สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2564

เจ้าสัวเจริญ ปั้น“เวิ้งนาครเขษม” 30ปีโกย 1.5 แสนล้าน

เจ้าสัวเจริญ ปั้น“เวิ้งนาครเขษม” 30ปีโกย 1.5 แสนล้าน

เจ้าสัวเจริญติดเครื่องยนต์ปั้นมิกซ์ยูสเวิ้งนาครเขษม 1.6 หมื่นล้าน พื้นที่ 1.48 แสนตร.ม.พลิกถนนเจริญกรุง-ไซน่าทาวน์ จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวคนไทย-ต่างชาติ ประเมิน 30 ปีโกย 1.5 แสนล้านบาทกำไร 5.6 หมื่นล้าน ย้ำรายได้มาจากคอนโดหรูที่อยู่อาศัยเช่า รีเทล โรงแรมคลาสิกระดับโลก ในเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล-ไวท์เลเบล ผสมภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น

การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจําปี 2564 ของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ใต้ร่มเงาเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 เพื่อขออนุมัติ วาระที่ 7.1 ถึงการเข้าลงทุนใน บริษัท ทีซีซี เวิ้งนาครเขษม จํากัด “โครงการพัฒนาเวิ้งนครเกษม” ภายหลังได้ซื้อต่อมาจากราชสกุลบริพัตรเนื้อที่ 14-1-91.0 ไร่ หรือ 23,164.00 ตรม.ในราคา 8,265 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (CBRE) ประเมินอยู่ที่ 8,513 ล้านบาท

โครงการพัฒนาเวิ้งนครเกษม จะเป็นแลนด์มาร์ก แห่งใหม่บนถนนเจริญกรุง ใกล้ไชน่าทาวน์เยาวราช ด้วยจุดเด่นความทันสมัยมีกลิ่นอายความเป็นกรุงเก่า เชื่อมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินโครงข่ายถนน ทางพิเศษเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

แผนพัฒนา โครงการเวิ้งนาครเขษม

รายงานการประชุม AWC ประเมินรูปแบบทางการเงิน และความเป็นไปได้ของการลงทุนโครงการนี้ โดยคาดการณ์รายได้รวม ที่จะเกิดขึ้น 30 ปี เป็นเงิน 151,753 ล้านบาท จากเม็ดเงินลงทุนรวม 16,513 ล้านบาท วางกำไรสุทธิ 30 ปี ราว 56,956 ล้านบาท จากโอกาสจากเติบโตของอัตราการเข้าพักโรงแรม และค่าที่พักในอนาคต รวมถึง รายได้จากการเช่าพื้นที่ส่วนรีเทลขนาดใหญ่อีกด้วย

ตอกย้ำที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ วิเคราะห์ว่าการได้มาซึ่งที่ดินที่มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในทําเลที่ดี มีศักยภาพในเชิงธุรกิจ เหมาะสมต่อการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use Properties) แบบครบวงจรที่จะสร้างรายได้ต่อเนื่องให้แก่บริษัทในระยะยาวเป็นการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยการพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้ให้ครอบคลุมทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์

ระยะเวลาพัฒนาโครงการ จะเปิดดําเนินการโครงการในส่วนของที่จอดรถ ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2569 ส่วนของรีเทลล์โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และโรงแรม ไวท์เลเบล ประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2570 ส่วนของห้องชุดบริหารโดยโรงแรม ห้องชุดปล่อยเช่าร่วม และห้องชุดโซโห ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2570

หากย้อนการพัฒนาโครงการของเจ้าสัวเจริญ ล้วนอลังการยิ่งใหญ่ อย่างอาณาจักรถนนพระราม 4 โครงการวันแบงค็อกสร้างความตื่นตะลึงว่าเป็นตึกสูงที่สุดในเมืองไทยมูลค่าสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท เวิ้งนาครเขษม ก็เช่นเดียวกัน คาดว่าจะตรึงความสนใจชาวโลก โดยมีเป้าหมายรองรับต่างชาติ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า ภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

เพราะการลงทุน ต้องมีชั้นเชิงเหนือคู่แข่ง ด้วยที่อยู่อาศัยห้องชุดหรู บริหารโดยเครือโรงแรมแห่งแรกในย่านเยาวราช เรียกว่าภายในโครงการใช้เครือโรงแรมระดับโลกผสมกับภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ศูนย์รวมร้านค้าปลีก ชั้นใต้ดินขนาดใหญ่สุดในกรุงเทพมหานคร เปิดประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่ต้องจับตา เพราะผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทพาณิชยกรรมหรือ ผังสี พ. 3 (เขตสีแดง) สัดส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน7:1 (FAR : 7:1) สร้างได้ 7 เท่าของแปลงที่ดิน

สำหรับข้อกําหนดความสูงอาคาร เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นทีรอบเกาะรัตนโกสินทร์ความสูงของอาคารในเขตโซน 2 ต้องไม่เกิน 37 ม. (คิดเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ดิน)เขตที่ดินที่อยู่ในเขตโซน 3 ฝั่งติดถนนจักรวรรดิ คิดเป็นระยะ 50 เมตรจากขอบเขตที่ดินวัดชัยชนะสงครามให้มีความสูงอาคารได้ไม่เกิน 16 เมตรพื้นที่ใช้สอยรวม แปลงหลัก : 144,506.3 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอยรวม แปลงติดคลอง 8,148 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอยรวมของโครงการเป็นการใช้พื้นที่ของที่ดินแปลงหลักรวมกับที่ดินแปลงติดคลอง พื้นที่ส่วนของถนนบริพัตร ได้ให้ประโยชน์สาธารณะในการสัญจรโดยไม่ปิดกั้นเป็นระยะเวลาเกิน 10 ปี ที่ได้เปรียบราคาซื้อขายรวมของโครงการตํ่ากว่าราคาประเมินของผู้ประเมินราคาอิสระ ทำให้การคาดการณ์รายได้และผลกำไรในระยะยาวย่อมมีสูง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ เปิดแรงบันดาลใจ ‘ที่อยู่อาศัย’ แห่งโลกอนาคต

