ปิดแคมป์ – หยุดก่อสร้าง 1 เดือน หมัดน็อก อสังหาฯ ปี 64 ‘ กอดคอกันล้ม’
เผือกร้อนอสังหาฯ รัฐบาล สั่งปิดแคมป์ หยุดก่อสร้าง 1 เดือน เสียหายร่วม 8 หมื่นล้าน สะเทือนผู้ประกอบการ โครงการบ้าน - คอนโด หวั่น ส่งมอบไม่ทัน ทำรายได้หด อ่วมแบกทุนเพิ่ม ด้านนายกสมาคมฯ ชี้ จ่อกอดคอกันล้ม ขณะ ผอ.ศูนย์ข้อมูลฯ คาด ไตรมาส 3 วิกฤติโควิดไม่จบ ตลาดคงโงหัวไม่ขึ้น เตรียมเสนอยืดมาตรการลดภาษีโอนฯ ต่ำ 3 ล้านออกไปก่อน จากหมดสิ้นปี 64
ในแง่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2564 นั้น ยังนับเป็นปัจจัยลบใหม่ ซ้ำเติมภาวะการหดตัวครั้งใหญ่ที่เดิม เผชิญกับ ‘กับดัก’ เรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่ลดลงตามเศรษฐกิจสุกหง่อม กระทบรายได้ผู้ประกอบการ กลุ่มโครงการบ้านจัดสรร และ คอนโดมิเนียมอยู่ก่อนแล้ว ลุ้นโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ภายใต้สมมุติฐานวิกฤติโควิดคลี่คลาย มีสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมา
ขณะเดียวกัน รายได้หลัก ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากยอดขายเก่าเมื่อ 1-2 ปีก่อนหน้า ที่ตุนไว้ในมือ โดยพบจะทยอยครบกำหนดการโอนฯ หมุนกลับมาเป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังแทบทั้งสิ้น จากโครงการที่มีสถานะก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จจำนวนมาก แต่กลับมาเจอแรงกดดันใหม่
ทั้งนี้ เมื่อพิเคราะห์ถึงผลพ่วงจากการหยุดก่อสร้างเบื้องต้น 1 เดือน สำหรับทำเลหลัก (กทม.-ปริมณฑล) ของตลาดที่อยู่อาศัยไทย สัดส่วนถึง 70% ของทั้งประเทศ มีมูลค่าต่อปีราว 8-9 แสนล้านบาทนั้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เคยประเมิน ว่าความเสียหายต่อเดือนร่วม 7-8 หมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะรายเล็ก ที่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งเงินดาวน์ 20% ที่เรียกเก็บมาจากลูกค้า สูญเปล่าทันที เมื่อยอด 80%ที่เหลือไม่ตามมา คาดหาก คำสั่งดังกล่าวยืดเยื้อมากกว่า 1 เดือน อุตสาหกรรมอสังหาฯอาจล้มทั้งกระดาน เพราะต้องยอมรับว่า การกำหนดส่งห้องให้ลูกค้าล่าช้า มีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะทิ้งโอน ขอคืนเงินจำนวนมาก
“ประเมินกรณีเลวร้ายสุุด ถูกสั่งเปิดๆ ปิดๆ เหมือนธุรกิจร้านอาหารก่อนหน้า อาจได้เห็นภาพ กอดคอกันตายทั้งอุตสาหกรรม เพราะลูกค้าหลายคน ก็หาทางคืนห้อง ไม่โอนฯอยู่แล้ว รายใหญ่อาจดื้นได้ แต่รายเล็กใครทำหลายโครงการ ขาดเงินแน่นอน ส่วนในแนวราบ จากที่ขายได้ แต่รอบนี้แบงก์เข้มขึ้นแน่ จากเครดิตดี อาจผ่านยากขึ้น ”
ขณะนายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ประเมินว่า การปิดแคมป์ 1 เดือน จะกระทบในแง่ยอดขาย ที่มีกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ เปลี่ยน Backlog (ยอดขายรอโอนฯ) เป็นเงินสดยาก สะเทือนถึงแผนการเงิน และส่วนรายได้ของปีนี้แน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯ หวั่นปัญหา แรงงานบางส่วนหลุดรอดออกไป แล้วไม่กลับเข้ามาทำงานอีก จะซ้ำเติมปัญหาต้นทุน ที่เดิมอ่วมจากค่าวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปรับราคาแพงขึ้น อยู่ก่อนแล้ว
“การก่อสร้างมีหลายสถานะ ไม่ชัดเจน ถึงจำนวนโครงการที่ใกล้แล้วเสร็จ ส่วน 30 วัน การควบคุมโรคจะสำเร็จหรือไม่ ยังประเมินไม่ได้ และหากยืดเยื้อ หลุดช่วงไตรมาส 3 คงกระทบต่อหน่วยโอนฯเยอะแน่นอน ผิดคาดการณ์ ที่จากเดิมมอง ตลาด คงติดลบไม่ต่างจากปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายใหม่ ลดลงต่อเนื่อง ฟันธง ปีนี้ ยากมากที่ตลาดจะขยายตัวได้ “
ทั้งนี้ หลังมาตรการ ลดหย่อน ค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนโอนฯ และจดจำนอง 0.01% จะสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2564 หากภาพรวมเศรษฐกิจ และภาคอสังหาฯยังไม่สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ ก็เตรียมนำเสนอ สนับสนุนให้รัฐบาล ช่วยยืดระยะมาตรการดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อไม่เป็นการตัดโอกาสผู้ซื้อที่โอนฯไม่ทันกำหนด จากโครงการก่อสร้างที่แล้วเสร็จไม่ทัน
