“ชาญอิสสระ” เผยอสังหาฯเปราะบาง ขน 4 โครงการหรู รุกแพลตฟอร์มใหม่
ชาญอิสสระ คาดอสังหาฯ ปี 2564 หดตัวต่อเนื่อง เปิดใหม่ลดลงกว่า 35% รุกปรับกลยุทธ์การขาย ขน 4 โครงการหรู เปิดแพลตฟอร์ม Issara Easy Connect ชมโครงการแบบ Private Live รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคโควิด
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมาว่า ยังมีความเปราะบางอย่างต่อเนื่อง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายๆ ค่ายชะลอการเปิดโครงการใหม่ จากสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดที่นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน และพร้อมใจกันกระตุ้นยอดขายด้วยการเน้นทำแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง ทั้งลด ทั้งแถม เพื่อผลักดันให้เกิดยอดขาย ยอดโอน เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างนี้คงจะอยู่กับเราไปอีกเป็นปีๆ
“เราจะเห็นว่า Supply มีการชะลอตัว หากมาดู Supply ปีที่ผ่านมา (2563) ยูนิตรอขายรวมก็ลดลงจากประมาณ 320,000 ยูนิตต่อปี คงเหลือ 290,000 ยูนิตต่อปี หรือลดลงในอัตรา 6.9% แต่ถ้ามาดูด้าน Demand ข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ จะเห็นว่าปี 2563 มีผู้บริโภคโอนกรรมสิทธิ์ 126,000 ยูนิต แสดงว่าความต้องการยังคงมีอยู่ใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา แต่ปี 2563 ผู้ประกอบการลดราคาลงโดยเฉพาะอาคารชุด 10-20% ทำให้สามารถรักษายอดขายในระดับ 126,000 ยูนิตได้ ขณะที่การเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมา (2563) มีการชะลอตัวลงอย่างมาก จากเคยมียูนิตเปิดตัวใหม่ต่อปี 110,000-120,000 ยูนิตต่อปี คงเหลือเพียง 72,000 ยูนิต เมื่อปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าลดลง 35% และในปีนี้ก็คาดว่าจะชะลอตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
ดังนั้นการพัฒนาการขายและปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุค New Normal นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ชาญอิสสระจึงมุ่งเน้นนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบาย และได้รับความปลอดภัย
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาพฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่กล้าออกมาใช้ชีวิตภายนอกบ้าน เนื่องจากมีความกังวล และระมัดระวังตัวเองมากขึ้น การใช้สื่อออนไลน์จึงเข้ามามีส่วนช่วยให้การเสนอขายอสังหาริมทรัพย์ตอบโจทย์ผู้ซื้อได้มากขึ้น ในยุคโควิดนี้ ผู้ซื้อสามารถชมโครงการผ่านสื่อ 3D / VDO / ภาพถ่ายเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องเข้าไปในพื้นที่ ลดความเสี่ยงได้” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
นายดิฐวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปส่งผลให้แนวทางการตลาดต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในการอำนวยความสะดวกเข้าเยี่ยมชมโครงการ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อ Issara Easy Connect เปิดมิติใหม่ของการเยี่ยมชมโครงการผ่านระบบออนไลน์ ในแบบ Private Live. Private Tour. Real Time 360◦. ชมง่าย แชทสะดวก จองสบาย เพื่อเป็นการตอบโจทย์ Pain Points ของผู้บริโภคในการเยี่ยมชมโครงการที่สะดวก ปลอดภัย ได้เห็นห้องจริง วิวจริง วัสดุจริงครบทุกรายละเอียด อีกทั้งยังสามารถ Interact ตรงกับ Sale Consultant ได้ทันที นอกจากนี้ในการเยี่ยมชมโครงการยังสามารถเชิญครอบครัว หรือเพื่อนเข้าร่วมชมพร้อมกันได้ถึง 5 Devices ได้อีกด้วย
“Issara Easy Connect เป็นแอพพลิเคชั่นเยี่ยมชมโครงการแบบ Private Live. Private Tour. Real Time 360◦. พร้อมเปิดสัมผัสประสบการณ์เป็นครั้งแรกในวันนี้ (23 กันยายน 2564) นำร่อง 4 โครงการ ได้แก่โครงการ อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม9, โครงการบ้านอิสสระ บางนา, โครงการ ดิ อิสสระ สาทร และโครงการศศรา หัวหิน ซึ่งลูกค้าที่สนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการในรูปแบบของ Issara Easy Connect สามารถลงทะเบียนผ่านทาง LINE OA ของโครงการที่ต้องการเข้าเยี่ยมชม ทำการนัดหมายวัน เวลา กับ Sale Consultant เพื่อรับลิงค์เข้าไปชมโครงการ” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการเพิ่มเติมช่องทาง Issara Easy Connect เป็นการมุ่งเน้นด้านสื่อออนไลน์ในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในยุคนี้ ขณะที่ในส่วนของสำนักงานขายก็ยังคงเป็นช่องทางหลักที่ได้รับความนิยม เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้ายังมีความต้องการมาเห็นพื้นที่ตั้งของโครงการจริง สัมผัสห้องตัวอย่างจริง แต่การตลาดออนไลน์จะเข้ามาช่วยให้ลูกค้าสะดวก สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการเดินทางออกจากบ้านจะได้รับข้อมูลครบถ้วนเหมือนมาสัมผัสจริง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สิงห์ เอสเตท ลุยสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรก เอส อ่างทอง มูลค่า 4 พันล.