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง โครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ Mixed-use มูลค่า 125,000 ล้านบาท ที่เข้ามาเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และ แรงบันดาลใจของ ‘ที่อยู่อาศัย’ แห่งอนาคต

หลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส หรือ COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงปี 2564 ผนวกกับประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ และปัญหา- ข้อจำกัดทางสังคม ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภค เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ขณะเป้าหมายสูงสุดของคนปัจจุบัน นอกจากความมั่นคงทางการงาน และเงินทองแล้ว คือ การได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในสภาพแวดล้อม ที่ได้รับการออกแบบ และดูแลเป็นอย่างดี มีอากาศถ่ายเทบริสุทธิ์  ส่งเสริมให้คนเรา เกิดการมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากมลพิษ – เชื้อโรคอุบัติใหม่ กลายเป็นอีกความฝันที่เร่งตัวขึ้นมา และจะสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อ ‘ ที่อยู่อาศัย’ เหล่านั้น มีความลงตัว หลากหลาย เปิดโอกาสให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก สมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่น อยู่รวมกันได้ไร้รอยต่อจากพื้นที่ที่ถูกจัดสรรไว้อย่างเป็นสัดส่วน และเป็นส่วนตัว  โดยมีสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับการใช้ชีวิต ที่แสวงหา สุขภาพที่ดี และมีความสุข

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

โครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ โดยผู้พัฒนา บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC บนพื้นที่ 398 ไร่ ถนนบางนา-ตราด กม. 7 พื้นที่ยุทธศาสตร์ ของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)  ซึ่งประกาศความยิ่งใหญ่ ด้วยขนาดและมูลค่าที่สูงที่สุดนับ 125,000 ล้านบาท กลายเป็นโครงการ Mixed-use ดัง ที่เข้ามาเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยแห่งอนาคต จับเทรนด์ความต้องการของคนยุคใหม่ข้างต้น  มาผสมผสานไว้ด้วยกันอย่างมีมิติ และกลายเป็นโครงการต้นแบบแห่งใหม่ของโลก ในการพัฒนาเมืองที่น่าจับตามากที่สุดในเวลานี้ 

โดยหลังจาก สร้างกระแสฮือฮาในแง่ความสำเร็จของการก่อสร้าง และยอดขายในโครงการที่พักอาศัยต่างๆ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พุ่งมากกว่า 6,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ช่วงเดือนเมษายน)  ซึ่งสวนทางกับภาวะทางเศรษฐกิจ และข้อจำกัดจากมาตรการทางสังคมแล้ว  ยังได้สะท้อนถึงการตอบรับอย่างดี และความสนใจที่เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากผู้บริโภค ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญกับการเลือกที่พักอาศัย และสภาพแวดล้อมที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างแท้จริง

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ล่าสุด อาคาร ‘ฟอเรสต์ พาวิลเลียน’ อาคารศูนย์การเรียนรู้สุดอลังการ ด้วยงบลงทุน 1,400 ล้านบาท พื้นที่ประมาณ 6,500 ตารางเมตร กำลังจัดแสดงห้องตัวอย่าง 11 ห้อง จาก 3 โครงการที่พักอาศัยใน ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ที่ได้รับการออกแบบ จัดสรรออกมาในหลายระดับราคา ที่สอดคล้องสำหรับช่วงวัย และไลฟ์สไตล์รูปแบบต่างๆ โดยมีโครงการที่พักอาศัย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5.14 ล้านบาท ไปจนถึง 250 ล้านบาท 

ในอาคารเดียวกัน ยังมีพื้นที่ จัดแสดงวิสัยทัศน์ ตลอดจนแนวคิดสำคัญในการพัฒนาโครงการผ่าน Immersive Experience ล้ำสมัย  ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ experience ระดับโลก เพื่อรองรับการเปิดขายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 8 พ.ค.นี้ เป็นต้นไปอีกด้วย  โดยนับเป็นโมเดลทางธุรกิจ ที่สอดแทรก สร้างประสบการณ์ร่วมของลูกค้า ให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศจริงของโครงการ และบ่มเพาะการรับรู้แบรนด์ที่ก้าวนำเหนือตลาดอีกขั้นสุด 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

โดยนายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า  ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ได้รับการออกแบบรังสรรค์และก่อสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก รวมทั้งสถาบันชั้นนำระดับโลกและสถาบันชั้นนำของไทย ด้วยแนวคิดการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมในเรื่องสุขภาพและความสุข ทั้งเรื่องของความปลอดภัย การได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ การผสานธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน การออกแบบจัดการคุณภาพอากาศ แสง และการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ทั้งภายในที่พักอาศัยและสภาพแวดล้อมในโครงการ รวมไปถึงการจัดวางผังองค์ประกอบต่างๆ 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ซึ่งโครงการที่พักอาศัยโดดเด่น ที่จะนำมาจัดแสดงผ่าน 11 ห้องตัวอย่าง ประกอบไปด้วย  คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘วิสซ์ดอม’ แบบ high-rise จำนวน 3 อาคารที่มุ่งตอบโจทย์คนวัยเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง โดยมีห้อง 7 แบบ ขนาดตั้งแต่ประมาณ 35 ไปจนถึง 205 ตารางเมตร 

คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ คอนโดมิเนียมแบบ low-rise ที่มุ่งตอบโจทย์ที่ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จำนวน 6 อาคาร โดยมีห้อง 16 แบบ ขนาดตั้งแต่ 63 ตารางเมตร ไปจนถึง 1,027 ตารางเมตร ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ บ้านสไลต์คลัสเตอร์โฮม ที่มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายเจนเนเรชั่น จำนวน 37 หลัง 3 ขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 1,000 ตารางเมตร ถึง 1,600 ตารางเมตร 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ โครงการที่พักอาศัยพร้อมมอบบริการดูแลตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีทั้งแบบ Active Living Condominiums และ Sky Villa Residences เพรียบพร้อมทั้งที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างครบครัน และการดูแลด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร 

ซึ่งนอกจากโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบดังกล่าวแล้ว  โครงการยังมีพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่ Family Center สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัว และพื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร และ อีเว้นต์ฮอลล์ รวมถึงไฮไลท์ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งโครงการ 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

” เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังมีองค์ประกอบสำคัญที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ ป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่ ที่เริ่มปลูกมาตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางของโครงการ นอกจากนั้น ยังมีทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร ซึ่งรวมทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ และทางเดินที่ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ มอบเป็นเส้นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยความเชื่อที่ว่า การได้อยู่ใกล้ชิดกับความมหัศจรรย์อันหลากหลายของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ส่งมอบความสุขให้กับผู้คน ” นายกิตติพันธุ์  กล่าว 

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ความน่าสนใจของโครงการ  เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ยังเกิดขึ้นในแง่ของทำเลที่ตั้ง เมื่อปัจจุบัน จุดยุทธศาตร์ดังกล่าว กลายเป็นประตูสู่ความเจริญภาคตะวันออก ถือเป็นทำเลดาวรุ่งเศรษฐกิจโซนใหม่ ซึ่งครอบคลุมเขตบางนาและพื้นที่โดยรอบ  จากการปรับเปลี่ยนศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ไปสู่ย่านศูนย์การค้าและที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลกำหนดให้เป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC) นั่นเอง 

ผู้สนใจชมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ที่ Call Center 1265 หรือ www.MQDC.com

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ยลโฉม 11 ห้องตัวอย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’  เปิดแรงบันดาลใจ 'ที่อยู่อาศัย' แห่งโลกอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ธอส. จัด 2 มาตรการ พักหนี้ลูกค้ากู้บ้านได้ผลกระทบโควิด

ธอส. จัด 2 มาตรการ พักหนี้ลูกค้ากู้บ้านได้ผลกระทบโควิด

ธอส. จัด 2 มาตรการ พักหนี้ลูกค้ากู้บ้านได้ผลกระทบโควิด พักชำระเงินต้น ลดดอกเบี้ย จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน

คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ระลอกใหม่ ผ่าน “โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564” ด้วย 2 มาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย มาตรการที่ 13 พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการที่ 14 พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน Application : GHB ALL ระหว่างวันที่ 11-29 พฤษภาคม 2564

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงว่า คณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ระลอกใหม่ โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายระยะเวลาพักชำระหนี้โดยการพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ตามความสมัครใจเพื่อลดภาระการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวนั้น วันนี้ (7 พฤษภาคม 2564) คณะกรรมการธนาคาร โดยนายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการธนาคาร ได้มีมติเห็นชอบให้ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วย “โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564” ผ่านมาตรการที่ 13 และ 14 ซึ่งเป็น 2 มาตรการใหม่ ต่อเนื่องจากมาตรการที่ 1-12 ที่ธนาคารเคยให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Application : GHB ALL ระหว่างวันที่ 11-29 พฤษภาคม 2564 โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขาเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของ COVID-19 พร้อมกับ Upload หลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL ให้ธนาคารพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย หรือ Statement เป็นต้น หรือ กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ที่ www.ghbank.co.th โดยมีรายละเอียดของมาตรการ ประกอบด้วย

มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน (1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2564) สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ไม่เคย หรือเคยใช้ หรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการความช่วยเหลือเดิมของธนาคาร และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 รวมถึงยังไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามสัญญาเงินกู้

มาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน(1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2564) สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะพ้นสิทธิการปรับโครงสร้างหนี้ที่ใช้อยู่หากใช้มาตรการที่ 14 และต้องเป็น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้หรือตามคำพิพากษา

สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


คนไทยคนแรก “เอรียา” คว้าชัย “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” ซิวแชมป์ในรอบ 3 ปี

คนไทยคนแรก "เอรียา" คว้าชัย "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021" ซิวแชมป์ในรอบ 3 ปี

“โปรเม” ฟอร์มแรงวันสุดท้าย แซงคว้าแชมป์กอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 เป็นแชมป์แรกในรอบเกือบ 3 ปี และเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้

วันที่ 9 พ.ค. 64 การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” นำทัพโปรสาวชั้นแนวหน้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวม 72 คนร่วมประชันวงสวิงชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 50 ล้านบาท) และลุ้นรางวัลพิเศษ รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่น HYBRID TECH มูลค่า 1,799,000 บาท กับการทำโฮลอินวันหลุมที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับพัทยา โอลด์คอร์ส ระยะ 6,576 หลา พาร์ 72 จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม 2564

ผลการแข่งขันรอบสุดท้าย ปรากฏว่า “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลกชาวไทย ระเบิดฟอร์มทำ 9 อันเดอร์พาร์ 63 ขึ้นแท่นไปรอก่อนด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ขณะที่ “โปรเหมียว” แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่นำมาตลอด 3 วันแรก ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ เก็บเพิ่มเพียง 2 อันเดอร์พาร์ 70 จบที่สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 ได้อันดับ 3 ร่วมกับ รยู โซ ยอน และเอมี หยาง 2 สาวเกาหลีใต้ รวมถึง แองเจิล ยิน จากสหรัฐอเมริกา

ส่วน “น้องจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยวัย 18 ปี มีลุ้นไปดวลเพลย์ออฟกับ “โปรเม” หลังจากผ่านไป 16 หลุม หวดเข้ามา 22 อันเดอร์พาร์ 266 เท่ากัน แต่มาพลาดออกโบกี้ที่หลุม 17 สกอร์รวมเหลือ 21 อันเดอร์พาร์ 267 ต้องมาลุ้นเก็บเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้าย แต่ “น้องจีน” ก็พัตต์เบอร์ดี้พลาดไปเพียงนิดเดียว ก่อนจบรายการด้วยสกอร์นี้ คว้าอันดับ 2 แต่เพียงผู้เดียว

ทำให้ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ปลดล็อกตัวเองได้สำเร็จ คว้าแชมป์กอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ หลังจากที่มีการจัดการแข่งขันทั้งหมด 14 ครั้ง ถือเป็นแชมป์แรกในรอบเกือบ 3 ปี และเป็นแชมป์ที่ 11 ในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอทัวร์อีกด้วย.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


“อากาศร้อน” ทำให้ “ปวดหัว” จริงหรือไม่?

“อากาศร้อน” ทำให้ “ปวดหัว” จริงหรือไม่?

เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่าทำไมเวลาอากาศร้อนๆ ถึงได้รู้สึกปวดศีรษะหรือปวดหัว อาการเหล่านี้มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Heat Headache หรืออาการปวดศีรษะจากความร้อนนั่นเอง และเหตุใดถึงมีความสัมพันธ์กัน Tonkit360 มีคำตอบมาฝากกัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ Heat Headache

อาการปวดหัวจากความร้อนอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งอุณหภูมิจากภายนอกตัวอาคาร หรือจากสภาพแวดล้อมที่ต้องทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือเป็นผลข้างเคียงของอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อน

ทั้งนี้  สภาพอากาศร้อนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ปวดศีรษะได้ เพราะเมื่ออากาศร้อนขึ้น ความชื้นและความดันบรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้กระบวนการสร้างสารเคมีในสมองเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นได้

นอกจากนี้ อากาศร้อนยังส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณของสาร “เซโรโทนิน” ในสมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดได้ เมื่อมีความเครียดเพิ่มขึ้น จึงมีความเป็นไปที่จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ แสงจ้าของดวงอาทิตย์ อาการอ่อนเพลียจากความร้อน และโรคลมแดด (Heat Stroke)

อย่าละเลยภาวะขาดน้ำ!

เมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงขึ้น ร่างกายจึงต้องการของเหลวมากขึ้น เพื่อให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างสมดุล หลังจากขับเหงื่อออกมาเพื่อทำให้ร่างกายเย็นลง ซึ่งทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียมและน้ำไป

หากดื่มน้ำไม่เพียงพอในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้หลอดเลือดในสมองเกิดการหดตัว และทำให้เกิดอาการปวดศีรษะตามมา ดังนั้น จึงควรหมั่นจิบน้ำตลอดทั้งวัน และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด เพราะจะทำให้ร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน

ส่วนโรคลมแดดก็เป็นภาวะอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสัญญาณเตือนอย่างแรกที่สังเกตได้คือ อาการปวดศีรษะ เวียนหัว อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น รวมถึงอาจเกิดอาการผิดปกติอื่นๆ อาทิ สับสน พูดไม่ชัด และอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดอาการชักเกร็งได้

ถ้าไม่เกี่ยวกับอากาศร้อน ตำแหน่งที่ปวดหัวอาจบอกโรคได้!

หากอาการปวดศีรษะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่อากาศร้อน อาจต้องสังเกตตัวเองด้วยว่าตำแหน่งที่ปวดน้้นอยู่บริเวณใด ซึ่ง ผศ.พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร

ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุไว้ว่าตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดอาการปวดศีรษะสามารถบอกโรคคร่าวๆ ได้ ดังนี้

ปวดบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง

ส่วนใหญ่อาการปวดหัวที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ ตำแหน่งที่พบบ่อยคือบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง บางครั้งร้าวมาที่ด้านหลังของศีรษะและต้นคอ รวมถึงบ่าไหล่ร่วมด้วย ซึ่งเป็นภาวะที่สัมพันธ์กับความเครียด

ปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่ง

หากมีอาการปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ หรือปวดสลับกันระหว่างข้างซ้ายหรือข้างขวา และเวลาปวดบางครั้งอาจจะมีปวดร้าวเข้ามาที่กระบอกตาร่วมด้วย อาจเป็นอาการปวดจากโรคไมเกรน ซึ่งจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ร่วมด้วย และถ้าอยู่ในที่แสงสว่างจ้า เสียงดัง หรือว่ามีกลิ่นฉุนอาการจะแย่ลงได้

ปวดบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง

อีกหนึ่งอาการที่พบบ่อยคือปวดบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างลงมาจนถึงบริเวณหน้าผากด้วย หรือว่าปวดตรงบริเวณดั้งจมูก ซึ่งเป็นตำแหน่งของไซนัส ดังนั้น หากเกิดมีการอักเสบของไซนัส ก็จะมีอาการปวดที่ตรงบริเวณนี้ด้วย

ปวดบริเวณหน้าใบหู

เมื่อใดที่มีอาการปวดบริเวณหน้าใบหู โดยเฉพาะในระหว่างที่กำลังเคี้ยวอาหาร อาจจะเป็นอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบของกราม ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ตัวว่ากัดฟันตอนเวลานอน ทำให้รู้สึกว่าเมื่อตื่นขึ้นมา เวลาขยับปากหรือเวลาเคี้ยวอาหารจะรู้สึกปวดบริเวณดังกล่าว

ปวดรุนแรงแบบทนไม่ได้

หากมีอาการปวดแบบรุนแรงมาก และมีการมองเห็นที่ผิดปกติ  เช่น เห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด รวมถึงมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย อาจเป็นอาการปวดที่มาจากโรคร้ายแรงได้ อาทิ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเนื้องอกสมอง จึงไม่ควรนิ่งนอนใจเป็นอันขาด ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Grammarly เผย 10 อันดับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่สวยที่สุด

คำศัพท์ในภาษาอังกฤษมีเป็นพันเป็นหมื่นคำ บางคำก็ให้ความหมายแบบง่ายๆ แต่บางคำกลับมีคำจำกัดความที่สวยหรูจนรู้สึกอยากนำมาใช้ให้บ่อยขึ้น ซึ่งในบทความนี้เรามีคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่สวยที่สุดมาฝากจากการวิเคราะห์ข้อมูลของเว็บไซต์ Grammarlyอันดับ 10 Serendipity (n.)

หมายถึง การมีโชคในการค้นพบสิ่งต้องการโดยบังเอิญอันดับ 9 Petrichor (n.)

หมายถึง กลิ่นที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตก หรือกลิ่นไอดินหลังจากที่ฝนตกอันดับ 8 Supine (adj.)

หมายถึง นอนหงาย

อันดับ 7 Solitude (n.)

หมายถึง การอยู่โดดเดี่ยว หรือสถานะของความเหงา

อันดับ 6 Aurora (n.)

หมายถึง แสงรุ่งอรุณ / แสงเงินแสงทอง

อันดับ 5 Idyllic (adj.)

หมายถึง สงบสุขและงดงาม / เรียบง่ายมีเสน่ห์แบบชนบท

อันดับ 4 Clinomania (n.)