เช่นเดียวกับ นางสาว เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ช่วง พ.ย. – ธ.ค. ของทุกปี มักเป็นไทม์ไลน์ การตรวจรับห้อง โอนฯ โครงการคอนโดฯ ของผู้ประกอบการหลายค่าย เบื้องต้น ผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง 1 เดือน เท่ากับสร้างความเสี่ยงให้โครงการเหล่านั้นก่อสร้างไม่เสร็จ ทันมาตรการลดค่าธรรมเนียมที่จะหมดอายุลง และหากรัฐไม่ยืดมาตรการออกไป ผู้ประกอบการอาจต้องแบกรับภาระดังกล่าวให้ลูกค้าแทน กลายเป็นต้นทุนที่งอกเพิ่มขึ้นมา ท่ามกลางการขายใหม่ได้ยาก
นอกจากนี้ แคมป์ก่อสร้างเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบดูแลของรัฐ จากผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งเป็นที่นิยมในการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ โดยมีแรงงานตั้งแต่ 5 – 20 คน กระจายพักอาศัยอยู่ในโครงการ เมื่อสายป่านการเงิน ผู้รับเหมายาวไม่พอ ภาระการดูแล ต้นทุนจัดสรรอาหารต่างๆ 30 วัน จึงตกอยู่ที่ผู้ว่าจ้าง หรือ ผู้ประกอบการเป็นหลัก เพราะจำเป็นต้องยื้อไว้ จากปัญหาหาแรงงานใหม่เป็นเรื่องยาก
นางสาว เกษรา ยังระบุว่า คำสั่งของรัฐบาลที่ออกมา ค่อนข้างย้อนแย้งกับ นัยยะความสำคัญของภาคอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ในเวลานี้ แทบจะเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย ที่พอจะวิ่งไปได้ ขนาดตลาดใหญ่ มีเม็ดเงินมหาศาลเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำ ยัน ปลายน้ำ แต่การสั่งหยุดก่อสร้าง เท่ากับเป็นการตัด ซัพพลายเชนของระบบ กระทบไปกระทั่งแม้แต่แต่อาชีพย่อย รับติดตั้งม่าน หรือ ทำสวนในบ้านพักด้วยซ้ำ
” อสังหาฯ เป็นเซกเตอร์ใหญ่ ไลน์การผลิตยาวมาก มีวงจรหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเยอะ การปิด 30 วัน ผลกระทบมหาศาล ดีเวลลอปเปอร์เองก็ไม่มีของขาย แม้จะมีสต็อก แต่ลูกค้าต้องการตรวจเก็บงาน ฉะนั้น รายได้หายแน่ๆ ขณะผู้รับเหมารายเล็ก ไซส์แนวราบ ตกสำรวจ หากต้องการยื้อให้อยู่ต่อ เราต้องยอมจ่าย “
ทั้งนี้ เบื้องต้น บริษัทมีกำหนด โอนกรรมสิทธิ์ 2 โครงการคอนโดฯใหญ่ ‘ นิช โมโน อิสรภาพ ‘ และ ‘ เสนา คิทท์ เทพารักษ์-บางบ่อ ‘ มูลค่ารวมกัน มากกว่า 1 พันล้านบาท ไม่นับรวม โครงการทาวน์เฮ้าส์อีกหลายโครงการ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ระบบ BIM ลดต้นทุนก่อสร้างแสนล้าน
“ลุมพินี วิสดอม” แนะ ระบบ BIM เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการก่อสร้างทั้งระบบ ได้มากกว่าแสนล้านบาท ชูเข็นบุคลากรรองรับ
จากการประเมินของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุมูลค่าการก่อสร้างในประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-1.2 ล้านล้านบาทต่อปี โดยแบ่งเป็น การก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยคิดเป็น 50% ของมูลค่าการก่อสร้างรวม 30% เป็นการก่อสร้างอาคารโครงการรัฐ และ 20% เป็นการก่อสร้างอาคารอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ในขณะที่งานก่อสร้างโดยเฉลี่ยจะมีอัตราการสูญเสียจากกระบวนการก่อสร้าง ทั้งจากการออกแบบและกระบวน การทำงาน อาทิ การตัดกระเบื้อง การตัดท่อ และระบบการก่อสร้างต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15% หรือมีอัตราการสูญเสียจากกระบวนการก่อสร้างประมาณ 1-1.5 แสนล้านบาท ต่อปี
“มูลค่าความสูญเสียที่เกิดจากกระบวนการก่อสร้างถือเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ในขณะที่การนำระบบการบริหารจัดการการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการอาคาร โดยการนำระบบ BIM มาใช้โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการบริหารจัดการอาคาร จะช่วยให้ลดอัตราการสูญเสียที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ลดต้นทุนในการก่อสร้าง ในขณะเดียวกันยังทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเพื่อผู้บริโภค” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
