ ตั้งแต่ ระดับตั้งแต่3ดาว ขึ้นไป ปัจจุบันมีผู้เสนอขายเข้ามาหลายราย แต่ ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อทุกราย เพราะต้องตรวจสอบ รอบด้านโดยเฉพาะศักยภาพทำเล ขณะราคาซื้อ ยอมรับว่าเป็นโอกาสทอง ที่จะซื้อ อสังหาฯได้ถูกลง เมื่อ สถานการณ์โควิด-19ระบาดรอบใหม่ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มองว่าหากภายในสิ้นปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เจ้าของโรงแรมน่า จะยอมขายทิ้ง 40-50% อีกทั้งหลายราย ถูกสถาบันการเงิน ยึดซึ่งบริษัท อาจเข้าไปประมูลทรัพย์ชั้นดีได้อีกช่องทาง

ทั้งนี้พิจารณาตัวอย่างจาก โรงแรมซิกมารีสอร์ทจอมเทียนพัทยา ระดับ3ดาว เจ้าของเดิม เป็นของนายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APEX ยอมขายให้กับ AWCในราคา ต่ำกว่าราคาที่เคยเสนอขาย 1,000 ล้านบาท เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ มีผู้ประกอบการในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี นาย จักรรัตน์ เรืองรัตนากร เลขาธิการ สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี

เคย ติดต่อขอซื้อ ต่อรองเหลือ 600ล้านบาท แต่ไม่ยินยอมขาย ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่เกิดการระบาดโควิด ในเวลาต่อมา AWC ซื้อได้ในราคา550ล้านบาท เนื้อที่ ติดชายทะเล 5-1-56.5ไร่ เฉพาะราคาที่ดิน ไร่ละ 55ล้านบาท ส่วนราคาตลาด ซื้อขายกันที่ ไร่ละ80ล้านบาท

อย่างไรก็ตามการซื้ออสังหาฯเป้าหมายเปิดกว้าง ทั้งโรงแรม ที่ดิน รวมถึงธุรกิจค้าปลีก ตามหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ 

สำหรับ การปรับปรุงทรัพย์สินที่ซื้อไว้ในพอร์ต ได้ลงทุนปรับโฉมใหม่ รองรับ
นักท่องเที่ยวได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมแมรีออท เชียงใหม่ และไนท์พลาซา

ย้อยรอย ช่วงเจ้าสัวเจริญ นำ AWC เข้าจะทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 ด้วยราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่หุ้นละ 6.00 บาท มูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 41,742 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโอที่ 185,742,000,000 บาท โดยราคาปิดวันแรกอยู่ที่ 6.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.83% และมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 187,289,850,000 บาท

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของหุ้น AWC ตั้งแต่เข้าจดทะเบียน ราคาปรับขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่ 6.80 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 217,600,000,000 บาท จากนั้นลดลงต่ำสุดที่ 2.70 บาท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 86,400,000,000 บาท และ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ราคาปิดที่ 4.68 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 149,760,000,000 บาท ลดลง 35,982,000,000 บาท เมื่อเทียบกับมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ และลดลง 67,840,000,000 บาท เมื่อเทียบกับมาร์เก็ตแคปที่เคยปรับขึ้นไปสูงสุด

ขณะที่ความคืบหน้าการแจ้งลงทุน ในบริษัท ทีซีซี เวิ้งนาครเขษม จำกัด, บริษัท วรรณทรัพย์พัฒนา จำกัด, เข้าซื้อโครงการ โรงแรมซิกมา รีสอร์ท จอมเทียน พัทยา, ซื้อหุ้นสามัญบริษัทสินทรัพย์เกษตร 2 จำกัด, รับโอนสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมอาคารเกทเวย์ เอกมัย, เข้าลงทุนในบริษัท เอเชียติ๊ก โฮเต็ล คอลเลคชั่น จำกัด, เข้าลงทุนในบริษัท วัฒนทรัพย์พัฒนา 3 จำกัด, เข้าซื้อทรัพย์สิน (ระหว่างก่อสร้าง) จากบริษัท ต่อยอด เฟรช (ไทยแลนด์) จำกัด, ปรับปรุงโรงแรมอิมพีเรียล โบ๊ท เฮาส์บีช รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ มีเลีย โฮเทลส์แอนด์รีสอร์ทส์ (MelieHotels and Resorts) ได้มาซึ่งทรัพย์สิน บริษัท นิวมัลดี้ไมน์ จํากัด, บริษัท ทีซีซี ลักซ์ชูรีโฮเทลส์ และ รีสอร์ท จํากัด, บริษัท ทีซีซี โฮเทล คอลเล็คชั่น จํากัด, บริษัท สิริทรัพย์ พัฒนา 1 จํากัด, บริษัท ทีซีซีซีแอล จอมเทียน จํากัด, บริษัท ทีซีซี พัทยา จํากัด, บริษัท ทีซีซี โฮเทลส์ แมนเนจเม้นท์ จํากัด, บริษัท ผดุงลาภ จํากัด, บริษัท รีเทล เวิลด์ 8 จํากัด, บริษัท คอนเซพ แลนด์ 9 จํากัด และบริษัท โฮเทลส์ เวิลด์ 7 จํากัด 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 30.02 บาทต่อดอลลาร์

