ยอดขายบ้าน ‘เอสซี แอสเสท’ โตกระฉูด! ลุ้น ขึ้นแท่นแบรนด์บ้านเดี่ยวเบอร์ 1
บมจ. เอสซีฯ เผยความสำเร็จไตรมาสแรก ยอดขายแนวราบทำได้เกินเป้า คาดทั้งปีโตกว่า 200% หนุนเป้าหมาย อนาคตขึ้นแท่น แบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ โดยนายณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ Head of Marketing เปิดเผยว่า “จากเป้าหมายของ SC ที่จะเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในอนาคต ตามแผนธุรกิจที่ประกาศเมื่อต้นปีทึ่ผ่านมา
ปรากฏว่าภาพรวมการเติบโตของยอดขายแนวราบในไตรมาสแรกแรกของปีนี้ ยังมีกระแสตอบรับที่ดีต่อเนื่อง โดยที่มียอด walk เยี่ยมชมโครงการรวมทุกทำเลเติบโต 35% (yoy) ส่งผลให้กวาดยอดขายแนวราบเพิ่มขึ้นเกินเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าเติบโตกว่า 200% (yoy)
ซึ่งนอกจากปัจจัยของความเชื่อมั่นในแบรนด์ สิ่งที่สนับสนุนให้บริษัทประสบความสำเร็จ มาจากหัวใจของการพัฒนา ‘บ้าน’ ทุกระดับราคา มีคุณภาพมาตรฐานสูง พร้อมกับมีแนวคิดสำคัญทั้งในเรื่องสินค้าและบริการ คือ
1. เราทำบ้านสำหรับทุกคน ‘Homes for All’ ซึ่งพัฒนาจากอินไซด์ของลูกค้า (human-centric) ทั้งการดีไซน์ตอบโจทย์เรื่องความสวยงามและการออกแบบฟังก์ชั่นบ้านสำหรับทุก generations พร้อมการจัดสรรทุกพื้นที่ใช้สอยของบ้านให้รองรับกิจกรรมหลากหลายที่เพิ่มขึ้น โดย segment ของแบรนด์หัวหอกที่เติบโตแข็งแกร่งของไตรมาสแรกนี้เป็นกลุ่มบ้านระดับราคามากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่ทำยอดขายมากสุดเติบโตถึง 243% (yoy) มาจากโครงการ Granada , The Gentry , Grand Bangkok Boulevard , Headquaters
2. การแข่งกับตัวเองและไม่หยุดพัฒนา สร้างความสำเร็จอีกขั้นด้วยการต่อยอดแนวคิดสู่ ‘One Size doesn’t Fit All’ พร้อมกับเปิดตัวบ้าน 2 ซีรี่ส์พิเศษที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนโสดและกลุ่มครอบครัวที่ต้องการความแตกต่างในการใช้ชีวิต ได้แก่ บ้านคนโสดและบ้านเดียวกัน ที่โครงการ เวนิว พระราม 9 ทำให้บ้านของ SC มีเอกลักษณ์และเป็น Trend Setter ของบ้านที่มี space ไม่เหมือนใคร
3. ในส่วนแพลตฟอร์ม “รู้ใจคลับ” โมเดลล้ำของการอยู่อาศัยแบบ Worry-free Home ซึ่งพร้อมส่งมอบ ‘แพ็กแรกพบ’ ประสบการณ์พิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อบ้านภายในปีนี้ทุกยูนิตจะได้รับสิทธิพิเศษเป็นสมาชิก “รู้ใจคลับ” โดยอัติโนมัติ เพื่อเป็นผู้ช่วยส่วนตัวประจำบ้านและทำหน้าที่ดูแลบ้านให้เหมือนวันแรก พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมายบนรู้ใจแอป ซึ่งได้คัดสรรกิจกรรมพิเศษสำหรับสมาชิกรู้ใจคลับโดยเฉพาะ ”
นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ การเปิดโครงการใหม่ยังเป็นไปตามแผน โดยไตรมาส 2/2564 เตรียมเปิดโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 30-3-84 ไร่ ราคา 20-30 ล้านบาท พร้อมกับบ้านนิวซีรี่ส์และทาวน์โฮมอีก 7 โครงการใหม่จะทยอยเปิดในครึ่งปีหลัง ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หลักการ เลือกซื้อบ้าน และ การเตรียมความพร้อม
เลือกซื้อบ้านมือสองทั่วไป หรือ ซื้อบ้านสถาบันการเงินดีกว่ากัน ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้ เผย ‘เทคนิคและการเตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน’
นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิด พร๊อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ที่อยู่อาศัยมือสองได้รับความสนใจจากผู้ที่กำลังเลือกซื้อบ้าน เนื่องจากเป็นบ้านที่มีจุดเด่นในหลาย ๆ อย่าง เช่น เรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ดีและอยู่ในย่านที่มีสาธารณูปโภคต่าง ๆ พร้อมอยู่แล้ว
นอกจากนี้แล้วเรื่องราคายังอยู่ในเกณฑ์ที่ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญบ้านมือสองยังมีให้เลือกซื้อทั้งบ้านที่เจ้าของประกาศขายเองหรือขายผ่านนายหน้าอสังหาฯ และเป็นบ้าน NPA หรือที่เรียกว่าบ้านแบงก์
