“เรียลแอสเสท” ดึงทุนญี่ปุ่น ปั้นแบรนด์คอนโดฯ THE STAGE ผุดตึกสูง 29 ชั้น
“กลุ่มเรียลแอสเสทฯ” จับมือทุนยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่น “ผุดบริษัทร่วมทุน “เรียลพาร์ทเนอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ” ลุยไฟตลาดคอนโดฯ ปั้นโปรเจ็กต์แรก “THE STAGE Mindscape Ratchada – Huai Khwang” (เดอะสเตจ) สูง 29 ชั้น เจาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ทำเลทองห้วยขวาง-รัชดา
นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “The Stage” ย่านเตาปูนไปเมื่อหลายปีก่อน ล่าสุดบริษัทได้รับการทาบทามจากบริษัท โซเทสสึ เรียลเอสเตท (Sotetsu Real estate Co.,Ltd) ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัทโซเทสสึ กรุ๊ป (Sotetsu Holdings Co.,Ltd.) กลุ่มธุรกิจรายใหญ่ที่จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเซคชั่นที่1 ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัทเรียลพาร์ทเนอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
สำหรับการ Joint Venture ในครั้งนี้เป็นการดึงความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวร่วมกัน โดยกลุ่มโซเทสสึ กรุ๊ป เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวที่ก่อตั้งมานานกว่า 104 ปีแล้ว เป็นกลุ่มธุรกิจบริการครบวงจรที่เติบโตตามกาลเวลาผ่านการพัฒนาธุรกิจบริการต่างๆ รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟ
ปัจจุบันบริษัทโซเทสสึ โฮลดิ้ง ที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเซคชั่นที่1 มีทุนจดทะเบียน 38.8 พันล้านเยนและมีบริษัทในเครือมากถึง 30 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจขนส่งมวลชน ธุรกิจขายส่งสินค้า (Merchandising) อสังหาริมทรัพย์และโรงแรมข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายรวมสูงถึง 221.1 พันล้านเยน โดยธุรกิจด้านระบบขนส่งมวลชนคิดเป็น 30.4 พันล้านเยน (14% ของยอดขายทั้งหมด) ส่วนธุรกิจขายส่งสินค้า มีมูลค่า 102.2 พันล้านเยน (46% ของยอดขายทั้งหมด) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 611 พันล้านเยน (30.8% ของยอดขายทั้งหมด)
เบื้องต้นบริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างความแตกต่างในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งปัจจุบันและอนาคต สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและพฤติกรรมของคนเมืองรุ่นใหม่ ทำให้มีทางเลือกใหม่ของการจับจองเป็นเจ้าของโครงการที่ให้ความสะดวกสบายทั้งในการเดินทาง การใช้ชีวิตเต็มที่ ตรงกับไลฟ์สไตล์ที่เลือกได้
“ปัจจัยของความสำเร็จในการร่วมทุนครั้งนี้ คือ แบรนด์ที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทเรียลแอสเสทผนวกกับฐานะทางการเงินที่มั่นคงและโนว์ฮาวในการพัฒนาโปรเจ็กต์ที่อยู่อาศัยของกลุ่มโซเทสสึ จะเป็นปัจจัยดึงดูดให้ผู้ซื้อทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์และนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่น ทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้างโครงการ ศักยภาพทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการตลอดจนบริการหลังการขายที่ครอบคลุมความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ที่จะนำไปสู่การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด รวมถึงแผนการลงทุนโครงการใหม่ๆร่วมกันในอนาคต” นายบดินทร์ธรกล่าว
ประเดิมเปิดตัวโครงการร่วมทุนแรกคือ THE STAGE Mindscape Ratchada – Huai Khwang (เดอะสเตจ มายด์สเคป รัชดา-ห้วยขวาง) ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 6 ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีMRT ห้วยขวาง ประตู 1 ประมาณ 250 เมตร และสามารถเดินทางเพื่อไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ได้ที่อโศกเพียงแค่ 4 สถานีเท่านั้น นอกจากนี้ยังเดินทางเข้า-ออกได้ 3 ฝั่ง ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม
” ส่วนในอนาคตทำเลย่านนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโดยทำเล รัชดา-ห้วยขวาง-พระราม 9 ถือได้ว่าเป็น NEW CBD ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมอาคารสำนักงานขนาดใหญ่มากมาย และเป็นหนึ่งในย่านที่มีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานทูตจีน สถานทูตเกาหลี และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งออฟฟิศ ศูนย์การค้า เช่น ยูนิลิเวอร์ จีทาวเวอร์ เอสพลานาด รัชดา และเซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9 ”
โครงการออกแบบเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Upper Class สูง 29 ชั้น มีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 477 ยูนิต ล่าสุดโครงการได้รับกระแสตอบรับดีทำยอดขายเกินกว่าเป้าหมายที่วางแผนไว้ โดยเน้นความคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 1 แสนต้นๆ เท่านั้นหรือเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยในโซนนี้กว่า 130,000 บาทต่อตารางเมตร และในขณะเดียวกันผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าในโซนนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาดโดยผลตอบแทนรวมสูงกว่า 5%
ส่วน Facilities ภายในโครงการถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Millennial ที่ทำงานประจำออฟฟิศและทำงานแบบ Work from Home ดังนั้นพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น Co-Passion Space, Fitness และยังมี White Ion Bath Onsen แยกชาย-หญิง เพิ่มความสดชื่น และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน รวมถึงสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบ Ozone และ Salt Chlorine พร้อมพื้นที่ออกกำลังกายภายนอกอาคารสำหรับ Jogging Track, Multiscape และ Playing Court โดยควบคุมการใช้ Facilities ด้วยระบบ IOT เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เพราะหากไม่มีการใช้งานไฟจะเปิดแค่ 50%
ขณะเดียวกันเพื่อรองรับการใช้ชีวิตในคอนโดฯของคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปค่อนข้างเร็ว ทั้งรูปแบบการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เรียลแอสเสทจึงได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการ Co-Partner กับ“Bottomless” ซึ่งมีความเป็น specialist ตัวจริงด้านกาแฟมากถึง 16 ปี จนกระทั่งพัฒนามาเป็นโรงคั่ว นำเข้าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีจากทั่วโลก เปิดร้านกาแฟร่วมกันภายใต้ชื่อ “Mindscape Café by Bottomless” รวมทั้งได้
Co-Partner กับ Kochii เปิดตัว “Guild @ Mindscape by Kochii” สถานที่รวมตัวกันของคนที่มีความชื่นชอบคล้ายกันทั้งด้าน Content Creator และสาย Esports ประกอบด้วยพื้นที่ Co-Working, ห้องสตูดิโอ สำหรับถ่ายงานต่าง ๆ
ทั้ง streaming , podcast และ review station รวมทั้งจัดเป็น e-sports academy ได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
พลิกอาคารสิรินธร สู่ “ศูนย์การแพทย์วิกฤติสุขภาพ” แห่งแรกในไทย
แห่งแรกของไทย เอสซีจี – รพ.จุฬาลงกรณ์ ลงนามร่วมพัฒนา “ศูนย์เตรียมความพร้อมทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อรองรับวิกฤติสุขภาพ” พลิกโฉมอาคารสิริธร สู่ ต้นแบบทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์–ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ลงนามความร่วมมือร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในการออกแบบและพัฒนาอาคารสิรินธรให้เป็นศูนย์เตรียมความพร้อมทางการแพทย์ขั้นสูงเพื่อรองรับวิกฤติสุขภาพ หรือศูนย์ CAMP พร้อมสนับสนุนนวัตกรรมด้านการออกแบบ ข้อมูล รวมถึงองค์ความรู้ เพื่อให้เป็นต้นแบบสำหรับอาคารที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งการรักษาพยาบาลโรคระบาดร้ายแรง และการรักษาพยาบาลปกติ โดยถือเป็นอาคารต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย มุ่งหวังขยายศักยภาพและความสามารถในการรองรับการรักษาพยาบาล และรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ให้กับประเทศไทย
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 บริษัทฯ ได้เร่งพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์รูปแบบการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนานวัตกรรมที่สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ให้สามารถรับมือและต่อสู้กับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย อาทิ ห้องตรวจเชื้อความดันบวก หรือ Positive Pressure SWAB Cabinet รวมถึง ห้องไอซียูโมดูลาร์ เป็นต้น
ทางเอสซีจีมีเจตจำนงค์ที่จะร่วมมือพัฒนางานด้านวิศวกรรมตามรูปแบบโครงการและความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อให้เป็น Highly Advance & Special Facility สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาลจุฬาฯ ทั้งนี้ เอสซีจีจะนำนวัตกรรมการออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างและระบบต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ก้าวหน้าและทันสมัย และองค์ความรู้ด้านการก่อสร้างของทางบริษัทฯ มาใช้ในโครงการนี้