” สิงห์ เอสเตท” เดินเครื่องธุรกิจใหม่ ลุยสร้าง นิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท บนที่ดินเกือบ 1,800 ไร่ ริมถ.สายเอเชีย ชู Solar farm ลอยน้ำ แนวคิดเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม คาดแล้วเสร็จปี 2566
23 กันยายน 2564 – บมจ. สิงห์ เอสเตท (S) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เดินหน้าสร้างนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S Industrial Estate) โดย นายกำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท S.IF. จำกัด (บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท) กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท เล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีศักยภาพสูงในการเติบโต ตามแนวทาง “หนึ่งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร หนึ่งกลุ่มจังหวัด” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรฯ
ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งของจังหวัดอ่างทอง ที่เป็นศูนย์กลางแหล่งวัตถุดิบคุณภาพสูง เนื่องจากตั้งอยู่บนรอยต่อของ 4 จังหวัด ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งวัตถุดิบสินค้าเกษตร จากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน สู่ศูนย์กระจายสินค้าเกษตรหลักของภาคกลาง (ตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง) และที่สำคัญคือ มีแรงงานจำนวนมาก รองรับการความต้องการของผู้ประกอบการ
เนื่องจากมีสถาบันการศึกษาวิชาชีพหลายแห่งอยู่ในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง อาทิเช่น ราชภัฏลพบุรี วิทยาลัยเทคนิค และอื่นๆ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงการพื้นฐานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ทำให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของพนักงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเป็นอย่างยิ่ง
โครงการนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง มีพื้นที่โครงการ 1,790 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.63 ต.ไชยภูมิ อ. ไชโย จ.อ่างทอง สะดวกต่อการขนส่งสินค้า ไปยังศูนย์กระจายสินค้า ท่าเรือ สถานีรถไฟ รวมทั้งท่าอากาศยาน และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพียงพอและมั่นคง โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเภทพลังงานความร้อนร่วม หรือ Co-Generation (เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันก๊าซและกังหันไอน้ำมาทำงานเป็นระบบร่วมกัน)
ซึ่งมีข้อดีคือให้กำลังการผลิตสูง มีความยืดหยุ่นในการเดินเครื่อง มลภาวะต่ำ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผลผลิตที่ได้เป็นกระแสไฟฟ้าทีมีคาร์บอนต่ำ (Low carbon emission) จาก โรงไฟฟ้า SPP 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 400 เมกกะวัตต์ พร้อมระบบจ่ายไฟฟ้า 22 KV โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วยจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาตั้งโรงงานในนิคมฯ มีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำกว่าทั่วไป ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของทรัพยากรน้ำ มีศักยภาพการผลิตน้ำประปา 9,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 384 ไร่ เทียบเท่าความจุ 6.12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และจะมีการติดตั้ง Solar farm ลอยน้ำ ในอนาคต อีกทั้งรองรับกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ด้วยเครือข่ายโทรคมนาคม ระบบ 5G และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ
สำหรับการจัดสรรพื้นที่ภายในนิคมอุตสาหกรรม แบ่งเป็น เขตอุตสาหกรรมอาหาร และเขตอุตสาหกรรมทั่วไป โดยช่วงที่ 1 มีพื้นที่ 364.7 ไร่ และช่วงที่ 2 มีพื้นที่ 662.3 ไร่ เขตธุรกิจพื้นที่พาณิชยกรรม 34 ไร่ พื้นที่สีเขียวและสันทนาการ 147 ไร่ โรงไฟฟ้า พื้นที่ 77.4 ไร่ และระบบสาธารณูปโภค รวม 215 ไร่ โดยจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี พ.ศ. 2566
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการขอใบอนุญาตต่างๆ ผ่านศูนย์ Total solution Center รวมถึงการนำเงินตราต่างประเทศออกนอกราชอาณาจักร และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกด้วย และการออกแบบพัฒนาโครงการที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะ อุทกภัยเนื่องจากมีการนำข้อมูลสถิติมาใช้ในการวิเคราะห์ในการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม (flood protection) ล้อมรอบโครงการ
“นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง เป็นก้าวสำคัญของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ของสิงห์ เอสเตท เนื่องจากเป็นโครงการแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ที่พัฒนาจากแนวคิด “Enriching Tomorrow” ที่มุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และโครงการนี้จะส่งเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งรักษาความสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ตลอดไป” นายกำจร กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์,น้ำมันปิดพุ่งแรง/ทองร่วง
หุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่ง 506.50 จุด น้ำมันบวกแรง 1.07ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำร่วง 29 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,764.82 จุด เพิ่มขึ้น 506.50 จุด หรือ +1.48% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,448.98 จุด เพิ่มขึ้น 53.34 จุด หรือ +1.21% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 15,052.24 จุด เพิ่มขึ้น 155.40 จุด หรือ +1.04%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย. โดยดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินจำนวน 1.10 แสนล้านหยวน (1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลร์ ปิดที่ 77.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมัน
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 1,749.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ไขข้อข้องใจ ทำอย่างไร? นักกีฬาถึงจะได้ไปไปลุยโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024”
หลังจากต้องใช้เวลารอนานกว่าโอลิมปิกครั้งอื่น ๆ โตเกียว 2020 ก็ปิดฉากการแข่งขันลงได้อย่างน่าประทับใจ มีการทำลายสถิติเกิดขึ้นมากมาย และมีเจ้าของเหรียญทองคนใหม่มากหน้าหลายตา
เราอาจบอกได้ว่า ผลพวงจากการเลื่อนแข่งขันออกไปอีก 1 ปี ทำให้นักกีฬามีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น สะท้อนออกมาเป็นผลลัพธ์ในการแข่งขัน แต่ขณะเดียวกัน ต้องชื่นชมนักกีฬาเหล่านั้นที่ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเอง แม้ต้องฝึกซ้อมภายใต้ข้อจำกัดของการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิดแพร่ระบาด
ในทางกลับกัน ขณะที่ โตเกียว เกมส์ มีช่องว่างห่างจาก ริโอ เกมส์ 5 ปี แต่ โอลิมปิก ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 หรือ ปารีส 2024 เว้นช่วงจากที่ญี่ปุ่นเพียง 3 ปีเท่านั้น นั่นทำให้นักกีฬามีเวลาเตรียมตัวอย่างกระชั้นชิด ทั้งเพื่อการลงแข่งรอบควอลิฟายชิงตั๋วโอลิมปิก หรือเตรียมตัวสำหรับการไปแย่งชิงความเป็นหนึ่งที่ประเทศฝรั่งเศสก็ตาม
แล้ว ปารีส 2024 จะมีขึ้นเมื่อไหร่ มีกีฬากี่ชนิดทำการแข่งขัน และนักกีฬาจะคว้าสิทธิ์ไปร่วมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้อย่างไร ติดตามได้ที่นี่
ปารีส 2024 มีกีฬากี่ชนิด?
โอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปารีส จะมีการแข่งขันทั้งหมด 32 ชนิดกีฬา โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมมากกว่า 10,000 ชีวิต เพื่อแย่งชิง 306 เหรียญทอง ซึ่งกีฬาเบรกแดนซ์จะได้รับการบรรจุแข่งเป็นครั้งแรก หลังประสบความสำเร็จใน ยูธ โอลิมปิก เกมส์ ปี 2018 ที่กรุง บูเอโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา
สำหรับกีฬาทั้ง 32 ชนิด มีดังนี้ : กีฬาทางน้ำ (กระโดดน้ำ, ว่ายน้ำมาราธอน, ระบำใต้น้ำ, ว่ายน้ำ, โปโลน้ำ), ยิงธนูู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล (รวมถึง บาสเกตบอล 3×3), เบรกแดนซ์, มวยสากล, เรือแคนู, จักรยาน (ถนน, ลู่, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ฟรีสไตล์, บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง), ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก(ยิมนาสติกศิลป์, ยิมนาสติกลีลา, แทรมโพลีน), แฮนด์บอล, ฮ็อกกี้, ยูโด, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เรือกรรเชียง, รักบี้ 7 คน, เรือใบ(รวมวินด์เซิร์ฟ), ยิงปืน (รวมยิงเป้าบิน), สเกตบอร์ด, ไต่หน้าผา, กระดานโต้คลื่น, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล (รวมวอลเลย์บอลชายหาด), ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ
นักกีฬาแต่ละชนิดในโอลิมปิกจำกัดอายุเท่าไหร่?
สำหรับข้อจำกัดด้านอายุ จะถูกกำหนดโดยสหพันธ์นานาชาติของกีฬาแต่ละประเภท อย่างเช่น มวยสากล นักกีฬาต้องมีอายุระหว่าง 18-39 ปี แต่ มิร่า พอตโคเน่น นักชกชาวฟินแลนด์ วัย 40 ปี ได้รับอนุญาตให้ชกเป็นกรณีพิเศษสำหรับ โตเกียว 2020 หลังจากการแข่งขันต้องเลื่อนออกมาอีก 1 ปี ก่อนที่เธอจะคว้าเหรียญโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน
ในกีฬายิมนาสติก นักกีฬาต้องมีอายุ 16 ปี ในปีที่มีการแข่งขัน โดยไม่มีข้อกำหนดเรื่องอายุมากสุด ส่วนฟุตบอลชาย นักกีฬาต้องมีอายุต่ำกว่า 23 ปี และสามารถมีนักเตะอายุเกินได้ทีมละ 3 คน
อย่างไรก็ตาม มีกีฬาหลายชนิดที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องอายุขั้นต่ำ อย่างเช่น เทเบิลเทนนิสที่ เฮนด์ ซาซ่า นักกีฬาซีเรียวัย 12 ปี เป็นนักกีฬาอายุน้อยที่สุดใน โตเกียว เกมส์ ขณะที่ โคโคนะ ฮิรากิ สาวน้อยนักสเกตบอร์ดวัย 12 ปีชาวญี่ปุ่น เป็นนักกีฬาอายุน้อยที่สุดที่คว้าเหรียญรางวัล หลังได้เหรียญเงินจากประเภทพาร์คหญิง
รายการอะไรที่ใช้คัดเลือก โอลิมปิก เกมส์?
มีหลายวิธีที่ใช้คัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โดยขึ้นอยู่กับชนิดกีฬา และสหพันธ์นานาชาติ อย่างเช่น ยิงปืนและเทควันโดให้โควตาชาติสมาชิกโอลิมปิกด้วยการพิจารณาจากผลงานของนักกีฬารายบุคคล แต่คณะกรรมการโอลิมปิกประจำชาติสามารถเลือกนักกีฬาคนอื่นไปแข่งขันแทนได้
ในกีฬาประเภททีม แต่ละชาติต้องพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในรายการชิงแชมป์โลกหรือชิงแชมป์ระดับทวีป หรือรายการโอลิมปิกควอลิฟายระดับทวีปหรือระดับโลก โดยจะมีจำนวนระหว่าง 8 ถึง 12 ชาติในการแข่งขันกีฬาประเภททีมแต่ละรายการใน โอลิมปิก เกมส์
ใครเป็นผู้เลือกนักกีฬาไปแข่ง โอลิมปิก เกมส์?