“บ้านบุคคลทั่วไปกับบ้านแบงก์มีความต่างกัน คือบ้านบุคคลทั่วไปเวลาอยากจะขายผู้ขายก็จะมีความรู้สึกว่าบ้านเราควรจะได้ราคาเท่าที่ต้องการขาย ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับราคาตลาด ส่วนบ้านแบงก์หรือบ้านจากสถาบันการเงิน จะมีบริษัทกลางเข้ามาประเมินเพื่อจะตั้งราคาขายที่เป็นราคาตลาด ซึ่งจะต้องมีการคำนวณการประเมินราคาที่ดิน ประเมินสิ่งปลูกสร้าง และเปรียบเทียบราคาขายในทำเลเดียวกันฯลฯ จึงทำให้ราคามีความน่าเชื่อถือ” นางดรุณีกล่าว
อย่างไรก็ตาม การจะเลือกซื้อบ้านแบบไหนดีกว่ากันนั้น ต้องดูวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อว่าต้องการซื้อเพื่อใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้โรงเรียนของลูก ดังนั้น ปัจจัยเรื่องทำเลจึงเป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต้องตัดสินใจ นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยด้านราคา ต้องพิจารณาว่าราคาตอบโจทย์หรือไม่ ดังนั้น ทั้งบ้านแบงก์หรือบ้านบุคคลทั่วไปจะต้องพิจารณาจากปัจจัยทั้ง 2 อย่างเป็นลำดับต้น ๆ
สำหรับเทคนิคในการเลือกซื้อบ้านมือสองนั้น ผู้ซื้อต้องดูว่าจะซื้อด้วยเงินสดหรือสินเชื่อ หากต้องขอสินเชื่อต้องดูว่าตัวเองสามารถขอสินเชื่อได้เท่าไหร่ อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงคือเรื่องการซ่อมบ้าน ทั้งบ้านแบงก์หรือบ้านมือสองต้องซ่อมเหมือนกัน ยกเว้นบ้านที่อยู่ในสภาพดีสามารถหิ้วเข้ากระเป๋าเข้าไปอยู่ได้เลย นอกจากนี้แล้วผู้ซื้อยังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ณ กรมที่ดิน เช่น ค่าโอน ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 31.20/24 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.20/24 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวาน และคาดว่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางอ่อนค่าได้ต่อ จากปัจจัยเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ที่ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสำคัญ
“บาทวันนี้คงจะอ่อนค่าต่อ จากปัจจัยเรื่องบอนด์ยิลด์เป็นหลัก” นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15 – 31.25 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
8 อาการปวดหัวที่น่ากลัวจนอยากให้ไปปรึกษาแพทย์
ปวดหัว อาการที่ใครๆ ต่างก็เคยเป็น และหลายคนอาจมองว่าเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ กินยาแก้ปวดเดี๋ยวก็หาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความจริงแล้วอาการปวดหัวนั้นมีหลายชนิด อาการบางอย่างสามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงได้ โดยเฉพาะการปวดหัวที่มาพร้อมกับอาการผิดปกติอื่นๆ
แพทย์หญิงจุฑาทิพย์ รัตนพันธ์ อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยว่า อาการปวดหัวที่อันตรายและเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง แบ่งออกเป็น 8 อาการ ดังนี้
1. ปวดหัวรุนแรงแบบเฉียบพลัน ปวดขึ้นมาทันทีทันใดหรือปวดจนหมดสติ ไม่รู้สึกตัว อาจเกิดจากการมีเลือดออกในสมอง เช่น หลอดเลือดสมองแตก หลอดเลือดสมองโป่งพอง ซึ่งพบได้บ่อย
2. ปวดหัวร่วมกับคอแข็งเกร็ง มีไข้ อาจเกิดจากมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือมีสมองอักเสบร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อที่รุนแรง จนทำให้เสียชีวิตได้
3. ปวดหัวร่วมกับมีอาการทางระบบประสาทผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด เวียนศีรษะ เดินเซ เห็นภาพซ้อน เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคเนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมองตีบตันซึ่งเป็นได้ทั้งชนิดหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำอุดตัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้อัมพฤกษ์ อัมพาตได้
4. ปวดหัวร่วมกับมีอาการชักเกร็งหรือกระตุก อาจเกิดจากโรคหลอดเลือดสมองตีบตันใกล้บริเวณผิวสมอง เป็นได้ทั้งชนิดหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำอุดตัน หรือโรคเส้นเลือดขอดในสมอง ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำบางตำแหน่งในสมองเชื่อมต่อกันผิดปกติ