ปัจจัยสำคัญในการพัฒนางาน BIM ที่สำคัญประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลักคือ การพัฒนากระบวนการ (Process) การพัฒนาเทคโนโลยี (Technology) และ การพัฒนาบุคลากร (People) ปัญหาในการพัฒนางาน BIM ในปัจจุบันคือการขาดแคลนบุคคลากรที่มีความเข้าใจกระบวนการทำงานของ BIM ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการก่อสร้างและการบริหารอาคาร เนื่องจากบุคลากรที่จะมีทักษะในการพัฒนางานด้าน BIM จำเป็นต้อง มี 3 ทักษะที่สำคัญคือ ทักษะในด้านเทคโนโลยี่ (BIM Technical Skill) ทักษะด้านบริหารจัดการสำหรับโครงการและองค์กร(BIM Management Skill) และทักษะในการพัฒนาองค์ความรู้ด้าน BIM (BIM Development Skill)
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า การพัฒนาบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน BIM จำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจ(Passion) ในการทำงาน โดยองค์กรควรจะมีการกำหนดนโยบายในการทำงานด้าน BIM (BIM Policy) ขององค์กรอย่างชัดเจน รวมไปถึงการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน (BIM Direction) ที่ชัดเจน รวมไปถึงการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจในงาน BIM และเพิ่มทักษะในการทำงานด้านนี้ให้กับบุคคลากร เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนางาน BIM ในองค์กรประสบความสำเร็จ และมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการ ลดต้นทุนในการก่อสร้างและบริหารจัดการอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันหลายประเทศในเอเซีย ได้มีการนำ BIM มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ในขณะที่ในประเทศไทย การใช้งาน BIM ยังอยู่ในวงจำกัดเฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่สามารถนำ BIM มาใช้ในการพัฒนาโครงการเพราะเกิดการประหยัดจากขนาด(Economy of Scale)
เนื่องจากการนำ BIM มาใช้ในงานออกแบบและงานก่อสร้างมีต้นทุนในการดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายจากการนำระบบ BIM มาใช้ในการออกแบบคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 5% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งถูกกว่าต้นทุนที่ประหยัดได้จากการออกแบบและการก่อสร้างโดยใช้ระบบ BIM แล้วที่สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการก่อสร้างได้ประมาณ 10-15%
“ถ้าเราให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในงาน BIM จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการก่อสร้าง มีส่วนสำคัญในการพัฒนางานก่อสร้างของประเทศในอนาคต” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 31.97/98 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.97/98 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวันที่ 30 มิ.ย. ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.06 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวาน คาดว่าตลอดทั้งวันเงินบาทจะยังทรงตัวอยู่ในกรอบนี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อตลาด โดยยังคงเป็นปัจจัยเดิมๆ ในประเทศ เรื่องสถานการณ์การะบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวัน ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85 – 32.10 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“แม็กนั่ม ดาบรันสารคาม” เจอกับ “ชาติเกรียงไกร อภิชาติมวยไทยยิมส์” ที่เวทีรังสิต
แม็กนั่ม ดาบรันสารคาม (แพ้คะแนน ก้องสยาม ส.พันธ์สุวรรณ ที่มหาสารคาม) มวยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่ช้ากว่า จะแพ้ ชาติเกรียงไกร อภิชาติมวยไทยยิมส์ (ชนะคะแนน ธรรมโท ส.บุญมีฤทธิ์ ที่รังสิต) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดกว่าชนิดต้องลุ้น 115 ป.