คณะกรรมการโอลิมปิกประจำชาติคือผู้เลือกตัวนักกีฬาไปลงแข่ง โอลิมปิก เกมส์ รวมทั้งทำหน้าที่สนับสนุนและส่งชื่อนักกีฬาลงแข่งขัน โดย คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จะส่งจดหมายเชิญไปยังทุกชาติสมาชิก 1 ปีก่อนพิธีเปิดการแข่งขัน และคณะกรรมการโอลิมปิกแต่ละชาติจะส่งชื่อนักกีฬาเพื่อให้ IOC พิจารณาคุณสมบัติ
นักกีฬาทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามกฎบัตรโอลิมปิก ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดขององค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลกและกฎระเบียบของโอลิมปิกที่ว่าด้วยการป้องกันของการจัดการแข่งขัน
โอลิมปิกครั้งต่อไปจะมีขึ้นเมื่อไหร่?
โอลิมปิก เกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 หรือ ปารีส 2024 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม ปี 2024
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ Signal Words ในการเขียน Paragraph
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราก็มีทริคเล็กๆ น้อยๆ ให้ทุกคนนำไปใช้ในการเขียนงานกันนะคะ สามารถใช้ได้ทั้งรูปแบบของ Paragraph และ Essays เลยล่ะค่ะ เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากๆ เลยนะ แต่ก่อนที่เราจะมารู้จักกับ Signal Words นั้น ก็อยากจะให้ทุกคนทำความเข้าใจกันก่อนนะว่า Paragraph และ Essay นั้นมันแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับ Paragraph นั้นจะเป็นเพียงงานเขียนที่ประกอบด้วยย่อหน้าเพียงย่อหน้าเดียวค่ะ ไม่ควรจะเขียนเกิน 180-250 คำ เพราะถ้าเกินจากนี้เราก็ควรจะขึ้น Paragraph ใหม่ แต่ถึงแม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่คำ Paragraph นั้นก็ยังมีโครงสร้างต่างๆ ที่ประกอบด้วย ประโยคคำนำ เนื้อความ และ ประโยคสรุป ซึ่งก็คือ Introduction (Topic Sentence), Body และ Conclusion นั่นเองค่ะ
แล้ว Essays ล่ะคืออะไร? ถ้าหากเรารู้จักกับ Paragraph แล้วนั้น Essays ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะมันคือร่างสองของ Paragraph นั่นเอง Essays นั้นจะประกอบด้วย Paragraph อย่างน้อย 5 Paragraph ขึ้นไป จะประกอบด้วย Introduction (Paragraph 1), Body 1 (Paragraph 2), Body2 (Paragraph 3), Body 3 (Paragraph 4) และ Conclusion (Paragraph 5) ค่ะ
แต่ทีนี้ ถ้าหากเรายากจะเขียน Paragraph ให้ดู Flow แบบมืออาชีพแล้วนั้นเราก็ควรที่จะมีประโยคเชื่อมต่อหรือคำสำหรับเชื่อมต่อประโยคกับประโยคหรือจาก Paragraph หนึ่งไปสู่อีก Paragraph หนึ่งด้วยนะคะ ซึ่งถ้าหากขาดเจ้าสิ่งนี้ที่เรียกว่า Signal Words ไปงานเขียนของเราก็อาจจะดูไม่ Professional เท่าไหร่นัก ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีคำไหนน่าใช้บ้าง
1. การเล่าเรื่องเป็นลำดับขั้น
สำหรับวิธีนั้นก็นับเป็นวิธีพื้นฐานที่ทุกๆ คนควรจะรู้เลยนะคะ ทุกงานเขียนนั้นจะอ่านง่ายได้ก็ต่อเมื่อเรามีการเรียงลำดับเรื่องราวได้ชัดเจน ทำให้ผู้อ่านสามารถจินตนาการถึงเรื่องราวที่เรากำลังถ่ายทอดได้อย่างเป็นลำดับขั้น ซึ่งเราสามารถใช้คำได้ดังนี้ค่ะ
First / Firstly / The first one
Second / Secondly / The second one
Third / Thirdly / The third one
มาดูตัวอย่างการใช้ไปพร้อมๆ กันนะคะ
There are three things I hate about you. First, you are always complaining about everything. The second thing is, you are too lazy to be my couple because you do nothing but complain. Thirdly, you have no leadership at all, so you can’t help me make any decisions.