บาทเปิด 30.02 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิด 30.02 บาทต่อดอลลาร์ คาดธุรกรรมเบาบาง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.02 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงท้ายตลาดวานที่ระดับ 30.04 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากท้ายตลาดวานนี้ คาดว่าเป็นผลจากที่ตลาดโลกเริ่มเปิดรับความเสี่ยงในการเข้าซื้อหุ้นและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ใหม่นั้น ไม่ได้มีผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทแต่อย่างใด “วันนี้ติดตาม flow ซึ่งเป็นช่วงสิ้นเดือน ดูธุรกรรมท้ายตลาดของทั้งฝั่ง export และ import อาจจะบางๆ ช่วงท้ายตลาด” นักบริหารเงินระบุ

สำหรับคืนนี้นักลงทุนติดตามการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/63 ครั้งที่สองของสหรัฐ และตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95-30.10 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

“ปรัชญา” หวดย้ำชัยเหนือ “พลภูมิ” ลิ่ว 16 คน “ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ”

“ปรัชญา อิสโร” ไล่หวดย้ำชัยเหนือ “พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ” ไปได้ 2-0 เซต 6-3, 6-2 ทะยานสู่รอบ 16 คนสุดท้ายในศึกเทนนิส “ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ”

วันที่ 24 ก.พ. 64 การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2021” ครั้งที่ 2 ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับประเทศไทย ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยในวันนี้ประเภทชายเดี่ยว รอบสาม (32 คน) “เน็ต” พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ มือวางอันดับ 3 ของรายการ วัย 21 ปี จากฉะเชิงเทรา ทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และเดวิสคัพ พบ “ณัฐ” ปรัชญา อิสโร ทีมชาติชุดเดวิสคัพหลายสมัย วัย 25 ปี จากสงขลา โดยคู่นี้ผลัดกันแพ้ชนะมาหลายครั้ง ทว่าครั้งสุดท้ายที่พบกันคือรอบมาสเตอร์ ศึกเทนนิส หัวหิน โอเพ่น 2020 นัดชิงชนะเลิศ เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งแมตช์นั้นปรัชญาชนะ 2-0 เซต ส่วนแมตช์นี้ ปรัชญา ยังทำผลงานได้ดี รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้ เอาชนะไป 2 เซตรวด 6-3, 6-2 ปรัชญาคว้าชัยชนะเหนือ พลภูมิ ได้อีกครั้ง ทำให้ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ไปพบ สิรวิชญ์ สุดเนตร จากอำนาจเจริญ ที่เข้ารอบด้วยการเอาชนะ ต้นกล้า มุละดา มือวาง 17 จากลำพูน 7-5, 6-4

ด้านหญิงเดี่ยว รอบสอง (32 คน) “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช นักหวดดาวรุ่งวัย 17 ปี จากกรุงเทพฯ มือวางอันดับ 14 ของรายการ พบ ไทร่า ลิธิบี ดาวรุ่งวัย 14 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ปรากฏว่า พิมพ์รดา ที่แม้เล่นผิดพลาดเองค่อนข้างเยอะ แต่ยังได้ประสบการณ์ช่วยประคองเกม ทำให้เอาชนะไป 2-0 เซต 6-3, 6-4 พิมพ์รดา ผ่านเข้ารอบสามหรือรอบ 16 คนสุดท้าย พบ “พราว” ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต จากนนทบุรี มือวาง 4 ที่ชนะ เกศรินทร์ อุ่นศิริ จากชัยภูมิ 2-0 เซต 6-1, 6-0