งานออกแบบและงานวิศวกรรมในโครงการนี้ สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลายรูปแบบ (High Flexibility & Adaptability) ทั้งในช่วงเวลาวิกฤติโรคระบาดและในช่วงเวลาปกติ เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับแผนการออกแบบทางสถาปัตยกรรมของโรงพยาบาลจุฬาฯ รวมทั้งตอบโจทย์การก่อสร้างภายในพื้นที่จำกัดในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีผลกระทบต่ออาคารรอบข้าง”
โครงการนี้เป็นการปรับปรุงอาคารเดิมภายในพื้นที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ให้เป็นพื้นที่รองรับทางการแพทย์ในภาวะวิกฤติ ซึ่งเอสซีจีจะสนับสนุนนวัตกรรมด้านวิศวกรรมโครงสร้างและเทคโนโลยีระบบประกอบอาคาร วัสดุก่อสร้าง ส่วนประกอบและอุปกรณ์อาคาร (Building materials) ระบบและวิธีการก่อสร้าง ระบบภูมิสถาปัตย์ ระบบและอุปกรณ์จัดการขยะและของเสีย เทคโนโลยีการควบคุมอาคารและพลังงาน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากพลังงานทางเลือก เพื่อให้โครงการนี้สามารถรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน ศาสตราจารย์ นพ. สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ศูนย์เตรียมความพร้อมทางการแพทย์ขั้นสูงเพื่อรองรับวิกฤติสุขภาพ หรือ ศูนย์ CAMP เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ EID quarter ที่มีวัตถุประสงค์ในการรองรับการรักษาพยาบาลในสถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ ตามแผนแม่บทและผังการใช้พื้นที่ของโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อให้เป็นส่วนต่อขยายจากส่วนการรักษาโรคอุบัติใหม่เดิมที่อาคารจงกลนี-วัฒนวงศ์ โดยฝ่ายออกแบบและบริหารโครงการ (PPM) ของโรงพยาบาลจะเป็นผู้ออกแบบผังพื้นที่อาคาร ลักษณะอาคารและส่วนงานสถาปัตยกรรม ปรับปรุงอาคารสิรินธรที่มีอยู่เดิมให้เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ภายในประกอบด้วยห้องผ่าตัด หอผู้ป่วยวิกฤต หอผู้ป่วยแบบรวม (Cohort AIIR ward) และพื้นที่ใช้สอยอื่น อาทิ พื้นที่สำหรับการเรียนการสอน ศูนย์ฝึกผ่าตัดและหัตถการทางคลินิกขั้นสูง รวมถึงส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานทางการแพทย์อื่น ๆ ที่จำเป็น
โรงพยาบาลจุฬาฯ มีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการออกแบบโครงการนี้ ให้เป็นต้นแบบของอาคารที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โดยมีภารกิจหลักคือเป็นศูนย์รักษาพยาบาลและห้องผ่าตัดในสถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการประคองกิจการภายในองค์กร (BCP) ในยามวิกฤต ส่วนภารกิจรองคือให้บริการทางการแพทย์ในสถานการณ์ปกติ เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนการสอน การฝึกผ่าตัดและหัตถการขั้นสูง สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากภายในและภายนอกโรงพยาบาล รวมถึงจัดแสดงความก้าวหน้าของโรงพยาบาลจุฬาฯ”
“จากความร่วมมือกับ เอสซีจี ในครั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยมั่นใจว่าจะทำให้ศูนย์ CAMP เป็นอาคารต้นแบบทางการแพทย์เชิงวิกฤติที่มีความก้าวหน้าและทันสมัยที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดร่วงหนัก/ทองลงแรง/น้ำมันลบ
หุ้นดาวโจนส์ปิดร่วง 569.38 จุด ด้านราคาน้ำมันลง 16 เซนต์ ขณะที่ทองคำ ลบ 14.50 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,299.99 จุด ลดลง 569.38 จุด หรือ -1.63% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,352.63 จุด ลดลง 90.48 จุด หรือ -2.04% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ 14,546.68 จุด ลดลง 423.29 จุด หรือ -2.83%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันที่ 28 ก.ย. เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 79.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 14.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,737.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ขอผมพูดหน่อย! “เมสซี่” สารภาพหลังปลดล็อกทำประตูแรกให้ เปแอสเช สำเร็จ
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ปลดล็อกทำประตูแรกให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่งลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้สำเร็จในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดสอง เมื่อวันอังคารที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา
โดย ดาวเตะตัวเก่งวัย 34 ปี กดประตูสุดสวยช่วยให้ต้นสังกัดเปิดสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ย้ำชัยใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในถ้วยใหญ่ยุโรป ถือเป็นการทำประตูแรกให้กับ เปแอสเช นับตั้งแต่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทีมเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเกม ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ เปิดใจว่า “ผมมีความสุขมากๆ ที่สามารถทำประตูได้ พวกเขาเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง มันจึงเป็นชัยชนะที่สำคัญมากสำหรับเรา หลังจากที่เกมแรกทำได้แค่เสมอมา”
“ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวเข้ากับที่นี่ ยิ่งผมลงสนามมากขึ้น ความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เราทุกคนต่างต้องการพัฒนาไปพร้อมกัน และทำให้ดีที่สุดต่อไป” เมสซี่ กล่าวกับสื่อ
สำหรับ ประตูนี้ถือเป็นประตูที่ 7 ที่ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงใส่สโมสรที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยคุมทีม (2 ประตู กับ บาเยิร์น มิวนิค และ 5 ประตู กับ แมนฯ ซิตี้) นอกจากนี้ยังเป็นการทำประตูแรกในสีเสื้อเปแอสเช จากการลงสนาม 4 เกมรวมทุกรายการ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วิธีลด “ความเครียด” จากการทำงานในช่วงระหว่างวัน
ความเครียด เป็นสภาวะของอารมณ์ที่ใครๆ ก็เป็นได้ ความเครียดสามารถเกิดขึ้นกับคนได้ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย และก็ไม่เลือกเวลา หากเรากำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ จนนำมาซึ่งความไม่สบายใจ วิตกกังวล หรือกดดัน มันก็ทำให้เกิดความเครียดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว
ยิ่งกับคนวัยทำงานแล้ว ความเครียดยิ่งเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายมาก ทุกการขยับตัวของคนทำงานอาจมีความเครียดเรื่องงานเข้ามากล้ำกรายได้เสมอ โดยที่คนเราก็มักจะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดไม่เหมือนกันด้วย อาจจะแสดงออกทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์และพฤติกรรมหลายรูปแบบ และก็อาจจะแสดงออกมาโดยขาดสติรู้ตัวแบบที่ระงับตัวเองไม่ทันเลยก็มี
ฉะนั้น นั่งๆ ทำงานอยู่ อย่าปล่อยให้ตัวเองมีความเครียดมากขนาดที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการทำงานเลย Tonkit360 มีวิธีลดความเครียดจากการทำงานในช่วงระหว่างวันมาฝากกัน หวังว่าวิธีต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้แต่ละคนทำงานได้ราบรื่นขึ้นในแต่ละวัน
วิธีลด “ความเครียด” จากการทำงานในช่วงระหว่างวัน
- วางแผนบริหารงานและเวลาก่อนเริ่มงานทุกวัน
ก่อนจะเริ่มนั่งทำงานทุกเช้า ลองสละเวลามาวางแผนชีวิตทำงาน 8 ชั่วโมงของวันนี้สัก 10 นาทีดูสิ (หรือจะมี to do list สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันก็จะดีมาก) หลักการก็คือจัดระเบียบชีวิตและความคิดของตัวเองก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน มันจะทำให้รู้ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง อันนี้เสร็จแล้วจะทำอะไรต่อ เมื่อไรที่ต้องพัก และเลิกงานเมื่อไร คนทำงานเป็นเขาจะบริหารจัดการทั้งงานและเวลาอย่างชาญฉลาด แบบที่ได้ทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล นั่นทำให้เขาไม่จำเป็นต้องทำงานหนักชนิดหามรุ่งหามค่ำ แบบที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพกาย สุขภาพจิต และชีวิตส่วนตัวที่หายไป
- ขยับร่างกายบ่อยๆ
รู้สึกเครียดมาก คิดอะไรไม่ออก ให้เปลี่ยนอิริยาบถ ไปเคลื่อนไหวร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าและสดชื่น คือแค่ลุกออกจากโต๊ะทำงานไปยืดเส้นยืดสาย แกว่งขาแกว่งแขน เดินขึ้นลงบันไดสัก 2-3 รอบ ถ้าทำงานอยู่บ้านก็ลุกไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงก็ได้ ก็ช่วยกระตุ้นให้ฮอร์โมนแห่งความสุขได้ทำงานบ้างแล้ว เราก็จะผ่อนคลายความเครียดลง หลุดโฟกัสเรื่องเครียดๆ ไปด้วยในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าใครเล็งเห็นผลระยะยาว ขอแนะนำนอกเหนือไปจากการขยับร่างกายบ่อยๆ ระหว่างวัน เป็นการออกกำลังกายอย่างจริงจังหลังเลิกงาน ไม่นานจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีด้านสุขภาพจิตแน่นอน
- ทำสมาธิ