เวทีมวยนานาชาติรังสิต จ.ปทุมธานี วันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ค. (วันนี้) เป็นรายการมวย ศึกเพชรยินดี จัดโดยโปรโมเตอร์ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ คู่มวยคู่คี่ (จัดการแข่งขันระบบปิดห้ามแฟนมวยเข้าชมภายในสนาม) ทรูโฟร์ยู 24 ถ่ายทอดสดเวลา 18.05-20.00 น. “ชัย ศิษย์ อ.บี้” ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้
เพชรรุ่ง (ดาม) ศิษย์-ครูโนช (แพ้คะแนน เดชเพชร ว.สังข์ประไพ ที่รังสิต) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดเก๋าเกมแต่สภาพแวดล้อมเป็นรอง จะแพ้ เพชรเอก ไฟต์เตอร์มวยไทย (แพ้คะแนน เพชรสีทอง ส.ศักดิ์-นรินทร์ ที่รังสิต) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดสภาพแวดล้อมดีกว่า 115 ป.
เพชรศิลา ว.อุรชา (ชนะคะแนน แพรวพราว มวยเด็ด 789 ที่รังสิต) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฉลาดฟอร์มสดแต่กระดูกเป็นรอง จะแพ้ สะท้าน-เมืองเล็ก เพชรยินดีอคาเดมี่ (แพ้คะแนน เพชร-สมจิตร จิตรเมืองนนท์ ที่รังสิต) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดเก๋าเกมกว่าชนิดสนุก 114 ป.
กัปตันทีม ศิษย์ไทยแลนด์ มวยแข็งแกร่งเตะเข่าในปล้ำตีเหนียวแน่นแต่ช้ากว่า จะแพ้ จ้าวพญาไฟ สิงห์เนวิน 103 ป.ชัย ศิษย์อาจารย์บี้
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
1 กรกฎาคม วันรณรงค์ตรวจเอชไอวี ย้ำตรวจฟรีปีละ 2 ครั้ง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณ สุขรณรงค์วันตรวจเอชไอวี ปี 2564 ภายใต้แนวคิด “Test to move forward : ตรวจเร็ว เพื่อก้าวต่อ” พร้อมเชิญชวนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง เข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี โดยคนไทยสามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อทราบสถานะการติดเชื้อของตนโดยเร็ว ป้องกันการส่งต่อเชื้อและรักษาด้วยยาต้านไวรัสโดยเร็ว และขอเชิญ หน่วยงาน องค์กรทุกภาคส่วน ร่วมกันรณรงค์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม สามารถติดตามเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ผ่านทาง Facebook Fanpage กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์ตรวจเอชไอวี ซึ่งกรมควบคุมโรคมีความมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1.ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ปีละไม่เกิน 1,000 ราย 2.ลดการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ให้น้อยกว่า 4,000 ราย และ 3.ลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาวะ ลงจากเดิมร้อยละ 90
จากสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยในปี 2563 พบว่า มีผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีที่รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง จำนวน 472,445 คน และยังมีผู้ติดเชื้อบางส่วนที่ยังไม่ทราบสถานะการติดเชื้อของตนเอง เนื่องจากผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรก ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่สามารถถ่ายทอดเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ทางเลือดและจากแม่สู่ลูก ปัจจุบันเทคโนโลยีการตรวจหาเชื้อมีความก้าวหน้ามากขึ้น สามารถรู้ผลได้ภายในวันเดียว (same day result) แต่กลุ่มเป้าหมายหลัก อาทิ ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้หญิงข้ามเพศ ผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีด ผู้ต้องขัง และพนักงานบริการ เป็นต้น ยังเข้าถึงยากและไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ
สำหรับวันรณรงค์ตรวจเอชไอวีในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Test to move forward : ตรวจเร็ว เพื่อก้าวต่อ” เพื่อสร้างความตระหนักว่าการตรวจหาเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องสำคัญ ตรวจเร็ว เพื่อให้รู้สถานะของตนเอง ลดการถ่ายทอดเชื้อไปยังคู่ ซึ่งการตรวจหาเชื้อเอชไอวีควรตรวจหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง 1 เดือน เพื่อให้ผลการตรวจแม่นยำ รู้ผลเร็วได้ในวันเดียว ซึ่งเป็นความสมัครใจหลังจากให้ข้อมูลและได้รับคำปรึกษา โดยการตรวจและผลจะถูกเก็บเป็นความลับ
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีติดเชื้อเอชไอวี ผลเป็นบวก จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยาต้านไวรัสโดยเร็วอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดปริมาณเชื้อไวรัสในกระแสเลือดจนตรวจไม่เจอ (Underdetectable) ซึ่งหากอยู่ในภาวะดังกล่าวจะไม่ถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีผ่านทางเพศสัมพันธ์ หรือ Untransmittable ช่วยลดโอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่คู่ และสามารถวางแผนการตั้งครรภ์แบบธรรมชาติได้ จึงต้องเร่งส่งเสริมให้กับผู้ที่ติดเชื้อเข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเร็วขึ้น โดยสามารถเข้ารับการรักษาฟรีได้ในระบบสิทธิประกันสุขภาพ (บัตรทอง)
กรณีผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะได้รับบริการให้คำปรึกษาเพื่อป้องกันให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และทางเลือกอื่น เช่น การใช้ยาป้องกันก่อนและหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (Pre – Exposure Phophylaxis หรือ PrEP และ Post – Exposure Phophylaxis หรือ PEP) เป็นต้น
ทั้งนี้ คนไทยทุกคนที่มีบัตรประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง และเนื่องในวันรณรงค์การตรวจเอชไอวี 1 กรกฎาคม 2564 นี้ ขอเชิญชวนหน่วยงาน และองค์กรทุกภาคส่วน ตลอดจนสื่อมวลชนทุกท่าน ร่วมกันรณรงค์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ขอเชิญ ติดตามและร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ผ่านทาง Facebook Fanpage กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค และ Safe SEX Story เล่าเรื่องเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค โทร. 0 2590 3291
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
รวมศัพท์แสลงภาษาอังกฤษ คำยอดฮิตที่วัยรุ่นต้องรู้!