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ หญิงเดี่ยว รอบสอง (32คน) อัญชิสา ฉันทะ (มือวาง6-ประจวบคีรีขันธ์) ชนะ เวียร่า ดีเพิ่ม (ชลบุรี) 6-2, 6-1, ไหม ณภัทร นิรันดร (นนทบุรี) ชนะ สลักทิพย์ อุ่นเมือง (นนทบุรี) 6-4, 7-6 (2), ลัลนา ธาราฤดี (นครศรีธรรมราช) ชนะ ร่มเกล้า ยืนยาว (อุบลราชธานี) 6-1, 6-2, มนัญชญา สว่างแก้ว (มือวาง3-สิงห์บุรี) ชนะ ณัชชารีย์ ธีรโชติจิรานนท์ (ประจวบคีรีขันธ์) 6-0, 6-0, พัชรินทร์ ชีพชาญเดช (มือวาง5-ขอนแก่น) ชนะผ่าน ชุติกาญจน์ ไชยวงศ์ (พิษณุโลก), กมลวรรณ บัวแย้ม (ชลบุรี) ชนะ ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล (สิงห์บุรี) 6-0, 6-3

ชายเดี่ยว รอบสาม (32คน) วิชยา ตรงเจริญชัยกุล (มือวาง1-กทม) ชนะ ลีโอ วิฑูรย์เธียร (สมุทรปราการ) 6-3, 6-4, กษิดิศ สำเร็จ (มือวาง2-กทม.) ชนะ ศุภศิษฏ์ อภิธนวิทย์ (นนทบุรี) 7-5, 6-3, ฐานทัพ สุขสำราญ (มือวาง6-ลพบุรี) ชนะ แทนตะวัน แมคจิโอริ (กทม.) 6-0, 6-0, กฤติน โกยกุล (มือวาง7-พังงา) ชนะ ชวิน มูฮำหมัด (กทม.) 6-3, 6-1, ยุทธนา เจริญผล (อ่างทอง) ชนะ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (กทม.) 6-2, 6-3

ธนเพชร ฉันทะ (มือวาง8-ประจวบคีรีขันธ์) ชนะ รตน ไตรพจน์ (นนทบุรี) 6-7(4-7), 5-0 Retd.(ตะคริว), วรวิญ กำธรกิตติกุล (นนทบุรี) ชนะ วรุตม์ ก่อเกียรติถาวร (กทม.) 6-4, 4-6, 6-3, ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย (ภูเก็ต) ชนะ ภูมิ สอนบุตรนาค (กทม.) 6-2, 6-1, ชญานนท์ แก้วสุทอ (สระบุรี) ชนะ อนพัช ทิมางกูร (กทม.) 6-4, 6-2, วรชน รักษ์ปวงชน (กทม.) ชนะ สุทธิภัทร ยุนกระโทก (นนทบุรี) 6-0, 6-1

ศรัญพงศ์ บริสุทธิ์พงศ์ (นนทบุรี) ชนะ เฮนดริก โกรฮ์บรึกเกอร์ (กทม.) 6-3, 7-6 (4), ธีรดนย์ ต่อตระกูล (กทม.) ชนะ นพดล น้อยกอ (พิจิตร) 6-3, 6-1, ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ (ระยอง) ชนะ ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ (กาญจนบุรี) 4-6, 6-4, 6-4, วรชน รักษ์ปวงชน (กทม.) ชนะ สุทธิภัทร ยุนกระโทก (นนทบุรี) 6-0, 6-1

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


แนะหลัก สุก ร้อน สะอาด ป้องกันโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ

แนะหลัก สุก ร้อน สะอาด ป้องกันโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ thaihealth

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” ป้องกันโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง และโรคอาหารเป็นพิษ หากมีอาการปวดท้องรุนแรง ถ่ายเหลว หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด กระหายน้ำมากกว่าปกติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง และโรคอาหารเป็นพิษ กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ อาหารค้างมื้อ ควรนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนรับประทาน เลือกซื้อน้ำดื่ม น้ำแข็งที่สะอาดได้มาตรฐาน ล้างวัตถุดิบให้สะอาดก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว พยาธิ เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ถ่ายเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งต่อวัน อุจจาระมีเลือดปน คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ในบางรายที่อาการรุนแรง จนเกิดภาวะขาดน้ำ เช่น คอแห้ง ปากแห้ง ปัสสาวะออกน้อย ทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้

จากรายงานของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2564 พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง จำนวน 65,445 ราย กลุ่มอายุที่พบมาก 3 อันดับแรก คือ แรกเกิด-4 ปี รองลงมาคือ อายุ 65 ปีขึ้นไป และอายุ 15-24 ปี ตามลำดับ ส่วนโรคอาหารเป็นพิษ พบผู้ป่วย จำนวน 8,166 ราย กลุ่มอายุที่พบมาก 3 อันดับแรก คือ อายุ 15-24 ปี รองลงมาคือ อายุ 25-34 ปี และแรกเกิด-4 ปี ตามลำดับ โดยทั้ง 2 โรคนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ โดยขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนรับประทานทุกครั้ง เลือกบริโภคอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็งที่สะอาดได้มาตรฐาน ไม่รับประทานอาหารที่ปรุงจากสัตว์หรือพืชที่มีพิษ เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาดและมีคุณภาพ ควรใช้ช้อนกลางส่วนตัวเมื่อรับประทานร่วมกัน เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และก่อนหยิบจับหรือรับประทานอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

สำหรับผู้ประกอบอาหารต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนเตรียมและปรุงอาหาร ล้างวัตถุดิบ ภาชนะและอุปกรณ์ให้สะอาด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สวมหมวกคลุมผม ไม่ปฏิบัติงานขณะป่วย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคในอาหารและน้ำไปสู่ผู้บริโภคได้

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่มีอาการป่วยข้างต้น สามารถช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยให้ผู้ป่วยจิบน้ำผสมสารละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และควรรับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย หากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ หากต้องการใช้ยาปฏิชีวนะ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


คำศัพท์ดีๆ

วันนี้ครูมีคำศัพท์ดีๆมาฝากกัน มันต้องดีแน่นอน!

…เพราะว่าครูกำลังหมายถึงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่แปลว่า ‘ดี’ แต่ละคำ ที่เจ้าของภาษามักจะใช้พูดจา เขียน หรือสื่อสารกันในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งใช้ในบริบทที่แตกต่างกันนิดหน่อย

1) Well
คำว่า well คำนี้แปลว่า ‘ดี’ หรือ ‘สบายดี’ โดยสามารถใช้เป็นได้ทั้ง Adj. หรือ Adv. ก็ได้
ตัวอย่างเช่น

This whole team played well.
(ทีมนี้เล่นได้ดีมาก)
I’m not feeling well.
(ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี )

2) Good
ขาดคำนี้ไม่ได้เลย เพราะเป็นคำศัพท์ยอดนิยม แต่สิ่งที่หลายๆคนไม่รู้ก็คือ ปกติแล้วคำว่า Good จะใช้เป็น Adj. หรือใช้ขยายคำนามนั่นเอง
ตัวอย่างเช่นเช่น

This soup is good.
(ซุปถ้วยนี้อร่อยดี)

หากเราจะบอกว่า เก่งเรื่องอะไรบางอย่าง ก็ใส่คำว่า at ตามหลัง
ตัวอย่างเช่น
My sister is good at cooking.
(น้องสาวของฉันทำอาหารเก่ง)

3) Nice
ต่อมาคือ คำว่า nice ซึ่งแปลว่า ‘ดี’ คล้ายๆกับคำว่า good นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ครูต้องขอยกประโยคตัวอย่างมาเปรียบเทียบ เพื่อให้น้องๆเห็นภาพความแตกต่าง
ตัวอย่างเช่น

She is good. จะมีความหมายในเชิงว่า หล่อนเป็นคนดี หรือมีความประพฤติดี
She is nice. จะมีความหมายในเชิงว่า หล่อนเป็นคนดี ในแง่ของอัธยาศัยไมตรีหรือนิสัยใจคอนั่นเอง
(แต่ถ้าพูดถึงสิ่งของ จะหมายถึง หรูหรา หรือ ดูดี เช่น Nice car.)