5. ปวดหัวบริเวณท้ายทอย บางครั้งปวดจนตาพร่ามัวหรือชักเกร็ง อาจเกิดจากความดันโลหิตสูงหรือภาวะความดันในกระโหลกศีรษะสูงผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
6. ปวดหัวมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าทาง เช่น นั่ง ยืน นอน อาจเกิดจากภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองมากกว่าปกติ หรือ ภาวะความดันในกระโหลกศีรษะสูงหรือต่ำผิดปกติ
7. ปวดหัวในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น เนื้องอกในสมอง โรคไต โรคความดันโลหิตสูง โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น HIV โรคทางภูมิคุ้มกันบกพร่องบางชนิด เช่น SLE
8. ปวดหัวตลอดเวลาและไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ จำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีอาการปวดหัวแบบที่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคเรื้อรังได้ นั่นคือการปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ แต่ปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ โดยสาเหตุที่พบบ่อยมักเกิดจากโรคไมเกรนหรือการตึงตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่อันตรายแต่เป็นโรคเรื้อรังและรบกวนคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ อาการปวดหัวจากไมเกรนสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยารักษาชนิดรับประทานหรือชนิดฉีดใต้ผิวหนัง หรือการรักษาทางเลือกด้วยการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เพื่อป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน ร่วมกับหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ส่วนอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัวหรือออฟฟิศซินโดรม สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาร่วมกับการกายภาพบำบัด ซึ่งอาการปวดหัวเหล่านี้หากไม่ได้รับการรักษาจะเรื้อรังและรุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคร่วมอื่น เช่น ภาวะซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น อาการปวดหัวจึงไม่ใช่อาการเพียงเล็กน้อยที่เราจะมองข้ามได้ แม้ว่าจะปวดไม่มากแต่ถ้าเกิดขึ้นเป็นประจำหรือมีอาการร่วมดังกล่าว ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อรักษาให้ตรงโรค ตรงจุดและทันท่วงที
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ม้วนเดียวจบ! “กิ๊ฟ-วิว” คว่ำ คู่บัลแกเรีย 2-0 ผงาดแชมป์หญิงคู่ออร์เลอ็อง
การแข่งขัน แบดมินตัน ออร์เลอ็อง มาสเตอร์ 2021 ทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 100 ที่เมือง ออร์เลอ็อง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นรายการเก็บคะแนนไปโอลิมปิก 2020 ในกลางปีนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564
ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ กาเบรียล่า กับ สเตฟานี่ สโตเอว่า คู่มือวางอันดับ 2ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลกจากบัลแกเรีย
สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่เคยพบกันมาทั้งหมด 6 ครั้ง เป็นทางฝั่งหญิงคู่บัลแกเรีย ที่เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 4 ครั้ง แถมเจอกันล่าสุดในรอบรองฯ ศึก สวิส โอเพ่น 2021 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง กาเบรียล่า กับ สเตฟานี่ เก็บชัยชนะมาได้ 2-0 เกม
ผลการแข่งขันปรากฎว่า “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่้ยมเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-16 และ 21-16 ใช้เวลาแข่งขัน 43 นาที คว้าแชมป์ แบดมินตัน ออร์เลอ็อง มาสเตอร์ 2021 มาครองได้สำเร็จพร้อมเงินรางวัล 5,925 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 177,750 บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ตอบแบบมือโปร ตัด Yes or No ออกเลย!
“คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้เฉพาะคำว่า Yes, No, Okay” ฝรั่งคนหนึ่งเคยกล่าวไว้
ไม่จริ๊ง….ไม่จริง!
ได้ยินคำกล่าวนั้นแล้ว มันรู้สึกจี๊ดดดดดดในหัวใจครู (และคนไทยส่วนใหญ่ด้วยใช่ไหมล่ะ) ดังนั้น มาๆๆ วันนี้เราจะมาสอนวิธีตอบคำถามในรูปแบบอื่นกัน คือ ตอบแบบสั้นๆเหมือนเดิม แต่เมื่อฝรั่งได้ฟังแล้ว จะรู้สึกว่าเราเป็นมือโปรด้านภาษาอังกฤษขึ้นมาทันที
หลักการตอบแบบง่ายๆสั้นๆแบบนี้ คือ เมื่อถูกถามด้วย V.ช่วยตัวไหน ก็ตอบด้วย V.ช่วยตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบตกลงหรือปฏิเสธ โดยไม่ต้องสนใจว่าคำถามจะยาวแค่ไหน
ตัวอย่างเช่น
- 1) V. to be (is, am, are, was, were)
“Are you a student?” “คุณเป็นนักศึกษาใช่หรือไม่”
แทนที่เราจะตอบว่า Yes หรือ No ก็เปลี่ยนเป็นตอบว่า….
“I am” → “ใช่ ฉันเป็นนักศึกษา”
“I am not” (หรือ I ain’t) “ไม่ ฉันไม่ใช่นักศึกษา”
“Is she your teacher?” “หล่อนเป็นครูของคุณใช่หรือไม่”
แทนที่เราจะตอบว่า Yes หรือ No ก็เปลี่ยนเป็นตอบว่า….
“She is” → “ใช่ หล่อนเป็นครูของฉัน”
“She is not” (หรือ She isn’t) “ไม่ หล่อนไม่ใช่ครูของฉัน”
- 2) V. to do (do, does, did)
ตัวอย่างเช่น
“Do you want to join me?” “คุณอยากร่วมวงกับฉันมั้ย”
แทนที่เราจะตอบว่า Yes หรือ No ก็เปลี่ยนเป็นตอบว่า….
“I do” → “ใช่ ฉันอยากร่วมวง”
“I don’t” “ไม่ ฉันไม่อยาก”
“Did he force you to say?” “เขาบังคับให้คุณพูดเหรอ”
“He did” “ใช่ เขาบังคับ”
“He didn’t” “ไม่ เขาไม่ได้บังคับ”
- 3) V. to have (has, have, had)
ตัวอย่างเช่น
“Have you received a brochure?” “คุณได้รับโบรชัวร์หรือยัง”
แทนที่เราจะตอบว่า Yes หรือ No ก็เปลี่ยนเป็นตอบว่า….
“I have” → “ใช่ ฉันได้รับแล้ว”
“I haven’t” “ไม่ ฉันยังไม่ได้รับ”
“Has he a car?” “เขามีรถหรือไม่”
“He has” “มี เขามีรถ”
“He hasn’t” “ไม่ เขาไม่มีรถ”
จากประโยคตัวอย่างการถาม-ตอบที่ครูยกมาข้างต้น น้องๆคงจะสังเกตุได้ว่า…
ถึงแม้จะเป็นการตอบสั้นๆ แต่ความหมายของมันยาวและครอบคลุมคำแปลภาษาไทยทั้งหมดในวลีๆเดียวแล้ว ดังนั้น ครั้งต่อไปเวลาฝรั่งถามอะไร ลองตอบคำถามในลักษณะดังกล่าวกันดูนะ ฝึกใช้ให้คล่องๆ คนไทยเราจะได้ไม่ถูกมองว่า พูดเป็นแค่ Yes, No, Okay กันอีกต่อไป!
คำถามทดสอบ:
1) ข้อใดเป็นการตอบที่ผิดหลักแกรมม่าร์
Are they soldiers?
_______________
a. They are not
b. They aren’t
c. They are
d. They don’t
2) ข้อใดเป็นการตอบที่ผิดหลักแกรมม่าร์
Do they want to get some rest?