รวมศัพท์แสลงภาษาอังกฤษ คำยอดฮิตที่วัยรุ่นต้องรู้! ในแต่ละปี มักจะมีคำศัพท์ คำฮิตติดปากแปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับวัยรุ่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากสักเท่าไร แต่ผู้ใหญ่คงมีสับสน งง ๆ กันบ้าง เราควรรู้คำศัพท์แสลงพวกนี้ไว้บ้าง จะได้เทรนดี้ ชิค ๆ พร้อมแล้วไปดูกันเลย
#1 I’m weak = ตลกมาก ขำกลิ้งกันเลยทีเดียว
#2 Gucci , Snatched , Savage= เจ๋ง เริ่ด ดูดี เท่ / *Snatched มักจะใช้ในวงการแฟชั่น สื่อถึงภาพลักษณ์ที่ดูดี อินเทรนด์มาก ๆ
#3 Low key = เป็นความลับ เป็นเรื่องที่แอบซ่อนอยู่ ไม่ต้องการให้ใครรู้
#4 Trash = โดยปกติ Trash มีความหมายว่า ขยะ แต่พอเป็นคำสแลง ใช้สื่อความหมายถึงคนที่น่ากลัว มีพฤติกรรมที่น่าขยะแขยง
#5 TBH = บอกตรง ๆเป็นคำย่อมาจากพยัญชนะตัวแรกของวลี To be honest นั่นเอง
#6 Curve = แสลงคำนี้ใช้เป็นกริยา ในกรณีที่ปฏิเสธผู้ที่มาจีบ หรือขอมีความสัมพันธ์
#7 Throw Shade = แสลงคำนี้ใช้เป็นกริยาในกรณีพูดหรือมองด้วยสายตาตำหนิ
#8 Straight fire = สื่อถึงสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยม , อินเทรนด์
#9 Salty = หงุดหงิด อารมณ์เสีย
#10 Skurt = ใช้แสดงเป็นกริยาลักษณะ ผละออกจากที่ใดที่หนึ่ง
#11 GOAT = เยี่ยมที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นคำย่อมาจากพยัญชนะตัวแรกของวลี Greatest of All Time
#12 Lit = เริ่ด เจ๋ง สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ อาจจะเขียนว่า It’s lit! คล้ายกับสำนวน It’s cool!หรือ It’s awesome!
#13 Extra = พยายามมากจนเกินความจำเป็น
#14 Ship = แสลงนี้ไม่ได้หมายความว่า เรือ นะคะ แต่สื่อความหมายถึง การสนับสนุนให้สองฝ่ายมีความสัมพันธ์หรือคบกัน แนว ๆ คู่จิ้น อะไรประมาณนั้น
#15 Freak = ประหลาด , บ้า , มีความคิดแปลก ๆ
#16 Crap = ไร้สาระ
#17 Screw Up = ทำอะไรผิดพลาด
#18 For God’s Sake! = แสลงแบบอุทานว่า พระเจ้า! เจ้าประคุณเอ๊ย!