4) Fine
สุดท้ายคือ คำว่า fine ซึ่งก็แปลว่า ‘ดี’ อีกเหมือนกัน แต่จะใช้ในความหมายแตกต่างออกไปอย่างไรนั้น ก็ต้องอาศัยบริบทช่วยในการแปล เพราะคำว่า fine สามารถใช้ได้หลากหลายจริงๆ

…แต่ที่พี่ๆน้องๆอาจจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว ก็คงจะเป็นเวลาที่มีใครถามเราว่า
“How are you?”
ซึ่งเราก็จะตอบว่า
“I’m fine. Thank you.”

อย่างไรก็ตาม คำว่า fine สามารถใช้ในกรณีที่เราต้องการจะบอกว่า “ดีแล้ว” หรือ “ไม่เป็นไร” ก็ได้เหมือนกัน

ตัวอย่างเช่น
“Would it be okay if I buy you a biscuit instead of bread?”
(ฉันซื้อขนมปังให้คุณแทนขนมบิสกิตได้ไหม)
“Yes. It’s fine.”
(ได้สิ ไม่เป็นไร)

จะเห็นได้ว่า ทั้งคำว่า well, good, nice, fine ต่างก็ให้ความหมายในเชิงบวกที่แปลว่า ‘ดี’ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว มันไม่ใช่แฟน จึงใช้แทนกันไม่ได้ แต่ละคำจะมีบริบทการใช้ที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย หากเราขยันอ่าน ฝึกฟัง และสังเกตบ่อยๆ ก็จะไม่ต้องคอยพึ่งพาการจดจำวิธีใช้ แต่จะสามารถใช้ได้ถูกบริบทจนเกิดความเคยชินได้เองครับ…

สู้ๆ!

คำถามทดสอบ:

1) เติมคำในช่องว่าง ให้เหมาะสมกับบริบทที่สุด
He speaks English very _.
a. well
b. good
c. fine
d. ถูกทั้ง a. และ b.

2) เติมคำในช่องว่าง
She’s not __.
a. well
b. good
c. fine
d. ถูกทุกข้อ

3) นอกจากคำว่า well, nice, fine, good แล้ว คำใดสามารถใช้ในความหมายว่า ‘ดี’
a. terrible
b. awful
c. alright
d. ถูกทั้ง a. และ b.

เฉลย
1. (ข้อ c.) เพราะเป็นการใช้ well ในฐานะ Adv. ถึงแม้ในบางครั้งเราอาจจะได้ยินคนไทยพูดว่า He speaks English very good. แต่โดยปกติแล้ว good จะใช้เป็น Adj. มากกว่า
2. (ข้อ d.) เพราะหากไม่มีการกำหนดบริบทมาให้ เราสามารถเติมได้ทั้ง 3 คำ ถึงแม้จะทำให้ความหมายแตกต่างกันออกไปก็ตาม
3. (ข้อ a.) คำตอบอยู่ในย่อหน้าท้ายๆของบทความครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


เปิดหุ่นยนต์โคบอทปลดล็อคระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม

เปิดหุ่นยนต์โคบอทปลดล็อคระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม

เอบีบีขยายขีดความสามารถของ YuMi หุ่นยนต์โคบอท หรือหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ ด้วยหุ่นยนต์โคบอท 2 รุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ GoFa (โก-ฟา) และ SWIFTI (สวิฟท์ติ)

ธุรกิจจำนวน 8 ใน 10 แห่ง ระบุว่า มีความต้องการเพิ่มปริมาณการใช้งานหุ่นยนต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งการเกิดโรคระบาดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยเร่งให้ธุรกิจมีการลงทุนในระบบอัตโนมัติมากขึ้น

เอบีบีกำลังขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มหุ่นยนต์โคบอท ด้วยหุ่นยนต์ GoFa และ SWIFTI ซึ่งมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากขึ้นและทำงานได้เร็วกว่าเดิม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของหุ่นยนต์โคบอทจากเอบีบี หรือที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ YuMi ที่มีทั้งรุ่นสองแขนและแขนเดียว หุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่นี้มีความแข็งแรง รวดเร็ว และทำงานได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้เอบีบีขยายธุรกิจเข้าไปสู่ภาคส่วนที่มีการเติบโตสูง โดยรวมถึงกลุ่มธุรกิจทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ สาธารณสุข สินค้าอุปโภคบริโภค การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยให้รองรับความต้องการใช้งานระบบอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลากหลายอุตสาหกรรม

เปิดหุ่นยนต์โคบอทปลดล็อคระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม

หุ่นยนต์ GoFa และ SWIFTI ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย จึงลดความจำเป็นในการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมเฉพาะทางภายในบริษัทของผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยปลดล๊อคศักยภาพในการใช้งานหุ่นยนต์ให้แก่บรรดาธุรกิจต่างๆ เพราะสามารถใช้งานหุ่นยนต์โคบอทของพวกเขาได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากแกะกล่องและสามารถติดตั้งใช้งานโดยไม่ต้องมีการฝึกอบรมใด ๆ เป็นพิเศษ

ซามิ อาติย่า ประธานกลุ่มธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของเอบีบี กล่าวว่า “หุ่นยนต์โคบอทกลุ่มใหม่นี้ เป็นหุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการทำงานได้หลากหลายที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง และช่วยให้ลูกค้าของเราเติบโตและเพิ่มผลผลิตได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” “หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ทำการตั้งค่าและใช้งานได้ง่าย และยังมีผู้เชี่ยวชาญจากเอบีบีที่คอยให้ความช่วยเหลือไม่ว่าในรูปแบบออนไลน์หรือคอลเซ็นเตอร์ในหลายประเทศทั่วโลก สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ รวมไปถึงภาคส่วนใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากอุตสาหกรรมการผลิต จะเปิดรับหุ่นยนต์เพื่อนำไปใช้งานเป็นครั้งแรก”

เปิดหุ่นยนต์โคบอทปลดล็อคระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม

การขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มหุ่นยนต์โคบอทของเอบีบีในครั้งนี้ มีเป้าหมายในการช่วยให้ทั้งผู้ใช้งานเดิมและผู้เริ่มใช้งานใหม่สามารถใช้งานระบบอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความท้าทายในตลาดหลัก 4 ประการ ได้แก่ การที่ผู้บริโภคมีรสนิยมหลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ การขาดแคลนแรงงาน การก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล และความไม่แน่นอน ซึ่งทั้งหมดล้วนผลักดันให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองและขับเคลื่อนให้ระบบอัตโนมัติเข้าไปสู่ธุรกิจในภาคส่วนใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากเป้าหมายทางธุรกิจที่มุ่งเน้นไปยังภาคส่วนหรือธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตและทำกำไรได้

ระบบอัตโนมัติช่วยผลักดันอนาคตแห่งอุตสาหกรรมการผลิต

จากการสำรวจ1 ธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ทั่วโลกกว่า 1650 แห่ง ทั่วทั้งทวีปยุโรป อเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผลปรากฎว่ากว่าร้อยละ 84 ของธุรกิจเหล่านั้นระบุว่า จะเพิ่มปริมาณการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติภายใน 10 ปีข้างหน้า ขณะที่ร้อยละ 85 กล่าวว่าโรคระบาดเป็น “จุดเปลี่ยน” สำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมของพวกเขา โดยเฉพาะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจัดเป็นปัจจัยหลักที่เร่งให้มีการเพิ่มการลงทุนในระบบอัตโนมัติมากขึ้น ร้อยละ 43 ของบริษัททั้งหมดกล่าวว่า พวกเขากำลังมองหาหุ่นยนต์มาช่วยยกระดับด้านความปลอดภัยและสาธารณสุขในที่ทำงาน ร้อยละ 51 กล่าวว่าหุ่นยนต์น่าจะช่วยให้สามารถรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลได้ และ กว่าหนึ่งในสาม หรือร้อยละ 36 กำลังพิจารณาการใช้หุ่นยนต์เพื่อเพิ่มคุณภาพการทำงานของพนักงาน และสุดท้าย ร้อยละ 78 ของบรรดาผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่า การเฟ้นหาและรักษาพนักงานไว้สำหรับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ และงานที่ค่อนข้างบั่นทอนสุขภาพจัดว่าเป็นความท้าทายอย่างหนี่ง