หมายถึง ความปรารถนาที่จะนอนอยู่บนเตียงไปนานๆ

อันดับ 3 Pluviophile (n.)

หมายถึง คนรักสายฝน

อันดับ 2 Euphoria (n.)

หมายถึง ความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น และเป็นสุขอย่างที่สุด

อันดับ 1 Sequoia (n.)

หมายถึง ต้นเรดวู้ด ต้นไม้ขนาดใหญ่มากในรัฐแคลิฟอร์เนียของอเมริกา

ลองนำศัพท์เหล่านี้ไปใช้ประกอบการเขียนหรือใช้สื่อสารกับเพื่อนบ่อยๆ ดูบ้าง นอกจากจะทำให้เราจำได้อย่างขึ้นใจแล้วยังเป็นการขยายคลังคำศัพท์ให้กว้างขึ้นและสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย

ขอบคุณข้อมูลจาก scholarship.in.th


ไมโครซอฟท์แนะองค์กรปรับสู่ดิจิทัลรับมือโควิด

ไมโครซอฟท์แนะองค์กรปรับสู่ดิจิทัลรับมือโควิด

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งปรับทิศทางธุรกิจด้วยการใช้นวัตกรรมดิจิทัลให้เต็มศักยภาพ เพื่อความคุ้มค่า และเพื่อสร้างโอกาส ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมชูสองเรื่องราวตัวอย่างจากองค์กรไทยในการปรับธุรกิจด้วยดิจิทัลในยุคโควิด

องค์กรทั่วโลก ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ต่างต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในการที่จะต้องปรับตัวเข้าหาสภาพตลาดและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังการระบาดของโควิด-19 การสำรวจของไมโครซอฟท์ ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ ต่างให้มุมมองที่สอดคล้องกัน โดยกว่า 61% ขององค์กรทั้งในอเมริกาเหนือ และประเทศไทย ได้ตัดสินใจเร่งการทำ Digital Transformation ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และความต้องการที่เร่งรัดยิ่งขึ้นนี้ก็ทำให้หลายองค์กรต้องการพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยคิด ช่วยทำ เรียนรู้การปรับตัวเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้ตรงกับโจทย์ขององค์กรอย่างรวดเร็วที่สุด

การเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วภายใต้ความกดดันจากปัจจัยภายนอกนี้ ทำให้หลายองค์กรได้เล็งเห็นถึงช่องว่างที่ยังต้องเติมเต็มในหลายด้าน เช่นในประเทศไทย มีองค์กรราว 39% ที่ยังไม่สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กรมาปรับใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้นได้ และมีเพียง 47% ที่กล้าใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรปรับเปลี่ยนธุรกิจได้อย่างแท้จริง หรือสร้างศักยภาพความยืดหยุ่นที่เรียกว่า “Resilience” ให้เกิดขึ้น

นายสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกลุ่มธุรกิจพันธมิตร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด “การที่เราจะเร่งรับมือกับความเปลี่ยนแปลง อย่างกระบวนการ Digital Transformation นี้ จำเป็นต้องมีคู่คิดที่เข้าใจในโจทย์ที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งไมโครซอฟท์ในประเทศไทยนั้น ทำงานกับพาร์ทเนอร์ทั้งเครือข่ายอย่างทั่วถึงเพื่อสนับสนุนให้องค์กรไทยได้ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปพร้อมกัน โดยขณะเดียวกัน เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีแนวคิดที่น่าสนใจ เช่นตัวอย่างของ ฟิวชั่น โซลูชั่น”

บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด ได้เป็นพาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยในระหว่างนั้น ทีมงานของฟิวชั่นได้มุ่งยกระดับศักยภาพในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้ารางวัล Partner of the Year 2020 ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในสาขา Azure Rookie มาครอง ทั้งยังเป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในการแข่งขัน Power Up Hackathon for Thai SMEs 2021 ด้วยผลงานระบบบันทึกการขายสำหรับธุรกิจค้าปลีก “M365POS”

ไมโครซอฟท์แนะองค์กรปรับสู่ดิจิทัลรับมือโควิด

นายเสกสรร ดุษฎีวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด เผยว่า “ ผลิตภัณฑ์และบริการของไมโครซอฟท์เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนทำงานมาตลอดทุกยุคทุกสมัย และในปัจจุบัน แพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ก็ได้ขยายขอบเขตและความสามารถขึ้นมาอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของคลาวด์และดาต้า จนกระทั่งมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจยุคนี้ สำหรับเราแล้ว หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับลูกค้าคือการสนับสนุนให้พวกเขาได้เข้าใจและใช้งานเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือให้ครบถ้วนและเต็มศักยภาพที่สุด ซึ่งในหลายกรณี หลักการนี้ก็สามารถตอบโจทย์ด้านต่างๆ ขององค์กรลูกค้าได้เป็นอย่างดี หรืออาจถึงกับช่วยพลิกโมเดลธุรกิจสู่โลกดิจิทัลได้อย่างเต็มตัวยิ่งขึ้น โดยที่แทบจะไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม”

หนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่น่าสนใจที่สุดภายใต้ความร่วมมือของฟิวชั่นกับไมโครซอฟท์ คือกรณีของบริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัด ที่ได้ยกระดับธุรกิจมาสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารแบบครบวงจร ต่อยอดประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้กว่า 33 ปีในการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจอาหาร ครอบคลุมทั้งร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน ตลาดสด ตลอดจนธุรกิจ SME และโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดค้าปลีก

ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) เลือกที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบสนองกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ธุรกิจการบริการลูกค้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ความคล่องตัวกลายเป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับธุรกิจอาหารที่มีสินค้าหลากหลายชนิดจากหลายแหล่ง ควบคู่กับความต้องการที่แตกต่างกันอย่างมากของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และหนึ่งในโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ของฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) มากที่สุด ก็คือ Power Apps แพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานในองค์กรด้วยตัวเอง” นายเสกสรรเผย