_______________
a. They do
b. They don’t
c. They does
d. They do not
3) ข้อใดเป็นการตอบที่ผิดหลักแกรมม่าร์
Have I told you lately that I love you?
_______________
a. You haven’t
b. You have not
c. I have
d. You have
เฉลย :
1. ( ข้อ d. ) เป็นคำตอบที่ผิดครับ เพราะหลักการก็คือ เมื่อถูกถามด้วย V.ช่วยในกลุ่มใด (V. to be/ V. to do/ V. to have) ต้องตอบกลับด้วย V.ช่วยในกลุ่มเดียวกัน
2. ( ข้อ c. ) เพราะถึงแม้จะใช้ V.ช่วยกลุ่มเดียวกัน (V. to do) ในการตอบ แต่ They ต้องใช้คู่กับ do ไม่ใช่ does
3. ( ข้อ c. ) เพราะถ้าถูกถามด้วย I ต้องตอบกลับด้วย You ครับ (ให้สังเกตุจากสรรพนามที่ตามหลัง V. ช่วยเป็นหลัก)
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
เปิดศึก EV พลังแรง Audi e-tron GT ท้าชน Porsche Taycan
เปิดศึก EV สายเลือดเดียวกัน น้องใหม่ Audi e-tron GT ปะทะ Porsche Taycan ผู้พี่ โดยอาวดี้ปรับสเปกลง และตั้งราคาขายต่ำกว่า
เปิดตัว Audi e-tron GT สปอร์ตคาร์พลังงานไฟฟ้า 100% พื้นฐานการพัฒนาเดียวกับ Porsche Taycan ที่เกี่ยวดองอยู่ในเครือโฟล์คสวาเกน เหมือนกัน
สำหรับ Porsche Taycan ทำตลาดมาก่อน 1 ปี ซึ่งหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อีวีรุ่นแรกของปอร์เช่ได้การตอบรับดีทั่วโลก เช่นเดียวกับเมืองไทย ที่ลูกค้าจองแล้วต้องรอรถกันนานกว่า 6 เดือน ล่าสุด เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส เปิดตัวรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ตัวเดียว ราคา 6.19 ล้านบาท
ในส่วน Audi e-tron GT เน้นว่ารถต้องเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ด้วยคุณค่าของ Quattro ที่ถือเป็นเทคโนโลยีเอกลักษณ์ของค่าย 4 ห่วง (แม้หลักการทำงานของ Quattro ในรถตระกูล e-tron จะไม่เกี่ยวกับรถเครื่องยนต์ก็ตาม)
Audi e-tron GT เปิดตัวมา 2 รุ่นหลักคือ ตัวแรง Audi RS e-tron GT สเปกเทียบเท่า Porsche Taycan Turbo และรุ่นเริ่มต้น Audi e-tron GT quattro สเปกประมาณ Porsche Taycan 4S
การทำตลาดในเมืองไทย อาวดี้ตั้งราคาต่ำกว่าปอร์เช่เล็กน้อย เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ พร้อมแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยคือ Audi e-tron GT quattro ราคา 6.39 ล้านบาท และ Audi e-tron GT quattro Performance ที่ได้สเปกเพิ่มขึ้นคือ On board charger (AC) สามารถรองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้ 22 KW (รุ่นปกติรองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้ 11 KW) ส่งผลใช้เวลาในการชาร์จแบบ AC สั้นลงเหลือเพียงประมาณ 5 ชั่วโมง 15 นาที
ติดตั้งดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีส้ม และล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 21 นิ้ว ขายในราคา 6.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4 แสนบาท เมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐาน ขณะที่ตัวแรง Audi RS e-tron GT quattro ราคา 9.49 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทุกรุ่นจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวขับเคลื่อนล้อหน้าและหลัง โดย Audi e-tron GT quattro ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ 540 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC)
ขณะที่ตัวท็อป Audi RS e-tron GT quattro ให้กำลังสูง 646 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 504 กิโลเมตร
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ได้ โควต้านำเข้า Audi e-tron GT มา 40 คัน พร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าชาวไทยโดยไม่ต้องรอรถนาน ขณะที่รุ่นขายดีที่สุดคือ Audi e-tron GT quattro Performance
ทั้งนี้ Audi e-tron ทุกรุ่น (รวมเอสยูวีที่เปิดตัวไปก่อนหน้า) จะได้การรับประกันแบตเตอรี่8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
ในปี 2563 อาวดี้ ไทยแลนด์ปิดยอดขายได้ประมาณ 1,000 คัน และปีนี้หวังเติบโต 10-15% โดยรถรุ่นขายดีที่สุดคือ Audi A5
ด้านปอร์เช่ ไทคานน์ ผู้พี่มีรายละเอียดดังนี้
Porsche Taycan 4S ราคา 7.1 ล้านบาท ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม. 4.0 วินาที ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง 407 กม.