2. การเล่าเรื่องเป็นประโยคถัดกันไป
วิธีนี้นั้นคล้ายๆ กับวิธีแรกค่ะ แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าเราจะไม่ใช้ตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะบางครั้งนั้นการเล่าเรื่องโดยใช้ตัวเลขก็อาจจะไม่เหมาะสมกับงานเขียนทุกๆ งาน เช่นถ้าเราอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ที่เราเคยทำมา เราก็ควรจะเลือกใช้คำจำพวกนี้ค่ะ
Then (หลังจากนั้น) / Next (ต่อไป) / Begin with (เริ่มต้นที่) / After (หลังจาก) / Before (ก่อนที่จะ) / By the time (ในขณะเดียวกัน)
มาดูเรื่องเล่าตัวอย่างกันเลยค่ะ
When I reached the airport, I met my ex-boyfriend. My heart raced with excitement. After that, I stopped walking and did not know what to say. He said hi to me with a little smile and we had a quick conversation. Before we part ways, I smiled a little, hoping that it would be good if we were still a couple.
3. การใช้ประโยคขัดแย้ง
ส่วนใหญ่แล้วนั้นคนไทยมักจะนิยมใช้คำว่า But แทนคำว่า “แต่” ในทุกๆ สถานการณ์ รวมถึงในงานเขียนก็ด้วยเช่นกัน แต่จริงๆ แล้วนั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยค่ะ เพราะคำว่า But นั้นจะดู Informal หรือว่าไม่เป็นทางการทันทีหากนำมันมาขึ้นประโยค ดังนั้นถ้าอยากให้งานเขียนของเราออกมาดี เราก็ควรจะเลือกใช้คำพวกนี้มากกว่าค่ะ
However (อย่างไรก็ตาม) / Despite (ถึงอย่างไรก็ตาม) / Nevertheless (อย่างไรก็ตาม) / Although (ถึงแม้ว่า)
ตัวอย่างการใช้นะคะ
We went to the concert last night at IMPACT Muang Thong Thani. Although the auditorium was packed with people, we still had a great time.
4. การใช้ประโยคกล่าวถึงอย่างเป็นเหตุเป็นผล
บางเหตุการณ์นั้นเราก็ต้องการที่จะเขียนให้มันเกี่ยวโยงกันหรือเป็นเหตุเป็นผลกันถูกต้องไหมเอ่ย? หลายๆ คนก็อาจจะนึกถึงคำว่า Because ขึ้นมาเป็นคำแรกๆ ใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้วมันยังมีคำอื่นมากมายที่ไม่ใช่แค่ Because นะเออ เรามาดูกันดีกว่าว่าเราควรจะเลือกคำไหนมาใช้ได้บ้าง
Because of (เพราะว่า + คำนาม) / Since (เพราะว่า) / Accordingly (ดังนั้น) / Consequently (ดังนั้น) / According to (เนื่องจาก)
เอาล่ะ ไม่รอช้า ตามมาดูประโยคตัวอย่างกันเลยค่ะ
One of the biggest issues in today’s world is global warming. The problem occurs because we pollute the air and litter every day. There’s going to be serious consequences unless we do something about it soon.
5. การใช้คำในประโยคสรุป
เมื่อเราเล่าเรื่องมาเรื่อยๆ แล้วนั้นเราก็ควรจะมีจุดที่บอกคนอ่านด้วยว่าเราใกล้มาถึงตอนจบแล้วนะ ซึ่งควรอย่างยิ่งที่จะมีทั้งใน Paragraph และ Essays เลยนะคะ ถ้าหากไม่มีนั้นงานเขียนของเราก็คงจะดูจบห้วนๆ เหมือนกับละครที่ตัดจบไปดื้อๆ โดยที่ไม่ขึ้นคำว่าจบบริบูรณ์เลยล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เราพบเจอกับปัญหานั้น ลองเลือกคำในนี้ไปใช้กันนะคะ
To sum up (โดยสรุป)/ Finally (สุดท้ายนี้)/ Last (สุดท้าย)/ Lastly (อย่างสุดท้าย)/ In short (อย่างสั้น) / To conclude (โดยสรุป)
ตัวอย่างการใช้มีดังนี้ค่ะ
To sum up, this story is the best memorable for me.
Finally, I would like to say that you can follow the steps given above easily.
In short, my family wants me to stay.