นายดนุภพ ศัตรูลี้ รองผู้อำนวยการฝ่ายระบบข้อมูลเพื่อการบริหารธุรกิจ บริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทเทรดดิ้งที่ทีมขายคือหนึ่งในทีมงานหลัก แต่ต้องรับมือทั้งกับการเดินทางไปมาบ่อยครั้ง เอกสารในรูปแบบกระดาษจำนวนมาก และยังมีสินค้าเป็นอาหารที่มีระยะเวลาการจัดส่งและวันหมดอายุแตกต่างกันไปถึงกว่า 1,500 ชนิด เราจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างเครื่องมือดิจิทัลที่สามารถเพิ่มศักยภาพของทีมขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และด้วยคำแนะนำจากฟิวชั่น โซลูชั่น เราได้นำเครื่องมือบน Microsoft 365 ที่เรามีในมืออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Power BI หรือการสร้างแอปพลิเคชันใหม่ด้วยตัวเองใน Power Apps มาพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันของเราเองได้อย่างรวดเร็ว เพียง 2-3 วันก็สามารถเปิดให้ทีมงานทดลองใช้ และยังสามารถปรับแก้ไขตามฟีดแบคที่ได้รับมาได้ทันที เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้งานของทุกฝ่าย”

ไมโครซอฟท์แนะองค์กรปรับสู่ดิจิทัลรับมือโควิด

ปัจจุบัน ผู้แทนขายสามารถเรียกดูข้อมูลตามจริง ทั้งสต๊อกสินค้า ยอดขายของตัวเอง หรือข้อมูลลูกค้า ได้สะดวกง่ายดายบนแอปพลิเคชันที่ฟู้ดโปรเจ็คพัฒนาด้วยตนเอง ใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ โดยลดขั้นตอนการสื่อสารจากเดิมที่ต้องผ่านหลายฝ่าย ทำให้การเสนอขายสินค้าให้กับลูกค้านั้นมีประสิทธิภาพ ลดข้อมูลผิดพลาด หรือการสื่อสารซ้ำซ้อนลง และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ส่วน Power BI ยังสามารถติดตามอัปเดทข้อมูลล่าสุดและแสดงผลเป็นรายงานให้ได้เห็นสถานการณ์ล่าสุดแบบทันที โดยที่ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

อีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเห็นผล คือเรื่องราวของบริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ที่จับมือกับไมโครซอฟท์และฟิวชั่น โซลูชั่น ในการวางรากฐานให้กับบริการแท็กซี่แบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “แค็บบ์” (Cabb)

ไมโครซอฟท์แนะองค์กรปรับสู่ดิจิทัลรับมือโควิด

โดยนายเสกสรรกล่าวอีกว่า “กรณีของแค็บบ์ ที่ถือกำเนิดได้ไม่นาน เป็นการพิสูจน์ถึงบทบาทของนวัตกรรมคลาวด์ในโลกยุคนี้ ที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เหนือกว่าความคาดหมายในอดีต โดยแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure สามารถเข้ามาช่วยขับเคลื่อนบริการแท็กซี่ของบริษัทให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างที่เรียกได้ว่า end-to-end อย่างสมบูรณ์ ด้วยระบบที่ผสมผสานข้อมูลจากทั้งฝ่ายผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และห้องควบคุมกลางเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้บริการเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด และมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับทุกคน ขณะที่แค็บบ์เอง ก็สามารถบริหารจัดการทรัพยากรระบบได้อย่างแม่นยำ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามการใช้งานคลาวด์จริง ซึ่งสามารถเพิ่มและลดได้ตามปริมาณความต้องการใช้งานของลูกค้าในขณะนั้น”

นายสมศักดิ์ เผยอีกว่า “ความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละองค์กร ทำให้ไมโครซอฟท์เลือกที่จะมีบทบาททั้งในด้านการให้บริการด้านเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม และการแนะนำหรือจับคู่ให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์อย่างเหมาะสมกันตามโจทย์ของลูกค้า โดยที่เราพร้อมให้การสนับสนุนทั้งในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมเสริมศักยภาพด้านความปลอดภัยควบคู่กับการนำ feedback ของลูกค้าและพาร์ทเนอร์มาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือการทำให้องค์กรต่างๆ นำเทคโนโลยีไปใช้และก้าวข้ามความท้าทาย เพราะความสำเร็จของลูกค้าคือมาตรวัดความสำเร็จของไมโครซอฟท์และพาร์ทเนอร์ของเราเช่นกัน”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“กบชายน้ำ” สุดยอดทุเรียนพันธุ์โบราณ ราคาลูกละแสน! ที่สวนจิตร์นิยม ปราจีนบุรี

“จิตร์นิยม” เป็นสวนออร์แกนิกที่ส่งต่อกันมาเป็นเวลายาวนานถึง 4 รุ่น และได้เป็นสวนออร์แกนิกดีเด่นระดับประเทศจากกรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2556 มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นอาเหล่ากงบุกเบิกทำเป็นสวนเกษตรอินทรีย์เป็นที่แรกของอำเภอศรีมหาโพธิ จนถึงปัจจุบันที่สวนก็ยังยืนหยัดที่จะทำเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงมีการขยับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมพื้นที่ 20 ไร่ จนถึงปัจจุบันขยายพื้นที่ไปถึง 500 ไร่ นับได้ว่าเป็นอีกสวนเกษตรผสมผสานแบบอินทรีย์ที่มากคุณค่า มากเรื่องราว และน่าค้นหาเป็นอย่างมาก

คุณปิยะพัทธ์ อุดมสิน หรือ คุณซีวิล อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง ในวัย 24 ปี กลับมาสืบทอดกิจการทำสวนของที่บ้าน ในรุ่นที่ 4 อาศัยความเป็นคนรุ่นใหม่มาพัฒนาสวนที่บ้านให้เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ด้วยการประยุกต์เอาความคิดของคนรุ่นใหม่มาผสมกับประสบการณ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จะไม่ยึดฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นที่ตั้ง แต่จะพยายามบาลานซ์ทั้งสองฝั่งให้เข้ากันระหว่างเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่กับประสบการณ์ความรู้จากคนรุ่นเก่า