#19 Wannabe = ใช้สื่อถึงพวกที่อยากป็อป มีคนรู้จัก มีชื่อเสียง แต่ทำยังไงก็ไม่ป็อปซะที
#20 Sleepy Head = ใครมีเพื่อนขี้เซา ต้องใช้คำนี้ไปพูดด้วยแล้วล่ะ เพราะคำนี้สื่อถึงคนที่ขี้เซา ชอบนอน นอนอย่างไรก็ไม่รู้จักอิ่ม
#21 Full Send = ลุย ใจกล้า มุ่งหน้าเข้าหาอันตรายโดยไม่กลัวผลกระทบ คำแสลงนี้หากเทียบกับสำนวนไทยก็เหมือนกับ ไปตายเอาดาบหน้า นั่นเองค่ะฃ
#22 Wig = คำแสลงนี้มาจาก Wig ที่แปลว่าวิกผม ใช้ในเหตุการณ์ที่รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ จนแบบวิกผมแทบหลุดลอย ซึ่งไม่จำเป็นว่าเราใส่วิกอยู่หรือเปล่านะคะ เราก็สามารถพูดว่า Wig! / Oh my god wig flew แต่คำนี้มักจะใช้ในเหตุการณ์ที่เป็นเชิงลบมากกว่า
#23 Tea = Tea แปลตรงตัวว่า ชา แต่ในคำแสลง จะถูกใช้แง่ของข่าวลือ ข่าวซุบซิบ นินทา ต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั่วไป ไม่ได้จำเป็นว่าต้องเป็นแง่ลบ เช่น What’s the tea? = มีข่าวลืออะไรบ้าง? / Sip my tea = สนใจเรื่องของตัวเอง ไม่สนใจเรื่องชาวบ้าน
#24 Sus = รบกวนอ่านสำเนียงอังกฤษนะคะ คำนี้ย่อมาจาก Suspect แปลว่า ผู้ต้องหา ใช้เป็นแสลงกับเพื่อน ๆ ได้ ในกรณีที่เพื่อนทำตัวมีพิรุธ น่าสงสัย ปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ ก็พูดไปเลยว่า You are being sus = เธอทำตัวน่าสงสัยนะ
#25 Flex = อวด นำเสนอแบบมากเกินไป ใช้กับไลฟ์สไตล์ฟุ่มเฟือย ค่อนข้างเป็นคำแสลงในแง่ลบ
#26 Left on read = คำนี้อาจจะทำร้ายจิตใจใครหลาย ๆ คน ที่เคยพบประสบการณ์ เจอคนที่อ่านข้อความแล้วไม่ตอบกลับ ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น
และทั้งหมดนี้ก็คือ คำแสลง ที่ SI-English นำมาฝากกันในวันนี้ ได้คำชิค ๆ เก๋ ๆ ไว้ใช้กับเพื่อนบ้างแล้วใช่มั๊ยละคะ? สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเอง SI-English พร้อมช่วยเหลือและดูแล ไม่ว่าจะเป็นการสมัครเรียน หรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน สหราชอาณาจักรไอร์แลนด์แคนาดาสหรัฐอเมริกาออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ สามารถ ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาจากพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศของ SI-English ได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก si-englishbkk.com
3 พันธมิตรดึง IoT พลิกโฉมเกษตรชุมชนสู่ Smart Farming ก้าวไกลสู่ครัวโลก
ติงส์ ออน เน็ต ร่วมกับ พี.ที.เอ็น.อินโนเวชั่น และสหกรณ์บริการ ส่งเสริมอาชีพและวัฒนธรรมชลบุรี ผสานความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ดึงโซลูชัน IoT ครบวงจรผ่านอุปกรณ์ไฮเทคและโครงข่ายสัญญาณ มาขับเคลื่อนเกษตรชุมชนอัจฉริยะ (Smart Farming) ต่อยอดฟาร์มเห็ดไทยสู่ครัวโลก
ดร.เจมส์ ลิ้มรพีพงษ์ ประธานคณะกรรมการ สหกรณ์บริการ ส่งเสริมอาชีพและวัฒนธรรมชลบุรี จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯ เปิดดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่า ปัจจุบันมีสมาชิก 45 คน ในจำนวนนี้ประกอบธุรกิจฟาร์มเห็ดนางฟ้า นางฟ้าภูฐาน นางนวลชมพู และนางรมทอง เป็นอาชีพหลักรวม 10 ครัวเรือน ในระยะแรกกลุ่มเกษตรกรใช้วิธีเพาะเลี้ยงเห็ดแบบโรงเรือนทั่วไปใช้วัสดุไม้เหลือใช้หรือต้นไม้เสาเข็มนำมาทำโรงเรือน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและใช้เงินลงทุนต่ำ แต่ต้องเผชิญกับความเสี่ยง เรื่องโรคราต่างๆ เช่น ราเหลือง ราเขียว ราดำ เป็นต้น ส่งผลให้ได้ผลผลิตไม่แน่นอน ไม่สามารถผลิตเห็ดให้มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐานที่จะจำหน่ายภายในประเทศ หรือส่งออกเป็นอุตสาหกรรมได้ สหกรณ์ฯ จึงเปลี่ยนแนวคิดสู่การเพาะเห็ดแบบโรงเรือน Smart Link ที่ให้ผลผลิตสูง มีความสม่ำเสมอ และผลิตดอกเห็ดได้ตลอดปี ทดแทน
“การเพาะเลี้ยงเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ แบบใช้โรงเรือน มีข้อดีคือมีประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผลสูง แต่มีอุปสรรคใหญ่สำหรับเกษตรกรชุมชน คือต้องใช้งบลงทุนที่สูงมาก ทั้งค่าก่อสร้างโรงเรือน ระบบการให้น้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกทั้งขั้นตอนการเพาะเห็ดวิธีนี้มีความซับซ้อน ตั้งแต่การเตรียมโรงเรือน อบฆ่าเชื้อ ปรับอุณหภูมิ ความชื้นและแสง ไปจนถึงขั้นตอนการเกิดดอกและเก็บเกี่ยว หากปรับสภาพแวดล้อมไม่ถูกวิธีจะส่งผลให้ผลผลิตทั้งหมดเสียหายได้
สหกรณ์ฯ จึงได้ปฏิรูปการดำเนินการโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ได้ผลและมีมาตรฐานสูง แต่อยู่ในงบประมาณที่คุ้มค่าราคาไม่แพงเข้ามาใช้ ภายใต้โครงการ “เกษตรนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงพืชผักปลอดสารพิษ เห็ดนางฟ้า” แบบโรงเรือนอัจฉริยะ Smart Link ช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกร โดยได้สองพันธมิตรที่มีศักยภาพและความพร้อมมารับหน้าที่วางระบบและบริหารจัดการฟาร์มเห็ดทั้งโครงการซึ่งปัจจุบันมีโรงเรือนเพาะเห็ดทั้งสิ้น 32 โรงเรือน”