เมื่อใดก็ตามที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองรับมือกับความเครียด ความกดดันตรงหน้าไม่ได้ เหมือนมีก้อนอะไรหนักๆ มากดทับ จนรับรู้ได้ว่าตัวเองอาจจะกำลังสติแตกในไม่ช้า อย่าฝืนตัวเอง เพราะการจมอยู่กับความเครียด ที่อะไรๆ ก็ตึงไปหมดทุกด้าน ยิ่งทำให้เราไม่อยากทำอะไรอย่างอื่นเลย วิธีที่ดีที่สุดคือต้องจัดการกับความหนักความหน่วงนี้ก่อน ด้วยการตั้งสติหรือทำสมาธิ ขอเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 5 นาที ก็เพียงพอแล้ว และการทำสมาธิที่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งสวดมนต์ ประนมมือ ขัดสมาธิมือขวาทับมือซ้ายแบบนั้นสักหน่อย! มีรูปแบบการทำสมาธิแบบอื่นๆ อีกมากมาย
- ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อ่านหนังสือในช่วงพัก
ถึงเวลาพักก็ต้องพัก เพราะเวลาที่เราใช้ในการทำงานยาวๆ ติดกันนานๆ น่ะ ถูกออกแบบมาแล้วว่ามันดันทุรังหรือฝืนสมรรถภาพของร่างกายได้เต็มที่เท่านี้ ถ้ายังฝืนทำงานต่อทั้งที่ร่างกายปฏิเสธที่จะทำแล้ว มันยิ่งทำให้เราเข้าสู่โหมดกดดันตัวเองแล้วก็เครียดมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น เวลาพักก็อย่ามัวโอ้เอ้ รีบกินข้าวกินปลา มีเวลาเหลือก็นั่งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรืออ่านหนังสือที่ชอบ สนุกกับอะไรก็ทำไปเลยเอาให้เต็มที่ พาตัวเองออกมาจากงานตรงหน้าให้ได้ช่วงเวลาพักก็ทำตามใจตัวเองบ้าง รักงานได้ แต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย เครียดมากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ
- งีบหลับ
คนไทยอาจจะไม่คุ้นชินกับการงีบหลับช่วงสั้นๆ ระหว่างวัน เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะหมดพลังชีวิตในการทำงาน เพราะฉะนั้น ถ้าเผลอทำอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเราขี้เกียจหรือแอบอู้งาน แต่ในต่างประเทศเขาทำกันเป็นวัฒนธรรมเลยทีเดียว นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำเล่นๆ มีงานวิจัยที่ศึกษาว่าการงีบในตอนกลางวันนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แถมยังช่วยให้มีความสุขและอายุยืนขึ้นอีกด้วย เรื่องของเรื่องคือมันเราอาจจะรู้สึกง่วงหลังมื้อกลางวัน ฉะนั้น ถ้าง่วงก็นอนเถอะ แค่ 10-20 นาทีก็เพียงพอแล้ว ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการงีบกลางวัน คือระหว่าง 12.00-15.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ฝึกภาษาอังกฤษกับ “50 ประโยคคำถาม-คำตอบพื้นฐาน” ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
การเรียนรู้ประโยคถามตอบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีลัดที่จะสามารถช่วยให้คนที่เริ่มเรียนภาษา สามารถเข้าใจในภาษาได้ง่ายยิ่งขึ้น บทความนี้ผมก็มี 50 ประโยคคำถาม-คำตอบพื้นฐาน มาฝาก ให้เพื่อนๆได้เอาไปเรียนรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้นกันครับ
Q1 : What’s your name ? (คุณชื่ออะไร)
A1 : Peter. (ปีเตอร์)
Q2 : Where are you from ? / Where do you come from ? (คุณมาจากที่ไหน)
A2 : I’m from … / I come from … (ฉันมาจาก…)
Q3 : What’s your surname ? / What’s your family name ? (คุณนามสกุลอะไร)
A3 : Smith. (สมิธ)
Q4 : What’s your first name ? (คุณชื่ออะไร)
A4 : Tom. (ทอม)
Q5 : What’s your address ? (ที่อยู่ของคุณคือที่ไหน)
A5 : 7865 NW Sweet Street (7865 นอร์ธเวสต์ ถนนสวีท)
Q6 : Where do you live ? (คุณอาศัยอยู่ที่ไหน)
A6 : I live in San Diego. (ฉันอาศัยอยู่ที่ซาน ดิเอโก)
Q7 : What’s your telephone number ? (โทรศัพท์ของคุณหมายเลขอะไร)
A7 : 209-786-9845
Q8 : How old are you ? (คุณอายุเท่าไร)
A8 : Twenty-five. / I’m twenty-five years old. (25 / ฉันอายุ 25 ปี)
Q9 : When were you born ? / Where were you born ? (คุณเกิดเมื่อไหร่ / คุณเกิดที่ไหน)
A9 : I was born in 1961 / I was born in Seattle. (ฉันเกิดในปี ค.ศ.1961 / ฉันเกิดที่ซีแอตเติ้ล)
Q10 : Are you married ? / What’s your marital status ? (คุณแต่งงานหรือยัง / สถานภาพการสมรสของคุณเป็นอย่างไร)
A10 : I’m single. (ฉันยังโสด)
Q11 : What do you do ? / What’s your job ? (คุณทำอาชีพอะไร)
A11 : I’m a librarian. (ฉันเป็นบรรณารักษ์)
Q12 : Where did you go ? (คุณไปที่ไหนมา)
A12 : I went to a friend’s house. (ฉันไปที่บ้านเพื่อนมา)
Q13 : What did you do ? (คุณได้ทำอะไรไป)
A13 : We played video games. (เราเล่นวีดีโอเกมส์)