Porsche Taycan Turbo ราคา 9.9 ล้านบาท ให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม. 3.2 วินาที ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง 450 กม.
Porsche Taycan Turbo S ราคา 11.7 ล้านบาท ให้กำลังสูงสุด 761 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม. 2.8 วินาที ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง 412 กม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ผำ/ไข่ผำ ประโยชน์ และสรรพคุณไข่ผำ
ผำ หรือ ไข่ผำ (Swamp algae) จัดเป็นวัชพืชน้ำประเภทลอยน้ำชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร อาทิ แกงไข่ผำ ไข่เจียวไขผำ เป็นต้น รวมถึงใช้ประโยชน์เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ อาทิ เลี้ยงเป็ด และสุกร
• วงศ์ : Lamnaceae
• สกุล : Wolffia
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wolffia arrhiza (L.) Horkel ex Wimm.
• ชื่อสามัญ :
– Swamp algae
– Water Meal
• ชื่อท้องถิ่น :
– ผำ
– ไข่ผำ
– ไข่แหน
– ไข่น้ำ
ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
ผำหรือไข่ผำ จัดอยู่ในกลุ่มแหนเป็ด (แหนแดง แหนเป็ดเล็ก แหนเป็ดใหญ่) ที่เป็นวัชพืชน้ำขนาดเล็กที่สุดที่มีดอก พบได้ในเขตประเทศอบอุ่นทั่วโลก ทั้งเอเชีย และแอฟริกา ส่วนในประเทศไทยพบแพร่กระจายในทุกภาค ตามแหล่งน้ำนิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสระน้ำหรือบ่อน้ำขนาดเล็ก ซึ่งมักอยู่บนกับแหนเป็ดชนิดอื่นหรือลอยอาศัยที่ผิวน้ำเพียงชนิดเดียว
ลักษณะทั่วไป
ผำ/ไข่ผำ เป็นพืชไม่มีราก มีลักษณะลำต้นเป็นก้อนกลม สีเขียวขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 2 มิลลิเมตร ผำนี้ สามารถออกดอกเป็นช่อ แต่ดอกมีขนาดเล็กมาจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งประกอบด้วยดอกเพศผู้ และดอกเพศเมียอยู่คนละดอก โดยไข่ผำมีส่วนด้านบนที่ลอยน้ำค่อนข้างแบน แต่ส่วนด้านล่างที่จมน้ำค่อนข้างหนา
ประโยชน์ผำ/ไข่ผำ
1. ไข่ผำในทุกภาคนิยมช้อนเก็บมาทำอาหาร เนื่องจาก อาทิ แกงไข่ผำ ไข่เจียวไข่ผำ ยำไข่ผำ เป็นต้น
2. ไข่ผำนำมาผัดให้สุก และตากแห้ง หรือนำมาตากให้แห้งก่อนนำมาผัดร่วมกับเกลือหรือเครื่องจิ้มที่ใช้สำหรับคลุกปะหน้าขนมขบเคี้ยว อาทิ แผ่นมันฝรั่งทอด ถั่วลิสงอบ เป็นต้น
3. ไข่ผำใช้เป็นส่วนประกอบของขนม อาทิ ขนมเกรียบกุ้ง เป็นต้น
4. ไข่ผำนำมาสกัดคลอโรฟิลล์สำหรับเป็นอาหารเสริม หรือหรือสกัดให้อยู่ในรูปของสารโซเดียมคอบเปอร์คลอโรฟิลลิน
3. ไข่ผำสดใช้เป็นอาหารเลี้ยงเป็ด และเลี้ยงสุกร รวมถึงโค และกระบือ ช่วยให้เกษตรลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารสัตว์ได้
4. ไข่ผำนำปล่อยในบ่อเลี้ยงปลาชนิดที่กินพืช อาทิ ปลานิล ปลาตะเพียน และปลาไน เป็นต้น เพื่อเป็นอาหารเสริมตามธรรมชาติให้แก่ปลา ทั้งนี้ จะปล่อยในปริมาณน้อย และต้องควบคุมปริมาณไม่ให้แพร่กระจายปกคลุมผิวน้ำ
5. ใช้ปล่อยในบ่อบำบัดน้ำเสียสำหรับลดค่าความสกปรกของน้ำ โดยเฉพาะสารไนโตรเจนที่เป็นแร่ธาตุสำคัญของการเติบโต และโลหะหนักชนิดต่างๆ
ทั้งนี้ การนำไข่ผำมาประกอบอาหารควรหลีกเลี่ยงการสด และให้ปรุงสุกผ่านความร้อนก่อน เพราะอาจมีการปนเปื้อนของตัวอ่อนพยาธิได้