หุ่นยนต์โคบอทได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับพนักงานคนอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องมีมาตรการหรือเครื่องป้องกัน อย่างเช่น รั้วกั้น รวมทั้งให้ติดตั้งและใช้งานได้ง่าย ในปี 2019 หุ่นยนต์โคบอทกว่า 22,000 ตัวได้ถูกใช้งานทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า2  มีการประมาณการณ์ว่าความต้องการใช้งานหุ่นยนต์โคบอทจะเติบโตโดยเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปีในระหว่างปี 2020 ถึง 20253 ขณะที่ยอดขายหุ่นยนต์โคบอท คาดว่าจะเติบโตจากประมาณ 0.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2019 ไปเป็น 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 20254  ตลาดโลกสำหรับหุ่นยนต์ทุกประเภทนั้นก็คาดว่าจะเติบโตจาก 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2020 ไปเป็น 5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2023 (เฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปี)5

หุ่นยนต์ GoFa และ SWIFTI  ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจให้ปรับกระบวนการผลิตให้เป็นแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยพนักงานในงานเช่น การป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร การประกอบชิ้นส่วน และงานบรรจุสินค้าในอุตสาหกรรมผลิต ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ศูนย์รวมการขนส่งและคลังสินค้า เวิร์คช็อป รวมถึงโรงงานขนาดเล็ก

คุณอาติย่า กล่าวว่า“ในการเพิ่มไลน์ของผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ เราพยายามให้หุ่นยนต์โคบอทใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยมีศูนย์บริการคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยให้นำไปใช้ในธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น ไม่ให้เกิดความล่าช้าซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ ที่ผู้ประกอบการไม่เลือกใช้หุ่นยนต์อย่างที่ผ่านมา” “จากประสบการณ์ของเรา การทำงานให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น ได้จากการเก็บเกี่ยวทักษะของคน ควบคู่ไปกับการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ ๆ”

สำหรับผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับการใช้แท็ปเล็ตหรือสมาร์ทโฟน จะสามารถตั้งโปรแกรมและปรับเปลี่ยนโปรแกรมหุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่นี้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้งานเครื่องมือตั้งค่าเริ่มต้นแบบรวดเร็วของเอบีบี ผู้ใช้งานยังสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญของเอบีบีจากทุกมุมโลก ซึ่งได้รับการฝึกอบรมการติดตั้งหุ่นยนต์มากว่า 500,000 แบบตั้งแต่ปี 1974 รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากเครือข่ายพันธมิตรของเอบีบีกว่า 1,000 รายทั่วโลก

หุ่นยนต์ GoFa™ และ SWIFTI™ รุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นโดยการต่อยอดมาจากความสำเร็จของหุ่นยนต์ตระกูล YuMi® หรือหุ่นยนต์โคบอทที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างแท้จริงตัวแรกของโลกจากเอบีบี ซึ่งได้ช่วยธุรกิจจัดการงานหลัก ๆ ด้วยความปลอดภัยมาตั้งแต่เปิดตัว เมื่อปี 2015 ทุกวันนี้หุ่นยนต์ YuMi ของ ABB จะทำงานร่วมกับพนักงานในโรงงาน เวิร์กช็อปและห้องปฏิบัติการทั่วทุกมุมโลก ปฏิบัติงานตั้งแต่ขันน็อต ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงวาล์วและอุปกรณ์ USB รวมทั้งทดสอบเชื้อโควิดจากตัวอย่างที่เก็บมาในห้องปฏิบัติการ

ในการติดตั้งหุ่นยนต์โคบอทของเอบีบีทุกตัว จะมีโปรแกรมเริ่มใช้งานซึ่งมีหน่วยเชื่อมต่อข้อมูลแบบดิจิทัล ABB Ability™ ที่คอยติดตามเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งมีสายด่วนไปยังศูนย์บริการเพื่อติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค ซึ่งไม่มีค่าบริการสำหรับ 6 เดือนแรก และคอยให้ความช่วยเหลือในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เหง้าบัว ของล้ำค่าจากใต้ดิน

เหง้าบัว ของล้ำค่าจากใต้ดิน

เหง้าบัว ของล้ำค่าจากใต้ดิน

         บัว เรียกได้ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ครบแทบทุกส่วนทั้งเหง้า ก้านใบ ก้านดอก ใบ กลีบ เกสร เมล็ด ดีบัว ฝักบัว ใช้ได้ทั้งต้นแบบคุ้มสุดคุ้ม แต่วันนี้เราจะพาเหง้าบัวมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกันมากขึ้นเพราะหลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่เหง้าบัวจะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาติดตามไปพร้อมกันเลยดีกว่า

เหง้าบัวมีประโยชน์อะไรกับพวกเราบ้าง?