Q14 : Where were you ? (คุณเคยอยู่ที่ไหนที่ผ่านมา)
A14 : I was in New York for the weekend. (ฉันอยู่ที่นิวยอร์กตอนสุดสัปดาห์)
Q15 : Have you got a car / job / house / etc.? (คุณมีรถ / งาน / บ้าน ฯลฯ หรือไม่)
A15 : Yes, I’ve got a good job. (ใช่ ฉันมีงานที่ดีทำ)
Q16 : Have you got any children / friends / books / etc. ? (คุณมีบุตร / เพื่อน / หนังสือ ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A16 : Yes, I’ve got three children – two boys and a daughter. (ใช่ ฉันมีบุตร 3 คน เป็น ชาย 2 คน หญิง 1 คน
Q17 : Can you play tennis / golf / football / etc.? คุณเล่นเทนนิส / กอล์ฟ / ฟุตบอล / ฯลฯ เป็นหรือไม่
A17 : Yes, I can play golf. (ใช่ ฉันเล่นกอล์ฟได้)
Q18 : Can you speak English / French / Japanese / etc. ? (คุณพูดภาษาอังกฤษ/ ฝรั่งเศส / ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้หรือไม่)
A18 : No, I can’t speak Japanese. (ไม่ ฉันพูดญี่ปุ่นไม่ได้)
Q19 : Could you speak English / French / Japanese / etc. ? when you were five / two / fifteen / etc. years old ? (คุณพูดภาษาอังกฤษ / ฝรั่งเศส / ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้หรือไม่ เมื่อตอนคุณอายุ 5 / 2 / 15 / ฯลฯ ปี)
A19 : Yes, I could speak English when I was five years old. (ใช่ ฉันพูดภาษาอังกฤษได้เมื่ออายุ 5 ขวบ)
Saying Hello
Q20 : How do you do ? (คุณสบายดีไหม)
A20 : How do you do. Pleased to meet you. (ยินดีที่ได้พบคุณ)
Q21 : How are you ? (คุณสบายดีไหม)
A21 : Fine, thanks. And you ? (สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ)
Shopping (หมวดการช็อปปิ้ง)
Q22 : How can I help you ? / May I help you ? (คนขาย – จะให้ฉันช่วยอะไรบ้างหรือไม่)
A22 : Yes, I’m looking for a sweater. (คนซื้อ – ได้ ฉันกำลังมองหาเสื้อสเวตเตอร์)
Q23 : Can I try it on ? (คนซื้อ – ขอฉันลองได้ไหม)
A23 : Sure, the changing rooms are over there. (คนขาย – ได้แน่นอน ห้องลองเสื้ออยู่ด้านนั้น)
Q24 : How much does it cost ? / How much is it ? (คนซื้อ – ราคาเท่าไร)
A24 : It’s $45. (คนขาย – 45 ดอลล่าร์)
Q25 : How would you like to pay ? (คนขาย – คุณต้องการชำระเงินแบบไหน)
A25 : By credit card. (คนซื้อ – จ่ายด้วยบัตรเครดิต)
Q26 : Can I pay by credit card / check / debit card ? (คนซื้อ – ฉันสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต / เช็ค / บัตรเดบิต ได้หรือไม่)
A26 : Certainly, We accept all major cards. (คนขาย : ได้แน่นอน เรารับบัตรเครดิตยี่ห้อหลักๆ ทุกยี่ห้อ)
Q27 : Have you got something bigger / smaller / lighter / etc. ? (คนซื้อ – คุณมีตัวที่ใหญ่กว่า / เล็กกว่า / เบากว่า / ฯลฯ หรือไม่)
A27 : Certainly, we’ve got a smaller sizes as well. (คนขาย – มีแน่นอน เรามีขนาดที่เล็กกว่านี้ด้วย)
Asking Something Specific
Q28 : What’s that ? (นั่นคืออะไร)
A28 : It’s a cat. (มันคือแมว)
Q29 : What time is it ? (ตอนนี้เวลาเท่าไร)
A29 : It’s three o’clock. (3 นาฬิกา)
Q30 : Can / May I open the window ? (ฉันขอเปิดหน้าต่างได้หรือไม่)
A30 : Certainly, It’s hot in here. (ได้แน่นอน ที่นี่มันร้อน)
Q31 : Is there a bank / supermarket / pharmacy / etc. near here ? (มีธนาคาร / ซูเปอร์มาเก็ต / ร้านขายยา / ฯลฯ อยู่ใกล้ๆ แถวนี้บ้างหรือไม่)
A31 : Yes, There is a bank on the next corner next to the post office. (มี ธนาคารอยู่ตรงมุมถนนถัดไป ติดกับที่ทำการไปรษณีย์)
Q32 : Where is the nearest bank / supermarket / pharmacy / etc.? (ธนาคาร / ซูเปอร์มาเก็ต / ร้านขายยา / ฯลฯ ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน)
A32 : The nearest pharmacy is on 15th street. (ร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ถนนหมายเลข 15)
Q33 : Who wrote / invented / painted / etc. the …? (ใครคือผู้เขียน / ประดิษฐ์ / วาด / ฯลฯ…)
A33 : Hemingway wrote “The Sun Also Rises”. (เฮมิงเวย์เขียนหนังสือ “The Sun Also Rises”)
Q34 : Is there any water / sugar / rice / etc. ? (มีน้ำ / น้ำตาล / ข้าว ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A34 : Yes, there’s a lot of sugar left. (มี น้ำตาลมีเหลืออยู่จำนวนมาก)
Q35 : Are there any apples / sandwiches / books / etc. ? (มีแอปเปิ้ล / แซนด๋วิช / หนังสือ / ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A35 : No, there aren’t any apples left. (ไม่ ไม่มีแอปเปิ้ลเหลืออยู่เลย)