คุณค่าทางโภชนาการไข่ผำ (ส่วนที่กินได้ 100 กรัม)
– น้ำ : 97.1 กรัม
– พลังงาน : 9 กิโลแคลอรี
– โปรตีน : 0.6 กรัม
– ไขมัน : 0.1 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต : 1.5 กรัม
– ใยอาหาร : 0.3 กรัม
– เถ้า : 0.7 กรัม
– แคลเซียม : 59 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส : 25 มิลลิกรัม
– เหล็ก : 6.6 มิลลิกรัม
– วิตามิน A : 535 มิลลิกรัม
– ไทอะมีน (วิตามิน B1) : 0.03 มิลลิกรัม
– ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2) : 0.09 มิลลิกรัม
– ไนอะซีน (วิตามิน B3) : 0.4 มิลลิกรัม
– วิตามินซี : 11 มิลลิกรัม
สรรพคุณผำ/ไข่ผำ
ผำ/ไข่ผำ ถือได้ว่าเป็นพืชที่มีแคลเซียม วิตามิน A และคลอโรฟิลล์สูง มีสรรพคุณในด้านต่างๆ อาทิ
– ช่วยเสริมสร้างกระดูก
– ป้องกันกระดูกพรุน
– ช่วยบำรุงระบบประสาท
– ช่วยบำรุงสายตา
– ช่วยบำรุงผิวพรรณ
– ช่วยย่อยอาหาร
– ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
– ป้องกันโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
การเลี้ยงผำ/ไข่ผำ
ผำ/ไข่ผำ โดยทั่วไปเป็นพืชที่ไม่นิยมเลี้ยงกัน เพราะสามารถหาเก็บได้ตามแหล่งน้ำขังตามธรรมชาติ อีกทั้ง หากเลี้ยงจำเป็นต้องเลี้ยงในบ่อ ซึ่งทำให้เสียพื้นที่บ่อในการทำอาชีพอย่างอื่นที่มีรายได้ดีกว่า โดยเฉพาะการเลี้ยงปลา แต่หากปล่อยเลี้ยงในบ่อเลี้ยงปลา ก็ไม่นิยมเช่นกัน เพราะผำจะแพร่กระจายปกคลุมหน้าผิวน้ำจนทั่ว ทำให้น้ำมีออกซิเจนต่ำ และขัดขวางการหายใจของปลาในบ่อได้
แต่หากมีการเลี้ยงก็เป็นไปได้เช่นกัน โดยพบการศึกษาทดลองเลี้ยงไข่ผำในเวลา 9 เดือน โดยไม่ใส่ปุ๋ย พบว่า สามารถให้ไข่ผำสดได้ถึง 42 ตัน/ไร่
ขอบคุณข้อมูลจาก puechkaset.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,150.00 | 25,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,629.00 | 24,695.64 | 25,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,466.10 | 22,226.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,303.20 | 19,756.51 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 733.00 | 11,112.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 570.00 | 8,641.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,688.00 | 25,590.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/03/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 | 26.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 | 25.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | – | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.79 | 20.79 | – | – | – | – | – | – | – | 20.79 |
เบนซิน 95 | 33.56 | – | – | – | 34.01 | – | 34.06 | 33.56 | – | 33.56 |
ดีเซล B7 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 |
ดีเซล | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 | 23.19 |
ดีเซล B20 | 22.94 | 22.94 | 23.14 | – | 22.94 | – | 22.94 | 22.94 | – | 22.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 30.86 | 30.96 | 32.64 | 32.26 | – | – | – | – | – | 30.86 |
แก๊ส NGV | 13.43 | 13.43 | – | – | – | – | – | – | – | 13.43 |