นายธรรมนูญ กรเพชรพงศ์ Chief Lead Sales and Marketing บริษัท พี.ที.เอ็น.อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนให้ระบบเศรษฐกิจชุมชนขับเคลื่อนได้ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงได้ร่วมสนับสนุนโครงการฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Smart IOT ทั้ง Home Solutions และ Business Solutions บริษัทได้สนับสนุนอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบอัตโนมัติบนโครงข่ายสัญญาณระดับโลกซิกฟอกส์ (Sigfox) พร้อมด้วยแท็บเล็ตเคลื่อนที่แสดงผลค่าต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชันได้แบบทันทีทันใด (Realtime) ผ่านบริการเช่าใช้ พร้อมทำหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการสมาร์ทฟาร์มทั้งโครงการ
ขณะที่อีกหนึ่งพันธมิตรอย่าง บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด (THINGS ON NET CO., LTD.) ผู้นำด้านบริการโซลูชันไอโอทีครบวงจร ด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารระดับโลก นำโดย นายปวิณ วรพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับบทบาทสำคัญในการวางระบบและติดตั้งโซลูชัน แพลตฟอร์ม และอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นอัจฉริยะ ที่สั่งการบนโครงข่ายสัญญาณระดับโลกซิกฟอกส์ให้กับทั้ง 32 โรงเรือน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน IoT มีโครงข่ายสัญญาณครอบคลุมระดับโลก และมีโซลูชัน แพลตฟอร์ม และอุปกรณ์ครบวงจรที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกฟอกส์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
“อุณหภูมิและความชื้น เป็นตัวแปรหลักของภาคเกษตรกรรม และการเปลี่ยนแปลงของสองปัจจัยนี้เป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลต่อพืชผล ติงส์ ออน เน็ต จึงวางระบบโซลูชัน IoT Environmental Monitoring Solution: Temperature & Humidity และติดตั้งเซ็นเซอร์อัจฉริยะให้กับฟาร์มเห็ดของสหกรณ์ฯ เพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจวัดและบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างอิสระทุกที่ทุกเวลาและในทุกขั้นตอนการเพาะเห็ด พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติอย่างทันท่วงที และจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ ปลอดภัย ผ่านการแสดงผลบนแท็บเล็ตที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับพัฒนาการเพาะเลี้ยงเห็ดต่อไปได้”
IoT โซลูชันและเซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้น ไม่เพียงมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพและความแม่นยำ ซึ่งสามารถตรวจวัดและควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -40 องศา ถึง 125 องศา และตรวจวัดความชื้นได้ตั้งแต่ระดับ 0 – 100% แต่ยังถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการใช้งาน ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินระบบสายไฟ อีกทั้งใช้พลังงานต่ำ แบตเตอรี่สามารถชาร์จซ้ำได้ อายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี จึงช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรชุมชน และลดความเสี่ยงการเสียหายของพืชผลจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบโรงเรือนแบบ Smart Link ช่วยยกระดับการบริหารจัดการฟาร์มเห็ดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความสะดวกในการดูแลโรงเรือนของผู้เพาะเลี้ยง ใช้กำลังคนเพียง 8 คน ดูแลโรงเรือนเพาะเห็ดทั้งหมด 32 โรงเรือน โดย 1 คน สามารถบริหารจัดการ 4 โรงเรือนพร้อมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมโรงเรือน การเพาะ ไปจนถึงขั้นตอนการเกิดดอกและเก็บเกี่ยวดอกเห็ด จากเดิมที่ต้องใช้กำลังคนจำนวนมากดูแลเห็ดในโรงเรือนทุกครึ่งชั่วโมง และจดบันทึกด้วยมือ ระบบโซลูชัน IoT ยังช่วยลดความเสี่ยงการเสียหายของเห็ดจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น เพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิต เป็นการขยายโอกาส สร้างรายได้และผลกำไรจากตลาดระดับประเทศสู่ตลาดต่างประเทศได้ การผนึกกำลังร่วมพลิกโฉมโรงเรือนเพาะเห็ดเกษตรชุมชนสู่ฟาร์มเห็ดเกษตรอัจฉริยะครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยสู่ยุค IoT ปูพรมเกษตรอัจฉริยะประเทศไทยก้าวไกลสู่ครัวโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
7 สรรพคุณและประโยชน์ของดอกกะหล่ำ ช่วยต้านมะเร็งได้สารพัด!