คุณปิยะพัทธ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นเกษตรกรว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยตอนที่เรียนจบนั้นมีการตัดสินใจว่าอยากจะออกไปหาประสบการณ์การทำงานจากข้างนอกก่อน แต่เมื่อได้มาลองนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่คลุกคลีอยู่ด้วยมาตลอดทั้งชีวิต นั้นคือ วิถีชีวิตการเป็นเกษตรกร จึงได้เล็งเห็นโอกาสที่จะกลับมาพัฒนาสวนของครอบครัวให้ก้าวหน้าดีกว่า เพราะมองเห็นว่าทุกอย่างในสวนสามารถพลิกทุกอย่างให้กลายเป็นเงินได้ แม้กระทั่งดินก็สามารถขายได้ จึงตัดสินใจที่จะเลือกเดินทางกลับมาทำสวนที่บ้าน โดยช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดพอดี จากเดิมที่สวนไม่ได้มีการขายของออนไลน์ ก็ใช้โอกาสตรงนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองไปด้วย

โดยรูปแบบการจัดสรรพื้นที่ของสวนเน้นปลูกพืชผสมผสาน ปลูกไม้ผลมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นล้วนแล้วแต่มีรางวัลการันตีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นมะยงชิดอุดมสินและมะปรางรุ่งอรุ่น พันธุ์พิเศษที่พัฒนาสายพันธุ์โดย คุณสมพร อุดมสิน เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ถูกคัดเลือกเข้าโครงการอนุรักษ์พันธุ์ชัยพัฒนา โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทุเรียนหมอนทอง ชะนี ก้านยาว และพันธุ์โบราณ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ทุเรียนหลากหลายพันธุ์ปลูกบนแหล่งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปราจีนบุรีที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีรสชาติเฉพาะที่ยากจะหาที่ไหนเลียนแบบได้ มะไฟเหรียญทอง และลองกองรางวัลชนะเลิศ ลูกใหญ่ เนื้อแน่น หวาน อร่อย จนได้รางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันในหลายๆ รายการ และได้ชื่อลองกองพันธุ์พิเศษนี้ว่า ลองกอง EXTRA นอกจากผลไม้อันโดดเด่นอันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของสวนจิตร์นิยมแล้ว ยังมีผลไม้พันธุ์หายากอีกหลากหลาย อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วง R2 E2 เขียวใหญ่ ขนุนฟ้าถล่ม กระท้อนอีล่า และกระท้อนทองกำมะหยี่ ปลูกแบบเน้นระบบนิเวศ สร้างความสมดุลทางธรรมชาติและความหลากหลายในชีวภาพโดยไม่เบียดเบียนหรือใช้สารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูพืช มีการปลูกแนวไผ่ป้องกันไฟป่า และควันพิษ มีการขุดคูน้ำรอบสวน รวมถึงการจัดโซนไว้สำหรับให้สัตว์ป่าอยู่ในโซนนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในส่วนที่ปลูกไม้ผลไว้ รวมถึงศัตรูพืชอื่นๆ และนอกเหนือจากนี้ที่สวนยังมีข้อได้เปรียบจากแหล่งน้ำที่ใสสะอาด บริสุทธิ์ เนื่องจากชั้นใต้ดินลึกจากผิวดินไปประมาณ 1 เมตร เป็นหินศิลาแลง มีตาน้ำที่กรองโดยธรรมชาติ ใสสะอาด และมีความหวานจากแร่ธาตุที่มีอยู่มากมาย เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของพืชจากธรรมชาติ ส่งผลให้รสชาติของผลไม้ที่สวนทุกชนิดมีรสชาติที่โดดเด่น มีความหวานที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นอย่างชัดเจน 

“กบชายน้ำ”สุดยอดทุเรียนโบราณทรงคุณค่าตลอดกาล

เจ้าของเล่าถึงประวัติความเป็นมาของทุเรียนกบชายน้ำที่สวนว่า ทุเรียนกบชายน้ำ ที่สวนเริ่มปลูกมาตั้งแต่สมัยอาเหล่ากง ในสมัยนั้นจะมีการหาพันธุ์พืชมาปลูก อย่างเช่น ทุเรียนที่มีจุดเด่นในสมัยนั้นคือ “ทุเรียนเมืองนนท์” จะใช้วิธีขนส่งพันธุ์ขึ้นเรือเมล์แดง มาจากนนทบุรีแล้วร่องผ่านแม่น้ำบางปะกงมาลงที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เหมือนในสมัยปัจจุบัน เพื่อรักษาพันธุ์ไว้ให้คงเดิม เพราะฉะนั้นสมัยนั้นจะใช้วิธีการเพาะเมล็ดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเพาะเมล็ดนั้นค่อนข้างจะมีโอกาสกลายพันธุ์ค่อนข้างสูง แต่ที่สวนโชคดีที่การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกลับได้พันธุ์ที่ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นโชคของเรา

ส่วนที่มาของชื่อ ทุเรียนกบชายน้ำนั้น มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่จังหวัดนนทบุรี โดยต้นแม่จะขึ้นอยู่ตามริมสระน้ำ จึงถูกเรียกว่า “ทุเรียนกบชายน้ำ” และมีความทนต่อโรคไส้ซึม น้ำหนักเฉลี่ยต่อผล 1.5-2 กิโลกรัม ลักษณะทรงผลกลมรี พูเต็มเสมอกัน มีตั้งแต่ 5-6 พูขึ้นไป เนื้อมีความเนียนนุ่ม ไม่มีเส้นใย รสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ป่าเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนพันธุ์กบ ถึงแม้ว่าผลจะสุกแล้ว กลิ่นก็ไม่ฉุน สามารถวางไว้ในห้องแอร์ได้ และอีกจุดเด่นของทุเรียนกบชายน้ำคือ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานโดยที่ไม่เสีย ปล่อยไว้จนก้นปริ แล้วกลับมารับประทานเนื้อก็จะไม่เละ ไม่เป็นปลาร้า ถือเป็นทุเรียนอีกหนึ่งพันธุ์ที่ทรงคุณค่ามากๆ แต่ละต้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 40-50 ปีขึ้นไป

ไฮไลต์เด็ด ทุเรียนกบชายน้ำ ลูกละแสน!