Lastly, she told me to stop our relationship sooner or later because she does not love me anymore.
To conclude, these essays were written to warn you that a teacher is not forever right.
ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th
เผยรายละเอียดของ Samsung Galaxy A13 5G จะมาพร้อมกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh
ความคืบหน้าของ Samsung Galaxy A13 5G โดยคาดว่าจะเป็นมือถือราคาถูกที่รองรับ 5G โดยคาดว่าจะมีนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่างมาก โดยคาดว่ารหัสของเครื่องเป็นแบบ SM-A136B โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ
โดดยมือถือรุ่นนี้อาจจะเลือกใช้กล้อง ISOCELL JN1 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับ 5G และมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ใหญ่เหมือนเดิม แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องความจำและ CPU ว่าใช้ของออะไร และคาดว่ามอืถือรุ่ใหม่นี้อาจจะเปิดตัวต้นปี 2022 นี้แต่ว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องรอดูกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
SCG D’COR เอาใจคนรักธรรมชาติด้วย Wood-D วัสดุตกแต่งไม้เสมือนจริงพร้อมเพิ่มมิติงานออกแบบด้วย Modeena ตอบโจทย์สวยครบ จบทุกงาน Wall-Facade
เส้นสายลายไม้ธรรมชาติเป็นความงามที่อยู่คู่สิ่งปลูกสร้างและที่อยู่อาศัยมานาน เพียงแต่กาลเวลาได้แปรเปลี่ยนความงามของลายไม้ผ่านวัสดุอื่นแทนเพื่อความคงทน แข็งแรง และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ Wood-D ที่ตอบโจทย์วัสดุตกแต่งไม้เสมือนธรรมชาติ
Wood-D สวยเสมือนไม้ธรรมชาติ ทนทาน รักษาง่ายหายห่วง
ปัจจุบันเทรนด์การออกแบบและตกแต่งมักเลือกใช้เส้นสาย ทรงเลขาคณิตผสมผสานกับความดิบของวัสดุธรรมชาติเข้าด้วยกันทั้งสไตล์ Modern Loft Modern Tropical หรือแม้แต่ Nordic Style เอสซีจี เดคคอร์จึงเข้าใจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้ฝาทีคลิปไฟเบอร์ซีเมนต์ลายไม้เจ้าแรกของไทย ภายใต้ชื่อ ‘Wood-D’ ด้วยการผลิตระบบ Digital Printing จากเทคนิคการพิมพ์ลวดลายแบบพิเศษบนผิวไม้ฝาทีคลิป ทำให้ได้ไม้สังเคราะห์ที่มีความสวยงามสมจริงของลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้จริงทุกประการ อีกทั้งยังมีการเพิ่มกระบวนการเคลือบผิวหน้าด้วย Polyurethane Coating เกรดอุตสาหกรรม สำหรับการใช้งานภายนอกโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบเร่งสภาวะกว่า 1,000 ชั่วโมงหรือเทียบการใช้งานมากกว่า 5 ปี ว่าทนต่อรังสี UV ได้ดี โดยที่คุณภาพการยึดเกาะของสีและลวดลายไม่ซีด จืดจางไว สามารถใช้ตกแต่งพื้นที่ผนังภายนอกอาคารได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมดีไซน์โปรไฟล์ของไม้สังเคราะห์มาเพื่อให้ติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ซ่อนหัวสกรู รองรับการติดตั้งทั้งงานฝ้า และผนัง ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือเล่นมุม ตามจินตนาการของนักออกแบบ
สร้างเส้นสายลายไม้สะดุดตา ตอบโจทย์สถาปนิกทุกงานออกแบบ
เอกชัย วิภาณุรัตน์ เจ้าของธุรกิจอะไหล่อุตสาหกรรม หนึ่งในผู้เลือกใช้วัสดุ Wood-D ตกแต่งบ้าน เล่าให้ฟังว่า “สถาปนิกได้ออกแบบบ้านของผมให้มีดีเทลภายนอกอาคารด้วยลวดลายไม้ จึงพยายามเสาะหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ครั้งแรกสนใจแต่กระเบื้องลายไม้เพราะมีอายุการใช้งานนาน แต่พอได้ศึกษาพบว่าติดตั้งยากและหากมีพื้นผิวไม้สวยเหมือนจริงกลับมีราคาแพง จึงเลือกหาวัสดุใหม่และได้รู้จักกับ Wood-D ไฟเบอร์ซีเมนต์ปริ้นท์ลายไม้ โดยตัวผลิตภัณฑ์ถูกใจทั้งเรื่องสีและเส้นสายที่ดูธรรมชาติ ราคาถูกกว่ากระเบื้อง จึงเป็นที่มาที่เลือกใช้”