Q36 : Is this your / his / her / etc. book / ball / house / etc. ? (นี่คือหนังสือ / ลูกบอล / บ้าน / ฯลฯ ของคุณ / ของเขา / ฯลฯ ใช่หรือไม่)
A36 : No, I think it’s his ball. (ไม่ใช่ ฉันคิดว่ามันเป็นลูกบอลของเขา)
Q37 : Whose is this / that ? (สิ่งนี้ / สิ่งนั้น เป็นของใคร)
A37 : It’s Jack’s. (มันเป็นของแจ๊ค)
Questions with ‘Like’
Q38 : What do you like ? (คุณชอบอะไร)
A38 : I like playing tennis, reading and listening to music. (ฉันชอบเล่นเทนนิส, อ่านหนังสือ และฟังเพลง)
Q39 : What does he look like ? (เขามีลักษณะเป็นอย่างไร)
A39 : He’s tall and slim. (เขาสูงและผอม)
Q40 : What would you like ? (คุณชอบอะไร)
A40 : I’d like a steak and chips. (ฉันชอบสเต็กและมันฝรั่งทอด)
Q41 : What is it like ? (มันมีลักษณะเป็นอย่างไร)
A41 : It’s an interesting country. (มันเป็นประเทศที่น่าสนใจประเทศหนึ่ง)
Q42 : What’s the weather like ? (มันมีอากาศเป็นอย่างไร)
A42 : It’s raining at the moment. (ตอนนี้ฝนกำลังตก)
Q43 : Would you like some coffee / tea / food ? (คุณต้องการจะรับกาแฟ / ชา / อาหาร บ้างหรือไม่)
A43 : Yes, thank you. I’d like some coffee. (ใช่ ขอบคุณ ฉันต้องการกาแฟ)
Q44 : Would you like something to drink / eat ? (คุณต้องการจะรับเครื่องดื่ม / อาหาร บ้างหรือไม่)
A44 : Thank you. Could I have a cup of tea ? (ขอบคุณ ฉันขอชาสักถ้วยได้หรือไม่)
Asking for an Opinion
Q45 : What’s it about ? (มันเกี่ยวกับอะไร)
A45 : It’s about a young boy who encounters adventures. (มันเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเผชิญเรื่องผจญภัย)
Q46 : What do you think about your job / that book / Tim / etc. ? (คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับงานของคุณ / หนังสือเล่มนั้น / ทิม / ฯลฯ)
A46 : I thought the book was very interesting. (ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนั้นน่าสนใจมาก)
Q47 : How big / far / difficult / easy is it ? (มันใหญ่ / ไกล / ยาก / ง่าย ขนาดไหน)
A47 : The test was very difficult. (ข้อสอบยากมาก)
Q48 : How big / far / difficult / easy are they ? (มันใหญ่ / ไกล / ยาก / ง่าย ขนาดไหน)
A48 : The questions were very easy. (คำถามง่ายมาก)
Q49 : How was it ? (มันเป็นอย่างไรบ้าง)
A49 : It was very interesting. (มันน่าสนใจมาก)
Q50 : What are you going to do tomorrow / this evening / next week / etc. ? (คุณจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ / เย็นนี้ / สัปดาห์หน้า / ฯลฯ)
A50 : I’m going to visit some friends next weekend. (ฉันจะไปเยี่ยมเพื่อนตอนสุดสัปดาห์หน้า)
Suggestions
Q51 : What shall we do this evening ? (เราจะทำอะไรกันดีตอนเย็นนี้)
A51 : Let’s go see a film. (ไปดูหนังกันเถอะ)
Q52 : Why don’t we go out / play tennis / visit friends / etc. this evening ? (ทำไมเราไม่ออกไปข้างนอก / เล่นเทนนิส / ไปเยี่ยมเพื่อน / ฯลฯ กันตอนเย็นนี้)
A52 : Yes, that sounds like a good idea. (ใช่ ฟังดูเข้าท่าดีทีเดียว)
ขอบคุณข้อมูลจาก wegointer.com
เปิดตัว Beats Studio3 ACW รุ่นพิเศษสีสวย ราคาไม่แตกต่างจากเดิม
Apple ได้เปิดตัว Beats Studio3 รุ่นใหม่ที่มีการตกแต่งพิเศษมีชื่อว่า ACW หรือย่อมากจาก A-Cold-Wall ซึ่งรุ่นนี้มีการตกแต่งพิเศษทั้งกล่องมีการสลักลาย ACW ไว้ซึ่งเป็น Brand แฟชั่นที่มีความน่าสนใน นอกจากนี้ตัวหูฟัง Beats เองก็มีการตกแน่งด้านนอกจะเป็นสีขาว และด้านนอกเป็นแบบผิวสีเทาที่ดูดีไม่เบา
นอกนั้นคุณสมบัติก็เท่ากันคือรองรับ Apple W1 ใช้งานได้ 44 ชั่วโมง เมื่อปิดระบบ ANC และมาพร้อมกับ Driver ที่เสียงดังใช้ได้เลยครับ ส่วนราคาของหูฟังรุ่นนี้อยู่ที่ 349.95 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,000 บาท เริ่มจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Apple เร็วๆ นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
3 สมุนไพร บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
แพทย์แผนไทยแนะ สมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ บัวบก พรมมิและ กลีบบัวแดง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าว
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) คืออะไร?