กะหล่ำดอก มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Cauliflower ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica oleracea L. var. botrytis L. มีลักษณะเป็นช่อสีขาวถึงเหลืองอ่อนอีก มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูจึงเป็นผักที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ เรามาดูกันเลยว่ากะหล่ำดอกมีประโยชน์อะไรบ้างนะ?
8 ประโยชน์ของกะหล่ำดอก ช่วยต้านมะเร็ง
- ช่วยลดน้ำหนัก กะหล่ำดอกมีแคลอรี่ต่ำมากปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 26 แคลอรี่ อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด
- ต้านมะเร็ง กะหล่ำดอกมีสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) และสาร indole-3-carbinol ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารต้านสารอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งเต้านม, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งรังไข่
- ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง กะหล่ำดอกเป็นแหล่งของวิตามินซี ปริมาณเพียง 100 กรัม ให้ปริมาณวิตามินซี 48.2 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อ
- บำรุงครรภ์ กะหล่ำดอกมีโฟเลตซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ จึงช่วยป้องกันข้อบกพร่องในทารกแรกเกิดได้
- ขับล้างสารพิษในร่างกาย กะหล่ำดอกมีไฟเบอร์สูงจึงช่วยกระตุ้นลำไส้ทำให้กากอาหารนุ่มลง แก้อาการท้องผูกได้ดี มีเส้นใยอาหารสูงจึงช่วยระบบทางเดินอาหารดูดซึมสารพิษที่สะสมอยู่ตามผนังลำไส้ให้ออกไป
- อุดมไปด้วยกลุ่มวิตามินบีรวม (B-complex) ที่สำคัญ เช่น โฟเลต, วิตามินบี3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6 และวิตามินบี 1, ซึ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
- อุดมไปด้วยแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น แมงกานีส ทองแดง เหล็ก แคลเซียม และโพแทสเซียม
คุณค่าทางโภชนาการของ กะหล่ำดอก 100 กรัม
ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี
ไฟเบอร์ 2.0 กรัม
วิตามินบี1 0.050 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.060 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 0.507 มิลลิกรัม
วิตามินบี5 0.667 มิลลิกรัม
วิตามินบี6 0.184 มิลลิกรัม
วิตามินซี 48.2 มิลลิกรัม
วิตามินเค 15.5 ไมโครกรัม
แคลเซียม 22 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.42 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 15 มิลลิกรัม
แมงกานีส 0.155 มิลลิกรัม
สังกะสี 0.27 มิลลิกรัม
โฟเลท 57 ไมโครกรัม
ทองแดง 0.039 มิลลิกรัม
ขอบคุณข้อมูลจาก today.line.me
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,750.00 | 26,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,733.00 | 26,272.28 | 27,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,559.70 | 23,645.05 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,386.40 | 21,017.82 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 780.00 | 11,824.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 607.00 | 9,202.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,796.00 | 27,227.36 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/07/2564
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 | 29.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 | 28.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 27.54 | 27.54 | 27.54 | 27.54 | 27.54 | – | 27.54 | 27.54 | 27.54 | 27.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.59 | 22.59 | – | – | – | – | – | – | – | 22.59 |
เบนซิน 95 | 36.46 | – | – | – | 36.91 | – | 36.96 | 36.46 | – | 36.46 |
ดีเซล B7 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 | 28.99 |
ดีเซล | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 | 25.99 |
ดีเซล B20 | 25.74 | 25.74 | 25.94 | – | 25.74 | – | 25.74 | 25.74 | – | 25.74 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 33.76 | 33.76 | 35.44 | 35.16 | – | – | – | – | – | 33.76 |
แก๊ส NGV | 13.99 | 13.99 | – | – | – | – | – | – | – | 13.99 |