“ส่วนความกังวลเรื่องสีซีดและลอก ทางผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจี เดคคอร์ได้อธิบายในทางเทคนิคเพื่อสร้างความมั่นใจว่ารับประกันสีซีดในระยะยาว จึงมองว่ามีความแตกต่างค่อนข้างมากที่เลือกใช้เนื่องจากในท้องตลาดยังไม่มีวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ปริ้นท์ลายไม้ และหลังจากที่ได้ใช้ก็เป็นไปตามที่คาดหวังเพราะสถาปนิกได้มีการออกแบบนำแนวไม้วางขวางและเข้ามุม ซึ่งผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์และทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์ และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องการประสานงาน ทีมงานรับฟังข้อซักถามและไขข้อข้องใจด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องแบบเคลียร์ ชัด ทุกประเด็น โดยหลังจากงานเสร็จได้แนะนำไปหลายคนให้มาใช้ผลิตภัณฑ์ Wood-D”
เติมมิติผนัง–ฝ้าเพดาน แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ด้วย ‘Modeena’
‘Modeena’ วัสดุตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน ที่สามารถสร้างแพทเทิร์นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ด้วยหน้าตัดที่มีความตื้นลึกรวมอยู่ในแผ่นเดียว จึงโดดเด่นสำหรับงานออกแบบที่มีมิติบนพื้นผิว สามารถเชื่อมต่อชิ้นงานด้วยแบบที่แปลกใหม่ไร้ขีดจำกัด โดย Modeena สามารถนำมาใช้ตกแต่งได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งภายในอาคารมาพร้อมกับรุ่น Modeena Light ตอบโจทย์การสร้างมิติบนฝ้าเพดาน ด้วยจุดเด่นด้านน้ำหนักที่เบาไม่กระทบต่องานโครงสร้าง
นอกจากนี้ Modeena ยังสามารถตอบโจทย์การสร้าง Mood & Tone ของงานตกแต่งได้เพียงแค่นำมาทาด้วยสีน้ำอะคริลิคในทุกเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์นหรือแม้แต่เนชอรัลก็ครอบคลุมทุกสไตล์ และที่ขาดไม่ได้คือคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ติดตั้งง่าย สามารถซ่อนหัวสกรูได้ ทำให้งานออกมาเรียบร้อย เกิดเป็นงานผนังและฝ้าที่พร้อมแตกต่างอย่างมีมิติ
สำหรับผู้ที่สนใจวัสดุตกแต่งทางเลือกใหม่นี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ SCG Experience, SCG Home Solution, SCG Home บุญถาวร / และ SCG Authorized ทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายรับคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ได้ที่ เว็บไซต์: scgdcor.scgbuildingmaterials.com และhttps://www.scgbuildingmaterials.com/th/form/scg-d-cor หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ SCG HOME Contact Center โทร.02-586-2222
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/09/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,600.00 | 27,700.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,788.00 | 27,106.08 | 28,200.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,609.20 | 24,395.47 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,430.40 | 21,684.86 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 805.00 | 12,203.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 626.00 | 9,490.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,853.00 | 28,091.48 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/09/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 | 30.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 | 30.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.84 | 28.84 | 28.84 | 28.84 | 28.84 | – | 28.84 | 28.84 | 28.84 | 28.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.04 | 23.04 | – | – | – | – | – | – | – | 23.04 |
เบนซิน 95 | 37.76 | – | – | – | 38.21 | – | 38.26 | 37.76 | – | 37.76 |
ดีเซล B7 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 | 30.29 |
ดีเซล | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 |
ดีเซล B20 | 27.04 | 27.04 | 27.24 | – | 27.04 | – | 27.04 | 27.04 | – | 27.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.06 | 35.06 | 36.74 | 36.46 | – | – | – | – | – | 35.06 |
แก๊ส NGV | 15.48 | 15.48 | – | – | – | – | – | – | – | 15.48 |