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาวิจัยพบว่า เกิดจากการสะสมของ amyloid plaques ในเซลล์สมอง ส่งผลให้สารสื่อประสาทอะเซติลโคลีนลดลง
ปัจจัยเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
อาการเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ มักเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน และการเข้าสังคม โดยอาการเริ่มต้น คือ
- การถามคำถามเดิมซ้ำๆ
- เริ่มคิดอะไรที่ซับซ้อนไม่ได้
- มีความลังเล ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆ ได้ ฃ
- มีความวิตกกังวลมากขึ้น
- ตื่นตกใจง่าย
- อาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้
3 สมุนไพร บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงขอแนะนำสมุนไพร 3 ชนิด ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ได้แก่
- บัวบก
บัวบก เป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารและเครื่องดื่ม มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย และแก้ช้ำใน
จากรายงานการศึกษาวิจัย พบว่า สารสกัดจากบัวบก สามารถเพิ่มความจำและปรับสภาพ อารมณ์ในผู้สูงอายุที่มีภาวะความจำเสื่อมเล็กน้อย รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กพิการทางสมองได้
- พรมมิ หรือ ผักมิ
พรมมิ หรือ ผักมิ เป็นสมุนไพรอีกอย่างหนึ่งที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ใช้รับประทานเป็นผักลวกและจิ้มน้ำพริก ในตำราอายุรเวทของอินเดีย กล่าวว่า พรมมิ มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความจำ บำรุงสมอง
จากข้อมูลทางเภสัชวิทยา พบว่า พรมมิ มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของความจำ การตัดสินใจ ช่วยปกป้องเซลล์สมอง มีฤทธิ์ต้านความจำเสื่อม ช่วยในเรื่องการนอนหลับ และลดความวิตกกังวลได้
- กลีบบัวแดง
กลีบบัวแดง จัดเป็นสมุนไพรที่มีรสหอมเย็น ที่มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ จากการศึกษาวิจัย พบว่า กลีบบัวแดงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มกันของโปรตีน เบต้าอะมัยลอยด์ ซึ่งมีผลช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม ทั้งชนิดความจำระยะสั้นและความจำระยะยาวได้
กลีบบัวแดง สามารถนำมาชงเป็นชาดื่มได้โดยการนำกลีบบัวแดง ผสมกับเกสรทั้ง 5 ได้แก่ มะลิ พิกุล บุนนาค สารภี และเกสรบัวหลวง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ในอัตราส่วน 1:1 ชงในน้ำร้อน ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
วิธีลดเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากสมุนไพรที่แนะนำทั้ง 3 ชนิดแล้ว ท่านควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ คือ
- งดสูบบุหรี่
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำมากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย หรือ การใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ หรือ ติดต่อโดยตรงที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ เฟซบุ๊กและไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 29/09/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 27,800.00 | 27,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,801.00 | 27,303.16 | 28,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,620.90 | 24,572.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,440.80 | 21,842.53 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 810.00 | 12,279.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 630.00 | 9,550.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,866.00 | 28,288.56 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29/09/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 30.75 | 30.75 | 30.95 | 30.75 | 30.75 | 30.75 | 30.75 | 30.75 | 30.75 | 30.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.48 | 30.48 | 30.68 | 30.48 | 30.48 | 30.48 | 30.48 | 30.48 | 30.48 | 30.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.24 | 29.24 | 29.44 | 29.24 | 29.24 | – | 29.24 | 29.24 | 29.24 | 29.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.24 | 23.24 | – | – | – | – | – | – | – | 23.24 |
เบนซิน 95 | 38.16 | – | – | – | 38.61 | – | 38.66 | 38.16 | – | 38.16 |
ดีเซล B7 | 30.69 | 30.69 | 30.89 | 30.69 | 30.69 | 30.69 | 30.69 | 30.69 | 30.69 | 30.69 |
ดีเซล | 27.69 | 27.69 | 27.89 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 |
ดีเซล B20 | 27.44 | 27.44 | 27.84 | – | 27.44 | – | 27.44 | 27.44 | – | 27.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.46 | 35.46 | 37.34 | 36.86 | – | – | – | – | – | 35.46 |
แก๊ส NGV | 15.48 | 15.48 | – | – | – | – | – | – | – | 15.48 |