  1. แน่นอนนอนที่สุดเหง้าบัวเป็นอาหารที่ดีของพวกเราทำให้อิ่มท้องปรุงเมนูได้หลากหลาย
  2. ช่วยแก้อาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี
  3. ถ้าคุณกำลังมองหายาบำรุงกำลังให้ธรรมชาติอยากเหง้าบัวช่วยบำรุงกำลังให้คุณกันดีกว่า
  4. ใครที่เจอกับความเสี่ยงเรื่องของเบาหวานน้ำตาลในเลือดสูงนั้นต้องให้เหง้าบัวช่วยดูแลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดกันอีกแรง
  5. ความเย็นของเหง้าบัวช่วยลดอาการร้อนในให้กับคุณได้
  6. หากคุณมีแผลหรือมีการอักเสบในร่างกายเกิดขึ้นเราขอแนะนำว่าหากเหง้าบัวมาทานช่วยคุณได้เหมือนกัน
  7. ถ้าแก้ท้องเสียได้ ก็สามารถช่วยแก้อาการท้องร่วงได้เหมือนกัน 
  8. ข้อนี้ยกให้เป็นประโยชน์ของสาว ๆ ถ้าคุณมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติล่ะก็เหง้าบัวมีส่วนช่วยคุณได้
  9. ปัญหาริดสีดวงทวารนั้นบอกเลยว่าเป็นปัญหาที่ทั้งกวนใจและทำให้คุณต้องเจ็บปวดมากดังนั้นมาหาตัวช่วยง่าย ๆ อย่างการทานเหง้าบัวกันดีกว่า
  10. เหง้าบัวมีส่วนช่วยในการห้ามเลือดให้กับคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

จริง ๆ แล้วเหง้าบัวก็เป็นรากของบัวนั่นเองซึ่งเมนูยอดนิยมที่คนมักเอามาทำกันก็จะเป็นไปทางของหวานและเครื่องดื่มอย่างเช่น น้ำรากบัว กันเสียมากกว่า แต่ก็ยังสามารถนำมาทำเมนูอาหารคาวอย่างเช่น ซี่โครงหมูตุ๋น รากบัวผัดพริก แกงจืดรากบัว เป็นต้น
         ซึ่งอย่างที่บอกกันไปแล้วว่าเมื่อทานก็จะมีส่วนช่วยคุณทั้งในเรื่องของความดันและเรื่องของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

จริง ๆ แล้วเหง้าบัวมีลักษณะอย่างไร?

เหง้าบัวนั้นจะอยู่ใต้ดิน จะเป็นท่อนยาว มีปล้อง สีออกไปทางเหลืองอ่อน มักจะโตได้ดีในดินเหนียว และอยู่ที่ระดับความลึกของน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร 
         คุณค่าทางโภชนาการหลัก ๆ แล้วเหง้าบัวประมาณ 100 กรัมนั้นจะมีพลังงานอยู่ประมาณ 66 กิโลแคลลอรี่ ซึ่งก็มีทั้งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เส้นใยอาหาร ไขมัน โปรตีน วิตามินบีต่าง ๆ โคลีน วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี

         การทานเหง้าบัวจริง ๆ แล้วไม่ค่อยมีพิษมีภัยเท่าไรนักแต่การทานทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดีจะดีที่สุดและได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก atherbth.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 25,500.00 25,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,652.00 25,044.32 26,100.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,486.80 22,539.89 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,321.60 20,035.46 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 743.00 11,263.88 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 578.00 8,762.48 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,712.00 25,953.92 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/02/2564

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05
แก๊สโซฮอล์ 91 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78
แก๊สโซฮอล์ E20 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54
แก๊สโซฮอล์ E85 20.54 20.54 20.54
เบนซิน 95 33.46 33.91 33.96 33.46 33.46
ดีเซล B7 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99
ดีเซล 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99
ดีเซล B20 23.74 23.74 23.94 23.74 23.74 23.74 23.74
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.44 31.46 33.44 32.84 31.44
แก๊ส NGV 13.35 13.35 13.35
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า