เชื่อว่าหลายท่านคงสงสัยว่า ทุเรียนอะไรราคาลูกละเป็นแสน เจ้าของได้อธิบายว่า เนื่องจากทุเรียนกบชายน้ำที่มีการซื้อขายในราคาลูกละเป็นแสนนั้น เรียกว่าทุเรียนนางพญา จะออกมาเป็นลูกแรกของต้น ซึ่งลูกแรกที่ออกมาจะมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด จากไซซ์ปกติอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3-3.5 กิโลกรัม อันนี้คือจุดเด่นเลย ซึ่งในแต่ละต้นจะมีแค่เพียงลูกเดียวเท่านั้น ทำให้เป็นที่สุดของที่สุด ราคาจึงแพง ซึ่งราคาลูกละแสนนี้ไม่ได้เกิดมาจากการประมูล แต่เป็นราคาที่ลูกค้าเสนอมาให้เอง เริ่มต้นเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว มีกลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจต้องจองกันข้ามปี อย่างเช่นเมื่อปีก่อนมีลูกค้าซื้อไปถวาย สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) และในสมัยตอนที่อากงยังมีชีวิตอยู่ ก็จะมีทีมงานของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำไปถวายท่านทุกๆ ปี สวนจิตร์นิยมเริ่มสะสมชื่อเสียงตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน

ส่วนวิธีการดูแลนั้น หลายท่านคงคิดว่าต้องมีการประคบประหงมเหมือนลูกน้อย แต่ในทางกลับกันนั้น ทุเรียนนางพญาลูกแรกของต้นแทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย เนื่องจากมีความเชื่อที่ต่อกันมาว่า มีรุกขเทวดาช่วยดูแล ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะจากการสังเกตมานั้น ทุเรียนนางพญานี้จะเป็นอะไรที่ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องห่อผลเหมือนลูกอื่นๆ มดและแมลงไม่มารบกวน นับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง และนอกเหนือจากทุเรียนลูกละแสนแล้ว ยังมีทุเรียนกบชายน้ำจำหน่ายในราคาเริ่มต้น ตั้งแต่ลูกละ 11,000-100,000 บาท อีกด้วย

ผลไม้มาตรฐานส่งออกยุโรปและเอเชียสร้างรายได้คุ้มค่ากับการลงทุน

เจ้าของบอกว่า ที่สวนแบ่งการส่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ส่งไปยุโรป คือมะม่วงและมังคุดออร์แกนิก และอีกกลุ่มคือส่งให้กับประเทศจีน เป็นการส่งออกทุเรียน ทำสัญญาเอ็มโอยู (MOU) ร่วมกับทางจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีมูลค่าการส่งออกที่ได้ราคาสูงกว่าทั่วไปกว่าเท่าตัว ในราคากิโลกรัมละเกือบ 200 บาท ในขณะที่ตลาดทั่วไปขายได้กิโลกรัมละ 90-100 บาท เนื่องจากคุณภาพและการคัดไซซ์ ขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 4-5 ตู้ ต่อเดือน รวมของสมาชิกเครือข่ายด้วย ซึ่งราคาที่ได้มาสูงก็ต้องแลกกับความใส่ใจกว่าที่อื่นด้วย ในขั้นตอนการส่งออกนั้น ค่อนข้างที่จะมีกฎระเบียบมากมาย แต่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับ ซึ่งในแต่ละปีสวนจิตร์นิยมสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกผลไม้ได้ไม่น้อย ถือเป็นรายได้ที่มาก สามารถนำเงินส่วนนี้มาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวหน้าขึ้นไปได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการนำเทคโนโลยีการเก็บรักษา เรื่องการออกแบบแพ็กเกจจิ้ง หรือล่าสุดในปีนี้ที่สวนมีการเปิดหน้าสวนอย่างเป็นทางการ มีการปรับปรุงหน้าสวนใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะเปิดรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าขาจร หรือสั่งออนไลน์ให้สามารถมาเยี่ยมชมที่สวนได้ นี่ก็เป็นการนำรายได้จากการส่งออกมาพัฒนา

ฝากถึงคนรุ่นใหม่ทำเกษตรให้ประสบความสำเร็จต้องใจเย็นและมีสติ

“ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่และมีสิ่งที่เจอกับตัวเองอย่างเห็นได้ชัดคือ คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายมาก ทำให้เราเป็นคนใจร้อน คิดเร็ว ทำเร็ว บางทีการทำเกษตรเป็นเรื่องที่ต้องรอ ไม่ใช่ว่าจะได้ภายในวันสองวัน หรือปีสองปี แต่เราต้องวางแผนล่วงหน้า ระหว่างที่เรารอ เราก็ใช้วิธีการปลูกพืช 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อที่จะรอให้มีรายได้ตลอดเวลา แต่ว่าในระหว่างนั้นพยายามอย่าไปเร่งธรรมชาติ เพราะธรรมชาติคือสิ่งที่สวยงามที่สุดแล้ว เราอย่าพยายามทำอะไรด้วยความใจร้อน มันทำให้ผลที่ได้รับกลับมาบางทีอาจจะไม่คุ้มกับที่เราลงทุนไป นี่เป็นเรื่องที่เจอกับตัวเอง และอยากฝากกับทุกคนให้ระวังไว้” คุณปิยะพัทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจติดต่อเข้าเยี่ยมชมสวนจิตร์นิยม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 064-995-5635

ขอบคุณข้อมูลจาก technologychaoban.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,900.00 27,000.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,742.00 26,408.72 27,500.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,567.80 23,767.85 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,393.60 21,126.98 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 784.00 11,885.44 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 610.00 9,247.60 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,805.00 27,363.80 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/05/2564

ราคาน้ํามัน ปตท
ปตท.
ราคาน้ํามัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75 27.75
แก๊สโซฮอล์ 91 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48 27.48
แก๊สโซฮอล์ E20 26.24 26.24 26.24 26.24 26.24 26.24 26.24 26.24 26.24
แก๊สโซฮอล์ E85 21.79 21.79 21.79
เบนซิน 95 35.16 35.61 35.66 35.16 35.16
ดีเซล B7 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59
ดีเซล 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59
ดีเซล B20 24.34 24.34 24.54 24.34 24.34 24.34 24.34
ดีเซลพรีเมี่ยม 32.26 32.36 34.04 33.66 32.26
แก๊ส NGV 13.49 13.49 13.49
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า